0:00:06.494,0:00:07.890
มองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน

0:00:07.890,0:00:10.910
เราจะรู้สึกทึ่งที่ท้องฟ้าดูเหมือนดำรงอยู่เป็นนิรันดร์

0:00:10.910,0:00:12.395
แต่ท้องฟ้าจะมีหน้าตาอย่างไร

0:00:12.395,0:00:13.865
หลายพันล้านปีจากนี้

0:00:13.865,0:00:15.372
นักวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง

0:00:15.372,0:00:16.616
ที่เรียกว่า นักจักรวาลวิทยา

0:00:16.616,0:00:19.531
ได้ใช้เวลาขบคิดปัญหานี้

0:00:19.531,0:00:21.924
จุดจบของจักรวาลนั้นสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ

0:00:21.924,0:00:23.868
สิ่งที่มีอยู่ในจักรวาล

0:00:23.868,0:00:25.170
กว่า 100 ปีมาแล้ว

0:00:25.170,0:00:27.879
ไอน์สไตน์ได้พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปขึ้น

0:00:27.879,0:00:29.923
สมการซึ่งช่วยให้เรา

0:00:29.923,0:00:31.258
เข้าใจความสัมพันธ์

0:00:31.258,0:00:33.462
ระหว่างสิ่งที่ประกอบเป็นจักรวาล

0:00:33.462,0:00:34.511
และรูปทรงของมัน

0:00:34.511,0:00:36.124
ปรากฏว่าจักรวาล

0:00:36.124,0:00:38.178
อาจจะโค้งเหมือนลูกบอลหรือทรงกลม

0:00:38.178,0:00:40.676
ซึ่งเราเรียกว่า โค้งเชิงบวก หรือ แบบปิด

0:00:40.676,0:00:42.228
หรือจักรวาลอาจจะมีรูปร่างคล้ายอานม้า

0:00:42.228,0:00:44.488
ซึ่งเราเรียกว่า โค้งเชิงลบ หรือ แบบเปิด

0:00:44.488,0:00:46.033
หรือมันอาจจะแบน

0:00:46.033,0:00:47.155
และรูปทรงนี้เองที่กำหนด

0:00:47.155,0:00:49.537
ว่าจักรวาลจะอยู่ จะตายเช่นไร

0:00:49.537,0:00:52.632
ตอนนี้ เราทราบว่าจักรวาลเกือบจะแบนสนิท

0:00:52.632,0:00:54.338
อย่างไรก็ดี องค์ประกอบของจักรวาล

0:00:54.338,0:00:56.454
ยังสามารถส่งผลต่อชะตาบั้นปลายชีวิตของมันได้

0:00:56.454,0:00:58.033
เราสามารถทำนายว่าจักรวาล

0:00:58.033,0:00:59.611
จะเปลี่ยนไปตามเวลาเช่นไร

0:00:59.611,0:01:01.793
หากเราวัดปริมาณ หรือความหนาแน่นพลังงาน

0:01:01.793,0:01:04.588
ขององค์ประกอบต่าง ๆ ในจักรวาลวันนี้

0:01:04.588,0:01:06.727
แล้วจักรวาลประกอบขึ้นจากอะไรบ้างล่ะ?

0:01:06.727,0:01:09.393
จักรวาลบรรจุทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามองเห็นได้

0:01:09.393,0:01:11.564
เช่น ดาวฤกษ์ แก๊ส และดาวเคราะห์

0:01:11.564,0:01:14.733
เราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า สสารปกติ หรือ สสารแบริออน

0:01:14.733,0:01:16.593
ถึงแม้ว่าเราจะมองเห็นสสารเหล่านี้อยู่รอบตัว

0:01:16.593,0:01:18.702
ความหนาแน่นพลังงานรวมขององค์ประกอบชนิดนี้

0:01:18.702,0:01:20.440
มีค่าต่ำมาก ๆ

0:01:20.440,0:01:23.530
ราว 5% ของพลังงานรวมของทั้งจักรวาล

0:01:23.530,0:01:26.675
งั้นเรามาคุยกันดีกว่า ว่าอีก 95% ที่เหลือคืออะไร

0:01:26.675,0:01:29.081
เกือบ 27% ของส่วนที่เหลือ

0:01:29.081,0:01:30.913
ของความหนาแน่นพลังงานของจักรวาล

0:01:30.913,0:01:33.825
มาจากสิ่งที่เราเรียกว่า สสารมืด

0:01:33.825,0:01:36.928
สสารมืดมีอันตรกิริยากับแสงน้อยมาก ๆ

0:01:36.928,0:01:39.208
ซึ่งแปลว่าสสารมืดไม่ส่องแสง และไม่สะท้อนแสง

0:01:39.208,0:01:41.191
เหมือนอย่างดาวฤกษ์ และดาวเคราะห์

0:01:41.191,0:01:42.288
แต่ในแง่อื่น ๆ นอกนั้น

0:01:42.288,0:01:44.259
สสารมืดก็เหมือนกับสสารปกติ

0:01:44.259,0:01:46.128
มันดึงดูดสิ่งต่าง ๆ ด้วยแรงโน้มถ่วง

0:01:46.128,0:01:48.761
จริง ๆ แล้ว มีเพียงวิธีเดียวที่จะตรวจหาสสารมืดได้

0:01:48.761,0:01:51.052
คือผ่านทางอันตรกิริยาโน้มถ่วง

0:01:51.052,0:01:52.343
ดูว่าสิ่งต่าง ๆ โคจรรอบมันอย่างไร

0:01:52.343,0:01:53.595
และมันทำให้แสงโค้งงออย่างไร

0:01:53.595,0:01:56.008
จากการที่มันทำให้อวกาศรอบ ๆ โค้งงอ

0:01:56.008,0:01:58.343
เรายังไม่พบเจออนุภาคสสารมืด

0:01:58.343,0:02:00.815
แต่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังค้นหา

0:02:00.815,0:02:02.950
อนุภาคเร้นลับ (เหล่า) นี้อยู่

0:02:02.950,0:02:05.843
และผลกระทบของสสารมืดที่มีต่อจักรวาล

0:02:05.843,0:02:08.256
แต่นั่นก็ยังรวมแล้วก็ยังไม่ครบ 100%

0:02:08.256,0:02:09.784
ที่เหลืออีก 68%

0:02:09.784,0:02:11.680
ของความหนาแน่นพลังงานของจักรวาล

0:02:11.680,0:02:13.759
มาจาก พลังงานมืด

0:02:13.759,0:02:16.457
ซึ่งลี้ลับยิ่งกว่าสสารมืดเสียอีก

0:02:16.457,0:02:18.422
พลังงานมืดทำตัวไม่เหมือน

0:02:18.422,0:02:20.590
กับสสารใด ๆ เลยที่เรารู้จัก

0:02:20.590,0:02:23.013
และทำตัวเหมือนกับ แรงต้านแรงดึงดูด มากกว่า

0:02:23.013,0:02:25.420
เราเรียกว่า มันมีความดันโน้มถ่วง

0:02:25.420,0:02:28.330
ซึ่งสสารปกติและสสารมืดไม่มี

0:02:28.330,0:02:30.213
แทนที่จะดึงดูดจักรวาลเข้าหากัน

0:02:30.213,0:02:32.004
อย่างที่แรงดึงดูดทำ

0:02:32.004,0:02:34.287
จักรวาลกลับกำลังขยายตัวออก

0:02:34.287,0:02:36.110
ด้วยอัตราที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ

0:02:36.110,0:02:37.938
แนวคิดหลักเชื่อว่าพลังงานมืด

0:02:37.938,0:02:40.148
คือ ค่าคงที่จักรวาล

0:02:40.148,0:02:42.245
แปลว่ามันมีคุณสมบัติแปลก ๆ

0:02:42.245,0:02:45.434
ที่จะขยายตัว ตามปริมาตรอวกาศที่เพิ่มขึ้น

0:02:45.434,0:02:47.606
เพื่อที่จะให้ความหนาแน่นพลังงานคงที่

0:02:47.606,0:02:49.441
ดังนั้น ขณะที่จักรวาลขยายตัว

0:02:49.441,0:02:50.772
ดังที่เป็นอยู่ขณะนี้

0:02:50.772,0:02:52.742
พลังงานมืดก็จะมีมากขึ้นไปด้วย

0:02:52.742,0:02:54.574
สสารมืด และสสารแบริออน

0:02:54.574,0:02:55.277
ในทางตรงกันข้าม

0:02:55.277,0:02:56.622
ไม่ได้ขยายตัวตามจักรวาล

0:02:56.622,0:02:58.409
และจะเจือจางลงเรื่อย ๆ

0:02:58.409,0:02:59.335
ด้วยคุณสมบัติ

0:02:59.335,0:03:00.694
ของค่าคงตัวจักรวาล

0:03:00.694,0:03:03.451
จักรวาลในอนาคตจะเต็มไปด้วย

0:03:03.451,0:03:04.592
พลังงานมืด

0:03:04.592,0:03:06.330
พร้อมกับเย็นตัวลงเรื่อย ๆ

0:03:06.330,0:03:08.715
และขยายตัวออกเร็วขึ้นเรื่อย ๆ

0:03:08.715,0:03:10.736
ในที่สุด จักรวาลก็จะหมดกำลัง

0:03:10.736,0:03:11.842
ที่จะสร้างดาวฤกษ์

0:03:11.842,0:03:13.941
และดาวฤกษ์เองก็จะหมดเชื้อเพลิง

0:03:13.941,0:03:15.192
และมอดดับลง

0:03:15.192,0:03:18.062
ทำให้จักรวาลเหลือแต่หลุมดำ

0:03:18.062,0:03:19.255
เมื่อผ่านไปนานพอ

0:03:19.255,0:03:21.610
แม้แต่หลุมดำพวกนี้ ก็จะค่อย ๆ สลายไป

0:03:21.610,0:03:24.523
เหลือไว้เพียงจักรวาลที่หนาวเหน็บและว่างเปล่า

0:03:24.523,0:03:28.127
ซึ่งเรียกว่า จุดจบความร้อนของจักรวาล

0:03:28.127,0:03:29.569
อาจจะฟังดูน่าหดหู่

0:03:29.569,0:03:30.694
ที่เราต้องอาศัยอยู่ในจักรวาล

0:03:30.694,0:03:32.735
ที่จะจบชีวิตลงอย่างหนาวเหน็บ

0:03:32.735,0:03:34.237
ปราศจากซึ่งชีวิต

0:03:34.237,0:03:36.027
ชะตาบั้นปลายของจักรวาลเรา

0:03:36.027,0:03:37.937
แท้จริงแล้ว มีความสมมาตรที่สวยงามอยู่

0:03:37.937,0:03:40.087
เทียบกับจุดเริ่มต้นเร่าร้อนของมัน

0:03:40.087,0:03:41.998
เราเรียกระยะสุดท้ายของจักรวาล

0:03:41.998,0:03:44.111
ที่มีความเร่งว่า ระยะ ดี ซิทเทอร์ (de Sitter)

0:03:44.111,0:03:46.082
ตามชื่อของนักคณิตศาสตร์ชาวดัตช์

0:03:46.082,0:03:47.927
วิลเลม ดี ซิทเทอร์ (Willem de Sitter)

0:03:47.927,0:03:49.685
อย่างไรก็ดี เรายังเชื่อว่า

0:03:49.685,0:03:51.520
จักรวาลเคยขยายตัวแบบ ดี ซิทเทอร์

0:03:51.520,0:03:52.831
ณ อีกช่วงเวลาหนึ่ง

0:03:52.831,0:03:54.607
ในช่วงแรกเริ่มของชีวิตมัน

0:03:54.607,0:03:57.228
เราเรียกระยะแรกเริ่มนี้ว่า การพองตัว

0:03:57.228,0:03:58.894
หลังจากบิ๊กแบงไม่นาน

0:03:58.894,0:04:01.219
จักรวาลขยายตัวอย่างรวดเร็วสุด ๆ

0:04:01.219,0:04:02.860
ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ

0:04:02.860,0:04:04.391
ดังนั้น จักรวาลจึงมีจุดจบ

0:04:04.391,0:04:06.858
เช่นเดียวกับจุดเริ่มต้น

0:04:06.858,0:04:08.768
คือ ขยายตัวด้วยความเร่ง

0:04:08.768,0:04:10.778
เราดำรงชีวิตอยู่ในช่วงเวลาพิเศษ

0:04:10.778,0:04:12.350
ในช่วงชีวิตของจักรวาล

0:04:12.350,0:04:13.861
ณ จุดที่เราสามารถเริ่มเข้าใจ

0:04:13.861,0:04:15.153
การเดินทางของจักรวาล

0:04:15.153,0:04:16.437
และมองดูประวัติศาสตร์

0:04:16.437,0:04:18.520
ที่แสดงบนฟากฟ้า

0:04:18.520,0:04:20.622
เพื่อให้เราทุกคนได้ติดตาม