WEBVTT 00:00:01.520 --> 00:00:04.296 มีใครบ้างที่เคยพบเห็นอะไรบางอย่าง 00:00:04.320 --> 00:00:06.880 แล้วรู้สึกว่าเราควรจะพูดมันออกไป แต่ก็ไม่ได้ทำ 00:00:09.120 --> 00:00:11.136 ถึงฉันจะไม่เห็นใครยกมือเลย 00:00:11.160 --> 00:00:14.216 แต่ฉันแน่ใจว่า มันเคยเกิดขึ้นกับบางคนในที่นี้มาก่อน 00:00:14.240 --> 00:00:17.416 จริง ๆ แล้ว ถ้าเราถามคำถามนี้ กับพนักงานในองค์กร 00:00:17.440 --> 00:00:20.936 46% ของพวกเขาจะตอบว่า เคยเห็นอะไรบางอย่าง 00:00:20.960 --> 00:00:22.576 แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร 00:00:22.600 --> 00:00:25.736 ดังนั้น หากคุณยกมือ หรือแอบ ๆ ยกมือ 00:00:25.760 --> 00:00:28.056 ไม่ต้องกังวลไป คุณไม่ได้เป็นแบบนั้นคนเดียว 00:00:28.080 --> 00:00:31.456 คำพูดทำนองว่า "ถ้าคุณพบอะไร..." ไปจนถึง "...พูดอะไรบ้างสิ" 00:00:31.480 --> 00:00:33.256 มีให้เราได้ยินอยู่เสมอ 00:00:33.280 --> 00:00:36.976 แม้กระทั่งเวลาที่คุณขับรถอยู่บนถนน คุณก็ยังเห็นป้ายโฆษณาแบบนี้ 00:00:37.000 --> 00:00:40.456 ที่ขอให้คุณช่วยแจ้งเบาะแสอาชญากรรม โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน 00:00:40.480 --> 00:00:43.216 แต่ฉันก็ยังเห็นหลาย ๆ คนไม่สบายใจ 00:00:43.240 --> 00:00:45.416 ที่จะออกมาพูดความจริง NOTE Paragraph 00:00:45.440 --> 00:00:48.016 ฉันเป็นอาจารย์สอนบัญชี และทำวิจัยเรื่องการทุจริต 00:00:48.040 --> 00:00:52.216 ในชั้นเรียนของฉัน ฉันสนับสนุนให้นักเรียนแจ้งข้อมูล 00:00:52.240 --> 00:00:53.456 หากพวกเขาพบเห็นอะไร 00:00:53.480 --> 00:00:57.216 พูดง่ายๆก็คือ ฉันสนับสนุนให้นักเรียน เป็น "ผู้แจ้งเบาะแส" นั่นเอง 00:00:57.240 --> 00:01:00.296 แต่ถ้าฉันจะไม่หลอกตัวเองแล้วหล่ะก็ 00:01:00.320 --> 00:01:03.936 สิ่งที่ฉันบอกนักศึกษาไปนั้น ที่จริงแล้วขัดความรู้สึกของฉันเองมาก 00:01:03.960 --> 00:01:05.160 และนี่คือเหตุผลว่าทำไม 00:01:06.000 --> 00:01:08.800 "ผู้แจ้งเบาะแส" กำลังถูกคุกคาม 00:01:09.560 --> 00:01:12.760 พาดหัวข่าวแบบนี้มีอยู่ตลอดเวลา 00:01:13.960 --> 00:01:16.336 ทำให้หลาย ๆ คน ไม่อยากเป็น "ผู้แจ้งเบาะแส" 00:01:16.360 --> 00:01:18.616 เพราะกลัวจะถูกเอาคืน 00:01:18.640 --> 00:01:22.336 เช่น ถูกลดตำแหน่งหน้าที่ ถูกขู่จะเอาชีวิต 00:01:22.360 --> 00:01:24.256 ถูกโยกย้าย 00:01:24.280 --> 00:01:26.136 หรือตกงานแบบถาวร 00:01:26.160 --> 00:01:29.536 การเลือกเป็นผู้แจ้งเบาะแส เป็นการตัดสินใจที่ลำบาก 00:01:29.560 --> 00:01:31.976 เพราะคนอื่น ๆ จะสงสัยในความภักดีของพวกเขา 00:01:32.000 --> 00:01:35.216 รวมทั้งตั้งคำถามเกี่ยวกับแรงจูงใจ หรือความน่าเชื่อถือของพวกเขาด้วย 00:01:35.240 --> 00:01:38.976 ดังนั้น ในฐานะอาจารย์ที่ห่วงใยลูกศิษย์ 00:01:39.000 --> 00:01:41.096 ทำไมฉันถึงสนับสนุนให้เขาเป็น "ผู้แจ้งเบาะแส" 00:01:41.120 --> 00:01:43.680 ในเมื่อฉันรู้ว่า คนทั้งโลกจะคิดอย่างไรกับพวกเขา NOTE Paragraph 00:01:44.720 --> 00:01:47.936 วันหนึ่ง ฉันกำลังเตรียมตัวสอนนักเรียน 00:01:47.960 --> 00:01:49.176 ในหัวข้อ "ผู้แจ้งเบาะแส" 00:01:49.200 --> 00:01:51.336 และฉันกำลังเขียนบทความลงนิตยสาร ฟอร์บส์ 00:01:51.360 --> 00:01:53.856 ในชื่อ "เวลส์ฟาร์โก กับการแจ้งเบาะแสของชาวมิลเลนเนียม 00:01:53.880 --> 00:01:55.096 เราจะสอนพวกเขาอย่างไร" 00:01:55.120 --> 00:01:58.176 ขณะที่ฉันกำลังเขียนบทความ และก็อ่านข้อมูลต่าง ๆ 00:01:58.200 --> 00:01:59.576 ฉันรู้สึกโกรธ 00:01:59.600 --> 00:02:03.736 สิ่งที่ทำให้ฉันโกรธ 00:02:03.760 --> 00:02:06.416 คือความจริงที่ว่า พนักงานที่แจ้งเบาะแสนั้น 00:02:06.440 --> 00:02:08.136 สุดท้ายถูกไล่ออก 00:02:08.160 --> 00:02:09.496 ซึ่งมันทำให้ฉันนึกถึง 00:02:09.520 --> 00:02:12.256 สิ่งที่ฉันสอนนักเรียนไป 00:02:12.280 --> 00:02:17.096 ถ้านักเรียนของฉัน เป็นพนักงานของเวลส์ฟาร์โกหล่ะ ? 00:02:17.120 --> 00:02:21.256 ถ้าพวกเขาแจ้งเบาะแส ก็จะถูกไล่ออก 00:02:21.280 --> 00:02:22.616 แต่ถ้าพวกเขาไม่ทำ 00:02:22.640 --> 00:02:25.336 นั่งทับความจริง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็รู้เรื่อง 00:02:25.360 --> 00:02:27.696 พวกเขาก็ต้องมีความผิดตามกฎหมาย 00:02:27.720 --> 00:02:30.296 ในฐานะที่รู้อยู่แก่ใจ 00:02:30.320 --> 00:02:32.616 แต่ไม่ทำอะไร 00:02:32.640 --> 00:02:35.616 ซึ่งมันเป็นความผิดอาญาด้วย 00:02:35.640 --> 00:02:38.816 แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี NOTE Paragraph 00:02:38.840 --> 00:02:42.776 ฉันก็เหมือนกับทุกคน ที่เข้าใจว่า ผู้แจ้งเบาะแส 00:02:42.800 --> 00:02:44.336 ได้ให้อะไรกับสังคมบ้าง 00:02:44.360 --> 00:02:47.896 การทุจริตส่วนใหญ่ ก็เจอได้เพราะเบาะแส 00:02:47.920 --> 00:02:50.856 การทุจริต ถูกพบผ่านการแจ้งเบาะแส สูงถึง 42% 00:02:50.880 --> 00:02:52.736 เมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ 00:02:52.760 --> 00:02:55.336 สูงกว่าการตรวจสอบโดยผู้บริหาร และโดยผู้ตรวจสอบจากภายนอก 00:02:55.360 --> 00:02:57.696 ถ้าเราลองนึกถึงกรณีทุจริตสำคัญ ๆ 00:02:57.720 --> 00:02:59.336 หรือกรณีที่โด่งดังในอดีต 00:02:59.360 --> 00:03:02.096 ก็มักจะเกี่ยวข้องกับผู้แจ้งเบาะแสเสมอ 00:03:02.120 --> 00:03:04.856 คดีวอเตอร์เกต พบโดยผู้แจ้งเบาะแส 00:03:04.880 --> 00:03:07.776 เอนรอน ก็พบโดยผู้แจ้งเบาะแส 00:03:07.800 --> 00:03:12.376 แล้วใครจะลืมได้ว่าคดี เบอร์นาร์ด แมดดอฟ ก็เจอโดยผู้แจ้งเบาะแส 00:03:12.400 --> 00:03:16.856 มันต้องอาศัยความกล้าหาญเป็นอย่างมาก ในการออกมาพูดความความจริง 00:03:16.880 --> 00:03:19.576 แต่พอคนเรานึกถึงผู้แจ้งเบาะแส 00:03:19.600 --> 00:03:23.256 เราก็มักจะนึกถึงคำอื่น ๆ อีก 00:03:23.280 --> 00:03:24.480 "หนอนบ่อนไส้" 00:03:25.360 --> 00:03:26.560 "งูเห่า" 00:03:27.200 --> 00:03:28.816 "คนทรยศ" 00:03:28.840 --> 00:03:31.216 "คนขี้ฟ้อง" "ตลบตะแลง" 00:03:31.240 --> 00:03:34.816 นี่เอาเฉพาะคำที่ฉันพอจะพูดได้บนเวทีนี้ NOTE Paragraph 00:03:34.840 --> 00:03:36.256 เวลาฉันไม่มีสอน 00:03:36.280 --> 00:03:39.176 ฉันจะเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อสัมภาษณ์ผู้กระทำผิด 00:03:39.200 --> 00:03:41.216 ผู้แจ้งเบาะแส และเหยื่อของการทุจริต 00:03:41.240 --> 00:03:44.176 เพราะฉันต้องการทำความเข้าใจ ว่าอะไรผลักดันพวกเขา 00:03:44.200 --> 00:03:46.800 และเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาสอนในชั้นเรียน 00:03:47.680 --> 00:03:51.536 การสัมภาษณ์ผู้แจ้งเบาะแส คือสิ่งที่คาใจฉันมาก 00:03:51.560 --> 00:03:52.776 สาเหตุที่ฉันรู้สึกคาใจ 00:03:52.800 --> 00:03:55.096 เพราะพวกเขาทำให้ฉัน สงสัยในความกล้าหาญของตัวเอง 00:03:55.120 --> 00:03:58.976 ถ้าฉันมีโอกาส ฉันจะแจ้งเบาะแสจริง ๆ เหรอ 00:03:59.000 --> 00:04:01.976 และนี่เป็นตัวอย่างสองสามเรื่อง ที่ฉันอยากจะเล่า NOTE Paragraph 00:04:02.000 --> 00:04:03.216 นี่คือ แมรี 00:04:03.240 --> 00:04:06.936 แมรี วิลลิงแฮม เป็นผู้แจ้งเบาะแส จาก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ท แคโรไลนา 00:04:06.960 --> 00:04:10.136 ที่เมืองแชเปิลฮิลล์ นี่เป็นกรณีการทุจริตในสถานศึกษา 00:04:10.160 --> 00:04:13.616 แมรี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ 00:04:13.640 --> 00:04:16.656 เธอทำงานกับนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโควตานักกีฬา 00:04:16.680 --> 00:04:19.375 ในระหว่างที่ทำงานกับนักศึกษา เธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง 00:04:19.399 --> 00:04:22.136 นั่นคือรายงานที่นักศึกษาทำส่งนั้น มีคุณภาพสูง 00:04:22.160 --> 00:04:25.256 ซึ่งสูงกว่าทักษะในการอ่านของพวกเขาอยู่มาก 00:04:25.280 --> 00:04:27.216 เธอก็เริ่มที่จะหาข้อมูล 00:04:27.240 --> 00:04:29.256 และเธอพบว่า มันมีฐานข้อมูล 00:04:29.280 --> 00:04:32.656 ที่มีรายงานเตรียมไว้ให้ นักศึกษาโควต้านักกีฬาเอาไปส่ง 00:04:32.680 --> 00:04:35.136 เธอยังพบอีกว่า เพื่อนร่วมงานของเธอบางคน 00:04:35.160 --> 00:04:41.376 ได้จัดชั้นเรียนปลอม ๆ ให้นักศึกษากลุ่มนี้ ผ่านเกณฑ์และสามารถลงแข่งขันได้ 00:04:41.400 --> 00:04:44.136 เมื่อ แมรี พบเรื่องพวกนี้ เธอรู้สึกตกตะลึง 00:04:44.160 --> 00:04:47.096 สิ่งที่เธอทำก็คือเข้าไปพบหัวหน้าของเธอ 00:04:47.120 --> 00:04:48.976 แต่พวกเขาไม่ทำอะไร 00:04:49.000 --> 00:04:52.816 เธอลองแจ้งไปที่ฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัย 00:04:52.840 --> 00:04:54.456 พวกเขาก็ยังไม่ทำอะไร NOTE Paragraph 00:04:54.480 --> 00:04:56.856 คุณจะทำอย่างไรถ้าไม่มีใครฟังคุณเลย 00:04:56.880 --> 00:04:58.096 คุณก็เขียน บล็อก 00:04:58.120 --> 00:04:59.976 แมรีตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ลง บล็อก 00:05:00.000 --> 00:05:02.656 บล็อก ของเธอกลายเป็น ไวรัล ภายใน 24 ชม. 00:05:02.680 --> 00:05:05.176 และเธอก็ได้รับการติดต่อโดยนักข่าว 00:05:05.200 --> 00:05:07.496 ซึ่งเมื่อเธอคุยกับนักข่าว 00:05:07.520 --> 00:05:09.296 ตัวตนของเธอก็ถูกเปิดเผย 00:05:09.320 --> 00:05:10.656 ทุกคนรู้ว่าเป็นเธอ 00:05:10.680 --> 00:05:14.496 เมื่อทุกคนรู้ว่าเป็นเธอ เธอก็ถูกลดตำแหน่ง 00:05:14.520 --> 00:05:17.560 ถูกขู่ฆ่า เพียงพราะเรื่องกีฬาในระดับอุดมศึกษานี่แหละ 00:05:18.280 --> 00:05:22.096 แมรีไม่ได้ทำอะไรผิด เธอไม่ได้สมรู้ร่วมคิดในการทุจริต 00:05:22.120 --> 00:05:24.336 เธอคิดแค่ว่าเธอพูดแทนนักศึกษา 00:05:24.360 --> 00:05:26.656 ที่ไม่มีปากมีเสียง 00:05:26.680 --> 00:05:29.056 แต่ความภักดีของเธอกลับถูกตั้งคำถาม 00:05:29.080 --> 00:05:31.720 ความน่าเชื่อถือ และแรงจูงใจของเธอก็เช่นกัน NOTE Paragraph 00:05:33.480 --> 00:05:36.856 ผู้แจ้งเบาะแส ไม่ควรที่จะประสบชะดากรรม 00:05:36.880 --> 00:05:38.576 โดยถูกลดตำแหน่ง หรือถูกขู่เอาชีวิต 00:05:38.600 --> 00:05:42.536 ในปี 2002 ผู้แจ้งเบาะแสที่กล้าหาญสามท่าน 00:05:42.560 --> 00:05:45.896 ได้ขึ้นหน้าปกนิตยสาร ไทม์ 00:05:45.920 --> 00:05:48.856 เพราะพวกเค้ากล้าที่จะพูดความจริง 00:05:48.880 --> 00:05:50.536 งานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า 00:05:50.560 --> 00:05:54.136 เพียง 22% ของผู้แจ้งเบาะแส จะเผชิญกับการแก้แค้น 00:05:54.160 --> 00:05:59.616 แปลว่าส่วนใหญ่ผู้แจ้งเบาะแส จะไม่ถูกเอาคืน 00:05:59.640 --> 00:06:01.160 ซึ่งนั่นทำให้ฉันพอจะมีความหวัง NOTE Paragraph 00:06:02.280 --> 00:06:03.936 นี่คือ เคท สวอนสัน 00:06:03.960 --> 00:06:08.376 เธอเป็นเจ้าหน้าที่ของเมืองดิกซัน และปัจจุบันเกษียณแล้ว 00:06:08.400 --> 00:06:12.056 วันหนึ่งเธอทำงานตามปกติ 00:06:12.080 --> 00:06:15.816 แต่บังเอิญไปพบเหตุการณ์ต้องสงสัยเข้า 00:06:15.840 --> 00:06:17.696 ตอนนั้นเป็นข่วงปลายเดือน 00:06:17.720 --> 00:06:20.496 เคท กำลังทำรายงานเงินคงคลังของเมืองอยู่ 00:06:20.520 --> 00:06:24.576 โดยปกติ หัวหน้าของเธอ ริตา ครันด์เวลล์ จะให้รายการบัญชี และบอกเธอว่า 00:06:24.600 --> 00:06:27.576 "เคท โทรหาธนาคารนะ และขอเฉพาะรายการบัญชีพวกนี้" 00:06:27.600 --> 00:06:29.256 ซึ่ง เคท ก็จะทำตามนั้น 00:06:29.280 --> 00:06:30.656 แต่วันนี้พิเศษหน่อย 00:06:30.680 --> 00:06:33.136 ริตา ไม่อยู่ที่ทำงาน เคท ก็ค่อนข้างยุ่ง 00:06:33.160 --> 00:06:38.336 เธอก็เลยโทรศัพท์หาธนาคาร และบอกว่า "ช่วยแฟกซ์ทุกบัญชีมาให้ฉันเลยนะ" 00:06:38.360 --> 00:06:41.656 เมื่อเธอได้รับแฟกซ์จากธนาคาร เธอก็พบว่า 00:06:41.680 --> 00:06:43.816 มีบัญชีหนึ่งที่มีเงินหมุนเวียน 00:06:43.840 --> 00:06:45.296 ซึ่งเธอไม่เคยรู้จักมาก่อน 00:06:45.320 --> 00:06:48.616 มันเป็นบัญชีที่ ริตา เป็นคนดูแล NOTE Paragraph 00:06:48.640 --> 00:06:52.616 เคท ดูข้อมูลที่ได้มา แล้วก็แจ้งให้หัวหน้าทราบ 00:06:52.640 --> 00:06:54.776 ซึ่งในตอนนั้นก็คือ นายกเทศมนตรี เบอร์ค 00:06:54.800 --> 00:06:58.560 และนั่น ก็นำไปสู่การสืบสวนขนานใหญ่ ที่ยาวนานกว่า 6 เดือน 00:06:59.200 --> 00:07:04.216 ผลสรุปคือ ริตา ครันด์เวลล์ ได้ยักยอกทรัพย์ 00:07:04.240 --> 00:07:09.456 ไปเป็นมูลค่ากว่า 53 ล้านเหรียญ มาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา 00:07:09.480 --> 00:07:11.960 และ เคท ก็แค่บังเอิญไปเจอมันเข้า 00:07:13.080 --> 00:07:16.016 เคท เป็นวีรสตรี 00:07:16.040 --> 00:07:17.736 ที่จริง ฉันมีโอกาสได้สัมภาษณ์ เคท 00:07:17.760 --> 00:07:21.136 ในสารคดีของฉันที่ชื่อว่า "ม้าทุกตัวของราชินี" 00:07:21.160 --> 00:07:23.496 เคท ไม่ได้หวังว่าจะเป็นที่รู้จัก 00:07:23.520 --> 00:07:26.976 จริง ๆ แล้วเธอไม่ยอมให้ฉันสัมภาษณ์ อยู่นานทีเดียว 00:07:27.000 --> 00:07:30.096 แต่สุดท้ายก็ทนการต้ามตื๊อ เชิงกลยุทธ์ของฉันไม่ได้ NOTE Paragraph 00:07:30.120 --> 00:07:31.256 (หัวเราะ) NOTE Paragraph 00:07:31.280 --> 00:07:33.496 เธอต้องการแค่ความยุติธรรม ไม่ใช่ชื่อเสียง 00:07:33.520 --> 00:07:35.136 ถ้าไม่มี เคท 00:07:35.160 --> 00:07:37.800 เราจะมีโอกาสได้รู้ว่ามีการทุจริตนี้ เกิดขึ้นเหรอ? NOTE Paragraph 00:07:39.120 --> 00:07:41.736 ยังจำบทความในนิตยสาร ฟอร์บส์ ได้ใช่มั๊ยคะ 00:07:41.760 --> 00:07:43.665 บทความที่ฉันกำลังเขียนในระหว่างเตรียมสอน 00:07:43.689 --> 00:07:47.256 พอบทความนั้น ได้ตีพิมพ์ออกไป สิ่งที่น่าทึ่งก็เกิดขึ้น 00:07:47.280 --> 00:07:51.976 ฉันเริ่มได้รับ อีเมล์ จากผู้แจ้งเบาะแสทั่วโลก 00:07:52.000 --> 00:07:55.576 ซึ่งในระหว่างที่ฉันอ่าน และตอบอีเมล์เหล่านี้ 00:07:55.600 --> 00:07:58.256 ฉันก็พบลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน 00:07:58.280 --> 00:07:59.496 ซึ่งก็คือทุกคน ๆ จะบอกว่า 00:07:59.520 --> 00:08:03.896 "ฉันเป็นคนแจ้งเบาะแส และทุกคนก็เกลียดหน้าฉันกันหมด" 00:08:03.920 --> 00:08:06.096 บ้างก็บอกว่า "ฉันโดนไล่ออกนะแต่รู้มั๊ยว่า 00:08:06.120 --> 00:08:09.496 ฉันก็จะทำแบบเดิมอีก ถ้ามีโอกาส" 00:08:09.520 --> 00:08:12.736 และในระหว่างที่ฉันอ่านอีเมล์ทั้งหมดนี้ 00:08:12.760 --> 00:08:15.576 ฉันก็คิดว่า "แล้วเราจะสอนอะไรนักเรียนดี" 00:08:15.600 --> 00:08:19.176 เมื่อฉันรวมรวมข้อมูลที่ได้มา ฉันก็ได้เรียนรู้ว่า NOTE Paragraph 00:08:19.200 --> 00:08:22.296 เราต้องรู้จักมีความหวัง 00:08:22.320 --> 00:08:24.256 ผู้แจ้งเบาะแสะเป็นคนที่มีความหวัง 00:08:24.280 --> 00:08:25.696 แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะคิดอีกแบบ 00:08:25.720 --> 00:08:30.016 คนพวกนี้ ไม่ใช่พนักงานที่เกลียด หรือมีความขัดแย้งกับองค์กร 00:08:30.040 --> 00:08:34.216 แต่พวกเขามีความหวัง ที่ผลักดันให้เขาทำในสิ่งที่ควรทำ 00:08:34.240 --> 00:08:36.655 เราต้องรู้จักรับผิดชอบ 00:08:36.679 --> 00:08:38.535 ผู้แจ้งเบาะแส เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ 00:08:38.559 --> 00:08:41.056 ซึ่งนั่นคือความหวังดี ที่พวกเขามีต่อองค์กร 00:08:41.080 --> 00:08:43.496 และทำให้พวกเขากล้าพูดออกมา 00:08:43.520 --> 00:08:45.136 ผู้แจ้งเบาะแส เป็นคนถ่อมตัว 00:08:45.160 --> 00:08:49.216 พวกเค้าไม่ได้อยากจะมีชื่อเสียง แต่อยากได้ความยุติธรรม 00:08:49.240 --> 00:08:52.096 และสุดท้าย เราต้องปลูกฝังความกล้าหาญ 00:08:52.120 --> 00:08:53.696 ผู้แจ้งเบาะแส มีความกล้าหาญ 00:08:53.720 --> 00:08:57.416 บ่อยครั้ง ที่พวกเขา 00:08:57.440 --> 00:09:00.056 ประเมินผลกระทบที่เกิด กับครอบครัวของเขาต่ำไป 00:09:00.080 --> 00:09:05.000 แต่สิ่งที่พวกเขามักจะบอกก็คือ มันยากลำบากกว่าที่จะเก็บงำความจริงไว้ NOTE Paragraph 00:09:05.960 --> 00:09:08.776 และจากที่พูดมาทั้งหมด ฉันอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักคน ๆ หนึ่ง 00:09:08.800 --> 00:09:10.120 ปีเตอร์ บักซ์ตัน 00:09:11.160 --> 00:09:17.336 เขาอายุ 27 ปี เป็นพนักงานของ หน่วยงานสาธารณสุขแห่งสหรัฐอเมริกา 00:09:17.360 --> 00:09:21.296 เขาถูกจ้างให้ทำหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ป่วย 00:09:21.320 --> 00:09:23.696 ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศ 00:09:23.720 --> 00:09:25.776 ซึ่งในระหว่างการทำงาน 00:09:25.800 --> 00:09:29.736 เขาได้พบการศึกษาทางคลินิกฉบับหนึ่ง 00:09:29.760 --> 00:09:33.856 ซึ่งเป็นการวิจัยเกี่ยวกับการลุกลาม ของโรคซิฟิลสที่ยังไม่ได้รับการรักษา 00:09:33.880 --> 00:09:36.656 โดยทำการศึกษา ชายชาว แอฟริกัน-อเมริกัน 00:09:36.680 --> 00:09:37.896 จำนวน 600 คน 00:09:37.920 --> 00:09:39.496 ที่ถูกชักชวนให้เข้าร่วมงานวิจัย 00:09:39.520 --> 00:09:43.456 เพื่อแลกกับการได้รับการวินิจฉัยโรคฟรี หรือได้รับประกันฌาปนกิจศพ 00:09:43.480 --> 00:09:47.176 ซึ่งในระหว่างที่การศึกษาวิจัยนี้ดำเนินไป 00:09:47.200 --> 00:09:52.096 ยาเพนนิซิลิน ก็ได้ถูกค้นพบขึ้น ซึ่งยานี้สามารถใช้รักษาโรคซิฟิลิสได้ 00:09:52.120 --> 00:09:54.056 สิ่งที่ ปีเตอร์ พบคือ 00:09:54.080 --> 00:09:58.016 ผู้ป่วยที่เข้ารับการวิจัยนี้ กลับไม่ได้เคยรับยาเพนนิซิลิน 00:09:58.040 --> 00:09:59.536 เพื่อนำไปรักษาโรคที่พวกเขาเป็น 00:09:59.560 --> 00:10:01.376 โดยที่พวกเขาเองก็ไม่ทราบเรื่องเลย NOTE Paragraph 00:10:01.400 --> 00:10:06.576 คล้าย ๆ กับกรณีของ แมรี คือ ปีเตอร์ พยายามจะรายงานให้หัวหน้าทราบ 00:10:06.600 --> 00:10:08.336 แต่ก็ไม่มีใครสนใจ 00:10:08.360 --> 00:10:10.776 ปีเตอร์ รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ยุติธรรมเลย 00:10:10.800 --> 00:10:12.376 เขาจึงพยายามรายงานอีกครั้ง 00:10:12.400 --> 00:10:16.056 จนท้ายที่สุด เขาไปเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง คล้าย ๆ กับเรื่องของ แมรี 00:10:16.080 --> 00:10:20.376 และในปี 1972 บนหน้าหนึ่งของ หนังสือพิมพ์ นิวยอร์คไทมส์ 00:10:20.400 --> 00:10:24.480 "เหยื่อของโรคซิฟิลิสในการวิจัยของ สหรัฐฯ ไม่ได้รับการรักษามานานกว่า 40 ปี" 00:10:25.640 --> 00:10:30.056 ปัจจุบันเรื่องนี้พวกเรารู้จักกันดีในนาม การทดลองเรื่องซิฟิลิสที่สถาบันทัสคีจี 00:10:30.080 --> 00:10:32.296 ที่มี ปีเตอร์ เป็นผู้แจ้งเบาะแส 00:10:32.320 --> 00:10:36.376 แล้วเกิดอะไรขึ้นกับชาย 600 คน ที่เข้าร่วมวิจัยนี้ในตอนแรก ? 00:10:36.400 --> 00:10:39.376 28 คนเสียชีวิตจากโรคซิฟิลิส 00:10:39.400 --> 00:10:42.536 100 คนเสียชีวิตจากอาการแทรกซ้อนของโรค 00:10:42.560 --> 00:10:44.416 ภรรยาของชายเหล่านี้จำนวน 40 คนติดเชื้อ 00:10:44.440 --> 00:10:47.296 ลูก ๆ ของพวกเขาอีก 10 คน เป็นโรคนี้โดยกำเนิด 00:10:47.320 --> 00:10:49.656 ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นเช่นไร 00:10:49.680 --> 00:10:53.776 หากไม่มีความกล้าหาญของ ปีเตอร์ NOTE Paragraph 00:10:53.800 --> 00:10:56.296 พวกเราทุกคนต่างเป็นหนี้บุญคุณ ปีเตอร์ 00:10:56.320 --> 00:10:58.896 ถ้าเรารู้จักใครซักคนในการศึกษาวิจัยนี้ 00:10:58.920 --> 00:11:02.096 ที่วันนี้เรามีกฎหมายคุ้มครองทางการแพทย์ 00:11:02.120 --> 00:11:04.240 ก็เพราะการกระทำที่กล้าหาญ ของ ปีเตอร์ นั่นเอง NOTE Paragraph 00:11:05.400 --> 00:11:06.816 ขอฉันถามอีกหนึ่งคำถาม 00:11:06.840 --> 00:11:09.736 ซึ่งก็เคยถามไปก่อนหน้านี้ว่า 00:11:09.760 --> 00:11:12.856 มีใครบ้างที่เคยใช้คำนี้ ? 00:11:12.880 --> 00:11:15.856 "คนขี้ฟ้อง", "หนอนบ่อนไส้" 00:11:15.880 --> 00:11:17.456 "คนปากโป้ง" 00:11:17.480 --> 00:11:19.136 "งูเห่า" 00:11:19.160 --> 00:11:20.656 "ตลบตะแลง" 00:11:20.680 --> 00:11:21.880 "คนปากโป้ง" 00:11:22.920 --> 00:11:24.120 มีใครมั๊ย ? NOTE Paragraph 00:11:27.640 --> 00:11:30.696 ก่อนที่คุณจะใช้คำพูดนี้อีกครั้ง 00:11:30.720 --> 00:11:32.536 ฉันอยากให้คุณคิดเสียหน่อยว่า 00:11:32.560 --> 00:11:36.440 นั่นอาจจะเป็น แมรี, ปีเตอร์ หรือ เคท อีกคน 00:11:37.480 --> 00:11:40.416 คุณอาจจะเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ 00:11:40.440 --> 00:11:42.976 หรือพวกเค้า อาจจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของคุณ NOTE Paragraph 00:11:43.000 --> 00:11:44.216 ขอบคุณค่ะ NOTE Paragraph 00:11:44.240 --> 00:11:48.000 (เสียงปรบมือ)