1 00:00:00,000 --> 00:00:02,000 เมื่อสองสามสัปดาห์ที่แล้ว, 2 00:00:02,000 --> 00:00:05,000 ผมได้มีโอกาสไปประเทศซาอุดิอาระเบีย 3 00:00:05,000 --> 00:00:08,000 และสิ่งแรกที่ผมอยากทำในฐานะเป็นมุสลิมคนหนึ่ง 4 00:00:08,000 --> 00:00:10,000 ก็คือไปนครเม็กกะ (Mecca) และไปเยือนก๊ะบะ (Kaaba), 5 00:00:10,000 --> 00:00:12,000 สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของอิสลาม 6 00:00:12,000 --> 00:00:14,000 และผมก็ได้ทำ ผมได้สวมใส่ชุดสำหรับประกอบพิธี 7 00:00:14,000 --> 00:00:16,000 ผมไปที่มัสยิดที่ศักดิ์สิทธิ์ 8 00:00:16,000 --> 00:00:18,000 ได้สวดมนต์ 9 00:00:18,000 --> 00:00:20,000 ได้ประกอบพิธีกรรมทั้งหมด 10 00:00:20,000 --> 00:00:22,000 และในช่วงนั้น, 11 00:00:22,000 --> 00:00:24,000 นอกจากทุกเรื่องทางศาสนา, 12 00:00:24,000 --> 00:00:26,000 ยังมีเรื่องทางโลกเรื่องหนึ่งในก๊ะบะ 13 00:00:26,000 --> 00:00:28,000 ที่น่าสนใจมากๆสำหรับผม 14 00:00:28,000 --> 00:00:30,000 ไม่มีการแยกเพศ 15 00:00:30,000 --> 00:00:32,000 พูดอีกอย่างหนึ่ง,ทั้งชายและหญิง 16 00:00:32,000 --> 00:00:34,000 ประกอบพิธีกรรมด้วยกัน 17 00:00:34,000 --> 00:00:36,000 พวกเขาอยู่รวมกันในขณะทำพิธีตอวาฟ (tawaf), 18 00:00:36,000 --> 00:00:39,000 การเดินเวียนรอบก๊ะบ๊ะ 19 00:00:39,000 --> 00:00:41,000 พวกเขาอยู่รวมกันในระหว่างสวดมนต์ 20 00:00:41,000 --> 00:00:44,000 และถ้าคุณสงสัยว่าทำไมเรื่องนี้น่าสนใจนัก, 21 00:00:44,000 --> 00:00:47,000 คุณต้องไปดูส่วนอื่นในซาอุดิอาระเบีย, 22 00:00:47,000 --> 00:00:49,000 เพราะว่ามันเป็นประเทศ 23 00:00:49,000 --> 00:00:52,000 ที่แบ่งแยกเพศหญิงชายอย่างเข้มงวด 24 00:00:52,000 --> 00:00:54,000 พูดอีกอย่าง, 25 00:00:54,000 --> 00:00:56,000 ในฐานะที่เป็นผู้ชาย, คุณไม่ควรจะไปอยู่ 26 00:00:56,000 --> 00:00:58,000 ในสถานที่เดียวกับผู้หญิง 27 00:00:58,000 --> 00:01:00,000 และผมได้สังเกตเรื่องนี้ในเชิงขบขันมากๆ 28 00:01:00,000 --> 00:01:02,000 ผมออกมาจากก๊ะบ๊ะ 29 00:01:02,000 --> 00:01:04,000 เพื่อไปรับประทานอาหารในตัวเมืองเม็กกะ 30 00:01:04,000 --> 00:01:06,000 ผมตรงไปที่ร้านเบอร์เกอร์คิงที่ใกล้ที่สุด 31 00:01:06,000 --> 00:01:08,000 เมื่อไปถึงที่นั่น-- 32 00:01:08,000 --> 00:01:10,000 ผมสังเกตเห็นว่ามีส่วนสำหรับผู้ชาย, 33 00:01:10,000 --> 00:01:13,000 ซึ่งแยกไว้อย่างดีจากส่วนของผู้หญิง 34 00:01:13,000 --> 00:01:16,000 และผมต้องจ่ายเงิน, สั่งอาหารและกินในส่วนสำหรับชาย 35 00:01:16,000 --> 00:01:18,000 "ตลกจัง"ผมพูดกับตัวเอง, 36 00:01:18,000 --> 00:01:21,000 "คุณอยู่ปนกับเพศตรงข้ามได้ในก๊ะบ๊ะที่ศักดิ์สิทธิ์, 37 00:01:21,000 --> 00:01:23,000 แต่ไม่ได้ที่เบอร์เกอร์คิง" 38 00:01:23,000 --> 00:01:25,000 ค่อนข้างเหน็บแนม 39 00:01:25,000 --> 00:01:28,000 ส่อเสียด, แต่ผมคิดว่า ได้ผลชะงัด 40 00:01:28,000 --> 00:01:31,000 เพราะว่าก๊ะบ๊ะและพิธีกรรมรอบๆนั้น 41 00:01:31,000 --> 00:01:34,000 เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ยุคแรกสุดของอิสลาม, 42 00:01:34,000 --> 00:01:36,000 คือยุคของศาสดามูฮัมหมัด 43 00:01:36,000 --> 00:01:38,000 และถ้ามีการเน้นกันอย่างมากในสมัยนั้น 44 00:01:38,000 --> 00:01:40,000 ให้แยกชายออกจากหญิง, 45 00:01:40,000 --> 00:01:43,000 พิธีกรรมรอบๆก๊ะบ๊ะก็ควรจะออกแบบตามนั้น 46 00:01:43,000 --> 00:01:45,000 แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ปัญหาในเวลานั้น 47 00:01:45,000 --> 00:01:47,000 ดังนั้นพิธีกรรมจึงออกมาเป็นแบบนี้ 48 00:01:47,000 --> 00:01:49,000 ผมคิดว่าสิ่งนี้ตอกยํ้าด้วยว่า 49 00:01:49,000 --> 00:01:51,000 ข้อเท็จจริงของการแยกผู้หญิงออกไป 50 00:01:51,000 --> 00:01:53,000 เพื่อสร้างสังคมที่แบ่งแยก 51 00:01:53,000 --> 00:01:56,000 เป็นสิ่งที่เราไม่พบในคัมภีร์กุรอ่าน (Koran), 52 00:01:56,000 --> 00:01:58,000 แก่นหลักจริงๆของอิสลาม-- 53 00:01:58,000 --> 00:02:00,000 แก่นที่ศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม 54 00:02:00,000 --> 00:02:03,000 ที่มุสลิมทุกคน,และผมเองก็เหมือนกัน,เชื่อ 55 00:02:03,000 --> 00:02:05,000 และผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ 56 00:02:05,000 --> 00:02:07,000 ที่คุณไม่พบแนวคิดแบบนี้ 57 00:02:07,000 --> 00:02:09,000 เมื่อแรกเริ่มอิสลาม 58 00:02:09,000 --> 00:02:11,000 เพราะว่าผู้คงแก่เรียนหลายท่าน 59 00:02:11,000 --> 00:02:13,000 ที่ศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับแนวคิดของอิสลาม-- 60 00:02:13,000 --> 00:02:15,000 นักวิชาการมุสลิมหรือตะวันตก-- 61 00:02:15,000 --> 00:02:17,000 คิดว่าจริงๆแล้วแนวปฎิบัติ 62 00:02:17,000 --> 00:02:19,000 ที่แยกชายจากหญิงทางกายภาพ 63 00:02:19,000 --> 00:02:22,000 ได้เข้ามาหลังการพัฒนาในอิสลาม, 64 00:02:22,000 --> 00:02:24,000 เมื่อมุสลิมรับเอามาใช้ 65 00:02:24,000 --> 00:02:27,000 วัฒนธรรมและประเพณีของชาวตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นมาก่อน 66 00:02:27,000 --> 00:02:29,000 การแยกเพศหญิงออกไปจริงๆเป็น 67 00:02:29,000 --> 00:02:31,000 ธรรมเนียมของชาวโรมันและเปอร์เซีย 68 00:02:31,000 --> 00:02:34,000 และมุสลิมรับมาปฏิบัติ 69 00:02:34,000 --> 00:02:36,000 และทำให้เป็นส่วนหนึ่งของศาสนา 70 00:02:36,000 --> 00:02:38,000 ที่จริงนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น 71 00:02:38,000 --> 00:02:40,000 ของปรากฏการณ์ที่มีมากกว่านี้ 72 00:02:40,000 --> 00:02:43,000 สิ่งที่ในปัจจุบันเราเรียกว่ากฎหมายอิสลาม,โดยเฉพาะวัฒนธรรมอิสลาม-- 73 00:02:43,000 --> 00:02:45,000 จริงๆแล้วมีวัฒนธรรมอิสลามหลากหลาย 74 00:02:45,000 --> 00:02:47,000 วัฒนธรรมในซาอุดิอาระเบียก็ต่างไปอย่างมาก 75 00:02:47,000 --> 00:02:50,000 จากที่ๆผมอยู่ในอิสตันบุลหรือตุรกี 76 00:02:50,000 --> 00:02:52,000 แต่กระนั้นก็ตาม, 77 00:02:52,000 --> 00:02:54,000 ถ้าคุณจะพูดเรื่องวัฒนธรรมอิสลาม, 78 00:02:54,000 --> 00:02:56,000 เรื่องนี้มีแกนหลักของมัน,สาส์นอันศักดิ์สิทธิ์ 79 00:02:56,000 --> 00:02:58,000 ซึ่งเริ่มต้นศาสนา, 80 00:02:58,000 --> 00:03:00,000 แต่แล้วประเพณี,ความรู้สึกและการรับรู้, 81 00:03:00,000 --> 00:03:03,000 การปฏิบัติต่างๆได้เพิ่มเข้ามาทับถม 82 00:03:03,000 --> 00:03:06,000 และสิ่งเหล่านั้นคือธรรมเนียมประเพณีของชาวตะวันออกกลาง 83 00:03:07,000 --> 00:03:10,000 มีสาระสำคัญสองประการ,หรือบทเรียนสองเรื่อง, 84 00:03:10,000 --> 00:03:13,000 ที่ได้จากความเป็นจริงนี้ 85 00:03:13,000 --> 00:03:15,000 ลำดับแรก,มุสลิม-- 86 00:03:15,000 --> 00:03:18,000 ผู้เคร่งครัด,รอบคอบ,มุสลิมผู้ศรัทธาที่ต้องการภักดีกับศาสนาของตน-- 87 00:03:18,000 --> 00:03:21,000 ไม่ควรจะเกาะติดอยู่กับทุกอย่างในวัฒนธรรมของตน, 88 00:03:21,000 --> 00:03:23,000 คิดไปว่าสิ่งนั้นถูกกำหนดจากพระเจ้า 89 00:03:23,000 --> 00:03:25,000 บางทีบางอย่างเป็นธรรมเนียมที่เลว 90 00:03:25,000 --> 00:03:27,000 และจำเป็นที่ต้องถูกเปลี่ยนแปลง 91 00:03:27,000 --> 00:03:29,000 ในทางกลับกัน,ชาวตะวันตก 92 00:03:29,000 --> 00:03:31,000 ที่มองดูวัฒนธรรมของอิสลาม 93 00:03:31,000 --> 00:03:33,000 และเห็นส่วนที่เกิดปัญหาบางอย่าง 94 00:03:33,000 --> 00:03:36,000 ไม่ควรจะสรุปไปว่าสิ่งนั้นเป็นคำสั่งสอนของอิสลาม 95 00:03:36,000 --> 00:03:38,000 มันอาจเป็นวัฒนธรรมของตะวันออกกลางก็ได้ 96 00:03:38,000 --> 00:03:40,000 ที่นำมาสับสนกับอิสลาม 97 00:03:40,000 --> 00:03:43,000 มีการปฏิบัติที่เรียกว่าการขลิบอวัยวะเพศหญิง (Femail circumcision) 98 00:03:43,000 --> 00:03:46,000 เป็นสิ่งที่ร้ายกาจ,น่ากลัว 99 00:03:46,000 --> 00:03:48,000 โดยพื้นฐานเป็นการผ่าตัด 100 00:03:48,000 --> 00:03:51,000 เพื่อไม่ให้ผู้หญิงมีความสุขทางเพศ 101 00:03:51,000 --> 00:03:53,000 และเมื่อชาวตะวันตก,ยุโรป หรืออเมริกา, 102 00:03:53,000 --> 00:03:56,000 ที่ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน 103 00:03:56,000 --> 00:03:58,000 พบเห็นการปฏิบัตินี้ 104 00:03:58,000 --> 00:04:00,000 ในชุมชนมุสลิมบางกลุ่ม 105 00:04:00,000 --> 00:04:02,000 ซึ่งอพยพมาจากแอฟริกาเหนือ 106 00:04:02,000 --> 00:04:05,000 ก็จะคิดว่า"โอย,ศาสนานี้ช่างน่าสยดสยองเสียจริงๆ 107 00:04:05,000 --> 00:04:07,000 ออกบทบัญญัติอย่างนี้ได้อย่างไร" 108 00:04:07,000 --> 00:04:09,000 แต่จริงๆแล้วเมื่อเรามาพิจารณาการขลิบอวัยวะเพศหญิง 109 00:04:09,000 --> 00:04:11,000 จะพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับอิสลามเลย 110 00:04:11,000 --> 00:04:13,000 เป็นแค่แนวปฏิบัติของแอฟริกาเหนือ 111 00:04:13,000 --> 00:04:15,000 ซึ่งมีมาก่อนอิสลาม 112 00:04:15,000 --> 00:04:17,000 มีอยู่ที่นั่นมาก่อนแล้วนับเป็นพันๆปี 113 00:04:17,000 --> 00:04:20,000 และชัดเจนทีเดียว,มุสลิมบางคนปฏิบัติแบบนั้น 114 00:04:20,000 --> 00:04:23,000 มุสลิมในแอฟริกาเหนือ,ไม่ใช่ในที่อื่นๆ 115 00:04:23,000 --> 00:04:26,000 แต่ก็มีในชุมชนแอฟริกาเหนือที่ไม่ใช่มุสลิมด้วย-- 116 00:04:26,000 --> 00:04:28,000 พวกแอนนิมิส,แม้แต่พวกคริสเตียนบางคน 117 00:04:28,000 --> 00:04:30,000 แม้แต่พวกยิวบางเผ่าในแอฟริกาเหนือ 118 00:04:30,000 --> 00:04:33,000 ก็ยังเป็นที่รู้กันว่าปฏิบัติตามประเพณีนี้ 119 00:04:33,000 --> 00:04:36,000 ดังนั้นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหา 120 00:04:36,000 --> 00:04:38,000 ในความเชื่อของอิสลาม 121 00:04:38,000 --> 00:04:40,000 อาจกลายเป็นการปฏิบัติตามประเพณี 122 00:04:40,000 --> 00:04:42,000 ที่มุสลิมได้ปฏิบัติตาม 123 00:04:42,000 --> 00:04:44,000 ที่คล้ายกับเรื่องนี้ก็คือการฆ่าเพื่อศักด์ศรี, 124 00:04:44,000 --> 00:04:47,000 ซึ่งเป็นเรื่องที่ปรากฎซํ้าซากในสื่อมวลชนตะวันตก-- 125 00:04:47,000 --> 00:04:50,000 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นประเพณีที่น่ากลัว 126 00:04:50,000 --> 00:04:53,000 และเราก็เห็นประเพณีแบบนั้นจริงในมุสลิมบางกลุ่ม 127 00:04:53,000 --> 00:04:56,000 แต่ในกลุ่มชนที่ไม่ใช่มุสลิมในตะวันออกกลาง, 128 00:04:56,000 --> 00:04:58,000 เช่น กลุ่มชนคริสเตียน, กลุ่มชนเขตตะวันออก, 129 00:04:58,000 --> 00:05:00,000 เราก็เห็นการปฏิบัติแบบเดียวกัน 130 00:05:00,000 --> 00:05:02,000 เรามีคดีที่เศร้าสลดเกี่ยวกับการฆ่าเพื่อศักดิ์ศรี 131 00:05:02,000 --> 00:05:04,000 ในกลุ่มชนชาวอัลบาเนียนของตุรกี 132 00:05:04,000 --> 00:05:06,000 แค่ไม่กี่เดือนที่แล้ว 133 00:05:06,000 --> 00:05:08,000 ปัจจุบันเรื่องนี้เป็นเรื่องของวัฒนธรรมโดยทั่วไป, 134 00:05:08,000 --> 00:05:11,000 ผมสนใจอย่างมากเกี่ยวกับวัฒนธรรมด้านการเมืองด้วย 135 00:05:11,000 --> 00:05:14,000 และที่เกี่ยวกับว่ามีเสรีภาพและประชาธิปไตยหรือไม่ 136 00:05:14,000 --> 00:05:17,000 หรือว่ามีวัฒนธรรมการเมืองแบบเผด็จการ 137 00:05:17,000 --> 00:05:20,000 ซึ่งรัฐใช้บังคับพลเมืองหรือไม่ 138 00:05:20,000 --> 00:05:22,000 และมันไม่ใช่ความลับ 139 00:05:22,000 --> 00:05:24,000 ที่การเคลื่อนไหวอิสลามหลายครั้งในตะวันออกกลาง 140 00:05:24,000 --> 00:05:26,000 มักจะเป็นเผด็จการ, 141 00:05:26,000 --> 00:05:29,000 และที่เรียกกันว่า"ระบบการปกครองแบบอิสลาม" 142 00:05:29,000 --> 00:05:31,000 เช่นซาอุดิอาระเบีย,อิหร่าน 143 00:05:31,000 --> 00:05:34,000 และในกรณีที่แย่ที่สุดคือทาลิบานในอัฟกานิสถาน, 144 00:05:34,000 --> 00:05:36,000 พวกนั้นเป็นเผด็จการอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย 145 00:05:36,000 --> 00:05:38,000 ตัวอย่างเช่น,ในซาอุดิอาระเบีย 146 00:05:38,000 --> 00:05:41,000 มีปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่าตำรวจศาสนา 147 00:05:41,000 --> 00:05:43,000 และตำรวจศาสนาก็บังคับให้ปฏิบัติตาม 148 00:05:43,000 --> 00:05:45,000 วิถีชีวิตที่อ้างว่าเป็นอิสลาม 149 00:05:45,000 --> 00:05:47,000 กับประชาชนทุกคน,ด้วยกำลัง-- 150 00:05:47,000 --> 00:05:49,000 เช่นผู้หญิงถูกบังคับให้คลุมศรีษะ-- 151 00:05:49,000 --> 00:05:52,000 ใส่ฮิญาบ (Hijab),การคลุมศีรษะแบบอิสลาม 152 00:05:52,000 --> 00:05:54,000 นี่เป็นเผด็จการอย่างมาก, 153 00:05:54,000 --> 00:05:57,000 และเป็นสิ่งที่ผมขอวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก 154 00:05:57,000 --> 00:06:00,000 แต่เมื่อผมตระหนักว่า 155 00:06:00,000 --> 00:06:02,000 ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม, 156 00:06:02,000 --> 00:06:05,000 หรือนักแสดงที่ไม่มีจิตมุสลิมในเขตภูมิศาสตร์เดียวกัน, 157 00:06:05,000 --> 00:06:07,000 บางครั้งก็ปฏิบัติแบบเดียวกันนี้, 158 00:06:07,000 --> 00:06:09,000 ผมเลยเข้าใจได้ว่าปัญหาอาจจะ 159 00:06:09,000 --> 00:06:12,000 อยู่ที่วัฒนธรรมการเมืองของทั้งภูมิภาค ไม่ใช่แค่อิสลาม 160 00:06:12,000 --> 00:06:15,000 ผมขอให้ตัวอย่างหนึ่ง ในตุรกีบ้านเกิดผม 161 00:06:15,000 --> 00:06:17,000 ซึ่งเป็นสาธารณรัฐที่มุ่งทางโลกอย่างมากๆ, 162 00:06:17,000 --> 00:06:19,000 จนเมื่อไม่นานมานี้ 163 00:06:19,000 --> 00:06:22,000 เราเคยมีสิ่งที่เรียกว่าตำรวจวิถีโลก, 164 00:06:22,000 --> 00:06:25,000 ซึ่งคอยดูแลมหาวิทยาลัย 165 00:06:25,000 --> 00:06:27,000 จับกุมนักศึกษาที่คลุมหน้า 166 00:06:27,000 --> 00:06:30,000 กล่าวคือ,เขาจะบังคับให้นักศีกษาเหล่านั้น 167 00:06:30,000 --> 00:06:32,000 เปิดศีรษะ 168 00:06:32,000 --> 00:06:34,000 และผมคิดว่าการบังคับคนให้เปิดศีรษะ 169 00:06:34,000 --> 00:06:37,000 เป็นเผด็จการเท่าๆกับบังคับให้คลุม 170 00:06:37,000 --> 00:06:39,000 ควรจะเป็นการตัดสินใจของพลเมืองเอง 171 00:06:39,000 --> 00:06:41,000 เมื่อผมเห็นแบบนี้,ผมขอกล่าวว่า 172 00:06:41,000 --> 00:06:43,000 "บางทีปัญหาดังกล่าว 173 00:06:43,000 --> 00:06:45,000 เป็นแค่เพียงวัฒนธรรมเผด็จการในถิ่นนั้น 174 00:06:45,000 --> 00:06:47,000 และมุสลิมบางคนถูกอิทธิพลดังกล่าวเข้าครอบงำ" 175 00:06:47,000 --> 00:06:50,000 แต่คนที่มีจิตไปทางโลกก็สามารถถูกอิทธิพลนั้นครอบงำได้ 176 00:06:50,000 --> 00:06:52,000 อาจเป็นปัญหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางการเมืองก็ได้, 177 00:06:52,000 --> 00:06:54,000 และเราต้องคิดเกี่ยวกับ 178 00:06:54,000 --> 00:06:56,000 ว่าจะเปลี่ยนวัฒนธรรมการเมืองนั้นอย่างไร 179 00:06:56,000 --> 00:06:58,000 ปัจจุบันนี่เป็นปัญหาบางประการ 180 00:06:58,000 --> 00:07:00,000 สิ่งที่ผมคิดอยู่เมื่อสองสามปีก่อน 181 00:07:00,000 --> 00:07:02,000 เมื่อผมนั่งลงเขียนหนังสือ 182 00:07:02,000 --> 00:07:04,000 ผมพูดว่า "เอาละผมจะทำวิจัย 183 00:07:04,000 --> 00:07:09,000 ว่าจริงๆแล้วอิสลามมาเป็นอย่างในปัจจุบันได้อย่างไร, 184 00:07:09,000 --> 00:07:11,000 และมาตามช่องทางไหน 185 00:07:11,000 --> 00:07:13,000 และมีช่องทางไหนบ้างที่ควรถูกใช้" 186 00:07:13,000 --> 00:07:18,000 ชื่อหนังสือคือ"อิสลามที่ไม่สุดโต่ง: กรณีศึกษาเพื่อเสรีภาพ" 187 00:07:18,000 --> 00:07:20,000 ก็เป็นไปตามคำอธิบายชื่อเรื่องที่ว่าไว้, 188 00:07:20,000 --> 00:07:23,000 ผมมองวัฒนธรรมอิสลามและประวัติศาสตร์แนวคิดอิสลาม 189 00:07:23,000 --> 00:07:25,000 จากทัศนะด้านเสรีภาพส่วนบุคคล, 190 00:07:25,000 --> 00:07:27,000 และพยายามมองหาจุดแข็ง 191 00:07:27,000 --> 00:07:29,000 ด้านเสรีภาพส่วนบุคคล 192 00:07:29,000 --> 00:07:31,000 มีจุดแข็งในขนบธรรมเนียมอิสลาม 193 00:07:31,000 --> 00:07:34,000 จริงๆแล้วอิสลามเป็นศาสนาที่มีพระเจ้าองค์เดียว, 194 00:07:34,000 --> 00:07:38,000 ซึ่งบอกไว้ชัดเจนว่ามนุษย์เป็นผู้ที่รับผิดชอบในตนเอง, 195 00:07:38,000 --> 00:07:40,000 สร้างให้เกิดแนวคิดเชิงปัจเจกชนขึ้นในตะวันออกกลาง 196 00:07:40,000 --> 00:07:43,000 และกันมันออกจากระบบความคิดที่เน้นสังคม,คติรวมหมู่ 197 00:07:43,000 --> 00:07:45,000 ของเผ่า 198 00:07:45,000 --> 00:07:47,000 คุณจะได้ความคิดออกมามากมายจากสิ่งนั้น 199 00:07:47,000 --> 00:07:50,000 นอกจากนี้,ผมยังเห็นปัญหาภายในประเพณีอิสลามด้วย 200 00:07:50,000 --> 00:07:52,000 แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ 201 00:07:52,000 --> 00:07:55,000 ปัญหาส่วนใหญ่กลับกลายเป็นปัญหาที่ผุดขึ้นมาภายหล้ง, 202 00:07:55,000 --> 00:07:58,000 ไม่ได้มาจากแกนหลักอันศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม,คัมภีร์กุรอ่าน, 203 00:07:58,000 --> 00:08:01,000 แต่มาจากประเพณีและวิธีการคิด 204 00:08:01,000 --> 00:08:03,000 หรือการตีความจากกุรอ่าน 205 00:08:03,000 --> 00:08:05,000 ที่มุสลิมทำขึ้นในยุคกลาง 206 00:08:05,000 --> 00:08:07,000 กุรอ่าน,เป็นตัวอย่าง, 207 00:08:07,000 --> 00:08:09,000 ไม่ได้อภัยการลงโทษด้วยการขว้างหินใส่ 208 00:08:09,000 --> 00:08:11,000 ไม่มีการลงโทษเกี่ยวกับการเปลี่ยนศาสนา 209 00:08:11,000 --> 00:08:14,000 ไม่มีการลงโทษเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเช่นการดื่มเหล้า 210 00:08:14,000 --> 00:08:18,000 สิ่งเหล่านี้ซึ่งสร้างเป็นกฎหมายอิสลาม, 211 00:08:18,000 --> 00:08:21,000 ลักษณะที่เป็นปัญหาในกฎหมายอิสลาม, 212 00:08:21,000 --> 00:08:24,000 ได้เกิดขึ้นมาจากการตีความอิสลามในภายหลัง 213 00:08:24,000 --> 00:08:26,000 ซึ่งหมายความว่าในปัจจุบันมุสลิมสามารถ, 214 00:08:26,000 --> 00:08:28,000 มองสิ่งเหล่านี้และพูดได้ว่า, 215 00:08:28,000 --> 00:08:30,000 "เอาละ,แก่นของศาสนาของเรา 216 00:08:30,000 --> 00:08:32,000 อยู่ตรงนี้กับตัวเรา 217 00:08:32,000 --> 00:08:34,000 คือความศรัทธาของเรา,และเราจะภักดีกับมัน" 218 00:08:34,000 --> 00:08:36,000 แต่เราจะเปลี่ยนวิธีที่มันถูกตีความ, 219 00:08:36,000 --> 00:08:39,000 เพราะว่ามันถูกตีความไปตามกาลและสิ่งแวดล้อมในยุคกลาง 220 00:08:39,000 --> 00:08:41,000 เดี๋ยวนี้เราอยู่ในโลกที่ต่างออกไป 221 00:08:41,000 --> 00:08:43,000 พร้อมกับค่านิยมและระบบการเมืองที่ต่างไป 222 00:08:43,000 --> 00:08:46,000 การตีความแบบนั้นเป็นไปได้และปฏิบัติได้ 223 00:08:47,000 --> 00:08:50,000 แต่ถ้าผมเป็นเป็นเพียงคนเดียวที่คิดแบบนี้, 224 00:08:50,000 --> 00:08:53,000 เราก็จะลำบาก 225 00:08:53,000 --> 00:08:55,000 แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย 226 00:08:55,000 --> 00:08:58,000 ที่จริง,ตั้งแต่ศตวรรษที่19เป็นต้นมา 227 00:08:58,000 --> 00:09:01,000 มีนักเปลี่ยนแปลงแก้ไข,นักปฏิรูปมากมาย-- 228 00:09:01,000 --> 00:09:03,000 ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม-- 229 00:09:03,000 --> 00:09:05,000 ขนบธรรมเนียม, 230 00:09:05,000 --> 00:09:07,000 แนวโน้มในความคิดอิสลาม 231 00:09:07,000 --> 00:09:09,000 และคนเหล่านี้คือผู้ที่มิภูมิปัญญาสูงหรือรัฐบุรุษ 232 00:09:09,000 --> 00:09:12,000 แห่งศตวรรษที่19,และต่อมาในศตวรรษที่20, 233 00:09:12,000 --> 00:09:14,000 ซึ่งมองยุโรปเป็นหลัก 234 00:09:14,000 --> 00:09:16,000 และเห็นว่ายุโรปมีหลายสิ่งที่น่าชื่นชม, 235 00:09:16,000 --> 00:09:18,000 เช่นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ 236 00:09:18,000 --> 00:09:20,000 ไม่เพียงเท่านั้น;ยังมีประชาธิปไตย,รัฐสภา, 237 00:09:20,000 --> 00:09:22,000 แนวคิดเกี่ยวกับผู้แทน, 238 00:09:22,000 --> 00:09:24,000 แนวคิดเรื่องความเท่าเทียมกันของพลเมือง 239 00:09:24,000 --> 00:09:27,000 นักคิดและผู้มีภูมิปัญญาสูงและรัฐบุรุษมุสลิม 240 00:09:27,000 --> 00:09:30,000 ของศตวรรษที่19มองยุโรป,เห็นสิ่งเหล่านี้ 241 00:09:30,000 --> 00:09:32,000 กล่าวว่า,"ทำไมเราจึงไม่มีสิ่งเหล่านี้?" 242 00:09:32,000 --> 00:09:34,000 และเขาก็ย้อนกลับไปดูประเพณีอิสลาม, 243 00:09:34,000 --> 00:09:37,000 เขาเห็นว่ามีลักษณะที่เป็นปัญหาอยู่, 244 00:09:37,000 --> 00:09:40,000 แต่มันไม่ได้เป็นแกนหลักของศาสนา,ดังนั้นเขาน่าจะทำความเข้าใจสิ่งเหล่านั้นเสียใหม่, 245 00:09:40,000 --> 00:09:42,000 และกุรอ่านก็สามารถถูกอ่านใหม่ได้ 246 00:09:42,000 --> 00:09:44,000 ในโลกยุคใหม่ 247 00:09:44,000 --> 00:09:46,000 แนวโน้มนี้ 248 00:09:46,000 --> 00:09:49,000 เรียกทั่วไปว่าอิสลามสมัยใหม่, 249 00:09:49,000 --> 00:09:52,000 ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากผู้มีภูมิปัญญาสูงและรัฐบุรุษ, 250 00:09:52,000 --> 00:09:54,000 ไม่ใช่เพียงแค่เป็นแนวคิดที่หลักแหลมเท่านั้น, 251 00:09:54,000 --> 00:09:56,000 แต่ยังเป็นโครงการทางการเมือง 252 00:09:56,000 --> 00:09:58,000 นั้นคือทำไมจริงๆแล้วในศตวรรษที่19 253 00:09:58,000 --> 00:10:01,000 จักรวรรดิออตโตมัน,ซึ่งในขณะนั้นครอบคลุมตะวันออกกลางทั้งหมด, 254 00:10:01,000 --> 00:10:04,000 ได้ทำการปฏิรูปที่สำคัญมาก-- 255 00:10:04,000 --> 00:10:06,000 การปฎิรูปเหมือนที่กระทำกับคริสเตียนและยิว 256 00:10:06,000 --> 00:10:08,000 ให้มีสถานะพลเมืองที่เท่าเทียมกัน, 257 00:10:08,000 --> 00:10:10,000 การยอมรับรัฐธรรมนูญ, 258 00:10:10,000 --> 00:10:12,000 การยอมรับสภาผู้แทน, 259 00:10:12,000 --> 00:10:15,000 ส่งเสริมความคิดอิสระภาพในการนับถือศาสนา 260 00:10:15,000 --> 00:10:18,000 และนั่นเป็นสาเหตุให้จักรวรรดิออตโตมันในทศวรรษสุดท้าย 261 00:10:18,000 --> 00:10:20,000 กลายเป็นแบบแรกของประชาธิปไตย, 262 00:10:20,000 --> 00:10:22,000 ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 263 00:10:22,000 --> 00:10:25,000 และอิสรภาพเป็นค่านิยมที่สำคัญมากในขณะนั้น 264 00:10:25,000 --> 00:10:27,000 ทำนองเดียวกัน ในโลกอาหรับ 265 00:10:27,000 --> 00:10:30,000 มีสิ่งที่นักประวัติศาสตร์อาหรับผู้ยิ่งใหญ่อัลเบิร์ท ฮูนารี (Albert Hourani) 266 00:10:30,000 --> 00:10:32,000 อธิบายว่าเป็นยุคเสรีนิยม 267 00:10:32,000 --> 00:10:34,000 หนังสือของเขา,"แนวคิดอาหรับในยุคเสรีนิยม" 268 00:10:34,000 --> 00:10:36,000 และเขาอธิบายยุคเสรีนิยมว่า 269 00:10:36,000 --> 00:10:39,000 อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 270 00:10:39,000 --> 00:10:42,000 ที่น่าสังเกตอย่างมากคือนี่เป็นแนวโน้มที่สำคัญ 271 00:10:42,000 --> 00:10:44,000 ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 272 00:10:44,000 --> 00:10:48,000 ในหมู่นักคิด รัฐบุรุษและนักศาสนศาสตร์อิสลาม 273 00:10:48,000 --> 00:10:50,000 แต่มีรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ 274 00:10:50,000 --> 00:10:52,000 ในศตวรรษที่ 20 ต่อจากนั้น, 275 00:10:52,000 --> 00:10:54,000 เพราะว่าเราเห็นการตกตํ่าอย่างฉับพลัน 276 00:10:54,000 --> 00:10:56,000 ในแนวของอิสลามสมัยใหม่นี้ 277 00:10:56,000 --> 00:10:58,000 และสิ่งที่เข้ามาแทนที่, 278 00:10:58,000 --> 00:11:01,000 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือลัทธิอิสลามได้เติบโตขึ้น 279 00:11:01,000 --> 00:11:04,000 เป็นอุดมการณ์ที่เป็นอำนาจเผด็จการ, 280 00:11:04,000 --> 00:11:06,000 ที่รุนแรงมากทีเดียว, 281 00:11:06,000 --> 00:11:08,000 ที่ต่อต้านตะวันตกมาก, 282 00:11:08,000 --> 00:11:10,000 และที่ต้องการจะจัดรูปแบบสังคม 283 00:11:10,000 --> 00:11:12,000 บนวิสัยทัศน์ของสังคมนิยมสมบูรณ์แบบ(utopian) 284 00:11:12,000 --> 00:11:15,000 ดังนั้นลัทธิอิสลามจึงเป็นแนวคิดที่เป็นปัญหา 285 00:11:15,000 --> 00:11:17,000 จริงๆก็สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นมากมาย 286 00:11:17,000 --> 00:11:20,000 ในศตวรรษที่20ของโลกอิสลาม 287 00:11:20,000 --> 00:11:23,000 จนรูปแบบของลัทธิอิสลามแบบสุดกู่ 288 00:11:23,000 --> 00:11:26,000 ได้นำไปสู่ลัทธิก่อการร้ายในนามของอิสลาม-- 289 00:11:26,000 --> 00:11:29,000 ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการปฏิบัติที่ผมคิดว่าต่อต้านอิสลาม, 290 00:11:29,000 --> 00:11:32,000 แต่เห็นได้ชัดว่าพวกหัวรุนแรงบางคนไม่ได้คิดเช่นนั้น 291 00:11:32,000 --> 00:11:34,000 มีปัญหาหนึ่งที่น่าสนใจ 292 00:11:34,000 --> 00:11:37,000 ถ้าอิสลามสมัยใหม่เป็นที่นิยมมากมาก่อน 293 00:11:37,000 --> 00:11:39,000 ในศตวรรษที่19และต้นศตวรรษที่20แล้ว 294 00:11:39,000 --> 00:11:41,000 ทำไมลัทธิอิสลามจึงกลายเป็นที่นิยมมาก 295 00:11:41,000 --> 00:11:43,000 ในเวลาที่เหลือของศตวรรษที่ 20? 296 00:11:43,000 --> 00:11:45,000 และผมคิดว่านี่คือคำถาม, 297 00:11:45,000 --> 00:11:47,000 ที่ต้องนำมาอภิปรายกันอย่างรอบคอบ 298 00:11:47,000 --> 00:11:49,000 และในหนังสือของผม ผมได้พูดถึงปัญหานี้ด้วย 299 00:11:49,000 --> 00:11:53,000 จริงๆแล้วคุณไม่ต้องเป็นถึงนักวิทยาศาสตร์ด้านจรวจจึงจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ 300 00:11:53,000 --> 00:11:55,000 เพียงแค่คุณดูประวัติศาสตร์การเมืองในศตวรรษที่20, 301 00:11:55,000 --> 00:11:57,000 และเห็นสิ่งที่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก 302 00:11:57,000 --> 00:11:59,000 ปัจจัยแวดล้อมได้เปลี่ยนไป 303 00:11:59,000 --> 00:12:01,000 ในศตวรรษที่ 19 304 00:12:01,000 --> 00:12:03,000 เมื่อมุสลิมมองดูยุโรปเป็นตัวอย่างนั้น, 305 00:12:03,000 --> 00:12:06,000 เขาเป็นอิสระ เขามีความมั่นใจในตนเองมากกว่า 306 00:12:06,000 --> 00:12:09,000 ตอนต้นศตวรรษที่12 เมื่อจักรวรรดิออตโตมันล่มสลาย 307 00:12:09,000 --> 00:12:12,000 ตะวันออกกลางทั้งหมดตกเป็นอาณานิคม 308 00:12:12,000 --> 00:12:14,000 เมื่อคุณมีเรื่องอาณานิคมแล้ว คุณจะได้อะไร? 309 00:12:14,000 --> 00:12:16,000 คุณก็มีการต่อต้านอาณานิคม 310 00:12:16,000 --> 00:12:19,000 ยุโรปจึงไม่เป็นแค่เพียงตัวอย่างที่จะเลียนแบบ 311 00:12:19,000 --> 00:12:22,000 แต่เป็นศัตรูที่ต้องต่อสู้และต่อต้าน 312 00:12:22,000 --> 00:12:24,000 จึงเกิดการตกตํ่าอย่างรวดเร็ว 313 00:12:24,000 --> 00:12:26,000 เรื่องแนวคิดเสรีนิยมในโลกมุสลิม 314 00:12:26,000 --> 00:12:29,000 และที่คุณเห็นจึงเป็นการต่อต้านมากกว่า, 315 00:12:29,000 --> 00:12:32,000 ความตึงเครียดของการต่อต้าน, 316 00:12:32,000 --> 00:12:34,000 ซึ่งนำไปสู่สังคมนิยมและชาตินิยมอาหรับ 317 00:12:34,000 --> 00:12:37,000 และสุดท้ายสู่อุดมการณ์อิสลามมิสท์ (Islamist ideology) 318 00:12:37,000 --> 00:12:40,000 และเมื่อช่วงอาณานิคมสิ้นสุดลง, 319 00:12:40,000 --> 00:12:42,000 สิ่งที่คุณได้มาแทนที่ 320 00:12:42,000 --> 00:12:44,000 ก็คือจอมเผด็จการที่มุ่งทางโลก, 321 00:12:44,000 --> 00:12:46,000 ซึ่งประกาศว่าพวกเขาเป็นประเทศหนึ่ง, 322 00:12:46,000 --> 00:12:48,000 แต่ไม่ได้นำประชาธิปไตยมาสู่ประเทศนั้น 323 00:12:48,000 --> 00:12:50,000 และสถาปนาเผด็จการของเขาเองขึ้นมา 324 00:12:50,000 --> 00:12:53,000 ผมคิดว่าชาติตะวันตก อย่างน้อยที่สุดที่มีอำนาจในตะวันตก 325 00:12:53,000 --> 00:12:55,000 เฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ, 326 00:12:55,000 --> 00:12:58,000 ผิดพลาดที่ให้การสนับสนุนเผด็จการที่มุ่งทางโลกพวกนี้, 327 00:12:58,000 --> 00:13:01,000 โดยคิดว่าพวกนี้ช่วยเขาได้ดีเรี่องผลประโยชน์ 328 00:13:01,000 --> 00:13:03,000 แต่ความจริงที่ว่าเผด็จการพวกนี้ 329 00:13:03,000 --> 00:13:05,000 กดขี่ประชาธิปไตยในประเทศของเขา 330 00:13:05,000 --> 00:13:07,000 และกดขี่กลุ่มมุสลิมในประเทศของเขา 331 00:13:07,000 --> 00:13:09,000 ทำให้กลุ่มอิสลามมิสท์แข็งกร้าวขึ้นอย่างมาก 332 00:13:09,000 --> 00:13:11,000 ดังนั้นในศตวรรษที่ 20, 333 00:13:11,000 --> 00:13:13,000 เรามีวงจรอุบาทว์นี้ในโลกอาหรับ 334 00:13:13,000 --> 00:13:16,000 ที่เรามีจอมเผด็จการที่กดขี่ประชาชนของตนเอง 335 00:13:16,000 --> 00:13:18,000 รวมทั้งมุสลิมผู้เคร่งครัดในศาสนา, 336 00:13:18,000 --> 00:13:21,000 และพวกเขาก็ตอบโต้ด้วยการต่อต้าน 337 00:13:21,000 --> 00:13:23,000 แต่มีประเทศหนึ่ง 338 00:13:23,000 --> 00:13:26,000 ที่สามารถหลีกพ้นหรือออกห่าง 339 00:13:26,000 --> 00:13:28,000 จากวงจรอุบาทนี้ 340 00:13:28,000 --> 00:13:31,000 และนั่นคือประเทศที่ผมอยู่ คือตุรกี 341 00:13:31,000 --> 00:13:33,000 ตุรกีไม่เคยเป็นประเทศอาณานิคม, 342 00:13:33,000 --> 00:13:36,000 จึงยังดำรงความเป็นประเทศเอกราชหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมัน 343 00:13:36,000 --> 00:13:38,000 เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรจดจำ 344 00:13:38,000 --> 00:13:41,000 ตุรกีไม่ได้เข้าร่วมในการโฆษณาต่อต้านอาณานิคม 345 00:13:41,000 --> 00:13:44,000 ที่คุณพบเห็นได้ในประเทศอื่นในเขตนี้ 346 00:13:44,000 --> 00:13:46,000 อย่างที่สอง ซึ่งสำคัญที่สุด 347 00:13:46,000 --> 00:13:48,000 ตุรกีได้กลายเป็นประเทศประชาธิปไตย 348 00:13:48,000 --> 00:13:50,000 ก่อนประเทศอื่นที่เรากำลังกล่าวถึง 349 00:13:50,000 --> 00:13:52,000 ในปี1950 ตุรกีได้มีการเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม 350 00:13:52,000 --> 00:13:55,000 ซึ่งได้ยุติรัฐบาลเผด็จการที่มุ่งทางโลกค่อนข้างมาก, 351 00:13:55,000 --> 00:13:57,000 ซึ่งได้เป็นการเริ่มต้นของตุรกี 352 00:13:57,000 --> 00:13:59,000 และมุสลิมที่เคร่งครัดในศาสนาในตุรกี 353 00:13:59,000 --> 00:14:03,000 ก็เห็นว่าพวกเขาจะเปลี่ยนระบบการเมืองได้ด้วยการลงคะแนนเสียง 354 00:14:03,000 --> 00:14:06,000 และตระหนักว่าประชาธิปไตยคือสิ่งที่ไปกันได้กับอิสลาม, 355 00:14:06,000 --> 00:14:08,000 เข้ากันได้กับค่านิยมของพวกเขา, 356 00:14:08,000 --> 00:14:10,000 และเขาก็สนับสนุนประชาธิปไตย 357 00:14:10,000 --> 00:14:12,000 นี่คือประสบการณ์ 358 00:14:12,000 --> 00:14:14,000 ที่ไม่ใช่ทุกประเทศมุสลิมในตะวันออกกลางจะมี 359 00:14:14,000 --> 00:14:16,000 จนถึงเมื่อเร็วๆนี้ 360 00:14:16,000 --> 00:14:18,000 ประการที่สอง ในสองทศวรรษที่ผ่านมา, 361 00:14:18,000 --> 00:14:21,000 ต้องขอบคุณโลกาภิวัติ ขอบคุณเศรษฐกิจการตลาด, 362 00:14:21,000 --> 00:14:23,000 ขอบคุณชนชั้นกลางที่เพิ่มมากขึ้น, 363 00:14:23,000 --> 00:14:25,000 พวกเราในตุรกีเห็น 364 00:14:25,000 --> 00:14:29,000 สิ่งที่ผมอธิบายว่าเป็นการเกิดใหม่ของอิสลามสมัยใหม่ 365 00:14:29,000 --> 00:14:32,000 ปัจจุบันมีมุสลิมที่เคร่งครัดในศาสนาในเขตเมืองมากขึ้น 366 00:14:32,000 --> 00:14:34,000 ผู้ซึ่งมองประเพณีของเขา 367 00:14:34,000 --> 00:14:37,000 และเห็นว่ามันมีปัญหาบางอย่างเรื่องประเพณี 368 00:14:37,000 --> 00:14:40,000 และเขาเข้าใจว่าจำต้องถูกเปลี่ยนแปลง ตั้งคำถาม และปฏิรูป 369 00:14:40,000 --> 00:14:42,000 และเขามองยุโรป, 370 00:14:42,000 --> 00:14:45,000 และเขาเห็นตัวอย่าง และทำตาม 371 00:14:45,000 --> 00:14:47,000 เขาเห็นตัวอย่าง อย่างน้อยที่สุดก็ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ 372 00:14:47,000 --> 00:14:49,000 นั่นคือทำไมกระบวนการ E.U., 373 00:14:49,000 --> 00:14:51,000 ความพยายามของตุรกีที่จะเข้าร่วม E.U 374 00:14:51,000 --> 00:14:53,000 ได้รับการสนับสนุนจากภายในตุรกี 375 00:14:53,000 --> 00:14:55,000 จากผู้ที่เคร่งศาสนาอิสลาม, 376 00:14:55,000 --> 00:14:58,000 ในขณะที่บางชาติที่มุ่งทางโลกกลับต่อต้าน 377 00:14:58,000 --> 00:15:00,000 เอาละ กระบวนการที่ว่าไม่ค่อยแจ่มชัดนัก 378 00:15:00,000 --> 00:15:02,000 จากข้อเท็จจริงที่ว่ามิใช่ว่าคนยุโรปทุกคนจะได้รับการต้อนรับ-- 379 00:15:02,000 --> 00:15:05,000 แต่สิ่งนั้นต้องมาพูดคุยกัน 380 00:15:05,000 --> 00:15:08,000 แต่ความรู้สึกดีต่อ E.U.ในตุรกีในทศวรรษที่ผ่านมา 381 00:15:08,000 --> 00:15:10,000 ได้กลายเป็นเหตุผลของอิสลามเกือบทั้งหมด, 382 00:15:10,000 --> 00:15:12,000 และได้รับการสนับสนุนจากเสรีนิยมอิสลาม 383 00:15:12,000 --> 00:15:15,000 และเสรีนิยมที่มุ่งทางโลกด้วย 384 00:15:15,000 --> 00:15:17,000 และขอขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น, 385 00:15:17,000 --> 00:15:20,000 ตุรกีสามารถสร้างเหตุการณ์เป็นข่าวที่เป็นผลสำเร็จพอสมควร 386 00:15:20,000 --> 00:15:25,000 ซึ่งอิสลามและความเข้าใจในอิสลามที่เคร่งครัดมากที่สุด 387 00:15:25,000 --> 00:15:27,000 ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมประชาธิปไตย, 388 00:15:27,000 --> 00:15:29,000 และยังมีช่วยเสริมสร้างความก้าวหน้าของประชาธิปไตย 389 00:15:29,000 --> 00:15:31,000 และเศรษฐกิจของประเทศ 390 00:15:31,000 --> 00:15:34,000 และนี่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในขณะนี้ 391 00:15:34,000 --> 00:15:36,000 เพื่อการเคลื่อนไหวบางอย่างของอิสลาม 392 00:15:36,000 --> 00:15:39,000 หรือของบางประเทศในโลกอาหรับ 393 00:15:39,000 --> 00:15:41,000 คุณต้องได้เห็นการลุกขึ้นมาของอาหรับ, 394 00:15:41,000 --> 00:15:44,000 ซึ่งเริ่มขึ้นในตูนิสและในอียิปต์ 395 00:15:44,000 --> 00:15:46,000 และมวลชนอาหรับ 396 00:15:46,000 --> 00:15:48,000 เพียงแค่ต่อต้านเผด็จการของเขา 397 00:15:48,000 --> 00:15:51,000 เขาขอประชาธิปไตย พวกเขาขอเสรีภาพ 398 00:15:51,000 --> 00:15:54,000 และเขาไม่ได้กลายเป็นผีหลอกเด็ก 399 00:15:54,000 --> 00:15:56,000 ที่ทรราชใช้เสมอมา 400 00:15:56,000 --> 00:15:59,000 เพื่อพิสูจน์ให้เห็นความถูกต้องของรัฐบาล 401 00:15:59,000 --> 00:16:02,000 เขากล่าวว่า "เราต้องการอิสรภาพ เราต้องการประชาธิปไตย 402 00:16:02,000 --> 00:16:04,000 เราเป็นผู้ศรัทธาในอิสลาม, 403 00:16:04,000 --> 00:16:07,000 แต่เราต้องการอยู่อย่างคนที่มีอิสรภาพในสังคมที่เป็นอิสระ" 404 00:16:07,000 --> 00:16:09,000 แน่นอนว่า สิ่งนี้เป็นเส้นทางที่ยาวไกล 405 00:16:09,000 --> 00:16:11,000 ประชาธิปไตยไม่ใช่ความสำเร็จเพียงข้ามคืน; 406 00:16:11,000 --> 00:16:13,000 มันเป็นกระบวนการ 407 00:16:13,000 --> 00:16:15,000 แต่นี่เป็นยุคของความหวัง 408 00:16:15,000 --> 00:16:17,000 ในโลกมุสลิม 409 00:16:17,000 --> 00:16:19,000 และผมเชื่อว่าสมัยใหม่ของอิสลาม 410 00:16:19,000 --> 00:16:21,000 ซึ่งเริ่มขึ้นในศตวรรษที่19, 411 00:16:21,000 --> 00:16:23,000 แต่หดหายไปในศตวรรษที่20 412 00:16:23,000 --> 00:16:25,000 เพราะความยุ่งยากทางการเมืองในโลกมุสลิม 413 00:16:25,000 --> 00:16:27,000 กำลังเกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง 414 00:16:27,000 --> 00:16:30,000 และผมคิดว่าข่าวสารที่ออกไป 415 00:16:30,000 --> 00:16:32,000 ก็คืออิสลาม, 416 00:16:32,000 --> 00:16:35,000 แม้จะมีผู้เคลือบแคลงสงสัยอยู่ในโลกตะวันตก, 417 00:16:35,000 --> 00:16:37,000 ก็มีศักยภาพในตัวเอง 418 00:16:37,000 --> 00:16:40,000 ที่จะสร้างประชาธิปไตยและเสรีนิยมในแบบของตนเอง 419 00:16:40,000 --> 00:16:42,000 สร้างเสรีภาพในแบบของตนเอง 420 00:16:42,000 --> 00:16:44,000 แค่เพียงให้เขาได้พยายามทำจนสำเร็จ 421 00:16:44,000 --> 00:16:46,000 ขอบคุณมาก 422 00:16:46,000 --> 00:16:50,000 (เสียงปรบมือ)