1 00:00:00,000 --> 00:00:01,600 2 00:00:01,600 --> 00:00:02,540 ตกใจกันไหมทุกคน 3 00:00:02,540 --> 00:00:04,360 สวัสดีค่ะวิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 4 00:00:04,360 --> 00:00:07,840 สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าสำหรับใครหลายๆ คนที่ทันดูรอบสดด้วยนะคะ 5 00:00:07,840 --> 00:00:12,000 แล้วก็สวัสดีปีใหมม่ย้อนหลังสำหรับใครที่มาดูย้อนหลังในปี 2563 ค่ะ 6 00:00:12,040 --> 00:00:14,720 แหมะ พูดถึงสวัสดีปีใหม่ ตอนนั้น ตอนนี้ ตอนนู้น 7 00:00:14,880 --> 00:00:16,820 เดี๋ยวก็สวัสดีล่วงหน้า เดี๋ยวก็สวัสดีย้อนหลัง 8 00:00:16,820 --> 00:00:23,760 ว่าแต่ อยากรู้กันไหมคะว่าทำไมอยู่ดีๆ เราถึงมาฉลองปีใหม่กันในวันที่ 1 มกราคม แบบที่เราฉลองอยู่ทุกปี 9 00:00:23,760 --> 00:00:25,680 มันมีที่มาที่ไปจากอะไร? 10 00:00:25,680 --> 00:00:26,880 ใครเป็นคนคิดคนแรก? 11 00:00:26,880 --> 00:00:29,740 เนื่องจากนี่ก็เป็นอีก 1 เรื่องนะคะที่วิวอยากรู้มาตั้งนานแล้ว 12 00:00:29,740 --> 00:00:32,360 วิวก็เลยไปหาข้อมูลมาให้ทุกคนมาเรียบร้อยแล้วค่ะ 13 00:00:32,460 --> 00:00:37,220 ซึ่งอ้างอิงของวิวเนี่ยก็อยู่ด้านล่างสามารถไปตามอ่านกันได้ถ้าสมมติว่าใครอยากอ่านละเอียดค่ะ 14 00:00:37,260 --> 00:00:39,880 แต่สำหรับตอนนี้อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะ 15 00:00:39,880 --> 00:00:43,440 จะได้ไม่พลาดคลิปวิดีโอสนุกๆ แล้วก็ข่าวสารดีๆ จากช่อง Point of View ค่ะ 16 00:00:43,460 --> 00:00:47,360 สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง สนุก แล้วก็มีสาระกันหรือยังคะ? 17 00:00:47,360 --> 00:00:49,280 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ ไปฟังกันเลยค่ะ 18 00:00:54,640 --> 00:00:58,840 ถ้าเราจะพูดถึงว่าทำไมเราถึงฉลองปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคมนะคะ 19 00:00:58,900 --> 00:01:01,780 ก็ต้องบอกว่าเราต้องไปพูดถึงการสร้างปฏิทินค่ะ 20 00:01:01,780 --> 00:01:02,720 เพราะว่าอะไร? 21 00:01:02,740 --> 00:01:05,360 เพราะว่าเอาจริงๆ เราฉลองปีใหม่ไม่ตรงกันหรอกค่ะ 22 00:01:05,360 --> 00:01:07,300 นึกสภาพไม่ต้องเป็นสมัยโบราณนะคะ 23 00:01:07,340 --> 00:01:10,520 แค่สมัยปัจจุบันนี้ เอาไม่ต้องประเทศไหนเลยแค่ในประเทศไทยเนี่ย 24 00:01:10,600 --> 00:01:12,660 เรายังมีวันปีใหม่เต็มไปหมดเลยใช่ไหมคะ? 25 00:01:12,680 --> 00:01:16,960 ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 1 มกราคมที่เราฉลองกันทุกปีตามหลักสากล 26 00:01:17,060 --> 00:01:20,920 หรือว่าถ้าใครเป็นคนไทยเชื้อสายจีนก็จะรู้ว่าหลังจากที่เราฉลองตรุษจีนแล้วเนี่ย 27 00:01:20,940 --> 00:01:23,280 เราก็จะบอกว่ามันคือวัน ชิวอิก ชิวหยีชิวอะไร 28 00:01:23,280 --> 00:01:24,740 ก็คือปีใหม่ของจีนใช่ไหมคะ? 29 00:01:24,840 --> 00:01:27,800 หรือถ้าใครไปนึกถึงเพลงเสียงแหลมๆ ที่เราเปิดกันตอนสงกรานต์เนี่ย 30 00:01:27,800 --> 00:01:28,720 เราก็เปิดเพลง 31 00:01:28,720 --> 00:01:35,400 วันนี้วันดีปีใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใสพาใจสุขสันต์ #@&^%$*%&$(^ 32 00:01:35,460 --> 00:01:37,160 นั่นแหละค่ะดำน้ำต่อไปไม่ถูกแล้วนะคะ 33 00:01:37,160 --> 00:01:38,720 เห็นไหมคะว่าแค่ในประเทศไทยเนี่ย 34 00:01:38,720 --> 00:01:40,680 เรายังฉลองปีใหม่ไม่ตรงกันเลยค่ะ 35 00:01:40,800 --> 00:01:42,800 ทีนี้เรามาลองดูกันที่สเกลใหญ่กว่านี้ดีกว่าค่ะ 36 00:01:42,820 --> 00:01:44,820 เราไปดูกันที่ปีใหม่ทั่วโลก 37 00:01:44,820 --> 00:01:46,820 นึกสภาพกลับไปในสมัยโบราณนะคะ 38 00:01:46,860 --> 00:01:49,040 ย้อนไปตอนอารยธรรมมนุษย์เริ่มต้นขึ้น 39 00:01:49,040 --> 00:01:51,640 นึกสภาพเราเป็นมนุษย์หินมนุษย์ถ้ำอะไรต่างๆ 40 00:01:51,640 --> 00:01:56,280 อ้าวอยู่ดีๆ เราจะมารู้กันได้ยังไงว่าเราต้องฉลองปีใหม่ในวันนี้วันที่ 1 มกราคม 41 00:01:56,280 --> 00:01:58,840 มันไม่ได้มีอะไรเป็นวันพิเศษอะไรเลยนี่คะ 42 00:01:58,840 --> 00:02:00,180 ไม่ได้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง 43 00:02:00,180 --> 00:02:03,960 ไม่ได้เป็นวันที่พระอาทิตย์ขึ้นทางนั้น พระอาทิตย์ขึ้นทางนี้ 44 00:02:03,960 --> 00:02:05,900 ไม่ได้มีดาวดวงนั้นดวงนี้มาเรียงกัน 45 00:02:05,900 --> 00:02:09,780 แล้วทำไมคนสมัยโบราณเค้าถึงเลือกวันนี้ให้เป็นวันปีใหม่ของเรา 46 00:02:09,780 --> 00:02:12,240 จะบอกว่ามันมีคำตอบเบื้องหลังอยู่ค่ะ 47 00:02:12,280 --> 00:02:15,240 ถ้าเราจะไปดูว่าทำไมเราถึงฉลองวันที่ 1 มกราคมนะคะ 48 00:02:15,240 --> 00:02:18,560 เราจะต้องย้อนกลับไปในอารยธรรมเมโสโปเตเมียค่ะ 49 00:02:18,560 --> 00:02:20,900 อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรติสนะคะ 50 00:02:20,900 --> 00:02:24,840 ถ้าใครแม่นประวัติศาสตร์โลกหน่อยก็จะรู้ว่าเป็น 1 ในอารยธรรมแรกๆ ของโลกใช่ไหมคะ 51 00:02:24,920 --> 00:02:30,100 วันนี้เราไม่ได้จะไปดูถึงชาวสุเมเรียนที่เป็นคนประดิษฐ์อักษรลิ่มคูนิฟอร์มที่เป็นอักษรแรกของโลกนะคะ 52 00:02:30,100 --> 00:02:31,900 แต่เราจะไปดูที่ชาวบาบิโลเนียนค่ะ 53 00:02:31,900 --> 00:02:37,500 ชาวบาบิโลเนียนถือเป็นชนชาติแรกๆ ที่มีการบันทึกไว้ค่ะว่ามีการเฉลิมฉลองปีใหม่กัน 54 00:02:37,520 --> 00:02:40,140 แล้วถามว่าชาวบาบิโลเนียนเขาเฉลิมฉลองกันตอนไหน? 55 00:02:40,160 --> 00:02:42,580 เขาเฉลิมฉลองกันในวันที่ 1 มการาคม 56 00:02:42,580 --> 00:02:44,540 แบบที่เราฉลองกันอยู่ทุกวันนี้รึเปล่า 57 00:02:44,540 --> 00:02:46,100 ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เลยค่ะ 58 00:02:46,100 --> 00:02:50,040 ชาวบาบิโลเนียเนี่ยฉลองปีใหม่กันในช่วงเดือนมีนาคมค่ะ 59 00:02:50,040 --> 00:02:51,640 อ้าว! แล้วเดือนมีนาคมมีอะไรพิเศษนะคะ? 60 00:02:51,640 --> 00:02:54,680 ก็ต้องบอกว่า ในเดือนมีนาคมค่ะ มีสิ่งนึงเกิดขึ้น 61 00:02:54,740 --> 00:02:59,560 ก็คือเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ หรือว่า Spring นั่นเองค่ะ 62 00:02:59,560 --> 00:03:00,900 ก็ฟังดู Make Sense นะ 63 00:03:00,920 --> 00:03:03,160 เป็นตอนที่ฤดูหนาวเพิ่งจะผ่านพ้นไป 64 00:03:03,180 --> 00:03:07,420 พวกใบไม้ที่ตายๆ ไปเนี่ย ก็กำลังเริ่มผลิดอก ออกผลใหม่อีกรอบนึง 65 00:03:07,420 --> 00:03:09,600 เหมือนการเฉลิมฉลองชีวิตใหม่ใช่ไหมคะ? 66 00:03:09,700 --> 00:03:14,080 และชาวบาลิโลเนียนนี่เขา mark วันปีใหม่ของเขาไม่ใช่แค่ช่วง Spring เท่านั้นหรอกค่ะ 67 00:03:14,220 --> 00:03:16,620 แต่เขา Mark ไว้ในวันวันนึงค่ะ ที่เราเรียกว่า 68 00:03:16,620 --> 00:03:18,160 Vernal Equinox นะคะ 69 00:03:18,160 --> 00:03:19,900 หรือว่าในภาษาไทยเรียกว่า 70 00:03:19,900 --> 00:03:21,680 วสันตวิษุวัตนั่นเอง 71 00:03:21,680 --> 00:03:25,460 ก็คือวันที่กลางวันกับกลางคืนเนี่ยนะคะ ยาวเท่ากันค่ะ 72 00:03:25,600 --> 00:03:30,280 คือปกติแล้วพระอาทิตย์ของเราเนี่ยมันจะขึ้นแล้วก็ตกในทิศตะวันออกกับทิศตะวันตกใช่ไหม? 73 00:03:30,280 --> 00:03:32,000 แต่บอกเลยว่าจริงๆ ไม่ใช่นะคะ 74 00:03:32,120 --> 00:03:35,520 พระอาทิตย์ทุกวันเนี่ยไม่ได้ขึ้นทางทิศตะวันออกเป๊ะ และตกทางทิศตะวันตกเป๊ะค่ะ 75 00:03:35,520 --> 00:03:37,720 มันจะเบี่ยงบ้างแบบบางองศาอะไรงี้ 76 00:03:37,720 --> 00:03:42,400 แต่ในวันวสันตวิษุวัตมันจะขึ้นทางทิศตะวันออกเป๊ะ และตกทางทิศตะวันตกเป๊ะค่ะ 77 00:03:42,540 --> 00:03:45,220 ส่งผลให้กลางวันกับกลางคืนเนี่ยยาวเท่ากันนะคะ 78 00:03:45,380 --> 00:03:50,340 นี่ก็คือวันปีใหม่ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่วิวหาเจอแล้วก็น่าจะเก่าแก่ที่สุดในโลกด้วยนะคะ 79 00:03:50,460 --> 00:03:54,020 อย่างไรก็ดีชาวบาบิโลเนียนนี่ไม่ใช่คำตอบที่เราค้นหานะคะ 80 00:03:54,020 --> 00:03:57,620 นั่นก็คือดังนั้นเรา Move ไปที่ชาวตะวันตกอารยธรรมถัดไปที่เราค้นหาดีกว่า 81 00:03:57,620 --> 00:03:59,280 นั่นก็คือชาวกรีกค่ะ 82 00:03:59,300 --> 00:04:02,800 ถามว่าชาวกรีกมีการเฉลิมฉลองปีใหม่ไหมก็ต้องบอกว่า มีค่ะ 83 00:04:02,840 --> 00:04:05,440 แล้วถามว่าเขาเฉลิงฉลองวันเดียวกับชาวบาบิโลเนียนไหม? 84 00:04:05,440 --> 00:04:06,720 ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ค่ะ 85 00:04:06,760 --> 00:04:10,480 แต่วันที่เขาเฉลิมฉลองเนี่ยก็ต้องบอกว่ามีความคล้ายกับชาวบาบิโลเนียนนิดนึง 86 00:04:10,500 --> 00:04:12,980 คือมันเกี่ยวข้องกับพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกนี่แหละ 87 00:04:13,100 --> 00:04:16,220 เพราะว่าวันที่เขาเฉลิงฉลองกันเนี่ยนะคะมันคือวัน Winter Solstice 88 00:04:16,340 --> 00:04:18,340 หรือว่าในภาษาไทยเรียกว่า 89 00:04:18,340 --> 00:04:20,060 วันเหมายันนั่นเองค่ะ 90 00:04:20,060 --> 00:04:25,920 มันก็คือวันที่อยู่ช่วงปลายๆ ปีที่เราน่าจะเคยได้ยินกันบ้างในช่วงวันที่ 21 ธันวาคมนะคะ 91 00:04:25,960 --> 00:04:28,760 วันนั้นคือวันที่กลางคืนยาวที่สุดของปีค่ะ 92 00:04:28,760 --> 00:04:30,480 แล้วก็กลางวันสั้นที่สุดนะคะ 93 00:04:30,600 --> 00:04:33,520 ซึ่งชาวกรีกนี่เขาก็จะเฉลิมฉลองกันในช่วงนั้นนี่แหละค่ะ 94 00:04:33,540 --> 00:04:37,080 อย่างไรก็ดีอารยธรรมกรีกไม่ใช่อารยธรรมสำคัญของเราในวันนี้ค่ะ 95 00:04:37,140 --> 00:04:39,860 อารยธรรมสำคัญที่สุดของเราในวันนี้ก็คือ 96 00:04:39,860 --> 00:04:41,460 อารยธรรมโรมันนั่นเอง 97 00:04:41,480 --> 00:04:45,260 ซึ่งอารยธรรมโรมันเนี่ยนะคะต้องขอบอกว่ามีระยะเวลาค่อนข้างยาวนานค่ะ 98 00:04:45,260 --> 00:04:48,300 และเขาก็มีปฏิทินของเขามาตั้งนานแล้วนะคะ 99 00:04:48,340 --> 00:04:52,540 อย่างไรก็ตามปฏิทินโรมันในยุคเริ่มแรกเนี่ยนะคะมีความสับสนงุนงงค่อนข้างมากค่ะ 100 00:04:52,580 --> 00:04:55,560 คือในยุคแรกๆ เนี่ยเหมือนใช้ปฏิทินแบบจันทรคตินะคะ 101 00:04:55,620 --> 00:04:58,040 ก็คือปฏิทินที่ดูตามดวงจันทร์นั่นเอง 102 00:04:58,040 --> 00:04:59,880 ก็คล้ายๆ กับปฏิทินไทยปัจจุบันนี้นี่แหละ 103 00:04:59,920 --> 00:05:03,340 ก็คือดูข้างขึ้นดูข้างแรมดูเดือนเพ็ญอะไรแบบนี้นะคะ 104 00:05:03,420 --> 00:05:05,420 อย่างไรก็ตามมันก็มีความสับสนนิดนึง 105 00:05:05,440 --> 00:05:07,760 เพราะว่ามันก็มีคนบางกลุ่มในอารยธรรมโรมันเนี่ย 106 00:05:07,840 --> 00:05:09,840 ที่ใช้ปฏิทินแบบสุริยคติ 107 00:05:09,960 --> 00:05:11,960 หรือว่าปฏิทินที่ดูตามพระอาทิตย์ค่ะ 108 00:05:12,060 --> 00:05:14,840 ว่าแบบพระอาทิตย์โคจรอะไรแบบนี้ อะไรแบบนั้น 109 00:05:14,980 --> 00:05:16,200 แล้วก็เอามาทำเป็นปฏิทินนะคะ 110 00:05:16,280 --> 00:05:19,300 ดังนั้นเมื่อมีระบบ 2 ปฏิทินเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันเนี่ย 111 00:05:19,440 --> 00:05:21,440 คนก็เกิดการสับสนงุนงงอะไรต่างๆ ค่ะ 112 00:05:21,560 --> 00:05:23,560 จนกระทั่งมีคนสำคัญเกิดขึ้นคนนึง 113 00:05:23,640 --> 00:05:26,920 คนคนนั้นเป็นกษัตริย์องค์แรกของโรมันตามความเชื่อค่ะ 114 00:05:26,920 --> 00:05:27,940 คนคนนั้นก็คือ 115 00:05:27,940 --> 00:05:29,140 คิงโรมิวรัสนะคะ 116 00:05:29,140 --> 00:05:32,340 ซึ่งถ้าสมมติว่าใครแม่นประวัติศาสตร์โรมันนิดนึงก็จะรู้ว่า 117 00:05:32,400 --> 00:05:35,160 รูปของคิงโรมิวลัสเนี่ยถ้าสมมติว่าอยู่ที่ยุโรปเนี่ย 118 00:05:35,220 --> 00:05:38,760 จะเป็นรูปของหมาป่าตัวนึงที่มีนมแล้วเป็นเด็กสองคนที่กินนมอยู่ 119 00:05:38,760 --> 00:05:40,960 เด็กสองคนนั้นคือรีมัสกับโรมิวลัสนะคะ 120 00:05:40,960 --> 00:05:41,980 เป็นฝาแฝดกันค่ะ 121 00:05:42,060 --> 00:05:44,600 และนี่คือที่มาของรีมัส ลูปินส์จากแฮร์รี พอตเตอร์นะคะ 122 00:05:44,680 --> 00:05:47,040 ก็คือหมาป่า มันเกี่ยวข้องกับหมาป่าประมาณนี้แหละ 123 00:05:47,060 --> 00:05:50,420 ก็คือเขาเชื่อว่าคิงโรมิวลัสนี่คือคนที่หมาป่าเลี้ยงมาประมาณนั้นค่ะ 124 00:05:50,420 --> 00:05:52,200 เห็นไหมคะว่ามันเกี่ยวพันกันทุกเรื่องเลย 125 00:05:52,200 --> 00:05:53,500 แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเดียวก็คือ 126 00:05:53,540 --> 00:05:56,060 ไม่เกี่ยวกับเรื่อง 1 มกราคมที่วิวกำลังจะเล่านี่แหละ 127 00:05:56,060 --> 00:05:57,840 นอกเรื่องอีกแล้ว กลับมานะคะทุกคน 128 00:05:57,840 --> 00:05:59,340 129 00:05:59,460 --> 00:06:02,420 อะ กลับมาที่คิงโรมิวลัส กับวันที่ 1 มกราคมของเราค่ะ 130 00:06:02,480 --> 00:06:06,420 ในยุคของคิงโรมิวลัสค่ะ มีปฏิทินโรมันโบราณแบบนึงเกิดขึ้นมานะคะ 131 00:06:06,520 --> 00:06:11,920 ซึ่งมันเป็นปฏิทินที่ได้รับรากฐานมาจากปฏิทินแบบเดิมคือปฏิทินจันทรคติแหละ 132 00:06:12,020 --> 00:06:16,140 เหมือนกับเอาทุกอย่างมา Mix กันเรียบร้อยแล้ว แล้วเขาก็คำนวณออกมาแล้วให้เป็นปฏิทินนะคะ 133 00:06:16,240 --> 00:06:18,240 ซึ่งปฏิทินแบบนี้มีความพิเศษยังไงคะ 134 00:06:18,340 --> 00:06:21,760 บอกเลยว่าพิเศษค่ะ เพราะมันมีแค่ 10 เดือนด้วยกันค่ะ 135 00:06:21,840 --> 00:06:24,440 และแน่นอนว่าใน 10 เดือนนี้ก็จะต้องมีเดือนที่ 1 นะคะ 136 00:06:24,440 --> 00:06:26,880 ดังนั้นเขาเริ่มฉลองปีใหม่กันในเดือนนั้นค่ะ 137 00:06:26,940 --> 00:06:29,340 ถามว่าเดือนที่ 1 คือเดือนมกราคมใช่ไหม? 138 00:06:29,340 --> 00:06:30,620 บอกเลยว่าไม่ใช่ค่ะ 139 00:06:30,620 --> 00:06:32,080 เพราะว่าเดือนที่ 1 ของเขาคือเดือน 140 00:06:32,140 --> 00:06:34,480 มีนาคมหรือว่าเดือน March นั่นเองนะคะ 141 00:06:34,520 --> 00:06:36,640 อันนี้เป็นการออกเสียงแบบในสมัยปัจจุบันเนอะ 142 00:06:36,680 --> 00:06:39,160 ในสมัยนั้นเขาจะเรียกว่าเดือน Martius อะไรประมาณนี้นะคะ 143 00:06:39,160 --> 00:06:41,960 อันนี้เริ่มใช้ภาษาอังกฤษแล้วเนอะจะได้เข้าใจอะไรง่ายขึ้นนะคะ 144 00:06:41,960 --> 00:06:45,000 จะไม่ใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาสมัยนู้นด้วยนะ 145 00:06:45,000 --> 00:06:46,640 ก็คือ March ถือเป็นเดือน 1 146 00:06:46,660 --> 00:06:49,140 พอ March เป็นเดือน 1 นะคะ April ก็จะเป็นเดือน 2 147 00:06:49,140 --> 00:06:50,600 May ก็เป็นเดือน 3 148 00:06:50,600 --> 00:06:51,760 ไล่ไปเรื่อยๆ ใช่ไหมคะ 149 00:06:51,780 --> 00:06:53,780 และนี่คือสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนเนี่ย 150 00:06:53,780 --> 00:06:55,640 ที่พอจะรู้รากศัพท์บ้างเนี่ย 151 00:06:55,640 --> 00:06:56,860 งุนงงกันมานาน 152 00:06:56,860 --> 00:06:58,240 เช่นชื่อเดือน September 153 00:06:58,340 --> 00:07:00,960 ถ้าใครเคยเรียนเคมี hepta- แปลว่า 7 ใช่ไหมคะ 154 00:07:00,980 --> 00:07:03,220 อ้าวแล้วทำไม September ถึงเป็นเดือน 9 155 00:07:03,300 --> 00:07:05,340 ทำไม octa- October เนี่ย 156 00:07:05,340 --> 00:07:07,140 octa- แปลว่า 8 ทำไมถึงเป็นเดือน 10 157 00:07:07,140 --> 00:07:08,860 อะ นี่แหละค่ะ ที่มานะคะ 158 00:07:09,660 --> 00:07:11,660 อย่างไรก็ตามเรามาดูที่การแบ่งเดือนของเขาดีกว่า 159 00:07:11,660 --> 00:07:13,240 คิดว่าเขาแบ่งเดือนกันยังไงคะ 160 00:07:13,240 --> 00:07:14,600 คือเขาแบ่งเดือนจาก 161 00:07:14,600 --> 00:07:16,120 ปฏิทินจันทรคติค่ะ 162 00:07:16,160 --> 00:07:18,500 คือไปดูที่การขึ้นการลงของพระจันทร์นะคะ 163 00:07:18,500 --> 00:07:20,000 ดังนั้น 1 เดือนเนี่ยก็คือ 164 00:07:20,000 --> 00:07:21,360 เริ่มจากตอนที่ New Moon 165 00:07:21,360 --> 00:07:25,580 New Moon คือเสี้ยวของพระจันทร์เสี้ยวแรกที่เพิ่งจะโผล่มาหลังจากพระจันทร์ดับนะคะ 166 00:07:25,580 --> 00:07:27,360 นึกสภาพในคืนจันทร์แรมอะค่ะ 167 00:07:27,380 --> 00:07:30,080 ที่แบบไม่มีพระจันทร์เลยอะนะแล้วพระจันทร์เริ่มโผล่มา ฟึบ 168 00:07:30,080 --> 00:07:31,100 อันแรกเนี่ยแหละค่ะ 169 00:07:31,140 --> 00:07:34,100 เขาเรียกว่า New Moon หลังจากที่พระจันทร์หายไปประมาณนั้น 170 00:07:34,100 --> 00:07:35,720 นี่ก็จะเป็นต้นเดือนใช่ไหมคะ 171 00:07:35,780 --> 00:07:40,060 หลังจากนั้นก็จะนับเดือนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพระจันทร์เต็มดวง แล้วก็พระจันทร์หายไปอีกรอบ 172 00:07:40,060 --> 00:07:41,400 นี่ก็คือ 1 เดือนนะคะ 173 00:07:41,400 --> 00:07:44,080 และเป็นที่มาของการเรียกเดือนว่า Month นั่นเอง 174 00:07:44,080 --> 00:07:46,060 จะเห็นว่า month กับ moon เนี่ยคล้ายกันมากเลย 175 00:07:46,060 --> 00:07:47,780 เพราะว่ามันมีที่มาแบบนี้นี่แหละค่ะ 176 00:07:47,800 --> 00:07:51,060 หรือแม้แต่ในประเทศไทยเนี่ย เดือน เดือนก็แปลว่าพระจันทร์ด้วยใช่ไหม? 177 00:07:51,080 --> 00:07:54,020 นี่แหละค่ะการนับเดือนทั่วโลกค่อนข้างจะเกี่ยวกับพระจันทร์นะคะ 178 00:07:54,020 --> 00:07:55,420 ซึ่งเหล่านี้แปลว่าอะไรคะ? 179 00:07:55,420 --> 00:07:57,960 แปลว่าวันปีใหม่ของชาวโรมันโบราณเนี่ย 180 00:07:58,120 --> 00:08:00,740 ก็คือวันที่เกิด New Moon ของเดือนมีนาคมนั่นเองค่ะ 181 00:08:00,820 --> 00:08:03,760 ก็จะนับว่าอะ ขึ้นปีใหม่แล้ว ฉลองกันได้จ้า 182 00:08:03,800 --> 00:08:06,280 แล้วถามว่าปฏิทินแบบนี้มีปัญหาอะไรคะ? 183 00:08:06,420 --> 00:08:08,420 ก็ต้องบอกว่าปฏิทินแบบนี้มีปัญหาก็คือ 184 00:08:08,480 --> 00:08:11,880 ในช่วงฤดูหนาวค่ะ ช่วงที่เป็นช่วงมืดมนแห่งปีเนี่ย 185 00:08:11,880 --> 00:08:13,360 เขาไม่นับอยู่ในปฏิทินนะคะ 186 00:08:13,360 --> 00:08:14,840 ถือว่าเป็นช่วงเดือนว่างไปเลย 187 00:08:14,860 --> 00:08:17,360 ประมาณว่าไม่มีชื่อเดือน นี่ไม่ได้อยู่ในปฏิทินของฉัน 188 00:08:17,400 --> 00:08:20,740 ช่างฤดูหนาวไป เหมือนกับว่าทุกคนไม่ใส่ฤดูหนาวนะคะ 189 00:08:20,740 --> 00:08:22,560 ดังนั้นปฏิทินของโรมันโบราณนะคะ 190 00:08:22,620 --> 00:08:25,640 ปีนึงก็เลยมีแค่ 304 วันเท่านั้นค่ะ 191 00:08:25,720 --> 00:08:28,420 ซึ่งทำให้คนสมัยนั้นเนี่ยสับสนงุนงงกันนิดนึงนะคะ 192 00:08:28,420 --> 00:08:33,100 ประมาณว่าฉันจะนับวันนับเดือนในช่วงฤดูหนาวยังไง อยู่ดีๆ ปฏิทินก็หายไป 61 วันในช่วงฤดูหนาวแบบนี้อะ 193 00:08:33,120 --> 00:08:36,580 ดังนั้นเมื่อมีคนสับสนงุนงงค่ะก็จะต้องมีการแก้ไขใช่ไหมคะ 194 00:08:36,660 --> 00:08:38,840 เราต้องมีพูดถึงกษัตริย์โรมันอีกคนนึงค่ะ 195 00:08:38,940 --> 00:08:41,480 คนคนนั้นก็คือกษัตริย์ Numa Pompilius นั่นเองนะคะ 196 00:08:41,600 --> 00:08:46,520 ซึ่งกษัตริย์องค์นี้เนี่ย เขาทำคุณประโยชน์ให้กับเราอย่างใหญ่หลวงเลยค่ะ สำหรับโลกใบนี้ 197 00:08:46,540 --> 00:08:50,740 เพราะว่าเขาบอกว่า อ้าว ทำไมเราถึงทิ้งให้เดือนนึงมันหายไปตั้ง 61 วัน 198 00:08:50,740 --> 00:08:51,960 หายไปเราก็เติมสิ 199 00:08:51,960 --> 00:08:56,480 ดังนั้นเขาก็เลยยัดเดือน 2 เดือนเข้าไปในปฏิทินของโรมันโบราณค่ะ 200 00:08:56,620 --> 00:08:58,720 ก็คือเดือน January กับ Febuary 201 00:08:58,720 --> 00:09:00,320 หรือที่สมัยก่อนเขาเรียกว่า 202 00:09:00,320 --> 00:09:00,940 203 00:09:00,960 --> 00:09:03,360 ประมาณนี้นะคะ วิวออกเสียงไม่้ได้นั่นเองค่ะ 204 00:09:03,440 --> 00:09:07,860 ซึ่งปฏิทินนี้นะคะ เราก็เริ่มใช้กันราวๆ 509 ปีก่อนคริสตศักราช 205 00:09:07,860 --> 00:09:10,420 เราเรียกปฏิทินนี้ว่า Republic Calendar นะคะ 206 00:09:10,440 --> 00:09:12,780 มีใครสังเกตอะไรจากปฏิทินนี้ไหมคะ? 207 00:09:12,780 --> 00:09:16,260 จะเห็นว่ามันยังไม่มีเดือนที่ชื่อว่า July กับ August ค่ะ 208 00:09:16,420 --> 00:09:19,820 แต่จะเป็นเดือนที่ชื่อว่า Quintulis กับ Sextilis แทนค่ะ 209 00:09:19,820 --> 00:09:21,480 ซึ่งเป็นคำแปลว่า 210 00:09:21,560 --> 00:09:23,720 5 แล้วก็ 6 ในภาษาละตินนะคะ 211 00:09:23,740 --> 00:09:26,520 ว่าแต่แล้วเดือน July กับ August เนี่ยมาได้ยังไง? 212 00:09:26,620 --> 00:09:29,160 ก็ต้องบอกว่าเป็นการตั้งชื่อตาม 213 00:09:29,280 --> 00:09:31,360 บุคคลสำคัญ 2 คนของโรมันนะคะ ก็คือ 214 00:09:31,400 --> 00:09:34,260 Julius Caesar แล้วก็ Augustus Caesar นั่นเองค่ะ 215 00:09:34,260 --> 00:09:39,480 โดย Julius Caesar ก็คือเดือน July แล้ว Augustus ก็คือเดือน August นั่นเองค่ะ 216 00:09:39,480 --> 00:09:41,020 217 00:09:41,100 --> 00:09:45,520 โดยปฏิทินของ Republic เนี่ยตลอดปีก็จะมีทั้งหมด 355 วันค่ะ 218 00:09:45,520 --> 00:09:48,440 โดยแต่ละเดือนเนี่ยก็จะมีเดือนที่เป็น Full Month 219 00:09:48,440 --> 00:09:50,260 ก็จะมีทั้งหมด 31 วัน 220 00:09:50,280 --> 00:09:52,820 ส่วนเดือนที่มีวันน้อยลงมาก็คือHallow Month 221 00:09:52,920 --> 00:09:54,920 จะมีทั้งหมด 29 วันนะคะ 222 00:09:54,920 --> 00:09:56,740 และเดือนพิเศษเดือนนึงก็คือ 223 00:09:56,740 --> 00:10:00,820 Febuary กรือเดือนที่ 2 เนี่ยก็จะมีแค่ทั้งหมด 28 วันเท่านั้นเองค่ะ 224 00:10:00,980 --> 00:10:03,940 ถามว่าการเติม 2 เดือนนี้เข้ามาส่งผลกระทบยังไงกับเราคะ? 225 00:10:04,020 --> 00:10:06,500 ผลกระทบของการเติม 2 เดือนนั้นเข้ามาก็คือ 226 00:10:06,540 --> 00:10:11,940 ทำให้วันปีใหม่เนี่ยนะคะ เลื่อนจากวันที่ 1 มีนาคม ไปที่วันที่ 1 มกราคมแทนค่ะ 227 00:10:11,940 --> 00:10:16,200 และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองปีใหม่ในเดือนมกราคมนะคะ 228 00:10:16,200 --> 00:10:17,100 อย่างไรก็ตาม 229 00:10:17,100 --> 00:10:20,780 นี่ไม่ใช่มกราคมแบบที่เราคุ้นเคยกันในทุกวันนี้ค่ะ เพราะว่า 230 00:10:20,800 --> 00:10:24,220 ต่อให้มันเฉลิมฉลองวันที่ 1 มกราคมแล้ว แต่วันที่1 มกราคมเนี่ย 231 00:10:24,260 --> 00:10:26,720 มันไม่ใช่วันที่ 1 มกราคมแบบเดียวกับเราค่ะ เพราะว่า 232 00:10:26,780 --> 00:10:29,520 มันยังเลื่อนไปเลื่อนมาอยู่ มันยังไม่ได้ Fix วันนะคะ 233 00:10:29,560 --> 00:10:33,760 ถ้าเราจะ Fix วันเนี่ยเราต้องพูดถึงว่าปัญหาของปฏิทินนี้คืออะไรค่ะ 234 00:10:33,760 --> 00:10:38,400 ปัญหาก็คือทุกวันนี้เรารู้กันแล้วใช่ไหมว่าปีนึงมันมี 365 - 366 วัน 235 00:10:38,400 --> 00:10:42,740 ดังนั้นการที่ปีของชาวโรมันโบราณมีแค่ 355 วันเกิดอะไรคะ? 236 00:10:42,740 --> 00:10:43,820 ผลกระทบก็คือ 237 00:10:43,820 --> 00:10:46,060 ในทุกปีเนี่ยวันมันก็จะ เลื่อน เลื่อน เลื่อน เลื่อน 238 00:10:46,060 --> 00:10:48,580 คือมันเหมือนมีวันจำนวนนึงอะ ขาดไปใช่ไหมคะ? 239 00:10:48,580 --> 00:10:51,720 สุดท้ายฤดูกาลกับปฏิทินมันก็เลยไม่สัมพันธ์กันค่ะ 240 00:10:51,720 --> 00:10:53,140 ถามว่าเขามีวิธีแก้ไหม? 241 00:10:53,140 --> 00:10:55,100 คนสมัยโบราณไม่ได้คำนวณไม่ได้นะคะทุกคน 242 00:10:55,100 --> 00:10:56,980 เขาค่อนข้างจะแม่นเรื่องการคำนวณค่ะ 243 00:10:56,980 --> 00:11:01,260 ดังนั้นนะคะเขาเลยมีการเติมเดือนพิเศษเข้าไปในทุกๆ 2-3 ปีค่ะ 244 00:11:01,280 --> 00:11:04,680 เพื่อที่เหมือนกับว่าเราสะสมๆ วันที่ขาดไปแล้วประมาณ 3 ปี 245 00:11:04,680 --> 00:11:06,300 อะปีนี้เติมเข้าไป 1 เดือน ปึ้ง 246 00:11:06,300 --> 00:11:09,940 ปฏิทินมันก็จะเด้งกลับมาในระยะเวลาปกติใช่ไหมคะ? 247 00:11:09,960 --> 00:11:12,980 ซึ่งเดือนนั้นเนี่ยนะคะ เราจะเรียกว่าเดือน Mercedonius นั่นเองค่ะ 248 00:11:12,980 --> 00:11:16,540 ทีนี้แล้วจะถามว่าจะเพิ่มตอนไหน เพิ่มเมื่อไหร่ กฎเกณฑ์คือยังไง? 249 00:11:16,540 --> 00:11:17,460 ก็ต้องบอกว่า 250 00:11:17,460 --> 00:11:18,000 ไม่มี! 251 00:11:18,080 --> 00:11:21,320 ไม่มีกฎนะคะ คือเพิ่มที่ประมาณ ทุกๆ 2-3 ปีค่ะ 252 00:11:21,320 --> 00:11:23,780 โดยที่ให้ผู้ที่มีอำนาจในยุคนั้นนะคะ 253 00:11:23,780 --> 00:11:25,660 เรียกว่า Pontifex Maximus เนี่ย 254 00:11:25,680 --> 00:11:30,580 เป็นคนมีอำนาจสั่งว่า เอาล่ะ ปีนี้ข้าขอสั่งให้มีเดือนพิเศษเกิดขึ้น! 255 00:11:30,580 --> 00:11:31,080 ผ่าม! 256 00:11:31,100 --> 00:11:34,380 แล้วทุกคนในอาณาจักรนะคะ ก็จะใส่เดือนพิเศษเข้าไปในปฏิทิน พึ่บ! 257 00:11:34,380 --> 00:11:35,240 เข้าไปอย่างงี้เลย 258 00:11:35,240 --> 00:11:39,160 ถามว่าการที่ไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอนแล้วให้ผู้มีอำนาจเป็นคนสั่ง 259 00:11:39,160 --> 00:11:40,420 ทำให้เกิดอะไรขึ้นคะ? 260 00:11:40,480 --> 00:11:43,400 สิ่งนั้นก็คือทำให้เกิดการโกงกันขึ้นค่ะ 261 00:11:43,420 --> 00:11:45,800 แล้วคิดว่าเขาเอาวันที่เกินมาไปโกงอะไรคะ? 262 00:11:45,840 --> 00:11:48,600 ก็คือโกงเรื่องการปกครองนั่นเองนะคะ 263 00:11:48,620 --> 00:11:51,640 เพราะว่าสมมติว่าคนที่มีอำนาจสั่งเนี่ยรู้สึกว่า 264 00:11:51,720 --> 00:11:54,820 เห้ย ตอนนี้ฉันกำลังปกครองอยู่แล้วมันกำลังจะหมดวาระของฉันแล้ว 265 00:11:54,920 --> 00:11:58,220 ฉันอยากมีวาระการปกครองเพิ่มขึ้นอีก 1 เดือนทำยังไงดีนะ 266 00:11:58,240 --> 00:12:01,380 อะ สั่งเพิ่มเดือนพิเศษดีกว่า อะทุกคนปีนี้มีเดือนพิเศษ 267 00:12:01,380 --> 00:12:01,940 ผ่าม! 268 00:12:02,000 --> 00:12:05,720 ก็ได้ระยะเวลาการปกครองขึ้นมาอีก 1 เฮือกซะอย่างนั้นเลยนะคะ 269 00:12:05,740 --> 00:12:08,820 หรือว่าถ้าสมมติว่าแบบ เห้ย ปีนี้ฐานเสียงฉันดี 270 00:12:08,960 --> 00:12:10,960 เดี๋ยวปีหน้าเดี๋ยวฉันก็ได้รับเลือกกลับเข้ามาใหม่ 271 00:12:10,960 --> 00:12:12,620 อะ อะ ปีนี้ไม่มีเดือนพิเศษดีกว่า 272 00:12:12,620 --> 00:12:13,700 ก็ทำได้นะคะ 273 00:12:13,700 --> 00:12:17,320 ดังนั้นมันก็เลยเกิดการสับสนงุนงงกันอย่างยิ่งยวดเลยค่ะ 274 00:12:17,320 --> 00:12:20,760 สุดท้ายนะคะ ก็มีคนคนนึงทนไม่ได้เลยค่ะ คนคนนั้นก็คือ 275 00:12:20,760 --> 00:12:22,180 Julius Caeser นั่นเอง 276 00:12:22,200 --> 00:12:24,880 คือ Julius Caeser เนี่ยนะคะ ตอนนั้นขึ้นมาปกครองโรมันค่ะ 277 00:12:24,980 --> 00:12:27,300 แล้วก็รู้สึกว่าระบบนี้มันไม่ Okay เลย มันไม่ Make Sense 278 00:12:27,420 --> 00:12:29,760 เราควรจะมีวันที่สามารถคำนวณได้สิ 279 00:12:29,840 --> 00:12:33,040 ดังนั้น Julius Caeser ก็เลยไปปรึกษานักดาราศาสตร์คนนึงค่ะ 280 00:12:33,080 --> 00:12:36,600 ซึ่งเขาชื่อว่าคุณ So ci... So cigi....อะไรประมาณนี้นะคะ 281 00:12:36,680 --> 00:12:37,580 ชื่อประมาณนี้แหละ 282 00:12:37,640 --> 00:12:42,100 เขาก็ไปปรึกษากันนะคะแล้วก็บอกว่า เอ๊ย ไปคำนวณมาซิปีนึงมันควรจะมีกี่วันกันแน่ 283 00:12:42,200 --> 00:12:45,240 เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาใส่ไอ้เดือนพิเศษนี้กันค่ะ 284 00:12:45,320 --> 00:12:48,880 ซึ่งคุณนักดาราศาสตร์คนนี้เขาก็ไปคำนวณอะไรต่างๆ มาเรียบร้อยนะคะ 285 00:12:48,880 --> 00:12:50,800 แล้วเขาก็คำนวณขึ้นมาได้ค่ะว่า 286 00:12:50,800 --> 00:12:54,040 เอ๊ย จริงๆ แล้วปีนึงของเราเนี่ยมันไม่ได้มี 355 วัน 287 00:12:54,140 --> 00:12:56,960 จริงๆ มันมี 365.25 วันต่างหาก 288 00:12:57,040 --> 00:12:59,720 ดังนั้นทุกคน เรามาสร้างปฏิทินใหม่กันดีกว่า 289 00:12:59,820 --> 00:13:04,580 ช่างหัวพระจันทร์ ช่างหัวอะไรทั้งสิ้น คือแต่เดิมเดือนเนี่ยมันมัวแต่ไปตามพระจันทร์ ตามนู่นตามนี่ 290 00:13:04,580 --> 00:13:06,300 อะ เรามาตามพระอาทิตย์กันดีกว่านะ 291 00:13:06,400 --> 00:13:09,080 แล้วก็ตั้งเลยว่าปีนึงเนี่ยมี 365 วัน 292 00:13:09,080 --> 00:13:10,980 แล้วก็ทุกๆ 4 ปีเนี่ยเราก็จะมี 293 00:13:11,080 --> 00:13:15,840 วันพิเศษ 1 วันเพื่อที่วันนั้นเนี่ยนะจะได้ชดเชยของวันอื่นๆ ใน 3 ปีที่ผ่านมา 294 00:13:15,840 --> 00:13:20,320 แล้วปีนึงมันจะได้มี 365.25 วันพอดีเป๊ะเลยตกลงไหมนะคะ 295 00:13:20,340 --> 00:13:22,720 สุดท้ายถามว่า Julius Caesar ชอบไหมไอเดียนี้ 296 00:13:22,720 --> 00:13:24,200 Julius Caesar ชอบนะคะ 297 00:13:24,200 --> 00:13:27,480 ดังนั้นนะคะ Julius Caesar ก็เลยสั่งให้ประดิษฐ์ปฏิทินแบบนี้ขึ้นค่ะ 298 00:13:27,640 --> 00:13:29,640 และสั่งให้ทุกคนเนี่ยใช้ปฏิทินนี้นะคะ 299 00:13:29,680 --> 00:13:33,440 ซึ่งเราเรียกปฏิทินชนิดนี้ว่า Julian Calendar นั่นเองค่ะ 300 00:13:33,520 --> 00:13:37,820 แล้วถามว่าวันพิเศษของ Julius Caesar ที่เติมเข้ามาเพื่อให้เต็มวันเนี่ยมันคือวันที่เท่าไหร่ 301 00:13:37,820 --> 00:13:41,840 มันคือวันที่ 29 กุมภาพันธ์แบบที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้รึเปล่านะ 302 00:13:41,840 --> 00:13:43,540 ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ค่ะ 303 00:13:43,540 --> 00:13:48,240 แม้ว่าจะเติมเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์เหมือนกันเนี่ยนะคะ แต่วันที่เติมเข้ามาของสมัย Julius Caesar เนี่ย 304 00:13:48,380 --> 00:13:50,380 คือวันที่ 23 กุมภาพันธ์ค่ะ 305 00:13:50,400 --> 00:13:52,660 คือปีไหนก็ตามที่เขาถือว่าเป็น Leap Year นะคะ 306 00:13:52,660 --> 00:13:53,500 ก็คือปีที่แบบ 307 00:13:53,500 --> 00:13:55,460 จะเอามา Adjust ให้ทุกอย่างเข้าที่เนี่ย 308 00:13:55,460 --> 00:13:57,180 เขาจะมีวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 309 00:13:57,180 --> 00:13:58,320 2 วันค่ะ 310 00:13:58,320 --> 00:14:02,660 คือเช้าวันนี้เป็นวันที่ 23 อะนอนไปตื่นขึ้นมาเป็นวันที่ 23 อีกรอบนึงค่ะ 311 00:14:02,660 --> 00:14:06,160 และแน่นอนว่าตอนนี้วันที่ของเราเนี่ย Fix แล้วใช่ไหมคะ 312 00:14:06,160 --> 00:14:07,960 ก็จะต้องมีการเลือกกันค่ะว่า 313 00:14:07,960 --> 00:14:12,340 เอ...แล้วเราจะเริ่มต้น ใช้ปฏิทินนี้วันไหน ปีไหน อะไรยังไงนะคะ 314 00:14:12,420 --> 00:14:17,020 แล้วถามว่าคุณ Julius Caesar ของเราเนี่ยเขาเริ่มปักว่าจะใช้ปฏิทินนี้วันแรกในวันไหน 315 00:14:17,120 --> 00:14:21,700 เพราะนั่นคือวันที่ 1 มกราแบบที่คล้ายๆ กับที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบันใช่ไหมคะ 316 00:14:21,700 --> 00:14:25,680 หลังจากที่ 1 มกราเนี่ยมันเลื่อนไปเลื่อนมามานานจากการตามพระจันทร์ 317 00:14:26,940 --> 00:14:28,940 318 00:14:28,940 --> 00:14:29,620 เอาจริงๆ นะคะ 319 00:14:29,620 --> 00:14:31,240 บางคนเนี่ยเขาก็บอกกันว่า 320 00:14:31,240 --> 00:14:33,100 วันที่ 3 มกราคมในทุกวันนี้ 321 00:14:33,180 --> 00:14:37,420 จริงๆ ควรจะเป็นวันปีใหม่มากกว่าวันที่ 1 มกราคมในทุกวันนี้มากกว่าอีกค่ะ 322 00:14:37,420 --> 00:14:41,920 เพราะว่าวันนั้นคือวันที่โลกโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของปีนะคะ 323 00:14:41,920 --> 00:14:42,840 อย่างไรก็ตาม 324 00:14:42,940 --> 00:14:47,700 Julius Caesar ของเราก็ดันเลือก 1 มกราคมแบบปัจจุบันเป็นวันแรกของปีค่ะ 325 00:14:47,700 --> 00:14:48,800 อยากรู้กันไหมคะว่าทำไม 326 00:14:48,800 --> 00:14:50,780 เอาจริงๆ มันก็มีหลายทฤษฎีค่ะ 327 00:14:50,780 --> 00:14:52,340 ทฤษฎีนึงเนี่ยบอกไว้ว่า 328 00:14:52,400 --> 00:14:54,800 เพราะว่าวันที่ 1 มกราคมแบบทุกวันนี้เนี่ยนะคะ 329 00:14:54,880 --> 00:14:57,940 เป็นวันที่เวลากลางวันของซีกโลกเหนือ 330 00:14:58,040 --> 00:15:02,000 จะค่อยๆ ยาวขึ้นๆๆตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ 331 00:15:02,020 --> 00:15:05,680 อย่างไรก็ตามนะคะเราก็ยังไม่ชัวร์ค่ะว่านี่คือเหตุผลที่เขาเลือกวันนี้ 332 00:15:05,740 --> 00:15:08,520 เพราะถ้าพูดถึงวันสำคัญเกี่ยวกับพระอาทิตย์ที่ใกล้กว่านั้นเนี่ย 333 00:15:08,620 --> 00:15:11,680 มันก็คือวันเหมายันช่วงวันที่ 21 ธันวาคมต่างหาก 334 00:15:11,680 --> 00:15:13,060 ชัดกว่าตั้งเยอะนะ 335 00:15:13,120 --> 00:15:14,500 คุณ Julius Caesar นะคะ 336 00:15:14,500 --> 00:15:19,180 แทนที่เขาจะเลือกว่าเอาล่ะวันที่กลางคืนยาวที่สุดกลางวันสั้นที่สุด 337 00:15:19,260 --> 00:15:20,840 เพราะว่ามันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 338 00:15:20,960 --> 00:15:23,380 อยู่ดีๆ ค่ะแม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาเลิกใช้พระจันทร์แล้ว 339 00:15:23,440 --> 00:15:26,060 แต่เจาก็ดันไปปัก วันที่ 1 มกราคมนะคะ 340 00:15:26,060 --> 00:15:27,440 ตามพระจันทร์ซะอย่างนั้นค่ะ 341 00:15:27,560 --> 00:15:31,460 ก็คือเขาไปยึดหลักการเริ่มเดือนแบบโบราณของโรมันนู่นเลย 342 00:15:31,520 --> 00:15:32,880 ก็คือเริ่มที่ New Moon นะคะ 343 00:15:32,960 --> 00:15:35,440 และในปีที่เขาเริ่มใช้ปฏิทินนี้ค่ะก็คือ 344 00:15:35,600 --> 00:15:37,600 46 ปีก่อนคริสตศักราชนะคะ 345 00:15:37,640 --> 00:15:41,260 ดังนั้นนะคะวันที่เกิด New Moon ของ46 ปีก่อนคริสตศักราช 346 00:15:41,340 --> 00:15:44,540 ก็เลยเป็นวันที่ Mark วันทีที่ 1 มกราคมตั้งแต่นั้นมาค่ะ 347 00:15:44,540 --> 00:15:45,580 อย่างไรก็ตามค่ะ 348 00:15:45,580 --> 00:15:46,740 คิดว่าคลิปนี้จบแล้วใช่ไหม 349 00:15:46,760 --> 00:15:49,440 ยังๆ ดูข้างล่างเวลายังเหลืออีกเพียบเลย 350 00:15:49,440 --> 00:15:50,300 เพราะว่าอะไร? 351 00:15:50,300 --> 00:15:52,260 ถามว่าคุณนักดาราศาสตร์สมัยโรมันเนี่ย 352 00:15:52,260 --> 00:15:53,800 คำนวณแม่นไหมก็ต้องบอกว่า 353 00:15:53,800 --> 00:15:55,780 แม่นมากแล้วเมื่อเทียบกับสมัยโบราณ 354 00:15:55,820 --> 00:15:58,640 ทุกคนก็จะแบบ อ้าว! แต่นี่มันปฏิทินแบบที่เราใช้ทุกวันนี้แล้วหนิ 355 00:15:58,640 --> 00:15:59,360 ขอบอกว่า 356 00:15:59,360 --> 00:16:00,200 ไม่ใช่ค่ะ 357 00:16:00,200 --> 00:16:01,400 ทุกคนจำผิดนะคะ 358 00:16:01,440 --> 00:16:06,480 แม้ว่าทุกวันนี้เราจะสอนกันเข้าใจง่ายๆ ว่าทุก 4 ปีเนี่ยเราจะมีวันพิเศษขึ้นมาวันนึง 359 00:16:06,480 --> 00:16:07,020 แต่ 360 00:16:07,020 --> 00:16:08,180 จริงๆ แล้วไม่ใช่นะคะ 361 00:16:08,180 --> 00:16:09,640 ปฏิทินที่เราใช้ในทุกวันนี้ 362 00:16:09,720 --> 00:16:12,680 ไม่ได้มีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ในทุก 4 ปีค่ะ 363 00:16:12,680 --> 00:16:13,300 เพราะว่าอะไร? 364 00:16:13,300 --> 00:16:17,260 เพราะว่าแม้ว่าคุณนักดาราศาสตร์สมับโรมันจะคำยวณแม่นขนาดไหนก็ตาม 365 00:16:17,260 --> 00:16:18,920 แต่มันไม่ได้แม่นขนาดนั้นค่ะ 366 00:16:18,920 --> 00:16:19,480 คือ 367 00:16:19,600 --> 00:16:23,240 ที่เขาคำยงณไว้ว่า 1 ปีมี 365.25 วันเนี่ย 368 00:16:23,280 --> 00:16:25,500 จริงๆ เขาตำนวณเกินไปนิดนึงค่ะ 369 00:16:25,600 --> 00:16:28,920 คือปีนึงอะไม่ได้มี 365.25 วันเป๊ะๆหรอก 370 00:16:28,960 --> 00:16:32,940 จริงๆ มันเป็น 365.24 แล้วก็ตัวเลขยาวๆ อีกเต็มไปหมดนะคะ 371 00:16:32,940 --> 00:16:34,240 คือเขาคำนวณเกินไปเนี่ยนะคะ 372 00:16:34,360 --> 00:16:37,180 ปีนึงประมาณ 11 นาทีแล้วก็ 14 วินาทีค่ะ 373 00:16:37,180 --> 00:16:40,500 ทุกคนก็จะแบบคำนวณเกินไป 11 นาทีเองไม่มีปัญหาอะไรหรอก 374 00:16:40,500 --> 00:16:42,380 แต่จริงๆ แล้วมันก่อให้เกิดปัญหาค่ะ 375 00:16:42,380 --> 00:16:46,760 เพราะว่าปฏิทินของจูเลียนเนี่ยนึกสภาพว่าถ้าใช้มาถึงปัจจุบันนี้มันก็เป็นพันปีแล้วใช่ไหมคะ 376 00:16:46,800 --> 00:16:50,240 พันปีคูณ 11 นาทีอู้หู หายไปหลายวันพอสมควรเลยนะ 377 00:16:50,320 --> 00:16:55,700 ดังนั้นปัญหาของปฏิทินจูเลียนค่ะ ก็เลยเริ่มแสดงออกมาในช่วงประมาณยุคกลางของยุโรปค่ะ 378 00:16:55,700 --> 00:16:56,900 ในช่วงนั้นเนี่ยนะคะ 379 00:16:57,000 --> 00:16:57,880 คนเริ่มรู้สึกว่าแบบ 380 00:16:57,940 --> 00:17:01,300 เอ...ปฏิทินที่ฉันใช้อยู่เนี่ยมันไม่ตรงกับฤดูกาลปัจจุบันเลยนะ 381 00:17:01,300 --> 00:17:04,700 เพราะว่าวันที่เนี่ยนะคะมันเลื่อนไปประมาณ 10 วันด้วยกันแล้วค่ะ 382 00:17:04,840 --> 00:17:07,420 ดังนั้นคนก็เริ่มรู้สึกว่า เห้ยปฏิทินมันมั่วรึเปล่า 383 00:17:07,540 --> 00:17:09,540 ทำไมวันที่กลางวันกลางคืนมันควรจะเท่ากัน 384 00:17:09,540 --> 00:17:10,300 มันก็ไม่เท่า 385 00:17:10,300 --> 00:17:11,320 ทำไมอะไรยังไง?นะคะ 386 00:17:11,320 --> 00:17:12,340 งงกันไปหมดค่ะ 387 00:17:12,340 --> 00:17:13,720 ประกอบกับว่าช่วงนั้นเนี่ย 388 00:17:13,760 --> 00:17:16,300 มันมีการฉลองปีใหม่กันมั่วขึ้นมาอีกรอบนึง 389 00:17:16,300 --> 00:17:18,240 ไม่ได้ฉลองที่วันที่ 1 มกราคมแล้ว 390 00:17:18,240 --> 00:17:19,120 ถามว่าเพราะอะไร? 391 00:17:19,300 --> 00:17:21,300 เพราะว่าคนที่กำหนดให้ฉลอง 1 มกราคม 392 00:17:21,300 --> 00:17:21,920 คือ 393 00:17:21,920 --> 00:17:22,560 ชาวโรมัน 394 00:17:22,720 --> 00:17:25,080 และ ชาวยุโรปยุคกลางเนี่ยเป็นยุคที่แบบว่า 395 00:17:25,120 --> 00:17:28,460 ค่อนข้างจะนับถือศาสนาคริสต์คากอลืกค่อนข้างโหดใช่ไหม 396 00:17:28,460 --> 00:17:29,620 แล้วก็เป็นช่วงที่แบบว่า 397 00:17:29,620 --> 00:17:31,480 ถ้าใครไม่เชื่อตามที่บาปหลวงกล่าว 398 00:17:31,480 --> 00:17:35,740 มันจะต้องเป็นพ่อมดเป็นพวกนอกรีตเป็นพวกศาสนาเพแกนทำนองนี้ใช่ไหมคะ? 399 00:17:35,760 --> 00:17:39,060 ดังนั้นค่ะ การเฉลิมฉลองวันปีใหม่ในช่วงวันที่ 1 มกราคมเนี่ย 400 00:17:39,220 --> 00:17:41,220 มันดูจะเป็นของศาสนาของชาวโรมัน 401 00:17:41,220 --> 00:17:42,560 ชาวยุโรปยุคกลางก็เลย 402 00:17:42,560 --> 00:17:43,700 มั่วกันไปหมดเลยค่ะ 403 00:17:43,700 --> 00:17:44,780 แบบฉันจะฉลองวันนี้ละกัน 404 00:17:44,780 --> 00:17:45,960 อะฉันจะฉลองวันนั้นละกัน 405 00:17:45,960 --> 00:17:47,480 ฉันกลับไปฉลองตอน X'mas แล้วกัน 406 00:17:47,620 --> 00:17:49,620 ฉันไปฉลองเดือนมีนาคมแล้วกันค่ะ 407 00:17:49,700 --> 00:17:52,060 เรื่องราวของปฏิทินนะคะก็มั่วกันแบบนี้มาเรื่อยๆ ค่ะ 408 00:17:52,080 --> 00:17:54,580 จนกระทั่งมาถึงปี 1582 นะคะ 409 00:17:54,580 --> 00:17:58,640 ก็เกิดคนคนนึงนะคะที่เกิดการทนไม่ได้อีกแล้วกับการที่ปฏิทินมันมั่วขนาดนี้ 410 00:17:58,780 --> 00:18:00,780 แล้ววันกับฤดูกาลเนี่ยมันไม่ตรงกันนะคะ 411 00:18:00,780 --> 00:18:02,100 คนคนนั้นเป็น Pope ค่ะ 412 00:18:02,140 --> 00:18:05,000 นั่นก็คือสมเด็จพระสันตะปาปาGregory XIIIนะคะ 413 00:18:05,000 --> 00:18:06,480 คือท่านเนี่ยรู้สึกว่าแบบ 414 00:18:06,480 --> 00:18:08,960 เอ๊ย มันไม่โอเคแล้วที่ปฏิทินเราจะมั่วแบบนี้ 415 00:18:08,980 --> 00:18:11,180 ดังนั้นท่านก็เลยไปปรึกษานักดาราศาสตร์ค่ะ 416 00:18:11,240 --> 00:18:13,600 ซึ่งนักดาราศาสตร์ที่ท่านไปปรึกษานะคะ ก็ชื่อว่า... 417 00:18:13,600 --> 00:18:14,340 ... 418 00:18:14,340 --> 00:18:15,400 นี่แหละค่ะ ชื่อนี้แหละ 419 00:18:15,500 --> 00:18:17,460 คือวิวอ่านไม่ออกอีกแล้วนะคะทุกคน 420 00:18:17,540 --> 00:18:20,120 ซึ่งหลังจากที่ท่านไปปรึกษานักดาราศาสตร์คนนี้นะคะ 421 00:18:20,120 --> 00:18:21,360 นักดาราศาสตร์คนนี้ก็บอกว่า 422 00:18:21,380 --> 00:18:24,800 เออ มันไม่ Work แล้วแหละ เราจะต้องคำนวณกันใหม่แล้วว่าปีนึงมันมีกี่วัน 423 00:18:24,800 --> 00:18:28,000 ดังนั้นนักดาราศาสตร์คนนี้นะคะก็เลยไปคำนวณอะไรต่างๆ มาค่ะ 424 00:18:28,000 --> 00:18:29,960 แล้วก็ได้คำตอบเหมือนที่วิวบอกทุกคนไปนี่แหละ 425 00:18:30,000 --> 00:18:33,180 ว่าจริงๆ แล้วปีนึงมันไม่ได้มี 365.25 วัน 426 00:18:33,180 --> 00:18:37,240 แต่มันเป็น365.24บลาๆๆๆๆยาวเหยียดเลยนะคะ 427 00:18:37,280 --> 00:18:42,500 ดังนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาGregory นะคะ ก็เลยรู้สึกว่าเราจำเป็นจะต้องออกปฏิทินใหม่อีกอันนึงแล้ว 428 00:18:42,580 --> 00:18:45,460 เพื่อที่จะปรับเวลาเนี่ย ให้ตรงกับฤดูกาลนะคะ 429 00:18:45,460 --> 00:18:47,180 ก็เลยออกเป็นปฏิทินอันใหม่มาค่ะ 430 00:18:47,180 --> 00:18:49,140 ชื่อว่าปฏิทิน Gregorian นั่นเอง 431 00:18:49,140 --> 00:18:50,440 ซึ่งปฏิทิน Gregorianเนี่นะคะ 432 00:18:50,460 --> 00:18:52,340 ก็เป็นปฏิทินที่เราใช้กันอยู่จนถึงปัจจุบัน 433 00:18:52,340 --> 00:18:55,900 ถ้าใครเคยปรับปฏิทินในมือถือของตัวเองจะเห็นว่ามันจะมีให้เลือกว่าแบบ 434 00:18:55,900 --> 00:18:58,420 จะมีให้เลือกว่าจะใช้ปฏิทินแบบจีน ปฏิทินแบบGregorian 435 00:18:58,420 --> 00:18:59,760 นี่แหละค่ะที่มานะคะ 436 00:18:59,820 --> 00:19:02,420 ปัญหาก็คือตอนที่จะเริ่มใช้ปฏิทินแบบ Gregorian เนี่ยนะคะ 437 00:19:02,420 --> 00:19:05,020 วันในปีเนี่ยมันเกินมาแล้วทั้งหมด 10 วันใช่ไหม 438 00:19:05,020 --> 00:19:06,480 ที่มันไม่ตรงกับฤดูกาล 439 00:19:06,480 --> 00:19:08,900 ดังนั้นมันก็ต้องมีการปรับปฏิทินกันอีกรอบนะคะ 440 00:19:08,900 --> 00:19:10,560 สมเด็จพระสันตะปาปา Gregory นะคะก็เลย 441 00:19:10,560 --> 00:19:13,200 มีการประกาศออกมาในปี 1582 ค่ะว่า 442 00:19:13,300 --> 00:19:16,620 เอาล่ะ เราจะลบวันที่ออกจากปฏิทินทั้งหมด 10 วันนะจ๊ะทุกคน 443 00:19:16,620 --> 00:19:20,220 เพื่อที่ว่าปฏิทินมันจะได้อยู่ในวันที่ที่ถูกต้องอีกครั้งนึง 444 00:19:20,280 --> 00:19:24,100 ในปี 2582 ก็เลยไม่มีวันที่ 5-14 ตุลาคมนะคะ 445 00:19:24,120 --> 00:19:26,880 คือพอเวลาเรานอนไปในคืนวันที่ 4 ตุลาคม 446 00:19:26,980 --> 00:19:30,380 ตื่นเช้ามาปุ๊บมันจะกลายเป้นวันที่15 ตุลาคมทันทีเลยค่ะ 447 00:19:30,440 --> 00:19:33,220 อะ ตอนนี้เราปรับปฏิทินและฤดูกาลให้ตรงกันแล้วเรียบร้อยใช่ไหมคะ? 448 00:19:33,220 --> 00:19:36,160 แล้วทำยังไงให้ในอนาคตเนี่ยวันที่มันไม่คลาดเคลื่อนอีก 449 00:19:36,220 --> 00:19:39,640 ก็ 365.24...อะไรสักอย่างวันเนี่ยมันจะไปคำนวณยังไง 450 00:19:39,640 --> 00:19:40,380 ก็ต้องบอกว่า 451 00:19:40,420 --> 00:19:42,420 หลังจากใช้สูตรคณิตศาสตร์อะไรต่างๆ ค่ะ 452 00:19:42,420 --> 00:19:43,740 เขาก็เลยคำนวณออกมาได้ว่า 453 00:19:43,820 --> 00:19:46,680 อะ เราจะต้องมีปีที่มีวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี่แหละ 454 00:19:46,680 --> 00:19:47,820 เพื่อที่จะเป็น Leap Year นะคะ 455 00:19:47,880 --> 00:19:50,920 คือเป็นปีที่เอาไว้ปรับให้ปฏิทินมันกลับมาตรงอีกครั้งนึง 456 00:19:50,920 --> 00:19:52,620 แต่ถามว่ามันจะมีทุกกี่ปี 457 00:19:52,720 --> 00:19:55,140 ในเมื่อสูตาทุก 4 ปีเนี่ยมันไม่ Valid แล้วนะคะ 458 00:19:55,140 --> 00:19:57,000 เขาก็บอกว่าสูตรคำนวณง่ายมากค่ะ 459 00:19:57,000 --> 00:19:58,280 ให้ไปดูที่ 2 กรณีด้วยกัน 460 00:19:58,280 --> 00:19:59,660 คือไปดูที่ปี ค.ศ. 461 00:19:59,680 --> 00:20:02,460 ว่าปี ค.ศ. นั้นเนี่ยลงท้ายด้วย 00 รึเปล่า 462 00:20:02,520 --> 00:20:04,520 สำหรับปีไหนที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย 00 เนี่ยนะคะ 463 00:20:04,520 --> 00:20:06,260 ให้เอา 4 หารปี ค.ศ. ค่ะ 464 00:20:06,260 --> 00:20:07,960 ถ้าสมมติว่า 4 หารลงตัว 465 00:20:07,960 --> 00:20:09,600 อะ ปีนั้นจะเรียกว่า Leap Year นะคะ 466 00:20:09,660 --> 00:20:12,100 คือปีที่เดือนกุมภาพันธ์เนี่ยมี 29 วันค่ะ 467 00:20:12,220 --> 00:20:14,460 ส่วนถ้าปีไหนมันลงท้ายด้วย 00 พอดีเป๊ะเนี่ยนะคะ 468 00:20:14,460 --> 00:20:16,400 อย่าหารด้วย 4 ค่ะ ให้หารด้วย 400 469 00:20:16,480 --> 00:20:18,560 ถ้าหารด้วย 400 ลวตัว ปีนั้นคือ LEap Year 470 00:20:18,560 --> 00:20:20,060 แต่ถ้าหารด้วย 400 ไม่ลงตัว 471 00:20:20,060 --> 00:20:21,780 ปีนั้นก็จะไม่ใช่ Leap Year นะคะ 472 00:20:21,800 --> 00:20:25,720 นี่ก็เป็นจุดแต่งต่างระหว่างปฏิทิน Julian กับปฏิทิน Gregorian ค่ะ 473 00:20:25,720 --> 00:20:29,480 และทั้งหมดนี้ก็คือปฏิทินที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันแบบเป็นสากลนะคะ 474 00:20:29,480 --> 00:20:31,100 และก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรา 475 00:20:31,140 --> 00:20:33,140 ฉลองปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม 476 00:20:33,140 --> 00:20:35,060 แบบที่เป็น 1 มกราคมในปัจจุบัน 477 00:20:35,080 --> 00:20:37,240 ไม่ใช่ 1 มกราคมที่ลอยไปลอยมา 478 00:20:37,240 --> 00:20:38,520 ไปอยู่ที่วันนั้นวันนี้วันนู้น 479 00:20:38,520 --> 00:20:39,500 นั่นเองค่ะ 480 00:20:39,500 --> 00:20:40,160 โอ๊ะ 481 00:20:40,160 --> 00:20:42,680 เป็นไงคลิปนี้ยากมาก มึนมาก งงมากนะคะ 482 00:20:42,680 --> 00:20:45,740 ตอนแรกคิดว่าจะทำคลิปปีใหม่ขำๆ สนุกๆ 483 00:20:45,740 --> 00:20:48,140 แบบ เออ ตอบคำถามง่ายๆ แค่ปฏิทิน Julian นู่นนี่นั่น 484 00:20:48,140 --> 00:20:49,460 พอไปค้นข้อมูลเข้าไปแบบ 485 00:20:49,460 --> 00:20:50,460 โอ้โห! ทุกคน 486 00:20:50,460 --> 00:20:52,420 ความคณิตศาสตร์นี้มึนไหมคะ 487 00:20:52,460 --> 00:20:55,460 อย่างไรก็ตามเพื่อเพิ่มความมึนให้กับทุกคนเพิ่มไปอีกนะคะ 488 00:20:55,460 --> 00:20:59,060 ก็ต้องบอกว่าถามว่าเราเริ่มใช้ปฏิทิน Gregorian เมื่อไหร่ ก็ต้องบอกว่า 489 00:20:59,060 --> 00:21:00,480 เมื่อ Pope ประกาศมาแล้วเนี่ยนะคะ 490 00:21:00,480 --> 00:21:02,980 แต่ละประเทศก็ค่อนๆ เปลี่ยนตามไปเรื่อยๆ 491 00:21:02,980 --> 00:21:03,940 ก็เปลี่ยนไม่พร้อมกันนะคะ 492 00:21:04,080 --> 00:21:08,660 และในคนบางกลุ่มเนี่ยก็ยังมีคนที่ใช้ปฏิทิน Julian อยู่จนถึงปัจจุบันนี้เหมือนกันนะคะ 493 00:21:08,700 --> 00:21:11,360 ก็คือศาสนาคริสต์นิกายกรีกออร์ทอดอกซ์นะคะ 494 00:21:11,460 --> 00:21:16,480 ทางนั้นเนี่ยเขาจะใช้ปฏิทิน Julian ในการคำนวณพวกวันพิเศษที่เขาจะต้องเฉลิมฉลองต่างๆ 495 00:21:16,480 --> 00:21:18,340 เช่น วันอีสเตอร์อะไรแบบนี้ 496 00:21:18,440 --> 00:21:22,240 ซึ่งในปัจจุบันนี้วันของเขาก็จะห่างกับเราทั้งหมด 11วันด้วยกันค่ะ 497 00:21:22,400 --> 00:21:24,680 แตกต่างจากสมัยยุคกลางที่ห่างกัน 10 วันเนอะ 498 00:21:24,860 --> 00:21:26,860 อะเพื่อไม่เพิ่มความงงให้ทุกคนไปมากกว่านี้ 499 00:21:27,040 --> 00:21:29,900 วิวคิดว่าคลิปสุดท้ายของปี 2562ของเราเนี่ย 500 00:21:29,900 --> 00:21:31,080 ยาวพอสมควรแล้วค่ะ 501 00:21:31,180 --> 00:21:34,400 ก็ วิวขอขอบคุณทุกคนนะคะที่ติดตามวิวมาตลอดปีนี้ 502 00:21:34,440 --> 00:21:35,580 แล้วก็ขอ 503 00:21:35,580 --> 00:21:36,780 สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน 504 00:21:36,880 --> 00:21:40,600 ขอให้ทุกคนมีความสุขในปี 2563 ที่กำลังจะมาถึงนี้ค่ะ 505 00:21:40,600 --> 00:21:42,040 สำหรับใครที่ชื่นชอบคลิปนี้นะคะ 506 00:21:42,040 --> 00:21:43,600 อย่าลืมกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้วิว 507 00:21:43,600 --> 00:21:45,500 แล้วก็กด Share เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ 508 00:21:45,500 --> 00:21:46,920 ก่อนจะจากกันไปขออนุญาต 509 00:21:47,040 --> 00:21:52,840 สวัสดีปีใหม่ 2563 ทุกคน แล้วก็ขอให้ปี 2563 เป็นปีที่มีความสุขสำหรับทุกคนค่ะ 510 00:21:52,840 --> 00:21:53,840 โอยยยย ทุกคน 511 00:21:53,840 --> 00:21:55,780 เอาจริงๆ คลิปนี้เป็นคลิปที่เหนื่อยมากเลยนะคะทุกคน 512 00:21:55,860 --> 00:21:57,960 วิวไม่รู้ว่าทุกคนเข้าใจแบบนัน้รึเปล่า 513 00:21:57,960 --> 00:21:58,980 แต่สำหรับตัววิวเนี่ย 514 00:21:58,980 --> 00:22:00,020 ก่อนที่จะทำคลิปนี้นะ 515 00:22:00,020 --> 00:22:01,400 ส่วนตัวยังเข้าใจอยู่เลยว่า 516 00:22:01,460 --> 00:22:03,700 เอ๊ย เรามีวันที่ 29 กุมภา ทุกๆ 4 ปี 517 00:22:03,700 --> 00:22:04,900 ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ 518 00:22:04,900 --> 00:22:06,840 ถ้าสมมติว่าเราไปใช้สูตรใหม่เนี่ย 519 00:22:06,900 --> 00:22:09,800 บางปีผ่านไป 4 ปีแล้วก็ไม่มี 29 กุมภาฯ เหมือนกันนะคะ 520 00:22:09,800 --> 00:22:10,460 ดังนั้น 521 00:22:10,580 --> 00:22:12,800 นี่แหละ ใครเพิ่งจะรู้แบบนี้เหมือนวิวบ้าง 522 00:22:12,880 --> 00:22:15,920 ใครที่ไม่เคยรู้เรื่องปฏิทิน Gregorian กับปฏิทิน Julian มาก่อนเลย 523 00:22:15,920 --> 00:22:17,640 ก็ Comment มาคุยกันด้านล่างได้นะคะ 524 00:22:17,760 --> 00:22:21,000 ส่วนใครมีคำถามอะไรน่าสนใจอยากให้วิวทำคลิปอะไรในปีหน้า 525 00:22:21,140 --> 00:22:23,640 อยากเห็นคลิปในช่องเราเป็นรูปแบบไหนในปีหน้า 526 00:22:23,640 --> 00:22:25,140 Comment มาคุยกันด้านล่างได้ค่ะ 527 00:22:25,140 --> 00:22:26,620 วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน 528 00:22:26,620 --> 00:22:27,960 สวัสดีปีใหม่ค่ะ