[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:06.10,0:00:07.86,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อเราชมหรือเล่นบทภาพยนตร์ Dialogue: 0,0:00:07.88,0:00:09.00,Default,,0000,0000,0000,,เรารู้ว่านักแสดง Dialogue: 0,0:00:09.02,0:00:11.03,Default,,0000,0000,0000,,อาจท่องบทกันมาก่อนแล้ว Dialogue: 0,0:00:11.06,0:00:14.33,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งมันจะบอกพวกเขาให้รู้ว่า\Nจะพูดอะไรและเมื่อไร Dialogue: 0,0:00:15.08,0:00:18.23,Default,,0000,0000,0000,,ผลงานดนตรีที่ถูกประพันธ์ไว้\Nทำหน้าที่ด้วยหลักการอย่างเดียวกัน Dialogue: 0,0:00:18.76,0:00:20.09,Default,,0000,0000,0000,,ในสาระสำคัญ Dialogue: 0,0:00:20.12,0:00:23.18,Default,,0000,0000,0000,,มันบอกผู้บรรเลงว่า\Nต้องเล่นอะไรและเล่นตอนไหน Dialogue: 0,0:00:23.90,0:00:26.42,Default,,0000,0000,0000,,หรือพูดให้มีสุนทรีย์หน่อย\Nมันมีความแตกต่างอย่างมาก Dialogue: 0,0:00:26.45,0:00:29.38,Default,,0000,0000,0000,,ระหว่างเบโธเฟน และจัสติน บีเบอร์ Dialogue: 0,0:00:29.40,0:00:30.64,Default,,0000,0000,0000,,แต่ศิลปินทั้งสองนั้น Dialogue: 0,0:00:30.67,0:00:33.15,Default,,0000,0000,0000,,ใช้พื้นฐานเดียวกัน\Nในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรี Dialogue: 0,0:00:33.17,0:00:34.23,Default,,0000,0000,0000,,โน้ต Dialogue: 0,0:00:34.25,0:00:36.88,Default,,0000,0000,0000,,และแม้ว่าผลลัพธ์อาจฟังดูค่อนข้างซับซ้อน Dialogue: 0,0:00:36.90,0:00:40.42,Default,,0000,0000,0000,,ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังโน้ตดนตรี\Nค่อนข้างที่จะตรงไปตรงมา Dialogue: 0,0:00:40.44,0:00:41.45,Default,,0000,0000,0000,,มาลองดูกัน Dialogue: 0,0:00:41.47,0:00:43.66,Default,,0000,0000,0000,,ถึงสัญลักษณ์พื้นฐานทางดนตรี Dialogue: 0,0:00:43.69,0:00:46.63,Default,,0000,0000,0000,,และปฏิสัมพันธ์ของมันเพื่อสร้างผลงานศิลป์ Dialogue: 0,0:00:47.68,0:00:51.34,Default,,0000,0000,0000,,ดนตรีถูกประพันธ์ขึ้นบนบรรทัดห้าเส้น\Nที่ทอดตัวขวางหน้ากระดาษ Dialogue: 0,0:00:51.82,0:00:53.90,Default,,0000,0000,0000,,เส้นทั้งห้านี้เรียกว่า บรรทัดห้าเส้น Dialogue: 0,0:00:53.92,0:00:56.19,Default,,0000,0000,0000,,และบรรทัดห้าเส้นก็ทำหน้าที่ในสองแกน Dialogue: 0,0:00:56.22,0:00:57.49,Default,,0000,0000,0000,,บนและล่าง Dialogue: 0,0:00:57.52,0:00:58.72,Default,,0000,0000,0000,,กับ ซ้ายและขวา Dialogue: 0,0:00:59.26,0:01:01.18,Default,,0000,0000,0000,,แกนบนล่างบอกผู้บรรเลง Dialogue: 0,0:01:01.20,0:01:03.91,Default,,0000,0000,0000,,ถึงระดับเสียงของโน้ต\Nหรือว่าต้องเล่นโน้ตอะไร Dialogue: 0,0:01:03.94,0:01:05.44,Default,,0000,0000,0000,,และแกนซ้ายขวา Dialogue: 0,0:01:05.46,0:01:07.53,Default,,0000,0000,0000,,บอกผู้บรรเลงถึงจังหวะของโน้ต Dialogue: 0,0:01:07.56,0:01:08.94,Default,,0000,0000,0000,,หรือว่าจะเล่นมันเมื่อไร Dialogue: 0,0:01:09.44,0:01:10.99,Default,,0000,0000,0000,,ลองมาเริ่มกันที่ระดับเสียง Dialogue: 0,0:01:11.01,0:01:13.04,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อช่วยให้เราเข้าใจ\Nเรามาใช้เปียโนกัน Dialogue: 0,0:01:13.06,0:01:16.39,Default,,0000,0000,0000,,แต่ระบบนี้ใช้งานได้กับเครื่องดนตรี\Nเกือบทุกชนิดที่คุณรู้จัก Dialogue: 0,0:01:17.19,0:01:18.80,Default,,0000,0000,0000,,ในวัฒนธรรมดนตรีตะวันตก Dialogue: 0,0:01:18.83,0:01:22.23,Default,,0000,0000,0000,,ระดับเสียงมีชื่อตามตัวอักษรเจ็ดตัวแรก Dialogue: 0,0:01:22.25,0:01:23.69,Default,,0000,0000,0000,,เอ บี ซี Dialogue: 0,0:01:23.72,0:01:25.68,Default,,0000,0000,0000,,ดี อี เอฟ และจี Dialogue: 0,0:01:26.45,0:01:28.60,Default,,0000,0000,0000,,หลังจากนั้น มันก็จะเริ่มต้นใหม่เป็นวงจร Dialogue: 0,0:01:28.62,0:01:30.63,Default,,0000,0000,0000,,เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี Dialogue: 0,0:01:30.66,0:01:31.99,Default,,0000,0000,0000,,เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี Dialogue: 0,0:01:32.02,0:01:33.08,Default,,0000,0000,0000,,และอื่น ๆ Dialogue: 0,0:01:33.56,0:01:35.66,Default,,0000,0000,0000,,แต่ระดับเสียงได้ชื่อเหล่านี้มาจากไหน Dialogue: 0,0:01:36.20,0:01:38.27,Default,,0000,0000,0000,,ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเล่นระดับเสียง เอฟ Dialogue: 0,0:01:38.29,0:01:39.48,Default,,0000,0000,0000,,และจากนั้นก็เล่นเสียงเอฟอีกตัวหนึ่ง Dialogue: 0,0:01:39.51,0:01:41.19,Default,,0000,0000,0000,,ที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าบนเปียโน Dialogue: 0,0:01:41.22,0:01:43.26,Default,,0000,0000,0000,,คุณจะสังเกตว่า\Nเสียงของพวกมันค่อนข้างคล้ายกัน Dialogue: 0,0:01:43.29,0:01:45.06,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อเปรียบเทียบกับ ยกตัวอย่างเช่น เสียง บี Dialogue: 0,0:01:45.74,0:01:46.96,Default,,0000,0000,0000,,ลองกลับไปที่เส้นขวางกัน Dialogue: 0,0:01:46.98,0:01:49.65,Default,,0000,0000,0000,,ทุกเส้นและทุกช่องว่างระหว่างเส้น Dialogue: 0,0:01:49.67,0:01:51.32,Default,,0000,0000,0000,,แสดงเสียงที่แตกต่างกัน Dialogue: 0,0:01:52.05,0:01:55.11,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าหากเรานำตัวโน้ตไปวางไว้บนเส้น\Nหรือในช่องว่างเหล่านี้ Dialogue: 0,0:01:55.13,0:01:57.66,Default,,0000,0000,0000,,พวกมันจะบอกผู้บรรเลงให้เล่นที่ระดับเสียงนั้น Dialogue: 0,0:01:57.68,0:02:00.01,Default,,0000,0000,0000,,ยิ่งตัวโน้ตถูกวางไว้บนเส้นที่สูงขึ้นไปเท่าไร Dialogue: 0,0:02:00.03,0:02:01.41,Default,,0000,0000,0000,,ระดับเสียงของมันก็ยิ่งสูงขึ้นไปเท่านั้น Dialogue: 0,0:02:01.44,0:02:03.91,Default,,0000,0000,0000,,แต่มันยังมีระดับเสียงอีกมากมาย Dialogue: 0,0:02:03.94,0:02:06.59,Default,,0000,0000,0000,,กว่าเก้าเส้นและช่องที่เรามี Dialogue: 0,0:02:06.61,0:02:08.14,Default,,0000,0000,0000,,ยกตัวอย่างเช่น ในแกรนด์เปียโน Dialogue: 0,0:02:08.16,0:02:09.82,Default,,0000,0000,0000,,คุณสามารถเล่นโน้ตได้แตกต่างกัน\Nถึง 88 เสียง Dialogue: 0,0:02:10.28,0:02:13.28,Default,,0000,0000,0000,,แล้วเราจับเอาโน้ตทั้ง 88 ตัวนั้น\Nมาวางลงในบรรทัดห้าเส้นนี้ได้อย่างไร Dialogue: 0,0:02:13.77,0:02:15.98,Default,,0000,0000,0000,,เราใช้บางอย่างที่เรียกว่า กุญแจ Dialogue: 0,0:02:16.00,0:02:18.97,Default,,0000,0000,0000,,เครื่องหมายหน้าตาประหลาด\Nที่ถูกวางไว้ที่ตอนต้นของทุกบรรทัดห้าเส้น Dialogue: 0,0:02:18.100,0:02:20.68,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งทำหน้าที่เหมือนจุดอ้างอิง Dialogue: 0,0:02:20.70,0:02:22.80,Default,,0000,0000,0000,,ที่บอกคุณถึงเส้นหรือช่องจำเพาะ Dialogue: 0,0:02:22.83,0:02:25.58,Default,,0000,0000,0000,,ที่สอดคล้องกับโน้ตใดโน้ตหนึ่ง\Nบนเครื่องดนตรีของคุณ Dialogue: 0,0:02:25.61,0:02:27.96,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณอยากเล่นโน้ตที่ไม่ได้อยู่บนบรรทัดห้าเส้น Dialogue: 0,0:02:27.99,0:02:30.11,Default,,0000,0000,0000,,คุณจะต้องสร้างและลากเส้นเล็ก ๆ ขึ้นมาเพิ่ม Dialogue: 0,0:02:30.14,0:02:31.35,Default,,0000,0000,0000,,มันเรียกว่า เส้นน้อย Dialogue: 0,0:02:31.38,0:02:33.08,Default,,0000,0000,0000,,และวางโน้ตเอาไว้บนนั้น Dialogue: 0,0:02:33.10,0:02:36.45,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณต้องลากเส้นน้อยมากมาย\Nจนมันชวนสับสน Dialogue: 0,0:02:36.47,0:02:38.75,Default,,0000,0000,0000,,คุณต้องเปลี่ยนมาใช้กุญแจอีกตัว Dialogue: 0,0:02:39.87,0:02:42.21,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อที่จะบอกผู้บรรเลงว่า\Nต้องเล่นโน้ตตัวนั้นเมื่อไร Dialogue: 0,0:02:42.23,0:02:44.10,Default,,0000,0000,0000,,สองส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่ดังกล่าว Dialogue: 0,0:02:44.12,0:02:46.04,Default,,0000,0000,0000,,คือเคาะและจังหวะ Dialogue: 0,0:02:46.47,0:02:48.05,Default,,0000,0000,0000,,เคาะในเพลงคือ Dialogue: 0,0:02:48.08,0:02:50.00,Default,,0000,0000,0000,,ด้วยตัวของมันเองแล้ว \Nเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเบื่อ Dialogue: 0,0:02:50.02,0:02:51.71,Default,,0000,0000,0000,,มันมีเสียงประมาณนี้ Dialogue: 0,0:02:52.35,0:02:53.58,Default,,0000,0000,0000,,(เสียงติ๊ก) Dialogue: 0,0:02:54.17,0:02:55.65,Default,,0000,0000,0000,,สังเกตว่ามันไม่ได้เปลี่ยนแปลง Dialogue: 0,0:02:55.67,0:02:57.96,Default,,0000,0000,0000,,มันแค่เล่นต่อ ๆ กันไปไม่มีปัญหา Dialogue: 0,0:02:57.98,0:02:59.03,Default,,0000,0000,0000,,มันอาจช้า Dialogue: 0,0:03:00.55,0:03:01.62,Default,,0000,0000,0000,,หรือเร็ว Dialogue: 0,0:03:02.49,0:03:03.91,Default,,0000,0000,0000,,หรือ เอาเข้าจริง ๆ มันจะเป็นอย่างไรก็\Nได้ตามที่คุณต้องการ Dialogue: 0,0:03:03.93,0:03:06.60,Default,,0000,0000,0000,,ประเด็นก็คือ คล้ายกับเข็มวินาทีของนาฬิกา Dialogue: 0,0:03:06.63,0:03:09.17,Default,,0000,0000,0000,,ที่แบ่งหนึ่งนาทีออกเป็นหกสิบวินาที Dialogue: 0,0:03:09.20,0:03:12.18,Default,,0000,0000,0000,,โดยที่แต่ละวินาทีมีความยาว\Nเท่า ๆ กับวินาทีอื่น ๆ Dialogue: 0,0:03:12.21,0:03:13.97,Default,,0000,0000,0000,,เคาะก็แบ่งเพลง Dialogue: 0,0:03:13.100,0:03:17.09,Default,,0000,0000,0000,,ออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ด้วยส่วนเวลา\Nที่มีความยาวเท่า ๆ กัน Dialogue: 0,0:03:17.12,0:03:18.14,Default,,0000,0000,0000,,เคาะ Dialogue: 0,0:03:18.83,0:03:20.55,Default,,0000,0000,0000,,ด้วยเคาะที่คงที่เป็นพื้นฐาน Dialogue: 0,0:03:20.57,0:03:22.19,Default,,0000,0000,0000,,เราสามารถเติมจังหวะ\Nเข้าไปให้ระดับเสียงของเราได้ Dialogue: 0,0:03:22.21,0:03:24.37,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นก็เป็นตอนที่ดนตรีได้เกิดขึ้น Dialogue: 0,0:03:25.41,0:03:27.03,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นโน้ตหนึ่งในสี่ Dialogue: 0,0:03:27.06,0:03:28.77,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นหนึ่งพื้นฐานทีสุดของจังหวะ Dialogue: 0,0:03:28.79,0:03:30.27,Default,,0000,0000,0000,,และมันมีค่าหนึ่งเคาะ Dialogue: 0,0:03:30.75,0:03:33.29,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือโน้ตหนึ่งในสอง\Nและมันมีค่าสองเคาะ Dialogue: 0,0:03:33.32,0:03:35.41,Default,,0000,0000,0000,,โน้ตตัวเต็มนี้มีค่าสี่เคาะ Dialogue: 0,0:03:35.44,0:03:37.35,Default,,0000,0000,0000,,และเจ้าพวกตัวเล็กนี่คือโน้ตหนึ่งในแปด Dialogue: 0,0:03:37.38,0:03:38.71,Default,,0000,0000,0000,,ที่แต่ละตัวมีค่าครึ่งเคาะ Dialogue: 0,0:03:39.41,0:03:41.83,Default,,0000,0000,0000,,"ยอดเลย" คุณพูด "นั่นหมายความว่าอย่างไรกัน" Dialogue: 0,0:03:41.85,0:03:44.53,Default,,0000,0000,0000,,คุณอาจสังเกตแล้วว่า\Nตลอดความยาวของบรรทัดห้าเส้น Dialogue: 0,0:03:44.55,0:03:47.22,Default,,0000,0000,0000,,มีเส้นเล็ก ๆ ที่แบ่งมันเป็นส่วนย่อย Dialogue: 0,0:03:47.24,0:03:48.93,Default,,0000,0000,0000,,นั่นคือเส้นกั้นห้อง Dialogue: 0,0:03:48.95,0:03:51.36,Default,,0000,0000,0000,,และเราเรียกแต่ละส่วนว่า ห้อง Dialogue: 0,0:03:51.96,0:03:53.72,Default,,0000,0000,0000,,ตอนเริ่มต้นเพลง Dialogue: 0,0:03:53.74,0:03:54.84,Default,,0000,0000,0000,,หลังจากกุญแจ Dialogue: 0,0:03:54.87,0:03:56.94,Default,,0000,0000,0000,,จะมีบางสิ่งที่เรียกว่า เครื่องหมายกำหนดจังหวะ Dialogue: 0,0:03:56.96,0:03:59.98,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งบอกผู้บรรเลงว่า\Nจะมีกี่เคาะต่อหนึ่งห้อง Dialogue: 0,0:04:00.01,0:04:02.15,Default,,0000,0000,0000,,นี่บอกว่า มีสองเคาะในแต่ละห้อง Dialogue: 0,0:04:02.18,0:04:03.50,Default,,0000,0000,0000,,นี่บอกว่า มีสามเคาะ Dialogue: 0,0:04:03.52,0:04:05.57,Default,,0000,0000,0000,,นี่บอกว่า มีสี่ และอื่น ๆ Dialogue: 0,0:04:05.60,0:04:07.86,Default,,0000,0000,0000,,ตัวเลขที่อยู่ด้านล่าง\Nบอกเราว่าโน้ตชนิดใด Dialogue: 0,0:04:07.88,0:04:10.33,Default,,0000,0000,0000,,ที่จะถูกใช้เป็นหน่วยพื้นฐานของเคาะ Dialogue: 0,0:04:10.80,0:04:12.49,Default,,0000,0000,0000,,หนึ่งหมายถึงโน้ตตัวเต็ม Dialogue: 0,0:04:12.51,0:04:13.62,Default,,0000,0000,0000,,สองหมายถึงโน้ตหนึ่งในสอง Dialogue: 0,0:04:13.64,0:04:15.55,Default,,0000,0000,0000,,สี่หมายถึงโน้ตหนึ่งในสี่ Dialogue: 0,0:04:15.57,0:04:17.53,Default,,0000,0000,0000,,และแปดหมายถึงโน้ตหนึ่งในแปด\Nและอื่น ๆ Dialogue: 0,0:04:17.96,0:04:19.30,Default,,0000,0000,0000,,ฉะนั้น ตัวกำกับเวลานี้ Dialogue: 0,0:04:19.33,0:04:22.10,Default,,0000,0000,0000,,บอกเราว่ามีโน้ตหนึ่งในสี่อยู่สี่ตัวในแต่ละห้อง Dialogue: 0,0:04:22.12,0:04:24.05,Default,,0000,0000,0000,,หนึ่ง สอง สาม สี่ Dialogue: 0,0:04:24.08,0:04:25.62,Default,,0000,0000,0000,,หนึ่ง สอง สาม สี่ Dialogue: 0,0:04:25.64,0:04:26.70,Default,,0000,0000,0000,,และอื่น ๆ Dialogue: 0,0:04:27.17,0:04:28.34,Default,,0000,0000,0000,,แต่อย่างที่พูดถึงก่อนหน้านี้ Dialogue: 0,0:04:28.36,0:04:29.80,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าหากเราคงความเร็วของเคาะเอาไว้ Dialogue: 0,0:04:29.82,0:04:31.36,Default,,0000,0000,0000,,มันก็คงน่าเบื่อ Dialogue: 0,0:04:31.38,0:04:34.24,Default,,0000,0000,0000,,ฉะนั้นเราก็จะแทนที่โน้ตหนึ่งในสี่\Nด้วยจังหวะที่แตกต่างออกไป Dialogue: 0,0:04:34.91,0:04:36.91,Default,,0000,0000,0000,,ลองสังเกตว่า แม้ว่าจำนวนของโน้ต Dialogue: 0,0:04:36.94,0:04:38.40,Default,,0000,0000,0000,,ในแต่ละห้องจะเปลี่ยนไป Dialogue: 0,0:04:38.43,0:04:40.100,Default,,0000,0000,0000,,จำนวนทั้งหมดของเคาะในแต่ละห้อง\Nก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง Dialogue: 0,0:04:42.11,0:04:45.35,Default,,0000,0000,0000,,ฉะนั้น เพลงที่เราแต่งขึ้นมา\Nจะมีทำนองเป็นอย่างไรนะ Dialogue: 0,0:04:45.37,0:04:47.74,Default,,0000,0000,0000,,(เสียงดนตรี) Dialogue: 0,0:04:47.76,0:04:51.05,Default,,0000,0000,0000,,อ้า ฟังดูไม่เลว แต่บางทีมันบางไปหน่อย\Nใช่ไหม Dialogue: 0,0:04:51.08,0:04:53.97,Default,,0000,0000,0000,,ลองมาเติมเครื่องดนตรีอื่น\Nที่มีระดับเสียงและจังหวะของมันดู Dialogue: 0,0:04:54.44,0:04:56.61,Default,,0000,0000,0000,,ตอนนี้มันก็ฟังดูเป็นเพลงมากขึ้นแล้ว Dialogue: 0,0:04:57.79,0:05:00.77,Default,,0000,0000,0000,,แน่นอน มันต้องใช้การฝึกฝน\Nเพื่อที่จะอ่านภาษาดนตรีนี้ได้อย่างรวดเร็ว Dialogue: 0,0:05:00.79,0:05:02.80,Default,,0000,0000,0000,,และเล่นมันด้วยเครื่องดนตรีได้อย่างที่เราอ่าน Dialogue: 0,0:05:02.82,0:05:04.58,Default,,0000,0000,0000,,แต่ด้วยเวลาและความอดทน Dialogue: 0,0:05:04.61,0:05:06.36,Default,,0000,0000,0000,,คุณอาจเป็น เบโธเฟน คนต่อไป Dialogue: 0,0:05:06.38,0:05:08.48,Default,,0000,0000,0000,,หรือจัสติน บีเบอร์