Return to Video

ภูมิปัญญาโบราณที่เป็นมิตรต่อโลกของชนเร่ร่อนชาวมองโกล

  • 0:01 - 0:05
    เป็นเรื่องน่าขำที่มีชาวต่างชาติหลายคน
    ถามฉันด้วยคำถามเดิม ๆ
  • 0:05 - 0:06
    เมื่อพวกเขารู้จักฉันเป็นครั้งแรก
  • 0:06 - 0:07
    คำถาม เช่น
  • 0:08 - 0:10
    "ว้าว คุณมาจากมองโกเลียหรือ
  • 0:10 - 0:12
    แล้วคุณขี่ม้าไปทำงานหรือเปล่า"
  • 0:13 - 0:15
    "คุณรู้จักโค้กไหม"
  • 0:16 - 0:19
    หรือ "ที่มองโกเลียมีช็อกโกแลตไหม"
  • 0:19 - 0:22
    แล้วถ้าฉันนึกสนุกขึ้นมา
  • 0:22 - 0:24
    ฉันก็จะตอบไปว่า
  • 0:24 - 0:25
    "โอ้พระเจ้า
  • 0:25 - 0:27
    ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
  • 0:27 - 0:29
    โค้กกับช็อกโกแลตคืออะไรหรือ
  • 0:29 - 0:31
    คุณช่วยเล่าให้ฟังเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม"
  • 0:32 - 0:33
    มันได้ผลทุกครั้งเลย
  • 0:33 - 0:35
    และพวกเราก็มักจะหัวเราะกับเรื่องนี้
  • 0:36 - 0:41
    ในความเป็นจริงนั้น เมืองหลวงของเรา
    เมืองอูลานบาตาร์ มีความเป็นเมืองสูงมาก
  • 0:41 - 0:43
    เรามีอาคารพาณิชย์
  • 0:43 - 0:44
    โรงแรมชื่อดัง
  • 0:44 - 0:46
    และพื้นที่ศิลปะที่สวยงามด้วย
  • 0:46 - 0:49
    บ่อยครั้งที่
  • 0:49 - 0:52
    ชาวต่างชาติมักจะนึกถึงแต่ว่า
    มองโกเลียขาดแคลนอะไร
  • 0:53 - 0:56
    พวกเขาเห็นภูมิภาพที่ไม่เคยถูกแตะต้อง
    อันกว้างใหญ่ของเรา
  • 0:56 - 0:58
    วิถีชีวิตร่อนเร่พื้นเมือง
  • 0:58 - 1:01
    และมองว่ามันเป็นสัญญาณของความยากจน
  • 1:02 - 1:03
    แต่ฉันไม่เห็นด้วย
  • 1:03 - 1:06
    ที่จริงแล้ว ฉันคิดว่า
    มีหลายอย่างที่เราเรียนรู้ได้
  • 1:06 - 1:08
    จากชนเร่ร่อนชาวมองโกลโบราณ
  • 1:08 - 1:09
    ที่จะช่วยให้เราอยู่รอดได้
  • 1:09 - 1:12
    ในอนาคตที่กำลังจะมาถึงนี้
  • 1:13 - 1:18
    นี่คือภาพของฉันที่กำลังเล่น
    เครื่องดนตรีพื้นเมืองอันโดงดังของมองโกเลีย
  • 1:18 - 1:19
    โมรินฮูร์
  • 1:19 - 1:22
    หรือซอหัวม้า
  • 1:22 - 1:25
    ฉันเริ่มเล่นเครื่องดนตรีนี้
    ตั้งแต่อายุเก้าขวบ
  • 1:25 - 1:28
    และเมื่ออายุ 11 ขวบก็ได้เดินทางไปรอบโลก
  • 1:28 - 1:31
    เป็นตัวแทนของมองโกเลีย
    ในงานนานาชาติต่าง ๆ
  • 1:31 - 1:37
    อยู่อาศัยและเรียนที่ญี่ปุ่น
    จีน ฟินแลนด์ เยอรมนี และสวีเดน
  • 1:38 - 1:40
    แต่หลังจากนั้น
  • 1:40 - 1:41
    เมื่อฉันอายุ 21 ปี
  • 1:41 - 1:44
    ฉันก็ได้เสียแม่ผู้เป็นที่รักไป
  • 1:44 - 1:46
    และเพียงอีกสองปีต่อมา
  • 1:46 - 1:47
    ฉันก็ได้เสียพ่อไป
  • 1:48 - 1:50
    เนื่องจากฉันเป็นลูกคนเดียว
  • 1:50 - 1:52
    ฉันจึงเศร้าและเหงาอย่างมาก
  • 1:53 - 1:57
    ในตอนนั้น สิ่งเดียว
    ที่ฉันยังเหลืออยู่คือประเทศของฉัน
  • 1:57 - 1:59
    ฉันจึงตัดสินใจย้ายกลับบ้าน
  • 2:00 - 2:02
    เมื่อฉันหลงไปกับความเศร้าเสียใจ
  • 2:02 - 2:06
    ประเทศของฉันได้ทำให้ฉันรู้สึก
    ปลอดภัยและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
  • 2:06 - 2:10
    ฉันจินตนาการว่าท้องฟ้าสีคราม
    อันกว้างใหญ่ของมองโกเลียคือพ่อของฉัน
  • 2:10 - 2:13
    และภูมิภาพแสนสวยงาม
    ที่ไม่เคยถูกแตะต้องคือแม่ของฉัน
  • 2:14 - 2:18
    จากที่เคยอาศัยอยู่ในประเทศพัฒนาแล้ว
    มากว่าสิบปี
  • 2:18 - 2:21
    ฉันได้ห่างเหิน
    จากวิถีชีวิตเร่ร่อนไปอย่างมาก
  • 2:21 - 2:25
    ฉันจึงต้องการที่จะกลับมาเชื่อมต่อ
    และรับรู้ด้วยตัวของฉันเอง
  • 2:26 - 2:30
    ฉันมักจะเดินทางออกจากเมือง
    ไปยังจังหวัดของปู่ย่าตายายฉัน
  • 2:30 - 2:32
    ในชนบทของมองโกเลีย
  • 2:32 - 2:35
    เพื่อดูว่าพ่อแม่และฉันนั้นมาจากไหน
  • 2:35 - 2:37
    และเพื่อให้เข้าใจตัวตนของฉันได้ดีขึ้น
  • 2:37 - 2:42
    ตลอดที่ฉันเติบโตมา ฉันได้ยินเรื่องราว
    เกี่ยวกับชนเผ่าเร่ร่อนชาวมองโกลอยู่เสมอ
  • 2:42 - 2:46
    ว่าเป็นกลุ่มคนที่ต้อนรับแขก
    ได้ดีที่สุดในโลก
  • 2:46 - 2:48
    และฉันต้องการที่จะเห็นด้วยตาตัวเอง
  • 2:48 - 2:52
    ว่าพวกเขาให้อาหาร
    และที่อยู่กับคนแปลกหน้าจริงหรือไม่
  • 2:53 - 2:55
    ฉันจึงออกเดินทางไปยังชนบท
  • 2:55 - 2:58
    ขับรถไปบนทางลูกรังหลายชั่วโมง
  • 2:59 - 3:01
    สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับชนเร่ร่อนชาวมองโกล
  • 3:01 - 3:06
    ก็คือเพื่อนบ้านมักจะอยู่ห่างกัน
    ไกลถึง 40 กิโลเมตร
  • 3:06 - 3:10
    และไม่มีการถือครองที่ดินสำหรับ
    เลี้ยงสัตว์เป็นส่วนตัวในมองโกเลีย
  • 3:11 - 3:12
    อาจมองได้ว่า
  • 3:12 - 3:16
    ชนเร่ร่อนชาวมองโกล
    มีอิสรภาพอย่างเต็มที่
  • 3:16 - 3:19
    เคลื่อนย้ายไปที่ไหนก็ได้
    ในภูมิภาพที่สวยงามตามที่ต้องการ
  • 3:19 - 3:21
    ในที่สุดฉันก็ได้พบกับเยิร์ตหลังเล็ก ๆ
  • 3:21 - 3:23
    และพักจอดรถ
  • 3:23 - 3:25
    เยิร์ต หรือเกร์
  • 3:25 - 3:27
    คือที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของชาวมองโกล
  • 3:28 - 3:31
    สร้างขึ้นจากวัสดุธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์
  • 3:31 - 3:33
    โครงและพื้นไม้
  • 3:33 - 3:34
    เชือกหนัง
  • 3:34 - 3:37
    และผ้าคลุมหนา
    ซึ่งทำมาจากขนแกะอัด
  • 3:38 - 3:40
    และใช้เวลาเพียงแค่
    สามถึงสี่ชั่วโมง
  • 3:41 - 3:43
    ในการตั้งหรือเก็บ
  • 3:43 - 3:45
    และช่วยให้ความอบอุ่น
  • 3:45 - 3:48
    ตลอดฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิ
    ติดลบ 50 องศาเซลเซียส
  • 3:50 - 3:51
    ด้านนอกเยิร์ต
  • 3:51 - 3:54
    เด็ก ๆ กำลังเล่น
    กับแกะและแพะ
  • 3:54 - 3:56
    และเมื่อฉันทักทายพวกเขา
  • 3:56 - 3:58
    พ่อแม่ของพวกเขาก็เชิญฉันเข้าไปในบ้าน
  • 3:58 - 4:01
    ภรรยาเทชานมอุ่น ๆ ให้ฉัน
  • 4:01 - 4:02
    และสามีนำอาหารมาให้ฉันกิน
  • 4:02 - 4:05
    เป็นอาหารที่พวกเขา
    ได้เตรียมไว้บนโต๊ะอยู่แล้ว
  • 4:05 - 4:07
    หลังจากคุยกันไปสักพัก
  • 4:07 - 4:10
    สามีถามฉันอย่างสุภาพถึงจุดประสงค์ของฉัน
  • 4:10 - 4:11
    ฉันจึงตอบไปตรง ๆ ว่า
  • 4:11 - 4:13
    ฉันแค่มาท่องเที่ยว
  • 4:13 - 4:15
    และสำรวจรากเหง้าปู่ย่าตายายของฉัน
  • 4:15 - 4:17
    และฉันต้องการที่พักอาศัย
  • 4:17 - 4:19
    เนื่องจากดวงอาทิตย์กำลังตกแล้ว
  • 4:19 - 4:21
    รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น
  • 4:21 - 4:24
    เขาบอกว่าฉันสามารถอยู่ได้
    นานเท่าที่ฉันต้องการ
  • 4:25 - 4:26
    โดยมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ
  • 4:27 - 4:30
    เขาขอให้ฉันเล่นโมรินฮูร์
  • 4:30 - 4:32
    ซอหัวม้ามองโกลพื้นบ้านของเรา
  • 4:33 - 4:37
    ในหัวฉัน ฉันไม่คิดเลยว่า
    นี่จะเป็นเรื่องจริง
  • 4:37 - 4:40
    ซอหัวม้าเป็นเหมือนตั๋วผ่านทาง
  • 4:40 - 4:43
    เมื่อชาวมองโกลรู้ว่า
    คุณสามารถเล่นโมรินฮูร์ได้
  • 4:43 - 4:45
    คุณจะได้รับการยกย่องทันที
  • 4:46 - 4:48
    พวกเขากล่าวว่าสายซอทั้งสองเส้น
  • 4:48 - 4:51
    เล่าเรื่องราวทั้งหมดในโลกใบนี้
  • 4:52 - 4:55
    สุดท้ายฉันจึงได้อยู่
    กับพวกเขาเป็นเวลาเก้าวัน
  • 4:55 - 4:57
    และพวกเขาไม่ได้ขอให้ฉันไปเลย
  • 4:57 - 5:00
    ฉันคิดว่าถ้าฉันลองขอ
    อยู่ที่นั่นสักสองเดือน
  • 5:00 - 5:01
    พวกเขาก็คงจะให้
  • 5:02 - 5:03
    แต่ประเด็นสำคัญคือ
  • 5:03 - 5:05
    ก่อนที่ฉันจะได้พบพวกเขา
  • 5:05 - 5:10
    ฉันเดาว่าชนเร่ร่อนชาวมองโกล
    ต้อนรับแขกเพราะความใจดีของพวกเขา
  • 5:10 - 5:12
    เหมือนกับคนทั่วไป
  • 5:12 - 5:15
    แต่ฉันก็ได้รู้ว่ามีอะไรที่มากกว่านั้น
  • 5:15 - 5:18
    มันคือเรื่องของการอยู่รอดเป็นชุมชน
  • 5:18 - 5:22
    เนื่องจากชนเร่ร่อนอาศัยอยู่
    ในพื้นที่ห่างไกลเป็นอย่างมาก
  • 5:22 - 5:25
    ชีวิตพวกเขาจึงขึ้นอยู่กับ
    ธรรมชาติทั้งหมด
  • 5:26 - 5:28
    หิมะตกหนัก
  • 5:28 - 5:29
    น้ำท่วมฉับพลัน
  • 5:29 - 5:31
    หรือลมพายุรุนแรง
  • 5:31 - 5:33
    อาจทำให้ครอบครัวชนเร่ร่อนเสียหายได้เลย
  • 5:34 - 5:38
    วันนี้อาจมีคนแปลกหน้าต้องการความช่วยเหลือ
  • 5:38 - 5:41
    แต่วันพรุ่งนี้อาจเป็นคุณ
  • 5:41 - 5:43
    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาต้องคอยดูแลกัน
  • 5:43 - 5:46
    และต้อนรับใครก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือ
  • 5:46 - 5:49
    นี่เป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากสำหรับฉัน
  • 5:49 - 5:53
    เพราะฉันรู้สึกว่ามนุษย์เรา
    กำลังเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น
  • 5:54 - 5:58
    การได้อยู่กับครอบครัวชนเร่ร่อน
    ทำให้ฉันได้ตื่นรู้
  • 5:58 - 6:01
    นี่ไม่เหมือนกับสิ่งที่ฉันเคยได้เห็นมา
    ในประเทศพัฒนาแล้ว
  • 6:01 - 6:03
    ภรรยาของครอบครัวนี้
  • 6:03 - 6:07
    แสดงวิธีทำผลิตภัณฑ์
    จากนมออร์แกนิกต่าง ๆ ให้ฉันดู
  • 6:07 - 6:09
    เช่น ชีสขาว โยเกิร์ต เซเกเย
  • 6:09 - 6:13
    แม้กระทั่งวอดก้า
    ที่ทำมาจากนมวัว
  • 6:13 - 6:18
    และเครื่องมือทั้งหมดที่พวกเขาใช้
    ก็ทำเองจากวัสดุธรรมชาติ
  • 6:19 - 6:21
    และภายในเยิร์ต
  • 6:21 - 6:24
    พวกเราเผามูลวัวแห้งเพื่อให้ความอบอุ่น
  • 6:24 - 6:26
    แทนที่จะใช้เชื้อเพลิงอื่น ๆ
  • 6:26 - 6:29
    ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ตรงข้ามกับ
  • 6:29 - 6:32
    ชีวิตในเมืองของฉัน
    ที่เต็มไปด้วยพลาสติกและโลหะ
  • 6:33 - 6:37
    และนี่ก็เป็นประสบการณ์
    ครบทั้งประสาทสัมผัสทั้งห้าสำหรับฉัน
  • 6:37 - 6:40
    เป็นความซับซ้อนในรูปแบบ
    ที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
  • 6:41 - 6:46
    ยิ่งฉันได้เดินทางผ่านชนบท
    อันห่างไกลของมองโกเลีย
  • 6:46 - 6:47
    ฉันก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น
  • 6:47 - 6:52
    ถึงวิถีชีวิตเร่ร่อนโบราณ
    ที่มีที่มาจากธรรมชาติผู้ให้กำเนิด
  • 6:52 - 6:56
    ชีวิตเร่ร่อนนั้นสร้างขยะเป็นศูนย์
    อย่างแท้จริง
  • 6:57 - 6:59
    ตลอดหกปีที่ผ่านมา
  • 6:59 - 7:02
    ฉันได้พบมากกว่า 20 ครอบครัว
  • 7:02 - 7:05
    และประสบการณ์ของฉันก็ยังคงเหมือนเดิม
  • 7:05 - 7:08
    พวกเขาเชิญฉันเข้าไป ให้อาหารกับฉัน
  • 7:08 - 7:11
    และให้ที่อยู่กับฉันหากฉันต้องการ
  • 7:11 - 7:15
    ฉันประหลาดใจมาก
    กับสิ่งของที่เขามีอยู่น้อยนิด
  • 7:15 - 7:19
    ตอนแรก ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะ
    พวกเขาเคลื่อนย้ายประมาณสี่ครั้งต่อปี
  • 7:19 - 7:21
    โอเค มันเป็นตรรกะง่าย ๆ
    ที่เข้าใจได้
  • 7:21 - 7:23
    คุณเอาของไปแค่เท่าที่ต้องใช้
  • 7:23 - 7:25
    แต่ฉันเพิ่งได้เรียนรู้ว่า
  • 7:25 - 7:27
    มีหลักปรัชญาที่ล้ำลึกกว่านั้น
  • 7:28 - 7:31
    จากประวัติศาสตร์นั้น ชนเร่ร่อนเชื่อว่า
  • 7:31 - 7:33
    พวกเราเป็นเพียงผู้ผ่านทาง
    เข้ามาในชีวิตนี้
  • 7:33 - 7:35
    ผู้คนมาแล้วก็ไปโดยไม่มีอะไรติดตัว
  • 7:35 - 7:41
    พวกเขาจึงเชื่อว่าไม่มีเหตุผล
    ที่จะต้องสร้างอะไรที่ทำลายธรรมชาติ
  • 7:41 - 7:44
    หรือมีความโลภ
    ความอยากได้ทางวัตถุ
  • 7:44 - 7:48
    ในเมื่ออายุขัยของคุณ
    มีเพียงไม่ถึง 100 ปี
  • 7:49 - 7:52
    ดังนั้น พวกเขาจึงใส่ใจในประเพณี
  • 7:52 - 7:53
    มรดกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
  • 7:54 - 7:56
    และส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
  • 7:57 - 8:02
    หลักปรัชญาชนเร่ร่อนโบราณนี้
    ทำให้ฉันนึกได้ว่าต้องคิดให้กว้างขึ้น
  • 8:02 - 8:05
    และไกลขึ้นกว่าความสะดวกสบาย
    ของตัวฉันเอง
  • 8:06 - 8:13
    ในชนบทของมองโกเลีย
    ฉันได้รู้สึกถึงอิสรภาพอย่างแท้จริง
  • 8:13 - 8:16
    และทุกครั้งที่ฉันกลับมาในเมือง
  • 8:16 - 8:18
    ฉันจะมองหาวิธีที่จะอยู่อย่างเรียบง่าย
  • 8:19 - 8:22
    ฉันได้ทำให้เอกสารในบริษัทของฉัน
    เป็นรูปแบบดิจิทัล
  • 8:22 - 8:25
    จากสิ่งที่เคยต้องใช้กระดาษ A4 เป็น 20 ห่อ
  • 8:25 - 8:27
    ตอนนี้ใช้เพียงหนึ่งห่อเท่านั้น
  • 8:27 - 8:31
    ฉันลดขนาดอพาร์ตเมนต์
    ลดคาร์บอนฟุตพรินต์
  • 8:31 - 8:33
    และเริ่มมีนิสัย
    ที่จะคิดซ้ำ ๆ ก่อนทำอะไรบางอย่าง
  • 8:33 - 8:36
    เช่น ซื้อของ เลือกวิธีการเดินทาง
  • 8:36 - 8:40
    และตัวเลือกในการใช้ชีวิตอื่น ๆ
    ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
  • 8:40 - 8:42
    และที่สำคัญที่สุด
  • 8:42 - 8:46
    ฉันหยุดทำงานการตลาดสินค้าบริโภค
    ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
  • 8:46 - 8:51
    และเปลี่ยนไปทำงานกับองค์กร
    ที่ส่งเสริมความยั่งยืน
  • 8:51 - 8:55
    แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุด
  • 8:55 - 8:58
    คือฉันได้เริ่มเห็นการพัฒนา
  • 8:58 - 9:00
    ด้วยตาของฉันเอง
  • 9:00 - 9:02
    ในเมืองต่าง ๆ
  • 9:02 - 9:05
    การเป็นชนเร่ร่อนอาศัยอยู่ในเยิร์ตพื้นเมือง
  • 9:05 - 9:07
    และมีสิ่งของน้อย
  • 9:07 - 9:11
    มักจะถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความยากจน
  • 9:11 - 9:13
    ไม่ใช่แค่ในต่างประเทศ
  • 9:13 - 9:16
    แต่ในมองโกเลียก็เช่นกัน
  • 9:16 - 9:20
    พวกเราคิดว่าจุดมุ่งหมายสุดท้าย
    ของประเทศกำลังพัฒนาทุกประเทศ
  • 9:20 - 9:23
    คือการเป็นโตเกียว
    หรือนิวยอร์กเมืองต่อไป
  • 9:23 - 9:27
    ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า
    ห้างใหญ่โต และทางด่วน
  • 9:27 - 9:31
    ชุมชนทั่วโลกกำลังละเลย
    วิถีชีวิตดั้งเดิมของตัวเอง
  • 9:31 - 9:33
    เพื่อแสวงหาความร่ำรวยทางวัตถุ
  • 9:34 - 9:36
    แต่พวกเราอย่าลืมว่า
  • 9:36 - 9:37
    ประเทศพัฒนาแล้ว
  • 9:37 - 9:41
    เป็นประเทศที่มีส่วนมากที่สุด
    ในการเกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
  • 9:42 - 9:44
    เราจึงต้องถามตัวเราเองว่า
  • 9:44 - 9:48
    ทำไมเราจึงยังเดินตาม
    แนวทางเดิม ๆ อยู่
  • 9:48 - 9:51
    ในเมื่อเรารู้แล้วว่ามันสร้าง
    ความเสียหายต่อโลก
  • 9:51 - 9:54
    เราทุกคนได้รับรู้แล้ว
    ถึงผลกระทบจากทางเลือกของพวกเรา
  • 9:54 - 9:56
    ในแปดเดือนที่ผ่านมานี้
  • 9:57 - 10:00
    ดังนั้นการปฏิบัติต่อธรรมชาติอย่างถูกต้อง
  • 10:00 - 10:03
    และมุ่งสร้างนิสัยให้เป็นมิตรต่อโลก
    และสร้างขยะเป็นศูนย์
  • 10:03 - 10:06
    จึงไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป
  • 10:06 - 10:10
    แล้วใครกันที่จะรู้สูตรสำคัญนี้
    มากไปกว่าบรรพบุรุษของเราเอง
  • 10:10 - 10:13
    ผู้ที่อยู่รอดได้โดยไม่มีสื่อ
  • 10:13 - 10:15
    หรือเทคโนโลยี
  • 10:15 - 10:17
    แต่ด้วยภูมิปัญญา
  • 10:18 - 10:20
    การเป็นพลเมืองของมองโกเลีย
  • 10:20 - 10:22
    ฉันเติบโตมากับคำพูด
  • 10:22 - 10:25
    ว่าประเทศกำลังพัฒนานั้นด้อยกว่า
  • 10:25 - 10:27
    และฉันก็เคยเชื่ออย่างสนิทใจ
  • 10:28 - 10:32
    แต่มาวันนี้ ฉันต้องการที่จะพูด
    ให้ดังและชัดเจน
  • 10:33 - 10:37
    ว่าฉันไม่เห็นข้อเสียของ
    ประเทศที่กำลังพัฒนาอีกต่อไป
  • 10:37 - 10:38
    ในทางตรงกันข้าม
  • 10:38 - 10:42
    ฉันเห็นประเทศที่มี
    โอกาสอันยิ่งใหญ่
  • 10:42 - 10:44
    ที่จะได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
  • 10:44 - 10:48
    ประเทศที่สามารถกำหนด
    แนวทางการพัฒนาของตัวเองได้
  • 10:48 - 10:52
    และมีโอกาสมากที่สุด
    ที่จะสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีขึ้น
  • 10:52 - 10:54
    สำหรับทุกคน
  • 10:54 - 10:57
    สิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคยใช้
    มาเป็นหลายพันปี
  • 10:57 - 10:59
    ก็ใช้กับเราได้ในตอนนี้
  • 10:59 - 11:00
    และในอนาคต
  • 11:00 - 11:03
    เมื่อนำมาใช้ร่วมกับนวัตกรรมต่าง ๆ
  • 11:04 - 11:07
    อย่างไรเสีย พวกเราก็เป็นเพียงแขกของโลกนี้
  • 11:07 - 11:11
    ดังนั้นเรามาทำให้มันถูกต้องกัน
    ทั้งต่อโลกและซึ่งกันและกัน
  • 11:11 - 11:14
    เหมือนกับที่ชนเร่ร่อนชาวมองโกล
    โบราณเคยทำไว้
  • 11:15 - 11:16
    ขอบคุณ
Title:
ภูมิปัญญาโบราณที่เป็นมิตรต่อโลกของชนเร่ร่อนชาวมองโกล
Speaker:
ฮูลัน บัตฮูยัก
Description:

มีหลายสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากชนเร่ร่อนชาวมองโกลถึงวิธีการอยู่รอดในอนาคตที่กำลังจะมาถึง นี่เป็นสิ่งที่กล่าวโดยนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ฮูลัน บัตฮูยัก เธอจะแสดงให้เราเห็นผ่านการเดินทางไปในภูมิภาคชนบทอันน่าตื่นตาตื่นใจของประเทศ เธอแสดงให้เห็นว่าชนเร่ร่อนชาวมองโกลอยู่รอดได้อย่างไรในพื้นที่ห่างไกลเป็นหลายพันปีด้วยสมบัตินวัตกรรมอันน่าทึ่งที่เป็นมิตรต่อโลกและสร้างขยะเป็นศูนย์ มีภูมิปัญญาให้พวกเราได้เรียนรู้ว่าจะอยู่อย่างเรียบง่าย ยั่งยืนมากขึ้น และเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติผู้ให้กำเนิดได้อย่างไร

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
11:30
Sakunphat Jirawuthitanant approved Thai subtitles for The ancient, earth-friendly wisdom of Mongolian nomads
Sakunphat Jirawuthitanant accepted Thai subtitles for The ancient, earth-friendly wisdom of Mongolian nomads
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for The ancient, earth-friendly wisdom of Mongolian nomads
Teetach Atsawarangsalit edited Thai subtitles for The ancient, earth-friendly wisdom of Mongolian nomads

Thai subtitles

Revisions