อยากรู้กันไหมคะว่าโลกในสายตาชาวอียิปต์เนี่ย เกิดขึ้นมาได้ยังไง สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ กลับมาอีกครั้งนะคะกับซีรีส์ ที่มีคนเรียกร้องมาเยอะมากจริงๆค่ะ นั่นก็คือซีรีส์ ดราม่าระดับเทพนั่นเอง หลังจากที่คราวแล้วๆนะคะ เราเคยคุยกันมาว่าด้วยเรื่อง กำเนิดโลกตามตำนานเทพเจ้าของประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของชาวญี่ปุ่นหรือว่าชาวกรีกโรมันนะคะ วันนี้นะคะวิวก็กลับมาอีกหนึ่งกลุ่มเทพค่ะ ซึ่งมีคนเรียกร้องมาเยอะมาก ว่าช่วยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเทพกลุ่มนี้หน่อยนะคะ นั่นก็คือเทพอียิปต์นั่นเองค่ะ ดังนั้นพร้อมจะไปฟังเรื่องราวเกี่ยวกับกำเนิดเทพ กำเนิดโลกตามความเชื่อของชาวอียิปต์ที่ทั้ง สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ ต้องบอกก่อนนะคะว่า กำเนิดเทพกำเนิดโลกของชาวอียิปต์เนี่ย ค่อนข้างจะมีหลากหลายเลยทีเดียวค่ะ คล้ายๆกับของชาวอินเดียหรือว่าชาวกรีกโรมันนี่แหละ ว่าเขาจะมีความเชื่อแบบนั้นแบบนี้ เวลาผ่านไป คนอีกกลุ่มนึงซึ่งก็เป็นชาวอียิปต์เหมือนกันเนี่ย ก็อาจจะเชื่อแตกต่างกันได้นะคะ เพราะว่าช่วงระยะเวลาของอารยธรรมอียิปต์ นี่ก็ค่อนข้างนานเนาะ แต่วันนี้ค่ะ เรื่องราวที่วิวหยิบมาเล่าให้ทุกคนฟังเนี่ย จะเป็นเรื่องราวที่มีชื่อเสียงที่สุดนะคะ แล้วก็เป็นความเชื่อของชาวอียิปต์ใต้ค่ะ ซึ่ง ก็จะเป็นค่อนข้างจะยุคเก่านิดนึงของอียิปต์นะ เป็นความเชื่อดั้งเดิมก่อนที่ ความเชื่อใหม่ๆเนี่ยจะทับถมกันขึ้นมาเรื่อยๆค่ะ ตามตำนานของเฮลิโอโพลิสเนี่ยนะคะ เขากล่าวว่า ตอนที่ทุกอย่างกำลังจะถือกำเนิดขึ้นมาเนี่ย แต่เดิมค่ะ โลกของเรา เป็นผืนน้ำเวิ้งว้างว่างเปล่านะคะแล้วก็ เป็นความสับสนวุ่นวาย คล้ายๆ Chaos ของกรีกโรมันเลยเนาะ ซึ่งผืนน้ำเนี่ยเขาจะเรียกว่า นุน ค่ะ ในขณะที่นุนเนี่ยกำลัง เวิ้งว้างวุ่นวายของตัวเองไปเรื่อยๆนะคะ อยู่ดีๆนะคะก็มีไข่ห่านฟองใหญ่มากค่ะ เกิดขึ้นกลางนุนขึ้นมา ซึ่งไข่ห่านฟองนี้อยู่ดีๆก็แตกออกค่ะ แล้วก็กลายเป็น ผืนดินผืนแรกนะคะ เป็นเกาะเล็กๆเกาะนึง เอาจริงๆตรงนี้หลายคนฟังแล้วอาจจะรู้สึกว่า เฮ้ย มันคล้ายๆกับอินเดียเลยรึเปล่าอะไรอย่างนี้นะ ซึ่งเอาเป็นว่าก็น่าแปลกใจมากๆนะคะ ที่ตำนานการกำเนิดโลกของหลายๆภูมิภาคเนี่ย คล้ายกันไปหมด อาจจะเพราะว่าเรามีบรรพบุรุษร่วมกันหรือว่า มันอาจจะมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วเราไม่รู้แล้วมันก็ โดนเก็บมาในรูปแบบของตำนานก็เป็นได้นะคะ อย่างไรก็ตามนะคะ นี่เป็นการนอกเรื่องค่ะ ดังนั้นเรากลับมาที่เรื่องของเรากันต่อดีกว่า หลังจากที่ไข่ห่านฟองนั้นนะคะแตกออกค่ะ แล้วกลายเป็นแผ่นดินขึ้นมาเนี่ย ก็มีเทพองค์นึงนะคะเริ่มจากสร้างตัวเองขึ้นมาก่อนเลย ขึ้นมาจากอะไรก็ไม่รู้นะ ขึ้นมาอยู่บริเวณแผ่นดินนั้นค่ะ เทพองค์นี้นะคะทุกคนชื่อว่า อตุม ค่ะ อตุมเนี่ยสร้างตัวเองขึ้นมาจาก ความเวิ้งว้างว่างเปล่าอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็ถือว่าเป็นเทพผู้สร้างนะคะ ซึ่งในยุคแรกๆเนี่ย เขาจะถือว่าเทพอตุมเนี่ย เป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ค่ะ อย่างไรก็ตาม ถ้าใครรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ อียิปต์ซักเล็กน้อยก็จะพอรู้ว่า เออ จริงๆมันมีเทพอีกองค์นึงซึ่งเป็นสุริยเทพที่โด่งดังกว่า นั่นก็คือสุริยเทพรานั่นเอง แต่ว่าสุริยเทพราเนี่ยจะมาในสมัยหลังนะคะแล้วก็ ราเนี่ยจะถือว่าเป็นเทพของดวงอาทิตย์ในเวลากลางวัน ในขณะที่อตุมเนี่ย จะเป็นดวงอาทิตย์ในเวลากลางคืนค่ะ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้รายังไม่เกิดนะคะ เราข้ามไปก่อนค่ะ หลังจากที่อตุมเกิดขึ้นมาแล้วเนี่ยนะคะ อตุมก็นั่งอยู่บนพื้นที่เวิ้งว้างว่างเปล่า ล้อมรอบด้วยนุนไปเรื่อยๆค่ะ แล้วก็รู้สึกว่าเออ ฉันเหงาจังเลย ฉันไม่มีอะไรทำ ฉันอยู่คนเดียว ฉันทำยังไงดีนะ ดังนั้นค่ะอตุมก็เลยคิดว่า จะต้องสร้างลูกๆขึ้นมา เพื่ออยู่เป็นเพื่อนตัวเองนะคะ ถามว่าอตุมสร้างลูกๆยังไง เขาบอกว่าสร้างจากของเหลวที่ออกมาจากตัวอตุมค่ะ ซึ่งถ้าเอาเป็นเวอร์ชันที่เด็กอ่านหน่อยเนี่ยเขาก็จะบอกว่า อตุมจามออกมาหรือว่าสั่งขี้มูกออกมา แล้วก็กลายเป็นเทพสององค์นะคะ แต่ว่าถ้าเอาเวอร์ชันที่แบบว่า 18+ นิดนึงแล้วก็ผู้ใหญ่นิดนึง ก็เอาเป็นว่ากำเนิดมนุษย์อะ มันเกิดจากอะไร น้ำที่ออกจากร่างกายอตุมคือน้ำอะไร ก็เดากันเองแล้วกันนะคะ นั่นล่ะค่ะ เอาเป็นว่าอตุมก็สร้างเทพขึ้นมาสององค์นะคะ เป็นเทพองค์นึง แล้วก็เทพีองค์นึงค่ะ เทพเนี่ยชื่อว่า ชู นะคะ ส่วนเทพีเนี่ยชื่อว่า เทฟนุต นะคะ ชูเนี่ยก็คือตัวแทนของอากาศนะคะ ส่วนเทฟนุตเนี่ยก็คือตัวแทนของความชื้นในอากาศค่ะ ซึ่งทั้งสองอย่างเนี่ยก็เกิดขึ้นมาแล้วเป็นสองอย่างแรกนะ ปรากฏว่าหลังจากที่ลูกๆเกิดมาเนี่ยนะคะ อตุมก็มีความสุขมากค่ะ ก็อยู่กับลูกไป รู้สึกว่าฉันไม่เหงาแล้ว ฉันมีคนอยู่ด้วยแล้ว แต่ว่าวันดีคืนดีค่ะ อยู่ดีๆชูกับเทฟนุตนะคะ ก็ไม่รู้ว่าใช้ชีวิตอยู่บนเกาะนี้อีท่าไหน ปรากฏว่าตกลงไปในน้ำค่ะ ตกลงไปในนุนนะคะแล้วก็จมหายไปเลยค่ะ ทำให้อตุมเนี่ยตกใจมากแล้วก็รู้สึกว่า เอ้า ลูก ลูกฉันหายไปไหน ฉันจะต้องไปตามหาลูก แต่ว่าจะโดดลงไปว่ายน้ำตามหาลูก มันก็ไม่ใช่เรื่องนะคะ ในฐานะเทพผู้สร้างค่ะ ดังนั้นอตุมก็เลย ครีเอตนวัตกรรมใหม่ขึ้นมานะคะ ก็คือ ดวงตาติดตามนั่นเอง อตุมนะคะตัดสินใจควักตาตัวเองออกมาค่ะ แล้วก็ส่งตาเนี่ย ลอยไปค่ะ สอดส่องตามหาลูกของตัวเองตามที่ต่างๆนะคะ ว่าแบบลูกอยู่ตรงไหน ลูกอยู่ตรงไหน ลูกอยู่ตรงไหน จนกระทั่งในที่สุดนะคะ ดวงตานี้ก็ตามไปเจอชูกับเทฟนุตค่ะ แล้วก็พากลับมาได้ในที่สุดนะคะ พอได้ตัวชูกับเทฟนุตกลับมาเนี่ยนะคะ บอกเลยว่าอตุมดีใจมากค่ะ ทุกคนก็แฮปปี้นะคะ ในที่สุดครอบครัวก็กลับมาเจอกันอีกรอบนึง แต่มีสิ่งนึงที่ไม่แฮปปี้เลยค่ะ นั่นก็คือ ดวงตาของอตุมนั่นเองนะคะ เพราะว่าดวงตาที่กลับมาเนี่ยก็พบว่า อ้าว ฉันไม่เป็นที่ต้องการของตรงนี้แล้วเพราะว่า อตุมเนี่ยพอส่งดวงตาออกไปก็ไม่ใช่ว่าฉันนั่งตาบอดรอไง ฉันเป็นเทพผู้สร้าง สร้างน้ำ สร้างอากาศ สร้างทุกอย่างได้ ฉันจะสร้างแค่ดวงตาของตัวเองไม่ได้เหรอ ดังนั้นนะคะ อตุมก็เลย เนรมิตตาคู่ใหม่ของตัวเองขึ้นมาเรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งพอเห็นดวงตาน้อยใจนะคะ อตุมก็เลยตัดสินใจว่า อะๆๆ งั้นดวงตามานี่มา เธอยังมีประโยชน์อยู่นะ ดังนั้นนะคะ อตุมก็เลยเปลี่ยนร่างค่ะ ให้ดวงตาเนี่ยกลายเป็นงูนะคะ แล้วก็เอางูเนี่ยนะคะ มาพันรอบหัวตัวเองค่ะ ให้หัวงูเนี่ยอยู่ระหว่างคิ้วของตัวเอง เหมือนกับเป็นตาที่สามว่าอย่างนั้นเถอะ คล้ายๆกับพระอิศวรเลยว่าไหม แต่อย่างไรก็ตาม ไม่เกี่ยวกันนะคะ และนี่นะคะก็คือสาเหตุที่ทำให้เวลาเราไปเห็น โรงศพฟาโรห์ มัมมี่อะไรต่างๆ หรือว่าภาพวาดอียิปต์โบราณเนี่ย พวกฟาโรห์ทั้งหลาย ที่เขาสมมติว่าตัวเองเป็นสุริยเทพ ที่เขาสมมติว่าตัวเองเป็นแบบเทพเจ้าเนี่ย ก็เลยจะต้องมีแบบ จะงอยอะไรบางอย่างเหมือนงูเนี่ย ออกมาจากกลางหน้าผากเนี่ยล่ะค่ะ เพราะว่างูของอตุมนี่แหละนะคะ พอหลังจากนั้นนะคะ ทุกคนก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขค่ะ และแน่นอนนะคะว่าชูกับเทฟนุตเนี่ย ผู้หญิงกับผู้ชายใช่ไหม ก็จะต้องมีความแบบว่าผลิตทายาทด้วยกันค่ะ ทั้งคู่ก็ผลิตทายาทด้วยกันออกมานะคะ กลายเป็นเทพกับเทพีอีกคู่นึงนะคะ เทพเนี่ยชื่อว่า เกบ ส่วนเทพีนี่ชื่อว่า นูต นะคะ แม่ชื่อเทฟนุต ส่วนลูกชื่อนูตนะคะ ปรากฏว่าเกบกับนูตเนี่ยนะคะก็อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าเทพกับเทพีอีกคู่นึงอะ ก็จะต้องผลิตทายาทต่อไปอีกรอบนึงนะคะ ซึ่งรอบนี้ ทายาทของเกบกับนูตเนี่ยนะคะ กลายเป็นหมู่ดาวต่างๆมากมายค่ะ เรียกได้ว่าเป็นหมู่ดาวเต็มฟ้าไปหมดเลยนะคะ แต่ว่าอีท่าไหนก็ไม่รู้ค่ะ อยู่ดีๆนูตก็รู้สึกว่าแบบ โอ๊ย ฉันรำคาญลูกของตัวเองจังเลย ฉันทนอีหมู่ดาวพวกนี้ไม่ได้แล้ว ดังนั้นนูตนะคะก็เลย กินหมู่ดาวเข้าไปหมดเกลี้ยงเลยค่ะ ทำให้เกบเนี่ยโกรธมากนะคะ และนูตก็กลัวเกบมากว่าเกบจะมาทำอะไรฉันรึเปล่า ที่ฉันฆ่าลูก ดังนั้นนะคะ นูตก็เลยหนีไปจากเกบค่ะ นูตเนี่ยนะคะหนีไปโดยการทำท่าเหมือนสะพานโค้งค่ะ แต่ว่ากลับกับสะพานโค้งนะ คือเอามือสองข้างเนี่ยยันพื้น แล้วก็เอาเท้ายันพื้น ส่วนตัวเองเนี่ยนะคะโก่งออกมาค่ะ แล้วก็มีดาวอยู่ในท้องเต็มไปหมดนะคะ ดังนั้นนูตก็คือตัวแทนของท้องฟ้านั่นเอง ซึ่งก็เป็นท้องฟ้าที่มีผืนดาวระยิบระยับนะคะ ส่วนเกบเนี่ย ก็พยายามจะตามนูตค่ะ แต่ว่าตามไม่ทันนะคะ ก็เลยนอนเอนตัวอยู่ตรงพื้นค่ะ กลายเป็นผืนดินนะคะ ทั้งสองคนก็แยกจากกันค่ะ โดยมีชูนะคะกั้นกลางอยู่ค่ะ เพื่อไม่ให้ลูกทั้งสองคนเนี่ยทะเลาะกันนะคะแบบ ลูก อย่าทะเลาะกันเลย พ่อไม่โอเค ก็คือเปรียบเหมือนอากาศที่กั้นระหว่าง ฟ้ากับดินนั่นเองค่ะ ซึ่งในทุกๆวันเนี่ยนะคะ นูตก็จะทำเหตุการณ์เดิมๆซ้ำๆค่ะ ก็คือกินลูกที่เป็นหมู่ดาวเข้าไปแล้วก็คายออกมา แล้วก็กินเข้าไปใหม่ แล้วก็คายออกมา รวมถึงกินสุริยเทพหรือว่า ราในอนาคตเข้าไปด้วยค่ะ ก็กินเข้าไปแล้วก็คายออกมา กินเข้าไปแล้วก็คายออกมา ดังนั้นนูตเนี่ยนะคะ นอกจากจะเป็นท้องฟ้าแล้วก็เลย เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของการ ตายแล้วก็เกิดใหม่ ตายแล้วก็เกิดใหม่ ตายแล้วก็เกิดใหม่ในทุกๆวันนี่แหละค่ะ และนี่ก็คือเรื่องราวของ กำเนิดเทพต่างๆของชาวอียิปต์นะคะ เขาก็เชื่อประมาณนี้แหละ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะสะท้อนความเชื่อ แล้วก็วิถีชีวิตของชาวอียิปต์ค่ะ ซึ่งเขาเห็นโลกแบบนั้น นึกสภาพชาวอียิปต์นะคะ เขาใช้ชีวิตอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำไนล์ใช่ไหม ต้องนึกว่าลุ่มแม่น้ำไนล์นี่ไม่ได้ แห้งแล้งเป็นทะเลทรายอะไรแบบปัจจุบันนะคะ ค่อนข้างจะเป็นที่ราบที่อุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว ไม่งั้นก็คงไม่มี ใครมาตั้งถิ่นฐานค่ะ ในสมัยก่อนเนี่ย แม่น้ำไนล์ก็จะ ขึ้นๆๆๆ ประมาณสี่ห้าเดือนจนกระทั่ง น้ำเนี่ยท่วมไปหมดใช่ไหมคะ พอน้ำท่วมเนี่ยมันก็เหมือนกับว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ เป็นความเวิ้งว้างว่างเปล่าเหมือนนุนนี่แหละ หลังจากนั้นเนี่ยนะคะ แม่น้ำไนล์ก็จะค่อยๆ ลดลง ลดลง ลดลง ทิ้งไว้แค่ตะกอนของแม่น้ำไนล์สีดำนะคะ ซึ่งเป็นตะกอนที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ชาวอียิปต์เนี่ยสามารถเพาะปลูกได้ ก็เหมือนกับ ชีวิตได้เกิดใหม่ขึ้นอีกครั้งนึงแล้วค่ะ และหลังจากนั้นนะคะ หนึ่งปีผ่านไป แม่น้ำไนล์ก็จะขึ้นมาท่วมบริเวณนี้อีกรอบนึง เหมือนกับเป็น cycle cycle cycle ดังนั้นเวลาเราไปศึกษาพวกเกี่ยวกับ ตำนานเทพอียิปต์อะไรอย่างนี้ เราก็จะเห็นว่า ชาวอียิปต์เนี่ยค่อนข้างจะเชื่อเรื่องการแบบว่า ตายไปแล้วเกิดใหม่ ตายไปแล้วเกิดใหม่ เพราะว่าเขาสังเกตเห็นแม่น้ำไนล์นี่แหละค่ะ และนี่ก็เป็นที่มาของความเชื่อเรื่องการทำมัมมี่นะคะว่า เออ เดี๋ยวตายไป เดี๋ยวก็อาจจะเกิดใหม่ก็ได้ เหมือนแม่น้ำไนล์นะคะ ดังนั้นค่ะ ถ้าเราไปดูตามพวกประติมากรรม จิตรกรรม หรือว่าอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับมัมมี่ เกี่ยวกับการตายแล้วเกิดใหม่ เราจะเห็นรูปของเทพนูตนะคะ ประดับอยู่แถวๆนั้นเสมอ เพราะว่าเจ๊แกเป็นตัวแทนของการ ตายแล้วเกิดใหม่นั่นเองค่ะ และทั้งหมดนี้นะคะก็คือเรื่องราวของการ กำเนิดเทพ กำเนิดโลกแบบอียิปต์นั่นเอง ชอบกันไหมทุกคน เอาเป็นว่าถ้าชอบอย่าลืม กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาฟังนะคะ เผื่อว่าวันหน้าจะได้เอา ตำนานเกี่ยวกับเทพอียิปต์มาเล่าให้ฟังอีกค่ะ วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ นี่ อวดทุกคน วันนี้นัทไม่อยู่นะคะ ไม่ได้แต่งให้แต่ว่า ก็มีความพยายามจะแต่งหน้าแบบอียิปต์ ในแบบของตัวเอง ซึ่งออกมาแล้วดูจีนมาก เพราะว่ามันได้เท่านี้นะคะ ไม่กล้ากรีดตาเองเท่าที่นัทกรีดให้จริงๆอะ เอาเป็นว่า ถ้าใครยังไม่ได้ดูนะคะ วิวเคยแต่งหน้าตามสไตล์คลีโอพัตราไว้ ก็ไม่ได้แต่งเองแต่ว่าให้นัท นิสามณีมาแต่งให้เนอะ ก็สามารถกดไปดูได้นะคะ ตรงข้างๆนี่เลย สำหรับวันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะ บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ