WEBVTT 00:00:06.414 --> 00:00:08.748 ดีเอ็นเอในเซลล์ของคุณ 00:00:08.748 --> 00:00:12.997 ได้รับความเสียหายเป็นหมื่นๆ ครั้งต่อวัน 00:00:12.997 --> 00:00:16.465 คูณด้วยจำนวนเซลล์ในร่างกายของคุณ ที่มีอยู่ประมาณร้อยล้านล้านเซลล์ 00:00:16.465 --> 00:00:21.575 และคุณจะพบว่าดีเอ็นเอเกิดความผิดปกติมากมาย 00:00:21.575 --> 00:00:23.826 และเพราะว่าดีเอ็นเอเป็นพิมพ์เขียว 00:00:23.826 --> 00:00:26.431 สำหรับโปรตีนที่เซลล์คุณต้องการเพื่อการทำงาน 00:00:26.431 --> 00:00:30.574 ความเสียหายนี้ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ เช่น มะเร็ง 00:00:30.574 --> 00:00:32.634 ความผิดพลาดเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ 00:00:32.634 --> 00:00:37.905 บางครั้งเป็นที่นิวคลีโอไทด์ ซึ่งเป็นหน่วยสำคัญของดีเอ็นเอ ได้รับความเสียหาย 00:00:37.905 --> 00:00:41.092 บางครั้ง นิวคลีโอไทด์ ถูกจับคู่อย่างไม่ถูกต้อง 00:00:41.092 --> 00:00:43.049 ซึ่งทำให้เกิดความกลายพันธุ์ 00:00:43.049 --> 00:00:48.257 และช่องว่างเล็กๆ ในหนึ่ง หรือทั้งสองสาย สามารถรบกวนการเพิ่มจำนวนดีเอ็นเอได้ 00:00:48.257 --> 00:00:52.083 หรือแม้กระทั่งทำให้เกิดการตัดดีเอ็นเอ เพื่อที่จะให้เกิดการผสมกัน 00:00:52.083 --> 00:00:56.409 โชคดี เซลล์ของคุณสามารถที่จะซ่อม ปัญหาส่วนใหญ่ของพวกนี้ ในแบบของมันได้ตลอด 00:00:56.409 --> 00:00:58.119 โดยส่วนใหญ่ 00:00:58.119 --> 00:01:01.908 วิถีการซ่อมแซมเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับเอนไซม์จำเพาะ 00:01:01.908 --> 00:01:05.313 แต่ละชนิดตอบสนองต่อความเสียหายที่แตกต่างกัน 00:01:05.313 --> 00:01:07.882 ความผิดพลาดที่พบบ่อย 00:01:07.882 --> 00:01:10.232 แต่ละนิวคลีโอไทด์มีเบส 00:01:10.232 --> 00:01:12.262 และในขณะที่ดีเอ็นเอถูกเพิ่มจำนวน 00:01:12.262 --> 00:01:16.633 เอนไซม์ดีเอ็นเอโพลีเมอเรส ควรที่จะนำคู่ที่ถูกต้อง 00:01:16.633 --> 00:01:20.582 มาเข้าคู่กับทุกๆ เบส ที่อยู่บนสายต้นแบบ 00:01:20.582 --> 00:01:24.217 อะดีนีน คู่กับ ไทมีน และกวานีน คู่กับ ไซโตซีน 00:01:24.217 --> 00:01:27.169 แต่ประมาณทุกๆ การเติมในหลักแสน 00:01:27.169 --> 00:01:28.976 มันจะทำพลาด 00:01:28.976 --> 00:01:31.286 เอนไซม์จับผิดได้เกือบจะทันที 00:01:31.286 --> 00:01:35.940 และตัดบางส่วนของนิวคลีโอไทด์ และแทนที่พวกมันด้วยอันที่ถูกต้อง 00:01:35.940 --> 00:01:37.810 และในกรณีที่มันพลาดไปบ้าง 00:01:37.810 --> 00:01:41.369 โปรตีนชุดที่สองตามมาเพื่อทำการตรวจสอบ 00:01:41.369 --> 00:01:42.848 ถ้ามันพบการจับคู่ที่ผิด 00:01:42.848 --> 00:01:46.257 พวกมันตัดนิวคลีโอไทด์ที่ผิดออก และแทนที่มัน 00:01:46.257 --> 00:01:48.478 กระบวนการนี้เรียกว่า การซ่อมการจับคู่ที่ผิด (mismatch repair) 00:01:48.478 --> 00:01:52.238 ด้วยกัน สองระบบนี้ลดจำนวนของเบสที่จับคู่ผิด 00:01:52.238 --> 00:01:55.482 จนเหลือประมาณ หนึ่งในพันล้าน 00:01:55.482 --> 00:01:59.149 แต่ดีเอ็นเอได้รับความเสียหาย หลังจากการเพิ่มจำนวนได้เช่นกัน 00:01:59.149 --> 00:02:02.900 โมเลกุลต่างๆ สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทางเคมี ให้กับนิวคลีโอไทด์ได้ 00:02:02.900 --> 00:02:06.245 บางโมเลกุล มาจากการสัมผัสสิ่งแวดล้อม 00:02:06.245 --> 00:02:09.202 เช่นบางองค์ประกอบในควันยาสูบ 00:02:09.202 --> 00:02:12.349 และอย่างอื่น เช่นโมเลกุลที่พบได้ในเซลล์ตามปกติ 00:02:12.349 --> 00:02:14.917 เช่นไฮโดรเจน เปอร์ออกซิเดส 00:02:14.917 --> 00:02:17.143 ที่การเปลี่ยนแปลงทางเคมีนั้นธรรมดามาก 00:02:17.143 --> 00:02:21.348 พวกมันมีเอนไซม์จำเพาะที่ถูกสั่ง ให้ย้อนการทำเสียหายนี้ 00:02:21.348 --> 00:02:24.885 แต่เซลล์ยังมีวิถีการซ่อมที่ง่ายไปกว่านั้น 00:02:24.885 --> 00:02:27.231 ถ้าคุณมีเบสเสียหายไปแค่เบสเดียว 00:02:27.231 --> 00:02:32.143 โดยทั่วไป มันสามารถถูกซ่อนได้ โดยกระบวนการที่เรียกว่า การซ่อมเบสที่มีอยู่ 00:02:32.143 --> 00:02:34.528 เอนไซม์หนึงตัดเอาเบสที่เสียหายออก 00:02:34.528 --> 00:02:40.410 และอีกเอนไซม์หนึ่งเข้ามาเล็มรอบๆ บริเวณนั้น และจัดวางนิวคลีโอไทด์ 00:02:40.410 --> 00:02:45.290 แสงยูวีสามารถทำให้เกิดความเสียหาย ที่ซ่อมได้ยากกว่า 00:02:45.290 --> 00:02:49.274 บางครั้ง มันทำให้เกิดสองนิวคลีโอไทด์ที่ใกล้กัน ที่ติดเข้าด้วยกัน 00:02:49.274 --> 00:02:52.394 ซึ่งเป็นการทำลายโครงสร้างเกลียวคู่ของดีเอ็นเอ 00:02:52.394 --> 00:02:55.567 ความเสียหายเช่นนี้ ต้องการกระบวนการที่ซับซ้อนมากกว่า 00:02:55.567 --> 00:02:58.975 ที่เรียกว่า การซ่อมนิวคลีโอไทด์โดยการตัด 00:02:58.975 --> 00:03:04.015 กลุ่มของโปรตีนกำจัดนิวคลีโอไทด์สายยาว ประมาณ 24 นิวคลีโอไทด์ 00:03:04.015 --> 00:03:06.745 และแทนที่มันด้วยอันใหม่ 00:03:06.745 --> 00:03:10.700 การโดนรังสีความถี่สูงมากๆ เช่นรังสีแกมม่า หรือรังสีเอ็กซ์ 00:03:10.700 --> 00:03:13.101 ทำให้เกิดการเสียหายที่ต่างออกไป 00:03:13.101 --> 00:03:18.285 พวกมันสามารถทำลายโครงสร้างหลักดีเอ็นเอ หนึ่งสาย หรือทั้งสองสายได้ 00:03:18.285 --> 00:03:21.303 การที่สายคู่หักเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด 00:03:21.303 --> 00:03:24.066 เพียงที่เดียวอาจทำให้เซลล์ตายได้ 00:03:24.066 --> 00:03:27.503 วิถีที่ธรรมดาที่สุดสองวิถี สำหรับการซ่อมสายคู่ที่หัก 00:03:27.503 --> 00:03:33.081 ถูกเรียกว่า โฮโมโลกัส รีคอมบิเนชัน และนอน-โฮโมโลกัส เอ็น จอยนิง 00:03:33.081 --> 00:03:39.186 โฮโมโลกัส รีคอมบิเนชัน ใช้ส่วนที่ไม่เสียหาย ของดีเอ็นเอที่คล้ายกัน เป็นต้นแบบ 00:03:39.186 --> 00:03:43.850 เอนไซม์สานสายที่เสียหายและซ่อมมัน 00:03:43.850 --> 00:03:46.449 ทำให้มันแลกเปลียนลำดับของนิวคลีโอไทด์ 00:03:46.449 --> 00:03:49.244 และท้ายที่สุดก็เติมส่วนที่หายแล้ว 00:03:49.244 --> 00:03:53.229 เพื่อให้ได้ส่วนสายคู่ที่สมบูรณ์ 00:03:53.229 --> 00:03:55.891 นอน-โฮโมโลกัส เอ็น จอยนิง ต่างออกไป 00:03:55.891 --> 00:03:58.108 มันไม่ต้องพึ่งพาต้นแบบ 00:03:58.108 --> 00:04:02.540 แทนที่จะเป็นอย่างนั้น โปรตีนมากมาย เล็มนิวคลีโอไทด์บางส่วนออก 00:04:02.540 --> 00:04:06.565 และจากนั้นก็หลอมรวมปลายที่หักเข้าด้วยกัน 00:04:06.565 --> 00:04:08.554 กระบวนการนี้ไม่ได้แม่นยำเสียเท่าไร 00:04:08.554 --> 00:04:12.187 มันสามารถทำยีนปะปนกัน หรือเคลื่อนไปได้ 00:04:12.187 --> 00:04:16.332 แต่มันก็มีประโยชน์ เมื่อดีเอ็นเอที่เป็นคู่กันไม่ได้ปรากฏอยู่ 00:04:16.332 --> 00:04:20.149 แน่ล่ะ การเปลี่ยนดีเอ็นเอไม่ได้แย่เสมอไป 00:04:20.149 --> 00:04:23.751 การกลายพันธุ์ที่เป็นประโยชน์ ทำให้สายพันธุ์มีวิวัฒนาการได้ 00:04:23.751 --> 00:04:27.663 แต่ส่วนใหญ่แล้ว เราอยากให้ดีเอ็นเอของเราเป็นเหมือนเดิม 00:04:27.663 --> 00:04:31.776 ความผิดพลาดในการซ่อมดีเอ็นเอ เกี่ยวข้องกับการแก่ก่อนวัย 00:04:31.776 --> 00:04:34.010 และมะเร็งหลายชนิด 00:04:34.010 --> 00:04:36.224 ถ้าหากคุณมองหาน้ำพุอายุวัฒนะ 00:04:36.224 --> 00:04:39.160 มันมีอยู่แล้วในเซลล์ของคุณ 00:04:39.160 --> 00:04:42.719 เป็นพันล้านครั้งต่อวัน