นางกวักเป็นใคร?
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
เชื่อว่าพูดถึงสายมูทั้งหลาย
โดยเฉพาะเหล่าพ่อค้าแม่ค้าเนี่ยนะคะ
ไม่มีใครไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่านางกวักแน่นอนค่ะ
เพราะว่าเป็นเครื่องรางที่ใช้บูชาเพื่อให้
ค้าขายเจริญรุ่งเรืองอะไรต่างๆนะคะ
ว่าแต่เราได้ยินชื่อนางกวักกันมาตั้งนาน
รู้ว่านางเป็นผู้หญิง
รู้ว่านางชอบกินน้ำแดง
ทำไมต้องเอาน้ำแดงไปถวายก็ไม่รู้
แต่รู้กันไหมคะว่านางเป็นใครมาจากไหน
แล้วทำไมถึงสามารถมา
กวักเรียกทรัพย์เรียกลูกค้าให้เราได้
ก่อนที่เราจะไปใช้งานเค้า
เราก็ควรจะรู้ใช่ไหม
ว่าเค้าเป็นใครมาจากไหนอะไรยังไงค่ะ
วันนี้วิวไปรวบรวมข้อมูล
มาให้ทุกคนเรียบร้อยแล้วค่ะ
ดังนั้นนะคะ รอฟังกันได้เลย
แต่ก่อนอื่นเนี่ย อย่าลืมกดติดตามวิว
ให้ครบทุกช่องทางนะคะ
ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook, Youtube,
Twitter, Instagram นะคะ
แต่ละช่องทางนี่เนื้อหาไม่เหมือนกันเลยค่ะ
เอาล่ะ ตอนนี้กดติดตามครบแล้ว
พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง
สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
เอาจริงๆพูดถึงนางกวักเนี่ยนะคะ
แทบทุกคนน่าจะมีภาพเดียวกันอยู่ในหัวค่ะ
ก็คือเป็นหญิงสาวนุ่งชุดไทยใช่ไหม
ใส่เครื่องหัวลักษณะหน้าตาแบบนี้
แล้วก็ทำมือประมาณนี้
นั่งคุกเข่าอยู่ใช่ไหมคะ
ส่วนหน้าตาจะสวยหรือไม่สวยนี่ก็
ขึ้นอยู่กับฝีมือการปั้น ฝีมือการแกะสลัก
ฝีมือการลงสีของช่างแต่ละคนนะคะ
แต่แน่นอนค่ะ ภาพอีกภาพนึงที่จะมาคู่กันในหัวก็คือ
ภาพของเงินทองอะไรต่างๆนั่นเอง
เพราะว่าเราเชื่อกันว่านางกวักเนี่ย
ทำให้ค้าขายเจริญรุ่งเรืองใช่ไหมคะ
แต่เรารู้กันไหมคะว่านางกวักเป็นใครมาจากไหน
เรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ก่อนที่เขาจะมา
กวักทรัพย์ให้เราตามร้านค้าต่างๆเนี่ย
เค้ามีที่มาที่ไปยังไง
ทำไมเค้าถึงสามารถกวักทรัพย์ได้
วันนี้วิวไปรวบรวมมาให้แล้วนะคะ
อย่างไรก็ตามค่ะ
เรื่องราวที่วิวไปรวบรวมมาให้เนี่ย
มันคือคติความเชื่อของชาวบ้าน
ซึ่งถ้าใครเคยฟังวิวพูดเรื่องคติชนวิทยาก็คือ
วิชาที่ศึกษาว่าด้วยเรื่องคติความเชื่อ
ของกลุ่มคนหนึ่งๆเนี่ยนะคะ
ดังนั้นค่ะ เรื่องราวที่วิวเล่าต่อไปนี้
มันก็คือเรื่องราวที่วิวไปเก็บรวบรวมมาว่า
เออ คนกลุ่มนั้นเชื่อแบบนี้
คนกลุ่มนี้เชื่อแบบนั้น
แต่ละกลุ่มอาจจะเชื่อไม่เหมือนกัน
กลุ่มที่วิวไปเก็บมาเนี่ยอาจจะเชื่อ
เหมือนกับที่หลายๆคนเคยได้ยินได้ฟังมา
แต่บางกลุ่มเนี่ยอาจจะแบบ
เฮ้ย ชั้นไม่เคยได้ยินแบบนี้เลย
รวมไปถึงบางคนที่กำลังดูคลิปนี้อยู่อาจจะมี
ความเชื่อเรื่องนางกวักที่แตกต่างกันออกไปนะคะ
ถ้ารู้สึกว่าสนใจว่าวิวไปรวบรวมเวอร์ชันไหนมา
ก็อ้างอิงอยู่ด้านล่างนะคะ
สามารถไปตามอ่านเวอร์ชันเต็มๆกันได้
ส่วนใครที่แบบเฮ้ย ชั้นมีเวอร์ชันที่เด็ดกว่านี้จ้า
ก็พิมพ์มาคุยกันได้เลยค่ะ
ก็ถือว่าเป็นการแบ่งปันข้อมูลกันไปนะคะ
เพราะว่าหนังสือที่วิวไปเอาข้อมูลมาเนี่ย
เค้าก็ไปเก็บมาจากการสัมภาษณ์
กลุ่มคนต่างๆเหมือนกันค่ะว่า
คนกลุ่มนั้นเชื่อแบบนี้ คนกลุ่มนี้เชื่อแบบนั้นนะคะ
และขอออกตัวอีกอย่างนึงว่า
คลิปวันนี้วิวไม่ได้จะมาพูดถึง
อิทธิฤทธิ์อะไรของนางกวักอะไรต่างๆ
วิวแค่ต้องการจะมารวบรวมนิทานให้ทุกคนฟังค่ะว่า
เออ คนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้เชื่อแบบนี้
ดังนั้นฟังเพลินๆกันนะคะทุกคน
ใครเชื่อใครไม่เชื่อ ไม่ต้องตีกันค่ะ
เพราะว่าตรงนี้เราแค่รวบรวมเรื่องราวมาคุยกันนะ
เอาล่ะ เกริ่นยาวพอแล้วนะคะ
เราไปเข้าที่เรื่องของนางกวักกันดีกว่า
อย่างที่วิวบอกเมื่อกี้ค่ะว่าเรื่องราวของนางกวักเนี่ย
มีความเชื่อที่หลากหลายกันออกไป
แต่ละที่ไม่เหมือนกัน
แต่ภาพลักษณ์ของนางกวักเนี่ย
หน้าตาจะคล้ายๆกันไปหมดค่ะ
ก็คือเป็นหญิงสาวนะคะ
ใส่ชุดแบบไทยๆ แต่งตัวสวยงาม
แล้วก็ที่สำคัญมักจะนั่งคุกเข่าอยู่ค่ะ
และมือข้างซ้ายของนางเนี่ยนะคะก็จะอยู่ด้านล่างค่ะ
ซึ่งมือด้านซ้ายนี่ก็ทำท่าทางแตกต่างกันไปนะคะ
เวอร์ชันปกติก็อาจจะวางอยู่ข้างตัว
เวอร์ชันแอดวานซ์ขึ้นมาหน่อยก็อาจจะวางอยู่บนตัก
เวอร์ชันแอดวานซ์ไปมากกว่านั้น
อาจจะถือถุงเงินถุงทองวางอยู่บนตักก็ได้ค่ะ
แต่ที่เหมือนกันไปหมดเลยเนี่ยก็คือมือขวานั่นเอง
มือขวาของนางนะคะจะทำท่าเหมือนกำลัง
กวักเรียกคนค่ะ ด้วยท่าแบบนี้
ซึ่งจริงๆก็คงเป็นท่าฟรีซแข็ง
มาจากท่าประมาณว่าแบบ
เฮ้ยๆ มานี่ ประมาณนั้นค่ะ
ประมาณว่านางกำลังกวักเรียกเงินเรียกทองอยู่นะคะ
ทีนี้ในยุคสมัยหลังๆค่ะก็มี
การปรับนางกวักให้แอดวานซ์ขึ้น
เช่น บางที่ก็จะทำรูปนางกวักให้
อ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นนะคะ ประมาณว่า
ความอ้วนก็เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งมีในสมัยก่อน นึกออกปะ
ประมาณว่าเงินทองอะไรมันไม่ค่อยมี
มันไม่ได้เหมือนสมัยนี้ที่คนเรามีเงินเยอะๆ
แล้วเอาไปเข้าฟิตเนสเพื่อที่จะได้ผอม เก็ตปะ
สมัยก่อนคือคนไม่ค่อยมีข้าวกิน
ดังนั้นใครที่มีเงินกินข้าวจนอ้วนเนี่ย
แปลว่ารวยนะคะสมัยก่อน
คนอ้วนไม่ต้องเสียใจไปนะคะ
อ้วนแปลว่ารวย ท่องไว้ ท่องไว้
อ้วนแปลว่ารวย
อ้วนแปลว่าอุดมสมบูรณ์
นะจ๊ะทุกคน
เอาล่ะ กลับมาที่เรื่องของนางกวักต่อค่ะ
ดังนั้นมันก็เลยมีคนบางคนนะคะ
ที่ทำรูปร่างของนางกวักให้เป็นผู้หญิงอ้วนค่ะ
เพื่อที่จะเสริมไปอีกขั้นนึงประมาณว่า
เฮ้ย อุดมสมบูรณ์นะเธอ
นอกจากจะรวยแล้วยังอุดมสมบูรณ์อีกจ้า
ประมาณนั้นเลยนะคะ
ซึ่งเอาจริงๆเราพูดถึงภาพลักษณ์นางกวักแบบนี้
แต่รู้กันไหมว่าเราเชื่อเรื่องนางกวักกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่
เฮ้ย เชื่อมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
เฮ้ย เชื่อมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา
กรุงธนบุรี หรือว่ารัตนโกสินทร์
ก็ต้องบอกว่าในทางโบราณคดีเนี่ยนะคะ
เราไม่พบหลักฐานเลยว่า
เราเชื่อเรื่องนางกวักในสมัยโบราณนะ
คือไม่ได้บอกว่าไม่มีนะ
แต่ว่ามันยังไม่มีหลักฐานค่ะทุกคน
หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่เค้าเจอนะคะก็คือ
อยู่ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์นี่เองค่ะ
ซึ่งเค้าก็สันนิษฐานกันว่าเฮ้ย มันก็สอดคล้องนะ
เพราะว่าในช่วงต้นรัตนโกสินทร์เนี่ย
สังคมไทยก็เปลี่ยนแปลงไป
ในสมัยก่อน เราอาจจะเน้นเรื่องการทำไร่ไถนา
เราอาจจะเน้นเรื่องการรับราชการ
เราอาจจะเน้นเรื่องการเป็นไพร่ อะไรอย่างนี้ใช่ไหม
แต่ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์เนี่ย
สังคมของเราขยายใหญ่ขึ้นค่ะ
แล้วก็ระบบเศรษฐกิจของเราเน้นค้าขายมากขึ้น
ดังนั้นก็ไม่แปลกเลยที่เรื่องราวของนางกวักจะมา
เริ่มฮิตกันในช่วงนั้น เริ่มเชื่อกันในช่วงนั้น
คือคนก็ต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
เพื่อการค้าขายที่ดี นึกออกปะ
มันก็เหมือนในสมัยนี้นะคะที่หลายๆคน
หันมามีความเชื่อแปลกๆมากขึ้น
เช่น เชื่อเรื่องสีเสื้อมงคลตามตารางของหมอดู
หรือเชื่อเครื่องรางเครื่องมูอะไรต่างๆมากมายนะคะ
มันก็ตามสภาวะสังคม ประมาณนั้นค่ะ
แต่ถ้าพูดถึงความเชื่อของนางกวักที่เก่าแก่ที่สุดเนี่ย
ก็เจอในสมุดไทยดำเมื่อประมาณรัชกาลที่ 4
รัชกาลที่ 5 ประมาณนั้นนี่แหละค่ะ
เค้าก็สันนิษฐานกันว่าเรื่องนี้มันก็
เกี่ยวข้องกับสภาพสังคมนี่แหละ
ทีนี้ฟังมาขนาดนี้แล้ว อยากรู้เรื่องราว
ตำนานของนางกวักไหมคะว่า
นางเป็นใครมาจากไหน
เราเชื่อกันว่านางเป็นใคร
เพราะว่าเทพแต่ละองค์ก็ต้องมีที่มาที่ไป นึกออกปะ
เฮ้ย ทำไมเค้าถึงเป็นคนที่ให้คุณด้านการค้าขาย
ทำไมเค้าถึงเป็นคนที่ให้เงินเราได้ ประมาณนั้นนะคะ
เราเข้าไปที่เรื่องตำนานนางกวักกันดีกว่าว่า
แล้วนางเป็นใครมาจากไหน
ทำไมถึงต้องมานั่งทำท่ากวักอยู่นะคะ
ก็ต้องบอกว่าตำนานนี่มีหลายตำนานมากเลยค่ะ
ในเวอร์ชันแรกเนี่ยนะคะเค้าพูดถึง
นางกวักในฐานะผีที่คนไทยนับถือค่ะ
คือเรารู้กันดีใช่ไหมว่าประเทศไทยเป็น
ประเทศที่ศาสนาค่อนข้างจะมิกซ์กัน
คือต่อให้เราพูดว่าเราเป็นพุทธ แต่จริงๆแล้ว
ความเชื่อของเรามันมิกซ์กันระหว่าง
พุทธ พราหมณ์ แล้วก็ผีใช่ไหมคะ
คือในสมัยก่อนที่อิทธิพลศาสนาพุทธเข้ามาเนี่ย
เราก็มีอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์
และนอกจากอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์
ศาสนาดั้งเดิมสุดๆของเราเนี่ย
เราก็นับถือผีกันค่ะ
ดังนั้นนะคะ ในเวอร์ชันแรกที่วิวจะนำมาเล่าให้ฟังเนี่ย
เค้าบอกว่านางกวักเนี่ยเป็นหนึ่งใน
อิทธิพลของศาสนานับถือผีในสมัยโบราณค่ะ
ก็อารมณ์เหมือนเวลาเรานับถือ
พระแม่โพสพ หรือว่าอะไรประมาณนี้
ก็เป็นผีท้องถิ่น ว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ
ซึ่งในเวอร์ชันนี้ ที่มาที่ไปของนางกวัก
ปรากฏอยู่ในคาถาที่ไว้บูชานางกวักค่ะ
คือในคาถาเนี่ยได้มีการกล่าวถึงที่มาที่ไป
ของนางกวักว่านางเป็นใครมาจากไหนนะคะ
ตัวคาถาเนี่ย เนื้อหาเป็นแบบนี้ค่ะ
ขออนุญาตอ่านนะทุกคน
โอม มหาสิทธิโชคอุดม
โอมปู่เจ้าเขาเขียว
มีลูกสาวคนเดียว ชื่อแม่นางกวัก
ชายเห็นชายรัก หญิงเห็นหญิงรัก
รู้จักทุกตำบล
คนรักถ้วนหน้า
โอมพวกพานิชชา
พากูไปค้าถึงเมืองแมน
ค้าหัวแหวนก็ได้แสนทะนาน
กูค้าสารพัดการ
ก็ได้กำไรคล่องๆ
กูจะค้าเงินก็เต็มกอง
จะค้าทองก็เต็มหาบ
กลับมาเรือนสามเดือนเลื่อนเป็นเศรษฐี
สามปีเป็นพ่อค้าสำเภา
โอมปู่เจ้าเขาเขียว
ประสิทธิแก่กูคนเดียว สวาหะ
อะ ฟังดูแล้วเนื้อหาก็
เห็นได้ชัดมากว่าเป็นการ
เรียกเงินเรียกทองนะคะประมาณว่า
เฮ้ย ปู่เจ้าเขาเขียว
ขออำนาจของปู่เจ้าเขาเขียวทำให้ชั้น
ค้าขายร่ำรวยอะไรต่างๆ
ซึ่งปู่เจ้าเขาเขียวเนี่ย เอาจริงๆก็เป็น
ผีที่คนไทยนับถือกันนะว่าเป็น
ผีผู้ยิ่งใหญ่อะไรประมาณนี้
เพราะว่าเราก็นับถือกันอยู่แล้วแหละ
ว่าเวลาเข้าไปในป่าเนี่ย
แต่ละป่าก็จะมีผีของตัวเอง
มีผีแห่งป่าใหญ่ ผีแห่งภูเขาอะไรต่างๆนะคะ
ดังนั้นปู่เจ้าเขาเขียวก็เป็นหนึ่งใน
ผีของ category นั้นเนอะทุกคน
แต่อย่างไรก็ดี ได้ยินบรรทัดเมื่อกี้ไหมคะที่บอกว่า
โอมปู่เจ้าเขาเขียว มีลูกสาวคนเดียวชื่อนางกวัก
เอ้า
นางกวักเป็นลูกสาวของ
ปู่เจ้าเขาเขียวค่ะ จากเวอร์ชันนี้
ก็คือเป็นลูกสาวของผีผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง
ซึ่งแม้ว่าเราจะรู้เรื่องราวของนางกวัก
จากเวอร์ชันนี้แค่นี้นะคะ
แต่เอาจริงๆเวอร์ชันของนางกวักเนี่ย
ในฐานะลูกของปู่เจ้าเขาเขียวนะคะ
ในหนังสือที่วิวไปอ่านมาเนี่ย
เค้าก็สันนิษฐานไว้อีกแบบนึง
ที่น่าสนใจเหมือนกันค่ะ
คือเค้าสันนิษฐานว่านางคนนี้
ที่เป็นลูกของปู่เจ้าเขาเขียวเนี่ยนะคะ
เฮ้ย มันไม่ได้มีอยู่ในตำนานตำนานเดียวนี่หน่า
มันมีอยู่ในอีกตำนานนึงที่คล้ายกันเลย
นั่นก็คือไปอยู่ในโองการไหว้ครูช่างนั่นเองนะคะ
ซึ่งในโองการไหว้ครูช่างเนี่ยนะคะ
มันก็ปรากฏชื่อของลูกสาวปู่เจ้าเขาเขียวเนี่ยชื่อว่า
นางนิลบรรพตเทพสุดา
แปลตรงตัวเลยนะคะทีนี้
ภาษาบาลีสันสกฤต
เค้าต้องแปลจากหลังมาหน้าใช่ไหม
สุดาแปลว่าอะไร
สุดา แปลว่า ลูกสาว ค่ะ
เทพคืออะไร เทพก็คือเทพอะนะ
นิลบรรพต
บรรพต แปลว่า ภูเขา
ส่วน นิล อ้าว แปลว่าสีดำ สีนิล ไม่ใช่เหรอ
เกี่ยวอะไรกับสีเขียวก็
เคยได้ยินคำพูดที่ว่า
"ดำจนเขียว" ไหมทุกคน
นั่นแหละค่ะ ก็คือสมัยก่อนเนี่ย
สีดำกับสีเขียวมันปะปนกันว่าอย่างนั้นเถอะ
ดังนั้น นิลบรรพตเทพสุดาก็คือ
ลูกสาวของเทพที่เป็นใหญ่แห่งภูเขาเขียว
ก็ลูกสาวปู่เจ้าเขาเขียวว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ
ทีนี้ในโองการไหว้ครูช่างเนี่ย
เค้าพูดไว้ว่าอะไร มาฟังกันดีกว่าค่ะ
อนึ่งไซร้ข้าขอเคารพนบนาง
นามปรากฏนิลบรรพตเทพสุดา
กวักมาซึ่งสุวรรณรัตน์ สรรพสมบัติโอฬาร
อ้าว ก็พูดถึงคล้ายๆกันเลยนี่หน่าว่า
นางนิลบรรพตเทพสุดาเนี่ย
มีหน้าที่กวักทรัพย์สินอะไรต่างๆ
อุ่ย ดูเหมือนจะคล้ายๆกันนะคะ
ซึ่งในโองการไหว้ครูช่างเนี่ยเค้าก็เชื่อกันว่า
นางนิลบรรพตเทพสุดานี่เป็น
ภาคหญิงของพระวิศวกรรมนะคะ
ก็คือเทพแห่งครูช่างต่างๆนั่นแหละ
แต่ว่านางจะดูแลด้าน
การเย็บปักถักร้อยอะไรต่างๆค่ะ
และที่สำคัญนะคะ นางมีหน้าที่ในการ
กวักทรัพย์สินทรัพย์สมบัติอะไรต่างๆค่ะ
ดังนั้นก็ไม่แปลกเลยนะที่เค้าจะสันนิษฐานว่า
เฮ้ย มันเป็นเทพองค์เดียวกันรึเปล่า ประมาณนี้นะคะ
อย่างไรก็ตามค่ะ นี่คือเวอร์ชันแรกนะคะ
ก็คือเล่าว่านางเป็นลูกสาวของปู่เจ้าเขาเขียว
เราไปดูที่เวอร์ชันถัดไปดีกว่าค่ะ
เวอร์ชันนี้ออกจะดราม่ากว่านิดนึงนะ
เวอร์ชันแรกบอกแค่ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
เวอร์ชันที่สองนี่เล่าไปอีกแบบนึงเลยค่ะ
คือเวอร์ชันที่แล้วเนี่ย
เน้นว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครนะคะ
แต่ในเวอร์ชันนี้เล่าถึงเหตุการณ์ของนางค่ะ
ก็คือเล่าว่านางเนี่ยนะคะเป็นลูกสาวของ
ขุนนางคนนึงในสมัยอยุธยาค่ะ
ทีนี้นางกวักมีความสามารถพิเศษก็คือ
ทำอาหารอร่อยมากทุกคน
เรียกได้ว่าทำไปเลี้ยงใครอะไรที่ไหน
จัดงานเลี้ยงเมื่อไหร่ กินกันเรียบค่ะ
คือทุกคนเนี่ยอยากมากินฝีมือของนางกวักหมดเลย
ทีนี้แน่นอนนะคะว่าสาวงามทำกับข้าวอร่อย
ใครก็อยากได้เป็นเมียค่ะ
ก็มีคนมาสู่ขอนางมากมาย
แต่ว่านางปฏิเสธ นางประมาณว่าแบบ
ไม่เอา ชั้นอยากอยู่เป็นโสดแบบนี้ไปจนตายนะคะ
อย่างไรก็ตามค่ะ
ปรากฏว่ามีผู้มีอิทธิพลคนนึงนะคะ
เกิดชอบนางกวักขึ้นมาแล้วก็ชอบมากค่ะ
ชอบถึงขนาดที่ว่า ไม่ได้
ต่อให้นางปฏิเสธ ชั้นก็จะเอานางเป็นเมีย
ดังนั้นนะคะ ด้วยความที่เป็นผู้มีอิทธิพลเนี่ย
เค้าก็เลยจัดการฉุดนางไปเลยซะอย่างนั้นนะคะ
ฉุดไปนี่ก็บังคับใช้กำลัง
อะไรต่างๆให้นางเป็นเมียนะ
ทีนี้แน่นอนว่าด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงอะ
โดนบังคับขู่เข็ญก็รู้สึกว่าแบบไม่โอเค
ชีวิตชั้นไม่อยากอยู่แบบนี้นะคะ
ดังนั้นนะคะ จากเหตุการณ์นี้ค่ะ
นางกวักก็เลยรู้สึกเสียใจแล้วก็อับอายมากนะคะ
นางก็เลยจัดการผูกคอตายค่ะ
ซึ่งชาวบ้านนี่ก็รู้สึกสงสารนางมากๆ
พร้อมกับรู้สึกว่าเฮ้ย นางนี่เป็น
คนจิตใจเด็ดเดี่ยวมาก
ก็เลยเชิดชูนางตั้งแต่นั้นมาค่ะ
ซึ่งอันนี้แอบบอกนิดนึงว่า
นี่มันเป็นเรื่องสมัยก่อนนะคะ
สมัยนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองนี่
แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์
หรือว่าปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะคะ
อย่าเพิ่งคิดสั้นแบบนางกวัก
มันไม่ใช่เรื่องน่ายกย่อง
น่าเชิดชูอะไรขนาดนั้นนะทุกคน
อย่างไรก็ตาม วิวอาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญ
เรื่องจิตวิทยาอะไรขนาดนั้น
ดังนั้นขออนุญาตข้ามไปแล้วกันค่ะ
ไปที่เวอร์ชันที่สามดีกว่าว่า
ในเวอร์ชันนี้เค้าพูดว่า
นางกวักเป็นใครมาจากไหนนะคะ
ในเวอร์ชันนี้อาจจะไปเกี่ยวข้อง
กับเรื่องราวที่เราคุ้นเคยกันดีค่ะ
เพราะเวอร์ชันนี้เค้าบอกว่าเรื่องราวของนางกวัก
ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องรามเกียรติ์ด้วย
อันนี้เป็นนิทานพื้นบ้านจังหวัดลพบุรีนะคะ
หลายคนน่าจะรู้ว่าจังหวัดลพบุรีเนี่ย
ค่อนข้างเกี่ยวข้องกับรามเกียรติ์
คือมียักษ์ตนนึงนะคะชื่อว่า ท้าวกกขนาก
หรือว่าที่รู้จักกันในเวอร์ชันรัชกาลที่ 1 ว่า ท้าวอุณาราช
เป็นยักษ์ที่ต่อสู้กับพระรามค่ะ
ซึ่งเดี๋ยวจะไปอยู่ตอนไหนในรามเกียรติ์
เดี๋ยวเรารอฟังจากซีรีส์รามเกียรติ์
ตั้งแต่ต้นจนจบของวิวแล้วกัน
ใกล้เล่าถึงแล้วนะคะทุกคน
อย่างไรก็ตาม กลับมาที่ท้าวกกขนากของเราต่อดีกว่าค่ะ
ท้าวกกขนากนี่ก็ต่อสู้กับพระรามเนอะ
แล้วแน่นอนว่าก็ต้องแพ้พระรามนะคะ
แต่ความพิเศษของท้าวกกขนาก
ก็คือ ไม่โดนพระรามฆ่าค่ะ
คือพระรามเนี่ยยิงลูกศรออกไปนะคะ
ปักอกท้าวกกขนากค่ะ
แล้วก็ตรึงท้าวกกขนากเอาไว้กับภูเขาค่ะ
ซึ่งในรามเกียรติ์อาจจะเป็นภูเขาลูกอื่นค่ะ
แต่ในความเชื่อของชาวลพบุรีเนี่ย เค้าเชื่อกันว่า
เขาลูกนี้ก็คือเขาวงพระจันทร์นั่นเองค่ะ
ซึ่งพอปักตรึงไว้แล้วเนี่ย
ก็สาปเอาไว้นะคะประมาณว่า
ขอให้ตรึงอยู่ตรงนี้ไปจนกว่าจะถึง
ยุคของพระศรีอาริย์ถึงจะหลุดออกมาได้
ทีนี้ท้าวอุณาราชหรือว่าท้าวกกขนาก
ก็มีลูกสาวอยู่คนนึงค่ะ
เป็นคนที่รักพ่อมากๆนะคะ
ดังนั้น ลูกสาวของท้าวกกขนากก็เลยมาเฝ้าพ่อ
แล้วก็ไม่ได้เฝ้าเปล่าค่ะ
ก็ไปเอาใยบัวเอาอะไรต่างๆเนี่ยนะคะมาทอผ้าค่ะ
เพื่อที่จะทอผ้าจีวรนะคะ
รอเวลาที่พระศรีอาริย์จะลงมาตรัสรู้ค่ะ
เมื่อถึงเวลานั้นนะคะ
นางก็กะว่าจะเอาจีวรชั้นเลิศที่ตัวเองทอเนี่ย
ถวายให้กับพระศรีอาริย์เพื่อ
เป็นบุญกุศลให้กับพ่อนั่นเองค่ะ
ทีนี้ถามว่าปัญหาอยู่ที่ไหน
แล้วเกี่ยวอะไรกับนางกวักนะคะ
ปัญหาก็คือลูกสาวของท้าวกกขนากคนนี้
โดนชาวบ้านในเมืองลพบุรีรังเกียจค่ะ
ประมาณว่าแบบ
อี๋ ลูกสาวของท้าวกกขนากเนี่ย
วันนึงมันจะต้องฟื้นขึ้นมา
มันจะออกมาอาละวาดอีกไหม
อะไรประมาณนั้นนะคะ
ดังนั้นค่ะ พอชาวบ้านรังเกียจมากๆเนี่ย
นางก็แบบเหมือนเศร้าขึ้นทุกวันๆนะคะ
อย่างไรก็ตาม ท้าวกกขนากนี่มีเพื่อนรักอยู่คนนึงค่ะ
คนนั้นก็คือ ปู่เจ้าเขาเขียว นั่นเอง
ทีนี้ปู่เจ้าเขาเขียวสงสารเพื่อน
สงสารลูกสาวเพื่อน
ก็เลยส่งลูกสาวของตัวเองนะคะ ชื่อว่านางกวัก
มาอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวของท้าวกกขนากค่ะ
ซึ่งพอมาถึงแล้วเนี่ย
เรื่องราวก็พลิกกลับเป็นอีกแบบนึงเลยนะคะ
คือแทนที่ชาวบ้านจะรังเกียจ
อยู่ดีๆชาวบ้านก็รักซะอย่างนั้น
แล้วที่สำคัญนะ
ชาวบ้านนี่เอาแก้วแหวนเงินทองอะไรต่างๆ
มากองให้เต็มไปหมดเลยค่ะ
ดังนั้นชาวบ้านก็เลยเชื่อว่า
การบูชานางกวักเนี่ยทำให้
ได้มาซึ่งแก้วแหวนเงินทอง
แล้วก็ทำให้คนรักนั่นเองค่ะ
อันนี้ก็เป็นนิทานในเวอร์ชันที่สามนะคะ
ส่วนเวอร์ชันสุดท้าย เวอร์ชันที่สี่ค่ะ
เป็นเวอร์ชันที่แอดวานซ์ไปอีกเพราะว่า
เค้าเชื่อกันว่าเรื่องราวของนางกวักเนี่ย
เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลนะคะ
คือที่ประเทศอินเดีย ในสมัยพุทธกาลก็
มีพระสาวกต่างๆมากมายใช่ไหม
เรื่องนี้พูดถึงพระสาวกองค์สำคัญสององค์ด้วยกันค่ะ
องค์แรกก็คือพระมหากัสสปะ
ส่วนองค์ที่สองเนี่ยนะคะก็คือพระสีวลีนั่นเอง
ซึ่งเค้าบอกว่านางกวักเนี่ยก็เป็น
ผู้หญิงคนนึงในสมัยพุทธกาลค่ะ
บังเอิญว่านางเนี่ยได้มีโอกาสมาเจอกับ
พระมหากัสสปะแล้วก็พระสีวลีนะคะ
แล้วก็ได้ทำบุญอะไรต่างๆ
ทำให้พระมหากัสสปะกับ
พระสีวลีเนี่ยให้พรนางค่ะว่า
เออ ขอให้เป็นคนที่เจริญรุ่งเรืองด้านการค้าขายนะ
หลังจากนั้นนะคะ นางกวักก็เลยเป็น
คนที่เจริญรุ่งเรืองด้านการค้าขายค่ะ
ดังนั้นเราในสมัยปัจจุบันก็เลยบูชานางกวักนะคะ
แต่อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่วิวไปหามาเนี่ย
เค้ายังไม่ได้ค้นพบเลยนะว่า
เรื่องราวในประเทศอินเดียมีการเล่าถึงเรื่องนางกวัก
เพราะว่าเรื่องพุทธประวัติอะไรต่างๆ
มันก็เล่าในอินเดียเหมือนกัน นึกออกปะ
แต่ว่าเรื่องนางกวักนี่มันยังไม่มีเลย
ดังนั้นนี่อาจจะเป็นไปได้ว่าเรื่องราวของนางกวัก
ที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลเนี่ยนะคะ
เป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นในสมัยหลัง
เพื่อทำให้เรื่องราวของนางกวักศักดิ์สิทธิ์ขึ้นนั่นเองค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะเรื่องราวเกี่ยวกับนางกวัก
ที่วิวเล่าให้ฟังไปทั้งหมดสี่เวอร์ชัน
ใครเคยได้ยินได้ฟังเวอร์ชันไหนมา
เหมือนหรือต่างยังไงกับที่วิวเล่า
ก็คอมเมนต์มาคุยกันด้านล่างนะคะ
สำหรับวันนี้ ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืม
กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็
กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ
บ๊ายบาย
สวัสดีค่ะ
เป็นไงบ้างคะ ฟังเรื่องราวของนางกวักไป
เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเก็ตกันมากขึ้นนะว่า
เฮ้ย ตำนานเนี่ยมันก็มีที่มาที่ไปอะไรแบบนี้
ซึ่งจริงๆแล้วมันยังมีเรื่องราวของที่มาที่ไป
ของสิ่งที่เราเชื่อนี่อีกมากมายเลยนะคะ
อย่างที่วิวเคยทำเรื่องกุมารไปแล้ว
ทำเรื่องผีไทยไปแล้ว อะไรต่างๆ
แต่ถ้าสมมติว่าใครอยากให้
วิวทำเรื่องไหนเป็นพิเศษ
ก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้เลยนะคะ
เดี๋ยวจะพยายามรวบรวมข้อมูลมาให้ฟังกันค่ะ
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน
บ๊ายบาย
สวัสดีค่ะ