WEBVTT 00:00:00.601 --> 00:00:02.610 ผมเป็นศิลปิน และผมก็ตัดหนังสือ 00:00:02.610 --> 00:00:04.316 นี่คือผลงานจากหนังสือเล่มแรกๆ ของผม 00:00:04.316 --> 00:00:06.340 ชื่อว่า "ทางสลับซับซ้อนสู่ความรู้" 00:00:06.340 --> 00:00:10.132 ผมอยากสร้างกองหนังสือเพื่อ ให้คนเข้ามาดูในหอศิลป์ 00:00:10.132 --> 00:00:12.952 แล้วคิดว่าได้เห็นกอง หนังสือธรรมดาๆ 00:00:12.952 --> 00:00:16.441 แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาดูใกล้ๆ ก็จะเป็นหลุมที่ขุดหยาบๆ 00:00:16.441 --> 00:00:18.417 ภายในแล้วสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้น และทำไมกัน 00:00:18.417 --> 00:00:20.453 และคิดถึงส่วนประกอบของหนังสือ 00:00:20.453 --> 00:00:22.543 ผมเลยมุ่งสนใจที่พื้นผิว 00:00:22.543 --> 00:00:26.663 แต่ผมสนตัวหนังสือและรูปภาพ ในหนังสือมากกว่า NOTE Paragraph 00:00:27.623 --> 00:00:31.524 งานส่วนใหญ่ของผม มักจะเคลือบ ขอบของหนังสือด้วยน้ำมันเงาหนาๆ 00:00:31.524 --> 00:00:34.334 เพื่อให้เหมือนผิวหนังด้านนอก ของหนังสือ 00:00:34.334 --> 00:00:38.202 จนกลายเป็นของแข็งๆ แต่ภายในแต่ละหน้ายังเหมือนเดิม 00:00:38.202 --> 00:00:40.352 จากนั้นผมก็แกะจากผิวของหนังสือ 00:00:40.352 --> 00:00:42.883 และไม่ได้เคลื่อนย้ายหรือเพิ่มเติมอะไร 00:00:42.883 --> 00:00:45.762 ผมก็แค่แกะไปเรื่อยๆ ในสิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจ 00:00:45.762 --> 00:00:48.223 ดังนั้นทุกสิ่งที่คุณเห็น ในผลงานที่เสร็จสิ้นนั้น 00:00:48.223 --> 00:00:50.996 อยู่ในที่เดิมของมัน ตั้งแต่เริ่มแรก NOTE Paragraph 00:00:52.666 --> 00:00:55.014 ผมคิดว่างานผมค่อนข้าง ผสมผสาน 00:00:55.014 --> 00:00:57.345 เพราะผมทำงานบนงาน ของคนอื่น 00:00:57.345 --> 00:01:00.973 ในแบบเดียวกับ ดีเจที่ ทำงานกับดนตรีของคนอื่น 00:01:00.973 --> 00:01:04.918 นี่คือหนังสือภาพวาดของ ราฟาเอล ศิลปินยุคเรอเนสซอง 00:01:04.918 --> 00:01:09.353 ผมเอางานของเขามา ผสมผสนาน แกะสลัก 00:01:09.353 --> 00:01:13.045 ผมทำให้มันดูใหม่ ดูร่วมสมัยกว่าเดิม 00:01:13.915 --> 00:01:17.781 ผมค่อนข้างคิดนอกกรอบจาก หนังสือแบบเดิมๆ 00:01:17.781 --> 00:01:19.917 ผลักดันจากเส้นของรูปแบบตัวมัน 00:01:19.917 --> 00:01:23.900 พยายามจากโครงสร้าง ตัวหนังสือเอง 00:01:23.900 --> 00:01:26.423 เพื่อให้หนังสือกลายเป็น ประติมากรรมโดยสมบูรณ์ NOTE Paragraph 00:01:29.303 --> 00:01:33.068 ผมใช้คีบ เชื่อก และอื่นๆ 00:01:33.068 --> 00:01:36.040 เพื่อยึดให้ได้รูป ก่อนจะ เคลือบด้วยน้ำมันเงา 00:01:36.040 --> 00:01:38.600 จะได้ทำให้เป็นรูปทรงก่อนจะเริ่ม 00:01:38.600 --> 00:01:43.242 แล้วทำให้รูปร่างแบบนี้ กลายเป็นแบบนี้ 00:01:43.242 --> 00:01:46.130 หมดนี่ทำจากพจนานุกรม เล่มเดียว 00:01:46.130 --> 00:01:52.368 หรืออะไรแบบนี้ ให้กลายเป็น แบบนี้ 00:01:54.768 --> 00:01:56.244 แบบอย่างนี้ 00:01:56.244 --> 00:02:00.255 ซึ่งใครจะไปรู้ว่ามันจะเป็นอะไร และมันมาอยู่ในสตูดิโอผมได้ไง 00:02:00.255 --> 00:02:04.274 ให้ออกมาเป็นแบบนี้ NOTE Paragraph 00:02:04.997 --> 00:02:08.685 ผมคิดว่าหนึ่งในเหตุผลที่แบ่งปัน โดยการทำงานหนังสือ 00:02:08.685 --> 00:02:10.228 คือคนไม่ต้องการฉีกมัน 00:02:10.228 --> 00:02:12.359 ไม่มีใครอยากทิ้งมันจริงๆ 00:02:12.359 --> 00:02:14.552 เหมือนกับที่เราคิดว่าหนังสือ มีชีวิตจริงๆ 00:02:14.552 --> 00:02:16.223 เราคิดว่ามันมีร่างกาย 00:02:16.223 --> 00:02:19.313 พวกมันสร้างขึ้นมาคล้ายกับ รูปร่างของเรา 00:02:19.313 --> 00:02:21.741 แต่มันสามารถเติบโตต่อได้ 00:02:21.741 --> 00:02:23.731 และกลายเป็นสิ่งใหม่ๆ 00:02:23.731 --> 00:02:26.458 ดังนั้นหนังสือมีชีวิตจริงๆ 00:02:26.458 --> 00:02:28.988 ผมเลยคิดว่าหนังสือเหมือนรูปร่าง 00:02:28.988 --> 00:02:31.692 และคิดว่ามันเป็นเทคโนโลยี 00:02:31.692 --> 00:02:34.081 เป็นอุปกรณ์ 00:02:36.111 --> 00:02:40.435 และก็คิดว่ามันเป็นเครื่องจักรด้วย 00:02:40.435 --> 00:02:42.809 แล้วผมก็คิดว่าหนังสือเหมือนทิวทัศน์ 00:02:42.809 --> 00:02:47.081 นี่คือสารานุกรมเซ็ตสมบูรณ์ที่ เชื่อมและถมเข้าด้วยกัน 00:02:47.081 --> 00:02:49.334 จากที่ผมแกะไปเรื่อยๆ 00:02:49.334 --> 00:02:51.275 ผมก็ตัดสินใจเลือก 00:02:51.275 --> 00:02:53.863 ความจริงผมสามารถเลือก ทำอะไรกับสารานุกรมก็ได้ 00:02:53.863 --> 00:02:56.530 แต่ผมเจาะจงเลือกภาพทิวทัศน์ 00:02:58.030 --> 00:03:00.966 และด้วยตัวอุปกรณ์แล้ว ผมเลือกใช้กระดาษทราย 00:03:00.966 --> 00:03:04.658 แล้วก็โรยทรายตามขอบ ไม่ใช่แค่ให้ภาพสื่อทิวทัศน์ 00:03:04.658 --> 00:03:07.366 แต่ส่วนประกอบก็ช่วย เสริมเข้าไปด้วย NOTE Paragraph 00:03:09.456 --> 00:03:12.889 สิ่งหนึ่งที่ผมทำในขณะที่ผม แกะสลักหนังสือ 00:03:12.889 --> 00:03:16.570 คือคิดภาพ แต่ก็คิดถึง ตัวหนังสือด้วย 00:03:16.570 --> 00:03:18.775 ผมคิดในแบบคล้ายๆ กัน 00:03:18.775 --> 00:03:21.647 เพราะ สิ่งที่น่าสนใจคือ ขณะที่เราอ่านตัวหนังสือ 00:03:21.647 --> 00:03:23.146 บนหนังสือ 00:03:23.146 --> 00:03:24.615 มันสร้างภาพต่างๆ ในหัว 00:03:24.615 --> 00:03:26.638 เหมือนกับเราเติมส่วนนั้นเข้าไป 00:03:26.638 --> 00:03:30.039 เราก็เหมือนกับสร้างภาพต่างๆ ในขณะอ่านตัวหนังสือ 00:03:30.039 --> 00:03:32.916 และเมื่อเรามองภาพ เราก็ใช้ภาษา 00:03:32.916 --> 00:03:35.632 เพื่อเข้าใจในสิ่งที่ พวกเรามองอยู่ด้วย 00:03:35.632 --> 00:03:37.861 ดังนั้นก็เหมือนกับ หยิน หยาง 00:03:37.861 --> 00:03:39.138 เกิดสลับไปมา 00:03:39.138 --> 00:03:44.677 ผมเลยสร้างสิ่งที่คนเห็น เติมเต็มได้ด้วยตัวเอง NOTE Paragraph 00:03:45.477 --> 00:03:48.960 ผมคิดว่างานผมเกือบจะ เหมือนกับโบราณคดี 00:03:48.960 --> 00:03:51.979 ที่ผมขุด พยายาม เปิดเผยมัน 00:03:51.979 --> 00:03:54.068 และค้นให้มากที่สุดเท่าที่ผมทำได้ 00:03:54.068 --> 00:03:56.709 และเปิดเผยมันในผลงานผม 00:03:58.219 --> 00:03:59.896 แต่ในขณะเดียวกัน 00:03:59.896 --> 00:04:01.870 ผมคิดถึงการลบ 00:04:01.870 --> 00:04:06.351 อะไรที่เกิดขึ้นที่ข้อมูลที่ 00:04:06.351 --> 00:04:09.393 ยากเกินเข้าใจ 00:04:09.393 --> 00:04:13.711 และไอเดียที่ไม่ใช่แค่สิ่ง คลาดเคลื่อนจากข้อมูลคอม 00:04:13.711 --> 00:04:16.033 แต่เป็นข้อมูลของตัวมัน 00:04:16.033 --> 00:04:18.262 ปัจจุบันเราไม่มีหลักฐานสนับสนุน 00:04:18.262 --> 00:04:23.843 จึงต้องอัพเดท เพื่อไม่ให้สูญหาย 00:04:23.843 --> 00:04:26.623 ผมมีพจนานุกรมมากมาย ในสตูดิโอ 00:04:26.623 --> 00:04:29.140 และผมก็ใช้คอมทุกวัน 00:04:29.140 --> 00:04:31.933 ถ้าผมอยากหาคำไหน ผมจะหาในคอม 00:04:31.933 --> 00:04:35.259 เพราะผมสามารถทำได้เลย ดูได้ทันที 00:04:35.259 --> 00:04:37.209 นี่เป็นสิ่งที่ผมว่าหนังสือ 00:04:37.209 --> 00:04:40.204 ไม่ตอบรับกับ ข้อมูลโดยตรง 00:04:40.204 --> 00:04:42.278 เป็นสาเหตุให้เรามักดูอ้างอิงในหนังสือ 00:04:42.278 --> 00:04:46.153 ที่กลายเป็นสิ่งแรกที่จะสูญหาย NOTE Paragraph 00:04:49.743 --> 00:04:52.510 ผมไม่คิดว่าหนังสือจะตายจริงๆ 00:04:52.510 --> 00:04:56.806 คนส่วนใหญ่คิดว่าเรามีดิจิตอล เทคโนโลยี 00:04:56.806 --> 00:04:58.178 แล้วหนังสือก็จะค่อยๆ ตาย 00:04:58.178 --> 00:05:01.381 และพวกเราได้เห็นสิ่งต่างๆ ปรับ สิ่งต่างๆ พัฒนาขึ้น 00:05:01.381 --> 00:05:03.505 ผมคิดว่าหนังสือจะพัฒนา 00:05:03.505 --> 00:05:06.767 และเหมือนกับที่คนพูดกันว่า ภาพวาดอาจตาย 00:05:06.767 --> 00:05:11.167 เมื่อรูปถ่าย และเครื่องปริ๊นท์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต 00:05:11.167 --> 00:05:13.154 แต่สิ่งที่ทำให้ภาพวาด 00:05:13.154 --> 00:05:15.706 เป็นคือให้เราหลุดจาก งานประจำ 00:05:15.706 --> 00:05:22.021 มันเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนกับการเล่า แบบเดิมๆ ในชีวิต 00:05:22.022 --> 00:05:25.435 และภาพวาดก็กลายเป็น การปล่อยและเล่าเรื่องในแบบของตนเอง 00:05:25.435 --> 00:05:27.512 และเมื่อเราได้เห็นยุคโมเดินเกิดขึ้น 00:05:27.512 --> 00:05:29.754 เราก็ได้เห็นภาพที่มีความ แตกต่าง หลายแขนง 00:05:29.754 --> 00:05:32.238 และผมก็คิดว่ามันเกิดขึ้น กับหนังสือในปัจจุบัน 00:05:32.238 --> 00:05:34.933 ทุกวันนี้ เทคโนโลยีส่วนใหญ่ ข้อมูลโดยส่วนมาก 00:05:34.933 --> 00:05:39.127 จำนวนมากของวัฒนธรรมและ เรื่องส่วนตัว ถูกบันทึกในแบบดิจิตอล 00:05:39.127 --> 00:05:42.079 ผมคิดว่า มันทำให้หนังสือ สามารถเปลี่ยนเป็นอะไรใหม่ๆ 00:05:42.079 --> 00:05:44.869 ดังนั้น ผมจึงคิดว่ามันน่าตื่นเต้น สำหรับศิลปินอย่างผม 00:05:44.869 --> 00:05:48.439 และน่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าจะ เกิดอะไรขึ้นบ้างกับหนังสือในอนาคต NOTE Paragraph 00:05:48.439 --> 00:05:49.768 ขอบคุณครับ NOTE Paragraph 00:05:49.768 --> 00:05:53.576 (เสียงปรบมือ)