สตีเฟน โคลแมน: อันตรายทางศีลธรรมของอาวุธไม่สังหาร
-
0:00 - 0:02สิ่งที่ผมอยากคุยกับคุณวันนี้
-
0:02 - 0:06มาจากปัญหาที่เหล่าทหารในโลกตะวันตก
-
0:06 - 0:09ทั้งออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษ และอื่นๆ
-
0:09 - 0:11ต้องเผชิญในการลงพื้นที่บางจุด
-
0:11 - 0:14ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องรับมือ ในโลกปัจจุบันทุกวันนี้
-
0:14 - 0:16ถ้าคุณคิดถึงเรื่องที่ว่า
-
0:16 - 0:19เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เราได้ส่งบุคลากร
ทางทหารของออสเตรเลีย -
0:19 - 0:22ไปยังประเทศที่รู้จักกันดี
เช่นอิรักและอัฟกานิสถาน -
0:22 - 0:24แต่ก็ยังมีประเทศอย่างติมอร์ตะวันออก
-
0:24 - 0:26หมู่เกาะโซโลมอน และอื่นๆ
-
0:26 - 0:28และการประจำการหลายจุด
-
0:28 - 0:31ที่เราส่งกำลังทหารไปลงพื้นที่ในขณะนี้
-
0:31 - 0:33ไม่ใช่สงครามตามแบบแผน
-
0:33 - 0:35อันที่จริงแล้ว ภารกิจเป็นจำนวนมาก
-
0:35 - 0:38ที่เราขอให้ทหารลงไปทำ
-
0:38 - 0:41เป็นภารกิจที่ ถ้าเกิดขึ้นในประเทศของตัวเอง
ในออสเตรเลีย อเมริกา และอื่นๆ -
0:41 - 0:44คนที่ทำภารกิจจริงๆ จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
-
0:44 - 0:46ก็เลยทำให้มีปัญหาหลายอย่างปรากฎขึ้นมา
-
0:46 - 0:48จากการใช้ทหารในสถานการณ์เหล่านั้น
-
0:48 - 0:51เนื่องจากพวกเขากำลังปฎิบัติภารกิจที่ไม่ได้ฝึกมา
-
0:51 - 0:53และยังปฎิบัติ
-
0:53 - 0:56แตกต่างจากผู้ปฎิบัติในประเทศของพวกเขาเอง
-
0:56 - 0:58ทั้งในแง่ของการฝึกแตกต่างกัน
-
0:58 - 1:00และอุปกรณ์ที่ใช้ก็แตกต่างกัน
-
1:00 - 1:02มีเหตุผลสองสามข้อว่าทำไม
-
1:02 - 1:04เราถึงส่งทหาร
-
1:04 - 1:06แทนที่จะส่งตำรวจไปทำงานพวกนี้
-
1:06 - 1:09ยกตัวอย่าง ถ้าออสเตรเลียต้องส่งคนพันคน
-
1:09 - 1:11ไปที่ปาปัวตะวันตกวันพรุ่งนี้
-
1:11 - 1:13เราไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพันคนที่ว่าง
-
1:13 - 1:15ที่จะไปได้ง่ายๆ พรุ่งนี้
-
1:15 - 1:17แต่เรามีทหารพันนายที่ไปได้
-
1:17 - 1:20ฉะนั้นเวลาเราต้องส่งใครไป เราก็จะส่งทหารไป
-
1:20 - 1:22เพราะพวกเขาว่างที่จะไป
-
1:22 - 1:24และ ให้ตาย พวกเขาชินกับการออกไปทำสิ่งเหล่านี้
-
1:24 - 1:26และอยู่ได้ด้วยตนเอง
-
1:26 - 1:28โดยไม่ต้องมีการสนับสนุนมากเป็นพิเศษ
-
1:28 - 1:30ดังนั้นในแง่นี้ พวกเขาจึงสามารถทำได้
-
1:30 - 1:33แต่พวกเขาไม่ได้รับการฝึกเหมือนที่ตำรวจได้รับ
-
1:33 - 1:36และที่แน่ๆ พวกเขาไม่ได้มีอุปกรณ์เหมือนตำรวจ
-
1:36 - 1:38ซึ่งนี่จะทำให้พวกเขาประสบปัญหา
-
1:38 - 1:40เวลาที่ต้องรับมือกับปัญหาประเภทนี้
-
1:40 - 1:42โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นประเด็นขึ้นมา
-
1:42 - 1:44แล้วผมสนใจเป็นพิเศษ
-
1:44 - 1:46คือคำถามที่ว่า
-
1:46 - 1:48เวลาที่เราส่งทหารไปทำงานพวกนี้
-
1:48 - 1:50เราควรที่จะมีอุปกรณ์ที่แตกต่างออกไปหรือไม่
-
1:50 - 1:52ซึ่งถ้าจะให้เฉพาะเจาะจงแล้ว ก็คือเราควรที่จะให้พวกเขาได้ใช้
-
1:52 - 1:55อาวุธไม่สังหารบางชนิดที่ตำรวจใช้ หรือไม่
-
1:55 - 1:57เพราะในเมื่อพวกเขาทำงานแบบเดียวกัน
-
1:57 - 1:59พวกเขาอาจจะต้องการอุปกรณ์แบบนั้นเหมือนกัน
-
1:59 - 2:01และแน่นอน มีสถานที่หลายแห่ง
-
2:01 - 2:03ที่คุณคงคิดว่าอุปกรณ์พวกนี้จะมีประโยชน์มาก
-
2:03 - 2:06อย่างเช่น เมื่อคุณตั้งด่านตรวจทางทหาร
-
2:06 - 2:08ถ้ามีคนต้องผ่านด่านเหล่านี้
-
2:08 - 2:10โดยที่ทหารไม่แน่ใจว่า
-
2:10 - 2:12คนที่ผ่านเข้ามา เป็นศัตรูหรือไม่
-
2:12 - 2:14เอาเป็นว่า ถ้ามีคนเดินเข้ามาตรงนี้
-
2:14 - 2:16แล้วพวกเขาถามว่า "คนนี้เป็นมือระเบิดพลีชีพรึเปล่า
-
2:16 - 2:18พวกเขามีอะไรซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าไหม จะเกิดอะไรขึ้น"
-
2:18 - 2:20พวกเขาไม่รู้ว่าคนๆ นี้มีท่าทีเป็นศัตรูหรือไม่
-
2:20 - 2:22ถ้าคนๆ นี้ไม่ทำตามคำสั่ง
-
2:22 - 2:24พวกเขาอาจจะต้องยิง
-
2:24 - 2:26และค่อยมาค้นพบภายหลังว่า
-
2:26 - 2:28ใช่ เรายิงถูกคน
-
2:28 - 2:30หรือจะพบว่า ไม่ใช่ นี่เป็นเพียงผู้บริสุทธิ์
-
2:30 - 2:32ที่ไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
-
2:32 - 2:34ดังนั้น ถ้าพวกเขามีอาวุธไม่สังหาร
-
2:34 - 2:36พวกเขาก็จะพูดว่า "เราสามารถใช้มันในสถานการณ์แบบนั้นได้
-
2:36 - 2:38ถ้าเรายิงคนที่ไม่ได้เป็นศัตรู
-
2:38 - 2:40อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ฆ่าเขา"
-
2:40 - 2:42ในอีกสถานการณ์หนึ่ง
-
2:42 - 2:44รูปถ่ายนี้มาจากหนึ่งในภารกิจจริงๆ
-
2:44 - 2:46ในคาบสมุทรบอลข่าน สมัยปลายทศวรรษที่ 1990
-
2:46 - 2:48สถานการณ์ค่อนข้างต่างออกไป
-
2:48 - 2:50ที่ซึ่งพวกเขารู้ว่าใครเป็นศัตรู
-
2:50 - 2:52รู้ว่ามีคนกำลังยิงใส่พวกเขา
-
2:52 - 2:55หรือทำสิ่งใดก็ตาม ที่ประกาศท่าทีเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ปาหิน หรืออะไรประมาณนี้
-
2:55 - 2:58แต่ถ้าพวกเขาตอบโต้ ก็จะมีคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนั้นด้วย
-
2:58 - 3:01ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ที่อาจจะโดนลูกหลง
-
3:01 - 3:05กลายเป็นความเสียหายข้างเคียง ที่กองทัพไม่อยากจะพูดถึง
-
3:05 - 3:07ดังนั้น พวกเขาก็จะพูดแบบนี้อีกครั้งว่า "ถ้าเราสามารถเข้าถึงอาวุธไม่สังหารได้ล่ะ
-
3:07 - 3:09ถ้าเราเจอคนที่เรารู้ว่าเป็นศัตรู
-
3:09 - 3:11เราสามารถทำอะไรบางอย่าง เพื่อจัดการพวกเขาได้
-
3:11 - 3:13และรู้ว่า ถ้าพวกเขายิงโดนใครก็ตามที่อยู่แถวนั้น
-
3:13 - 3:15อย่างน้อย เราก็พูดได้ว่า เราไม่ได้จะฆ่าพวกเขา"
-
3:15 - 3:17มีอีกคำแนะนำหนึ่ง
-
3:17 - 3:19เนื่องจากเราให้หุ่นยนต์ลงภาคสนามเป็นจำนวนมาก
-
3:19 - 3:21เราจะได้เห็นตอนที่
-
3:21 - 3:24พวกเขาส่งหุ่นยนต์ไปลงพื้นที่จริงๆ โดยที่ไม่มีใครควบคุม
-
3:24 - 3:27พวกมันจะตัดสินใจด้วยตนเอง ว่าจะยิงหรือไม่ยิงใคร
-
3:27 - 3:29โดยที่ไม่มีมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง
-
3:29 - 3:31และคำแนะนำก็คือ เฮ้
-
3:31 - 3:33ถ้าเราจะส่งหุ่นยนต์ออกไป แล้วอนุญาตให้มันทำอย่างนี้
-
3:33 - 3:36อาจจะเป็นความคิดที่ดี อีกแล้ว ว่าควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้
-
3:36 - 3:38ถ้าพวกมันติดอาวุธไม่สังหาร
-
3:38 - 3:41เวลาที่พวกมันตัดสินใจผิดพลาด และยิงผิดคน
-
3:41 - 3:43อีกครั้งที่เราสามารถพูดได้ว่า พวกมันไม่ได้ฆ่าพวกเขาสักหน่อย
-
3:43 - 3:46อาวุธไม่สังหาร มีแตกต่างกัน มากมายหลายชนิด
-
3:46 - 3:48อาวุธบางชนิดมีให้ใช้แล้ว อย่างที่เห็นๆกันอยู่
-
3:48 - 3:50ในขณะที่บางชนิดก็กำลังพัฒนาอยู่
-
3:50 - 3:52คุณมีอาวุธดั้งเดิมอย่างสเปรย์พริกไทย
-
3:52 - 3:54สเปรย์โอซีที่อยู่ด้านบนนี้
-
3:54 - 3:56หรือเครื่องช็อตไฟฟ้าที่อยู่ตรงนี้
-
3:56 - 3:59ตัวที่อยู่บนขวานี้คือเลเซอร์แสบตา
-
3:59 - 4:01ที่มีไว้เพื่อทำให้คนตาบอดชั่วคราว
-
4:01 - 4:03และทำให้พวกเขาสับสน
-
4:03 - 4:05คุณมีกระสุนลูกซองแบบไม่สังหาร
-
4:05 - 4:07ที่บรรจุเม็ดยาง
-
4:07 - 4:09แทนที่เม็ดเหล็กที่มีอยู่ดั้งเดิม
-
4:09 - 4:12และอันที่อยู่ตรงกลางนี้ ที่เป็นรถบรรทุกคันใหญ่
-
4:12 - 4:14ที่จริงคือระบบ Active Denial System
-
4:14 - 4:17ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพสหรัฐฯ กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
-
4:17 - 4:20ว่ากันง่ายๆ มันคือเครื่องยิงรังสีไมโครเวฟอันใหญ่
-
4:20 - 4:23ซึ่งโดยหลักการแล้ว มันก็คือรังสีความร้อนนั่นเอง
-
4:23 - 4:26มันสามารถยิงออกไปได้ไกลมาก
-
4:26 - 4:28เมื่อเปรียบเทียบกับอาวุธประเภทนี้ ชนิดอื่นๆ
-
4:28 - 4:30และใครก็ตามที่ถูกสิ่งนี้ยิงใส่
-
4:30 - 4:32จะรู้สึกถึงความร้อนที่ปะทุขึ้นมาอย่างฉับพลัน
-
4:32 - 4:34ทำให้อยากออกไปให้พ้นทาง
-
4:34 - 4:37มันมีความซับซ้อนกว่าเตาไมโครเวฟมาก
-
4:37 - 4:39แต่โดยพื้นฐานแล้วมันจะทำการต้มโมเลกุลน้ำ
-
4:39 - 4:41ที่อยู่บริเวณผิวนอกของผิวหนังของคุณ
-
4:41 - 4:43ทำให้คุณรู้สึกถึงความร้อนแผดเผารุนแรง
-
4:43 - 4:45จนทำให้คุณพูดว่า "ฉันอยากจะไปให้พ้นทาง"
-
4:45 - 4:48และพวกเขาคิดว่า สิ่งนี้จะต้องมีประโยชน์มากๆ
-
4:48 - 4:50ในสถานที่ ที่เราต้องการสลายฝูงชนออกจากบริเวณหนึ่งๆ
-
4:50 - 4:52ถ้าฝูงชนเหล่านั้น มีท่าทีเป็นศัตรู
-
4:52 - 4:55ถ้าเราต้องการกันผู้คนออกจากสถานที่ใดๆ
-
4:55 - 4:58เราสามารถทำได้โดยใช้อาวุธเหล่านี้
-
4:58 - 5:00ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ามี
-
5:00 - 5:03อาวุธไม่สังหารที่แตกต่างกันมากมายหลายชนิด ที่เราสามารถให้ทหารใช้
-
5:03 - 5:05และมีสถานการณ์ต่างๆ นานา
-
5:05 - 5:08ที่เราจะมองพวกมันแล้วบอกว่า "เฮ้ สิ่งเหล่านี้น่าจะมีประโยชน์จริงๆ"
-
5:08 - 5:10แต่อย่างที่ผมบอก
-
5:10 - 5:12ทหารและตำรวจ
-
5:12 - 5:14มีความแตกต่างกันมาก
-
5:14 - 5:16ใช่ คุณไม่ต้องคิดมากเลย
-
5:16 - 5:18เพื่อจะทราบความจริงที่ว่า พวกเขาอาจจะแตกต่างกันมากๆ
-
5:18 - 5:20โดยเฉพาะในแง่ของ
-
5:20 - 5:22ทัศนคติในด้านการใช้กำลัง
-
5:22 - 5:24และวิธีที่พวกเขาได้รับการฝึกให้ใช้กำลัง
-
5:24 - 5:26นั้นแตกต่างมากเป็นพิเศษ
-
5:26 - 5:28ตำรวจ...
-
5:28 - 5:31และผมทราบดี เพราะผมเคยช่วยฝึกตำรวจมาก่อน...
-
5:31 - 5:34ตำรวจ โดยเฉพาะในท้องที่ของประเทศตะวันตก
-
5:34 - 5:37ได้รับการฝึกเพื่อลดระดับการใช้กำลัง
-
5:37 - 5:39เพื่อพยายามและหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง
-
5:39 - 5:41ในทุกที่เท่าที่จะเป็นไปได้
-
5:41 - 5:43และให้ใช้กำลังสังหาร
-
5:43 - 5:46เป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านั้น
-
5:46 - 5:49ทหารถูกฝึกมาเพื่อทำสงคราม
-
5:49 - 5:52ถูกฝึกเพื่อที่ว่า เมื่อเกิดสถานการณ์เลวร้าย
-
5:52 - 5:55การตอบโต้แรกของพวกเขา จะเป็นการใช้กำลังสังหาร
-
5:56 - 6:00เมื่อถึงเวลาที่งานเข้า
-
6:00 - 6:03คุณจะได้สามารถยิงใส่คนอื่นได้
-
6:03 - 6:05ดังนั้นทัศนคติของพวกเขา
-
6:05 - 6:07ในเรื่องของการใช้กำลังสังหาร จึงมีความแตกต่างกันอย่างมาก
-
6:07 - 6:09และผมคิดว่า มันเห็นได้ชัดอยู่ว่า
-
6:09 - 6:12ทัศนคติของพวกเขาในด้านการใช้อาวุธไม่สังหาร
-
6:12 - 6:15ก็คงจะแตกต่างจากตำรวจมากเช่นกัน
-
6:15 - 6:17และเนื่องจากในขณะนี้ เราก็มีปัญหามากพออยู่แล้ว
-
6:17 - 6:20กับการที่ตำรวจใช้อาวุธไม่สังหาร ในหลายๆ วิธี
-
6:20 - 6:23ผมคิดว่าคงจะเป็นความคิดที่ดี ที่จะดูสิ่งเหล่านี้
-
6:23 - 6:25แล้วพยายามนำมันเข้าไปผูกกับแนวคิดทางทหาร
-
6:25 - 6:27และผมแปลกใจจริงๆ เมื่อเริ่มทำสิ่งนี้
-
6:27 - 6:29ที่ได้พบว่า ที่จริงแล้ว
-
6:29 - 6:32แม้แต่คนที่สนับสนุนการใช้อาวุธไม่สังหารโดยทหาร
-
6:32 - 6:34ยังไม่ได้คิดถึงสิ่งนั้น
-
6:34 - 6:36พวกเขามักจะคิดว่า
-
6:36 - 6:38"เราจะไปสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตำรวจทำไม
-
6:38 - 6:40เรากำลังมองอะไรที่มันแตกต่าง"
-
6:40 - 6:42และดูจะไม่ยอมรับว่า ที่จริงแล้ว
-
6:42 - 6:44พวกเขากำลังมองสิ่งที่เป็นเรื่องประมาณเดียวกัน
-
6:44 - 6:46ดังนั้นผมจึงเริ่มสืบสวนประเด็นเหล่านี้บางประเด็น
-
6:46 - 6:48และพิจารณา
-
6:48 - 6:51วิธีที่ตำรวจใช้อาวุธไม่สังหาร เมื่ออาวุธเหล่านี้เข้ามา
-
6:51 - 6:53และมีปัญหาบางอย่างที่อาจเกิดขึ้น
-
6:53 - 6:55จากอาวุธเหล่านี้
-
6:55 - 6:57เวลาที่พวกเขานำพวกมันมาใช้จริงๆ
-
6:57 - 6:59และแน่นอน เพราะเป็นคนออสเตรเลีย
-
6:59 - 7:01ผมก็เลยเริ่มมองสิ่งที่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย
-
7:01 - 7:04โดยรู้จากประสบการณ์ของผมเองอีกครั้ง ในหลายๆ คราว
-
7:04 - 7:07ที่อาวุธไม่สังหารถูกนำมาใช้ในออสเตรเลีย
-
7:07 - 7:09หนึ่งในสิ่งที่ผมจับตาดูเป็นพิเศษ
-
7:09 - 7:11คือการใช้สเปรย์โอซี,
-
7:11 - 7:13สเปรย์โอลีโอเรซิน แคปซิคัม หรือสเปรย์พริกไทย
-
7:13 - 7:15โดยตำรวจออสเตรเลีย
-
7:15 - 7:17และเห็นอาวุธที่ถูกนำมาใช้, สิ่งที่เกิดขึ้น
-
7:17 - 7:19และปัญหาต่างๆ มากมาย
-
7:19 - 7:21จากการศึกษาฉบับหนึ่งที่ผมพบ
-
7:21 - 7:23ซึ่งน่าสนใจเป็นพิเศษ
-
7:23 - 7:25เกิดขึ้นในควีนส์แลนด์นี่เอง
-
7:25 - 7:28เพราะพวกเขามีระยะทดสอบการใช้สเปรย์พริกไทย
-
7:28 - 7:31ก่อนที่จะนำไปใช้อย่างกว้างขวางจริงๆ
-
7:31 - 7:34และผมก็ไปดูตัวเลขเหล่านี้
-
7:34 - 7:36ตอนนี้ เมื่อพวกเขานำสเปรย์โอซีมาใช้ในควีนส์แลนด์
-
7:36 - 7:38พวกเขาใช้มันอย่างโจ่งแจ้ง
-
7:38 - 7:41ผู้บัญชาการตำรวจมีแถลงการณ์สู่สาธารณะเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย
-
7:41 - 7:43พวกเขาบอกว่า "สิ่งนี้มีจุดประสงค์อย่างชัดเจนเพื่อ
-
7:43 - 7:45ให้ทางเลือกกับตำรวจ
-
7:45 - 7:48ที่อยู่ตรงกลางระหว่างการเตือน และการยิง
-
7:48 - 7:51เป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถใช้แทนอาวุธปืนได้
-
7:51 - 7:54ในสถานการณ์เดียวกับที่ ถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเขาต้องยิง"
-
7:54 - 7:57ผมก็เลยไปดูสถิติการยิงของตำรวจ
-
7:57 - 7:59และคุณหาสิ่งนี้เจอไม่ได้ง่ายๆ
-
7:59 - 8:01ในบรรดารัฐในออสเตรเลียต่างๆ
-
8:01 - 8:03ผมสามารถหามาได้แค่ฉบับเดียว
-
8:03 - 8:05นี่มาจากรายงานของสถาบันอาชญวิทยาออสเตรเลีย
-
8:05 - 8:07ดังที่คุณเห็นในตัวหนังสือ ถ้าคุณอ่านจากด้านบนสุด ระบุว่า
-
8:07 - 8:10"การตายจากการยิงของตำรวจ" ไม่ได้จำกัดแค่คนที่ถูกตำรวจยิง
-
8:10 - 8:14แต่ยังรวมไปถึงคนที่ยิงตัวเองต่อหน้าตำรวจ
-
8:14 - 8:16แต่นี่เป็นสถิติจากทั่วประเทศ
-
8:16 - 8:18และลูกศรแดงนี้ชี้ไปที่จุด
-
8:18 - 8:20ที่ควีนส์แลนด์บอกว่า
-
8:20 - 8:23"ใช่ ตรงนี้แหละ ที่เราจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วทั้งรัฐ
-
8:23 - 8:25ได้ใช้สเปรย์โอซี
-
8:25 - 8:28คุณจะเห็นว่า กราฟแสดงให้เห็นว่ามีการตายโดยเฉลี่ยหกครั้ง
-
8:28 - 8:30ทุกๆ ปี เป็นเวลาหลายปีแล้ว
-
8:30 - 8:32มีจุดที่กราฟพุ่งเป็นยอดขึ้น เมื่อไม่กี่ปีมานี้
-
8:32 - 8:34แต่จุดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นที่ควีนส์แลนด์
-
8:34 - 8:37มีใครรู้ไหมว่ามาจากไหน ไม่ใช่พอร์ท อาเธอร์ครับ
-
8:37 - 8:39วิคตอเรีย ใช่ครับ ถูกต้อง
-
8:39 - 8:42จุดที่กราฟพุ่งขึ้นมาจากวิคตอเรียหมดเลย
-
8:42 - 8:44ดังนั้น ไม่ใช่ควีนส์แลนด์ที่มีปัญหา
-
8:44 - 8:48กับการตายที่เกิดขึ้นจากการยิงของตำรวจ และจากสาเหตุอื่นๆ
-
8:48 - 8:50มีการยิงหกครั้ง ทั่วทั้งประเทศ
-
8:50 - 8:52อย่างสม่ำเสมอ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
-
8:52 - 8:55ในอีกสองปีต่อมา คือปีที่เราทำการศึกษากัน ปี 2001 และ 2002
-
8:55 - 8:58มีใครอยากทายจำนวนการใช้
-
8:58 - 9:00ตามเหตุผลที่เขาบอก ไหมครับ
-
9:00 - 9:03ว่าจำนวนการใช้สเปรย์โอซีของตำรวจในควีนส์แลนด์ในช่วงนั้นเป็นเท่าไร
-
9:03 - 9:05หลักร้อยเหรอ หนึ่ง สาม
-
9:05 - 9:08หลักพันค่อยใกล้เข้ามาหน่อย
-
9:10 - 9:12ถูกนำมาใช้อย่างโจ่งแจ้ง
-
9:12 - 9:14เพื่อเป็นทางเลือกกับการใช้กำลังสังหาร
-
9:14 - 9:17เป็นทางเลือกตรงกลางระหว่างการเตือนและการยิง
-
9:17 - 9:19ผมจะบอกชัดๆ เลยแล้วกัน
-
9:19 - 9:22ถ้าเกิดว่าตำรวจควีนส์แลนด์ไม่มีสเปรย์โอซี
-
9:22 - 9:25พวกเขาคงไม่ยิงคน 2,226 คน
-
9:25 - 9:28ในเวลาสองปีเหล่านั้นหรอกครับ
-
9:28 - 9:30ที่จริงแล้ว ลองดู
-
9:30 - 9:32การศึกษา ที่พวกเขามองหา
-
9:32 - 9:35วัตถุที่พวกเขาเก็บเพื่อนำไปตรวจสอบ
-
9:35 - 9:38คุณจะพบว่าผู้ต้องสงสัยทีติดอาวุธ
-
9:38 - 9:40มีประมาณ 15 เปอร์เซนต์เท่านั้น จากกรณี
-
9:40 - 9:42ที่สเปรย์โอซีถูกใช้
-
9:42 - 9:45มันถูกใช้เป็นประจำในช่วงเวลานั้น
-
9:45 - 9:47และแน่นอนว่า ก็ยังถูกใช้อยู่เป็นประจำ
-
9:47 - 9:49เพราะว่าไม่มีใครร้องเรียนเรื่องนี้
-
9:49 - 9:52ถึงจะนอกประเด็นของการศึกษานี้
-
9:52 - 9:54แต่มันถูกใช้เป็นประจำ
-
9:54 - 9:56เพื่อรับมือกับคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
-
9:56 - 9:58คนที่มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมก้าวร้าว
-
9:58 - 10:00และยังถูกใช้อยู่บ่อยๆ
-
10:00 - 10:02กับคนที่แค่มีพฤติกรรม
-
10:02 - 10:06ขัดขืนแบบไม่ตอบโต้
-
10:06 - 10:08คนแบบนี้ไม่ได้ทำอะไรที่รุนแรง
-
10:08 - 10:10เพียงแต่พวกเขาไม่ยอมทำตาม ในสิ่งที่เราต้องการให้พวกเขาทำ
-
10:10 - 10:12พวกเขาไม่ทำตามคำสั่งที่พวกเขาได้รับ
-
10:12 - 10:14เราก็เลยฉีดสเปรย์โอซีใส่พวกเขา
-
10:14 - 10:18มันจะทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น อย่างนี้ทุกอย่างจะออกมาดีกว่า
-
10:18 - 10:20นี่คือสิ่งที่ถูกนำมาใช้อย่างโจ่งแจ้ง
-
10:20 - 10:22เพื่อเป็นทางเลือกของการใช้อาวุธปืน
-
10:22 - 10:24แต่มันกำลังถูกใช้เป็นประจำ
-
10:24 - 10:26เพื่อจัดการกับปัญหา
-
10:26 - 10:28ปัญหามากมายหลายประเภท
-
10:28 - 10:30ตอนนี้มีประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับ
-
10:30 - 10:33การใช้อาวุธไม่สังหารในทางทหาร
-
10:33 - 10:36และคนที่พูดว่า "เฮ้ นี่อาจเป็นปัญหา"
-
10:36 - 10:39มีปัญหาอยู่สองสามข้อที่เราควรเน้น
-
10:39 - 10:41หนึ่งในปัญหาเหล่านี้
-
10:41 - 10:44คือการใช้อาวุธไม่สังหารอย่างไม่แยกแยะ
-
10:44 - 10:47หนึ่งในหลักการพื้นฐานของการใช้กำลังทางทหาร
-
10:47 - 10:49นั่นก็คือคุณจะต้องพิจารณาเป้าหมาย
-
10:49 - 10:52คุณต้องระมัดระวังว่าคุณกำลังจะยิงไปที่ใคร
-
10:52 - 10:55ดังนั้นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นกับอาวุธไม่สังหารก็คือ
-
10:55 - 10:57มันอาจถูกนำไปใช้อย่างไม่แยกแยะ
-
10:57 - 10:59ในระดับที่คุณใช้มันกับกลุ่มคนหลากหลาย
-
10:59 - 11:02เพราะคุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
-
11:02 - 11:04และอันที่จริง มีกรณีหนึ่งโดยเฉพาะ
-
11:04 - 11:06ที่ผมคิดว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจริง
-
11:06 - 11:09คือการปิดล้อมโรงละครดูบรอฟกาในมอสโคเมื่อปี 2002
-
11:09 - 11:11ซึ่งพวกคุณหลายๆ คน ต่างจากนักเรียนของผมส่วนใหญ่ที่สถาบันป้องกันตนเองฯ
-
11:11 - 11:13มีอายุมากพอที่จะจำได้
-
11:13 - 11:16เมื่อชาวเชชเนียเข้ามายึดโรงละคร
-
11:16 - 11:19พวกเขาจับคนประมาณ 700 คนเป็นตัวประกัน
-
11:19 - 11:21พวกเขาปล่อยบางคนออกมา
-
11:21 - 11:24แต่ก็ยังมีตัวประกันประมาณ 700 คน
-
11:24 - 11:27แล้วสารวัตรทหารพิเศษของรัสเซีย,
-
11:27 - 11:29กองกำลังพิเศษ, สเปตนาซ
-
11:29 - 11:31เข้ามา แล้วทำการจู่โจมโรงละคร
-
11:31 - 11:34และวิธีที่พวกเขาทำ คือการปั๊มแก๊สยาสลบเข้าไปในอาคารทั้งหลัง
-
11:34 - 11:36แล้วปรากฎว่า
-
11:36 - 11:39มีตัวประกันตายเป็นจำนวนมาก
-
11:39 - 11:42เนื่องจากสูดแก๊สเข้าไป
-
11:42 - 11:44มันถูกใช้อย่างไม่แยกแยะ
-
11:44 - 11:47พวกเขาปั๊มแก๊สเข้าไปเต็มทั้งโรงละคร
-
11:47 - 11:49ไม่แปลกเลยที่คนพวกนั้นตาย
-
11:49 - 11:51เพราะคุณไม่รู้ว่าแต่ละคน
-
11:51 - 11:53สูดแก๊สเข้าไปมากเท่าไร
-
11:53 - 11:55พวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน
-
11:55 - 11:57เวลาที่พวกเขาหมดสติไป และอื่นๆ
-
11:57 - 12:00ในความจริง มีคนเพียงแค่สองคนที่ถูกยิง
-
12:00 - 12:02ในเหตุการณ์ครั้งนี้
-
12:02 - 12:04ดังนั้นเมื่อเรามองกลับไป
-
12:04 - 12:06มีเพียงแค่คนสองคนเท่านั้น
-
12:06 - 12:08ที่ถูกคนที่จับตัวประกันยิง
-
12:08 - 12:10หรือถูกยิงโดยตำรวจ
-
12:10 - 12:12ที่พยายามเข้ามาแก้สถานการณ์
-
12:12 - 12:14แทบทุกคนถูกฆ่า
-
12:14 - 12:16เนื่องจากสูดดมแก๊สเข้าไป
-
12:16 - 12:18ยอดสูญเสียของตัวประกันท้ายที่สุดแล้ว
-
12:18 - 12:20ระบุไว้ไม่แน่ชัด
-
12:20 - 12:22แต่แน่นอนว่า มีการสูญเสียมากกว่านี้
-
12:22 - 12:24เพราะยังมีคนอื่นที่ตาย ในอีกไม่กี่วันต่อมา
-
12:24 - 12:26นี่แหละคือปัญหาที่พวกเขาพูดถึง
-
12:26 - 12:28ว่ามันอาจจะถูกใช้ไม่เลือกหน้า
-
12:28 - 12:30ปัญหาที่สองก็คือสิ่งที่ผู้คนพูดเกี่ยวกับ
-
12:30 - 12:32การใช้อาวุธไม่สังหารในทางทหาร
-
12:32 - 12:35และนี่คือเหตุผลที่ในข้อตกลงการใช้อาวุธเคมี
-
12:35 - 12:37ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามใช้สารควบคุมฝูงชน
-
12:37 - 12:39เป็นอาวุธสงคราม
-
12:39 - 12:42ปัญหาก็คือบางครั้ง
-
12:42 - 12:45อาวุธไม่สังหารอาจถูกใช้ ไม่ใช้ในฐานะทางเลือกของกำลังสังหาร
-
12:45 - 12:48แต่เป็นตัวเพิ่มอำนาจการสังหาร
-
12:48 - 12:50โดยที่คุณใช้อาวุธไม่สังหารก่อน
-
12:50 - 12:53แล้วการใช้อาวุธสังหารก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
12:53 - 12:55คนที่คุณกำลังจะยิงเข้าใส่
-
12:55 - 12:57จะได้หนีไปไม่ได้
-
12:57 - 13:00พวกเขาจะไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้คุณสามารถฆ่าพวกเขาได้ง่ายขึ้น
-
13:00 - 13:03และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ
-
13:03 - 13:06คนจับตัวประกันที่ถูกทำให้หมดสติโดยแก๊ส
-
13:06 - 13:08ไม่ได้ถูกจับกุม
-
13:08 - 13:11แต่ถูกยิงหัว ง่ายๆ แค่นั้น
-
13:11 - 13:13ดังนั้นอาวุธไม่สังหาร
-
13:13 - 13:15ในกรณีนี้ ถูกใช้เป็น
-
13:15 - 13:18ตัวเพิ่มอำนาจการสังหาร
-
13:18 - 13:20ที่ทำให้ฆ่าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
13:20 - 13:23ในสถานการณ์นี้
-
13:23 - 13:25อีกปัญหาหนึ่งที่ผมอย่างจะกล่าวถึงคร่าวๆ คือ
-
13:25 - 13:27มีปัญหาอยู่มากมายก่ายกอง
-
13:27 - 13:29เกี่ยวกับวิธีที่คนถูกสอน
-
13:29 - 13:31ให้ใช้อาวุธไม่สังหาร
-
13:31 - 13:33และได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับอาวุธชนิดนี้ ได้ลองทดสอบมัน และอื่นๆ
-
13:33 - 13:36เพราะว่าพวกเขาทดสอบมันในสภาวะแวดล้อมที่ดีและปลอดภัย
-
13:36 - 13:39และคุณถูกสอนให้ใช้มันในสภาวะแวดล้อมที่ดีและปลอดภัย
-
13:39 - 13:42แบบนี้ ที่ๆ คุณเห็นชัดเจนว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
-
13:42 - 13:45คนที่พ่นสเปรย์โอซีสวมถุงมือยาง
-
13:45 - 13:47เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเขาเองจะไม่เปื้อนสาร และอื่นๆ
-
13:47 - 13:49แต่พวกมันไม่ได้ถูกใช้แบบนั้น
-
13:49 - 13:51พวกมันถูกใช้ในโลกจริงๆ
-
13:51 - 13:55อย่างในเท็กซัส แบบนี้
-
13:55 - 13:58ผมยอมรับว่า กรณีนี้โดยเฉพาะ
-
13:58 - 14:00เป็นกรณีหนึ่งที่กระตุ้นให้ผมเกิดความสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา
-
14:00 - 14:03มันเกิดขึ้นตอนที่ผมกำลังทำงานเป็นนักวิจัยที่โรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ
-
14:03 - 14:06แล้วเริ่มมีรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
-
14:06 - 14:09เมื่อผู้หญิงคนนี้โต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
-
14:09 - 14:11เธอไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าว
-
14:11 - 14:13ที่จริง เขาน่าจะสูงกว่าผมประมาณหกนิ้ว
-
14:13 - 14:16และเธอสูงแค่เท่านี้
-
14:16 - 14:18และในตอนสุดท้าย เธอก็พูดกับเขาว่า
-
14:18 - 14:20"ฉันจะกลับไปขึ้นรถของฉันล่ะนะ"
-
14:20 - 14:22แล้วเขาก็พูดว่า "ถ้าคุณกลับเข้าไปในรถ ผมจะช็อตคุณ"
-
14:22 - 14:25แล้วเธอก็บอกว่า "เอาสิ ช็อตฉันเลย" เขาก็เลยทำอย่างนั้น
-
14:25 - 14:27ทั้งหมดนี้ถูกบันทึกไว้ในกล้องวีดีโอ
-
14:27 - 14:31ที่อยู่หน้ารถตำรวจ
-
14:31 - 14:34เธออายุ 72 แล้ว
-
14:34 - 14:38และดูเหมือนว่านี่คือวิธีที่เหมาะสมที่สุดที่จะจัดการกับเธอ
-
14:38 - 14:40ยังมีตัวอย่างอื่นๆ ที่มีลักษณะประมาณนี้
-
14:40 - 14:42ที่เกิดกับคนอื่นๆ แล้วทำให้คุณคิดว่า
-
14:42 - 14:45"นี่คือวิธีที่เหมาะสมจริงๆ แล้วหรือในการใช้อาวุธไม่สังหาร"
-
14:45 - 14:47"สารวัตรตำรวจใช้เครื่องช็อตไฟฟ้ากับหัวเด็กสาวอายุ 14"
-
14:47 - 14:50"ก็เธอกำลังวิ่งหนี จะให้ผมทำยังไงล่ะ"
-
14:50 - 14:53(เสียงหัวเราะ)
-
14:53 - 14:55หรือที่ฟลอริดา
-
14:55 - 14:58"ตำรวจช็อตเด็กหกขวบที่โรงเรียนประถม"
-
14:58 - 15:00และเห็นๆ กันอยู่ว่าพวกเขาเรียนรู้จากมัน
-
15:00 - 15:02เพราะว่าในท้องที่เดียวกัน
-
15:02 - 15:04"ตำรวจทบทวนนโยบายหลังเด็กๆ ช็อค
-
15:04 - 15:07เด็กคนที่สองถูกช็อตหลังจากไม่กี่สัปดาห์"
-
15:07 - 15:09ในท้องที่ตำรวจเดียวกัน
-
15:09 - 15:12เด็กอีกคนถูกช็อต หลังจากเด็กหกขวบถูกช็อต ห่างออกไปไม่กี่สัปดาห์
-
15:12 - 15:14และในกรณีที่คุณคิดว่า
-
15:14 - 15:16สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นแค่ในสหรัฐฯ
-
15:16 - 15:18แต่มันเกิดขึ้นในแคนาดาเช่นกัน
-
15:18 - 15:20และเพื่อนร่วมงานของผม
-
15:20 - 15:22ส่งข่าวนี้มาให้ผมจากลอนดอน
-
15:22 - 15:25แต่ก็ต้องยอมรับว่า กรณีที่ผมชอบเป็นพิเศษ
-
15:25 - 15:28มาจากสหรัฐฯ จริงๆ
-
15:28 - 15:31"ตำรวจช็อตผู้หญิงพิการอายุ 86 ปีบนเตียงของเธอ"
-
15:31 - 15:35ผมตรวจสอบรายงานหลายฉบับเรื่องนี้
-
15:35 - 15:38ผมดูมัน แล้วผมก็ประหลาดใจจริงๆ
-
15:38 - 15:41เพราะปรากฎว่า สาเหตุคือเธอทำท่าทีคุกคามกว่าเดิมบนเตียงของเธอ
-
15:41 - 15:43(เสียงหัวเราะ)
-
15:43 - 15:45ผมไม่ได้ล้อคุณเล่น มันเขียนไว้อย่างนี้จริงๆ
-
15:45 - 15:48"เธอทำท่าทีคุกคามกว่าเดิมบนเตียงของเธอ"
-
15:48 - 15:50โอเค
-
15:50 - 15:52แต่ผมขอบอกคุณอีกครั้ง ว่าผมกำลังพูดเรื่องอะไร
-
15:52 - 15:54ผมกำลังพูดเรื่องการใช้อาวุธไม่สังหารในทางทหาร
-
15:54 - 15:56แล้วนี่มันเกี่ยวกันยังไง
-
15:56 - 15:58เพราะตำรวจถูกจำกัด ในด้านการใช้กำลัง
-
15:58 - 16:00มากกว่าทหาร
-
16:00 - 16:03พวกเขาถูกฝึกมาให้จำกัดการใช้กำลังมากกว่าทหาร
-
16:03 - 16:06พวกเขาถูกฝึกให้คิดมากกว่า ให้พยายามที่จะลดระดับความรุนแรง
-
16:06 - 16:09ถ้าคุณมีปัญหาเหล่านี้กับตำรวจที่ใช้อาวุธไม่สังหาร
-
16:09 - 16:11แล้วอะไรในโลกนี้ที่ทำให้คุณคิดว่า
-
16:11 - 16:14สิ่งนี้จะดีกว่ากับทหาร
-
16:15 - 16:18สิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะพูดก็คือ
-
16:18 - 16:20เวลาที่ผมคุยกับตำรวจ
-
16:20 - 16:22เกี่ยวกับลักษณะของอาวุธไม่สังหารที่สมบูรณ์แบบ
-
16:22 - 16:24พวกเขาจะต้องพูดแบบนี้แน่นอน
-
16:24 - 16:27พวกเขาจะบอกว่า "มันจะต้องเป็นอะไรที่ร้ายกาจพอ
-
16:27 - 16:29ที่คนจะไม่อยากถูกอาวุธนี้ยิงใส่
-
16:29 - 16:31ถ้าคุณขู่ที่จะใช้มัน
-
16:31 - 16:34คนจะยอมทำตาม
-
16:34 - 16:36แต่มันควรจะเป็นอะไร
-
16:36 - 16:40ที่ไม่มีผลกระทบถาวรด้วย"
-
16:40 - 16:43หรือพูดในอีกนัยหนึ่ง อาวุธไม่สังหารที่สมบูรณ์แบบของคุณ
-
16:43 - 16:45จะต้องเป็นอะไรที่เหมาะแก่การข่มเหงมากที่สุด
-
16:45 - 16:47จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนพวกนี้
-
16:47 - 16:49สามารถเข้าถึงการใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า
-
16:49 - 16:51หรือเครื่องเวอร์ชั่นพกพา
-
16:51 - 16:53ของระบบ Active Denial System
-
16:53 - 16:56รังสีความร้อนเล็กๆ ที่คุณสามารถใช้กับคน
-
16:56 - 16:58โดยที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน
-
16:58 - 17:01ผมก็เลยคิดว่า ใช่ น่าจะมีวิธี
-
17:01 - 17:03ที่อาวุธไม่สังหารจะเหมาะกับสถานการณ์เหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง
-
17:03 - 17:05แต่ก็ยังมีปัญหามากมาย
-
17:05 - 17:07ที่เราต้องพิจารณาเช่นกัน
-
17:07 - 17:09ขอบคุณมากครับ
-
17:09 - 17:11(เสียงปรบมือ)
- Title:
- สตีเฟน โคลแมน: อันตรายทางศีลธรรมของอาวุธไม่สังหาร
- Speaker:
- Stephen Coleman
- Description:
-
มีการใช้สเปรย์พริกไทย และเครื่องช็อตไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นทั้งในหมู่ตำรวจและทหาร และยังมีอาวุธไม่สังหารพิสดารอย่างเช่น รังสีความร้อน ที่กำลังได้รับการพัฒนา ที่ TEDxCanberra นักจริยศาสตร์ สตีเฟน โคลแมนสำรวจผลกระทบที่ไม่ได้คาดคิดของการใช้อาวุธเหล่านี้ และตั้งคำถามที่ยากที่จะตอบ
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 17:11
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Non-lethal weapons, a moral hazard? | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Non-lethal weapons, a moral hazard? | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Non-lethal weapons, a moral hazard? | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Non-lethal weapons, a moral hazard? | ||
PanaEk Warawit accepted Thai subtitles for Non-lethal weapons, a moral hazard? | ||
PanaEk Warawit edited Thai subtitles for Non-lethal weapons, a moral hazard? | ||
PanaEk Warawit edited Thai subtitles for Non-lethal weapons, a moral hazard? | ||
PanaEk Warawit edited Thai subtitles for Non-lethal weapons, a moral hazard? |