Return to Video

ความต่างระหว่างรักที่ดีกับรักให้โทษ

  • 0:01 - 0:05
    เมื่อคุณนึกถึงเด็กน้อย เพื่อนสนิท
    คู่ชีวิต
  • 0:05 - 0:08
    คำว่า "รัก" อาจผุดขึ้นในใจ
  • 0:08 - 0:11
    และทันใดนั้น อารมณ์อื่น ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามา
  • 0:11 - 0:13
    ความปลื้มปิติ และความหวัง
  • 0:13 - 0:17
    ความตื่นเต้น ความไว้ใจและความรู้สึกปลอดภัย
  • 0:17 - 0:20
    และจริงอยู่ บางครั้งก็มีความเศร้า
    และความผิดหวัง
  • 0:20 - 0:22
    มันอาจจะไม่มีคำใดในพจนานุกรม
  • 0:22 - 0:24
    ที่เกี่ยวข้องกับคนมากไปกว่าคำว่ารัก
  • 0:25 - 0:28
    แม้ว่ามันจะเป็นศูนย์กลาง
    ความสำคัญแห่งชีวิตเรา
  • 0:28 - 0:31
    แต่แปลกที่ว่าเราไม่เคยได้รับการสั่งสอน
    อย่างจริงจังว่าจะรักอย่างไร
  • 0:32 - 0:34
    เราสร้างมิตรภาพ
  • 0:34 - 0:37
    คลำทางหาความสัมพันธ์แบบโรแมนติกในระยะแรก
  • 0:37 - 0:39
    แต่งงานและรับลูกน้อยกลับจากโรงพยาบาล
  • 0:39 - 0:41
    พร้อมความหวังว่า
    เดี๋ยวเราก็หาทางได้เองล่ะน่า
  • 0:43 - 0:46
    แต่ในความเป็นจริงแล้ว
    เรามักจะทำร้าย และข่มเหงคนที่เรารัก
  • 0:46 - 0:48
    มันอาจไม่ชัดเจน
  • 0:48 - 0:51
    ทำให้เพื่อนรู้สึกผิด
    จะได้มาใช้เวลากับคุณบ้าง
  • 0:51 - 0:54
    หรือแอบอ่านข้อความบนมือถือของแฟน
  • 0:54 - 0:57
    หรือดุให้ลูกละอายที่ไม่ตั้งใจเรียน
  • 0:58 - 1:00
    พวกเราทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เป็นฝ่ายรับผล
  • 1:00 - 1:03
    ของพฤติกรรมความสัมพันธ์ที่รอวันเลิกรา
  • 1:03 - 1:06
    และพวกเราร้อยทั้งร้อย
    ก็ทำในเรื่องที่เสียสุขภาพจิตด้วย
  • 1:06 - 1:07
    เป็นมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้แหละ
  • 1:09 - 1:11
    รูปแบบที่แย่ที่สุดของการทำร้ายคนที่เรารัก
  • 1:11 - 1:13
    คือการปรามาสและใช้ความรุนแรง
  • 1:13 - 1:15
    และการข่มเหงที่เกิดในความสัมพันธ์
  • 1:15 - 1:18
    เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหนึ่งในสาม
    และผู้ชายหนึ่งในสี่
  • 1:18 - 1:20
    เผชิญในช่วงชีวิตของพวกเขา
  • 1:21 - 1:23
    หากคุณเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่
    พอได้ยินสถิติเหล่านั้น
  • 1:23 - 1:26
    คุณคงว่า "โอ ไม่หรอก
    นั่นไม่มีทางเกิดขึ้นกับตัวฉันแน่"
  • 1:26 - 1:30
    มันเป็นสัญชาตญาณที่เราจะถอยห่างจาก
    คำว่า "การข่มเหง" และ "ความรุนแรง"
  • 1:30 - 1:34
    เมื่อคิดว่ามันเกิดขึ้นกับคนอื่น ที่อื่น
  • 1:34 - 1:38
    แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความสัมพันธ์
    ที่ให้โทษ และการข่มเหงมีอยู่รอบตัวเรา
  • 1:38 - 1:41
    เราแค่เรียกมันด้วยชื่ออื่น
    และมองข้ามความเกี่ยวเนื่องของมัน
  • 1:42 - 1:45
    การข่มเหงแอบย่องมาหาเรา
    แฝงตัวอยู่ในความรักให้โทษ
  • 1:48 - 1:50
    ฉันทำงานให้กับองค์กรชื่อรักเดียว
    (One Love)
  • 1:50 - 1:54
    ก่อตั้งโดยครอบครัวหนึ่งที่ลูกสาว
    ยาร์ดลีย์ ถูกอดีตแฟนหนุ่มของเธอฆ่า
  • 1:55 - 1:58
    นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด
  • 1:58 - 2:01
    แต่เมื่อมองย้อนกลับไป พวกเขาก็ตระหนักว่า
    มันมีสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นตลอด
  • 2:01 - 2:03
    แค่ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาเห็น
  • 2:04 - 2:08
    อาจเรียกว่าความบ้า หรือดราม่า
    หรือแค่เมาเกินไป
  • 2:08 - 2:11
    ไม่มีใครเข้าใจการกระทำของเขา
    ตามที่มันสื่อออกมาจริง ๆ เลย
  • 2:11 - 2:13
    ซึ่งมันเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสัญญาณอันตราย
  • 2:14 - 2:18
    ครอบครัวของเธอตระหนักว่าหากมีใครสักคน
    มีความรู้เรื่องการตีความสัญญาณเหล่านี้
  • 2:18 - 2:20
    เราอาจป้องกันได้และเธอคงไม่ตาย
  • 2:21 - 2:23
    ทุกวันนี้ เราจึงมุ่งมั่นสร้างความมั่นใจ
  • 2:23 - 2:26
    ว่าคนอื่น ๆ มีข้อมูล
    ที่ยาร์ดลีย์และเพื่อนของเธอไม่มี
  • 2:26 - 2:28
    เรามีเป้าหมายสามประการ
  • 2:28 - 2:31
    เราให้ภาษาเพื่อสื่อสารในเรื่องนี้
  • 2:31 - 2:34
    เรื่องที่น่าอึดอัดและลำบากใจที่จะพูดคุย
  • 2:34 - 2:39
    เสริมพลังให้กับแนวหน้า
    นั่นคือเพื่อน ๆ ในการให้ความช่วยเหลือ
  • 2:39 - 2:42
    และ ระหว่างทางก็พัฒนา
    ความสามารถในการรักให้ถูกทาง
  • 2:44 - 2:47
    จะทำเช่นนั้นได้
    เราจำเป็นต้องเริ่มจากการเผยให้เห็น
  • 2:47 - 2:50
    สัญญาณอันตราย ที่เรามักมองข้ามไปเสียก่อน
  • 2:50 - 2:52
    และงานของเราเน้นไปที่การสร้างเนื้อหา
  • 2:52 - 2:55
    เพื่อให้เกิดการสนทนาระหว่างคนหนุ่มสาว
  • 2:55 - 2:58
    อย่างที่คุณคาด เนื้อหาของเราส่วนใหญ่
    เป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนัก
  • 2:58 - 3:00
    ตามหัวข้อที่เรากำลังรับมืออยู่
  • 3:00 - 3:03
    แต่ในวันนี้ ฉันจะยกตัวอย่างที่ไม่หนักนัก
  • 3:03 - 3:04
    แต่ยังกระตุ้นความคิดอยู่
  • 3:04 - 3:06
    ชื่อเรื่อง "The Couplets"
  • 3:06 - 3:08
    มาเผยให้เห็น
    สัญญาณอันตรายทั้งห้าของรักให้โทษ
  • 3:09 - 3:12
    ข้อแรกคือ ความเข้มข้นรุนแรง
  • 3:12 - 3:16
    (วิดีโอ) บลู: ผมไม่ได้เจอคุณมาสองสามวัน
    คิดถึงคุณจังเลย
  • 3:16 - 3:18
    ส้ม: ฉันคิดถึงคุณเหมือนกัน (#นั่นคือรัก)
  • 3:18 - 3:21
    บลู: ผมไม่ได้เจอคุณตั้งห้านาที
    มันยาวนานราวชั่วชีวิต
  • 3:21 - 3:24
    คุณทำอะไรอยู่โดยไม่มีผมได้ตั้งห้านาทีเต็ม
  • 3:24 - 3:26
    ส้ม: นั่นแค่สามนาทีเองนะ
    (#นั่นไม่ใช่รัก)
  • 3:26 - 3:29
    เคที ฮู้ด: มีใครจำเรื่องนี้ได้คะ
    ไม่รู้สิ หรือจำได้
  • 3:30 - 3:32
    ความสัมพันธ์อันทารุณ
    ไม่ได้เริ่มจากการทารุณ
  • 3:32 - 3:34
    มันเริ่มด้วยความตื่นเต้นและสดชื่น
  • 3:34 - 3:38
    ความรักและอารมณ์ที่หลั่งเข้ามาช่างเข้มข้น
  • 3:38 - 3:39
    มันรู้สึกดีมาก
  • 3:39 - 3:42
    คุณรู้สึกว่าโชคดีมากที่เจอแจ็คพ็อต
  • 3:43 - 3:46
    แต่ในความรักให้โทษ ความรู้สึกเหล่านี้
    จะเปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไป
  • 3:46 - 3:50
    จากตื่นเต้นเป็นท่วมท้นและบางครั้งอึดอัด
  • 3:51 - 3:53
    คุณรู้สึกได้เองจากข้างใน
  • 3:53 - 3:55
    อาจจะเป็นตอนที่แฟนคนใหม่ของคุณ
  • 3:55 - 3:57
    บอกว่า "ฉันรักเธอ" เร็วเกินที่คุณคาดคิด
  • 3:57 - 4:01
    หรือเริ่มปรากฏตัวขึ้นในทุกที่
    ส่งข้อความและโทรหาตลอดเวลา
  • 4:02 - 4:05
    เขาอาจจะอดรนทนไม่ได้หากคุณตอบรับช้า
  • 4:05 - 4:08
    แม้ว่าเขาจะรู้ว่า
    วันนั้นคุณยุ่งเรื่องอื่นอยู่ทั้งวัน
  • 4:09 - 4:12
    มันจำเป็นที่จะต้องชี้ให้เห็นว่า
    มันไม่สำคัญว่าความสัมพันธ์เริ่มต้นอย่างไร
  • 4:12 - 4:14
    แต่มันพัฒนาไปในทางไหนต่างหาก
  • 4:14 - 4:17
    ในช่วงแรกของความสัมพันธ์ คุณจำเป็นต้อง
  • 4:17 - 4:19
    ฟังความรู้สึกของตัวเองให้ดี
  • 4:19 - 4:21
    คุณรู้สึกสบายใจกับ
    จังหวะการพัฒนาของความใกล้ชิดหรือไม่
  • 4:21 - 4:24
    คุณรู้สึกมีที่ว่างพอหายใจไหม
  • 4:25 - 4:29
    อีกอย่างที่สำคัญคือคุณต้องฝึกมีปากมีเสียง
  • 4:29 - 4:30
    เพื่อสื่อความต้องการของตัวเอง
  • 4:30 - 4:32
    คำขอของคุณได้รับการรับฟังหรือไม่
  • 4:34 - 4:37
    สัญญาณที่สองคือ การแยกตัวออกห่าง
  • 4:37 - 4:39
    (วิดีโอ) ส้ม 2: มาสังสรรค์กันไหม
  • 4:39 - 4:42
    ส้ม 1: วันจันทร์ฉันกับแฟนนัดกันไว้แล้ว
  • 4:42 - 4:44
    ส้ม 2: มาสังสรรค์กันไหม
  • 4:44 - 4:46
    ส้ม 1: วันจันทร์ฉันกับแฟนนัดกันตลอด
  • 4:46 - 4:49
    ส้ม 2: พรุ่งนี้ล่ะ
    ส้ม 1: อังคารเป็นวันนอนเล่นด้วยกันน่ะ
  • 4:49 - 4:51
    ส้ม 2: พุธละกัน
    ส้ม 1: พุธเป็นวันปลอดเพื่อน
  • 4:53 - 4:56
    KH: ฉันคิดว่าการแยกตัวออกห่าง
    เป็นสัญญาณรักให้โทษที่ถูกมองข้าม
  • 4:56 - 4:58
    และเข้าใจผิดมากที่สุด
  • 4:58 - 5:00
    ทำไมน่ะหรือ
  • 5:00 - 5:03
    เพราะในความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ทุกคู่
    เริ่มจากความปรารถนาอันรุนแรง
  • 5:03 - 5:04
    ที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
  • 5:04 - 5:07
    มันจึงสังเกตยากเมื่อบางอย่างเปลี่ยนไป
  • 5:07 - 5:10
    การแยกตัวคืบคลานเข้ามาเมื่อแฟนของคุณ
  • 5:10 - 5:13
    เริ่มดึงคุณออกห่างจากเพื่อนฝูงและครอบครัว
  • 5:13 - 5:14
    และเครือข่ายผู้ช่วยเหลือของคุณ
  • 5:14 - 5:16
    และผูกติดกับเข้ามากขึ้นทุกที
  • 5:17 - 5:19
    เขาอาจพูดทำนองนี้ว่า
  • 5:19 - 5:21
    "ไปเกลือกกลั้วกับคนพวกนี้ทำไม
    พวกไม่เอาไหนอย่างนี้"
  • 5:21 - 5:23
    เกี่ยวกับเพื่อนของคุณ
  • 5:23 - 5:25
    หรือ "พวกเขาอยากให้เราเลิกกัน
    พวกเขาไม่ชอบเรา"
  • 5:26 - 5:27
    เกี่ยวกับครอบครัวของคุณ
  • 5:27 - 5:30
    การแยกตัว คือการหว่านเมล็ดพันธ์ุ
    แห่งความสงสัย
  • 5:30 - 5:33
    เกี่ยวกับทุกคนตั้งแต่
    ชีวิตก่อนเริ่มความสัมพันธ์
  • 5:34 - 5:36
    รักที่ดีต้องมีอิสระ
  • 5:36 - 5:39
    สองคนที่รักกันใช้เวลาอยู่ร่วมกัน
  • 5:39 - 5:43
    แต่ก็ยังคงติดต่อกับคนอื่นและกิจกรรมอื่น ๆ
    ที่รักและสนใจมาก่อนด้วย
  • 5:43 - 5:46
    ขณะที่ตอนช่วงแรก
    คุณอาจจะใช้เวลาทุกนาทีอยู่ด้วยกัน
  • 5:46 - 5:49
    แต่ต่อมาความเป็นอิสระเป็นส่วนสำคัญ
  • 5:49 - 5:52
    คุณทำเช่นนั้นได้ด้วยการวางแผนกับเพื่อน
    แล้วทำตามแผนนั้น
  • 5:52 - 5:54
    และส่งเสริมให้คู่ของคุณทำเช่นเดียวกัน
  • 5:56 - 5:59
    สัญญาณรักให้โทษอย่างที่สามคือความหึงหวงจัด
  • 6:00 - 6:02
    (วิดีโอ) บลู 2: มีความสุขเรื่องอะไรหรือ
  • 6:02 - 6:05
    บลู 1: เธอเพิ่งเริ่มติดตามฉันในอินสตาแกรม!
  • 6:05 - 6:07
    บลู 2: กังวลเรื่องอะไร
  • 6:07 - 6:11
    บลู 1: เธอเริ่มติดตามฉัน เอ้อ ไปทุกที่
  • 6:11 - 6:13
    (#นั่นไม่ใช่รัก)
  • 6:14 - 6:17
    KH: เมื่อช่วงฮันนีมูนเริ่มจางไป
  • 6:17 - 6:18
    ความหึงหวงรุนแรงก็คืบคลานเข้ามา
  • 6:19 - 6:21
    คู่ของคุณอาจเริ่มเรียกร้องมากขึ้น
  • 6:21 - 6:24
    ต้องการรู้ตลอดเวลา
    ว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร
  • 6:24 - 6:28
    หรืออาจจะเริ่มติดตามคุณไปทุกที่
    ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์
  • 6:28 - 6:32
    ความหึงหวงอย่างรุนแรงมาพร้อมกับ
    ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของและความไม่ไว้วางใจ
  • 6:32 - 6:35
    มักกล่าวหาว่า
    ทำตัวเจ้าชู้กับคนอื่นหรือนอกใจ
  • 6:35 - 6:37
    และปฏิเสธที่จะฟังคำอธิบายของคุณ
  • 6:37 - 6:40
    ว่าเขาไม่ต้องห่วงอะไร และคุณรักเขาคนเดียว
  • 6:41 - 6:44
    ความหึงหวงเป็นส่วนหนึ่ง
    ในความสัมพันธ์ของมนุษย์
  • 6:44 - 6:46
    แต่หึงหวงรุนแรงนั้นต่างออกไป
  • 6:46 - 6:49
    มันมีแง่มุมของการคุกคามและจนตรอก
    และโกรธเคืองติดมาด้วย
  • 6:49 - 6:51
    ความรักไม่ควรให้ความรู้สึกเช่นนี้
  • 6:52 - 6:55
    สัญญาณที่สี่คือการดูแคลน
  • 6:55 - 6:57
    (วิดีโอ) บลู: มาสังสรรค์กันไหม
    ส้ม: ต้องอ่านหนังสือ
  • 6:58 - 7:00
    บลู: เธอได้ A อยู่แล้วน่า
    A อเมซิ่ง (#นั่นคือรัก)
  • 7:01 - 7:03
    บลู: มาสังสรรค์กันไหม
    ส้ม: ต้องอ่านหนังสือ
  • 7:03 - 7:05
    บลู: เธอได้ F อยู่แล้ว
  • 7:05 - 7:08
    F ก็ F ก็ โง่ไง (#นั่นไม่ใช่รัก)
  • 7:09 - 7:10
    KH: ช่าย อืมมม
  • 7:10 - 7:13
    ในรักให้โทษ คำพูดถูกใช้เป็นอาวุธ
  • 7:13 - 7:15
    การสนทนาที่เคยสนุกและไม่จริงจัง
  • 7:15 - 7:17
    กลายเป็นร้ายกาจและน่าอับอาย
  • 7:17 - 7:20
    คู่ของคุณอาจจะล้อเลียนคุณทำให้คุณเจ็บใจ
  • 7:20 - 7:24
    ไม่ก็เล่าเรื่อง หรือพูดติดตลก
    ที่ทำให้คุณขายหน้า
  • 7:24 - 7:27
    เมื่อคุณพยายามจะอธิบาย
    ให้เขารู้ว่าคุณเสียความรู้สึก
  • 7:27 - 7:30
    เขาจะกลบเกลื่อนแล้วหาว่าคุณเกินกว่าเหตุ
  • 7:30 - 7:34
    "ทำไมเธออ่อนไหวขนาดนี้ เป็นอะไรน่ะ
    หยุดคร่ำครวญซะที"
  • 7:34 - 7:36
    คุณจึงต้องสงบปากสงบคำด้วยถ้อยคำเหล่านี้
  • 7:37 - 7:41
    มันดูเหมือนเป็นเรื่องแน่นอน
    ที่คู่ของคุณควรจะสนับสนุนคุณ
  • 7:41 - 7:43
    คำพูดของเขาควรจะให้กำลังใจ
    ไม่ใช่ทำร้ายจิตใจคุณ
  • 7:44 - 7:46
    เขาควรรักษาความลับของคุณและซื่อสัตย์กับคุณ
  • 7:46 - 7:48
    เขาควรทำให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
  • 7:48 - 7:49
    ไม่ใช่น้อยลง
  • 7:50 - 7:53
    ประการสุดท้าย สัญญาณอย่างที่ห้า ความผันผวน
  • 7:54 - 7:56
    (วิดีโอ) ส้ม 1:
    ฉันต้องเศร้าแน่ถ้าเราเลิกกัน
  • 7:56 - 7:58
    ส้ม 2: ผมก็คงเศร้าเหมือนกัน
    (#นั่นคือรัก)
  • 7:59 - 8:01
    ส้ม 1: ฉันคงหดหู่มากหากเราต้องเลิกกัน
  • 8:01 - 8:03
    ฉันคงกระโจนจากขั้นบันไดนี้ไปเลย
  • 8:03 - 8:05
    จริง ๆ นะ อย่าพยายามห้ามฉันเลย
  • 8:05 - 8:07
    (#นั่นไม่ใช่รัก)
  • 8:09 - 8:13
    KH: เดี๋ยวเลิกกัน เดี๋ยวดีกัน
    เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย
  • 8:13 - 8:15
    ยิ่งตึงเครียดมากยิ่งผันผวนมาก
  • 8:16 - 8:20
    การทะเลาะกันทั้งน้ำตาและความหงุดหงิด
    แล้วกลับมาคืนดีกัน
  • 8:20 - 8:22
    ใช้คำที่เกลียดชังสร้างความเจ็บปวด
  • 8:22 - 8:24
    เช่น "เธอมันไร้ค่า
    ไม่รู้ว่าฉันทนอยู่กับเธอได้ยังไง!"
  • 8:24 - 8:29
    ตามติดมาด้วยการขอโทษและคำสัญญา
    ว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว
  • 8:29 - 8:33
    เมื่อถึงจุดนี้ คุณก็คุ้นเคยกับ
    สภาพความสัมพันธ์ขึ้น ๆ ลง ๆ นี้
  • 8:33 - 8:36
    เสียจนคุณอาจมองไม่ออกว่า
    ความสัมพันธ์ของคุณให้โทษอย่างไร
  • 8:36 - 8:38
    และอาจเป็นอันตรายได้ด้วย
  • 8:40 - 8:41
    มันมองออกยากว่า
  • 8:41 - 8:44
    เมื่อไหร่ที่รักให้โทษกลายมาเป็นการข่มเหง
  • 8:44 - 8:46
    แต่มันก็พูดได้ว่าหากความสัมพันธ์ของคุณ
  • 8:46 - 8:48
    มีสัญญาณเหล่านี้มากแค่ไหน
  • 8:48 - 8:51
    ก็ยิ่งให้โทษและเป็นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
  • 8:51 - 8:54
    หากสัญชาตญาณของคุณบอกให้เลิกและออกห่าง
  • 8:54 - 8:56
    ซึ่งก็เป็นคำแนะนำที่
    พวกเราหลายคนบอกเพื่อนเรา
  • 8:56 - 8:58
    ที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ให้โทษ
  • 8:58 - 9:00
    แต่นั่นอาจไม่ใช่คำแนะนำที่ดีที่สุดก็ได้
  • 9:00 - 9:02
    เวลาบอกเลิกนั้น
    อาจกระตุ้นให้เกิดการใช้ความรุนแรง
  • 9:02 - 9:06
    หากคุณกลัวว่าคุณกำลังจะเผชิญ
    การคุกคามหรือกำลังถูกข่มเหง
  • 9:06 - 9:10
    คุณต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
    เพื่อหาวิธีออกห่างอย่างปลอดภัย
  • 9:11 - 9:13
    แต่นี่ไม่ใช่สำหรับ
    ความสัมพันธ์แบบคนรักเท่านั้น
  • 9:13 - 9:16
    และไม่ได้เกี่ยวเฉพาะกับการใช้ความรุนแรง
  • 9:16 - 9:18
    การทำความเข้าใจกับสัญญาณของรักให้โทษ
  • 9:18 - 9:22
    ยังสามารถช่วยให้คุณตรวจสอบและทำความเข้าใจ
    กับความสัมพันธ์แทบทุกประเภท
  • 9:23 - 9:26
    คุณอาจจะเพิ่งเข้าใจว่าทำไม
    คุณถึงผิดหวังกับมิตรภาพที่มี
  • 9:26 - 9:29
    หรือทำไมการปฏิสัมพันธ์
    กับสมาชิกในครอบครัวบางคน
  • 9:29 - 9:33
    ทำให้คุณรู้สึกท้อแท้และเป็นทุกข์
  • 9:33 - 9:36
    คุณอาจจะเพิ่งเริ่มเห็นว่าทำไม
    ความเอาจริงเอาจังและขี้อิจฉาของคุณ
  • 9:36 - 9:38
    สร้างปัญหากับเพื่อนร่วมงาน
  • 9:39 - 9:42
    การเข้าใจเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การปรับปรุง
  • 9:42 - 9:46
    คุณอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้โทษ
    ให้มาดีได้
  • 9:46 - 9:48
    คุณบางคนคงต้องทิ้งมันไว้ข้างหลัง
    และเดินจากไป
  • 9:48 - 9:51
    แต่คุณก็สามารถทำหน้าที่ของคุณทุกวัน
    สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
  • 9:52 - 9:54
    และนี่ก็เป็นข่าวดี
  • 9:54 - 9:56
    มันไม่ใช่เรื่องยากเหมือนสร้างจรวด
  • 9:56 - 9:59
    แค่การเปิดใจสื่อสาร เคารพซึ่งกันและกัน
  • 9:59 - 10:01
    มีความเมตตา และอดทน
  • 10:01 - 10:04
    เราสามารถฝึกเรื่องเหล่านี้ได้ในทุก ๆ วัน
  • 10:05 - 10:08
    การฝึกฝนจะทำให้คุณดีขึ้นได้แน่
  • 10:08 - 10:11
    ฉันรับรองได้
    แต่มันจะไม่ได้ทำให้คุณเพอร์เฟ็คหรอกนะ
  • 10:11 - 10:13
    ฉันมีอาชีพนี้ ฉันรู้
  • 10:13 - 10:16
    และทุกวัน ฉันคิดและพูด
    เรื่องความสัมพันธ์ที่ดี
  • 10:16 - 10:18
    แต่ฉันเองก็ยังทำในเรื่องที่ไม่ดีอยู่
  • 10:18 - 10:22
    วันหนึ่งในขณะที่ฉันกำลังพยายาม
    จัดการลูก ๆ สี่คนให้ออกจากบ้าน
  • 10:22 - 10:25
    ท่ามกลางเสียงทะเลาะเบาะแว้ง
    และเสียงบ่นเรื่องอาหารเช้า
  • 10:25 - 10:27
    ฉันก็หลุดเลยทีเดียว
  • 10:27 - 10:29
    ด้วยน้ำเสียงแฝงความโกรธอย่างตั้งใจ
  • 10:29 - 10:30
    ฉันตะโกนออกมาว่า
  • 10:30 - 10:33
    "ทุกคนเงียบเดี๋ยวนี้และทำตามที่ฉันสั่ง!
  • 10:33 - 10:34
    พวกเธอน่ะแย่ที่สุด!
  • 10:34 - 10:36
    แม่จะงดเวลาดูทีวี และงดขนม
  • 10:36 - 10:40
    และทุกอย่างในชีวิตที่ลูกชอบ!"
  • 10:40 - 10:41
    (เสียงหัวเราะ)
  • 10:41 - 10:42
    ใครเคยเป็นอย่างนี้บ้าง?
  • 10:42 - 10:46
    (เสียงปรบมือ)
  • 10:46 - 10:48
    ผันผวน ดูหมิ่น
  • 10:49 - 10:52
    ลูกชายคนโตของฉันหันมามองและบอกว่า
  • 10:52 - 10:54
    "แม่ นั่นไม่ใช่ความรัก"
  • 10:54 - 10:57
    (เสียงหัวเราะ)
  • 10:57 - 11:00
    ครู่หนึ่งที่ฉันอยากจะอัดลูกชาย
    ที่จับฉันได้เช่นนี้
  • 11:00 - 11:02
    เชื่อได้เลย
  • 11:02 - 11:03
    แต่แล้ว ฉันก็รวบรวมสติ
  • 11:03 - 11:06
    และคิดได้ว่า จริง ๆ แล้วฉันภูมิใจ
  • 11:06 - 11:10
    ที่เขามีคำพูดที่ทำให้ฉันได้หยุดและคิด
  • 11:11 - 11:13
    ฉันอยากให้ลูก ๆ เข้าใจว่า
    เส้นขอบเขตของการปฏิบัติ
  • 11:13 - 11:15
    ที่พวกเขาควรได้รับอยู่ตรงไหน
  • 11:15 - 11:18
    และมีคำพูดและปากเสียงเอ่ยออกมา
    หากไม่ได้รับการปฏิบัติตามขอบเขต
  • 11:18 - 11:20
    ไม่ใช่แค่ก้มหน้ายอมรับ
  • 11:22 - 11:27
    เราทำเหมือนความสัมพันธ์
    เป็นเรื่องหาสาระไม่ได้กันมานาน
  • 11:27 - 11:29
    ในขณะที่ทักษะความสัมพันธ์
    เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุด
  • 11:29 - 11:32
    และฝึกฝนยากในชีวิต
  • 11:32 - 11:34
    การเข้าใจสัญญาณโทษเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะ
  • 11:34 - 11:38
    ช่วยให้คุณเลี่ยง
    การตกหลุมพรางที่นำไปสู่รักให้โทษ
  • 11:38 - 11:41
    แต่การทำความเข้าใจ
    และฝึกฝนศิลปะของการอยู่อย่างสุข
  • 11:41 - 11:44
    นี้สามารถปรับปรุง
    แทบทุกแง่มุมของชีวิตคุณได้ด้วย
  • 11:45 - 11:47
    ฉันแน่ใจว่า
  • 11:47 - 11:49
    ขณะที่ความรักเป็นเรื่องของ
    สัญชาตญาณและอารมณ์
  • 11:49 - 11:53
    ความสามารถในการรักให้ดีขึ้นนั้น
    เป็นทักษะที่เราสร้างได้
  • 11:53 - 11:54
    และพัฒนาได้หากให้เวลากับมัน
  • 11:55 - 11:56
    ขอบคุณค่ะ
  • 11:56 - 12:01
    (เสียงปรบมือ)
Title:
ความต่างระหว่างรักที่ดีกับรักให้โทษ
Speaker:
เคที่ ฮู้ด
Description:

ในการบรรยายเรื่องการทำความเข้าใจและฝึกฝนศิลปะแห่งความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพ
เคที่ ฮู้ดเผยให้เห็นสัญญาณ 5 ประการของความสัมพันธ์ที่ให้โทษ --ไม่ว่าจะกับคู่รัก เพื่อน สมาชิกในครอบครัวก็ตาม-- และให้ข้อคิดที่คุณนำไปปฏิบัติได้ทุกวันเพื่อรักอย่างให้เกียรติกัน เมตตา และยินดี "แม้ว่าความรักจะเป็นเรื่องของสัญชาตญาณและอารมณ์ แต่ความสามารถในการรักให้ดีขึ้นเป็นทักษะที่เราทุกคนสามารถฝึกฝนและปรับปรุงได้เมื่อให้เวลากับมัน" เธอกล่าว

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
12:13

Thai subtitles

Revisions