1 00:00:01,552 --> 00:00:04,266 (เสียงระฆัง) 2 00:00:06,397 --> 00:00:09,889 อาจารย์ชาวทิเบตเคยเล่าเรื่องนรก หลังความตายให้ฟัง 3 00:00:09,889 --> 00:00:13,337 นี่มันเป็นเรื่องจริง หรือเป็นกุศโลบาย ที่ช่วยให้เราพัฒนาจิตตื่น 4 00:00:13,356 --> 00:00:16,216 หรือเป็นคำอุปมาถึงประสบการณ์ 5 00:00:16,256 --> 00:00:18,796 ที่เราสัมผัสได้ในปัจจุบัน 6 00:00:33,836 --> 00:02:27,719 (คำถามภาษาฝรั่งเศ~~~~~ส) 7 00:02:28,061 --> 00:02:29,055 กัลยาณมิตรท่านนี้ได้เล่าว่า 8 00:02:29,055 --> 00:02:34,115 เขารู้สึกว่า คำสอนของอาจารย์ เกี่ยวกับความตายค่อนข้างสบายๆ 9 00:02:34,315 --> 00:02:40,543 เมื่อ 18 ปีที่แล้ว เขาไปเข้าคอร์สภานา แบบทิเบต 10 00:02:40,999 --> 00:02:44,756 แล้วก็มีพูดถึงเรื่อง "ความตาย" 11 00:02:44,824 --> 00:02:50,365 ผู้สอนเล่ารายละเอียดมากมายเกี่ยวกับ การเคลื่อนย้ายจิตสำนึก 12 00:02:50,509 --> 00:02:55,254 ณ ขณะที่ตาย ไปจนถึงสิ่งที่เกิดหลังความตาย 13 00:02:55,373 --> 00:03:00,185 ผู้สอนเล่าไปถึงรายละเอียดนรกขุมต่างๆ 14 00:03:01,275 --> 00:03:03,572 บางขุมเย็นหน่อย บางขุมร้อนหน่อย 15 00:03:03,652 --> 00:03:07,509 และก็มีคำบรรยายเกี่ยวกับนรกขุมต่างๆ 16 00:03:08,105 --> 00:03:11,781 อันนึงบอกว่ามี "เปรต" (ผีหิว) 17 00:03:12,018 --> 00:03:16,959 เราอาจจะไปเกิดที่่ขุมนั้นก็ได้ 18 00:03:17,106 --> 00:03:20,705 แล้วมีคอเล็กนิดเดียว 19 00:03:20,705 --> 00:03:24,580 และแม้จะหิวมาก แต่ก็ไม่สามารถกินอาหาร 20 00:03:24,652 --> 00:03:27,264 ให้อิ่มได้ 21 00:03:27,794 --> 00:03:31,147 แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่เขาอธิบาย 22 00:03:31,237 --> 00:03:32,994 คำถามของกัลยาณมิตรท่านนี้ก็คือ 23 00:03:33,037 --> 00:03:38,820 คำอธิบายเหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยให้เรา... 24 00:03:44,228 --> 00:03:48,693 (ค้นหาในสมุด) 25 00:03:51,293 --> 00:03:54,476 ตื่น (เสียงหัวเราะ) 26 00:03:56,008 --> 00:03:58,201 คือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรา 27 00:03:58,600 --> 00:04:01,891 ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายยิ่งขึ้น เหมาะสมยิ่งขึ้น 28 00:04:02,754 --> 00:04:04,470 และงดงามยิ่งขึ้นหรือเปล่า 29 00:04:04,470 --> 00:04:09,524 หรือว่าคำบรรยายเหล่านี้คือ มันมีอย่างนั้นจริงๆ 30 00:04:10,120 --> 00:04:15,994 และถ้าจะเชื่อมโยงต่อจากนั้น ก็คือ เรากล่าวแบบนี้ได้หรือไม่ว่า 31 00:04:16,044 --> 00:04:19,306 นรก ที่จริงก็คือหมายถึงโลกนี้แหละ ในช่วงเวลานี้เลย 32 00:04:19,353 --> 00:04:22,679 คือเป็นอุปมา ของประสบการณ์ ขณะที่เรามีชีวิตนี่แหละ 33 00:04:22,839 --> 00:04:28,215 หรือจริงๆ แล้วนรกเป็นสิ่งที่คงอยู่ ภายหลังความตายเท่านั้น 34 00:04:28,306 --> 00:04:32,258 ที่จริงก็ยังมีอีก 2-3 คำถามนะคะ แต่คิดว่าน่าจะพอแค่นี้ก่อน 35 00:04:32,360 --> 00:04:35,236 (เสียงหัวเราะ) 36 00:04:37,565 --> 00:04:40,230 คำถามนี้ก็คล้ายกับถามถึงความเชื่อมโยง 37 00:04:40,469 --> 00:04:47,939 ระหว่างการ "หลับโดยไม่ฝัน" กับ "จิตใต้สำนึก" 38 00:04:50,256 --> 00:04:54,590 ดูจากวิธีการถาม 39 00:04:56,012 --> 00:05:01,062 ก็รู้ว่าผู้ถาม... 40 00:05:01,217 --> 00:05:09,837 ทราบคำตอบอยู่แล้ว (เสียงหัวเราะ) 41 00:05:12,012 --> 00:05:16,412 วิธีถามของเขาบอกอยู่ว่าเขารู้คำตอบ 42 00:05:16,852 --> 00:05:20,567 ว่างั้นมั้ย? 43 00:05:24,047 --> 00:05:26,725 อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นโอกาส ที่จะให้พวกเราได้ 44 00:05:26,755 --> 00:05:37,906 เห็นจริงๆ ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า มีประโยชน์ต่อคนมากมายเพียงใด 45 00:05:38,610 --> 00:05:46,498 ไม่เพียงแต่คนฉลาดเท่านั้น 46 00:05:47,009 --> 00:05:52,970 แม้แต่คนที่ไม่ได้รับการศึกษาที่ดีนัก 47 00:05:53,381 --> 00:05:57,253 คำสอนของพุทธองค์ก็ยังเป็นประโยชน์ แก่พวกเขาเหล่านั้นเช่นกัน 48 00:05:57,384 --> 00:06:07,335 คำสอนในพุทธศาสนาส่วนหนึ่ง เป็นไปเพื่อมหาชน 49 00:06:09,568 --> 00:06:15,773 และก็มีส่วนที่เป็นแก่นลงไป สำหรับคนกลุ่มน้อยที่สนใจ 50 00:06:16,049 --> 00:06:23,965 ทั้งนี้วิธีการสอน บางทีก็ดูเหมือนจะ "ขัดแย้ง" กันเอง หากเรามองที่รูปแบบ 51 00:06:26,433 --> 00:06:28,977 จึงมีคำกล่าวว่า 52 00:06:29,139 --> 00:06:44,215 ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามี 84,000 พระธรรมขันธ์ 53 00:06:44,613 --> 00:06:49,812 คำสอนมีมากมาย วิธีการฝึกปฏิบัติมีมากมาย 54 00:06:51,515 --> 00:06:56,427 สำหรับพวกที่กลัวการถูกลงโทษ 55 00:06:57,694 --> 00:07:04,274 กลัวผลของกรรม 56 00:07:04,448 --> 00:07:08,608 ประพฤติดี 57 00:07:09,452 --> 00:07:13,440 เพราะกลัวผลของกรรมตามสนอง 58 00:07:14,077 --> 00:07:18,322 ก็เป็นเหตุผลที่สอนพวกเขาเรื่องนรกขุมต่างๆ 59 00:07:18,352 --> 00:07:22,409 ร้อนบ้าง เย็นบ้าง ว่ากันไป 60 00:07:22,619 --> 00:07:27,837 อาจฟังดูเหมือนคำขู่ 61 00:07:27,977 --> 00:07:32,567 "ถ้าเธอทำอย่างนี้นะ เธอจะต้องทุกข์ทรมานอย่างนี้" 62 00:07:32,633 --> 00:07:36,801 ในวัดหลายๆ วัดก็จะมีจิตรกรรมภาพนรกอยู่ 63 00:07:36,857 --> 00:07:38,446 คล้ายเป็นการเตือนกลายๆ 64 00:07:38,466 --> 00:07:40,583 "ถ้าไม่รักษาศีล 5 65 00:07:40,583 --> 00:07:43,806 จะตกนรกนะ 66 00:07:44,579 --> 00:07:48,559 ลงกระทะทองแดงไปเลย" อะไรอย่างนั้น 67 00:07:50,895 --> 00:07:56,556 "ถ้าโกหกนะ ยมทูตจะดึงลิ้นออกมา 68 00:07:56,586 --> 00:07:57,651 แล้วตัดซะ" 69 00:07:57,651 --> 00:08:00,398 (เสียงหัวเราะ) 70 00:08:01,731 --> 00:08:05,591 วิธีนี้ก็ได้ผลกับคนจำนวนมากนะ 71 00:08:05,716 --> 00:08:08,847 แต่ใช้ไม่ได้กับบางคน 72 00:08:09,029 --> 00:08:12,428 นี่เรียกว่าเป็นพุทธประชานิยม 73 00:08:14,068 --> 00:08:23,185 เรารู้กันอยู่ว่าชาวพุทธส่วนใหญ่ เชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิด 74 00:08:24,605 --> 00:08:28,730 อย่างไรก็ตามความเชื่อนี้ 75 00:08:28,769 --> 00:08:35,240 เป็นมิจฉาทิฏฐิ ที่มองว่า "มีตัวตน" "มีตัวตนที่มีดวงวิญญาณ" 76 00:08:35,470 --> 00:08:37,756 แยกต่างหากจากร่างกาย 77 00:08:37,892 --> 00:08:41,286 เมื่อร่างกายนี้สูญสลายไป 78 00:08:41,386 --> 00:08:44,405 วิญญาณเป็นดวงๆ นี้เป็นอมตะ 79 00:08:44,655 --> 00:08:49,003 คอยหาร่างใหม่อาศัยอยู่ต่อไป 80 00:08:49,103 --> 00:08:59,555 เป็นความเชื่อเกี่ยวกับการเกิดใหม่แบบนั้น และสอนกันแบบนั้นเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิด 81 00:08:59,555 --> 00:09:04,020 แต่นี่ไม่ใช่แก่นแท้ของคำสอนของพระพุทธเจ้า 82 00:09:04,100 --> 00:09:10,022 เพราะมันตั้งอยู่บนความเข้าใจที่ผิด ว่า "มีตัวตน" 83 00:09:10,462 --> 00:09:15,380 สิ่งใดๆ คำสอนใดๆ ที่ค้านกับ 84 00:09:15,454 --> 00:09:21,935 ความเห็นถึงความไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน และการทำให้แจ้งในนิพพาน 85 00:09:22,041 --> 00:09:27,528 ไม่ใช่แก่นของคำสอนของพระพุทธเจ้า 86 00:09:28,269 --> 00:09:36,376 ไม่ว่าเรากำลังวิจัยเรื่องปฏิจจสมุปบาท การกลับชาติมาเกิด เรื่องกฏแห่งกรรม 87 00:09:37,726 --> 00:09:46,440 ถ้าคำสอนนั้น ถ้าการปฏิบัตินั้น ไม่เป็นไปเพื่อการเห็นตามจริงว่า ไม่เที่ยง 88 00:09:46,564 --> 00:09:52,774 ไม่มีตัวตน และการทำให้แจ้งในนิพพาน นั่นไม่ใช่คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า 89 00:09:52,899 --> 00:09:58,294 ที่จริงหลายๆ เรื่องนั้น 90 00:09:58,661 --> 00:10:05,170 มาจากคำสอนในพระเวท หรือคำภีร์อุปนิษัท 91 00:10:06,521 --> 00:10:11,623 เราทราบกันดีว่าก่อนพุทธกาล ความเชื่อเหล่านี้ก็แพร่หลายอยู่แล้ว 92 00:10:12,023 --> 00:10:15,562 การกลับชาติมาเกิด หรือกฏแห่งกรรม 93 00:10:17,222 --> 00:10:21,362 เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติขึ้น 94 00:10:21,362 --> 00:10:30,530 คำสอนเหล่านี้มีมาก่อนหน้า พระพุทธเจ้าเสียอีก 95 00:10:31,833 --> 00:10:39,111 แต่มันอยู่บนพื้นฐานความเชื่อว่า "ตัวตนมีอยู่" 96 00:10:39,201 --> 00:10:45,174 พระพุทธเจ้านั้น แม้จะทรงตรัสถึง การสืบต่อจากชาติหนึ่งไปอีกชาติหนึ่ง 97 00:10:45,703 --> 00:10:51,177 แต่คำสอนของท่านนั้นอยู่บนฐาน ของความเห็นแจ้งว่า "ไม่มีตัวตน" 98 00:10:52,447 --> 00:10:59,579 "ไม่เที่ยง" และในที่สุด "นิพพาน" การเกิดและการดับก็ไม่มีอยู่อีกต่อไป 99 00:10:59,621 --> 00:11:09,377 ฉะนั้น..ความเชื่อลักษณะนี้ แม้ไม่ใช่พุทธแท้ 100 00:11:09,377 --> 00:11:11,284 ก็มีประโยชน์ 101 00:11:15,007 --> 00:11:19,212 บางพวกก็เชื่อในแดนสุขาวดี ของพระอามิตตาพุทธ 102 00:11:19,767 --> 00:11:25,764 ไม่ได้อยู่ที่นี่นะ อยู่ทางตะวันตก 103 00:11:25,917 --> 00:11:30,427 ถ้าอยากไปต้องตายก่อน 104 00:11:32,068 --> 00:11:39,702 บางคนก็มีมุมมองที่ชัดเจนกว่า เห็นต่างออกไป 105 00:11:39,817 --> 00:11:44,614 เรารู้ว่าสุขาวดีของจริง อยู่ที่นี่ เดี๋ยวนี้ 106 00:11:44,682 --> 00:11:49,132 ไม่จำเป็นว่าจะต้อง ไปอยู่ทางตะวันตก หรือตะวันออก 107 00:11:49,190 --> 00:11:51,609 เมื่อใดใจบริสุทธิ์ผ่องใส 108 00:11:51,872 --> 00:11:56,375 สุขาวดีก็อยู่ที่นั่นแหละ 109 00:11:56,694 --> 00:12:04,013 ซึ่งนี่ก็เขยิบเข้าไปใกล้สัมมาทิฏฐิ (มุมมองที่ถูก) เข้าไปอีกหน่อย 110 00:12:04,118 --> 00:12:10,498 วิถีของชาวพุทธ คือ ความเปิดกว้าง ยอมรับความเห็นผู้อื่น 111 00:12:10,771 --> 00:12:15,920 ชนบางพวกไม่สามารถ เข้าถึงแก่นของพุทธศาสนาได้ 112 00:12:16,102 --> 00:12:26,087 เราก็ต้องให้พวกเขาค่อยๆ เปิดใจรับ กับพุทธศาสนาในรูปแบบนี่ เจือจางลงมาหน่อย 113 00:12:26,483 --> 00:12:31,047 เหมือนกับยาเคลือบน้ำตาลประมาณนั้น 114 00:12:31,512 --> 00:12:34,129 มันช่วยได้นะ 115 00:12:34,483 --> 00:12:40,459 ดังนั้นเราก็จะไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ คำสอน หรือความเชื่อใคร 116 00:12:40,591 --> 00:12:46,641 ที่บางครั้งไม่ตรงกับความจริงสูงสุด เสียทีเดียว 117 00:12:47,116 --> 00:12:49,664 เพราะเราเห็นใจ 118 00:12:49,714 --> 00:12:56,010 เพราะเราเข้าใจ เราจึงเห็นใจ 119 00:12:56,100 --> 00:13:05,414 วิถีแห่งพุทธเปิดกว้างเสมอ ไม่สุดโต่ง 120 00:13:05,566 --> 00:13:09,486 ถ้าเรามีความสามารถพอ เราจะพาเขาไปอย่างช้าๆ 121 00:13:09,791 --> 00:13:13,628 ค่อยๆ ให้เขาได้ละจากความเห็นผิด 122 00:13:13,707 --> 00:13:19,426 พัฒนาเป็นความเห็นถูกขึ้นมา เรื่อยๆ เรื่อยๆ 123 00:13:20,743 --> 00:13:24,515 อันนี้ใช้ได้กับทุกคนนะ 124 00:13:25,544 --> 00:13:29,853 ในตอนแรก เราเข้าใจว่าพระรัตนตรัย เป็นอย่างนี้ๆ 125 00:13:30,370 --> 00:13:32,867 พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 126 00:13:32,913 --> 00:13:34,868 ภาวนาไป 10 ปี 127 00:13:34,955 --> 00:13:36,154 เราก็เห็นมุมมองที่ต่างออกไป 128 00:13:36,258 --> 00:13:38,530 ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 129 00:13:38,730 --> 00:13:43,014 ผ่านไป 50 ปี ความเข้าใจในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 130 00:13:43,073 --> 00:13:45,176 ก็ลึกซื้งยิ่งขึ้น 131 00:13:45,549 --> 00:13:50,376 เพราะเห็นอย่างนี้ เราจึงรู้จักที่จะเปิดกว้าง 132 00:13:51,390 --> 00:13:57,767 ไม่คิดว่ามุมมองของเรา เป็นมุมมองที่ถูกต้องที่สุด 133 00:13:58,154 --> 00:14:04,750 เพราะเราเองก็อยู่ในระหว่างพัฒนา 134 00:14:05,463 --> 00:14:08,590 เราพร้อมที่จะละมุมมองปัจจุบัน 135 00:14:08,594 --> 00:14:11,306 เพื่อจะไปสู่มุมมองที่ถูกต้องกว่า 136 00:14:11,705 --> 00:14:15,976 นี่เป็นการฝึก ลดละความยึดมั่นถือมั่น ในความคิดความเห็น 137 00:14:16,308 --> 00:14:20,564 สำหรับชาวพุทธ ถ้าเราเห็นได้อย่างนี้ 138 00:14:20,767 --> 00:14:25,763 เราย่อมเปิดกว้าง ยอมรับพุทธศาสนารูปแบบต่างๆ 139 00:14:25,953 --> 00:14:28,047 ไม่เที่ยววิพากษ์วิจารณ์ 140 00:14:28,311 --> 00:14:33,736 เราเพียงช่วยให้เขาเห็นถูกเห็นตรง และภาวนาได้ดียิ่งๆ ขึ้นเท่านั้น 141 00:14:33,919 --> 00:14:42,226 นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ควรมีข้อขัดแย้ง ระหว่างพุทธสายต่างๆ เกิดขึ้นเลย 142 00:14:42,546 --> 00:14:44,510 และในความเป็นจริงก็เป็นอย่างนั้น 143 00:14:44,685 --> 00:14:46,722 ศาสนาพุทธมีนิกาย มีสายต่างๆ เยอะมาก 144 00:14:46,894 --> 00:14:52,298 แต่ไม่เคยก่อสงครามศักดิ์สิทธิ์ใดๆ มาฆ่าล้างกันเอง 145 00:14:52,719 --> 00:14:57,722 เราควรจะรักษาขนบแห่งความใจกว้างนี้ไว้นะ 146 00:14:58,124 --> 00:15:01,289 เปิดกว้าง ไม่ใช่เพราะมีใครมาบังคับ 147 00:15:01,413 --> 00:15:06,447 แต่เปิดกว้างเพราะมีมุมมองที่ถูกต้อง ฉะนั้นใจจึงเปิด 148 00:15:06,893 --> 00:15:09,373 นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงสามารถอดทน 149 00:15:09,429 --> 00:15:14,012 ผู้ที่ไม่ได้ความคิดความเห็นตรงกับเราได้ 150 00:15:14,649 --> 00:15:18,668 ลองกล่าวถ้อยคำหวานๆ และตั้งใจฟังอย่างลึกซึ้ง 151 00:15:18,733 --> 00:15:22,306 ช่วยให้อีกฝ่ายปล่อยจากมุมมองเดิมๆ 152 00:15:22,388 --> 00:15:31,485 บางทีอาจจะยังมี ความสุดโต่งบางอย่างอยู่ในนั้น 153 00:15:36,379 --> 00:15:40,439 เราก็หัดมาเรียนรู้ว่าปัจจุบัน 154 00:15:42,739 --> 00:15:48,511 ไม่ใช่อะไรที่สามารถดำรงอยู่ด้วยตนเอง 155 00:15:48,533 --> 00:15:52,166 แยกต่างหากไปจากอดีต หรืออนาคต 156 00:15:52,289 --> 00:15:56,974 เราจะไปตัดแล้วแยก 157 00:15:57,041 --> 00:15:59,827 อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ออกจากกันไม่ได้ 158 00:15:59,922 --> 00:16:03,265 นั่นเพราะ กาลทั้ง 3 อดีต ปัจจุบัน และอนาคต 159 00:16:03,356 --> 00:16:05,011 เป็นเหตุปัจจัยแก่กันและกัน 160 00:16:05,138 --> 00:16:09,485 ถ้าเราเห็นอันใดอันหนึ่ง เราก็เห็นอีก 2 กาล 161 00:16:10,515 --> 00:16:13,594 นี่เป็นเหตุผลว่า เมื่อเราอยู่ กับปัจจุบันขณะอย่างซึมซาบ 162 00:16:13,664 --> 00:16:17,764 เราจะสัมผัสได้ถึงอดีต และอนาคต 163 00:16:17,944 --> 00:16:29,799 อดีตยังคงอยู่ และอนาคตก็มีอยู่ 164 00:16:30,739 --> 00:16:34,048 นี่เองเป็นญาณที่เกิดขึ้น 165 00:16:34,262 --> 00:16:40,894 เมื่อเจริญสมาธิ โดยดูธรรมชาติ ความเป็นเหตุปัจจัยของกาลเวลา 166 00:16:43,484 --> 00:16:48,170 เชื่อมโยง บันดาลใจ เติมเต็ม 167 00:16:48,501 --> 00:17:15,537 (เสียงระฆัง)