Return to Video

อาลี คาร์ เชลล์แมน: เกมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในเด็กผู้ชาย

  • 0:00 - 0:02
    วันนี้ฉันจะมาเล่าให้คุณฟังค่ะ
  • 0:02 - 0:04
    ว่าเรามีปัญหากับเด็กผู้ชาย
  • 0:04 - 0:06
    และมันเป็นปัญหาที่ร้ายแรงสำหรับเด็กผู้ชาย
  • 0:06 - 0:09
    วัฒนธรรมของพวกเขาไม่เข้ากับโรงเรียน
  • 0:09 - 0:11
    แล้วฉันกำลังจะเล่าให้คุณฟัง
  • 0:11 - 0:14
    ถึงวิธีที่เราจะคิดหาทางเอาชนะปัญหาเหล่านั้นค่ะ
  • 0:14 - 0:17
    อย่างแรก ฉันอยากจะเริ่มต้นที่ว่า นี่คือเด็กผู้ชาย
  • 0:17 - 0:19
    และนี่คือเด็กผู้หญิง
  • 0:19 - 0:21
    และนี่ก็คงเป็นภาพทั่วๆไป
  • 0:21 - 0:23
    เวลาที่คุณนึกถึงเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง
  • 0:23 - 0:25
    วันนี้ ถ้าชั้นจะมาชี้แจงความแตกต่างระหว่างเพศ
  • 0:25 - 0:27
    คุณก็อาจจะปฏิเสธสิ่งที่ฉันจะพูด
  • 0:27 - 0:29
    ดังนั้น ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นค่ะ ฉันไม่ได้อยากทำอย่างนั้นด้วย
  • 0:29 - 0:32
    นี่เป็นเด็กผู้ชายอีกแบบหนึ่ง และเด็กผู้หญิงอีกแบบหนึ่ง
  • 0:33 - 0:35
    ดังนั้น ประเด็นในวันนี้คือ ไม่ใช่ว่าเด็กผู้ชายทุกคน
  • 0:35 - 0:37
    จะอยู่ในกรอบที่คงตัวของความคิด
  • 0:37 - 0:40
    ที่เรามักคิดว่าเด็กชายกับเด็กหญิงเป็นอย่างนี้อย่างนั้น
  • 0:40 - 0:42
    และไม่ใช่ว่าเด็กผู้หญิงทุกคนจะอยู่ในกรอบที่
  • 0:42 - 0:44
    ที่เรามักนึกถึงเมื่อพูดถึงเด็กหญิง
  • 0:44 - 0:47
    แต่ก็เป็นความจริงที่ เด็กผู้ชายส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมีวิถีอย่างหนึ่ง
  • 0:47 - 0:49
    และเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มีแนวโน้มที่จะมีวิถีหนึ่ง
  • 0:49 - 0:52
    ประเด็นคืออย่างนี้ค่ะ สำหรับเด็กผู้ชาย
  • 0:52 - 0:55
    วิถีและวัฒนธรรมที่พวกเขายึดถือ
  • 0:55 - 0:57
    เข้ากันไม่ได้กับโรงเรียนทุกวันนี้
  • 0:57 - 0:59
    เรารู้ได้อย่างไรน่ะหรือคะ
  • 0:59 - 1:01
    โครงการเด็กผู้หญิงร้อยคน
  • 1:01 - 1:04
    เสนอสถิติที่ชัดเจนให้เราเห็นค่ะ
  • 1:04 - 1:07
    ตัวอย่างเช่น สำหรับเด็กผู้หญิงทุกๆ 100 คน ที่ถูกพักการเรียน
  • 1:07 - 1:10
    จะมีเด็กผู้ชาย 250 คน ที่ถูกพักการเรียน
  • 1:10 - 1:13
    สำหรับเด็กผู้หญิงทุกๆ 100 คน ที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียน
  • 1:13 - 1:16
    จะมีเด็กผู้ชาย 335 คน ที่ถูกไล่ออก
  • 1:16 - 1:18
    สำหรับเด็กผู้หญิงทุกๆ 100 คน ที่ต้องการการศึกษาภาคพิเศษ
  • 1:18 - 1:20
    จะมีเด็กผู้ชาย 217 คน
  • 1:20 - 1:22
    สำหรับเด็กผู้หญิง 100 คนที่บกพร่องทางการเรียน
  • 1:22 - 1:25
    จะมีเด็กผู้ชาย 276 คน
  • 1:25 - 1:27
    สำหรับเด็กผู้หญิงทุกๆ 100 คน
  • 1:27 - 1:29
    ที่ถูกวินิจฉัยว่าบกพร่องทางอารมณ์
  • 1:29 - 1:31
    เราพบเด็กผู้ชาย 324 คน
  • 1:31 - 1:34
    อีกอย่างหนึ่งค่ะ ตัวเลขเหล่านี้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • 1:34 - 1:36
    ถ้าบังเอิญว่าคุณผิวดำ
  • 1:36 - 1:38
    ถ้าบังเอิญว่าคุณจน
  • 1:38 - 1:41
    ถ้าบังเอิญว่าคุณอยู่ในโรงเรียนที่แออัด
  • 1:42 - 1:44
    และถ้าคุณเป็นเด็กผู้ชาย
  • 1:44 - 1:46
    คุณมีโอกาสมากกว่าถึง 4 เท่า
  • 1:46 - 1:48
    ที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ADHD
  • 1:48 - 1:51
    โรคสมาธิสั้นและภาวะไม่อยู่นิ่ง
  • 1:51 - 1:54
    แต่ก็ยังมีอีกมุมหนึ่งของเรื่องค่ะ
  • 1:54 - 1:57
    มันก็สำคัญที่เราต้องตระหนัก
  • 1:57 - 1:59
    ว่าผู้หญิงก็ยังต้องการความช่วยเหลือในโรงเรียน
  • 1:59 - 2:01
    ว่าเงินเดือนยังต่ำกว่าอย่างมาก
  • 2:01 - 2:04
    แม้ในกรณีที่เราเปรียบเทียบงานประเภทเดียวกัน
  • 2:04 - 2:06
    และเด็กผู้หญิงก็ยังต้องดิ้นรน
  • 2:06 - 2:08
    ในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาเป็นเวลานาน
  • 2:08 - 2:10
    ทั้งหมดนั้นเป็นความจริงค่ะ
  • 2:10 - 2:12
    แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ห้ามให้เรา
  • 2:12 - 2:14
    สนใจความต้องการด้านการศึกษา
  • 2:14 - 2:16
    ของเด็กผู้ชายระหว่างอายุ 3 ถึง 13 ปี
  • 2:16 - 2:18
    และเราก็ควรจะสนใจค่ะ
  • 2:18 - 2:21
    ที่จริง สิ่งที่เราควรจะดูคือหนังสือวาดเล่นของพวกเขาค่ะ
  • 2:21 - 2:23
    เพราะว่า ความคิดริเริ่ม และโครงการต่างๆ
  • 2:23 - 2:25
    ที่เกิดขึ้น
  • 2:25 - 2:27
    สำหรับผู้หญิงในสาขาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์นั้น
  • 2:27 - 2:29
    วิเศษมากๆค่ะ
  • 2:29 - 2:31
    โครงการเหล่านั้นเป็นประโยชน์อย่างมาก
  • 2:31 - 2:33
    สำหรับผู้หญิงในภาวะเช่นนั้น
  • 2:33 - 2:35
    และ เราควรจะมานั่งคิดว่า
  • 2:35 - 2:37
    ทำอย่างไร เราถึงจะสร้างสิ่งเดียวกันนี้สำหรับเด็กผู้ชายได้ด้วย
  • 2:37 - 2:39
    ในเวลาที่พวกเขายังอายุไม่มาก
  • 2:39 - 2:41
    หรือแม้แต่เวลาที่พวกเขาอายุมากขึ้นแล้ว
  • 2:41 - 2:43
    เราก็ยังพบว่ามีปัญหาอยู่
  • 2:43 - 2:45
    เวลาที่เราดูที่ระดับมหาวิทยาลัย
  • 2:45 - 2:48
    60% ของปริญญาตรี เป็นของผู้หญิง
  • 2:48 - 2:50
    ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
  • 2:50 - 2:52
    ในความเป็นจริง ผู้บริหารมหาวิทยาลัย
  • 2:52 - 2:54
    กำลังไม่สบายใจกับความคิดที่ว่า
  • 2:54 - 2:56
    เราอาจจะไปใกล้ขนาดที่ว่า 70%
  • 2:56 - 2:58
    ของประชากรในมหาวิทยาลัยเป็นผู้หญิง
  • 2:58 - 3:01
    สิ่งนี่ทำให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยกระวนกระวายมาก
  • 3:01 - 3:04
    เพราะว่าเด็กผู้หญิงไม่อยากไปมหาวิทยาลัยที่ไม่มีเด็กผู้ชาย
  • 3:06 - 3:09
    ดังนั้น เราจึงเริ่มเห็นการก่อตั้ง
  • 3:09 - 3:11
    ศูนย์ศึกษาผู้ชาย
  • 3:11 - 3:13
    เพื่อเริ่มคิดว่า ทำอย่างไรเราถึงจะทำให้ผู้ชายมีส่วนร่วม
  • 3:13 - 3:15
    กับประสบการณ์ของพวกเขาในรั้วมหาวิทยาลัย
  • 3:15 - 3:17
    หากคุณพูดกับคณะในหมาวิทยาลัย พวกเขาอาจพูดว่า
  • 3:17 - 3:20
    "เออ อืม พวกเขาเล่นวิดีโอเกม
  • 3:20 - 3:23
    และพวกเขาเล่นพนันออนไลน์ตลอดทั้งคือ
  • 3:23 - 3:25
    และพวกเขาก็เล่น World of Warcraft
  • 3:25 - 3:27
    ซึ่งนั่นส่งผลต่อ
  • 3:27 - 3:30
    ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของพวกเขา"
  • 3:30 - 3:32
    ลองทายดูนะค่ะ
  • 3:32 - 3:34
    แท้จริงแล้ว วิดีโอเกมไม่ได้เป็นสาเหตุของปัญหา
  • 3:34 - 3:36
    มันเป็นสิ่งบ่งชี้อาการ
  • 3:36 - 3:38
    พวกเขาถูกละเลยเป็นเวลานาน
  • 3:38 - 3:41
    ก่อนที่พวกเขาจะทำอย่างนั้น
  • 3:41 - 3:43
    เรามาพูดกันว่า ทำไมเขาถึงถูกเผิกเฉย
  • 3:43 - 3:46
    เมื่อพวกเขาอายุระหว่าง 3 ถึง 13 ขวบ
  • 3:46 - 3:48
    ฉันเชื่อว่ามันมี3เหตุผลค่ะ
  • 3:48 - 3:50
    ที่เด็กชายนั้นไม่เข้ากับ
  • 3:50 - 3:52
    วัฒนธรรมที่โรงเรียนในวันนี้
  • 3:52 - 3:55
    หนึ่งคือ การยอมรับที่เป็นศูนย์
  • 3:55 - 3:57
    ครูโรงเรียนอนุบาลที่ฉันรู้จัก
  • 3:57 - 4:00
    ลูกชายเธอบริจาคของเล่นทั้งหมดของเขาให้กับเธอ
  • 4:00 - 4:03
    และเมื่อเขาทำอย่างนั้น เธอต้องไปตรวจอย่างละเอียด
  • 4:03 - 4:06
    และดึงเอาปืนพลาสติกเล็กๆทั้งหมดออกจากกอง
  • 4:07 - 4:09
    คุณไม่สามารถมีปืน ดาบ และขวานพลาสติก
  • 4:09 - 4:11
    และสิ่งของแนวนั้นทั้งหมด
  • 4:11 - 4:13
    ในโรงเรียนอนุบาล
  • 4:13 - 4:16
    อะไรคือ ความกลัวของเราที่ว่าเด็กเหล่านั้นจะเล่นกับปืน
  • 4:16 - 4:18
    ฉันหมายความอย่างนั้่นจริงๆนะ
  • 4:18 - 4:21
    แต่นี่เป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า
  • 4:21 - 4:24
    ปัจจุบัน คุณไม่สามารถเล่นอึกทึกได้ในสนามเด็กเล่น
  • 4:24 - 4:26
    ฉันไม่ได้สนับสนุนการแกล้งกันนะค่ะ
  • 4:26 - 4:28
    ฉันไม่ได้แนะนำว่า
  • 4:28 - 4:31
    เราควรจะอนุญาตให้มีปืนและมีดในโรงเรียน
  • 4:31 - 4:33
    แต่เมื่อเรากล่าวถึง
  • 4:33 - 4:35
    เด็กลูกเสือในระดับมัธยม
  • 4:35 - 4:37
    ที่มีรถจอดคาอยู่ที่ลานจอดรถ
  • 4:37 - 4:39
    ซึ่งมีมีดพกอยู่ในนั้น
  • 4:39 - 4:41
    เขาต้องถูกพักการเรียน
  • 4:41 - 4:44
    ฉันคิดว่าเราทำเกินไปกับสิ่งที่เรียกว่า การยอมรับที่เป็นศูนย์
  • 4:44 - 4:47
    อีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นการยอมรับที่เป็นศูนย์นี้ อยู่ในงานเขียนของเด็กชาย
  • 4:47 - 4:49
    ในหลายๆห้องเรียน ในปัจจุบัน
  • 4:49 - 4:51
    คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เขียนอะไรที่เกี่ยวกับความรุนแรง
  • 4:51 - 4:53
    คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เขียนอะไรที่
  • 4:53 - 4:56
    เกี่ยวกับวิดีโอเกม หัวเรื่องเหล่านี้ถูกแบน
  • 4:56 - 4:58
    เด็กชายกลับมาจากโรงเรียน เขาอาจบ่นว่า
  • 4:58 - 5:00
    "ผมเกลียดเขียนหนังสือครับ"
  • 5:00 - 5:02
    "ทำไมถึงเกลียดล่ะจ๊ะ ลูก เขียนหนังสือมันไม่ดีตรงไหนหรอ"
  • 5:02 - 5:05
    "ตอนนี้ผมต้องเขียนแต่สิ่งที่ครูบอกให้เขียนครับ"
  • 5:05 - 5:08
    "โอเค แล้วครูบอกให้เขียนอะไรจ๊ะ"
  • 5:08 - 5:10
    "กลอนครับ ผมต้องเขียนกลอน"
  • 5:10 - 5:12
    และมีช่วงเล็กๆช่วงหนึ่ง ในชีวิตผม
  • 5:12 - 5:14
    ที่ผมไม่ได้อยากเขียนของพวกนั้นเหมือนกัน
  • 5:14 - 5:17
    "อ้าว แล้วหนูอยากเขียนอะไรจ๊ะ หนูอยากเขียนเกี่ยวกับอะไร"
  • 5:17 - 5:20
    "ผมอยากเขียนเกี่ยวกับวิดีโอเกมครับ ผมอยากเขียนเกี่ยวกับการอัพเลเวล
  • 5:20 - 5:22
    ผมอยากเขียนเกี่ยวกับโลกที่น่าสนใจโลกนี้ครับ
  • 5:22 - 5:25
    ผมอยากเขียนเกี่ยวกับ ทอร์นาโดที่พัดมาที่บ้าน
  • 5:25 - 5:27
    พัดหน้าต่างกระจาย
  • 5:27 - 5:29
    และทำลายเฟอร์นิเจอร์และฆ่าทุกๆคน"
  • 5:29 - 5:31
    "ก็ได้ โอเค"
  • 5:31 - 5:33
    แล้วถ้าคุณไปบอกครูแบบนั้น
  • 5:33 - 5:36
    พวกครูจะถามกลับด้วยความจริงจังว่า
  • 5:36 - 5:39
    "เราควรจะส่งเด็กคนนี้ให้นักจิตวิทยาดีไหม"
  • 5:39 - 5:42
    คำตอบคือ ไม่ เขาก็แค่เด็กผู้ชาย
  • 5:42 - 5:45
    แค่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ
  • 5:45 - 5:47
    มันไม่โอเคที่จะเขียนสิ่งเหล่านี้
  • 5:47 - 5:49
    ในห้องเรียน ในปัจจุบัน
  • 5:49 - 5:51
    และนั่นคือเหตุผลข้อแรก
  • 5:51 - 5:53
    นโยบายการยอมรับความเห็นที่เป็นศูนย์ และชีวิตที่เด็กๆต้องทนอยู่
  • 5:53 - 5:56
    สาเหตุประการต่อมาคือ วัฒนธรรมของเด็กผู้ชายนั้น ไม่เข้ากับวัฒนธรรมโรงเรียน
  • 5:56 - 5:58
    ครูผู้ชายมีจำนวนน้อยกว่า
  • 5:58 - 6:01
    ใครก็ตามที่อายุเกิน 15 อาจไม่เข้าใจนี่หมายความว่าอะไร
  • 6:01 - 6:03
    เพราะว่า 10 ปีที่ผ่านมานี้
  • 6:03 - 6:05
    จำนวนครู (เพศชาย) ในระดับประถมศึกษา
  • 6:05 - 6:07
    ถูกตัดเหลือครึ่งหนึ่ง
  • 6:07 - 6:09
    ลดจาก 14 เปอร์เซ็นต์
  • 6:09 - 6:11
    เป็น7เปอร์เซ็นต์
  • 6:11 - 6:13
    นั่นหมายความว่า 93 เปอร์เซ็นต์ของครู
  • 6:13 - 6:15
    ที่เด็กชายเหล่านั้นไปเรียนด้วยที่โรงเรียนประถม
  • 6:15 - 6:17
    เป็นผู้หญิง
  • 6:17 - 6:19
    แล้วปัญหาคืออะไร
  • 6:19 - 6:21
    ผู้หญิงนั้นเก่ง แน่นอนอยู่แล้ว
  • 6:21 - 6:24
    แต่ต้นแบบเพศชายสำหรับเด็กชายนั้น
  • 6:24 - 6:26
    ที่จะกล่าวว่าโอเคที่จะเป็นคนฉลาด --
  • 6:26 - 6:28
    พวกเขามี พ่อ ผู้สอนศาสนา
  • 6:28 - 6:30
    หัวหน้าชมรมลูกเสือ
  • 6:30 - 6:33
    แต่สำคัญที่สุด 6ชั่วโมงต่อวัน 5วันต่อสัปดาห์
  • 6:33 - 6:35
    ที่อยู่ในห้องเรียน
  • 6:35 - 6:37
    และห้องเรียนส่วนใหญ่
  • 6:37 - 6:39
    ก็ไม่ใช่ที่ที่ผู้ชายปรากฏอยู่
  • 6:39 - 6:42
    และดังนั้นเด็กๆอาจบอกว่า นี่ไม่ใช่ที่สำหรับเด็กชาย
  • 6:42 - 6:44
    นี่เป็นที่ของเด็กผู้หญิง
  • 6:44 - 6:46
    และผมก็ไม่เก่งในการทำแบบนั้นด้วย
  • 6:46 - 6:48
    ผมคิดว่า ผมควรจะ
  • 6:48 - 6:51
    ไปเล่นเกม เล่นกีฬา หรืออะไรแนวนั้นดีกว่า
  • 6:51 - 6:53
    เพราะเห็นได้ชัดว่าผมไม่ได้เป็นส่วนนึงของที่นี่
  • 6:53 - 6:55
    ผู้ชายเขาไม่อยู่ที่นี่กัน นั่นค่อนข้างชัดเจน
  • 6:55 - 6:57
    ดังนั้น นี่อาจจะเป็นหนทางที่ตรงมากๆ
  • 6:57 - 6:59
    ที่เราเห็นมันเกิดขึ้น
  • 6:59 - 7:01
    แต่อย่างอ้อมๆหน่อย
  • 7:01 - 7:04
    การขาดบุคลากรเพศชายในวัฒนธรรม --
  • 7:04 - 7:06
    คุณมีห้องพักครู
  • 7:06 - 7:08
    และพวกเขาก็สนทนากัน
  • 7:08 - 7:11
    เรื่องที่ โจอี้ และ จอห์นนี่ ตีกันที่สนามเด็กเล่น
  • 7:11 - 7:13
    "เราจะทำอะไรกับเด็กพวกนี้ดี"
  • 7:13 - 7:16
    คำตอบของคำถามนี้เปลี่ยนไป ขึ้นกับว่าใครบ้างที่นั่นอยู่
  • 7:16 - 7:18
    มีผู้ชายอยู่ไหม
  • 7:18 - 7:21
    มีแม่ของเด็กพวกนั้นอยู่ไหม
  • 7:21 - 7:23
    คุณจะเห็นว่า บทสนทนาเปลี่ยน
  • 7:23 - 7:25
    ไปตามคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นเป็นใคร
  • 7:25 - 7:28
    สาเหตุที่สามที่เด็กไม่เข้ากับโรงเรียนในปัจจุบันคือ
  • 7:28 - 7:31
    โรงเรียนอนุบาลเป็นการเรียนลำดับที่2 เพื่อนเอ๋ย
  • 7:31 - 7:34
    เรามีแผนการเรียนที่บีดอัดจริงจัง เกิดขึ้นที่นั่น
  • 7:35 - 7:37
    เมื่อคุณอายุ3ขวบ คุณควรจะเขียนชื่อของคุณได้ชัดเจน
  • 7:37 - 7:40
    ไม่งั้น เราจะถือว่ามันเป็นการพัฒนาการที่ล่าช้า
  • 7:40 - 7:42
    เมื่อคุณเข้าเกรดหนึ่ง
  • 7:42 - 7:45
    คุณควรจะสามารถอ่านข้อความต่างๆ
  • 7:45 - 7:47
    อาจจะมีรูปหรือไม่ก็ได้
  • 7:47 - 7:49
    ในหนังสือ ราว 25 ถึง 30 หน้าได้
  • 7:49 - 7:51
    ถ้าไม่ เราอาจจะต้องจับคุณเข้าโปรแกรม
  • 7:51 - 7:53
    ฝึกทักษะการอ่าน Title 1
  • 7:53 - 7:55
    และถ้าคุณถาม ครูของโปรแกรมนี้ พวกเขาจะบอกว่า
  • 7:55 - 7:58
    เขามีเด็กผู้ชายราว4ถึง5คน ต่อเด็กผู้หญิง1คนในโปรแกรม
  • 7:58 - 8:00
    ในระดับประถมศึกษา
  • 8:00 - 8:03
    เหตุผลที่สิ่งนี้เป็นปัญหา
  • 8:03 - 8:06
    คือ เพราะว่า ข้อความที่เด็กชายกำลังได้รับ
  • 8:06 - 8:08
    คือ "คุณต้องทำ
  • 8:08 - 8:11
    ในสิ่งที่ครูสั่งให้คุณทำ ตลอดเวลา"
  • 8:11 - 8:14
    เงินเดือนของครูนั้นขึ้นกับว่า
  • 8:14 - 8:16
    การที่ไม่มีเด็กคนไหนแย่ และไปถึงจุดสูงสุด
  • 8:16 - 8:18
    รวมไปถึงการตรวจสอบได้ และการวัดผล
  • 8:18 - 8:20
    และทั้งหมดนี้
  • 8:20 - 8:22
    ดังนั้นเขาจะต้องคิดหนทางที่จะ
  • 8:22 - 8:25
    พาเอาเด็กชายเหล่านี้ผ่านแผนการเรียนให้ได้ --
  • 8:25 - 8:27
    และเด็กหญิงด้วยนะค่ะ
  • 8:27 - 8:29
    แผนการเรียนแบบบีบอัดมันไม่ดี
  • 8:29 - 8:32
    สำหรับเด็กที่กระตืนรือร้น
  • 8:32 - 8:34
    และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ
  • 8:34 - 8:37
    ครูจะพูดว่า "นั่งลงนะคะ
  • 8:37 - 8:40
    เงียบด้วยค่ะ ทำแต่ในสิ่งที่บอกให้ทำนะ ทำตามกฎค่ะ
  • 8:40 - 8:42
    บริหารเวลา ตั้งใจ
  • 8:42 - 8:44
    เป็นเด็กผู้หญิงค่ะ"
  • 8:44 - 8:46
    นี่คือสิ่งที่ครูบอกพวกเขา
  • 8:46 - 8:49
    สิ่งที่ครูบอกพวกเขา อย่างอ้อมๆ
  • 8:49 - 8:51
    และนี่มันเป็นปัญหาที่สำคัญมาก มันมาจากไหนล่ะ
  • 8:51 - 8:53
    มันมาจากพวกเราแหละ
  • 8:53 - 8:56
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:56 - 8:59
    พวกเราอยากให้ลูกๆเราอ่าานหนังสือได้ตั้งแต่อายุ หกเดือน
  • 8:59 - 9:01
    พวกคุณเห็นโฆษณานี้รึยังค่ะ
  • 9:01 - 9:03
    พวกเราไปที่ทะเลสาปโวเบกอน
  • 9:03 - 9:06
    ที่ซึ่งเด็กทุกคนอยู่เหนือค่าเฉลี่ย
  • 9:06 - 9:09
    แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เด็กของเรามีสุขภาพดีเลย
  • 9:09 - 9:11
    มันไม่เหมาะสมในเชิงพัฒนาการ
  • 9:11 - 9:13
    และมันเลวร้ายมากกับเด็กผู้ชาย
  • 9:13 - 9:15
    แล้วเราควรทำอะไรละ
  • 9:15 - 9:17
    เราต้องไปเจอเด็กๆในที่ที่พวกเขาอยู่
  • 9:17 - 9:20
    เราต้องเอาตนเองเข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมของเด็กชาย
  • 9:20 - 9:23
    เราต้องเปลี่ยนกรอบความคิดของเรา
  • 9:23 - 9:26
    ในเรื่องการยอมรับในตัวเด็กชายในโรงเรียนประถม
  • 9:27 - 9:30
    ที่เจาะจงไปกว่านั้น เราสามารถทำอะไรที่มันพิเศษสำหรับเด็กๆได้
  • 9:30 - 9:32
    เราสามารถออกแบบเกมที่ดีขึ้น
  • 9:32 - 9:34
    เกมเพื่อการศึกษาส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้
  • 9:34 - 9:36
    เป็นการ์ดเกม
  • 9:36 - 9:38
    พวกมันดีในเรื่องการฝึกทักษะ
  • 9:38 - 9:41
    แต่มันไม่มีความน่าสนใจเชิงลึก นั่นคือเรื่องราวที่ชวนค้นหา
  • 9:41 - 9:43
    ที่มีในวิดีโอเกม
  • 9:43 - 9:45
    ซึ่งเด็กเหล่านั้นสนใจ
  • 9:45 - 9:47
    ดังนั้นเราจึงต้องออกแบบเกมที่ดีขึ้น
  • 9:47 - 9:49
    เราต้องพูดคุยกับครูและผู้ปกครอง
  • 9:49 - 9:51
    กรรมการโรงเรียนและนักการเมือง
  • 9:51 - 9:54
    เราต้องผลักดันให้คนทั่วไปเห็นว่า เราต้องการเด็กผู้ชายมากขึ้นในห้องเรียน
  • 9:54 - 9:56
    เราต้องตรวจสอบนโยบายการยอมรับเป็นศูนย์อย่างระมัดระวัง
  • 9:56 - 9:58
    ว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่
  • 9:58 - 10:00
    เราต้องคิดว่า
  • 10:00 - 10:03
    ทำอย่างไรจึงจะทำให้หลักสูตรไม่กดดัน
  • 10:03 - 10:05
    พยายามที่จะนำเด็กชายไปสู่ที่ว่าง
  • 10:05 - 10:07
    ที่ที่เขาจะรู้สึกสบาย
  • 10:07 - 10:09
    สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดจำเป็นต้องเกิดขึ้น
  • 10:09 - 10:11
    มันมีตัวอย่างที่ดีๆมากมาย
  • 10:11 - 10:13
    ในโรงเรียน --
  • 10:13 - 10:15
    เมื่อไม่นานมานี้ นิวยอร์คไทม์สได้ตีพิมพ์เกี่ยวกับโรงเรียน
  • 10:15 - 10:18
    นักออกแบบเกมคนหนึ่งจาก นิวสคูล (New School)
  • 10:18 - 10:21
    ได้ผลิตเกมที่ใช้ในการศึกษาเกมหนึ่ง
  • 10:21 - 10:24
    แต่มันถูกใช้กับเด็กกลุ่มเล็กๆเท่านั้น
  • 10:24 - 10:26
    และนั่นไม่ค่อยจะส่งผลต่อคนกลุ่มใหญ่มากเท่าไหร่
  • 10:26 - 10:28
    เราต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมและความคิด
  • 10:28 - 10:31
    ของนักการเมือง ผู้บริหารโรงเรียน และผู้ปกครอง
  • 10:31 - 10:33
    เกี่ยวกับวิธีการและอะไรที่เรายอมรับให้มีได้
  • 10:33 - 10:35
    ในโรงเรียน ณ ปัจจุบัน
  • 10:36 - 10:38
    เราต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อการออกแบบเกม
  • 10:38 - 10:40
    เพราะเกมดีๆนั้นราคาแพง
  • 10:40 - 10:42
    และ เวิล์ดออฟวอร์คราฟส์ก็แพงอยู่เหมือนกัน
  • 10:42 - 10:44
    เกมเพื่อการเรียนรู้ส่วนใหญ่นั้นไม่แพง
  • 10:44 - 10:46
    ที่ที่เราเริ่ม
  • 10:46 - 10:49
    เพื่อนร่วมงานฉัน ไมค์ เพ็ตเนอร์ ชอว์น วาชอว์ และฉันเอง
  • 10:49 - 10:51
    เราเริ่มจากการมองไปที่ทัศนคติของครู
  • 10:51 - 10:53
    และค้นหาว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับเกม
  • 10:53 - 10:55
    อะไรที่พวกเขาพูดเกี่ยวกับมัน
  • 10:55 - 10:57
    และเราค้นพบว่า
  • 10:57 - 10:59
    พวกเขาพูดเกี่ยวกับเด็กๆในโรงเรียน
  • 10:59 - 11:01
    คนที่พูดเกี่ยวกับเกม
  • 11:01 - 11:03
    ในทางที่ไม่ดีนัก
  • 11:03 - 11:06
    พวกเขาพูดว่า "โอ้ ใช่ เด็กๆพูดเสมอเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น
  • 11:06 - 11:08
    พวกท่าทางการต่อสู้
  • 11:08 - 11:11
    และความสำเร็จเล็กๆหรือเหรียญตราอะไรนั่น
  • 11:11 - 11:13
    หรืออะไรก็ตามที่พวกเขาได้
  • 11:13 - 11:15
    และพวกเขาก็พูดเสมอๆ"
  • 11:15 - 11:17
    และพวกเขาพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดา
  • 11:17 - 11:19
    แต่ถ้านี่เป็นวัฒนธรรมของคุณ
  • 11:19 - 11:21
    ลองคิดดูว่าจะรู้สึกยังไง
  • 11:21 - 11:23
    มันจะทำให้รู้สึกไม่ดีในการได้รับ
  • 11:23 - 11:25
    คำพูดเหล่านั้น
  • 11:25 - 11:27
    พวกเขากังวลไปกับทุกอย่าง
  • 11:27 - 11:29
    ที่มันเกี่ยวข้องกับความรุนแรง
  • 11:29 - 11:31
    อันเนื่องมากจากนโยบายการยอมรับเป็นศูนย์
  • 11:31 - 11:34
    พวกเขามั่นใจว่า ผู้ปกครองและผู้บริหารจะไม่ยอมรับสิ่งเหล่านี้
  • 11:34 - 11:37
    ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักถึงทัศนคติของครู
  • 11:37 - 11:40
    และหาหนทางที่จะเปลี่ยนแปลงมัน
  • 11:40 - 11:42
    เพื่อว่าครูเหล่านั้นจะได้เปิดใจมากขึ้น
  • 11:42 - 11:45
    และยอมรับวัฒนธรรมของเด็กชายในห้องเรียน
  • 11:45 - 11:47
    เพราะว่า ท้ายที่สุด ถ้าเราไม่ทำเช่นนั้น
  • 11:47 - 11:50
    เราจะมีเด็กชายที่ออกจากโรงเรียนไปหร้อมกับคำว่า
  • 11:50 - 11:52
    "อืม ผมคิดว่านั่นเป็นที่สำหรับเด็กผู้หญิง
  • 11:52 - 11:54
    มันไม่ใช่ที่ของผม
  • 11:54 - 11:57
    ผมไปเล่นเกม เล่นกีฬาดีกว่า"
  • 11:57 - 12:00
    ถ้าเราเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ ถ้าเราสนใจในสิ่งเหล่านี้
  • 12:00 - 12:02
    และเราเอาเด็กชายไปสู่การเรียนรู้ได้
  • 12:02 - 12:05
    พวกเขาจะจากโรงเรียนไปพร้อมกับคำว่า "ผมฉลาด"
  • 12:05 - 12:07
    ขอบคุณค่ะ
  • 12:07 - 12:09
    (เสียงปรบมือ)
Title:
อาลี คาร์ เชลล์แมน: เกมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในเด็กผู้ชาย
Speaker:
Ali Carr-Chellman
Description:

ที่ TEDxPSU อาลี คาร์ เชลล์แมน ชี้ให้เห็นถึงเหตุผล3ประการที่ทำให้ เด็กชายไม่สนใจจะเรียนหนังสือ และแนวทางที่จะดึงเด็กเหล่านี้กลับมาสนใจ ด้วยการนำเอาวัฒนธรรมของพวกเขามาไว้ในห้องเรียน ด้วยกฎใหม่ๆ คือ ปล่อยให้เด็กผู้ชายเป็นอย่างที่เด็กผู้ชายเป็น และการเอาวิดีโอเกมมาใช้ในการสอนและให้ความบันเทิง

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
12:09
Worawach Tungjitcharoen added a translation

Thai subtitles

Revisions