WEBVTT 00:00:07.867 --> 00:00:11.598 ลองนึกดูสักเดี๋ยวสิ เป็ดที่สอนวิชาภาษาฝรั่งเศส 00:00:11.598 --> 00:00:15.167 การแข่งขันปิงปองในวงโคจรรอบ ๆ หลุมดำ 00:00:15.167 --> 00:00:17.788 โลมากำลังเลี้ยงลูกสับปะรด 00:00:17.788 --> 00:00:21.277 คุณอาจไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านี้จริง ๆ 00:00:21.277 --> 00:00:23.937 แต่คุณก็สามารถจินตนาการตามได้โดยทันที 00:00:23.937 --> 00:00:27.618 สมองของคุณผลิตภาพ ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนได้อย่างไร 00:00:27.618 --> 00:00:28.978 นั่นอาจฟังดูไม่ยากเลย 00:00:28.978 --> 00:00:31.948 แต่นั่นเป็นเพียงเพราะ เราคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี 00:00:31.948 --> 00:00:34.629 กลายเป็นว่า อันที่จริงแล้ว นี่เป็นปัญหาที่ซับซ้อน 00:00:34.629 --> 00:00:38.818 ที่ต้องการการเชื่อมต่อสุดอัศจรรย์ ภายในสมองของคุณ 00:00:38.818 --> 00:00:41.758 นั่นเป็นเพราะว่า เพื่อรังสรรค์ภาพใหม่ อันแปลกตาเหล่านี้ 00:00:41.758 --> 00:00:46.667 สมองของคุณจะต้องนำชิ้นส่วนที่คุ้นเคย มาประกอบเข้าด้วยกันในแบบใหม่ 00:00:46.667 --> 00:00:49.789 เหมือนกับภาพปะติด ที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ ของภาพถ่าย 00:00:49.789 --> 00:00:53.329 สมองจะต้องเล่นกับทะเล แห่งสัญญาณไฟฟ้านับล้าน 00:00:53.329 --> 00:00:58.059 โดยนำพวกมันทั้งหมด ไปยังปลายทางให้ถูกเวลา 00:00:58.059 --> 00:00:59.779 เมื่อคุณมองดูที่วัตถุ 00:00:59.779 --> 00:01:03.658 เซลล์ประสาทนับพัน ในคอร์เทกซ์ส่วนหลังก็ทำงาน 00:01:03.658 --> 00:01:07.018 เซลล์ประสาทเหล่านี้เข้ารหัส ลักษณะต่าง ๆ ของวัตถุ เช่น 00:01:07.018 --> 00:01:11.159 ความแหลม, ผลไม้, สีน้ำตาล, สีเขียว และสีเหลือง 00:01:11.159 --> 00:01:15.540 การส่งสัญญาณที่สอดประสานกันนี้ เน้นการเชื่อมต่อระหว่างชุดของเซลล์ประสาท 00:01:15.540 --> 00:01:20.095 โดยเชื่อมต่อพวกมันเข้าด้วยกัน ดังที่เรียกว่า กลุ่มเซลล์ประสาท 00:01:20.095 --> 00:01:22.300 ในกรณีก็คือ สับปะรดหนึ่งผล 00:01:22.300 --> 00:01:25.329 ในประสาทวิทยา เราเรียกสิ่งนี้ว่า "หลักการของเฮบบ์" (Hebbian principle) 00:01:25.329 --> 00:01:28.839 เซลล์ประสาทที่ส่งสัญญาณด้วยกัน มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน 00:01:28.839 --> 00:01:30.949 ถ้าคุณพยายามจินตนาการ ถึงสับปะรดในเวลาต่อมา 00:01:30.949 --> 00:01:35.850 กลุ่มเซลล์ประสาททั้งหมดนี้ก็จะทำงาน และรวมภาพทางความคิดที่สมบูรณ์ขึ้นมา 00:01:35.850 --> 00:01:39.029 โลมาถูกเข้ารหัสด้วยกลุ่มเซลล์ประสาท ที่แตกต่างกันไป 00:01:39.029 --> 00:01:41.050 อันที่จริง วัตถุทุกอย่างที่คุณเคยเห็น 00:01:41.050 --> 00:01:45.290 ถูกเข้ารหัสโดยกลุ่มเซลล์ประสาท ที่มีความเกี่ยงข้องกับมัน 00:01:45.290 --> 00:01:49.240 เซลล์ประสาทถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยการส่งสัญญาณที่สอดคล้องกัน 00:01:49.240 --> 00:01:52.510 แต่หลักการนี้ไม่ได้อธิบาย จำนวนที่ไม่จำกัดของวัตถุ 00:01:52.510 --> 00:01:57.240 ที่เราสามารถเนรมิตจินตภาพขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องเห็นมันมาก่อน 00:01:57.240 --> 00:02:02.480 กลุ่มเซลล์ประสาทสำหรับกรณีของโลมา ที่เลี้ยงลูกสับปะรดอยู่นั้น ไม่ได้มีอยู่ 00:02:02.480 --> 00:02:04.922 แล้วคุณจินตนาการถึงมันได้อย่างไร 00:02:04.922 --> 00:02:07.760 สมมติฐานหนึ่งที่เรียกว่า "ทฤษฎีการสังเคราะห์ทางความคิด" 00:02:07.760 --> 00:02:11.130 กล่าวว่า เวลาเป็นกุญแจสำคัญ เช่นเดียวกับทฤษฎีก่อนหน้านี้ 00:02:11.130 --> 00:02:13.941 ถ้ากลุ่มเซลล์ประสาท สำหรับโลมาและสับปะรด 00:02:13.941 --> 00:02:16.172 ถูกกระตุ้นในคราวเดียวกัน 00:02:16.172 --> 00:02:20.761 เราสามารถรับรู้วัตถุทั้งสองได้ ในลักษณะที่เป็นภาพเดียวกัน 00:02:20.761 --> 00:02:24.041 แต่บางสิ่งในสมองของคุณ จะต้องประสานการส่งสัญญาณ 00:02:24.041 --> 00:02:27.521 บริเวณที่น่าจะมีบทบาทก็คือ คอร์เทกซ์ส่วนพรีฟรอนทอล 00:02:27.521 --> 00:02:31.301 ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้อง กับการจดจำที่ซับซ้อนทั้งหมด 00:02:31.301 --> 00:02:35.172 เซลล์ประสาทในคอร์เทกซ์ส่วนพรีฟรอนทอล เชื่อมต่อกับคอร์เทกซ์ส่วนหลัง 00:02:35.172 --> 00:02:40.040 ด้วยใยประสาท ซึ่งเป็นเซลล์ยาว ๆ เหมือนกับเส้นใยที่ยื่นแขนงออกไป 00:02:40.040 --> 00:02:44.339 ทฤษฎีการสังเคราะห์ทางความคิดเสนอว่า เช่นเดียวกับที่นักเชิดหุ่นกระบอกดึงคันชักหุ่น 00:02:44.339 --> 00:02:47.869 เซลล์ประสาทในคอร์เทกซ์ส่วนพรีฟรอนทอล จะส่งสัญญาณไฟฟ้า 00:02:47.869 --> 00:02:49.582 ลงไปตามใยประสาท 00:02:49.582 --> 00:02:53.410 ไปยังกลุ่มเซลล์ประสาททั้งหลาย ในคอร์เทกซ์ส่วนหลัง 00:02:53.410 --> 00:02:56.292 สิ่งนี้กระตุ้นพวกมันไปพร้อม ๆ กัน 00:02:56.292 --> 00:02:59.409 ถ้ากลุ่มเซลล์ประสาท ถูกกระตุ้นการทำงานในคราวเดียวกัน 00:02:59.409 --> 00:03:04.342 คุณก็จะได้สัมผัสกับภาพประกอบ ราวกับว่าคุณได้เห็นมันจริง ๆ 00:03:04.342 --> 00:03:06.551 การประสานงานอย่างจงใจ ในภาวะที่เรามีสติรู้สึกตัว 00:03:06.551 --> 00:03:09.852 ของกลุ่มเซลล์ประสาทต่าง ๆ โดยคอร์เทกซ์ส่วนพรีฟรอนทอลนี้ 00:03:09.852 --> 00:03:12.052 เรียกว่า การสังเคราะห์ทางความคิด 00:03:12.052 --> 00:03:13.813 เพื่อที่จะใช้งาน การสังเคราะห์ทางความคิดนี้ 00:03:13.813 --> 00:03:19.303 สัญญาณน่าจะต้องไปถึง กลุ่มเซลล์ประสาททั้งสองในเวลาเดียวกัน 00:03:19.303 --> 00:03:21.073 ปัญหาก็คือ เซลล์ประสาทบางเซลล์ 00:03:21.073 --> 00:03:25.083 อยู่ไกลจากคอร์เทกซ์ส่วนพรีฟรอนทอล ออกไปมากเมื่อเทียบกับเซลล์ประสาทอื่น 00:03:25.083 --> 00:03:28.453 ถ้าสัญญาณเดินทางไปตามใยประสาท ในอัตราความเร็วที่เท่ากัน 00:03:28.453 --> 00:03:31.163 พวกมันก็จะไปถึงไม่พร้อมกัน 00:03:31.163 --> 00:03:33.583 คุณไม่สามารถเปลี่ยนความยาว ของการเชื่อมต่อได้ 00:03:33.583 --> 00:03:37.044 แต่สมองของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะที่กำลังพัฒนาอยู่ในช่วงวัยเด็ก 00:03:37.044 --> 00:03:40.884 มีวิธีการเปลี่ยนความเร็วการนำสัญญาณ 00:03:40.884 --> 00:03:45.534 ใยประสาทถูกหุ้มอยู่ในสารจำพวกไขมัน ที่เรียกว่า "ไมอิลิน" 00:03:45.534 --> 00:03:47.343 ไมอิลินนั้นเป็นฉนวน 00:03:47.343 --> 00:03:51.554 และเร่งความเร็วสัญญาณไฟฟ้า ให้เผ่นลงไปตามใยประสาท 00:03:51.554 --> 00:03:55.850 ใยประสาทบางแห่ง มีชั้นไมอิลินมากถึง 100 ชั้น 00:03:55.850 --> 00:03:57.754 บางบริเวณอาจมีเพียงไม่กี่ชั้น 00:03:57.754 --> 00:04:00.055 ใยประสาทชนิดที่มีชั้นไมอิลินหนา 00:04:00.055 --> 00:04:04.154 สามารถที่จะนำสัญญาณ ได้เร็วกว่าใยประสาทที่มีชั้นไมอิลินบางกว่า 00:04:04.154 --> 00:04:06.565 ถึง 100 เท่าหรือมากกว่านั้น 00:04:06.565 --> 00:04:09.995 ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์บางคนคิดว่า การสร้างชั้นไมอิลินที่แตกต่างกันนี้ 00:04:09.995 --> 00:04:13.835 อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เวลา ในการส่งสัญญาณในสมองมีความเป็นเอกภาพ 00:04:13.835 --> 00:04:16.925 และส่งผลต่อความสามารถ ในการสังเคราะห์ทางความคิดของเรา 00:04:16.925 --> 00:04:20.255 การสร้างชั้นไมอิลินส่วนใหญ่ เกิดขึ้นในวัยเด็ก 00:04:20.255 --> 00:04:21.814 ฉะนั้น ครั้งยังวัยเยาว์ 00:04:21.814 --> 00:04:26.115 จินตนาการอันสุดบรรเจิดของเรา อาจมีบทบาทในการก่อร่างสร้างสมองของเรา 00:04:26.115 --> 00:04:28.381 ซึ่งเส้นการเชื่อมต่อที่ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นไมอิลิน อย่างประณีตบรรจง 00:04:28.381 --> 00:04:31.824 สามารถประดิษฐ์มโหรีแห่งความสร้างสรรค์ ไปชั่วชีวิตของเราได้