ทุกคนคะ อย่าบอกใครนะ
วันนี้วิวจะมาเล่าเรื่องซอมบี้ตัวจริงในประวัติศาสตร์ค่ะ
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
เชื่อว่าหลายคนได้ยินคำว่า ซอมบี้
น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีใช่ไหมคะ
เพราะว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นหนัง ละคร ซีรีส์ รวมไปถึงเพลง
ก็ล้วนทำเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้กันทั้งนั้นเลย
เรียกได้ว่าเป็น... อะไรอะ
จะเรียกว่ามันเป็นอะไรดี สัตว์วิเศษ ตัวประหลาด
ผี ปีศาจ
ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดีค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นซอมบี้ที่แบบเดินมา หน้าตาเละ ๆ
กินเนื้อคน กัดเข้าไป ทำให้อีกคนนึงเป็นซอมบี้ต่อ
หรือว่าจะเป็นซอมบี้ที่แบบวิ่งได้ วิ่งเร็ว ๆ
หรือว่าเป็นซอมบี้ย้อนยุค โอ๊ย เยอะแยะเต็มไปหมดนะคะ
แต่รู้ไหมคะว่าซอมบี้เนี่ย
เป็นเรื่องราวที่มีในประวัติศาสตร์จริง ๆ นะคะ
แล้วก็เป็นความเชื่อของกลุ่มคนกลุ่มนึงจริง ๆ
อาจจะแตกต่างจากปีศาจ monster ตัวอื่นอะ
ที่บางตัวก็เป็นแค่ความเชื่อหรืออะไรนะคะ
แต่ว่ามันมีคนที่เชื่อว่าตัวเองเป็นซอมบี้จริง ๆ ค่ะ
วันนี้วิวรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้ตัวจริงในประวัติศาสตร์
มาเล่าให้ทุกคนฟังแล้วค่ะ
พร้อมที่จะฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
ถ้าพูดถึงซอมบี้กันเนี่ยนะคะ
ปัจจุบันเราน่าจะรู้กันดีค่ะว่าเราหมายถึงศพใช่ไหมคะ
ที่ฟื้นกลับมามีชีวิต แล้วก็เดินได้อะไรต่าง ๆ
อาจจะเดินบ้าง วิ่งบ้าง
แล้วก็มีจุดร่วมกันคือมันจะไปกัดคนอื่นนะคะ
แล้วก็ปล่อยเชื้อไวรัสซอมบี้เนี่ย
ไปที่คนอื่น ทำให้คนอื่นเนี่ยเป็นซอมบี้ต่อ ๆ กันไปเรื่อย ๆ ค่ะ
แต่รู้กันไหมว่าในประวัติศาสตร์เนี่ย
ซอมบี้ถือว่าเป็นความเชื่อของกลุ่มคนกลุ่มนึงนะคะ
แล้วก็มีความเกี่ยวพันไปถึง
เทพเจ้าของคนกลุ่มนั้นเลยทีเดียวค่ะ
ทีนี้ถ้าเราจะมาเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของซอมบี้กันเนี่ยนะคะ
เราต้องเริ่มจากการที่ศพลุกขึ้นมาเดินได้ก่อนค่ะ
ถามว่ากลุ่มคนไหนในโลกนะคะที่เป็นกลุ่มคนแรก
ที่เชื่อเรื่องศพที่สามารถฟื้นคืนชีพมาได้ ลุกขึ้นมาเดินได้นะคะ
ต้องบอกว่าย้อนกลับไปยาวนานมากเลยค่ะ
ย้อนกลับไปถึงสมัยกรีกโบราณเลยทีเดียวนะคะ
ถามว่าเขารู้กันได้ยังไงนะคะ
ก็ต้องบอกว่าเขารู้กันได้จากการที่
นักโบราณคดีไปขุดค้นหลุมศพของกรีกโบราณนะคะ
แล้วเขาเจอว่าบางหลุมเนี่ย
มันมีความเชื่อที่มีการเอาหินหรืออะไรหนัก ๆ เนี่ยนะคะ
ทับหลุมศพเอาไว้ค่ะ
ถามว่าทับไว้ทำไม
ทับเอาไว้กันคนในหลุมเนี่ย ลุกขึ้นมานะคะ
คือเขากลัวว่าศพเนี่ยจะลุกขึ้นมาได้ค่ะ
ดังนั้นนี่ก็เลยเป็นการพิสูจน์นะคะว่า
ตั้งแต่สมัยโบราณเนี่ย เราก็มีความกลัวกันอยู่แล้ว
ว่ามันจะมีศพที่ลุกขึ้นมาเดินได้นะ อันตรายมากจริง ๆ
อย่างไรก็ตามนะคะ
ความเชื่อนั้นเป็นแค่ความเชื่อเรื่องศพที่ลุกขึ้นมาเดินได้ค่ะ
ยังไม่เกี่ยวข้องกับซอมบี้นะคะ
เพราะว่าความเชื่อเกี่ยวกับซอมบี้เนี่ย
มากับกลุ่มคนอีกกลุ่มนึงค่ะ
อ้าว แล้วอย่างนี้คำว่าซอมบี้มีที่มาจากไหนนะคะ
ก็ต้องบอกว่าถ้าเราไปดู Oxford Dictionary นะคะ
ก็จะเห็นว่าคำว่า zombie เนี่ยนะคะ
ถูกบันทึกเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก
เมื่อปีค.ศ. 1819 เท่านั้นเองค่ะ
ก็ประมาณ 200 กว่าปีมาแล้วอะนะ
ที่สำคัญนะคะ เขาบันทึกไว้ว่ามีที่มาจาก
ภาษาแถบแอฟริกันตะวันตกค่ะ
ก็มาจากทวีปแอฟริกานะคะ
โดยคำนี้นะคะเกี่ยวข้องกับคำทั้งหมด 2 คำด้วยกันค่ะ
คำแรกนะคะ คือคำว่า zumbi ค่ะ
แปลว่า เครื่องราง นะคะ
ส่วนคำที่สอง สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า nzambi นะคะ
แปลว่า เทพเจ้า ค่ะ
คำนี้เป็นภาษาคองโกนะคะ
แล้วถามว่าเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องเนี่ยเทพเจ้าองค์ไหนนะคะ
ก็ต้องบอกว่าเป็นเทพเจ้าองค์นึงนะคะ
ในศาสนาวูดู (voodoo) ค่ะ
อะ หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่าวูดูจากตุ๊กตาวูดูนะคะ
ที่เป็นการทำไสยศาสตร์มนตร์ดำอะไรต่าง ๆ
แล้วแบบใส่เข้าไปในตุ๊กตา
พอเอาเข็มจิ้มตุ๊กตา
มันก็จะไปเจ็บที่คนที่โดนทำคุณไสยใส่ใช่ไหมคะ
ซึ่งนี่ล่ะค่ะ วูดูเนี่ยเป็นศาสนาในแถบแอฟริกันนะคะ
ซึ่งเป็นศาสนาเกี่ยวกับไสยศาสตร์
ความเชื่ออะไรต่าง ๆ มนตร์ดำอะไรอย่างนี้นะคะ
ซึ่งในศาสนานี้ก็มีเทพเจ้าอยู่องค์นึงค่ะ
เป็นเทพเจ้างูนะคะ
ทีนี้เทพเจ้างูองค์นี้
จริง ๆ ชื่อเต็มท่านชื่อว่า Damballa นะคะ ยาวมากค่ะ
แต่ว่ามีอีกชื่อนึงว่า Zombie นั่นเองนะคะ
ทีนี้ถามว่าเทพเจ้าองค์นี้เป็นยังไง มีความสำคัญอะไรนะ
ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในเทพเจ้าองค์สำคัญของ
ศาสนาวูดูเลยทีเดียวนะคะ
ส่วนหน้าตาเป็นยังไงอะไรต่าง ๆ เนี่ยก็จะไปคล้าย ๆ กับ
ความเชื่อร่วมกันทั่วโลกเลย
คือเป็นเทพเจ้างูองค์ใหญ่นะคะที่เขาเชื่อว่า
ถ้าเลื้อยผ่านใต้แผ่นดินเนี่ยนะ จะทำให้แผ่นดินไหว
ถ้าเลื้อยผ่านใต้ทะเล จะทำให้เกิดคลื่น
ถ้าเลื้อยผ่านท้องฟ้าจะทำให้เกิดรุ้ง อะไรประมาณนี้นะคะ
แต่ท่านก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับซอมบี้ขนาดนั้นค่ะ
คือในฝั่งแอฟริกันเนี่ย เชื่ออะไรก็เชื่อไปนะคะ
ก็เชื่อแบบนี้กันมาตั้งแต่นมนานแสนนานมาแล้วค่ะ
จนกระทั่งช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 - 19 นะคะ
จำจากคลิปประวัติศาสตร์โลกของวิวได้ไหมคะ
ว่าช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้นในโลก
มันเกิดการล่าอาณานิคม
เกิดการทำอะไรกันต่าง ๆ
เกิดการนำเอาคนจากแอฟริกาเนี่ยนะคะ
ไปเป็นทาสที่ทวีปอเมริกาค่ะ
โดยต้องบอกว่าทวีปอเมริกาเนี่ย
ไม่ได้มีแค่อเมริกา นึกออกป้ะ
ไม่ใช่แค่ประเทศสหรัฐอเมริกานะคะ
แต่ว่ามันมีตั้งแต่อเมริกาเหนือ
เป็นประเทศสหรัฐอเมริกา มีแคนาดา มีนู่นมีนี่
มาถึงอเมริกาใต้อะไรต่าง ๆ
และรวมไปถึงบริเวณนึงด้วยค่ะ
นั่นก็คือบริเวณ ทะเลแคริบเบียน นะคะ
ที่เราคุ้นเคยกันดีจาก Pirates of the Caribbean น่ะแหละ
ทะเลแคริบเบียนนี่อยู่บริเวณแบบใต้สหรัฐอเมริกาลงมานะคะ
ในบริเวณนั้นเนี่ยนะคะ ก็มีการนำเอาทาสจากแอฟริกา
เข้าไปเยอะมาก ๆ เลยค่ะ
โดยเฉพาะประเทศเฮตินะคะ
เพื่อเอาเข้าไปทำไร่อ้อยค่ะ
คือทำไร่อ้อยเนี่ยก็เพื่อ
เอาน้ำหวานจากอ้อยมาทำน้ำตาลใช่ไหม
ซึ่งน้ำตาลในยุคนั้นน่ะเป็นของที่มีราคาแพงมาก
แล้วก็ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของแถบอเมริกาของเขาเลยนะคะ
ทีนี้ชาวแอฟริกันที่เดินทางจากแอฟริกามาที่บริเวณเฮติ
ก็พาเอาความเชื่อของศาสนาวูดูมาด้วยค่ะ
ดังนั้นมันก็เลยมาแพร่กระจายอยู่บริเวณ
ทะเลแคริบเบียนนี้นะคะ
สุดท้ายเนี่ย แน่นอนว่าเอาความเชื่อศาสนาวูดูมา
ก็ต้องมีความเชื่อเรื่องซอมบี้มาด้วยค่ะ
และเมื่อมันมาอยู่ตรงนี้
มันก็แพร่กระจายรอบทะเลแคริบเบียนนะคะ
แล้วก็แพร่กระจายเข้าไปที่สหรัฐอเมริกา
หลังจากนั้นคนอเมริกันก็มีการเอาไปทำเป็น
pop culture อะไรต่าง ๆ เอามาทำหนังทำละคร
แล้วก็แพร่กระจายไปทั่วโลกจนทำให้ทั่วโลกของเราเนี่ย
รู้จักซอมบี้ตั้งแต่นั้นมาค่ะ
แต่อยากรู้กันไหมว่า
ความเชื่อซอมบี้ของวูดูเนี่ยมันเป็นยังไง
แล้วมันต่างจากความเชื่อซอมบี้ทุกวันนี้รึเปล่านะคะ
ก็ต้องบอกว่า ต่างค่ะ
เพราะว่าความเชื่อซอมบี้ของวูดูเนี่ย
ไม่เหมือนซอมบี้ในหนังทุกวันนี้เลยนะ
คือถามว่ามันเริ่มยังไงเนี่ย ต้องบอกว่ามันเริ่มจากที่
พวกชาวเฮติในสมัยนั้นหรือว่าพวกทาสที่อยู่ในเฮติสมัยนั้น
มันมีคนเยอะมาก ๆ มาอยู่รวมกันนะคะ
แล้วสุขอนามัยเนี่ยไม่ค่อยดีค่ะ
ทำให้มีคนตายบ่อยนะคะ
เป็นอะไร ก็ทำงานใช้แรงงาน ไปทำนู่นทำนี่นิดนึง
เอ่า ตาย ๆ ๆ ๆ ๆ
ตายกันเป็นเบือเลยค่ะ
ที่สำคัญนะคะ
พอตายปุ๊บ ถามว่ากลุ่มคนที่ตายมีความเชื่ออะไร
เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เชื่อเรื่องมนตร์ดำนะคะ
ดังนั้นมันก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่มีการขโมยศพคนที่ตาย
เอาไปทำไสยศาสตร์ เอาไปทำมนตร์ดำค่อนข้างบ่อยค่ะ
ดังนั้นเหตุการณ์ที่ศพหายเนี่ยก็เลย
เป็นเรื่องค่อนข้างจะปกติในนั้นนะคะ
แต่ศพหายเนี่ยก็ยังไม่ใช่ซอมบี้นะ
แล้วถามว่าซอมบี้คืออะไร
คือชาวเฮติตอนนั้นนะคะ
เขาเชื่อเรื่องการทำไสยศาสตร์ ทำมนตร์ดำใส่ศพค่ะ
โดยนักบวชศาสนาวูดูเนี่ยนะคะ
สามารถทำไสยศาสตร์เสกเวทมนตร์อะไรใส่ศพได้
ให้ศพสามารถลุกขึ้นมาอีกครั้งนึงนะคะ
แต่ว่าศพที่ลุกขึ้นมาเนี่ยจะไม่มีวิญญาณ
แล้วถามว่าลุกขึ้นมาทำไม
ก็ลุกขึ้นมาเป็นทาสของนักบวชนี่แหละค่ะ
นักบวชสั่งให้ไปใช้แรงงานอะไรก็ต้องไปนะคะ
และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ซอมบี้เนี่ยเดินท่าแปลก ๆ
เดินท่าไม่พลิ้วเหมือนคนปัจจุบันนี้
เพราะว่าซอมบี้เนี่ยมีแต่ร่าง ไม่มีวิญญาณนั่นเองค่ะ
ซึ่งชาวพื้นเมืองตอนนั้นเนี่ย เขาจะเรียกซอมบี้ว่า Bokor นะคะ
เป็นภาษาพื้นเมืองค่ะ
แล้วถามว่าซอมบี้นี่มันเหมือนในหนังไหม
มีการไปกัดคนอะไรอย่างนี้นะ
ต้องบอกว่าไม่เหมือนเลยค่ะ
เพราะว่าซอมบี้ของเฮติเนี่ย
เขาบอกว่าเหมือนคนปกติทุกอย่างเลย
แค่ไม่มีวิญญาณแล้วก็เดินท่าแปลก ๆ เท่านั้นนะคะ
คือไม่ได้ไปกัดคนอื่นหรืออะไรนะ
แต่ถามว่า อ่าว แล้วใช้ชีวิตอยู่ยังไง
ซอมบี้พวกนี้นะคะ กินอาหารเหมือนคนเรานี่แหละค่ะ
แต่ว่าจะไม่กินอาหารทั่วไป
จะกินแต่อาหารที่หมอผีให้นะคะ
คือกินแต่อาหารจากเจ้านายตัวเองเท่านั้นค่ะ
แล้วก็เชื่อฟังคำสั่งเจ้านายตัวเองนะคะ
ดังนั้นเนี่ยนะคะ ซอมบี้พวกนี้ก็เลยสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ
คนปกติทั่วไปที่เป็นแรงงานทั่วไปได้ค่ะ
ทีนี้เรามาพูดกันแบบวิทย์ ๆ หน่อยดีกว่า
ถามว่ามันมีคนเชื่อเป็นตุเป็นตะขนาดนั้นว่าตัวเองเป็นซอมบี้
มันมีความเชื่อเรื่องซอมบี้กัน
แล้วถามว่าทางวิทยาศาสตร์เนี่ย
เขาอธิบายเรื่องราวของซอมบี้ไว้ยังไงนะคะ
เขาบอกว่าซอมบี้เนี่ยจริง ๆ ไม่ใช่ศพหรอก
ที่โดนปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตอยู่
แต่เป็นคนเป็น ๆ นี่แหละค่ะ
ที่โดนหมอผีเนี่ยนะคะ มอมยาค่ะ
ให้ยาต่าง ๆ ไปซึ่งเป็นยาที่มีฤทธิ์กดประสาทอะไรต่าง ๆ นะ
ถ้าให้ยานิดเดียว
คนคนนั้นก็จะมึน ๆ แล้วก็แบบว่า
ไม่รู้เรื่อง ไม่มีสติ ประมาณนั้น
แต่ถ้าสมมติว่าให้ยามากถึงจุดนึงเนี่ยนะคะ
คนพวกนี้ก็จะกลายเป็นอัมพาต กลายเป็นอัมพฤกษ์
หยุดหายใจหรืออะไร คือสภาพเหมือนตายว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ
โดยยาพวกนี้นะคะ
เขาบอกว่าปรุงขึ้นมาจากหลายอย่างเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นเปลือกหอย ก้างปลา
ปลาบางชนิด กระดูกสัตว์
บางคนก็บอกว่ามาจากพิษของปลาปักเป้าก็มีเหมือนกันนะคะ
คือผสมกันออกมาเป็นผงที่เรียกว่าผงซอมบี้ค่ะ
แล้วก็เอาให้คนกินนะคะ
พอคนกินเข้าไปเนี่ยก็อาจจะแบบว่า
หมดสติไปอย่างนี้ใช่ไหม
คือกดประสาท หมดสติ ญาติ ๆ ก็เข้าใจว่าตาย
ตายเสร็จก็เอาไปฝังค่ะ
พอเอาไปฝัง คนนี้ก็เข้าใจว่าตัวเองตายแล้ว
ปรากฏว่าพอถึงจุดนึงเนี่ย
ยาหมดฤทธิ์ คนคนนี้ก็ฟื้นขึ้นมานะคะ
แต่ถามว่าฟื้นขึ้นมา 100% รึเปล่า
ก็ไม่ เพราะว่าฤทธิ์ของยาก็ยังหลอนอยู่ใช่ไหม
หมอผีก็บอกว่า เจ้าเป็นซอมบี้ เป็นทาสของข้า
เจ้าฟื้นขึ้นมาตามคำสั่งของข้า
เจ้าจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้าเท่านั้น
แล้วก็เอาอาหารให้กินทุกวัน
ในอาหารก็มีใส่ยา ใส่ยา ใส่ยาไปนะคะ
ดังนั้นคนก็เลยเข้าใจว่าตัวเองเป็นซอมบี้ ไม่มีจิตวิญญาณ
แล้วก็ทำตามคำสั่งของหมอผีไปเรื่อย ๆ
อยู่ให้หมอผีใช้แรงงานไปเรื่อย ๆ ค่ะ
ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันเขาก็เชื่อว่า
นี่แหละค่ะ คือคำอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้ในอดีตนะว่า
อ๋อ มันคือการโดนมอมยาอะไรต่าง ๆ
ที่บอกว่าไม่มีวิญญาณก็เพราะว่าไม่มีสติ
เพราะว่าโดนสารเนี่ยกดประสาทอยู่
ส่วนที่ท่าเดินแปลก ๆ เนี่ยก็เพราะว่าเมายานั่นเองนะคะ
ส่วนที่ต้องกินอาหารจากหมอผีเท่านั้นก็เพราะว่า
ต้องโดนมอมยาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
ซึ่งต้องบอกว่ามันมีรายงานข่าวในอดีตนะคะ
สามารถไปหาอ่านกันได้ที่
มีหลาย ๆ คนเนี่ยเข้าใจไปเองว่าตัวเองเป็นซอมบี้นะคะ
แบบว่า อ๋อ ฉันโดนปลุกวิญญาณกลับขึ้นมา
แล้วตอนนี้ฉันเป็นซอมบี้อะไรอย่างนี้
ก็มีคนมาให้สัมภาษณ์ไว้เหมือนกันค่ะ
มีชาวเฮติหลายคนที่ปัจจุบันนี้ก็น่าจะแก่แล้วหรือว่ายังมีชีวิตอยู่
ที่เขาเข้าใจว่าตัวเองเคยเป็นซอมบี้มาก่อน อย่างเช่น
มันก็มีเคสนึงที่แบบว่าคนนึงเนี่ย
ตายไปนะคะ แล้วก็หายไป 18 ปีค่ะ
อยู่ดี ๆ คนก็ไปเจอว่า อ้าว ยังไม่ตายเหรอ
ตายไป 18 ปีแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมมาเดินอยู่แถวนี้
เขาก็บอกญาตินะคะว่า
อ๋อ เขาเนี่ยไปเป็นซอมบี้มา ไปอยู่ในไร่อ้อยตรงนู้นแหละ
ไปให้หมอผีใช้แรงงานมา 18 ปี
อยู่ร่วมกับซอมบี้อีกหลายตัวเลย
อย่างนี้ก็มีเหมือนกันนะคะ
และทั้งหมดนี้นะคะ ก็คือเรื่องราวของ
ซอมบี้ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ค่ะ
แล้วก็เป็นที่มาของซอมบี้ที่โดนพัฒนามา
จนกลายเป็น pop culture แบบปัจจุบันนี้นะคะ
เอาเป็นว่าถ้าใครชื่นชอบเรื่องแบบนี้ อย่าลืม
กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็
กดแชร์เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ
บ๊ายบาย
สวัสดีค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะ ชอบเรื่องราวของซอมบี้กันไหม
อยากให้วิวเล่าเรื่องราวของ monster ปีศาจ สัตว์ประหลาด
ตัวไหนให้ฟังอีกก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้นะคะ
เดี๋ยวจะพยายามไปหาเรื่องราวมาเล่าให้ฟังค่ะ
วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน
บ๊ายบาย
สวัสดีค่ะ