1 00:00:00,000 --> 00:00:05,000 งานถ่ายภาพของผมก็จะเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เราทุกคนทำโดยไม่รู้ตัว 2 00:00:05,000 --> 00:00:07,000 ในระดับสังคมโดยรวม 3 00:00:07,000 --> 00:00:09,000 ผมหมายความว่า มันเป็นพฤติกรรม 4 00:00:09,000 --> 00:00:10,000 ที่เราปฏิเสธไม่รับรู้ 5 00:00:10,000 --> 00:00:16,000 และเกิดขึ้นใต้ระดับการรู้ตัวของเรา 6 00:00:17,000 --> 00:00:20,000 ในระดับบุคคล เราทำสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา ทุกวัน 7 00:00:20,000 --> 00:00:22,000 เหมือนเวลาที่คุณร้ายใส่ภรรยาของคุณ 8 00:00:23,000 --> 00:00:24,000 เพราะคุณหงุดหงิดคนอื่นมา 9 00:00:25,000 --> 00:00:28,000 หรืออย่างเวลาที่คุณดื่มมากเกินไปตอนอยู่ในงานปาร์ตี้เพราะว่าคุณประหม่า 10 00:00:28,000 --> 00:00:33,000 หรือเวลาที่คุณกินมากผิดปกติเพราะถูกทำร้ายความรู้สึกมา อะไรทำนองนั้น 11 00:00:34,000 --> 00:00:36,000 และเมื่อเราทำพฤติกรรมเหล่านี้ 12 00:00:36,000 --> 00:00:40,000 เมื่อคนสามร้อยล้านคนทำพฤติกรรมเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว 13 00:00:40,000 --> 00:00:43,000 มันก็บวกทบกันจนนำไปสู่หายนะ 14 00:00:43,000 --> 00:00:45,000 ที่ไม่มีใครต้องการ ไม่มีใครตั้งใจให้เกิด 15 00:00:45,000 --> 00:00:48,000 นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการสื่อในงานภาพถ่ายของผม 16 00:00:48,000 --> 00:00:52,000 นี่เป็นภาพล่าสุดภาพหนึ่งที่ผมเพิ่งทำเสร็จ 17 00:00:52,000 --> 00:00:53,000 ถ้าคุณยืนมองไกลๆ 18 00:00:53,000 --> 00:00:56,000 มันจะดูเหมือนภาพลายเส้นแบบนีโอโกธิค 19 00:00:56,000 --> 00:00:59,000 เป็นรูปโรงงานที่กำลังปล่อยมลภาวะออกมา 20 00:00:59,000 --> 00:01:01,000 ถ้าคุณขยับเข้ามาใกล้อีกหน่อย 21 00:01:02,000 --> 00:01:06,000 มันจะเริ่มดูเหมือนกับท่อมากมาย คล้ายๆ กับโรงงานสารเคมี 22 00:01:06,000 --> 00:01:09,000 หรือโรงกลั่น หรือถนนฟรีเวย์ที่ตัดพันกันยุ่งเหยิง 23 00:01:10,000 --> 00:01:11,000 ถ้าคุณเข้ามามองใกล้ๆ เลย 24 00:01:11,000 --> 00:01:15,000 คุณจะเห็นว่าที่จริงมันคือแก้วน้ำพลาสติกจำนวนมากมายมหาศาล 25 00:01:16,000 --> 00:01:18,000 จริงๆ มันคือแก้วพลาสติกหนึ่งล้านใบ 26 00:01:18,000 --> 00:01:22,000 ซึ่งเป็นจำนวนของแก้วพลาสติกที่ใช้ในเที่ยวบิน 27 00:01:23,000 --> 00:01:24,000 ในสหรัฐอเมริกา ในทุกๆ หกชั่วโมง 28 00:01:24,000 --> 00:01:28,000 เราใช้แก้วพลาสติกบนเที่ยวบินทั้งหมดวันละสี่ล้านใบ 29 00:01:29,000 --> 00:01:31,000 และทั้งหมดนี้ไม่มีการนำกลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลเลย 30 00:01:31,000 --> 00:01:33,000 ในอุตสาหกรรมการบินเขาไม่ทำกัน 31 00:01:34,000 --> 00:01:36,000 ตัวเลขนี้มันจิ๊บจ๊อยไปเลย 32 00:01:36,000 --> 00:01:38,000 ถ้าเทียบกับจำนวนแก้วกระดาษที่เราใช้กันทุกวัน 33 00:01:39,000 --> 00:01:42,000 นั่นคือ 40 ล้านใบต่อวัน สำหรับเครื่องดื่มร้อน 34 00:01:42,000 --> 00:01:43,000 ซึ่งส่วนมากคือกาแฟ 35 00:01:43,000 --> 00:01:46,000 ผมไม่สามารถถ่ายภาพแก้ว 40 ล้านใบลงบนผืนผ้าใบได้ 36 00:01:46,000 --> 00:01:50,000 ผมใส่ลงไปได้แค่ 410,000 ใบ แก้ว 410,000 ใบมันหน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ 37 00:01:51,000 --> 00:01:52,000 นั่นคือแก้วที่เราใช้ภายในสิบห้านาที 38 00:01:52,000 --> 00:01:56,000 และถ้าในชีวิตจริงคุณสามารถเอาแก้วทั้งหมดนี้เรียงต่อกันขึ้นไป 39 00:01:56,000 --> 00:01:57,000 มันจะมีขนาดเท่านี้ครับ 40 00:01:57,000 --> 00:01:59,000 และนี่ก็เป็นแก้วที่เราใช้ในหนึ่งชั่วโมง 41 00:02:00,000 --> 00:02:01,000 นี่คือแก้วที่เราใช้ในหนึ่งวัน 42 00:02:01,000 --> 00:02:03,000 คุณจะเห็นคนตัวเล็กๆ อยู่ข้างล่างนั่น 43 00:02:03,000 --> 00:02:05,000 แก้วพวกนี้เรียงต่อกันสูงเท่าตึก 42 ชั้นครับ 44 00:02:05,000 --> 00:02:09,000 ผมเอารูปเทพีเสรีภาพมาวางเทียบให้เห็นสัดส่วนว่ามันใหญ่แค่ไหน 45 00:02:11,000 --> 00:02:14,000 พูดถึงความยุติธรรม ตอนนี้ก็มีปรากฏการณ์อันหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวัฒนธรรมของเรา 46 00:02:14,000 --> 00:02:17,000 ซึ่งผมรู้สึกว่าน่าเป็นห่วงมาก นั่นคือ ประเทศอเมริกาในขณะนี้ 47 00:02:17,000 --> 00:02:20,000 มีจำนวนประชากรถูกคุมขังคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุด 48 00:02:20,000 --> 00:02:22,000 ยิ่งกว่าประเทศใดๆ ในโลกนี้ 49 00:02:23,000 --> 00:02:26,000 หนึ่งในสี่ของคนที่ติดคุกในโลกนี้ 50 00:02:26,000 --> 00:02:30,000 คือคนอเมริกันที่ถูกขังอยู่ในประเทศของเรานี่เอง 51 00:02:31,000 --> 00:02:32,000 ผมอยากแสดงตัวเลขที่ว่าให้ดู 52 00:02:32,000 --> 00:02:36,000 ตัวเลขนั้นคือ ในปี 2005 มีคนอเมริกัน 2.3 ล้านคนถูกจองจำ 53 00:02:36,000 --> 00:02:38,000 และจำนวนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับจากนั้น แต่เรายังไม่มีตัวเลขที่ใหม่กว่านี้ 54 00:02:38,000 --> 00:02:41,000 ดังนั้น ผมก็เลยจะแสดงภาพชุดนักโทษ 2.3 ล้านชุด 55 00:02:42,000 --> 00:02:45,000 ในภาพจริงที่พิมพ์ออกมา 56 00:02:45,000 --> 00:02:48,000 เครื่องแบบนักโทษแต่ละชุดมีขนาดเท่าด้านข้างของเหรียญ 5 เซนต์ 57 00:02:48,000 --> 00:02:51,000 มันเล็กมากจนมองแยกกันเป็นชิ้นๆ แทบไม่ออก 58 00:02:51,000 --> 00:02:54,000 และการที่จะแสดงภาพทั้งหมด 2.3 ล้านชุด ต้องใช้ผืนผ้าใบ 59 00:02:55,000 --> 00:02:57,000 ที่ใหญ่กว่าพรินท์เตอร์เครื่องใดๆ ในโลกนี้จะสามารถพิมพ์ออกมาได้ 60 00:02:57,000 --> 00:02:59,000 ผมก็เลยต้องแบ่งมันออกเป็นส่วนๆ 61 00:02:59,000 --> 00:03:01,000 แต่ละส่วนมีขนาด 10 คูณ 25 ฟุต 62 00:03:01,000 --> 00:03:05,000 นี่คืองานชิ้นดังกล่าวที่จัดแสดงในหอศิลป์ที่นิวยอร์ค 63 00:03:06,000 --> 00:03:08,000 สองคนที่กำลังดูรูปอยู่นั่นคือพ่อกับแม่ผม 64 00:03:08,000 --> 00:03:10,000 (เสียงหัวเราะ) 65 00:03:11,000 --> 00:03:12,000 ทุกครั้งที่ผมมองงานชิ้นนี้ 66 00:03:12,000 --> 00:03:14,000 ผมคิดในใจว่า แม่ผมคงจะกระซิบกับพ่อว่า 67 00:03:14,000 --> 00:03:16,000 "ในที่สุดลูกเราก็รู้จักพับเสื้อผ้าเสียที" 68 00:03:16,000 --> 00:03:17,000 (เสียงห้วเราะ) 69 00:03:19,000 --> 00:03:21,000 ผมอยากให้คุณดูงานที่เกี่ยวกับการใช้สารเสพติดบ้าง 70 00:03:21,000 --> 00:03:25,000 งานชิ้นนี้เกี่ยวกับการติดบุหรี่ 71 00:03:25,000 --> 00:03:28,000 ผมอยากสร้างงานที่แสดงจำนวนคนอเมริกัน 72 00:03:28,000 --> 00:03:30,000 ที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 73 00:03:30,000 --> 00:03:33,000 ทุกๆ ปี จะมีคนอเมริกันเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 74 00:03:33,000 --> 00:03:35,000 มากกว่า 400,000 คน 75 00:03:35,000 --> 00:03:39,000 งานชิ้นนี้ประกอบขึ้นจากกล่องบุหรี่มากมายมหาศาล 76 00:03:39,000 --> 00:03:40,000 และ ถ้าคุณค่อยๆ ถอยหลังออกไป 77 00:03:40,000 --> 00:03:44,000 คุณจะเห็นว่ามันเป็นภาพวาดของแวน โก๊ะ ที่ชื่อ "หัวกะโหลกกับบุหรี่" (Skull with Cigarette) 78 00:03:44,000 --> 00:03:48,000 น่าแปลกนะครับ เมื่อเรานึกถึงเหตุการณ์ 9/11 79 00:03:48,000 --> 00:03:50,000 ตอนที่โศกนาฎกรรมนั้นเกิดขึ้น คนอเมริกันเสียชีวิตไป 3,000 คน 80 00:03:50,000 --> 00:03:52,000 แล้วคุณจำปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้นได้ไหม 81 00:03:53,000 --> 00:03:55,000 มันสะเทือนไปทั่วโลก 82 00:03:55,000 --> 00:03:58,000 และจะยังคงส่งแรงสั่นสะเทือนต่อไปไม่หยุด 83 00:03:58,000 --> 00:04:01,000 อีก 100 ปีข้างหน้าเราก็จะยังพูดถึงเรื่องนี้ 84 00:04:01,000 --> 00:04:06,000 แต่ในวันเดียวกันนั้น คนอเมริกัน 1,100 คนเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 85 00:04:06,000 --> 00:04:09,000 วันรุ่งขึ้น คนอเมริกันอีก 1,100 คนก็เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 86 00:04:09,000 --> 00:04:12,000 และทุกๆ วันนับจากนั้น มีคนอเมริกันเสียชีวิตเพราะบุหรี่ 1,100 คน 87 00:04:13,000 --> 00:04:15,000 วันนี้ก็มีคนอเมริกันอีก 1,100 คนกำลังจะเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 88 00:04:15,000 --> 00:04:19,000 แต่เราไม่พูดถึงเรื่องนี้ เราไม่ใส่ใจมันเลย 89 00:04:20,000 --> 00:04:22,000 การล็อบบี้ของพวกบริษัทบุหรี่มันมีพลังมากเกินไป 90 00:04:22,000 --> 00:04:24,000 เราก็เลยปัดมันพ้นไปจากจิตสำนึก 91 00:04:26,000 --> 00:04:32,000 แล้วทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าบุหรี่มันอันตราย 92 00:04:32,000 --> 00:04:36,000 เราก็ยังยอมให้ลูกหลานของเรา 93 00:04:36,000 --> 00:04:39,000 ตกอยู่ท่ามกลางอิทธิพลต่างๆ นานาที่กระตุ้นให้เขาเริ่มลองสูบบุหรี่ 94 00:04:39,000 --> 00:04:41,000 และงานชิ้นต่อมาของผมก็สื่อเรื่องนี้ 95 00:04:42,000 --> 00:04:45,000 นี่คือบุหรี่จำนวน 65,000 มวน 96 00:04:45,000 --> 00:04:47,000 ซึ่งเท่ากับจำนวนของวัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา 97 00:04:48,000 --> 00:04:51,000 ที่เริ่มสูบบุหรี่ภายในเดือนนี้ และทุกๆ เดือน 98 00:04:51,000 --> 00:04:55,000 ทุกๆ ปี เด็กๆ อายุ 18 และต่ำกว่า 18 จำนวนมากกว่า 700,000 คน 99 00:04:55,000 --> 00:04:57,000 ในสหรัฐอเมริกา เริ่มสูบบุหรี่ 100 00:04:57,000 --> 00:05:02,000 โรคระบาดที่ประหลาดอีกอย่างหนึ่งในสหรัฐอเมริกา 101 00:05:03,000 --> 00:05:05,000 ที่ผมอยากนำเสนอให้คุณรู้ไว้ 102 00:05:05,000 --> 00:05:10,000 คือปรากฏการณ์การใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ผิดวิธี 103 00:05:11,000 --> 00:05:15,000 นี่เป็นภาพที่ผมสร้างจากภาพยาไวโคดินจำนวนมาก 104 00:05:15,000 --> 00:05:17,000 อ่อ ที่จริงผมมียาไวโคดินเม็ดเดียวแหละครับ 105 00:05:17,000 --> 00:05:19,000 แต่ผมสแกนมันซ้ำหลายๆ รอบ 106 00:05:19,000 --> 00:05:20,000 (เสียงหัวเราะ) 107 00:05:20,000 --> 00:05:23,000 ถ้าคุณยืนห่างออกไป คุณจะเห็นยาไวโคดิน 213,000 เม็ด 108 00:05:23,000 --> 00:05:26,000 ซึ่งเท่ากับจำนวนผู้ป่วยที่ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน 109 00:05:27,000 --> 00:05:28,000 ในสหรัฐอเมริกาในแต่ละปี 110 00:05:28,000 --> 00:05:33,000 โดยมีสาเหตุมาจากการใช้ยาแก้ปวด และยาระงับความวิตกกังวล 111 00:05:33,000 --> 00:05:34,000 ผิดวิธี หรือเกินขนาด 112 00:05:34,000 --> 00:05:38,000 หนึ่งในสามของผู้ป่วยที่ใช้ยาเกินขนาดในสหรัฐอเมริกา 113 00:05:38,000 --> 00:05:41,000 ซึ่งนั่นรวมทั้งโคเคน เฮโรอีน แอลกอฮอล์ ทุกอย่าง 114 00:05:41,000 --> 00:05:45,000 หนึ่งในสามของกรณีการใช้ยาเกินขนาด เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ 115 00:05:46,000 --> 00:05:47,000 เป็นปรากฏการณ์ที่แปลกมาก 116 00:05:47,000 --> 00:05:51,000 นี่เป็นงานชิ้นใหม่ที่ผมเพิ่งทำเสร็จ 117 00:05:51,000 --> 00:05:54,000 มันเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เป็นโศกนาฏกรรม และปรากฏการณ์นี้ 118 00:05:54,000 --> 00:05:58,000 คือความคลั่งไคล้ในการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่กำลังเพิ่มมากขึ้น 119 00:06:00,000 --> 00:06:04,000 ปีที่แล้ว ผู้หญิงอเมริกัน 384,000 คน 120 00:06:04,000 --> 00:06:08,000 ไปทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก 121 00:06:09,000 --> 00:06:13,000 มันกำลังกลายเป็นของขวัญวันเรียนจบไฮสคูลที่เป็นที่นิยมที่สุด 122 00:06:13,000 --> 00:06:17,000 สำหรับมอบให้เด็กสาวที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย 123 00:06:19,000 --> 00:06:22,000 ผมจึงสร้างภาพนี้ขึ้นจากรูปตุ๊กตาบาร์บี้ 124 00:06:22,000 --> 00:06:27,000 ถ้าคุณถอยออกไป คุณจะเห็นเหมือนภาพลายดอกไม้ 125 00:06:27,000 --> 00:06:31,000 ถ้าถอยไปไกลสุดๆ คุณจะเห็นตุ๊กตาบาร์บี้ 32,000 ตัว 126 00:06:31,000 --> 00:06:34,000 ซึ่งเท่ากับจำนวนการทำศัลกรรมเสริมหน้าอก 127 00:06:34,000 --> 00:06:36,000 ที่เกิดขึ้นในอเมริกาในแต่ละเดือน 128 00:06:36,000 --> 00:06:41,000 คนที่เข้ารับการผ่าตัดส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอายุต่ำกว่า 21 ปี 129 00:06:42,000 --> 00:06:44,000 ที่ประหลาดกว่านั้น การทำศัลยกรรมอย่างเดียว 130 00:06:44,000 --> 00:06:48,000 ที่มีคนทำมากกว่าการเสริมหน้าอก คือการดูดไขมัน 131 00:06:48,000 --> 00:06:50,000 ซึ่งคนที่ไปทำส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย 132 00:06:50,000 --> 00:06:54,000 ทีนี้ ผมอยากเน้นว่านี่เป็นแค่ตัวอย่าง 133 00:06:54,000 --> 00:06:57,000 ผมไม่ได้บอกว่าประเด็นพวกนี้เป็นเรื่องใหญ่หรือสำคัญที่สุด 134 00:06:57,000 --> 00:06:59,000 มันเป็นแค่ตัวอย่างส่วนหนึ่ง 135 00:07:00,000 --> 00:07:04,000 เหตุผลที่ผมทำงานพวกนี้ เพราะผมรู้สึกว่ามันน่ากลัว 136 00:07:04,000 --> 00:07:07,000 ที่พวกเราทั้งวัฒนธรรมโดยรวม ไม่รู้สึกรู้สมกับเรื่องต่างๆ มากพอ 137 00:07:08,000 --> 00:07:11,000 เหมือนมันมีภาวะไร้ความรู้สึกในอเมริกา ณ ขณะนี้ 138 00:07:11,000 --> 00:07:19,000 เราสูญเสียความรู้สึกเจ็บแค้น โกรธ และเศร้าโศก 139 00:07:19,000 --> 00:07:21,000 เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวัฒนธรรมของเราในขณะนี้ 140 00:07:21,000 --> 00:07:22,000 นี่มันเกิดอะไรขึ้นในประเทศของเรา 141 00:07:22,000 --> 00:07:24,000 รวมทั้งกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นทั่วโลกในนามของเรา 142 00:07:24,000 --> 00:07:27,000 ความรู้สึกเหล่านี้มันหายไป 143 00:07:28,000 --> 00:07:31,000 เรามองหาความปิติสุขของวัฒนธรรม ของประเทศเราไม่เจอเลย 144 00:07:31,000 --> 00:07:34,000 และหนึ่งในสาเหตุของภาวะนี้ ผมคิดว่า 145 00:07:35,000 --> 00:07:39,000 มันเป็นเพราะ ขณะที่เราแต่ละคนพยายามสร้างโลกทัศน์ใหม่ขึ้นมา 146 00:07:39,000 --> 00:07:43,000 โลกทัศน์ใหม่ ภาพร่างสามมิติอันนี้ 147 00:07:43,000 --> 00:07:45,000 ที่เราทุกคนกำลังสร้างขึ้นในใจของเรา 148 00:07:45,000 --> 00:07:48,000 เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันของสรรพสิ่ง อย่างผลกระทบทางสภาพแวดล้อม 149 00:07:48,000 --> 00:07:51,000 ต่อสิ่งที่อยู่ไกลออกไปอีก 1,000 ไมล์ จากสินค้าที่เราซื้อ 150 00:07:51,000 --> 00:07:53,000 ผลกระทบทางสังคม ต่อที่ไกลออกไปอีก 10,000 ไมล์ 151 00:07:54,000 --> 00:07:57,000 ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจในแต่ละวันของเราในฐานะผู้บริโภค 152 00:07:57,000 --> 00:07:59,000 ในขณะที่เราสร้างภาพเหล่านี้ขึ้นในใจ 153 00:07:59,000 --> 00:08:02,000 และพยายามทำความเข้าใจกับความใหญ่โตมโหฬารของวัฒนธรรมของเรา 154 00:08:02,000 --> 00:08:07,000 ข้อมูลที่เราต้องเอามาพิจารณานั้น คือตัวเลขมหึมาพวกนี้ 155 00:08:08,000 --> 00:08:11,000 ตัวเลขหลักหลายล้าน หลายร้อยล้าน 156 00:08:11,000 --> 00:08:13,000 หลายพันล้าน และเดี๋ยวนี้มีถึงเป็นล้านล้าน 157 00:08:14,000 --> 00:08:16,000 อย่างงบประมาณในสมัยรัฐบาลของบุชก็เป็นล้านล้าน 158 00:08:16,000 --> 00:08:19,000 ตัวเลขพวกนี้ สมองของเราไม่สามารถเข้าใจได้ 159 00:08:20,000 --> 00:08:24,000 เราไม่สามารถทำความเข้าใจความหมายของสถิติที่มากมายมหาศาลเหล่านี้ได้ 160 00:08:24,000 --> 00:08:27,000 สิ่งที่ผมพยายามทำในงานของผม 161 00:08:28,000 --> 00:08:29,000 คือเอาตัวเลขพวกนี้ สถิติพวกนี้ 162 00:08:29,000 --> 00:08:34,000 จากภาษาของข้อมูลดิบ มาแปลเป็น 163 00:08:34,000 --> 00:08:37,000 ภาษาภาพที่เป็นสากล ที่คนเราสามารถรู้สึกได้ สัมผัสได้ 164 00:08:37,000 --> 00:08:41,000 เพราะความเชื่อของผมก็คือ ถ้าเรารู้สึกรู้สมกับประเด็นเหล่านี้ 165 00:08:41,000 --> 00:08:43,000 ถ้าเราสัมผัสมันได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น 166 00:08:43,000 --> 00:08:47,000 มันก็จะมีความหมายกับเรามากขึ้นกว่าที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ 167 00:08:48,000 --> 00:08:49,000 และถ้าเราค้นพบความหมายของมันได้ 168 00:08:49,000 --> 00:08:53,000 เราก็จะค้นพบ ข้างในใจเราแต่ละคน 169 00:08:54,000 --> 00:08:57,000 ว่าเราต้องทำอะไรเพื่อเผชิญหน้ากับคำถามสำคัญ 170 00:08:57,000 --> 00:08:59,000 นั่นคือ เราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร 171 00:09:00,000 --> 00:09:05,000 คำถามนี้ สำหรับผม เป็นคำถามสำคัญที่เราต้องตอบในฐานะที่เป็นประชากรคนหนึ่ง 172 00:09:05,000 --> 00:09:08,000 เราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร เราจะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของเราได้อย่างไร 173 00:09:09,000 --> 00:09:13,000 แล้วเราแต่ละคนจะต้องทำอะไร อย่างไร 174 00:09:13,000 --> 00:09:16,000 กับส่วนหนึ่งของทางออกของปัญหา ที่เราแต่ละคนต้องรับผิดชอบ 175 00:09:17,000 --> 00:09:18,000 นั่นก็คือพฤติกรรมของเราเอง 176 00:09:18,000 --> 00:09:27,000 ในความคิดผมนะครับ คุณไม่ต้องทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ 177 00:09:28,000 --> 00:09:30,000 เวลามองดูประเด็นพวกนี้ 178 00:09:30,000 --> 00:09:34,000 ผมไม่ได้มาชี้หน้าต่อว่าคนอเมริกัน 179 00:09:34,000 --> 00:09:36,000 ผมแค่บอกว่า นี่แหละคือสิ่งที่เราเป็นอยู่ในขณะนี้ 180 00:09:36,000 --> 00:09:38,000 และถ้ามีอะไรที่เราเห็นแล้ว 181 00:09:38,000 --> 00:09:39,000 เราไม่ชอบเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเรา 182 00:09:39,000 --> 00:09:41,000 เราก็มีทางเลือก 183 00:09:50,000 --> 00:09:55,000 ความจริงใจและมุ่งมั่นที่เราแต่ละคนแสดงออกมา 184 00:09:55,000 --> 00:10:00,000 ในการจัดการกับปัญหานี้ คุณลักษณะที่อยู่ลึกๆ ในตัวเรา ที่เราสามารถดึงออกมาใช้ 185 00:10:02,000 --> 00:10:05,000 เมื่อเราลุกขึ้นมาจัดการกับปัญหาว่าเราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร 186 00:10:05,000 --> 00:10:11,000 มันกำลังบ่งบอกความเป็นเรา ทั้งในระดับบุคคลและในระดับประเทศ 187 00:10:13,000 --> 00:10:16,000 และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต 188 00:10:16,000 --> 00:10:23,000 และมันก็จะส่งผลกระทบอันลึกซึ้งต่อความอยู่ดีมีสุข ต่อคุณภาพชีวิต 189 00:10:23,000 --> 00:10:24,000 ของคนนับพันล้านคน 190 00:10:24,000 --> 00:10:29,000 ที่จะมารับผลที่เกิดจากการตัดสินใจของเรา 191 00:10:33,000 --> 00:10:34,000 ผมไม่ได้พูดเรื่องที่เป็นนามธรรม 192 00:10:34,000 --> 00:10:43,000 นี่สิ่งที่เราทุกคนในห้องนี้กำลังเป็นอยู่ 193 00:10:44,000 --> 00:10:46,000 เดี๋ยวนี้ ณ วินาทีนี้ 194 00:10:46,000 --> 00:10:50,000 ขอบคุณ และสวัสดีครับ 195 00:10:51,000 --> 00:10:57,000 (เสียงปรบมือ)