WEBVTT 00:00:01.765 --> 00:00:04.765 ปัญญาประดิษฐ์ 00:00:04.789 --> 00:00:08.318 สิ่งประดิษฐ์ที่เข้ามาแทรกแซง อุตสาหกรรมทุกชนิด 00:00:08.961 --> 00:00:11.004 แล้วกับไอศครีมล่ะ 00:00:11.879 --> 00:00:15.518 รสชาติสุดตะลึงแบบไหนกัน ที่เราสามารถสร้างได้ 00:00:15.542 --> 00:00:18.518 ด้วยพลังของปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง 00:00:19.011 --> 00:00:23.172 ฉันจึงจับกลุ่มกับนักเขียนโค้ด จากโรงเรียนมัธยมต้น Kealing 00:00:23.196 --> 00:00:25.437 เพื่อค้นหาคำตอบของคำถามนี้ 00:00:25.461 --> 00:00:30.542 พวกเขารวบรวมไอศครีมทั้งหมด 1,600 รสชาติ ที่มีอยู่ 00:00:30.566 --> 00:00:36.111 และเราก็ป้อนเข้าอัลกอริทึม เพื่อดูว่ามันจะสร้างอะไร 00:00:36.111 --> 00:00:39.512 และนี่คือบางรสที่ AI คิดขึ้นมา NOTE Paragraph 00:00:39.512 --> 00:00:41.934 [ขยะฟักทอง] NOTE Paragraph 00:00:41.934 --> 00:00:43.368 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:00:43.368 --> 00:00:46.508 [แยมเนยถั่วเหนียวเหนอะหนะ] NOTE Paragraph 00:00:46.508 --> 00:00:48.192 [โรคครีมสตรอเบอรี่] NOTE Paragraph 00:00:48.192 --> 00:00:50.338 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:00:50.338 --> 00:00:54.634 รสชาติพวกนี้ไม่อร่อยเอาซะเลย ในขณะที่เราหวังว่าพวกเขาจะ 00:00:54.963 --> 00:00:56.860 งั้นคำถามก็คือ มันเกิดอะไรขึ้น 00:00:56.860 --> 00:00:58.271 มันผิดพลาดตรงไหน 00:00:58.271 --> 00:01:00.375 นี่ AI พยายามจะฆ่าเราหรอ 00:01:01.015 --> 00:01:05.512 หรือมันพยายามทำตามที่เราสั่ง และมันเป็นปัญหาหรอ NOTE Paragraph 00:01:06.577 --> 00:01:09.057 ในภาพยนต์ เมื่อมีบางอย่างผิดปกติกับ AI 00:01:09.057 --> 00:01:11.791 มันเป็นเพราะ AI เป็นคนตัดสินใจว่า 00:01:11.791 --> 00:01:14.093 มันไม่จำเป็นที่จะต้องทำตามคำสั่ง มนุษย์อีกต่อไป 00:01:14.093 --> 00:01:15.967 และมันมีเป้าหมายของมันเอง ขอบคุณมากๆเลย 00:01:17.267 --> 00:01:20.506 ในความเป็นจริง ถึงแม้ AI ที่เรามี 00:01:20.506 --> 00:01:22.776 ยังไม่ฉลาดพอที่จะทำเช่นนั้น 00:01:22.776 --> 00:01:25.793 มันมีพลังในการคำนวณโดยประมาณ 00:01:25.793 --> 00:01:27.087 พอๆกับไส้เดือนดิน 00:01:27.087 --> 00:01:30.507 หรืออาจจะพอๆกับผึ้งแค่ตัวเดียว 00:01:30.507 --> 00:01:32.747 อันที่จริง อาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ 00:01:32.747 --> 00:01:35.373 เนื่องเพราะเราเรียนรู้สิ่งใหม่เกี่ยวกับสมอง 00:01:35.373 --> 00:01:39.481 นี่ทำให้รู้ชัดว่า AI ยังเทียบไม่ได้กับสมองคนมนุษย์ 00:01:39.481 --> 00:01:45.435 ดังนั้นทุกวันนี้ AI สามารถทำงาน อย่างระบุคนเดินเท้าในภาพ 00:01:45.435 --> 00:01:48.452 แต่มันไม่ได้มีความคิดที่ว่า อะไรคือคนเดินเท้า 00:01:48.452 --> 00:01:53.793 มากไปกว่าว่ามันคือชุด ของเส้น พื้นผิวและสิ่งของ 00:01:53.793 --> 00:01:56.823 มันไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วมนุษย์คืออะไร 00:01:56.823 --> 00:02:00.132 ดังนั้นทุกวันนี้ AI จะทำในสิ่งที่เราสั่งให้ทำ 00:02:00.132 --> 00:02:01.752 มันจะทำถ้ามันทำได้ 00:02:01.752 --> 00:02:04.496 แต่มันอาจไม่ทำในสิ่งที่เราต้องการ NOTE Paragraph 00:02:04.496 --> 00:02:06.936 งั้นลองคิดว่าคุณ พยายามใช้ AI 00:02:06.936 --> 00:02:09.575 เพื่อรวบรวมชิ้นส่วนหุ่นยนต์นี้ 00:02:09.575 --> 00:02:13.798 และประกอบมันกลายเป็นหุ่นยนต์ เพื่อไปจากจุด A ไปจุด B 00:02:13.798 --> 00:02:16.299 ตอนนี้ ถ้าคุณกำลังพยายาม และแก้โจทย์นี้อยู่ 00:02:16.299 --> 00:02:18.676 โดยการเขียนโค้ดแบบเดิม 00:02:18.676 --> 00:02:22.119 คุณจะให้โปรแกรม ทำตามคำแนะนำทีละขั้นตอน 00:02:22.119 --> 00:02:23.467 วิธีการใช้ชิ้นส่วนเหล่านี้ 00:02:23.467 --> 00:02:25.910 วิธีประกอบมันให้กลายเป็นหุ่นยนต์ที่มีขา 00:02:25.910 --> 00:02:29.406 และจากนั้นคือวิธีใช้ขาพวกนั้นไปให้ถึงจุด B 00:02:29.406 --> 00:02:31.815 แต่เมื่อคุณใช้ AI เพื่อแก้โจทย์นี้ 00:02:31.815 --> 00:02:32.999 มันต่างกันเลย 00:02:32.999 --> 00:02:35.413 คุณไม่ได้บอกมันว่า ต้องแก้โจทย์นี้อย่างไง 00:02:35.413 --> 00:02:36.909 คุณแค่ให้เป้าหมายกับมัน 00:02:36.909 --> 00:02:40.202 และมันก็คิดออกด้วยตัวมันเอง ผ่านการลองผิดลองถูก 00:02:40.202 --> 00:02:42.248 เพื่อให้ถึงเป้าหมาย 00:02:42.248 --> 00:02:46.376 และกลับพบว่าวิธีที่ AI มีแนวโน้ม เพื่อแก้ปัญหานี้ 00:02:46.376 --> 00:02:47.890 โดยการทำสิ่งนี้ 00:02:47.890 --> 00:02:51.268 มันประกอบตัวเองเป็นหอคอย และหล่นลงมา 00:02:51.268 --> 00:02:53.139 ลงที่จุด B 00:02:53.139 --> 00:02:55.380 และในทางเทคนิค สิ่งนี้ช่วยแก้ปัญหา 00:02:55.380 --> 00:02:57.653 ทางเทคนิค มันไปยังจุด B 00:02:57.653 --> 00:03:01.936 อันตรายของ AI ไม่ใช่ว่า มันกำลังจะกบฏต่อเรา 00:03:01.936 --> 00:03:06.885 แต่มันกำลังจะทำในสิ่งที่เรา ขอให้ทำแบบเฉพาะเจาะจงเลย 00:03:06.885 --> 00:03:09.406 ดังนั้นแล้วเคล็ดลับ การทำงานร่วมกับ AI ควรจะเป็น: 00:03:09.406 --> 00:03:12.804 เราจะตั้งค่าปัญหาอย่างไร เพื่อที่มันทำสิ่งที่เราต้องการจริงๆ NOTE Paragraph 00:03:14.726 --> 00:03:18.032 เจ้าหุ่นตัวจิ๋วนี้ กำลังถูกควบคุมโดย AI 00:03:18.056 --> 00:03:20.870 AI มาพร้อมกับการออกแบบ สำหรับขาหุ่นยนต์ 00:03:20.894 --> 00:03:24.972 จากนั้นหาวิธีใช้มัน เพื่อผ่านอุปสรรคเหล่านี้ทั้งหมด 00:03:24.996 --> 00:03:27.737 แต่เมื่อ David Ha ตั้งค่าการทดลองนี้ 00:03:27.761 --> 00:03:30.617 เขาตั้งค่ามันขึ้นมา ด้วยข้อจำกัดที่เข้มงวดมาก 00:03:30.641 --> 00:03:33.933 ว่า AI นั้นได้รับอนุญาต ที่จะทำให้ขาใหญ่แค่ไหน 00:03:33.933 --> 00:03:35.254 เพราะมิฉะนั้น... NOTE Paragraph 00:03:45.523 --> 00:03:48.562 (เสียงหัวเราะ) 00:03:48.562 --> 00:03:52.334 และถ้าพูดในทางเทคนิคแล้ว มันก็ไปถึงจุดหมายแหละค่ะ NOTE Paragraph 00:03:52.334 --> 00:03:57.304 ดังนั้นคุณจะเห็นว่ามันยากแค่ไหนที่จะให้ AI ทำสิ่งที่ง่ายเพียงแค่เดิน 00:03:57.304 --> 00:04:01.134 ดังนั้นเมื่อเห็น AI ทำเช่นนี้ คุณอาจพูดว่า มันไม่ยุติธรรม 00:04:01.136 --> 00:04:03.751 คุณไม่สามารถเป็น หอคอยสูงและล้มตัวลงมา 00:04:03.751 --> 00:04:07.210 สิ่งที่คุณต้องทำจริงๆ คือการใช้ขาเพื่อเดิน 00:04:07.210 --> 00:04:09.989 ผลปรากฎว่า มันก็ไม่ได้ผลเช่นกัน 00:04:09.989 --> 00:04:13.122 งานของ AI ตัวนี้คือเคลื่อนที่ให้เร็ว 00:04:13.122 --> 00:04:16.727 พวกมันไม่ได้ถูกบอกว่า มันต้องวิ่งเพื่อไปข้างหน้า 00:04:16.727 --> 00:04:19.485 หรือว่ามันห้ามใช้แขนช่วย 00:04:19.485 --> 00:04:24.129 นี่คือสิ่งที่คุณได้รับ เมื่อคุณฝึก AI ให้เคลื่อนที่เร็ว 00:04:24.129 --> 00:04:27.687 สิ่งที่คุณจะได้ คือการตีลังกา และท่าเดินโง่ ๆ 00:04:27.687 --> 00:04:29.670 จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย 00:04:29.670 --> 00:04:32.870 ดังนั้นการกระตุกไปมา NOTE Paragraph 00:04:32.870 --> 00:04:34.500 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:04:35.241 --> 00:04:38.495 ในความคิดของฉัน คุณรู้มั้ย อะไรที่จะประหลาดกว่านี้มาก 00:04:38.519 --> 00:04:39.915 อย่างหุ่นยนต์ "Terminator" 00:04:40.256 --> 00:04:44.011 การแฮ็ก "The Matrix" เป็นอีกสิ่งหนึ่ง AI นั้นจะทำถ้าคุณให้โอกาสมัน 00:04:44.035 --> 00:04:46.552 ดังนั้นถ้าคุณฝึก AI ในแบบจำลอง 00:04:46.576 --> 00:04:50.689 มันจะเรียนรู้วิธีทำสิ่งต่าง ๆ เช่นแฮ็คเข้าไปใน ความผิดพลาดของคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการจำลอง 00:04:50.713 --> 00:04:52.920 และเก็บเกี่ยวพวกมันเป็นพลังงาน 00:04:52.944 --> 00:04:58.419 หรือมันจะคิดว่าทำอย่างไรที่จะ กระตุกตัวซ้ำๆ ลงกับพื้นเพื่อเคลื่อนที่เร็วๆ 00:04:58.443 --> 00:05:00.028 เมื่อคุณทำงานร่วมกับ AI 00:05:00.052 --> 00:05:02.441 มันไม่เหมือนกับ การทำงานกับมนุษย์คนอื่น 00:05:02.441 --> 00:05:06.562 และยังเหมือนทำงานกับ พลังธรรมชาติประหลาดๆสักอย่าง 00:05:06.562 --> 00:05:11.185 และเป็นเรื่องง่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ ที่ให้ AI แก้ปัญหาที่ผิด 00:05:11.209 --> 00:05:15.747 และบ่อยครั้งเราไม่ได้ตระหนักถึงมัน จนกว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดขึ้นมาจริงๆ NOTE Paragraph 00:05:16.242 --> 00:05:18.322 นี่คือการทดลองที่ฉันทำ 00:05:18.346 --> 00:05:21.528 ฉันให้ปัญญาประดิษฐ์ลอกแถบสีเหล่านี้ 00:05:21.552 --> 00:05:23.298 เพื่อคิดค้นสีใหม่ขึ้นมา 00:05:23.322 --> 00:05:26.309 โดยให้รายการสีเหมือนกับ อันที่อยู่ทางซ้ายมือนี้ 00:05:26.798 --> 00:05:29.802 และนี่คือสิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์ ให้ผลลัพท์ออกมา NOTE Paragraph 00:05:29.826 --> 00:05:32.969 [อึของซินดิส, เสมือนอึ, ความเจ็บปวด, ขนลับหงอก] NOTE Paragraph 00:05:32.993 --> 00:05:37.223 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:05:39.177 --> 00:05:41.063 ดังนั้นทางเทคนิคแล้ว 00:05:41.087 --> 00:05:42.951 มันทำอย่างที่ฉันสั่งให้ทำ 00:05:42.975 --> 00:05:46.283 ฉันคิดว่าฉันขอให้มัน ตั้งชื่อสีที่ดูดี 00:05:46.307 --> 00:05:48.614 แต่สิ่งที่ฉันสั่งให้ทำจริงๆ 00:05:48.638 --> 00:05:51.724 แค่ลอกรูปแบบของกลุ่มอักษร 00:05:51.748 --> 00:05:53.653 อย่างที่มันเห็นในตัวต้นฉบับ 00:05:53.677 --> 00:05:56.775 และฉันไม่ได้บอกอะไรเลย เกี่ยวกับความหมายของคำ 00:05:56.799 --> 00:05:59.359 หรือว่าอาจจะมีบางคำ 00:05:59.383 --> 00:06:02.272 ที่มันควรเลี่ยงที่จะใช้ ในแทบสีเหล่านี้ 00:06:03.141 --> 00:06:06.635 ดังนั้นโลกทั้งโลกของมัน คือข้อมูลที่ฉันให้มัน 00:06:06.659 --> 00:06:10.755 เช่นเดียวกับ รสของไอศครีม มันไม่รู้อะไรอื่นเลย NOTE Paragraph 00:06:12.491 --> 00:06:14.151 ดังนั้น จากข้อมูลที่ให้มันนี่เอง 00:06:14.151 --> 00:06:18.684 บ่อยครั้งที่เราบอกให้ AI ทำสิ่งที่ผิดโดยไม่เราตั้งใจ 00:06:18.684 --> 00:06:21.740 นี่คือปลาที่เรียกว่าเทนช์ 00:06:21.740 --> 00:06:23.590 และมีกลุ่มนักวิจัย 00:06:23.590 --> 00:06:27.492 ที่เป็นคนฝึกให้ AI ระบุ ปลาเทนช์ในรูปนี้ 00:06:27.492 --> 00:06:28.816 แต่เมื่อพวกเขาถามมัน 00:06:28.816 --> 00:06:32.252 ส่วนไหนของภาพที่ใช้ เพื่อระบุปลาจริงๆล่ะ 00:06:32.259 --> 00:06:34.035 นี่คือสิ่งที่ AI บอกมาค่ะ 00:06:35.195 --> 00:06:37.417 ใช่ พวกนั้นคือนิ้วมือมนุษย์ 00:06:37.417 --> 00:06:39.496 ทำไมถึงต้องมองหานิ้วมือมนุษย์ล่ะ 00:06:39.496 --> 00:06:42.135 ถ้ามันพยายามที่จะระบุตัวปลา 00:06:42.135 --> 00:06:45.306 คือปรากฎว่าปลาเทนช์ ตัวนั้นคือถ้วยรางวัล 00:06:45.306 --> 00:06:49.150 และในภาพจำนวนมาก ที่ AI ได้เห็นปลาตัวนี้ 00:06:49.154 --> 00:06:50.315 ในระหว่างการฝึก 00:06:50.315 --> 00:06:51.901 ปลามีลักษณะเช่นนี้ NOTE Paragraph 00:06:51.901 --> 00:06:53.473 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:06:53.497 --> 00:06:56.827 และมันก็ไม่รู้ว่านิ้ว ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของปลา NOTE Paragraph 00:06:58.808 --> 00:07:02.928 ฉะนั้นคุณจะเห็นว่ามันยากเหลือเกิน ที่จะออกแบบ AI 00:07:02.952 --> 00:07:06.271 ที่สามารถเข้าใจจริงๆว่า มันกำลังดูอะไรอยู่ 00:07:06.295 --> 00:07:09.157 และนั้นคือเหตุผลที่การออกแบบ กระบวนการจดจำรูปภาพ 00:07:09.181 --> 00:07:11.248 ในพาหนะไร้คนขับถึงได้ยากนัก 00:07:11.272 --> 00:07:13.477 และนั้นคือเหตุผลที่ยานไร้คนขับ ทั้งหลายล้มเหลว 00:07:13.501 --> 00:07:16.386 นั้นก็เพราะ AI เกิดความสับสน 00:07:16.410 --> 00:07:20.418 ฉันอยากจะพูดเกี่ยวกับตัวอย่างจากปี 2016 00:07:20.442 --> 00:07:24.897 ครั้งนั้นได้เกิดอุบัติเหตุเมื่อมีคน ใช้ระบบคนขับโดยใช้ AI ของ Tesla 00:07:24.921 --> 00:07:28.335 แต่แทนที่จะใช้บนทางด่วน อย่างที่มันถูกออกแบบมา 00:07:28.359 --> 00:07:30.564 พวกเขากลับใช้มันบนถนน 00:07:31.239 --> 00:07:32.414 และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ 00:07:32.438 --> 00:07:35.834 มีรถบรรทุกขับอยู่ข้างหน้ารถ และรถไม่สามารถเบรกได้ 00:07:36.507 --> 00:07:41.269 ตอนนี้ AI ถูกสอนให้ จดจำรถบรรทุกในรูป 00:07:41.293 --> 00:07:43.438 แต่สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นคือ 00:07:43.462 --> 00:07:46.393 AI ถูกสอนให้จดจำ รถบรรทุกที่ขับบนทางด่วน 00:07:46.417 --> 00:07:49.316 ที่ที่คุณน่าจะเดาได้ ว่าจะเห็นรถบรรทุกจากข้างหลัง 00:07:49.340 --> 00:07:52.760 ภาพรถบรรทุกด้านข้างไม่ควร เกิดขึ้นบนทางด่วน 00:07:52.784 --> 00:07:56.239 และเมื่อ AI เห็นรถบรรทุกเช่นนั้น 00:07:56.263 --> 00:08:01.090 มันกลับคิดว่าสิ่งนั้น คล้ายกับป้ายจราจร 00:08:01.114 --> 00:08:03.387 และดังนั้นมันจึงปลอดภัยที่จะขับต่อ NOTE Paragraph 00:08:04.114 --> 00:08:06.694 นี่คือความผิดพลาดของ AI จากสายงานต่างๆ 00:08:06.718 --> 00:08:10.178 Amazon ต้องยอมล้มเลิก อัลกอริธิมจัดเรียงเรซูเม่ 00:08:10.202 --> 00:08:11.422 ที่พวกเขากำลังทำกันอยู่ 00:08:11.446 --> 00:08:15.354 เมื่อพวกเขาค้นพบว่าอัลกอริทึม เรียนรู้ที่จะเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง 00:08:15.378 --> 00:08:18.094 สิ่งที่เกิดขึ้นคือพวกเขาฝึกมัน ในตัวอย่างเรซูเม่ 00:08:18.118 --> 00:08:20.360 ของคนที่เคยถูกจ้างมาแล้วในอดีต 00:08:20.384 --> 00:08:24.407 และจากตัวอย่างนี้ AI เรียนรู้ เพื่อหลีกเลี่ยงเรซูเม่ของ 00:08:24.431 --> 00:08:26.457 คนที่มาจากวิทยาลัยสตรี 00:08:26.481 --> 00:08:29.287 หรือใครก็ตามที่มีคำว่า "ผู้หญิง" สักแห่งในเร่ซูเม่พวกเขา 00:08:29.311 --> 00:08:33.887 ไม่ว่าจะ "นักฟุตบอลหญิง" หรือ "สมาคมวิศวะกรหญิง" 00:08:33.911 --> 00:08:37.885 AI ไม่รู้ว่ามันไม่จำเป็นจะต้อง สำเนาข้อความ 00:08:37.909 --> 00:08:39.887 ที่มันได้เคยเห็นมนุษย์ทำไปเหล่านี้ 00:08:39.911 --> 00:08:43.088 และในทางเทคนิค มันทำอย่างที่มันถูกร้องขอให้ทำ 00:08:43.112 --> 00:08:45.909 พวกมันถูกร้องขอโดยไม่ตั้งใจ ให้ทำสิ่งผิด NOTE Paragraph 00:08:46.653 --> 00:08:49.548 และมันเกิดขึ้นตลอดเวลากับ AI 00:08:50.120 --> 00:08:53.711 AI สามารถทำตัวไม่เป็นประโยชน์ โดยที่มันไม่รู้ตัว 00:08:53.735 --> 00:08:58.813 ฉะนั้น AI ที่แนะนำ เนื่อหาใหม่ๆใน Facebook ใน Youtube 00:08:58.837 --> 00:09:02.376 พวกมันถูกปรับแต่ง เพื่อเพี่มยอดคลิกและยอดรับชม 00:09:02.400 --> 00:09:05.836 และโชคร้าย วิธีที่พวกมันทำ 00:09:05.860 --> 00:09:10.363 คือการแนะนำเนื้อหา เกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดหรือการคลั่งศาสนา 00:09:10.902 --> 00:09:16.204 ตัว AI เองไม่มีแนวคิดใดๆ ว่าเนื้อหาพวกนี้คืออะไรกันแน่ 00:09:16.228 --> 00:09:19.623 และพวกมันก็ไม่มีแนวคิด ว่าผลกระทบที่ตามมาอาจเป็นอะไร 00:09:19.647 --> 00:09:21.756 ของการแนะนำเนื้อหานี้ NOTE Paragraph 00:09:22.296 --> 00:09:24.307 ฉะนั้น เมื่อเราทำงานร่วมกับ AI 00:09:24.331 --> 00:09:28.513 มันขึ้นอยู่กับพวกเราเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา 00:09:28.537 --> 00:09:30.860 และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดต่างๆ 00:09:30.884 --> 00:09:35.410 ที่จะนำไปสู่ปัญหาเดิมๆนั้นคือการสื่อสาร 00:09:35.434 --> 00:09:39.179 มนุษย์ต้องเรียนรู้ วิธีสื่อสารกับ AI 00:09:39.203 --> 00:09:43.242 เราต้องเรียนรู้ว่าอะไรที่ AI ทำได้หรือไม่ได้ 00:09:43.266 --> 00:09:46.352 และเพื่อให้เข้าใจว่า ด้วยสมองหนอนจิ๋วๆของมัน 00:09:46.376 --> 00:09:50.389 มันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการให้มันทำ 00:09:51.148 --> 00:09:54.469 ในอีกแง่หนึ่งก็คือ เราต้องเตรียมพร้อม ที่จะทำงานร่วมกับ AI 00:09:54.493 --> 00:09:59.751 นั่นไม่ใช่ความสามารถระดับสูงของ AI ที่ทุกคนรู้จักในนิยายวิทยาศาสตร์ 00:09:59.775 --> 00:10:02.637 เราต้องเตรียมพร้อมทำงาน ร่วมกับ AI 00:10:02.661 --> 00:10:05.599 ที่เรามีในปัจจุบัน 00:10:05.623 --> 00:10:09.828 และในปัจจุบัน AI ก็ดูจะแปลกมากขึ้นทุกที NOTE Paragraph 00:10:09.852 --> 00:10:11.042 ขอบคุณค่ะ NOTE Paragraph 00:10:11.066 --> 00:10:16.291 (เสียงปรบมือ)