WEBVTT 00:00:00.625 --> 00:00:05.309 เมื่อคุณนึกถึงเด็กน้อย เพื่อนสนิท คู่ชีวิต 00:00:05.333 --> 00:00:08.226 คำว่า "รัก" อาจผุดขึ้นในใจ 00:00:08.250 --> 00:00:11.393 และทันใดนั้น อารมณ์อื่น ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามา 00:00:11.417 --> 00:00:13.018 ความปลื้มปิติ และความหวัง 00:00:13.042 --> 00:00:16.601 ความตื่นเต้น ความไว้ใจและความรู้สึกปลอดภัย 00:00:16.625 --> 00:00:19.684 และจริงอยู่ บางครั้งก็มีความเศร้า และความผิดหวัง 00:00:19.708 --> 00:00:21.768 มันอาจจะไม่มีคำใดในพจนานุกรม 00:00:21.792 --> 00:00:23.833 ที่เกี่ยวข้องกับคนมากไปกว่าคำว่ารัก NOTE Paragraph 00:00:25.292 --> 00:00:27.893 แม้ว่ามันจะเป็นศูนย์กลาง ความสำคัญแห่งชีวิตเรา 00:00:27.917 --> 00:00:31.417 แต่แปลกที่ว่าเราไม่เคยได้รับการสั่งสอน อย่างจริงจังว่าจะรักอย่างไร 00:00:32.458 --> 00:00:34.143 เราสร้างมิตรภาพ 00:00:34.167 --> 00:00:36.643 คลำทางหาความสัมพันธ์แบบโรแมนติกในระยะแรก 00:00:36.667 --> 00:00:39.101 แต่งงานและรับลูกน้อยกลับจากโรงพยาบาล 00:00:39.125 --> 00:00:41.292 พร้อมความหวังว่า เดี๋ยวเราก็หาทางได้เองล่ะน่า 00:00:42.625 --> 00:00:46.476 แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรามักจะทำร้าย และข่มเหงคนที่เรารัก 00:00:46.500 --> 00:00:47.809 มันอาจไม่ชัดเจน 00:00:47.833 --> 00:00:50.684 ทำให้เพื่อนรู้สึกผิด จะได้มาใช้เวลากับคุณบ้าง 00:00:50.708 --> 00:00:53.976 หรือแอบอ่านข้อความบนมือถือของแฟน 00:00:54.000 --> 00:00:56.583 หรือดุให้ลูกละอายที่ไม่ตั้งใจเรียน 00:00:58.000 --> 00:01:00.184 พวกเราทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เป็นฝ่ายรับผล 00:01:00.208 --> 00:01:02.518 ของพฤติกรรมความสัมพันธ์ที่รอวันเลิกรา 00:01:02.542 --> 00:01:05.851 และพวกเราร้อยทั้งร้อย ก็ทำในเรื่องที่เสียสุขภาพจิตด้วย 00:01:05.875 --> 00:01:07.333 เป็นมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้แหละ 00:01:08.833 --> 00:01:11.351 รูปแบบที่แย่ที่สุดของการทำร้ายคนที่เรารัก 00:01:11.375 --> 00:01:13.309 คือการปรามาสและใช้ความรุนแรง 00:01:13.333 --> 00:01:15.059 และการข่มเหงที่เกิดในความสัมพันธ์ 00:01:15.083 --> 00:01:17.976 เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหนึ่งในสาม และผู้ชายหนึ่งในสี่ 00:01:18.000 --> 00:01:19.708 เผชิญในช่วงชีวิตของพวกเขา 00:01:20.625 --> 00:01:23.434 หากคุณเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ พอได้ยินสถิติเหล่านั้น 00:01:23.458 --> 00:01:26.268 คุณคงว่า "โอ ไม่หรอก นั่นไม่มีทางเกิดขึ้นกับตัวฉันแน่" 00:01:26.292 --> 00:01:29.726 มันเป็นสัญชาตญาณที่เราจะถอยห่างจาก คำว่า "การข่มเหง" และ "ความรุนแรง" 00:01:29.750 --> 00:01:33.601 เมื่อคิดว่ามันเกิดขึ้นกับคนอื่น ที่อื่น 00:01:33.625 --> 00:01:37.976 แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความสัมพันธ์ ที่ให้โทษ และการข่มเหงมีอยู่รอบตัวเรา 00:01:38.000 --> 00:01:40.875 เราแค่เรียกมันด้วยชื่ออื่น และมองข้ามความเกี่ยวเนื่องของมัน 00:01:42.042 --> 00:01:45.292 การข่มเหงแอบย่องมาหาเรา แฝงตัวอยู่ในความรักให้โทษ NOTE Paragraph 00:01:47.708 --> 00:01:49.768 ฉันทำงานให้กับองค์กรชื่อรักเดียว (One Love) 00:01:49.792 --> 00:01:53.583 ก่อตั้งโดยครอบครัวหนึ่งที่ลูกสาว ยาร์ดลีย์ ถูกอดีตแฟนหนุ่มของเธอฆ่า 00:01:54.833 --> 00:01:57.851 นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด 00:01:57.875 --> 00:02:01.143 แต่เมื่อมองย้อนกลับไป พวกเขาก็ตระหนักว่า มันมีสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นตลอด 00:02:01.167 --> 00:02:03.292 แค่ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาเห็น 00:02:04.042 --> 00:02:07.809 อาจเรียกว่าความบ้า หรือดราม่า หรือแค่เมาเกินไป 00:02:07.833 --> 00:02:10.976 ไม่มีใครเข้าใจการกระทำของเขา ตามที่มันสื่อออกมาจริง ๆ เลย 00:02:11.000 --> 00:02:13.000 ซึ่งมันเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสัญญาณอันตราย 00:02:13.917 --> 00:02:17.726 ครอบครัวของเธอตระหนักว่าหากมีใครสักคน มีความรู้เรื่องการตีความสัญญาณเหล่านี้ 00:02:17.750 --> 00:02:19.500 เราอาจป้องกันได้และเธอคงไม่ตาย 00:02:20.625 --> 00:02:22.559 ทุกวันนี้ เราจึงมุ่งมั่นสร้างความมั่นใจ 00:02:22.583 --> 00:02:25.869 ว่าคนอื่น ๆ มีข้อมูล ที่ยาร์ดลีย์และเพื่อนของเธอไม่มี 00:02:25.893 --> 00:02:27.643 เรามีเป้าหมายสามประการ 00:02:27.667 --> 00:02:30.934 เราให้ภาษาเพื่อสื่อสารในเรื่องนี้ 00:02:30.958 --> 00:02:34.351 เรื่องที่น่าอึดอัดและลำบากใจที่จะพูดคุย 00:02:34.375 --> 00:02:39.226 เสริมพลังให้กับแนวหน้า นั่นคือเพื่อน ๆ ในการให้ความช่วยเหลือ 00:02:39.250 --> 00:02:42.333 และ ระหว่างทางก็พัฒนา ความสามารถในการรักให้ถูกทาง NOTE Paragraph 00:02:43.875 --> 00:02:47.143 จะทำเช่นนั้นได้ เราจำเป็นต้องเริ่มจากการเผยให้เห็น 00:02:47.167 --> 00:02:49.893 สัญญาณอันตราย ที่เรามักมองข้ามไปเสียก่อน 00:02:49.917 --> 00:02:52.393 และงานของเราเน้นไปที่การสร้างเนื้อหา 00:02:52.417 --> 00:02:54.667 เพื่อให้เกิดการสนทนาระหว่างคนหนุ่มสาว 00:02:55.375 --> 00:02:58.018 อย่างที่คุณคาด เนื้อหาของเราส่วนใหญ่ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนัก 00:02:58.042 --> 00:02:59.893 ตามหัวข้อที่เรากำลังรับมืออยู่ 00:02:59.917 --> 00:03:02.559 แต่ในวันนี้ ฉันจะยกตัวอย่างที่ไม่หนักนัก 00:03:02.583 --> 00:03:04.393 แต่ยังกระตุ้นความคิดอยู่ 00:03:04.417 --> 00:03:05.726 ชื่อเรื่อง "The Couplets" 00:03:05.750 --> 00:03:08.375 มาเผยให้เห็น สัญญาณอันตรายทั้งห้าของรักให้โทษ NOTE Paragraph 00:03:09.375 --> 00:03:12.351 ข้อแรกคือ ความเข้มข้นรุนแรง NOTE Paragraph 00:03:12.375 --> 00:03:15.559 (วิดีโอ) บลู: ผมไม่ได้เจอคุณมาสองสามวัน คิดถึงคุณจังเลย NOTE Paragraph 00:03:15.583 --> 00:03:17.536 ส้ม: ฉันคิดถึงคุณเหมือนกัน (#นั่นคือรัก) NOTE Paragraph 00:03:17.560 --> 00:03:20.726 บลู: ผมไม่ได้เจอคุณตั้งห้านาที มันยาวนานราวชั่วชีวิต 00:03:20.750 --> 00:03:23.559 คุณทำอะไรอยู่โดยไม่มีผมได้ตั้งห้านาทีเต็ม NOTE Paragraph 00:03:23.583 --> 00:03:26.018 ส้ม: นั่นแค่สามนาทีเองนะ (#นั่นไม่ใช่รัก) NOTE Paragraph 00:03:26.042 --> 00:03:28.625 เคที ฮู้ด: มีใครจำเรื่องนี้ได้คะ ไม่รู้สิ หรือจำได้ 00:03:30.000 --> 00:03:32.184 ความสัมพันธ์อันทารุณ ไม่ได้เริ่มจากการทารุณ 00:03:32.208 --> 00:03:34.184 มันเริ่มด้วยความตื่นเต้นและสดชื่น 00:03:34.208 --> 00:03:37.518 ความรักและอารมณ์ที่หลั่งเข้ามาช่างเข้มข้น 00:03:37.542 --> 00:03:39.226 มันรู้สึกดีมาก 00:03:39.250 --> 00:03:41.667 คุณรู้สึกว่าโชคดีมากที่เจอแจ็คพ็อต 00:03:42.750 --> 00:03:45.934 แต่ในความรักให้โทษ ความรู้สึกเหล่านี้ จะเปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไป 00:03:45.958 --> 00:03:50.250 จากตื่นเต้นเป็นท่วมท้นและบางครั้งอึดอัด 00:03:50.875 --> 00:03:52.601 คุณรู้สึกได้เองจากข้างใน 00:03:52.625 --> 00:03:54.893 อาจจะเป็นตอนที่แฟนคนใหม่ของคุณ 00:03:54.917 --> 00:03:57.184 บอกว่า "ฉันรักเธอ" เร็วเกินที่คุณคาดคิด 00:03:57.208 --> 00:04:00.750 หรือเริ่มปรากฏตัวขึ้นในทุกที่ ส่งข้อความและโทรหาตลอดเวลา 00:04:01.667 --> 00:04:04.809 เขาอาจจะอดรนทนไม่ได้หากคุณตอบรับช้า 00:04:04.833 --> 00:04:07.708 แม้ว่าเขาจะรู้ว่า วันนั้นคุณยุ่งเรื่องอื่นอยู่ทั้งวัน 00:04:08.583 --> 00:04:12.393 มันจำเป็นที่จะต้องชี้ให้เห็นว่า มันไม่สำคัญว่าความสัมพันธ์เริ่มต้นอย่างไร 00:04:12.417 --> 00:04:13.934 แต่มันพัฒนาไปในทางไหนต่างหาก 00:04:13.958 --> 00:04:16.517 ในช่วงแรกของความสัมพันธ์ คุณจำเป็นต้อง 00:04:16.541 --> 00:04:18.559 ฟังความรู้สึกของตัวเองให้ดี 00:04:18.583 --> 00:04:21.184 คุณรู้สึกสบายใจกับ จังหวะการพัฒนาของความใกล้ชิดหรือไม่ 00:04:21.208 --> 00:04:23.792 คุณรู้สึกมีที่ว่างพอหายใจไหม 00:04:24.792 --> 00:04:28.518 อีกอย่างที่สำคัญคือคุณต้องฝึกมีปากมีเสียง 00:04:28.542 --> 00:04:30.393 เพื่อสื่อความต้องการของตัวเอง 00:04:30.417 --> 00:04:32.333 คำขอของคุณได้รับการรับฟังหรือไม่ NOTE Paragraph 00:04:33.833 --> 00:04:37.268 สัญญาณที่สองคือ การแยกตัวออกห่าง NOTE Paragraph 00:04:37.292 --> 00:04:39.018 (วิดีโอ) ส้ม 2: มาสังสรรค์กันไหม NOTE Paragraph 00:04:39.042 --> 00:04:41.708 ส้ม 1: วันจันทร์ฉันกับแฟนนัดกันไว้แล้ว NOTE Paragraph 00:04:42.375 --> 00:04:43.684 ส้ม 2: มาสังสรรค์กันไหม NOTE Paragraph 00:04:43.708 --> 00:04:46.351 ส้ม 1: วันจันทร์ฉันกับแฟนนัดกันตลอด NOTE Paragraph 00:04:46.375 --> 00:04:49.101 ส้ม 2: พรุ่งนี้ล่ะ ส้ม 1: อังคารเป็นวันนอนเล่นด้วยกันน่ะ NOTE Paragraph 00:04:49.125 --> 00:04:51.292 ส้ม 2: พุธละกัน ส้ม 1: พุธเป็นวันปลอดเพื่อน NOTE Paragraph 00:04:52.792 --> 00:04:55.851 KH: ฉันคิดว่าการแยกตัวออกห่าง เป็นสัญญาณรักให้โทษที่ถูกมองข้าม 00:04:55.875 --> 00:04:58.226 และเข้าใจผิดมากที่สุด 00:04:58.250 --> 00:04:59.518 ทำไมน่ะหรือ 00:04:59.542 --> 00:05:02.684 เพราะในความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ทุกคู่ เริ่มจากความปรารถนาอันรุนแรง 00:05:02.708 --> 00:05:04.059 ที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 00:05:04.083 --> 00:05:07.018 มันจึงสังเกตยากเมื่อบางอย่างเปลี่ยนไป 00:05:07.042 --> 00:05:09.768 การแยกตัวคืบคลานเข้ามาเมื่อแฟนของคุณ 00:05:09.792 --> 00:05:12.643 เริ่มดึงคุณออกห่างจากเพื่อนฝูงและครอบครัว 00:05:12.667 --> 00:05:14.226 และเครือข่ายผู้ช่วยเหลือของคุณ 00:05:14.250 --> 00:05:16.250 และผูกติดกับเข้ามากขึ้นทุกที 00:05:17.375 --> 00:05:18.809 เขาอาจพูดทำนองนี้ว่า 00:05:18.833 --> 00:05:21.309 "ไปเกลือกกลั้วกับคนพวกนี้ทำไม พวกไม่เอาไหนอย่างนี้" 00:05:21.333 --> 00:05:22.601 เกี่ยวกับเพื่อนของคุณ 00:05:22.625 --> 00:05:25.476 หรือ "พวกเขาอยากให้เราเลิกกัน พวกเขาไม่ชอบเรา" 00:05:25.500 --> 00:05:27.309 เกี่ยวกับครอบครัวของคุณ 00:05:27.333 --> 00:05:29.934 การแยกตัว คือการหว่านเมล็ดพันธ์ุ แห่งความสงสัย 00:05:29.958 --> 00:05:32.833 เกี่ยวกับทุกคนตั้งแต่ ชีวิตก่อนเริ่มความสัมพันธ์ 00:05:34.125 --> 00:05:36.184 รักที่ดีต้องมีอิสระ 00:05:36.208 --> 00:05:38.684 สองคนที่รักกันใช้เวลาอยู่ร่วมกัน 00:05:38.708 --> 00:05:42.934 แต่ก็ยังคงติดต่อกับคนอื่นและกิจกรรมอื่น ๆ ที่รักและสนใจมาก่อนด้วย 00:05:42.958 --> 00:05:45.851 ขณะที่ตอนช่วงแรก คุณอาจจะใช้เวลาทุกนาทีอยู่ด้วยกัน 00:05:45.875 --> 00:05:48.726 แต่ต่อมาความเป็นอิสระเป็นส่วนสำคัญ 00:05:48.750 --> 00:05:51.893 คุณทำเช่นนั้นได้ด้วยการวางแผนกับเพื่อน แล้วทำตามแผนนั้น 00:05:51.917 --> 00:05:54.333 และส่งเสริมให้คู่ของคุณทำเช่นเดียวกัน NOTE Paragraph 00:05:55.833 --> 00:05:58.875 สัญญาณรักให้โทษอย่างที่สามคือความหึงหวงจัด NOTE Paragraph 00:05:59.750 --> 00:06:01.851 (วิดีโอ) บลู 2: มีความสุขเรื่องอะไรหรือ NOTE Paragraph 00:06:01.875 --> 00:06:04.809 บลู 1: เธอเพิ่งเริ่มติดตามฉันในอินสตาแกรม! NOTE Paragraph 00:06:04.833 --> 00:06:06.684 บลู 2: กังวลเรื่องอะไร NOTE Paragraph 00:06:06.708 --> 00:06:10.934 บลู 1: เธอเริ่มติดตามฉัน เอ้อ ไปทุกที่ NOTE Paragraph 00:06:10.958 --> 00:06:12.875 (#นั่นไม่ใช่รัก) NOTE Paragraph 00:06:14.458 --> 00:06:16.518 KH: เมื่อช่วงฮันนีมูนเริ่มจางไป 00:06:16.542 --> 00:06:18.375 ความหึงหวงรุนแรงก็คืบคลานเข้ามา 00:06:19.333 --> 00:06:21.309 คู่ของคุณอาจเริ่มเรียกร้องมากขึ้น 00:06:21.333 --> 00:06:24.309 ต้องการรู้ตลอดเวลา ว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร 00:06:24.333 --> 00:06:27.518 หรืออาจจะเริ่มติดตามคุณไปทุกที่ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ 00:06:27.542 --> 00:06:31.809 ความหึงหวงอย่างรุนแรงมาพร้อมกับ ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของและความไม่ไว้วางใจ 00:06:31.833 --> 00:06:35.101 มักกล่าวหาว่า ทำตัวเจ้าชู้กับคนอื่นหรือนอกใจ 00:06:35.125 --> 00:06:37.351 และปฏิเสธที่จะฟังคำอธิบายของคุณ 00:06:37.375 --> 00:06:40.250 ว่าเขาไม่ต้องห่วงอะไร และคุณรักเขาคนเดียว 00:06:41.083 --> 00:06:43.809 ความหึงหวงเป็นส่วนหนึ่ง ในความสัมพันธ์ของมนุษย์ 00:06:43.833 --> 00:06:46.018 แต่หึงหวงรุนแรงนั้นต่างออกไป 00:06:46.042 --> 00:06:48.809 มันมีแง่มุมของการคุกคามและจนตรอก และโกรธเคืองติดมาด้วย 00:06:48.833 --> 00:06:50.958 ความรักไม่ควรให้ความรู้สึกเช่นนี้ NOTE Paragraph 00:06:52.333 --> 00:06:54.893 สัญญาณที่สี่คือการดูแคลน NOTE Paragraph 00:06:54.917 --> 00:06:57.476 (วิดีโอ) บลู: มาสังสรรค์กันไหม ส้ม: ต้องอ่านหนังสือ NOTE Paragraph 00:06:57.500 --> 00:07:00.417 บลู: เธอได้ A อยู่แล้วน่า A อเมซิ่ง (#นั่นคือรัก) NOTE Paragraph 00:07:00.875 --> 00:07:03.309 บลู: มาสังสรรค์กันไหม ส้ม: ต้องอ่านหนังสือ NOTE Paragraph 00:07:03.333 --> 00:07:04.768 บลู: เธอได้ F อยู่แล้ว 00:07:04.792 --> 00:07:07.958 F ก็ F ก็ โง่ไง (#นั่นไม่ใช่รัก) NOTE Paragraph 00:07:08.667 --> 00:07:10.434 KH: ช่าย อืมมม 00:07:10.458 --> 00:07:13.018 ในรักให้โทษ คำพูดถูกใช้เป็นอาวุธ 00:07:13.042 --> 00:07:15.393 การสนทนาที่เคยสนุกและไม่จริงจัง 00:07:15.417 --> 00:07:17.226 กลายเป็นร้ายกาจและน่าอับอาย 00:07:17.250 --> 00:07:20.268 คู่ของคุณอาจจะล้อเลียนคุณทำให้คุณเจ็บใจ 00:07:20.292 --> 00:07:23.768 ไม่ก็เล่าเรื่อง หรือพูดติดตลก ที่ทำให้คุณขายหน้า 00:07:23.792 --> 00:07:26.518 เมื่อคุณพยายามจะอธิบาย ให้เขารู้ว่าคุณเสียความรู้สึก 00:07:26.542 --> 00:07:29.934 เขาจะกลบเกลื่อนแล้วหาว่าคุณเกินกว่าเหตุ 00:07:29.958 --> 00:07:33.750 "ทำไมเธออ่อนไหวขนาดนี้ เป็นอะไรน่ะ หยุดคร่ำครวญซะที" 00:07:34.417 --> 00:07:36.375 คุณจึงต้องสงบปากสงบคำด้วยถ้อยคำเหล่านี้ 00:07:37.417 --> 00:07:40.809 มันดูเหมือนเป็นเรื่องแน่นอน ที่คู่ของคุณควรจะสนับสนุนคุณ 00:07:40.833 --> 00:07:43.476 คำพูดของเขาควรจะให้กำลังใจ ไม่ใช่ทำร้ายจิตใจคุณ 00:07:43.500 --> 00:07:45.893 เขาควรรักษาความลับของคุณและซื่อสัตย์กับคุณ 00:07:45.917 --> 00:07:47.893 เขาควรทำให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้น 00:07:47.917 --> 00:07:49.208 ไม่ใช่น้อยลง NOTE Paragraph 00:07:50.250 --> 00:07:53.208 ประการสุดท้าย สัญญาณอย่างที่ห้า ความผันผวน NOTE Paragraph 00:07:54.042 --> 00:07:56.143 (วิดีโอ) ส้ม 1: ฉันต้องเศร้าแน่ถ้าเราเลิกกัน NOTE Paragraph 00:07:56.167 --> 00:07:58.000 ส้ม 2: ผมก็คงเศร้าเหมือนกัน (#นั่นคือรัก) NOTE Paragraph 00:07:59.042 --> 00:08:01.268 ส้ม 1: ฉันคงหดหู่มากหากเราต้องเลิกกัน 00:08:01.292 --> 00:08:02.809 ฉันคงกระโจนจากขั้นบันไดนี้ไปเลย 00:08:02.833 --> 00:08:05.393 จริง ๆ นะ อย่าพยายามห้ามฉันเลย NOTE Paragraph 00:08:05.417 --> 00:08:06.667 (#นั่นไม่ใช่รัก) NOTE Paragraph 00:08:09.167 --> 00:08:12.893 KH: เดี๋ยวเลิกกัน เดี๋ยวดีกัน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย 00:08:12.917 --> 00:08:15.292 ยิ่งตึงเครียดมากยิ่งผันผวนมาก 00:08:16.458 --> 00:08:20.018 การทะเลาะกันทั้งน้ำตาและความหงุดหงิด แล้วกลับมาคืนดีกัน 00:08:20.042 --> 00:08:21.684 ใช้คำที่เกลียดชังสร้างความเจ็บปวด 00:08:21.708 --> 00:08:24.351 เช่น "เธอมันไร้ค่า ไม่รู้ว่าฉันทนอยู่กับเธอได้ยังไง!" 00:08:24.375 --> 00:08:29.184 ตามติดมาด้วยการขอโทษและคำสัญญา ว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว 00:08:29.208 --> 00:08:33.018 เมื่อถึงจุดนี้ คุณก็คุ้นเคยกับ สภาพความสัมพันธ์ขึ้น ๆ ลง ๆ นี้ 00:08:33.042 --> 00:08:36.058 เสียจนคุณอาจมองไม่ออกว่า ความสัมพันธ์ของคุณให้โทษอย่างไร 00:08:36.082 --> 00:08:37.667 และอาจเป็นอันตรายได้ด้วย NOTE Paragraph 00:08:39.542 --> 00:08:41.018 มันมองออกยากว่า 00:08:41.042 --> 00:08:43.976 เมื่อไหร่ที่รักให้โทษกลายมาเป็นการข่มเหง 00:08:44.000 --> 00:08:46.434 แต่มันก็พูดได้ว่าหากความสัมพันธ์ของคุณ 00:08:46.458 --> 00:08:47.893 มีสัญญาณเหล่านี้มากแค่ไหน 00:08:47.917 --> 00:08:51.393 ก็ยิ่งให้โทษและเป็นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น 00:08:51.417 --> 00:08:53.601 หากสัญชาตญาณของคุณบอกให้เลิกและออกห่าง 00:08:53.625 --> 00:08:55.809 ซึ่งก็เป็นคำแนะนำที่ พวกเราหลายคนบอกเพื่อนเรา 00:08:55.833 --> 00:08:57.768 ที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ให้โทษ 00:08:57.792 --> 00:08:59.726 แต่นั่นอาจไม่ใช่คำแนะนำที่ดีที่สุดก็ได้ 00:08:59.750 --> 00:09:02.351 เวลาบอกเลิกนั้น อาจกระตุ้นให้เกิดการใช้ความรุนแรง 00:09:02.375 --> 00:09:05.643 หากคุณกลัวว่าคุณกำลังจะเผชิญ การคุกคามหรือกำลังถูกข่มเหง 00:09:05.667 --> 00:09:09.708 คุณต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาวิธีออกห่างอย่างปลอดภัย NOTE Paragraph 00:09:11.042 --> 00:09:13.434 แต่นี่ไม่ใช่สำหรับ ความสัมพันธ์แบบคนรักเท่านั้น 00:09:13.458 --> 00:09:15.643 และไม่ได้เกี่ยวเฉพาะกับการใช้ความรุนแรง 00:09:15.667 --> 00:09:17.934 การทำความเข้าใจกับสัญญาณของรักให้โทษ 00:09:17.958 --> 00:09:21.708 ยังสามารถช่วยให้คุณตรวจสอบและทำความเข้าใจ กับความสัมพันธ์แทบทุกประเภท 00:09:22.625 --> 00:09:26.476 คุณอาจจะเพิ่งเข้าใจว่าทำไม คุณถึงผิดหวังกับมิตรภาพที่มี 00:09:26.500 --> 00:09:29.226 หรือทำไมการปฏิสัมพันธ์ กับสมาชิกในครอบครัวบางคน 00:09:29.250 --> 00:09:32.518 ทำให้คุณรู้สึกท้อแท้และเป็นทุกข์ 00:09:32.542 --> 00:09:35.559 คุณอาจจะเพิ่งเริ่มเห็นว่าทำไม ความเอาจริงเอาจังและขี้อิจฉาของคุณ 00:09:35.583 --> 00:09:37.833 สร้างปัญหากับเพื่อนร่วมงาน 00:09:39.208 --> 00:09:42.476 การเข้าใจเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การปรับปรุง 00:09:42.500 --> 00:09:45.559 คุณอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้โทษ ให้มาดีได้ 00:09:45.583 --> 00:09:47.684 คุณบางคนคงต้องทิ้งมันไว้ข้างหลัง และเดินจากไป 00:09:47.708 --> 00:09:51.458 แต่คุณก็สามารถทำหน้าที่ของคุณทุกวัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น 00:09:52.250 --> 00:09:53.893 และนี่ก็เป็นข่าวดี 00:09:53.917 --> 00:09:56.226 มันไม่ใช่เรื่องยากเหมือนสร้างจรวด 00:09:56.250 --> 00:09:58.976 แค่การเปิดใจสื่อสาร เคารพซึ่งกันและกัน 00:09:59.000 --> 00:10:01.226 มีความเมตตา และอดทน 00:10:01.250 --> 00:10:03.667 เราสามารถฝึกเรื่องเหล่านี้ได้ในทุก ๆ วัน NOTE Paragraph 00:10:04.875 --> 00:10:07.601 การฝึกฝนจะทำให้คุณดีขึ้นได้แน่ 00:10:07.625 --> 00:10:11.393 ฉันรับรองได้ แต่มันจะไม่ได้ทำให้คุณเพอร์เฟ็คหรอกนะ 00:10:11.417 --> 00:10:12.768 ฉันมีอาชีพนี้ ฉันรู้ 00:10:12.792 --> 00:10:15.601 และทุกวัน ฉันคิดและพูด เรื่องความสัมพันธ์ที่ดี 00:10:15.625 --> 00:10:18.226 แต่ฉันเองก็ยังทำในเรื่องที่ไม่ดีอยู่ 00:10:18.250 --> 00:10:21.643 วันหนึ่งในขณะที่ฉันกำลังพยายาม จัดการลูก ๆ สี่คนให้ออกจากบ้าน 00:10:21.667 --> 00:10:24.643 ท่ามกลางเสียงทะเลาะเบาะแว้ง และเสียงบ่นเรื่องอาหารเช้า 00:10:24.667 --> 00:10:26.768 ฉันก็หลุดเลยทีเดียว 00:10:26.792 --> 00:10:28.934 ด้วยน้ำเสียงแฝงความโกรธอย่างตั้งใจ 00:10:28.958 --> 00:10:30.268 ฉันตะโกนออกมาว่า 00:10:30.292 --> 00:10:32.559 "ทุกคนเงียบเดี๋ยวนี้และทำตามที่ฉันสั่ง! 00:10:32.583 --> 00:10:34.143 พวกเธอน่ะแย่ที่สุด! 00:10:34.167 --> 00:10:36.393 แม่จะงดเวลาดูทีวี และงดขนม 00:10:36.417 --> 00:10:39.601 และทุกอย่างในชีวิตที่ลูกชอบ!" NOTE Paragraph 00:10:39.625 --> 00:10:41.101 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:10:41.125 --> 00:10:42.434 ใครเคยเป็นอย่างนี้บ้าง? NOTE Paragraph 00:10:42.458 --> 00:10:45.851 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:10:45.875 --> 00:10:48.500 ผันผวน ดูหมิ่น 00:10:49.417 --> 00:10:52.351 ลูกชายคนโตของฉันหันมามองและบอกว่า 00:10:52.375 --> 00:10:53.976 "แม่ นั่นไม่ใช่ความรัก" NOTE Paragraph 00:10:54.000 --> 00:10:57.351 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:10:57.375 --> 00:11:00.268 ครู่หนึ่งที่ฉันอยากจะอัดลูกชาย ที่จับฉันได้เช่นนี้ 00:11:00.292 --> 00:11:01.809 เชื่อได้เลย 00:11:01.833 --> 00:11:03.351 แต่แล้ว ฉันก็รวบรวมสติ 00:11:03.375 --> 00:11:06.434 และคิดได้ว่า จริง ๆ แล้วฉันภูมิใจ 00:11:06.458 --> 00:11:09.792 ที่เขามีคำพูดที่ทำให้ฉันได้หยุดและคิด 00:11:10.511 --> 00:11:13.226 ฉันอยากให้ลูก ๆ เข้าใจว่า เส้นขอบเขตของการปฏิบัติ 00:11:13.250 --> 00:11:14.684 ที่พวกเขาควรได้รับอยู่ตรงไหน 00:11:14.708 --> 00:11:17.851 และมีคำพูดและปากเสียงเอ่ยออกมา หากไม่ได้รับการปฏิบัติตามขอบเขต 00:11:17.875 --> 00:11:19.792 ไม่ใช่แค่ก้มหน้ายอมรับ 00:11:21.667 --> 00:11:26.518 เราทำเหมือนความสัมพันธ์ เป็นเรื่องหาสาระไม่ได้กันมานาน 00:11:26.542 --> 00:11:29.101 ในขณะที่ทักษะความสัมพันธ์ เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุด 00:11:29.125 --> 00:11:31.684 และฝึกฝนยากในชีวิต 00:11:31.708 --> 00:11:34.351 การเข้าใจสัญญาณโทษเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะ 00:11:34.375 --> 00:11:37.893 ช่วยให้คุณเลี่ยง การตกหลุมพรางที่นำไปสู่รักให้โทษ 00:11:37.917 --> 00:11:40.893 แต่การทำความเข้าใจ และฝึกฝนศิลปะของการอยู่อย่างสุข 00:11:40.917 --> 00:11:43.542 นี้สามารถปรับปรุง แทบทุกแง่มุมของชีวิตคุณได้ด้วย 00:11:44.625 --> 00:11:46.684 ฉันแน่ใจว่า 00:11:46.708 --> 00:11:49.351 ขณะที่ความรักเป็นเรื่องของ สัญชาตญาณและอารมณ์ 00:11:49.375 --> 00:11:52.684 ความสามารถในการรักให้ดีขึ้นนั้น เป็นทักษะที่เราสร้างได้ 00:11:52.708 --> 00:11:54.083 และพัฒนาได้หากให้เวลากับมัน NOTE Paragraph 00:11:54.583 --> 00:11:55.851 ขอบคุณค่ะ NOTE Paragraph 00:11:55.875 --> 00:12:00.875 (เสียงปรบมือ)