1 00:00:00,140 --> 00:00:01,980 สวัสดีค่ะ วิว จากแชนเนล Point of View ค่ะ 2 00:00:02,160 --> 00:00:04,720 หลังจากที่คราวที่แล้วนะคะ เมื่อนานแสนนานมาเนี่ย 3 00:00:04,940 --> 00:00:06,720 วิวเคยทำคลิปวิดีโอคลิปนึงค่ะ 4 00:00:06,720 --> 00:00:09,960 ชื่อว่า 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรัชกาลที่ 7 นะคะ 5 00:00:10,080 --> 00:00:12,820 จากคลิปนั้นเนี่ยมีหลายคนเรียกร้องเข้ามามากมายค่ะ 6 00:00:12,820 --> 00:00:15,620 ว่าให้ทำเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์อื่นด้วย 7 00:00:15,700 --> 00:00:17,300 แต่วิวก็ไม่ได้โอกาสซะทีนะคะ 8 00:00:17,300 --> 00:00:19,440 อย่างไรก็ตาม โอกาสนั้นมาถึงแล้วค่ะ 9 00:00:19,520 --> 00:00:20,880 เพราะหลาย ๆ คนเนี่ยน่าจะเห็น 10 00:00:20,880 --> 00:00:22,540 จากคลิปก่อน ๆ ของวิว หลาย ๆ คลิป 11 00:00:22,540 --> 00:00:24,380 ที่เกี่ยวข้องกับพระราชนิพนธ์ใน 12 00:00:24,380 --> 00:00:27,420 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ใช่มั้ยคะว่า 13 00:00:27,480 --> 00:00:29,320 ตอนนี้ วิวมีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วม 14 00:00:29,320 --> 00:00:31,100 ในนิทรรศการ นิทรรศการนึงค่ะ 15 00:00:31,160 --> 00:00:34,620 นั่นก็คือ นิทรรศการมหาวชิราวุธราชบรรณาลัย 16 00:00:34,620 --> 00:00:37,060 นิทรรศการว่าด้วยพระราชประวัติของ 17 00:00:37,060 --> 00:00:41,220 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ในด้านต่าง ๆ 18 00:00:41,320 --> 00:00:44,060 ภายใต้คอนเซ็ปต์คำว่า บันดาลใจ 19 00:00:44,060 --> 00:00:47,080 ซึ่งนิทรรศการนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 20 00:00:47,180 --> 00:00:49,280 จุฬาลงกรณ์ราชบรรณาลัย นะคะ 21 00:00:49,300 --> 00:00:52,260 ตัวนิทรรศการส่วนมหาวชิราวุธราชบรรณาลัยเนี่ย 22 00:00:52,300 --> 00:00:55,120 วิวก็เข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็น curator (ภัณฑารักษ์) 23 00:00:55,120 --> 00:00:57,480 ร่วมกับพี่ฮ่องเต้ กนต์ธร เตโชฬาร 24 00:00:57,600 --> 00:00:59,520 เพื่อเลือกเรื่องราวต่าง ๆ มานำเสนอ 25 00:00:59,520 --> 00:01:01,760 ให้ทุกคนเข้าถึงพระองค์ได้มากขึ้นค่ะ 26 00:01:01,780 --> 00:01:04,940 สำหรับครึ่งแรกของนิทรรศการ วิวเคยพาชมไว้แล้ว 27 00:01:04,940 --> 00:01:07,360 สามารถกดเข้าไปดูได้ที่มุมขวาบนเลยนะคะ 28 00:01:07,640 --> 00:01:09,760 ทีนี้แน่นอนนะคะว่าในนิทรรศการนั้นเนี่ย 29 00:01:09,760 --> 00:01:11,440 ก็จะต้องมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับ 30 00:01:11,480 --> 00:01:14,760 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจำนวนมากมายเลยค่ะ 31 00:01:14,760 --> 00:01:16,660 และหลาย ๆ ข้อเนี่ย ก็เป็นหลาย ๆ ข้อ 32 00:01:16,660 --> 00:01:19,000 ที่แม้แต่วิวเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะคะ 33 00:01:19,200 --> 00:01:22,720 ดังนั้น วันนี้นะคะ วิวก็เลยรวบรวมเรื่องน่ารู้ทั้งหมด 6 เรื่อง 34 00:01:22,720 --> 00:01:25,980 เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 35 00:01:25,980 --> 00:01:27,260 มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ 36 00:01:27,380 --> 00:01:29,580 ซึ่งขอออกตัวก่อน ณ ที่นี้นะคะว่า 37 00:01:29,580 --> 00:01:31,360 ข้อแรก ภาษาที่ใช้ในคลิปนี้ 38 00:01:31,360 --> 00:01:33,480 อาจจะเป็นภาษาที่ค่อนข้างสามัญธรรมดา 39 00:01:33,480 --> 00:01:35,540 ราชาศัพท์จะมั่วบ้างอะไรบ้างนะคะ 40 00:01:35,540 --> 00:01:37,180 เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ดีที่สุด 41 00:01:37,180 --> 00:01:39,520 ถ้าสมมติว่าวิวใช้ราชาศัพท์เป๊ะทุกคำเนี่ย 42 00:01:39,600 --> 00:01:42,420 มันอาจจะเต็มไปด้วยคำศัพท์ต่าง ๆ ที่เราไม่คุ้นเคยเต็มไปหมด 43 00:01:42,420 --> 00:01:44,900 แล้วทำให้สารเนี่ยส่งไปไม่ถึงคนดูค่ะ 44 00:01:44,960 --> 00:01:46,460 และข้อที่สองนะคะ 45 00:01:46,480 --> 00:01:47,760 เรื่องที่วิวจะเล่าต่อไปนี้นะคะ 46 00:01:47,760 --> 00:01:51,040 เป็นแค่เรื่องน่ารู้ทั้งหมด 6 ข้อที่วิวยกขึ้นมาค่ะ 47 00:01:51,140 --> 00:01:53,080 ไม่ใช่พระราชประวัติทั้งหมดนะคะ 48 00:01:53,240 --> 00:01:56,980 ดังนั้น ถ้าสมมติว่าใครอยากศึกษาพระราชประวัติจริง ๆ 49 00:01:57,120 --> 00:02:00,460 เอาตั้งแต่ต้นจนจบ เอาทุกแง่มุมต่าง ๆ เนี่ย 50 00:02:00,640 --> 00:02:02,220 แนะนำให้เข้าไปศึกษาที่ 51 00:02:02,220 --> 00:02:05,080 นิทรรศการมหาวชิราวุธราชบรรณาลัยค่ะ 52 00:02:05,100 --> 00:02:06,200 ซึ่งนิทรรศการนี้นะคะ 53 00:02:06,200 --> 00:02:08,740 มีทั้งจัดแบบเป็นห้องนิทรรศการจริง ๆ ด้วย 54 00:02:08,780 --> 00:02:11,240 ซึ่งเดี๋ยวจะมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไปนะคะ 55 00:02:11,300 --> 00:02:13,340 รวมถึงเป็นนิทรรศการออนไลน์ 56 00:02:13,420 --> 00:02:16,820 ซึ่งตอนนี้มีบทความที่เกี่ยวข้องกับ พระราชประวัติหลายบทความด้วยกันนะคะ 57 00:02:16,820 --> 00:02:19,060 ซึ่งวิวก็มีโอกาสได้เข้าไปเป็นบรรณาธิการนะ 58 00:02:19,180 --> 00:02:20,440 ตีพิมพ์อยู่ในนั้นค่ะ 59 00:02:20,620 --> 00:02:23,200 รวมถึงมีหนังสือพระราชนิพนธ์ของทั้ง 60 00:02:23,200 --> 00:02:26,100 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 61 00:02:26,140 --> 00:02:29,680 และพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 62 00:02:29,700 --> 00:02:32,260 จำนวนมาก ๆ ๆ ๆ เลยนะคะ 63 00:02:32,280 --> 00:02:35,380 เปิดให้ใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น 64 00:02:35,420 --> 00:02:38,100 อยู่ในเว็บไซต์ของจุฬาลงกรณ์ราชบรรณาลัยค่ะ 65 00:02:38,100 --> 00:02:40,700 ก็สามารถเข้าไปดูได้ ตาม QR Code นี้เลยนะคะ 66 00:02:41,020 --> 00:02:43,260 สำหรับตอนนี้เราจะไม่เกริ่นไปมากกว่านี้แล้วค่ะ 67 00:02:43,300 --> 00:02:46,060 ถ้าพร้อมกันแล้วก็เข้าไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก 68 00:02:46,060 --> 00:02:47,680 แล้วก็ได้สาระกันเลยค่ะ ปะ! 69 00:02:51,660 --> 00:02:53,480 สำหรับเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรัชกาลที่ 6 70 00:02:53,480 --> 00:02:55,620 ข้อแรกที่วิวจะนำมาฝากทุกคนในวันนี้นะคะ 71 00:02:55,620 --> 00:02:57,540 เริ่มจากเรื่องเบา ๆ ก่อนแล้วกันนะ 72 00:03:00,640 --> 00:03:02,160 หลายคนน่าจะทราบกันดีค่ะว่า 73 00:03:02,160 --> 00:03:04,800 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เนี่ย 74 00:03:05,000 --> 00:03:07,340 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกเลยนะคะ 75 00:03:07,360 --> 00:03:09,740 ที่เสด็จไปเรียนต่อที่ต่างประเทศค่ะ 76 00:03:09,740 --> 00:03:12,500 โดยเริ่มตั้งแต่เรียนที่ Home School นะคะ 77 00:03:12,620 --> 00:03:14,320 มีพระอาจารย์ต่าง ๆ มาสอน 78 00:03:14,380 --> 00:03:16,660 ไล่ไปจนกระทั่งถึงทรงไปเรียนด้านการทหาร 79 00:03:16,660 --> 00:03:18,480 ที่โรงเรียนนายร้อยแซนเฮิสต์นะคะ 80 00:03:18,600 --> 00:03:21,840 ต่อด้วยเรียนด้านพลเรือนที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ดค่ะ 81 00:03:21,940 --> 00:03:23,260 ซึ่งที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ดเนี่ย 82 00:03:23,260 --> 00:03:26,760 ก็มีการจัดวิชาเป็นหลักสูตรพิเศษให้ท่านได้ทรงศึกษานะคะ 83 00:03:27,020 --> 00:03:29,820 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองการปกครองอะไรต่าง ๆ 84 00:03:29,820 --> 00:03:34,300 เรียกได้ว่าเป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ปกครองในสมัยนั้น 85 00:03:34,300 --> 00:03:36,600 อย่างเช่นราชวงศ์อังกฤษต่าง ๆ ได้เรียนค่ะ 86 00:03:36,600 --> 00:03:39,120 ท่านก็เข้าไปเรียนในหลักสูตรนี้ด้วยนะคะ 87 00:03:39,340 --> 00:03:42,080 แต่รู้กันมั้ยคะว่าท่านเรียนอยู่ที่วิทยาลัยไหน 88 00:03:42,080 --> 00:03:43,440 ในมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด 89 00:03:43,600 --> 00:03:46,160 คือต้องบอกว่าออกฟอร์ดเนี่ยเป็นเมืองมหาวิทยาลัยค่ะ 90 00:03:46,160 --> 00:03:47,780 หลายคนน่าจะเคยดูคลิปที่ 91 00:03:47,920 --> 00:03:49,820 วิวพาไปเที่ยวที่ออกฟอร์ดมาแล้วนะคะ 92 00:03:49,980 --> 00:03:51,820 คือในออกฟอร์ดเนี่ยจะประกอบไปด้วย 93 00:03:51,820 --> 00:03:56,040 วิทยาลัยต่าง ๆ หลายวิทยาลัย อัดรวมกันอยู่ในเมืองค่ะ 94 00:03:56,380 --> 00:03:58,680 ซึ่งแต่ละวิทยาลัยเนี่ยก็จะมีความสำคัญ 95 00:03:58,680 --> 00:04:01,060 แล้วก็มีความเชี่ยวชาญไม่เหมือนกันค่ะ 96 00:04:01,360 --> 00:04:04,380 แต่วิทยาลัยที่พระองค์เสด็จไปศึกษาต่อเนี่ยนะคะ 97 00:04:04,380 --> 00:04:07,020 บอกเลยว่าน่าสนใจมาก ๆ สำหรับวิวค่ะ 98 00:04:07,020 --> 00:04:09,640 เพราะว่าวิทยาลัยที่พระองค์ทรงไปศึกษาต่อเนี่ยนะคะ 99 00:04:09,820 --> 00:04:12,640 ก็คือ Christ Church College นั่นเอง 100 00:04:12,640 --> 00:04:13,620 ชื่อคุ้น ๆ มั้ย 101 00:04:13,780 --> 00:04:15,540 ถ้าใครได้ดูคลิปที่วิวพูดถึงไปเนี่ย 102 00:04:15,540 --> 00:04:18,760 ก็จะเห็นว่าวิวได้ไปที่ Christ Church College ด้วยนะคะ 103 00:04:18,980 --> 00:04:21,400 เพราะว่าอะไร เพราะว่า Christ Church College ค่ะ 104 00:04:21,700 --> 00:04:25,160 เป็นสถานที่ถ่ายทำเรื่อง Harry Potter นั่นเองนะคะ 105 00:04:25,260 --> 00:04:27,280 ก็จะเห็นว่าภาพภายในของ Christ Church เนี่ยนะคะ 106 00:04:27,280 --> 00:04:31,080 จะเป็นภาพที่แฟนคลับของหนัง แฮร์รี่ พอตเตอร์เนี่ยคุ้นเคยกันดีค่ะ 107 00:04:31,080 --> 00:04:33,040 นอกจากนี้นะคะ แอบบอกเลยว่า 108 00:04:33,140 --> 00:04:34,540 Christ Church เนี่ยยังเป็นยังเป็น 109 00:04:34,760 --> 00:04:37,300 หนึ่งในแรงบันดาลใจที่สำคัญมาก ๆ นะคะ 110 00:04:37,360 --> 00:04:40,600 ของโรงเรียนฮอกวอตส์ในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์นั่นเอง 111 00:04:40,600 --> 00:04:42,820 เพราะอย่างเช่น ห้องรับประทานอาหารรวมเนี่ย 112 00:04:42,820 --> 00:04:44,660 ก็จะเห็นว่า ของที่ Christ Church เนี่ย 113 00:04:44,660 --> 00:04:46,140 เป็นห้องโถงยาว ๆ นะคะ 114 00:04:46,140 --> 00:04:49,060 แล้วก็เป็นโต๊ะยาว ๆ ๆ ๆ ค่ะ 115 00:04:49,240 --> 00:04:51,560 ส่วนสุดปลายโต๊ะนี่ก็จะเป็นโต๊ะอาจารย์นะคะ 116 00:04:51,560 --> 00:04:52,440 ภาพคุ้น ๆ มั้ย 117 00:04:52,440 --> 00:04:54,540 นี่แหละห้องรับประทานอาหารของแฮร์รี่ พอตเตอร์ 118 00:04:54,540 --> 00:04:55,880 เป๊ะ ๆ เลยนะคะทุกคน 119 00:04:55,960 --> 00:04:59,260 นอกจากนี้นะคะ ที่ Christ Church ยังมีความสำคัญอะไรอีก คือ 120 00:04:59,500 --> 00:05:03,380 ประมาณ 20-30 ปีก่อนที่พระองค์จะเสด็จไปศึกษาต่อเนี่ยนะคะ 121 00:05:03,500 --> 00:05:04,660 ที่ Christ Church แห่งนี้นะคะ 122 00:05:04,660 --> 00:05:07,880 ก็มีอาจารย์คนนึงค่ะ แต่งนิยายขึ้นมาเรื่องนึงนะคะ 123 00:05:07,980 --> 00:05:09,640 หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่ออยู่บ้างแหละ 124 00:05:09,660 --> 00:05:12,360 นั่นก็คือเรื่อง Alice in Wonderland นั่นเองนะคะ 125 00:05:12,380 --> 00:05:15,480 ซึ่งก็ใช้ Christ Church เป็นฉากในนั้นค่อนข้างมากเหมือนกันค่ะ 126 00:05:15,500 --> 00:05:18,720 ดังนั้น สำหรับแฟนคลับของสองเรื่องนี้ก็ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ 127 00:05:18,720 --> 00:05:20,340 ว่าเรื่องนี้จะมาเกี่ยวข้องกันได้ค่ะ 128 00:05:20,340 --> 00:05:23,880 นี่ก็คือ เรื่องราวเบา ๆ เรื่องแรกที่วิวนำมาฝากทุกคนนะคะ 129 00:05:23,960 --> 00:05:25,680 ไปต่อที่ข้อที่สองกันดีกว่าค่ะ 130 00:05:25,760 --> 00:05:27,460 จะหนักหน่วงขึ้นนิดนึงนะคะ 131 00:05:30,800 --> 00:05:33,360 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 132 00:05:33,360 --> 00:05:35,460 ข้อที่ 2 ที่วิวนำมาฝากทุกคนในวันนี้ 133 00:05:35,520 --> 00:05:37,740 ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องการศึกษาของพระองค์นะคะ 134 00:05:37,820 --> 00:05:41,280 ก็ต้องบอกเลยว่า การที่ทรงไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศเนี่ย 135 00:05:41,320 --> 00:05:43,640 แน่นอน ตามสไตล์ของคนที่ไปเรียนต่อทั่วไป 136 00:05:43,640 --> 00:05:46,480 ก็จะต้องมีการเขียนวิทยานิพนธ์ใช่มั้ยคะ 137 00:05:46,480 --> 00:05:49,780 แม้ว่าพระองค์จะไม่ได้ศึกษาหลักสูตรปริญญาเต็มรูปแบบ 138 00:05:49,780 --> 00:05:51,880 ที่จำเป็นจะต้องมีการเขียนวิทยานิพนธ์ 139 00:05:51,880 --> 00:05:54,440 มีการสอบไล่ มีการรับปริญญาต่าง ๆ 140 00:05:54,440 --> 00:05:56,120 เพราะว่าหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรพิเศษ 141 00:05:56,120 --> 00:05:57,880 ซึ่งจัดขึ้นสำหรับราชวงศ์ใช่มั้ย 142 00:05:57,920 --> 00:06:01,220 แต่ก่อนที่พระองค์จะเสด็จนิวัตกลับประเทศไทยเนี่ยนะคะ 143 00:06:01,240 --> 00:06:02,340 ฟรานซิส พาเจต์ (Francis Parget) นะคะ 144 00:06:02,340 --> 00:06:04,660 ซึ่งเป็นคณบดีของวิทยาลัยในตอนนั้นเนี่ย 145 00:06:04,680 --> 00:06:06,820 ก็ได้กราบบังคมทูลเชิญค่ะว่า 146 00:06:06,960 --> 00:06:10,180 ให้พระองค์เนี่ยพระราชนิพนธ์หนังสือทำนองวิทยานิพนธ์ได้มั้ย 147 00:06:10,200 --> 00:06:14,060 เพื่อเป็นที่ระลึกว่า ครั้งหนึ่งพระองค์เนี่ยเคยเสด็จมาศึกษาต่อที่นี่ค่ะ 148 00:06:14,080 --> 00:06:15,880 ซึ่งพระองค์ก็ตอบรับนะคะ 149 00:06:15,880 --> 00:06:20,220 แล้วก็พระราชนิพนธ์หนังสือวิทยานิพนธ์ ขึ้นมาทั้งหมด 1 เล่มด้วยกันค่ะ 150 00:06:20,340 --> 00:06:23,140 เล่มนั้นนะคะชื่อว่า "The War of The Polish Succession" ค่ะ 151 00:06:23,140 --> 00:06:25,780 หรือว่าที่มีการนำมาแปลเป็นภาษาไทยทีหลังว่า 152 00:06:25,780 --> 00:06:28,320 "สงครามสืบราชสมบัติโปลันด์" นั่นเองนะคะ 153 00:06:28,320 --> 00:06:30,900 ก็แน่นอนว่าพระองค์ศึกษาด้านประวัติศาสตร์ 154 00:06:30,900 --> 00:06:32,700 แล้วก็การเมืองการปกครองเป็นหลักนะคะ 155 00:06:32,700 --> 00:06:35,120 วิทยานิพนธ์ของพระองค์ก็เลยเกี่ยวข้องกับ 156 00:06:35,120 --> 00:06:37,940 ทั้งประวัติศาสตร์แล้วก็การเมืองการปกครองนั่นเองค่ะ 157 00:06:38,000 --> 00:06:39,560 ซึ่งหนังสือเล่มนี้บอกเลยว่า 158 00:06:39,640 --> 00:06:41,380 ได้รับการตีพิมพ์ที่ออกฟอร์ดด้วยนะคะ 159 00:06:41,380 --> 00:06:43,640 แล้วก็ค่อนข้างจะแพร่หลายถึงขนาดที่ว่า 160 00:06:43,640 --> 00:06:46,700 มีการนำไปจัดพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศสเลยทีเดียวนะคะ 161 00:06:46,740 --> 00:06:49,220 และต้องบอกเลยค่ะว่าหนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็น 162 00:06:49,340 --> 00:06:51,700 งานวิชาการเล่มแรก ๆ ของไทยเลยนะคะ 163 00:06:51,700 --> 00:06:54,620 ที่มีหลักการอ้างอิงแบบตะวันตกเป๊ะ ๆ ๆ 164 00:06:54,620 --> 00:06:57,640 เหมือนกับการทำงานวิชาการในสมัยปัจจุบันนี้ค่ะ 165 00:06:57,640 --> 00:07:00,840 เพราะว่าที่ผ่านมาเวลาคนไทยเขียนงานวิชาการอะไรก็ตาม 166 00:07:00,880 --> 00:07:03,720 ส่วนมากก็จะไม่ได้อ้างอิงอะไรเป๊ะ ๆ เท่าไหร่นะคะ 167 00:07:03,940 --> 00:07:06,120 ส่วนใครที่อยากลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูนะคะ 168 00:07:06,120 --> 00:07:07,200 หาไม่ยากเลยทีเดียวค่ะ 169 00:07:07,200 --> 00:07:08,900 ในจุฬาลงกรณ์ราชบรรณาลัยเนี่ย 170 00:07:08,900 --> 00:07:10,840 ก็มีไว้ให้อ่านทั้งเล่มเลยนะคะ 171 00:07:10,840 --> 00:07:13,500 แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านเวอร์ชันภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องค่ะ 172 00:07:13,500 --> 00:07:16,280 เพราะว่าราชเลขาธิการในพระองค์ในสมัยนั้นเนี่ย 173 00:07:16,280 --> 00:07:19,040 ก็ได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต 174 00:07:19,160 --> 00:07:20,960 แปลเป็นภาษาไทยเรียบร้อยนะคะ 175 00:07:21,040 --> 00:07:23,980 นอกจากนี้พระองค์ก็ได้ทรงตรวจแก้เพิ่มเติมไว้ด้วยนะคะ 176 00:07:24,100 --> 00:07:26,340 ดังนั้นก็สามารถลองไปหาอ่านกันได้นะคะ 177 00:07:29,440 --> 00:07:30,660 สำหรับข้อที่ 3 นี้นะคะ 178 00:07:30,660 --> 00:07:33,580 บอกเลยว่าจะเข้มข้นกว่าสองข้อที่ผ่านมานิดนึงค่ะ 179 00:07:33,660 --> 00:07:36,260 แม้ว่าเราจะยังวนเวียนอยู่กับชีวิตของพระองค์ 180 00:07:36,260 --> 00:07:38,160 ในสมัยที่พระองค์อยู่ที่ยุโรปนะคะ 181 00:07:38,340 --> 00:07:40,760 เอาจริง ๆ ส่วนตัววิวเนี่ยค่อนข้างจะสนใจเรื่องพวกนี้ 182 00:07:40,760 --> 00:07:42,860 เพราะว่าปกติเวลาเราศึกษา 183 00:07:42,860 --> 00:07:44,960 เรื่องเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระองค์เนี่ย 184 00:07:44,960 --> 00:07:46,720 ก็จะมาวนอยู่ที่ประเทศไทยเนอะว่า 185 00:07:46,980 --> 00:07:50,000 ตอนที่อยู่ในไทยมีพระราชกรณียกิจอะไรยังไงต่าง ๆ 186 00:07:50,000 --> 00:07:52,180 ซึ่งก็หาอ่านที่อื่นได้ค่อนข้างง่าย 187 00:07:52,180 --> 00:07:55,060 ดังนั้น เรื่องราวของพระองค์ในสมัยที่อยู่ที่ยุโรปเนี่ย 188 00:07:55,060 --> 00:07:56,540 จะค่อนข้างหาอ่านยากนิดนึง 189 00:07:56,540 --> 00:07:58,080 พอไปเจอมาวิวก็เลยรู้สึกว่า 190 00:07:58,080 --> 00:07:59,620 เฮ้ย มันน่าสนใจมากเลยทุกคน 191 00:07:59,620 --> 00:08:01,380 ก็เลยรวบรวมมาให้ทุกคนฟังค่ะ 192 00:08:01,420 --> 00:08:03,280 สำหรับข้อสามเนี่ยนะคะ บอกเลยว่า 193 00:08:03,520 --> 00:08:05,540 ในตอนที่พระองค์เสด็จไปศึกษาต่อเนี่ย 194 00:08:05,620 --> 00:08:07,820 พระองค์ไม่ได้ไปศึกษาต่ออย่างเดียวนะคะ 195 00:08:07,860 --> 00:08:11,120 แต่ว่าพระองค์เนี่ยทำหน้าที่ต่าง ๆ มากมายเลยค่ะ 196 00:08:11,120 --> 00:08:13,560 ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวรอบยุโรป 197 00:08:13,600 --> 00:08:16,000 ซึ่งการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ต่าง ๆ ของพระองค์เนี่ย 198 00:08:16,000 --> 00:08:17,340 ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวอะนะ 199 00:08:17,420 --> 00:08:20,300 คือต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วไปเป็นผู้แทนพระองค์ของ 200 00:08:20,360 --> 00:08:23,480 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บ้าง 201 00:08:23,600 --> 00:08:25,360 เดินทางท่องเที่ยวส่วนพระองค์บ้าง 202 00:08:25,380 --> 00:08:28,740 หรือว่าไปศึกษาดูงาน เช่น ด้านการทหารอะไรต่าง ๆ 203 00:08:28,740 --> 00:08:30,160 ที่ประเทศต่าง ๆ ในยุโรป 204 00:08:30,180 --> 00:08:33,400 ซึ่งต้องนับว่าเป็นศูนย์กลางอำนาจของโลกในสมัยนั้นบ้างนะคะ 205 00:08:33,440 --> 00:08:37,040 เพื่อที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศสยามในที่สุดค่ะ 206 00:08:37,140 --> 00:08:39,840 ทีนี้ก็ต้องบอกว่าพระองค์เนี่ยก็เลยมีโอกาสได้เข้าไป 207 00:08:39,840 --> 00:08:43,820 อยู่ร่วมกับเหตุการณ์สำคัญของยุโรป ในช่วงนั้นค่อนข้างมากนะคะ 208 00:08:43,880 --> 00:08:45,920 ไม่ว่าจะเป็นพระราชพิธีสำคัญ ๆ 209 00:08:45,920 --> 00:08:49,360 อย่างเช่น พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี 210 00:08:49,360 --> 00:08:52,240 หรือว่า Diamond Jubilee ของควีนวิกตอเรียแห่งอังกฤษเนี่ย 211 00:08:52,240 --> 00:08:54,540 พระองค์เนี่ยก็เป็นหนึ่งในพระราชอาคันตุกะ 212 00:08:54,540 --> 00:08:56,540 ของควีนวิกตอเรียเช่นเดียวกันนะคะ 213 00:08:56,580 --> 00:08:58,720 หรือแม้กระทั่งพระราชพิธีพระบรมศพ 214 00:08:58,780 --> 00:09:00,880 ของควีนวิกตอเรียในเวลาต่อมา 215 00:09:00,980 --> 00:09:04,480 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก คิงเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ของอังกฤษ 216 00:09:04,480 --> 00:09:06,440 ที่ครองราชย์ต่อจากควีนวิกตอเรีย 217 00:09:06,540 --> 00:09:08,960 พระองค์ก็เข้าไปมีส่วนร่วมเช่นเดียวกันนะคะ 218 00:09:09,020 --> 00:09:11,780 รวมถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ 219 00:09:11,820 --> 00:09:13,660 คิงอัลฟองโซที่ 13 แห่งสเปน 220 00:09:13,700 --> 00:09:17,040 ที่กรุงมาดริดนี่ พระองค์ก็เสด็จ เป็นการส่วนพระองค์เช่นเดียวกันนะคะ 221 00:09:17,060 --> 00:09:18,520 เห็นมั้ย พระองค์มีโอกาสได้เข้าร่วม 222 00:09:18,520 --> 00:09:20,740 อีเวนต์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ มากมายค่ะ 223 00:09:20,780 --> 00:09:22,380 ซึ่งการเข้าร่วมอีเวนต์เหล่านี้ 224 00:09:22,380 --> 00:09:25,900 ทำให้พระองค์มีโอกาสได้พบปะบุคคลที่เป็นบุคคลสำคัญ 225 00:09:25,900 --> 00:09:29,660 แล้วก็เป็นบุคคลที่เราจะคุ้นเคยในประวัติศาสตร์ยุโรปเนี่ย 226 00:09:29,800 --> 00:09:32,400 หลายต่อหลายคน และหลายต่อหลายพระองค์ค่ะ 227 00:09:32,400 --> 00:09:34,080 ตอนนี้วิวก็รวบรวมมาให้แล้วนะคะ 228 00:09:34,080 --> 00:09:36,160 เอาเฉพาะคนที่สำคัญ ๆ ที่เราคุ้นชื่อ 229 00:09:36,160 --> 00:09:38,940 ว่าพระองค์เนี่ยมีโอกาสได้ทรงพบเจอกับใครบ้างนะคะ 230 00:09:39,100 --> 00:09:42,600 อย่างใน พ.ศ. 2437 เนี่ยนะคะ ก็มีบันทึกค่ะ 231 00:09:42,600 --> 00:09:44,880 ว่าพระองค์เสด็จไปเสวยพระสุธารสชา 232 00:09:44,880 --> 00:09:47,120 กับควีนวิกตอเรียแห่งอังกฤษนะคะ 233 00:09:47,220 --> 00:09:50,600 แหม่ ก็เรียกได้ว่าสนิทชิดเชื้อกันพอสมควรนะในสมัยนั้น 234 00:09:50,880 --> 00:09:53,800 นอกจากนี้ค่ะ ในตอนที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินนะคะ 235 00:09:53,820 --> 00:09:56,020 ไปที่ประเทศออสเตรีย-ฮังการีเนี่ย 236 00:09:56,100 --> 00:09:59,360 พระองค์ก็มีโอกาสได้พบกับ อาร์ชดยุกฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ นะคะ 237 00:09:59,360 --> 00:10:00,440 คุ้นชื่อกันมั้ยคะทุกคน 238 00:10:00,520 --> 00:10:02,520 ใครฟังเรื่องประวัติสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมา 239 00:10:02,520 --> 00:10:03,580 น่าจะคุ้นกันดีค่ะ 240 00:10:03,660 --> 00:10:05,360 เพราะว่าอาร์ชดยุกฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ 241 00:10:05,360 --> 00:10:08,920 พระองค์นี้ก็คือมกุฎราชกุมารของออสเตรีย-ฮังการี 242 00:10:08,920 --> 00:10:11,220 ที่โดนลอบปลงพระชนม์พร้อมกับพระชายา 243 00:10:11,220 --> 00:10:14,320 แล้วกลายเป็นชนวนของสงครามโลกครั้งที่ 1 นั่นเองนะคะ 244 00:10:14,380 --> 00:10:16,960 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ของเราเนี่ย 245 00:10:16,960 --> 00:10:19,900 ก็มีโอกาสได้พบกับอาร์ชดยุกฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ พระองค์นี้ 246 00:10:19,900 --> 00:10:22,880 แล้วก็ถึงขนาดที่ทรงได้รับเชิญนะคะไปที่วัง 247 00:10:22,880 --> 00:10:25,440 ของอาร์ชดยุกฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ เลยทีเดียวค่ะ 248 00:10:25,680 --> 00:10:26,420 นอกจากนี้นะคะ 249 00:10:26,420 --> 00:10:29,160 ในตอนที่พระองค์สำเร็จการศึกษาแล้วเนี่ยนะคะ 250 00:10:29,340 --> 00:10:31,700 ตอนที่พระองค์จะเสด็จนิวัตพระนครเนี่ยนะคะ 251 00:10:31,800 --> 00:10:33,700 ปกติแล้วเนี่ยในสมัยที่ยังไม่มีเครื่องบิน 252 00:10:33,700 --> 00:10:36,060 เวลาเราจะกลับจากยุโรปมาที่สยามเนี่ย 253 00:10:36,100 --> 00:10:38,860 เราก็ควรจะกลับผ่านทางประมาณเส้นทางสายไหมถูกมั้ย 254 00:10:38,960 --> 00:10:41,980 คือผ่านทางอินเดีย มาพม่า แล้วก็มาที่สยามนะคะ 255 00:10:42,040 --> 00:10:42,780 แต่ตอนนั้นเนี่ยนะคะ 256 00:10:42,780 --> 00:10:45,460 ทางสยามจัดเส้นทางนิวัตพระนครให้พระองค์เนี่ย 257 00:10:45,460 --> 00:10:46,800 ให้กลับไปอีกด้านนึงค่ะ 258 00:10:46,860 --> 00:10:51,240 ก็คือ เสด็จผ่านทางสหรัฐอเมริกาแล้วก็ผ่านทางญี่ปุ่นค่ะ 259 00:10:51,300 --> 00:10:52,620 ซึ่งพระองค์ถือว่าเป็น 260 00:10:52,760 --> 00:10:55,500 พระบรมวงศานุวงศ์ไทยพระองค์แรกเลยนะคะ 261 00:10:55,500 --> 00:10:57,600 ที่เสด็จไปที่สหรัฐอเมริกาค่ะ 262 00:10:57,600 --> 00:11:00,900 และที่สหรัฐอเมริกาเนี่ยก็มีการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติเนอะ 263 00:11:00,900 --> 00:11:03,820 โดยพระองค์มีโอกาสได้พบกับ ธีโอดอร์ รูสเวลต์ นะคะ 264 00:11:03,820 --> 00:11:07,400 ที่เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในยุคสมัยนั้น 265 00:11:07,460 --> 00:11:10,280 ซึ่งถ้าใครคุ้น ๆ ชื่อของ ธีโอดอร์ รูสเวลต์ 266 00:11:10,280 --> 00:11:12,600 คนนี้ก็คือ ประธานาธิบดี 1 ใน 4 คน 267 00:11:12,600 --> 00:11:14,560 ที่มีหน้าอยู่บนเมานท์รัชมอร์นะคะ 268 00:11:14,800 --> 00:11:18,120 และที่สำคัญ ธีโอดอร์ รูสเวลต์ เนี่ยก็มีชื่อเล่นว่าเท็ดดี้ 269 00:11:18,120 --> 00:11:20,440 ที่เป็นที่มาของ Teddy Bear นั่นเองค่ะ 270 00:11:20,560 --> 00:11:22,840 หลังจากเสด็จออกจากสหรัฐอเมริกาแล้วเนี่ยนะคะ 271 00:11:22,840 --> 00:11:25,200 พระองค์ก็เสด็จต่อมายังประเทศญี่ปุ่นค่ะ 272 00:11:25,240 --> 00:11:28,780 ซึ่งที่ญี่ปุ่นนี่ก็มีการจัดการต้อนรับ แบบสมพระเกียรติเช่นเดียวกันนะคะ 273 00:11:28,840 --> 00:11:30,660 และพระองค์ก็มีโอกาสได้เข้าเฝ้า 274 00:11:30,860 --> 00:11:32,920 สมเด็จพระจักรพรรดิมัทสึฮิโตะนะคะ 275 00:11:32,960 --> 00:11:34,360 หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ 276 00:11:34,360 --> 00:11:37,680 สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิของญี่ปุ่นในยุคสมัยนั้นด้วยค่ะ 277 00:11:37,720 --> 00:11:41,080 ก็เป็นการกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในยุคสมัยนั้นนะคะ 278 00:11:41,240 --> 00:11:43,920 ถ้าใครหลาย ๆ คนจำได้จากคลิปที่วิวเคยทำว่า 279 00:11:44,000 --> 00:11:46,180 ศาลเจ้าญี่ปุ่นกับวัดญี่ปุ่นแตกต่างกันยังไง 280 00:11:46,200 --> 00:11:48,600 แล้ววิวพาไปดูวัดไดบุทสึที่วัดโคโตคุอิน 281 00:11:48,600 --> 00:11:49,980 ที่คามาคุระเนี่ย 282 00:11:49,980 --> 00:11:51,620 ก็จะเห็นว่าวิวเล่าว่าในวัดเนี่ย 283 00:11:51,620 --> 00:11:54,340 มีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมา 284 00:11:54,480 --> 00:11:57,060 ทรงปลูกต้นสนไว้เมื่อคราวเสด็จมาที่นี่นะคะ 285 00:11:57,060 --> 00:11:58,820 ก็ในคราวนั้นนั่นเองค่ะ 286 00:11:58,860 --> 00:12:00,780 คือพระองค์นี่นอกจากจะอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว 287 00:12:00,780 --> 00:12:04,420 ก็มีการท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกันค่ะ 288 00:12:07,760 --> 00:12:10,760 สำหรับเรื่องน่ารู้ข้อที่ 4 เนี่ยนะคะ ยังอยู่ที่การเดินทางค่ะ 289 00:12:10,760 --> 00:12:13,460 เพราะว่าในระหว่างที่พระองค์เดินทางไปที่ต่าง ๆ เนี่ย 290 00:12:13,540 --> 00:12:16,240 นอกจากพระองค์จะไปศึกษาดูงานด้านการทหาร 291 00:12:16,240 --> 00:12:18,660 ไปเจริญสัมพันธไมตรีอะไรต่าง ๆ แล้วเนี่ยนะคะ 292 00:12:18,660 --> 00:12:20,900 พระองค์ยังได้จดบันทึกเหตการณ์เหล่านั้น 293 00:12:20,900 --> 00:12:23,600 ออกมาเป็นพระราชนิพนธ์หลายต่อหลายเล่มด้วยกันค่ะ 294 00:12:23,740 --> 00:12:26,220 ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง The Germany Series นะคะ 295 00:12:26,340 --> 00:12:28,080 หรืออีกเล่มนึงที่วิวชอบมาก ๆ เลยค่ะ 296 00:12:28,080 --> 00:12:30,640 นั่นก็คือ The Letters to the Butterflies นะคะ 297 00:12:30,660 --> 00:12:32,780 ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในเวลาต่อมา 298 00:12:32,780 --> 00:12:35,860 โดย ม.ล.ปิ่น มาลากุล น่ะนะ ว่า จดหมายถึงผีเสื้อ 299 00:12:35,860 --> 00:12:38,080 ซึ่งเล่มนี้นะคะ จะเป็นบันทึกการเดินทางของพระองค์ 300 00:12:38,080 --> 00:12:40,340 ระหว่างที่เสด็จไปที่ออสเตรีย-ฮังการีค่ะ 301 00:12:40,400 --> 00:12:42,960 ที่วิวเล่าไปเรื่องไปพบอาร์ชดยุกฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ 302 00:12:42,960 --> 00:12:44,580 ก็อยูในเล่มนี้ด้วยเช่นกันนะคะ 303 00:12:44,660 --> 00:12:47,780 นอกจากนี้นะคะ ในเล่มนี้พระองค์ก็ได้บันทึกพระราชกรณียกิจ 304 00:12:47,780 --> 00:12:48,900 ที่ได้ทำในแต่ละวัน 305 00:12:48,900 --> 00:12:51,380 รวมถึงบันทึกสิ่งที่พระองค์พบเห็น 306 00:12:51,420 --> 00:12:54,200 กึ่ง ๆ เป็นหนังสือบันทึกการเดินทางเอาไว้ด้วยนะคะ 307 00:12:54,300 --> 00:12:57,720 ซึ่งหลายคนที่ชอบอ่านบันทึกการเดินทาง pocketbook ต่าง ๆ ในยุคสมัยนี้ 308 00:12:57,720 --> 00:12:59,460 บอกเลยว่าเล่มนี้สนุกค่ะ 309 00:12:59,460 --> 00:13:01,420 แล้วก็เป็นสไตล์ประมาณนั้นเลยนะคะ 310 00:13:01,500 --> 00:13:03,440 โดย Letters to the Butterflies เนี่ยนะคะ 311 00:13:03,520 --> 00:13:06,480 ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น The Letters นะ ก็คือเป็นจดหมาย 312 00:13:06,480 --> 00:13:08,740 ในเล่มนี้จะเขียนเป็นรูปแบบของจดหมายค่ะ 313 00:13:08,740 --> 00:13:11,180 ซึ่งส่งไปถึงคณะผีเสื้อนะคะ 314 00:13:11,180 --> 00:13:13,600 ซึ่งก็คือ พระสหายของพระองค์น่ะแหละ 315 00:13:13,600 --> 00:13:15,500 ทีนี้เราไม่มีหลักฐานนะคะว่า 316 00:13:15,540 --> 00:13:17,300 จดหมายเหล่านี้ได้ส่งออกไปจริง ๆ 317 00:13:17,300 --> 00:13:20,960 หรือว่าเป็นแค่เหมือนกับพระราชนิพนธ์ในรูปแบบจดหมายค่ะ 318 00:13:20,960 --> 00:13:21,960 แต่ว่าในทุกวันเนี่ย 319 00:13:21,960 --> 00:13:24,840 ก็จะเหมือนพระองค์เขียนจดหมายหนึ่งฉบับ ๆ ๆ 320 00:13:24,840 --> 00:13:27,040 เพื่อพระราชทานให้กับพระสหายนั่นเองค่ะ 321 00:13:27,160 --> 00:13:28,460 ทีนี้ เนื้อหาด้านในนะคะ 322 00:13:28,460 --> 00:13:31,640 ก็จะเล่าถึงสถานที่สำคัญต่าง ๆ หลากหลายสถานที่เลยค่ะ 323 00:13:31,640 --> 00:13:33,720 ไม่ว่าจะเป็น วังเชิงบรุน 324 00:13:33,780 --> 00:13:35,880 ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 325 00:13:35,880 --> 00:13:37,840 ที่ใครไปเที่ยวออสเตรียก็จะต้องไปดูใช่ไหมคะ 326 00:13:37,840 --> 00:13:39,620 เพราะว่าเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ 327 00:13:39,620 --> 00:13:41,900 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแวร์ซายส์ 328 00:13:41,960 --> 00:13:44,240 หรือว่าพูดถึงพระราชวังฮอฟบูรก์ 329 00:13:44,300 --> 00:13:46,420 ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ก็จัดเป็นที่ประทับ 330 00:13:46,420 --> 00:13:48,820 ให้กับพระองค์ตอนที่เสด็จไปที่นั่นนะคะ 331 00:13:48,940 --> 00:13:51,860 ปัจจุบันนี่ก็เป็นทำเนียบประธานาธิบดีออสเตรียใช่มั้ย 332 00:13:51,860 --> 00:13:54,980 ถ้าสมมติว่าใครเคยไปที่ออสเตรียเนี่ยน่าจะชอบเล่มนี้มาก ๆ ค่ะ 333 00:13:54,980 --> 00:13:57,860 เพราะว่าสามารถอ่านแล้วก็ลองเทียบกับสมัยปัจจุบันได้ว่า 334 00:13:57,860 --> 00:13:59,620 เออสิ่งที่พระองค์พบเห็นในสมัยนั้น 335 00:13:59,620 --> 00:14:01,580 กับในสิ่งที่เราจะไปเจอในสมัยนี้ 336 00:14:01,580 --> 00:14:03,000 มันยังเหมือนยังต่างกันยังไง 337 00:14:03,000 --> 00:14:04,580 เพราะเราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า 338 00:14:04,780 --> 00:14:08,620 ยุโรปเนี่ยค่อนข้างเก่ง ด้านการเก็บพวกโบราณสถานเหล่านี้เอาไว้นะคะ 339 00:14:08,640 --> 00:14:11,680 ในสภาพที่มันเคยเป็นอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อนค่ะ 340 00:14:11,760 --> 00:14:14,220 เอาจริง ๆ ที่กำลังมากรี๊ดกร๊าดเล่มนี้ให้ทุกคนฟังเนี่ย 341 00:14:14,260 --> 00:14:15,600 เพราะว่าวิวอ่านเล่มนี้แล้ว 342 00:14:15,600 --> 00:14:18,540 ค่อนข้างชอบสำนวนมาก ๆ ๆ ๆ เลยนะคะ 343 00:14:18,780 --> 00:14:21,620 หลายคนจะคุ้นเคยกับพระราชนิพนธ์ที่เป็นร้อยกรอง 344 00:14:21,640 --> 00:14:23,680 เป็นโคลงกาพย์ร่ายกลอนของพระองค์นะคะ 345 00:14:23,720 --> 00:14:25,860 แต่จะไม่คุ้นเคยกับงานเขียนที่เป็นร้อยแก้ว 346 00:14:26,100 --> 00:14:28,020 บอกเลยว่าถ้าอ่านแล้วจะติดใจค่ะ 347 00:14:28,080 --> 00:14:30,240 เรียกได้ว่าสำนวนดีกว่านักเขียนดัง ๆ หลาย ๆ คน 348 00:14:30,240 --> 00:14:32,640 ในยุคสมัยปัจจุบันมากเลยทีเดียวนะคะ 349 00:14:32,700 --> 00:14:35,600 ไม่ว่าจะเป็นพระราชนิพนธ์ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ตาม 350 00:14:35,600 --> 00:14:37,220 บอกเลยว่าคมคายจริง ๆ ค่ะ 351 00:14:37,240 --> 00:14:39,700 อย่างเล่มนี้ขออนุญาตหยิบมาแค่ 1 paragraph 352 00:14:39,700 --> 00:14:40,980 มาอ่านให้ทุกคนฟังนะคะ 353 00:14:40,980 --> 00:14:43,480 เพราะว่าอันนี้ตอนที่วิวอ่านเจอ วิวกรี๊ดมากค่ะ 354 00:14:43,480 --> 00:14:45,540 แล้ววิวก็เอาไปโพสต์เป็นสเตตัสลงในเฟซบุ๊ก 355 00:14:45,540 --> 00:14:47,100 มีคนมากด Like เต็มไปหมดเลยนะ 356 00:14:47,100 --> 00:14:49,020 แทบทุกคนนี่ตื่นเต้นมากเลยนะคะว่า 357 00:14:49,020 --> 00:14:51,020 เฮ้ย พระราชนิพนธ์มีเขียนอะไรแบบนี้ด้วย 358 00:14:51,020 --> 00:14:52,560 อะ มาอ่านให้ฟังเลยดีกว่าค่ะ 359 00:14:52,740 --> 00:14:54,740 ในนี้พระราชนิพนธ์เป็นจดหมายใช่มั้ย 360 00:14:54,760 --> 00:14:57,280 ดังนั้น นี่คือข้อความที่ส่งไปหาคณะผีเสื้อนะคะ 361 00:14:57,320 --> 00:14:58,720 พระองค์พระราชนิพนธ์ไว้ว่า 362 00:14:58,960 --> 00:15:01,680 "ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องพูดซ้ำ ๆ ซาก ๆ ว่า 363 00:15:01,900 --> 00:15:06,460 "ฉันเสียใจปานใด และเหงาปานใด ที่ต้องจากพี่จากน้องที่รักมา 364 00:15:06,560 --> 00:15:10,120 "ฉันบอกแล้วว่าเหมือนหัวใจแตกออกเป็นชิ้น ๆ สามพันชิ้น 365 00:15:10,280 --> 00:15:13,100 "และพี่น้องสามคนรับเอาไปคนละพันชิ้น" 366 00:15:13,240 --> 00:15:16,120 อู้หู เป็นไง อ่านแค่นี้ให้ฟัง แค่สี่บรรทัด 367 00:15:16,340 --> 00:15:19,540 I love you 3,000 ก่อนกาลที่แท้ทรูนะคะทุกคน 368 00:15:19,700 --> 00:15:21,520 ก็ถ้าใครอยากหาจดหมายถึงผีเสื้อ 369 00:15:21,520 --> 00:15:23,560 หรือว่า The Letters to the Butterflies อ่านนะคะ 370 00:15:23,560 --> 00:15:25,100 ในจุฬาลงกรณ์ราชบรรณาลัย 371 00:15:25,100 --> 00:15:27,860 ก็มีเวอร์ชันแปลให้อ่านเช่นเดียวกันค่ะ 372 00:15:31,120 --> 00:15:32,460 ผ่านไปแล้วสี่ข้อนะคะ 373 00:15:32,480 --> 00:15:35,000 บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในต่างประเทศล้วน ๆ 374 00:15:35,000 --> 00:15:37,640 ดังนั้น ข้อห้าเรากลับมาที่ประเทศไทย 375 00:15:37,640 --> 00:15:40,140 หรือว่าประเทศสยามในยุคนั้นกันดีกว่าค่ะ 376 00:15:40,240 --> 00:15:42,900 บอกเลยนะคะว่าสยามในยุคของรัชกาลที่ 6 เนี่ย 377 00:15:43,140 --> 00:15:45,820 มีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกมากมายเลยค่ะ 378 00:15:45,820 --> 00:15:49,300 ไม่ว่าจะเป็นธงไตรรงค์ที่เราใช้กันถึงปัจจุบันนี้ 379 00:15:49,540 --> 00:15:51,180 การนับเวลาแบบ GMT+7 380 00:15:51,180 --> 00:15:54,100 หรือว่าการนับเวลาตาม Greenwich Mean Time เนี่ย 381 00:15:54,280 --> 00:15:57,780 ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เช่นเดียวกันค่ะ 382 00:15:57,840 --> 00:15:59,820 รวมไปถึงการกำหนดสีขบวนเสด็จนะคะ 383 00:15:59,820 --> 00:16:02,320 ว่ารถยนต์พระที่นั่งจะต้องเป็นสีงาช้าง 384 00:16:02,320 --> 00:16:05,600 อะไรแบบปัจจุบันใช้กันก็เกิดขึ้นในสมัยนี้เช่นเดียวกันนะคะ 385 00:16:05,680 --> 00:16:07,620 แต่เรื่องที่วิวจะนำมาเล่าให้ทุกคนฟังในวันนี้ 386 00:16:07,620 --> 00:16:10,240 ก็คือเรื่องราวของคำคำนึงค่ะ 387 00:16:10,540 --> 00:16:13,660 ซึ่งเป็นคำที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนรู้จักกันดีอยู่แล้วนะคะ 388 00:16:13,660 --> 00:16:14,940 น่าจะเคยใช้กันด้วยแหละ 389 00:16:15,180 --> 00:16:17,580 โดยเฉพาะใครก็ตามที่เคยร้องเพลงชาติไทย 390 00:16:17,580 --> 00:16:19,320 เคยร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 391 00:16:19,620 --> 00:16:22,380 หรือว่าเคยไปงานแต่งงานเคยใช้คำคำนี้แน่ ๆ นะคะ 392 00:16:22,380 --> 00:16:25,680 นั่นก็คือคำว่า ชโย หรือคำว่า ไชโย นั่นเองค่ะ 393 00:16:25,820 --> 00:16:29,660 บอกเลยว่าคำคำนี้ ชาวไทยเริ่มมาใช้กันในสมัยรัชกาลที่ 6 นี่แหละค่ะ 394 00:16:29,900 --> 00:16:32,600 และที่สำคัญเกิดขึ้นจากพระราชนิพนธ์นะคะ 395 00:16:32,740 --> 00:16:34,200 ว่าแต่มันเกิดขึ้นได้ยังไง 396 00:16:34,260 --> 00:16:37,160 ก็ต้องบอกว่าเกิดขึ้นจากเพลงสรรเสริญพระบารมีนี่แหละค่ะ 397 00:16:37,280 --> 00:16:38,740 แม้ว่าเพลงสรรเสริญพระบารมีเนี่ย 398 00:16:38,740 --> 00:16:40,980 จริง ๆ จะไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 นะคะ 399 00:16:40,980 --> 00:16:42,700 เพลงสรรเสริญพระบารมีของไทยเนี่ย 400 00:16:42,700 --> 00:16:45,240 ต้องบอกว่ามีประวัติยาวนานค่ะ ถ้าเล่าจะยาวมาก 401 00:16:45,300 --> 00:16:47,160 แต่เอาเป็นว่ามันมีตั้งแต่เวอร์ชันเพลงไทย 402 00:16:47,160 --> 00:16:48,620 เป็นเพลงประโคมอะไรต่าง ๆ 403 00:16:48,640 --> 00:16:50,920 ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 มาเรื่อย ๆ นะคะ 404 00:16:51,060 --> 00:16:53,140 จนกระทั่งเพลงสรรเสริญพระบารมี 405 00:16:53,140 --> 00:16:55,560 เวอร์ชันแบบคล้าย ๆ ปัจจุบันที่เราใช้อยู่เนี่ย 406 00:16:55,580 --> 00:16:57,460 เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ค่ะ 407 00:16:57,560 --> 00:17:00,540 ความแตกต่างจุดหนึ่งที่ต่างจากในสมัยปัจจุบันก็คือ 408 00:17:00,640 --> 00:17:02,520 เพลงสรรเสริญพระบารมีในสมัยนั้นเนี่ยนะคะ 409 00:17:02,520 --> 00:17:05,200 มีเนื้อร้องถึง 5 เวอร์ชันด้วยกันค่ะ 410 00:17:05,200 --> 00:17:08,440 คือแต่ละเวอร์ชันเนี่ยก็แต่งขึ้นตามสถานการณ์ต่าง ๆ 411 00:17:08,440 --> 00:17:10,280 ที่จะได้ใช้เพลงในครั้งนั้น ๆ นะคะ 412 00:17:10,280 --> 00:17:13,140 ประมาณว่า อะ ครั้งนี้ใช้กับแบบนี้ก็ใช้เนื้อเพลงแบบนี้ 413 00:17:13,160 --> 00:17:15,680 ครั้งนี้เกิดขึ้นแบบนี้ก็ใช้เนื้อเพลงแบบนั้นนั่นเองค่ะ 414 00:17:15,840 --> 00:17:18,360 และที่สำคัญนะคะ เรื่องราวที่เราจะเล่าต่อไปนี้ 415 00:17:18,620 --> 00:17:21,800 มันอยู่ที่ประโยคสุดท้ายของเพลงสรรเสริญพระบารมีค่ะ 416 00:17:21,900 --> 00:17:23,800 ในสมัยปัจจุบันเราร้องกันว่าอะไรคะ 417 00:17:23,840 --> 00:17:26,060 "ดุจถวายชัย ชโย" ใช่มั้ยคะ 418 00:17:26,320 --> 00:17:28,440 แต่ว่าในสมัยรัชกาลที่ 5 เนี่ย 419 00:17:28,440 --> 00:17:30,100 เพลงนี้จบลงด้วยคำว่า 420 00:17:30,100 --> 00:17:31,660 "ดุจถวายชัย ฉะนี้" 421 00:17:31,660 --> 00:17:34,840 ก็แปลว่า อาจจะถวายชัยแบบนี้นี่แหละ ประมาณนี้นะคะ 422 00:17:34,960 --> 00:17:37,740 ทีนี้ เรื่องราวก็เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ค่ะ 423 00:17:37,840 --> 00:17:40,640 ในคราวนึงนะคะ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวค่ะ 424 00:17:40,720 --> 00:17:44,200 นำลูกเสือ เสือป่า ตำรวจตระเวนชายแดนอะไรต่าง ๆ เนี่ยนะคะ 425 00:17:44,200 --> 00:17:47,020 เดินทางไกลค่ะ จากพระราชวังสนามจันทร์นะคะ 426 00:17:47,020 --> 00:17:50,820 ไปที่พระเจดีย์ยุทธหัตถี ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นะคะ 427 00:17:50,820 --> 00:17:51,940 ที่ดอนเจดีย์ค่ะ 428 00:17:51,940 --> 00:17:54,360 ก็ตั้งใจจะไปบวงสรวงสังเวยอะไรต่าง ๆ ใช่มั้ย 429 00:17:54,440 --> 00:17:56,800 ทีนี้ค่ะ ในคืนที่สองของการเดินทางไกลเนี่ยนะคะ 430 00:17:56,800 --> 00:17:59,640 ก็สไตล์การเข้าค่ายเนี่ย ปกติก็จะต้องมีการเรียกลูกเสือ 431 00:17:59,640 --> 00:18:01,860 มาชุมนุมกันอะไรต่าง ๆ ก่อนนอนใช่มั้ย 432 00:18:01,860 --> 00:18:03,280 คืนนั้นก็เช่นเดียวกันค่ะ 433 00:18:03,280 --> 00:18:06,440 พระองค์ก็ทรงเรียกลูกเสือ เสือป่า อะไรต่าง ๆ 434 00:18:06,540 --> 00:18:09,000 มาชุมนุมพร้อมกันที่หน้าพลับพลาที่ประทับนะคะ 435 00:18:09,000 --> 00:18:12,380 แล้วก่อนนอนก็ต้องมีการจุดเทียน สวดมนต์อะไรต่าง ๆ 436 00:18:12,420 --> 00:18:14,420 หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีการอะไรต่าง ๆ แล้วเนี่ย 437 00:18:14,420 --> 00:18:18,120 ก็จะต้องมีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกันเกิดขึ้นใช่มั้ยคะ 438 00:18:18,360 --> 00:18:20,420 ถามว่าพอร้องขึ้นมาเกิดอะไรขึ้น 439 00:18:20,780 --> 00:18:24,540 คือเสือป่า ลูกเสืออะไรต่าง ๆ เนี่ย มาจากคนละหมู่กันใช่มั้ยคะ 440 00:18:24,560 --> 00:18:26,680 มาจากคนละหมู่คนละกอง คนละที่กัน 441 00:18:26,960 --> 00:18:29,420 พอมาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้นพร้อมกันเนี่ย 442 00:18:29,640 --> 00:18:31,540 แต่ละที่ร้องกันคนละเวอร์ชันค่ะ 443 00:18:31,540 --> 00:18:34,140 ดังนั้น พอร้องกันขึ้นมาก็ตีกันเละไปหมดนะคะ 444 00:18:34,220 --> 00:18:35,760 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 445 00:18:35,780 --> 00:18:37,800 ก็เลยทรงมีพระราชดำรินะคะว่า 446 00:18:37,800 --> 00:18:40,140 เราควรจะมีเนื้อเพลงสรรเสริญพระบารมี 447 00:18:40,140 --> 00:18:42,600 ที่เป็นเวอร์ชันหลักเวอร์ชันเดียวได้แล้วค่ะ 448 00:18:42,660 --> 00:18:45,480 ดังนั้นในวันรุ่งขึ้นนะคะ พระองค์ก็เลยพระราชนิพนธ์ 449 00:18:45,540 --> 00:18:48,160 เนื้อเพลงสรรเสริญพระบารมีเวอร์ชันใหม่ขึ้นมาค่ะ 450 00:18:48,160 --> 00:18:50,140 โดยปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันเดิมนะ 451 00:18:50,140 --> 00:18:51,160 แทบจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย 452 00:18:51,160 --> 00:18:53,480 แต่ว่าจุดหลัก ๆ ที่เปลี่ยนจุดนึงเนี่ยก็คือ 453 00:18:53,480 --> 00:18:54,940 ตอนจบของเพลงเนี่ยล่ะค่ะ 454 00:18:54,980 --> 00:18:56,420 เวอร์ชันเดิมร้องว่าอะไรคะ 455 00:18:56,580 --> 00:18:58,320 "ดุจถวายชัย ฉะนี้" 456 00:18:58,440 --> 00:19:00,640 ทีนี้ "นี้" คือเสียงสูงใช่มั้ย 457 00:19:00,740 --> 00:19:04,040 แต่ถ้าใครเล่นดนตรีเป็นแล้วเคยอยู่วงดุริยางค์โรงเรียนอะไร 458 00:19:04,040 --> 00:19:07,060 น่าจะคุ้นเคยกับโน้ตเพลงสรรเสริญพระบารมีกันดีนะคะ 459 00:19:07,060 --> 00:19:08,660 โน้ตเพลงตอนจบ ทำนองมันเป็นยังไง 460 00:19:08,720 --> 00:19:11,420 [ดนตรี] 461 00:19:11,480 --> 00:19:13,980 เสียงมันกลาง ๆ ใช่มั้ย มันไม่ได้ขึ้นสูงแบบ "ฉะนี้" 462 00:19:14,100 --> 00:19:16,880 ดังนั้น เวลาคนเอาเนื้อร้องมาร้องประกอบกับโน้ตเนี่ย 463 00:19:16,880 --> 00:19:17,800 มันก็เลยกลายเป็น 464 00:19:17,800 --> 00:19:19,960 [ดนตรี] ดุจถวายชัย ชะนี 465 00:19:20,000 --> 00:19:22,220 ซึ่ง อันนี้มีบันทึกนะว่าพระองค์รู้สึกว่า 466 00:19:22,220 --> 00:19:24,560 มันเหมือนคำว่า "ชะนี" เกินไป มันไม่โอเค 467 00:19:24,560 --> 00:19:26,620 ซึ่ง ชะนี ในสมัยนั้น ไม่ได้มีความหมายแบบทุกวันนี้นะ 468 00:19:26,700 --> 00:19:29,040 แต่ว่ามันก็ดูเป็นเหมือนแบบ "ดุจถวายชัย ชะนี" 469 00:19:29,040 --> 00:19:29,880 ไม่ได้เป็น "ฉะนี้" 470 00:19:29,880 --> 00:19:32,900 สุดท้ายค่ะ พระองค์ก็เลยทรงเปลี่ยนเนื้อเพลงนะคะ 471 00:19:32,900 --> 00:19:34,700 จาก "ดุจถวายชัย ฉะนี้" 472 00:19:34,700 --> 00:19:37,640 กลายเป็น "ดุจถวายชัย ชโย" นั่นเอง 473 00:19:37,640 --> 00:19:38,600 ซึ่งคำว่า "ชโย" เนี่ย 474 00:19:38,600 --> 00:19:40,900 มันก็มีความหมายที่เป็นความหมายดีอยู่แล้วใช่มั้ย 475 00:19:40,900 --> 00:19:44,000 หมายถึง victory หมายถึง ชัยชนะ อะไรต่าง ๆ ค่ะ 476 00:19:44,220 --> 00:19:45,580 ดังนั้น คำว่า "ชโย" นะคะ 477 00:19:45,580 --> 00:19:47,860 ก็เลยเริ่มใช้ในประเทศสยามเป็นครั้งแรก 478 00:19:47,860 --> 00:19:52,960 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2456 นั่นเองค่ะ 479 00:19:53,000 --> 00:19:55,900 และที่สำคัญนะคะ หลังจากนั้นไม่กี่วัน หลังจากวันที่ 22 เนี่ย 480 00:19:55,900 --> 00:19:59,200 ในวันที่ 28 เนี่ย หลังจากที่บวงสรวงสังเวย 481 00:19:59,200 --> 00:20:01,120 อนุสรณ์ดอนเจดีย์สำเร็จแล้วเนี่ยนะคะ 482 00:20:01,180 --> 00:20:04,540 ปกติตามธรรมเนียมดั้งเดิมเนี่ยเวลาจบพิธีบวงสรวงอะไรต่าง ๆ 483 00:20:04,560 --> 00:20:07,500 คนไทยจะทำยังไงคะเพื่อแสดงความยินดีต่าง ๆ 484 00:20:07,560 --> 00:20:09,240 เขาก็มักจะ "โห่ ฮิ้ว!!" กันใช่มั้ยคะ 485 00:20:09,240 --> 00:20:10,940 เหมือนที่เราได้ยินกันตามงานบวช อะไรแบบ 486 00:20:11,000 --> 00:20:13,200 โห่ ฮี้ โห่ ฮี้ โห่ ฮี้ โหย ฮิ้ว สามครั้ง 487 00:20:13,200 --> 00:20:15,140 ซึ่งเขาเรียกว่า โห่สามลาค่ะ 488 00:20:15,260 --> 00:20:17,660 แต่ทีนี้ หลังจากเกิดคำว่า ชโย ขึ้นแล้ว 489 00:20:17,660 --> 00:20:19,280 ก็เกิดธรรมเนียมใหม่ขึ้นมานะคะ 490 00:20:19,380 --> 00:20:22,100 คือพวกเสือป่า ลูกเสือ ทหาร ตำรวจ นะคะ 491 00:20:22,220 --> 00:20:24,300 ก็เปลี่ยนจากการโห่ฮิ้วแบบเดิมเนี่ยนะคะ 492 00:20:24,340 --> 00:20:27,480 เป็นการร้องคำว่า ไชโย ๆ ๆ แทนค่ะ 493 00:20:27,560 --> 00:20:29,560 ดังนั้น ธรรมเนียมของการใช้คำว่า ไชโย เนี่ย 494 00:20:29,560 --> 00:20:31,080 ก็เผยแพร่ไปเรื่อย ๆ นะคะ 495 00:20:31,100 --> 00:20:33,780 เข้าไปในวงการโขน ไปใช้แทนการโห่ฮิ้ว 496 00:20:33,780 --> 00:20:35,000 และอื่น ๆ อีกมากมาย 497 00:20:35,000 --> 00:20:39,100 สุดท้ายคำว่าไชโยก็เลยแพร่หลาย มาจนถึงในสมัยปัจจุบันนั่นเองค่ะ 498 00:20:42,360 --> 00:20:44,680 และแล้วนะคะเราก็มาถึงข้อสุดท้ายในที่สุดค่ะ 499 00:20:44,680 --> 00:20:47,700 เสียใจมากนะคะ จริง ๆ มีเกร็ดความรู้สนุก ๆ อีกมากมายเลย 500 00:20:47,700 --> 00:20:48,840 ที่อยากเล่าให้ทุกคนฟัง 501 00:20:48,840 --> 00:20:51,020 แต่ว่าด้วยความที่มันจำกัดแค่ 6 ข้อนะ 502 00:20:51,020 --> 00:20:52,940 ดังนั้น ข้อนี้วิวขออนุญาต 503 00:20:52,940 --> 00:20:56,040 ยกพระราชสมัญญาของพระองค์ ขึ้นมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ 504 00:20:56,340 --> 00:20:57,840 เราทุกคนเนี่ย น่าจะรู้กันดีว่า 505 00:20:57,840 --> 00:20:59,900 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนี่ย 506 00:21:00,000 --> 00:21:02,960 ได้รับการถวายพระราชสมัญญานามนะคะว่า 507 00:21:03,080 --> 00:21:05,400 สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ที่แปลว่า 508 00:21:05,400 --> 00:21:08,120 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นนักปราชญ์ นั่นเองค่ะ 509 00:21:08,220 --> 00:21:09,020 ถามว่าเพราะอะไร 510 00:21:09,020 --> 00:21:10,700 แน่นอนว่า เราเห็นได้ชัดนะคะว่า 511 00:21:10,700 --> 00:21:13,380 พระองค์เนี่ย เป็นทั้งนักคิดนักเขียน อะไรต่าง ๆ 512 00:21:13,380 --> 00:21:15,740 สมกับคำว่านักปราชญ์อย่างแท้จริงค่ะ 513 00:21:15,740 --> 00:21:18,800 เราสามารถเห็นได้จากงานต่าง ๆ ของพระองค์มากมาย 514 00:21:18,840 --> 00:21:20,340 เอาเฉพาะพระราชนิพนธ์เนี่ยนะคะ 515 00:21:20,340 --> 00:21:22,380 บอกเลยว่ารวบรวมครบยากมากจริง ๆ 516 00:21:22,380 --> 00:21:24,880 คือ เราก็ยังไม่รู้จนถึงทุกวันนี้นะว่าครบรึเปล่า 517 00:21:25,020 --> 00:21:28,460 แต่ว่าตามหนังสือ "คดีรหัส พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" 518 00:21:28,460 --> 00:21:30,160 ของอาจารย์รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ นะคะ 519 00:21:30,160 --> 00:21:32,440 บอกว่า พระราชนิพนธ์ของพระองค์เนี่ย 520 00:21:32,480 --> 00:21:35,920 มีอยู่ทั้งหมดถึง 1,236 เรื่องนะคะ 521 00:21:35,920 --> 00:21:39,260 ก็รวมวรรณคดี เรื่องสั้น บทความ อะไรต่าง ๆ แล้ว 522 00:21:39,260 --> 00:21:41,580 เรียกได้ว่าเยอะมาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ 523 00:21:41,740 --> 00:21:44,520 และในบรรดาพระราชนิพนธ์มากมายขนาดนี้ 524 00:21:44,520 --> 00:21:46,060 เรื่องแรกคือเรื่องอะไรรู้มั้ยคะ 525 00:21:46,140 --> 00:21:47,780 เรื่องแรกเนี่ยนะคะที่เราค้นพบกัน 526 00:21:47,780 --> 00:21:50,060 แล้วเชื่อว่าเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องแรกจริง ๆ เนี่ย 527 00:21:50,160 --> 00:21:54,680 เกิดขึ้นตอนพระองค์มีพระชนมายุแค่ 12 พรรษาด้วยกันนะคะ 528 00:21:54,720 --> 00:21:57,600 ก็ตอนนั้นในโรงเรียนราชกุมารนะ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ 529 00:21:57,600 --> 00:22:00,260 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 530 00:22:00,320 --> 00:22:02,780 ตั้งขึ้นเพื่อให้พระโอรสต่าง ๆ ได้เข้ามาเรียนเนี่ย 531 00:22:02,840 --> 00:22:05,380 ก็มีหนังสือพิมพ์นะคะ ชื่อว่าหนังสือพิมพ์ราชกุมาร 532 00:22:05,400 --> 00:22:08,880 ในนั้นเนี่ย พระองค์ก็ทรงพระราชนิพนธ์งานเขียนชิ้นนึงนะคะ 533 00:22:08,980 --> 00:22:10,280 เป็นเรื่องสั้นแฝงคติ 534 00:22:10,280 --> 00:22:12,720 ชื่อเรื่องว่า ไม่กลัวผี นั่นเองค่ะ 535 00:22:12,780 --> 00:22:14,860 แต่เอาจริง ๆ มันมีพระราชนิพนธ์ที่เก่ากว่านั้นนะ 536 00:22:14,860 --> 00:22:16,100 แต่เป็นพระราชนิพนธ์แปล 537 00:22:16,100 --> 00:22:18,380 ซึ่งเป็นกึ่ง ๆ เหมือนแบบการบ้านสมัยนั้นน่ะ 538 00:22:18,380 --> 00:22:20,200 การบ้านวิชาการแปลว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ 539 00:22:20,200 --> 00:22:22,360 คือพระองค์ก็เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กนะ 540 00:22:22,520 --> 00:22:25,240 อย่างในช่วงพระชนมายุ 8-9 พรรษาเนี่ยนะคะ 541 00:22:25,460 --> 00:22:28,200 ก็ทรงพระราชนิพนธ์แปลบทละคร เรื่อง Mikado นะคะ 542 00:22:28,200 --> 00:22:30,180 ของ Gilbert กับ Sullivan นะ 543 00:22:30,180 --> 00:22:31,920 ซึ่งเป็นโอเปราตลกของฝรั่งน่ะนะ 544 00:22:31,920 --> 00:22:34,900 ที่เขียนเนื้อเรื่องเป็นญี่ปุ่นเอาไว้เหมือนกันนะคะ 545 00:22:34,900 --> 00:22:37,680 อย่างไรก็ตาม ส่วนมากนักวิชาการก็จะยอมรับกันว่า 546 00:22:37,680 --> 00:22:38,940 พระราชนิพนธ์เรื่องแรกจริง ๆ 547 00:22:38,940 --> 00:22:41,100 ก็คือเรื่อง ไม่กลัวผี ที่วิวพูดไปถึงนี่แหละค่ะ 548 00:22:41,140 --> 00:22:43,020 ส่วนเรื่องสุดท้ายเนี่ยก็คือเรื่อง 549 00:22:43,100 --> 00:22:45,220 มัทนะพาธา นะคะ เวอร์ชันภาษาอังกฤษ 550 00:22:45,360 --> 00:22:47,620 ที่น่าเสียดายมาก ๆ ที่พระองค์พระราชนิพนธ์ 551 00:22:47,620 --> 00:22:49,120 ไม่ทันได้จบทั้งเรื่องค่ะ 552 00:22:49,120 --> 00:22:52,080 พระราชนิพนธ์ไปประมาณแบบ เกินครึ่งมานิดหน่อยเท่านั้นเองนะคะ 553 00:22:52,180 --> 00:22:54,160 และทั้งหมดนี้คือการนอกเรื่องค่ะทุกคน 554 00:22:54,160 --> 00:22:57,260 เรากลับไปที่คำว่า สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า กันดีกว่า 555 00:22:57,280 --> 00:22:59,840 อยากรู้กันมั้ยคะว่าคำนี้ใครเป็นคนคิดขึ้นมา 556 00:22:59,840 --> 00:23:03,060 แล้วใครเป็นคนถวายพระราชสมัญญานามนี้ให้กับพระองค์ 557 00:23:03,080 --> 00:23:04,520 ก็ต้องบอกว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ 558 00:23:04,520 --> 00:23:06,880 เกิดขึ้นในการซ้อมละครครั้งนึงค่ะ 559 00:23:07,000 --> 00:23:09,940 คือ มีคนคนนึงนะคะ ชื่อว่า หลวงสรรสารกิจ ค่ะ 560 00:23:09,940 --> 00:23:11,840 หรือว่า เคล้า คชนันทน์ นั่นเอง 561 00:23:11,980 --> 00:23:13,920 คุณหลวงคนนี้เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชื่อว่า 562 00:23:13,920 --> 00:23:15,380 หนังสือพิมพ์ไทยเขษม ค่ะ 563 00:23:15,480 --> 00:23:17,560 ทีนี้เค้าก็มีความคิดนะคะ ที่จะชวน 564 00:23:17,560 --> 00:23:19,880 นักคิด นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ เนี่ย 565 00:23:20,020 --> 00:23:23,240 ขึ้นมาจัดแสดงละครพระราชนิพนธ์ทั้งหมด 2 เรื่องด้วยกันค่ะ 566 00:23:23,340 --> 00:23:26,260 นั่นก็คือเรื่องจัดการรับเสด็จ กับ เรื่องชิงนาง นะคะ 567 00:23:26,360 --> 00:23:28,780 จัดขึ้นในโอกาสในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 568 00:23:28,780 --> 00:23:30,720 ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 569 00:23:30,860 --> 00:23:34,660 ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2469 นั่นเองค่ะ 570 00:23:34,820 --> 00:23:36,500 ทีนี้ถามว่าจัดขึ้นมาทำไม 571 00:23:36,500 --> 00:23:38,780 เขาตั้งใจจะจัดขึ้นมาเพื่อระดมทุนนะคะ 572 00:23:38,880 --> 00:23:41,760 สร้างหอนาฬิกาให้กับโรงเรียนวชิราวุธนี่ล่ะค่ะ 573 00:23:41,820 --> 00:23:44,260 ทีนี้ระหว่างการซ้อมนะคะ ระหว่างที่ซ้อม ๆ อยู่เนี่ย 574 00:23:44,260 --> 00:23:47,840 ก็มีคนสำคัญคนนึงค่ะ นั่นก็คือ พระสารประเสริฐ นะคะ 575 00:23:47,840 --> 00:23:49,260 หรือว่า ตรี นาคะประทีป 576 00:23:49,260 --> 00:23:51,320 คุ้น ๆ ชื่อมั้ย นาคะประทีป ก็คือ 577 00:23:51,320 --> 00:23:52,900 เสฐียรโกเศศ กับ นาคะประทีป 578 00:23:52,900 --> 00:23:54,640 คนที่แปลกามนิตคนนั้นนั่นล่ะค่ะ 579 00:23:54,780 --> 00:23:56,680 พระสารประเสริฐเนี่ยนะคะ เสนอขึ้นมาว่า 580 00:23:56,760 --> 00:23:58,660 เราควรจะมีการถวายพระสมัญญานาม 581 00:23:58,660 --> 00:24:01,100 ให้กับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นะ 582 00:24:01,100 --> 00:24:03,300 แล้วพระสารประเสริฐก็เสนอคำว่า 583 00:24:03,420 --> 00:24:05,680 สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ขึ้นมาค่ะ 584 00:24:05,700 --> 00:24:07,240 ทีนี้เหล่านักเขียนคนดังต่าง ๆ 585 00:24:07,240 --> 00:24:09,520 ที่เราน่าจะคุ้นกันดีที่มีชีวิตอยู่ในยุคนั้น 586 00:24:09,520 --> 00:24:12,060 แล้วก็บังเอิญอยู่ในการซ้อมละครครั้งนั้นด้วยนะคะ 587 00:24:12,120 --> 00:24:14,420 ไม่ว่าจะเป็น พระยาอุปกิตศิลปสาร 588 00:24:14,420 --> 00:24:16,040 หรือว่า นิ่ม กาญจนชีวะ 589 00:24:16,100 --> 00:24:18,420 ก็คนที่เขียนตำราหลักภาษาไทย 590 00:24:18,600 --> 00:24:20,440 พระยาอนุมานราชธน 591 00:24:20,440 --> 00:24:21,500 พระวรเวทย์พิสิษฐ์ 592 00:24:21,620 --> 00:24:23,380 รวมถึงจมื่นมานิตย์นเรศเนี่ยนะคะ 593 00:24:23,380 --> 00:24:25,140 ที่อยู่ตรงนั้นก็เห็นด้วยค่ะ 594 00:24:25,180 --> 00:24:26,480 ดังนั้นทั้งหมดก็เลยตัดสินใจ 595 00:24:26,480 --> 00:24:29,300 ถวายพระราชสมัญญานามให้กับพระองค์ว่า 596 00:24:29,440 --> 00:24:32,120 สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ตั้งแต่นั้นมาค่ะ 597 00:24:32,200 --> 00:24:33,820 คำว่า สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า 598 00:24:33,820 --> 00:24:35,320 ก็เลยค่อย ๆ แพร่หลายไปเรื่อย ๆ 599 00:24:35,320 --> 00:24:38,960 แล้วก็ใช้มาจนกระทั่งถึงสมัยปัจจุบันนั่นเองค่ะ 600 00:24:39,040 --> 00:24:42,300 นี่ก็คือเรื่องราวน่ารู้ทั้งหมด 6 ข้อนะคะ ที่วิวหยิบขึ้นมา 601 00:24:42,320 --> 00:24:44,460 จากนิทรรศการจุฬาลงกรณ์ราชบรรณาลัย 602 00:24:44,460 --> 00:24:46,840 ตอน มหาวชิราวุธราชบรรณาลัย นะ 603 00:24:46,840 --> 00:24:48,900 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บันดาลใจ" ค่ะ 604 00:24:49,080 --> 00:24:51,100 ถ้าสมมติว่าใครฟังแล้วรู้สึกว่า 605 00:24:51,100 --> 00:24:53,260 เฮ้ย อยากรู้เรื่องราวให้ลึกกว่านี้ 606 00:24:53,260 --> 00:24:55,380 อยากรู้เกร็ดความรู้ต่าง ๆ อีกมากมาย 607 00:24:55,380 --> 00:24:56,700 ซึ่งวิวอาจจะเอามาเล่าไม่หมด 608 00:24:56,840 --> 00:24:59,520 เช่น การจัดประกวดความสามารถในสมัยนั้น 609 00:24:59,520 --> 00:25:02,280 ที่พระองค์ก็เหมือนเป็น Host ขึ้นมาพระองค์แรก 610 00:25:02,340 --> 00:25:04,980 หรือว่าอะไรต่าง ๆ มากมายจริง ๆ นะคะ 611 00:25:04,980 --> 00:25:07,320 ก็สามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว 612 00:25:07,320 --> 00:25:09,900 ของนิทรรศการมหาวชิราวุธราชบรรณาลัย 613 00:25:09,900 --> 00:25:14,380 ได้ทั้งที่แฟนเพจและเว็บไซต์ จุฬาลงกรณ์ราชบรรณาลัย 614 00:25:14,580 --> 00:25:18,060 รวมถึงวิวเองก็จะมาคอยอัปเดตให้ทุกคนฟังเรื่อย ๆ ด้วยค่ะ 615 00:25:18,180 --> 00:25:19,820 จบโควิด-19 เมื่อไหร่ 616 00:25:19,920 --> 00:25:22,940 รอเจอนิทรรศการจริงเต็มรูปแบบกันได้เลยนะคะ 617 00:25:23,100 --> 00:25:26,920 ที่สำนักงานวิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ 618 00:25:27,200 --> 00:25:30,380 เอาจริง ๆ คลิปนี้เป็นคลิปที่ วิวตัดสินใจยากพอสมควรเลยนะคะ 619 00:25:30,380 --> 00:25:32,400 ตอนที่จะต้องตัดสินใจเลือกมาแค่ 6 ข้อ 620 00:25:32,400 --> 00:25:34,680 เพราะจริง ๆ แล้วมันมีเรื่องราวที่น่าสนใจ 621 00:25:34,680 --> 00:25:37,400 อีกเยอะมาก ๆ ๆ ๆ เลยทีเดียวค่ะ 622 00:25:37,600 --> 00:25:40,900 และนี่เป็นหนึ่งในคลิปที่ วิวหาข้อมูลมาทำเยอะอันดับต้น ๆ เลยนะ 623 00:25:40,900 --> 00:25:43,000 เพราะว่าข้อมูลทั้งหมดที่เอามาทำคลิปนี้ 624 00:25:43,000 --> 00:25:45,160 ไม่ใช่ข้อมูลที่แค่เอามาทำคลิปนี้เข้าใจมั้ย 625 00:25:45,160 --> 00:25:47,340 คือมันเป็นข้อมูลที่เอามาทำทั้งนิทรรศการเลย 626 00:25:47,340 --> 00:25:50,500 และนิทรรศการนี้ไม่ใช่นิทรรศการที่จัดทำขึ้นคนเดียว 627 00:25:50,520 --> 00:25:53,020 คือวิวเนี่ยเป็น curator ร่วมกับพี่ฮ่องเต้ 628 00:25:53,020 --> 00:25:55,620 ซึ่งเป็นคนทำอาร์ตต่าง ๆ ในงานใช่มั้ยคะ 629 00:25:55,720 --> 00:25:58,500 แต่ภายในงานนี้มีนักวิชาการหลายต่อหลายท่านเลยค่ะ 630 00:25:58,500 --> 00:26:01,260 ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ของวิว เป็นอาจารย์ เป็นอะไรต่าง ๆ 631 00:26:01,260 --> 00:26:03,920 มารวมกันนะคะ แล้วให้ข้อมูลไว้เยอะมากๆ เลยจริง ๆ 632 00:26:03,920 --> 00:26:06,860 ดังนั้น มีข้อมูลที่น่าสนใจเยอะมาก ๆ ๆ ๆ 633 00:26:06,860 --> 00:26:08,220 และวิวจะเสียใจมาก ๆ เลยค่ะ 634 00:26:08,220 --> 00:26:10,020 ถ้าสมมติว่าข้อมูลมันอยู่ตรงนั้น 635 00:26:10,020 --> 00:26:11,660 และมันฟรีแล้วไม่มีคนเข้าไปดู 636 00:26:11,660 --> 00:26:13,500 ดังนั้น อย่าลืมเข้าไปดูกันนะคะ 637 00:26:13,500 --> 00:26:15,060 วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะทุกคน 638 00:26:15,060 --> 00:26:16,680 บาย ๆ สวัสดีค่ะ