สวัสดีครับ ผมคือ มีเดียมอินเวเดอร์
จากวีดีโอเกมส์สุดคลาสสิก สเปซอินเวเดอร์
(Space Invaders)
ผมอยากจะเล่าให้คุณฟัง
เกี่ยวกับที่มาของวิดีโอเกมส์
วิดีโอเกมส์เป็นเกมส์อิเล็กทรอนิกส์
ที่มีรูปร่างหน้าตาที่ถูกออกแบบมา
เพื่อให้มนุษย์สามารถใช้งานได้
บนอุปกรณ์ฉายภาพ
ง่ายๆแค่นั้น
วิดีโอเกมส์ถูกนำมาใช้โดยนักวิทยาศาสตร์
โดยกองทัพ
และคนทั่วไปอย่างคุณ
วิวัฒนาการของเกมส์เหล่านี้กลายเป็น เกมส์อาร์เขต
เกมส์คอนโซล
เกมส์คอมพิวเตอร์
เกมส์บนสมาร์ทโฟน
และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นๆ
ทุกวันนี้เราพบวิดีโอเกมส์อยู่ในทุก ๆ ที่
จากเดิมที่ถูกพัฒนาขึ้นใน
ห้องแล็บวิทยาศาสตร์
และที่จริงแล้ว การจดลิขสิทธิ์
วิดีโอเกมส์ครั้งแรกในอเมริกา
เกิดขึ้นเมื่อปี 1948
ซึ่งในตอนนั้นมันถูกเรียกว่า
อุปกรณ์บันเทิงที่ใช้หลอดรังสีแคโทด
(cathode-ray tube)
ชื่อมันยาวมาก ๆ เลย
วิดีโอเกมส์ในยุคแรกนั้นรวมไปถึง
เครื่องนิมรอด (Nimrod)
เกมส์โอเอ็กซ์ (OXO)
เกมส์เทนนิส (Tennis for Two)
และเกมส์โปรดของผม สงครามอวกาศ!
(Spacewar!)
แต่เกมส์ในยุคแรกเหล่านี้
ไม่เคยออกวางขาย
เพราะมันใหญ่เกินไป
หรือไม่ก็แพงเกินกว่า
ที่จะเอามาพัฒนาต่อ นอกห้องแล็บ
สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปเมื่อ ราล์ฟ แบร์ (Ralph Baerl)
มองดูที่จอทีวี แล้วคิดขึ้นมาว่า
จะเอามันมาใช้ทำอะไรได้อีกบ้าง
ในปี 1972 ความคิดของแบร์
ที่จะนำเอาวิดีโอเกมส์
ออกจากห้องแล็บมาสู่ห้องนั่งเล่น
ทำให้เกิดการวางขายเครื่องเกมส์
ที่เรียกว่า โอดิซี (Odyssey)
โอดิซีทำให้คุณสามารถเล่นเกมส์
บนโทรทัศน์ของคุณได้
และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น
คนอีกสองคน โนแลน บุชเนล (Nolan Bushnell)
และเท็ด แดบนีย์ (Ted Dabney)
ก็กำลังพัฒนาเครื่องที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กัน
อยู่ในบริษัทเล็กๆ ที่ชื่อ อาตาริ (Atari)
คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อ
หรือถ้าคุณไม่เคยได้ยิน
ผมว่าคุณพ่อของคุณคงจะเคยได้ยิน
เกมส์ชิ้นแรกของอาตาริ
ออกวางขายในปี 1972
มันเป็นเกมส์อาร์เขตชื่อว่า "ปอง" (Pong)
มันโด่งดังแทบจะในทันที
และทำให้มันเป็นที่รู้จัก
ในฐานะเกมส์แรก
ที่ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์
จากนั้นอาตาริก็ปล่อยเครื่องเกมส์ ปอง
รุ่นใช้ที่บ้านในปี 1974
ภายในปี 1978 การแข่งขันระหว่าง อาตาริ
กับบริษัทเกมส์อีกบริษัทหนึ่งชื่อ มิดเวย์ (Midway)
ก็กำลังรุนแรง
มิดเวย์ ได้รับลิขสิทธ์เกมส์อาร์เขต
จากบริษัทญี่ปุ่น เทโต (Taito)
ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาเริ่มเป็นที่รู้จัก
อย่างเกมส์
สเปซอินเวเดอร์ (Space Invaders)
มันประกอบด้วยตัวละครเด่นๆ อย่างตัวผมเอง
และมันยังกลายเป็น
เกมส์อาร์เขตที่ขายดีที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับสอง
สเปซอินเวเดอร์ ช่วยให้เกิด
ยุคที่เรียกว่า ยุคทองของเกมส์อาร์เขต
เพื่อเป็นการตอบโต้ อาตาริก็
ออกเกมส์อาร์เขตที่ชื่อ แอสตรอยด์ (Asteroids)
ซึ่งขายดีติดอันดับที่หก
ของเกมส์ขายดีที่สุดตลอดกาล
มันก็เป็นเกมส์ที่ดี
แต่มันไม่ใช่ สเปซอินเวเดอร์
พอปี 1980 เริ่มมีจอสีในเกมส์อาร์เขด
และปีนี้ยังเป็นปี
ที่เกมส์สำคัญเกมส์หนึ่งเกิดขึ้น
แพคแมน (Pac-Man) ซึ่งออกแบบ
โดยบริษัทญี่ปุ่นที่ชื่อ แนมโค (Namco)
ถูกนำมาสู่สหรัฐฯ โดยมิดเวย์
ซึ่งส่งผลต่อการแผ่ขยายความนิยม
ในการเล่นวิดีโอเกมส์ในวงกว้่าง
แพคแมน ยังเป็นตัวละครที่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้
และไม่นานหลังจากนั้นมันก็มีเพลงติดอันดับ
มีรายการทีวีเช้าวันเสาร์ของตัวเอง
และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆอีก
ภายในปีเดียว เกมส์อาร์เขตแพคแมน
ทำเงินได้มากกว่าหนึ่งพันล้านดอลล่าร์
ในช่วงไตรมาสเดียว
จากนั้นในปี 1981 บริษัทนินเทนโด (Nintendo)
ก็เริ่มคลื่นลูกใหม่ในตลาดวิดีโอเกมส์ ในสหรัฐฯ
ด้วยการออกเกมส์ ดองกี้คอง (Donkey Kong)
ซึ่งเป็นวีดีโอเกมส์ยุคแรกสุด
ที่มีเรื่องราวของตนเอง
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ
ดองกี้คองเป็นสัตว์เลี้ยง
ของช่างไม้ที่ชื่อ จัมพ์แมน
จัมพ์แมน ทำไม่ดีกับลิงยักษ์ของเขา
ทำให้เจ้าลิงขโมยเพื่อนสาวของเขา
ทำให้ผู้เล่นต้องสวมบทบาทเป็น
ตัวจัมพ์แมน เพื่อไปช่วยหญิงสาว
จัมพ์แมน ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น มาริโอ
เกมส์อาร์เขตอื่นๆ ในตำนานในยุคปี 80 รวมไปถึง
ฟร็อกเกอร์ (Frogger)
ถ้ำมังกร (Dragon's Lair)
และพี่น้องมาริโอ (Mario Brothers)
เกมส์สุดท้ายที่จัดว่า
อยู่ในยุคของเกมส์อาร์เขต ก็คือ
เกมส์ ดับเบิลดรากอน (Double Dragon)
ซึ่งเป็นตัวอย่างแรกที่ประสบความสำเร็จ
ของเกมส์
จำพวก "ตีมันให้ตาย"
มันออกวางขายในปี 1987
และเช่นเดียวกับดองกี้คอง
มันประกอบด้วยตัวละครหญิง
ที่ตกอยู่ในอันตรายแบบเดียวกัน
ซึ่งก็ยังคงเป็นเรื่องราวที่เห็นกัน
ในวิดีโอเกมส์อีกมากมาย
ในช่วงกลางยุค 90 ยุคทองของเกมส์อาร์เขต
ก็ถึงจุดสิ้นสุด
และเครื่องเล่นเกมส์ที่บ้าน
ก็เริ่มได้รับความนิยม
ในขณะที่ร้านเกมส์อาร์เขตค่อยๆ
ได้รับความนิยมลดลง และมียอดขายน้อยลงเรื่อยๆ
ความนิยมในวิดีโอเกมส์เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
แต่เราจะพูดถึง
เรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
ในตอนต่อภาคสอง ของประวัติวิดีโอเกมส์