WEBVTT 00:00:06.346 --> 00:00:07.793 เทศกาลหยุดยาวนี้ 00:00:07.793 --> 00:00:10.722 คนทั่วโลกจะให้และรับของขวัญกัน 00:00:10.722 --> 00:00:13.425 คุณอาจได้รับเสื้อไหมพรมจากคุณป้า 00:00:13.425 --> 00:00:17.095 แต่ถ้าแทนที่การพูดว่า "ขอบคุณ" ก่อนโยนเสื้อไหมพรมเข้าตู้เสื้อผ้า 00:00:17.095 --> 00:00:19.130 การตอบกลับอย่างสุภาพ ที่คาดหวังจากคุณนั้น 00:00:19.130 --> 00:00:22.663 คือการปรากฎตัวที่บ้านคุณป้าในสัปดาห์ ถัดไปพร้อมด้วยของขวัญที่ดีกว่า ? 00:00:22.663 --> 00:00:25.690 หรือควรโหวดให้เธอในการเลือกตั้ง ? 00:00:25.690 --> 00:00:28.462 หรือว่าให้เธอเอาลูกคนแรกของคุณมาเลี้ยง ? 00:00:28.462 --> 00:00:30.922 ทุกสิ่งที่กล่าวมาฟังดูไม่แปลกเลย 00:00:30.922 --> 00:00:34.228 ถ้าคุณมีส่วนร่วมในเศรษฐศาสตร์แห่งการให้ 00:00:34.228 --> 00:00:36.300 วลีนี้อาจฟังดูขัดแย้งกันสักหน่อย 00:00:36.300 --> 00:00:39.215 ไม่ใช่ว่า ของขวัญคือการให้แบบฟรีๆ ? 00:00:39.215 --> 00:00:42.810 แต่สำหรับเศรษฐศาสตร์แห่งการให้แล้ว ไม่มีเงื่อนไขการให้ที่แน่ชัด 00:00:42.810 --> 00:00:47.112 มันมักใช้เพื่ออุ้มชูระบบ การเชื่อมสังคม และสัญญาผูกมัด 00:00:47.112 --> 00:00:50.124 ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด สร้างจากความสัมพันธ์ 00:00:50.124 --> 00:00:52.276 ระหว่างสิ่งของที่ใช้แลกเปลี่ยน 00:00:52.276 --> 00:00:54.420 ระบบเศรษฐศาสตร์แห่งการให้ กลับเป็นความสัมพันธ์ 00:00:54.420 --> 00:00:57.216 ระหว่างคนที่ทำการแลกเปลี่ยนกัน 00:00:57.216 --> 00:01:00.750 เศรษฐศาสตร์แห่งการให้ มีมานานในประวัติของมนุษย์ 00:01:00.750 --> 00:01:02.337 การศึกษาความคิดนี้เป็นครั้งแรก 00:01:02.337 --> 00:01:06.834 มาจากนักมานุษยวิทยา โบรนิสโลว์ มาลิโนว์สกี และ มาร์เซล เมาส์ 00:01:06.834 --> 00:01:09.210 ผู้เปิดเผยเกี่ยวกับชนเผ่าบน เกาะโทรเบรียน (Trobriand) 00:01:09.210 --> 00:01:12.260 ที่ยอมพายเรือแคนนูฝ่าฟันอันตราย ข้ามมหาสมุทรเป็นไมล์ๆ 00:01:12.260 --> 00:01:15.633 เพื่อแลกสร้อยคอเปลือกหอย และ กำไลแขน 00:01:15.633 --> 00:01:18.975 ของในการแลกเปลี่ยนนี้รู้จักในชื่อ คูลา ริง (kula ring) 00:01:18.975 --> 00:01:20.542 มันใช้ประโยชน์ไม่ได้ 00:01:20.542 --> 00:01:23.477 แต่มันมีความหมายต่อ เจ้าของดั้งเดิม 00:01:23.477 --> 00:01:27.017 และเป็นพันธสัญญา เพื่อใช้แลกเปลี่ยน 00:01:27.017 --> 00:01:29.503 เศรษฐศาสตร์แห่งการให้อื่น อาจเป็นของที่ใช้ประโยชน์ได้ 00:01:29.503 --> 00:01:32.829 เช่นงานเฉลิมฉลองพอตแลช (potlatch feast) ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแปซิฟิก 00:01:32.829 --> 00:01:37.527 ที่ผู้นำจะแข่งกันแสดงความเคารพ ด้วยการให้ปศุสัตว์ และผ้าห่ม 00:01:37.527 --> 00:01:40.324 เราอาจพูดได้ว่า แทนที่จะสะสม ของเพื่อสร้างความร่ำรวย 00:01:40.324 --> 00:01:45.257 ผู้ร่วมในเศรษฐศาสตร์แห่งการให้ ใช้มันเพื่อสะสมความมั่งคั่งทางสังคม 00:01:45.257 --> 00:01:48.871 แม้ว่าเศรษฐศาสตร์แห่งการให้บางกรณี อาจคล้ายการแลกเปลี่ยน 00:01:48.871 --> 00:01:53.002 แต่ความต่างคือ สิ่งที่ให้นั้น จะต้องให้โดยไม่มีเงื่อนไข 00:01:53.002 --> 00:01:54.706 หรือต่อรอง 00:01:54.706 --> 00:01:56.827 แต่ธรรมดาของสังคมที่พึ่งพาอาศัย 00:01:56.827 --> 00:02:01.094 ย่อมผูกมัดผู้รับ ด้วยการตอบแทนกลับอย่างสมัครใจ 00:02:01.094 --> 00:02:05.016 แต่กฎที่ว่าต้องทำอย่างไร และเมื่อไหร่นั้น แตกต่างกันระหว่างวัฒนธรรม 00:02:05.016 --> 00:02:08.705 แล้วการตอบแทนคืนนั้นสามารถ เป็นได้หลายรูปแบบ 00:02:08.705 --> 00:02:11.489 ผู้นำชั้นสูงให้ปศุสัตว์แก่คนจน 00:02:11.489 --> 00:02:14.001 โดยอาจไม่ต้องการสิ่งตอบแทน 00:02:14.001 --> 00:02:17.270 แต่กลับได้รับความยำเกรง จากการชดใช้ของลูกหนี้ 00:02:17.270 --> 00:02:19.891 และท่ามกลางชาวโทราจา ในอินโดนีเซีย 00:02:19.891 --> 00:02:24.848 ได้รับความเชื่อถือจากพิธีการให้ มีผลถึงการเป็นเจ้าของที่ดิน 00:02:24.848 --> 00:02:27.226 หลักสำคัญคือ วงจรการให้ต้องหมุนอยู่ตลอด 00:02:27.226 --> 00:02:29.739 โดยบางคนเป็นหนี้อีกคนเรื่อยๆ 00:02:29.739 --> 00:02:31.127 การตอบแทนกลับโดยทันที 00:02:31.127 --> 00:02:33.542 หรือด้วยบางอย่างที่ค่าเท่ากัน 00:02:33.542 --> 00:02:37.218 อาจกลายเป็นการจบ ความสัมพันธ์ทางสังคมได้ 00:02:37.218 --> 00:02:40.693 งั้น เศรษฐศาสตร์แห่งการให้ก็เป็นสังคม เล็กเฉพาะกลุ่ม 00:02:40.693 --> 00:02:42.969 ปลีกไปจากโลกอุตสาหกรรม ? 00:02:42.969 --> 00:02:44.163 ก็ไม่เชิง 00:02:44.163 --> 00:02:46.139 ในส่วนหนึ่ง ยิ่งในสังคมนี้ 00:02:46.139 --> 00:02:50.492 หน้าที่เศรษฐศาสตร์แห่งการให้ เดินคู่กับระบบการตลาดแลกเปลี่ยนอื่นๆ 00:02:50.492 --> 00:02:51.986 และเมื่อเราคิดดู 00:02:51.986 --> 00:02:55.530 หลายส่วนของสังคมเรานั้น ก็เป็นในลักษณะเดียวกัน 00:02:55.530 --> 00:02:57.583 ชุมนุมสาธารณะอย่าง เบิร์นนิ่ง แมน (Burning Man) 00:02:57.583 --> 00:03:00.329 เป็นการผสมระหว่างการแลกเปลี่ยน และเศรษฐศาสตร์แห่งการให้ 00:03:00.329 --> 00:03:03.711 ที่ซึ่งการขายของเพื่อเงิน เป็นเรื่องต้องห้าม 00:03:03.711 --> 00:03:05.174 ในงานศิลปะและเทคโนโลยี 00:03:05.174 --> 00:03:08.904 เศรษฐศาสตร์แห่งการให้ปรากฏ เป็นทางเลือกของทรัพสินทางปัญญา 00:03:08.904 --> 00:03:09.994 ที่ซึ่งศิลปิน 00:03:09.994 --> 00:03:11.113 นักดนตรี 00:03:11.113 --> 00:03:12.529 นักออกแบบและพัฒนา 00:03:12.529 --> 00:03:15.624 สร้างสรรค์งานโดยไม่หวังผลกำไร 00:03:15.624 --> 00:03:19.908 แต่เพื่อยกระดับหรือสร้างบทบาท ตัวเองต่อกลุ่มทางสังคม 00:03:19.908 --> 00:03:22.475 แม้แต่การปาร์ตีมื้อเย็น และ การให้ของขวัญช่วงเทศกาล 00:03:22.475 --> 00:03:26.179 ได้รวมบางระดับของ การพึ่งพาอาศัยและมาตรฐานสังคม 00:03:26.179 --> 00:03:28.191 เราอาจสงสัยว่าของขวัญ คือของขวัญจริงไหม 00:03:28.191 --> 00:03:32.364 ถ้ามันมาพร้อมกับการผูกมัด หรือ รวมถึงต้องจ่ายอะไรทางสังคมออกไป 00:03:32.364 --> 00:03:34.150 แต่นี่คือเรื่องเข้าใจผิด 00:03:34.150 --> 00:03:37.519 ความคิดเรื่องการให้ของขวัญฟรีๆ โดยไม่มีข้อผูกมัดทางสังคม 00:03:37.519 --> 00:03:41.771 เป็นจริงแค่เมื่อเราคิดทุกสิ่ง ในเชิงการตลาด 00:03:41.771 --> 00:03:43.233 และในเรื่องของโลกธุรกิจ 00:03:43.233 --> 00:03:46.843 ความคิดเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ที่ แข่งแกร่ง โดยการให้และพึ่งพาอาศัย 00:03:46.843 --> 00:03:50.646 อาจไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม