1 00:00:01,814 --> 00:00:08,020 (เสียงระฆัง) 2 00:00:08,976 --> 00:00:14,559 ลึกลงไปฉันรู้สึกถึงแรงขับดันรุนแรง ที่ควบคุมไม่ได้ 3 00:00:14,609 --> 00:00:23,814 ทำอย่างไรถึงจะนำมัน มาใช้ประโยชน์เพื่อผู้อื่นได้ 4 00:00:26,770 --> 00:00:29,012 นมัสการท่านอาจารย์ สวัสดีญาติธรรมทุกท่าน 5 00:00:29,076 --> 00:00:30,699 ดิฉันมีคำถามค่ะ 6 00:00:30,732 --> 00:00:35,142 คือบางครั้งลึกลงไปภายใน 7 00:00:35,192 --> 00:00:40,428 ดิฉันรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่แรงกล้ามาก 8 00:00:40,509 --> 00:00:43,254 ซึ่งบางครั้งดิฉันก็ควบคุมมันไม่ค่อยได้ 9 00:00:45,109 --> 00:00:49,742 รู้สึกเหมือนกับว่า ... ข้างในนี้มีอะไรบางอย่างที่มัน... 10 00:00:49,792 --> 00:00:55,994 สว่างไสว หยั่งลึก และรุนแรง 11 00:00:56,206 --> 00:01:01,132 และดิฉันก็ควบคุมมันไม่ได้เลย 12 00:01:01,242 --> 00:01:11,194 มันพาฉันไปทำนู่นทำนี่ ในแบบที่ฉันจัดการอะไรไม่ได้เลย 13 00:01:11,224 --> 00:01:13,378 สุดโต่งมาก 14 00:01:13,498 --> 00:01:20,742 และมันมีอิทธิพลมากเสียจน บางครั้งดิฉันรู้สึกเหมือนเป็นทาสมัน 15 00:01:20,798 --> 00:01:26,436 เช่น สมมติว่าถ้าดิฉันอยากรู้อะไรสักอย่าง ในบนดาวดวงนี้ 16 00:01:26,466 --> 00:01:30,954 ฉันก็จะออกเดินทาง พลังอันนี้นำพาฉันไป 17 00:01:30,994 --> 00:01:38,469 สุดท้ายพบว่าตัวเองไปโผล่อยู่ในสถานที่ ที่เขารบกันอยู่ หรือที่ที่มันสุดๆ 18 00:01:38,522 --> 00:01:43,682 คือฉันยังไม่พร้อมสำหรับอะไรแบบนั้น แต่ดิฉันก็พอมีคำตอบให้ตัวเองนะคะ 19 00:01:43,798 --> 00:01:47,227 พลังนั้นเป็นคนบอกคำตอบมาเอง 20 00:01:47,654 --> 00:01:50,585 คือมันซับซ้อนหน่อยนะคะ (เหอๆ) 21 00:01:50,635 --> 00:01:56,466 ตอนนี้ฉันแค่อยากจะควบคุม พลังงานมหาศาลอันนี้ให้... 22 00:01:56,536 --> 00:02:00,034 ฉันอยากให้จิตวิญญาณ... เป็นหนึ่ง... 23 00:02:00,104 --> 00:02:05,946 ฉันอยากจะรวมพลังนี้ให้เป็นไปในจุดเดียว 24 00:02:06,249 --> 00:02:10,924 แต่ฉันรู้สึกเหมือนตัวเล็กนิดเดียว เพราะพลังมันยิ่งใหญ่มาก 25 00:02:11,044 --> 00:02:14,438 ฉันรู้สึกว่าแรงขับมันกลับตาลปัตร อยู่ภายใน 26 00:02:14,498 --> 00:02:20,602 และฉันไม่รู้ว่าจะควบคุมมันให้ตรงจุด ได้อย่างไร เมื่อต้องอยู่ในสังคม 27 00:02:20,766 --> 00:02:30,463 ควบคุมให้มันตรงเป้า และชัดเจน เพื่อที่จะทำ... 28 00:02:30,536 --> 00:02:33,661 อะไรสักอย่างที่มันเป็นรูปธรรม 29 00:02:35,293 --> 00:02:40,959 ฉันพยายามใช้สติในการฝึกฝน พยายามหายใจเข้าออกลึกๆ 30 00:02:41,351 --> 00:02:45,730 และปล่อยให้แรงขับนี้พาไป 31 00:02:45,853 --> 00:02:49,864 ทั้งนี้ดิฉันก็ยังอยากรู้เผื่อท่านอาจารย์ มีคำแนะนำอะไรดีๆ บ้างไหมคะ 32 00:02:51,540 --> 00:02:54,935 หวังว่าจะไม่งงนะคะ (หัวเราะ) ขอบคุณค่ะ 33 00:02:55,372 --> 00:02:57,375 ทวนหน่อยได้มั้ย? 34 00:02:57,455 --> 00:02:59,217 สรุป 35 00:03:00,138 --> 00:03:04,283 เพื่อนท่านนี้บอกว่า ลึกลงไปในตัวเธอมี 36 00:03:04,283 --> 00:03:09,071 แรงขับดันภายในที่แรงกล้า 37 00:03:11,736 --> 00:03:13,443 และบางทีเธอก็รู้สึก 38 00:03:13,939 --> 00:03:16,573 เหมือนอยู่ภายใต้การควบคุมของแรงขับดันนี้ 39 00:03:16,801 --> 00:03:19,351 มันพาเธอไปทำสิ่งต่างๆ 40 00:03:19,596 --> 00:03:23,312 ซึ่งบางทีก็ไม่ค่อยเข้าท่านักสำหรับเธอ 41 00:03:23,442 --> 00:03:27,953 เธอจึงอยากจะเรียนรู้วิธีที่จะ ควบคุมแรงขับดันนี้ 42 00:03:28,181 --> 00:03:32,649 อยากจะมีทางเลือกในการใช้มันด้วยสติ 43 00:03:32,649 --> 00:03:37,773 และพามันไปทำงานที่เป็นรูปธรรม และเป็นประโยชน์ 44 00:03:45,614 --> 00:03:49,444 และเธอก็พยายามฝึกด้วยสติ และลมหายใจ 45 00:03:49,444 --> 00:03:56,034 แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมแรงขับดันนี้ ได้ดีเท่าที่ควร 46 00:04:02,256 --> 00:04:06,535 แรงขับดันนี้อาจมีกำลังมาก 47 00:04:06,834 --> 00:04:11,624 และกำลังสติของเราอาจจะ 48 00:04:11,624 --> 00:04:14,699 ไม่แข็งแรงพอ 49 00:04:16,486 --> 00:04:19,488 และเราก็ต้องการจะควบคุม... 50 00:04:22,289 --> 00:04:25,755 อย่างไรก็ตาม การฝึกของหมูบ้านพลัม 51 00:04:25,845 --> 00:04:29,343 ไม่ใช่เพื่อจะควบคุม 52 00:04:29,409 --> 00:04:32,041 เพราะเมื่อเราอยากจะควบคุม 53 00:04:32,041 --> 00:04:34,635 เรากำลังกดข่มบังคับ 54 00:04:34,635 --> 00:04:38,346 ในสิ่งที่อยากจะไปควบคุม 55 00:04:41,271 --> 00:04:48,734 การมีสตินี่ เพียงแต่มาระลึกรู้ในสิ่งที่มันเป็น 56 00:04:48,848 --> 00:04:52,462 โดยไม่พยายามจะควบคุม 57 00:04:52,604 --> 00:04:55,736 ก่อนอื่น เราใช้สติ 58 00:04:55,776 --> 00:04:57,478 ในการหายใจ ในการเดิน 59 00:04:57,518 --> 00:05:00,526 มาระลึกรู้มัน 60 00:05:00,629 --> 00:05:02,832 มาทักทายมันเท่านั้น 61 00:05:03,239 --> 00:05:07,648 ไม่ใช่มาจัดการมัน 62 00:05:07,818 --> 00:05:11,761 หรือมากดข่ม 63 00:05:14,016 --> 00:05:21,591 และสิ่งที่เราพึงรู้คือ พลังงานนั้น 64 00:05:21,847 --> 00:05:24,878 อาจจะตกทอดมาจากพ่อเรา 65 00:05:24,978 --> 00:05:30,584 แม่เรา หรือบรรพบุรุษเรา 66 00:05:30,703 --> 00:05:34,272 นี่เป็นเหตุผลที่เราได้รับมันมา 67 00:05:34,395 --> 00:05:39,246 ทั้งจากคนรุ่นก่อน และจากสังคมก็เช่นกัน 68 00:05:41,156 --> 00:05:47,622 ดังนั้นเราจึงต้องการจะมาทำความรู้จัก 69 00:05:47,823 --> 00:05:50,133 ต้นตอของมัน 70 00:05:50,261 --> 00:05:52,700 มันมาจากไหน 71 00:05:52,769 --> 00:05:56,823 เราจึงได้สนใจที่จะมาระลึกรู้ มาสังเกต 72 00:05:56,823 --> 00:06:02,180 และทำความเข้าใจมัน มากกว่าที่จะไปควบคุมมัน 73 00:06:02,494 --> 00:06:08,659 กำลังอย่างนั้นบางที อาจเป็นกำลังของความเคยชินก็เป็นได้ 74 00:06:08,964 --> 00:06:12,651 ความเคยชินที่ก่อร่างสร้างตัว 75 00:06:12,651 --> 00:06:17,721 มาหลายรุ่น 76 00:06:17,886 --> 00:06:22,985 ยาวนานตั้งแต่ก่อนเราจะเกิด 77 00:06:23,198 --> 00:06:29,536 ความเคยชินอย่างนั้น แบบแผนของความคิด 78 00:06:30,455 --> 00:06:37,257 แบบแผนคำพูด หรือการกระทำ บางที... 79 00:06:37,326 --> 00:06:41,643 อาจจะมีอยู่อย่างนั้นมานานแล้ว 80 00:06:41,643 --> 00:06:44,960 แล้วเราก็ได้มันมาจากพ่อแม่ 81 00:06:45,065 --> 00:06:47,599 ปู่ย่าตายาย 82 00:06:47,808 --> 00:06:50,254 สิ่งที่เราพึงทำ คือ การมาระลึกรู้ 83 00:06:50,294 --> 00:06:53,788 และยอมรับมันอย่างที่มันเป็น 84 00:06:53,918 --> 00:07:00,117 และเมื่อเรารู้วิธียอมรับมันอย่างที่มันเป็น 85 00:07:00,304 --> 00:07:04,025 เราจะรู้สึกดีขึ้นทันทีเลย 86 00:07:04,067 --> 00:07:09,479 ไม่มีความอยากจะควบคุม 87 00:07:10,062 --> 00:07:14,456 การมาระลึกรู้ เรียกว่า "รู้ซื่อๆ" 88 00:07:14,973 --> 00:07:17,523 หายใจเข้า ระลึกรู้ 89 00:07:17,593 --> 00:07:20,744 เมื่อเราระลึกรู้มันอย่างที่มันเป็นแล้ว 90 00:07:20,821 --> 00:07:23,473 มันจะไม่มีอิทธิพลผลักดัน 91 00:07:23,473 --> 00:07:27,781 ให้เราไปทำสิ่งที่เราไม่อยากทำอีกต่อไป 92 00:07:28,796 --> 00:07:32,216 เราไม่จำเป็นต้องไปกำจัดมัน 93 00:07:32,477 --> 00:07:35,429 เราไม่จำเป็นต้องไปควบคุมมัน 94 00:07:35,671 --> 00:07:39,335 ไม่ได้อยากจะไปกดข่มบังคับอะไรมัน 95 00:07:39,383 --> 00:07:44,192 จริงๆ แล้วเพียงแค่มารับรู้ ว่ามันเป็นแค่ความเคยชิน 96 00:07:44,231 --> 00:07:50,550 เท่านี้ใจก็เป็นอิสระแล้ว 97 00:07:52,625 --> 00:07:55,105 20 ปีก่อน มีหนุ่มอเมริกันคนนึง 98 00:07:55,418 --> 00:07:59,005 มาภาวนาอยู่ที่วิหารบน (Upper Hamlet) 99 00:08:02,086 --> 00:08:08,698 วันหนึ่งเขาก็ได้รับมอบหมายจากสหธรรมิก 100 00:08:08,698 --> 00:08:12,608 ให้ไปช็อปปิ้งซื้อของให้หน่อย 101 00:08:14,855 --> 00:08:19,976 พวกเรากำลังเตรียมงานวันขอบคุณพระเจ้า 102 00:08:20,126 --> 00:08:23,917 ในงานนั้นกำหนดว่า กลุ่มไหนมาจากประเทศอะไร 103 00:08:24,017 --> 00:08:28,202 ก็ให้เตรียมอาหารประจำชาตินั้นๆ 104 00:08:28,202 --> 00:08:32,527 เพื่อรำลึกนึกถึงบรรพบุรุษ 105 00:08:32,687 --> 00:08:36,932 เช่น กลุ่มอเมริกันตกลงกันว่าจะทำ 106 00:08:37,110 --> 00:08:39,439 พายฟักทอง ซึ่งเป็นอะไรที่ 107 00:08:39,439 --> 00:08:41,284 ก็อเมริกันดี 108 00:08:41,694 --> 00:08:46,403 หรือกลุ่มชาวอิตาเลียน ก็จะทำเมนูอิตาเลียน 109 00:08:46,586 --> 00:08:53,639 แล้วก็นำไปวางบนแท่นสักการะบรรพบุรุษ 110 00:08:53,759 --> 00:08:56,683 และใน...ระหว่างพิธี เราก็จะสื่อสารกับ 111 00:08:56,683 --> 00:09:00,136 บรรพบุรุษที่อยู่ภายในเรา 112 00:09:00,395 --> 00:09:03,558 ดังนั้นพ่อหนุ่มคนนั้นก็ได้รับมอบหมาย 113 00:09:03,558 --> 00:09:12,167 ให้ไปซื้อของในเมืองใกล้ๆ 114 00:09:14,185 --> 00:09:17,611 หลังจากนั้น เขากลับมาเล่าให้ฟังว่า 115 00:09:17,629 --> 00:09:21,572 ตอนเขาไปซื้อของใน Sainte-Foy-la-Grande 116 00:09:21,572 --> 00:09:23,988 อยู่ๆ เขาก็เห็นว่า 117 00:09:23,988 --> 00:09:27,517 เขาพยายามจะซื้อๆๆ อย่างรวดเร็ว 118 00:09:27,517 --> 00:09:33,290 เพื่อให้งานเสร็จ 119 00:09:33,455 --> 00:09:39,883 กระตือรือร้นที่จะทำอย่างรีบเร่ง 120 00:09:40,096 --> 00:09:44,078 ให้งานมันเสร็จๆ ไป 121 00:09:44,162 --> 00:09:46,065 แต่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ 122 00:09:46,065 --> 00:09:49,741 เขาไม่ได้รู้สึกอย่างนี้ 123 00:09:49,781 --> 00:09:51,830 เพราะตอนเขาอยู่ที่วิหารบน 124 00:09:51,830 --> 00:09:56,156 ก็อยู่ภายใต้แวดล้อมบรรยากาศของการภาวนา 125 00:09:56,156 --> 00:09:59,997 ค่อยๆ ทำนั่นทำนีช้าๆ ด้วยความมีสติ 126 00:10:00,255 --> 00:10:02,358 และเบิกบาน 127 00:10:02,668 --> 00:10:08,246 ก็คือในระหว่าง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาภาวนาได้ดีมาก 128 00:10:08,336 --> 00:10:13,640 ไม่ว่าจะเดิน นั่ง ทำอาหาร 129 00:10:13,706 --> 00:10:15,932 ไปพร้อมๆ กับทุกคนในวิหารบน 130 00:10:16,035 --> 00:10:20,391 เขาทำกิจกรรมด้วยความใจเย็น อย่างมีสติ 131 00:10:20,472 --> 00:10:22,651 ทุกอย่างราบรื่น 132 00:10:22,711 --> 00:10:26,959 แต่พอถูกส่งไป Sainte Foy La Grande 133 00:10:27,050 --> 00:10:28,771 ไปตัวคนเดียว 134 00:10:28,953 --> 00:10:31,804 ปราศจากตัวช่วยจากส่วนรวม 135 00:10:31,983 --> 00:10:34,540 ที่จะชี้นำและแวดล้อมให้เกิดสติ 136 00:10:34,649 --> 00:10:37,387 เขาก็เลยลืมตัวไป 137 00:10:37,939 --> 00:10:42,864 ความเคยชินเก่าๆ ก็กลับมามีอิทธิพล 138 00:10:42,864 --> 00:10:45,287 ให้เขาทำซื้อของเร็วๆ 139 00:10:45,287 --> 00:10:48,336 ให้มันเสร็จๆ ไป 140 00:10:48,386 --> 00:10:52,955 ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกขึ้นมา 141 00:10:53,129 --> 00:10:57,712 ถึงแรงที่ผลักดันให้เขา ทำอะไรเร่งรีบอย่างนี้ 142 00:10:58,513 --> 00:11:00,140 แล้วก็ระลึกได้ว่า 143 00:11:00,200 --> 00:11:02,759 นี่มันแม่เขาเลยนี่นา 144 00:11:02,809 --> 00:11:06,327 นางเป็นอย่างนั้นเสมอๆ เลย 145 00:11:06,417 --> 00:11:08,182 ขณะนั้นเขาจึงกลับมาที่ลมหายใจ 146 00:11:08,182 --> 00:11:10,262 รับรู้ถึงแรงดันแห่งความเคยชิน แล้วพูดว่า 147 00:11:10,262 --> 00:11:13,120 "สวัสดีครับ แม่" 148 00:11:13,217 --> 00:11:15,837 "ผมรู้ว่าเป็นแม่นะ ทำอะไรรีบๆ อย่างนี้" 149 00:11:15,917 --> 00:11:19,098 ทันใดนั้น เขาก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง 150 00:11:19,098 --> 00:11:20,886 ซื้อของต่อไป 151 00:11:20,886 --> 00:11:25,420 อย่างมีสติ และเบิกบาน 152 00:11:25,654 --> 00:11:29,574 นี่ก็แปลว่า แรงดันจากความเคยชินนั้น 153 00:11:29,634 --> 00:11:34,920 เมื่อเราระลึกรู้ถึงมัน มันจะไม่มีอิทธิพลต่อเราอีก 154 00:11:34,990 --> 00:11:38,943 ไม่สามารถผลักดันให้เราทำอะไร ที่เราไม่อยากจะทำ 155 00:11:39,099 --> 00:11:41,233 ให้พูดในสิ่งที่เราไม่อยากจะพูด 156 00:11:41,415 --> 00:11:47,032 พวกเราหลายคนตกเป็นทาสของความเคยชิน 157 00:11:47,145 --> 00:11:50,431 หลายอย่างเราไม่ได้อยากจะพูด 158 00:11:50,541 --> 00:11:52,733 หลายอย่างเราไม่ได้อยากจะทำ 159 00:11:52,814 --> 00:11:55,271 เรารู้ด้วยว่าพูดออกไปแล้ว ทำออกไปแล้ว 160 00:11:55,301 --> 00:11:58,395 จะทำให้ไม่สบายใจ 161 00:11:58,435 --> 00:11:59,897 ทั้งเราทั้งอีกฝ่าย 162 00:12:00,143 --> 00:12:01,361 รู้ทั้งรู้ 163 00:12:01,431 --> 00:12:03,837 เราไม่ได้อยากจะพูดหรือทำอย่างนั้นเลย 164 00:12:03,927 --> 00:12:06,430 แต่พอเกิดเรื่อง 165 00:12:06,582 --> 00:12:12,765 ความเคยชินก็จะดันหลังเรา ให้พูดหรือทำออกไปอย่างนั้น 166 00:12:13,461 --> 00:12:15,193 และพอทำไปแล้ว 167 00:12:15,253 --> 00:12:17,331 พอพูดไปแล้ว 168 00:12:17,388 --> 00:12:18,478 ก็มาเสียใจ 169 00:12:18,548 --> 00:12:20,795 ตีอกชกตัว แถมบ่น 170 00:12:20,978 --> 00:12:24,442 รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรทำ 171 00:12:24,502 --> 00:12:29,778 รู้ทั้งรู้ว่าไม่น่าพูด แล้วทำไมเรายังทำอย่างนั้น ยังพูดอย่างนั้น 172 00:12:30,122 --> 00:12:33,997 แล้วก็สัญญิงสัญญากับตัวเองเสร็จสรรพ คราวต่อไป... 173 00:12:34,047 --> 00:12:36,130 ถ้ามีเรื่องอย่างนี้อีก 174 00:12:36,200 --> 00:12:38,311 เราจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแน่นอน! 175 00:12:38,371 --> 00:12:40,871 เราจะไม่พูดอย่างนั้นอีกแน่นอน! 176 00:12:40,951 --> 00:12:42,784 ตั้งใจสุดๆ 177 00:12:42,834 --> 00:12:44,708 แต่ถึงอย่างงั้น พอเกิดเรื่องปั๊บ 178 00:12:44,758 --> 00:12:46,810 ก็ทำเหมือนเดิมเป๊ะเลย 179 00:12:46,860 --> 00:12:49,749 ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก 180 00:12:49,789 --> 00:12:53,457 นี่ล่ะ กำลังของความเคยชิน 181 00:12:53,567 --> 00:12:55,610 การมาฝึกที่หมู่บ้านพลัมเนี่ย 182 00:12:55,680 --> 00:12:58,486 คือ อาศัยการมามีสติในการหายใจ มามีสติในการเดิน 183 00:12:58,546 --> 00:13:01,673 ให้ระลึกรู้ถึงแรงดันของความเคยชินอันนี้ 184 00:13:01,741 --> 00:13:05,121 ไม่ต้องพยายามไปควบคุมมัน ไม่ต้องพยายามไปกำจัดมัน 185 00:13:05,148 --> 00:13:07,501 แค่ยิ้มรับและทักทาย 186 00:13:07,583 --> 00:13:09,050 "ไงพวก!" 187 00:13:09,120 --> 00:13:13,000 "ยังอยู่อีกเหรอ" 188 00:13:13,090 --> 00:13:16,596 "แต่จะแกล้งให้ฉันทำอย่างงั้นอีก ไม่ได้แล้วนะ" 189 00:13:16,696 --> 00:13:20,245 "จะแกล้งให้ฉันพูดอย่างงั้นอีก ไม่ได้แล้วนะ" 190 00:13:20,325 --> 00:13:24,844 แค่รู้ธรรมดาๆ เท่านี้ล่ะ ก็ทำให้ใจเป็นอิสรภาพแล้ว 191 00:13:24,964 --> 00:13:27,101 และถ้าเราฝึกอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ 192 00:13:27,201 --> 00:13:29,583 ความเคยชินนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนไป 193 00:13:29,633 --> 00:13:32,400 ทีละน้อยๆ 194 00:13:34,760 --> 00:13:42,411 และถ้า...ข้างในนี้มันมี เมล็ดพันธุ์ความดีอยู่ พลังงานที่สร้างสรรค์ 195 00:13:42,481 --> 00:13:45,349 เราก็สามารถค่อยๆ พัฒนามันขึ้นมา 196 00:13:45,449 --> 00:13:51,178 และถ้าเรามีเป้าหมายในชีวิต 197 00:13:51,318 --> 00:13:56,294 ถ้าเรามีความตั้งใจที่ดี ความปรารถนา 198 00:13:56,384 --> 00:14:01,488 ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และช่วยเหลือผู้อื่น 199 00:14:01,538 --> 00:14:03,866 ให้เป็นทุกข์น้อยลง 200 00:14:04,016 --> 00:14:06,851 เมื่อเรารู้ชัดว่าเป้าหมายเราคืออะไร 201 00:14:06,951 --> 00:14:10,927 เราจะบ่มเพาะความปรารถนาอันนั้น 202 00:14:11,057 --> 00:14:15,525 ยังเจตนานั้นให้บริบูรณ์ 203 00:14:15,612 --> 00:14:18,802 เตือนตนเองถึงเป้าหมายในทุกๆ วัน 204 00:14:18,992 --> 00:14:21,479 เช่นนี้แล้วมันจะมีพลังงานอีกแบบ 205 00:14:21,549 --> 00:14:25,715 ที่สามารถใช้บ่มเพาะเจตนาอย่างนี้ 206 00:14:25,862 --> 00:14:31,891 เป็นการบำรุง หล่อเลี้ยง ที่เรียกว่าเจตจำนงค์ 207 00:14:31,954 --> 00:14:33,878 หรือเจตนาที่ดี 208 00:14:33,948 --> 00:14:42,723 ฉะนั้น ใครที่มีเจตนาดีที่จะสร้างสรรค์ 209 00:14:42,900 --> 00:14:46,919 พลังชีวิตดีๆ ในตัวเอง และในโลก 210 00:14:47,087 --> 00:14:53,346 เขาจะสามารถใช้ประโยชน์ จากพลังงานทุกรูปแบบที่มีอยู่ในตัวเอง 211 00:14:53,421 --> 00:14:55,375 เพื่อไปสู่เป้าหมายอันนั้น 212 00:14:55,485 --> 00:14:58,895 ดังนั้นคำตอบก็จะมีเป็น 2 ส่วน 213 00:14:59,163 --> 00:15:03,129 อย่างแรก คือการระลึกรู้ 214 00:15:03,209 --> 00:15:06,274 อย่างที่สอง คือ วางทิศทางหรือแนวทาง 215 00:15:06,354 --> 00:15:11,716 ให้มันเป็นไปในทางที่เป็นประโยชน์ 216 00:15:17,226 --> 00:15:20,816 หล่อเลี้ยง บันดาลใจ เติมเต็ม 217 00:15:21,983 --> 00:15:55,221 (เสียงระฆัง)