การเป็นพ่อแม่เด็ก ๆ ในเขตสงครามนั้นเป็นเช่นไร
-
0:01 - 0:06ผู้คนทั่วโลกกว่า 1.5 พันล้านคน
ประสบกับความขัดแย้งด้วยอาวุธ -
0:07 - 0:10ด้วยเหตุนี้
ผู้คนจึงถูกบีบให้ลี้ภัยจากประเทศตัวเอง -
0:10 - 0:13ทำให้เกิดผู้อพยพมากกว่า 15 ล้านคน
-
0:14 - 0:15ส่วนเด็ก ๆ แน่นอนว่า
-
0:15 - 0:17เป็นผู้บริสุทธิ์และเหยื่ออันแสนเปราะบาง
-
0:19 - 0:21แต่มิใช่แค่เพียง
ภัยคุกคามทางกายภาพที่เด่นชัดเท่านั้น -
0:21 - 0:25บ่อยครั้งที่ภัยเงียบจากสงคราม
ส่งผลต่อครอบครัวเด็ก ๆ -
0:26 - 0:29การผ่านประสบการณ์สงคราม
ทำให้เด็ก ๆ ตกอยู่ในความเสี่ยงสูง -
0:30 - 0:32ที่จะมีปัญหาพัฒนาการทางอารมณ์
และพฤติกรรม -
0:34 - 0:36ซึ่งเราทำได้เพียงนึกภาพ ว่าเด็กเหล่านี้
-
0:36 - 0:38คงจะรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน ถูกคุกคาม
และตกอยู่ในความเสี่ยง -
0:39 - 0:40แต่ก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง
-
0:40 - 0:44คุณภาพของความเอาใจใส่ที่เด็ก ๆ ได้รับ
จากครอบครัวของพวกเขา -
0:44 - 0:48จะส่งผลต่อสุขภาวะของเด็ก ๆ
อย่างมีนัยยะสำคัญ -
0:48 - 0:51มากยิ่งกว่าประสบการณ์จริงจากสงคราม
ที่เด็ก ๆ ต้องพบเจอเสียอีก -
0:52 - 0:55ดังนั้น เราจึงสามารถปกป้องเด็ก ๆ ได้
-
0:55 - 1:00ด้วยอุ่นไอรัก ด้วยการอุ้มชูที่ให้ที่พึ่งทางใจ
ทั้งในระหว่างและภายหลังภัยขัดแย้ง -
1:02 - 1:05เมื่อ ปี ค.ศ. 2011
ฉันเป็นนักศึกษาปริญญาเอกปีแรก -
1:05 - 1:08ในสถาบันวิทยาศาสตร์จิตวิทยา
แห่งมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ -
1:09 - 1:10เช่นเดียวกับทุกท่าน ณ ที่แห่งนี้
-
1:11 - 1:14ฉันได้ดูข่าววิกฤตการณ์ในซีเรีย
ที่ปรากฏต่อหน้าจากโทรทัศน์ -
1:15 - 1:17ครอบครัวฉันเองก็มีถิ่นฐานมาจากซีเรีย
-
1:17 - 1:18และในช่วงแรก ๆ นั้น
-
1:18 - 1:21ฉันต้องสูญเสียสมาชิกครอบครัวหลายคน
ไปอย่างน่าใจหาย -
1:22 - 1:24ทั้งฉันและครอบครัวต่างมานั่งดูทีวีร่วมกัน
-
1:25 - 1:27เราทุกคนต่างเคยเห็นภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
-
1:27 - 1:29ระเบิดทำลายล้างตึกรามบ้านช่อง
-
1:29 - 1:30ความโกลาหล ความเสียหาย
-
1:31 - 1:33ผู้คนต่างกรีดร้องและวิ่งหนี
-
1:33 - 1:37ภาพที่ผู้คนร้องโหยหวนและวิ่งหนีนั้น
เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันปวดใจที่สุดเสมอ -
1:37 - 1:40โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ภาพเด็ก ๆ ที่แลดูหวาดผวา -
1:41 - 1:45ตัวฉันก็เป็นคุณแม่ลูกสองที่มีความอยากรู้
อยากเห็นตามประสาเด็กทั่วไป -
1:45 - 1:47ในเวลานั้นเขาทั้งสองมีอายุ 5 และ 6 ขวบ
-
1:47 - 1:50เป็นช่วงอายุที่เด็ก ๆ มักจะชอบถามคำถามมากมาย
-
1:50 - 1:52และหวังจะได้รับคำตอบที่แท้จริงและน่าเชื่อถือ
-
1:53 - 1:56ฉันจึงเริ่มสงสัยว่า จะเป็นอย่างไรนะ
-
1:56 - 1:59หากฉันต้องดูแลลูกในเขตสงคราม
และค่ายผู้ลี้ภัย -
2:00 - 2:02ลูก ๆ ของฉันจะเปลี่ยนไปไหม
-
2:03 - 2:06นัยน์ตาอันสดใสและมีความสุขของลูกสาวฉัน
จะจางหายไปไหม -
2:07 - 2:12ลักษณะนิสัยสบาย ๆ และไร้กังวลของลูกชาย
จะกลายเป็นหวาดกลัวและเก็บตัวไหม -
2:13 - 2:14ฉันจะรับมือได้อย่างไร
-
2:15 - 2:17แล้วตัวฉันจะเปลี่ยนไปไหม
-
2:19 - 2:21ในฐานะที่ฉันเป็นนักจิตวิทยา
และผู้สอนการเลี้ยงดูบุตร -
2:21 - 2:25เรารู้ว่าการฝึกให้ผู้ปกครอง
มีทักษะการเลี้ยงดูบุตรที่ดี -
2:25 - 2:27สามารถส่งผลต่อสุขภาวะของเด็ก ๆ
อย่างมากมายเหลือคณานับ -
2:28 - 2:30เราเรียกสิ่งนี้ว่าการฝึกฝนการเลี้ยงดู
-
2:31 - 2:33คำถามที่ฉันเคยคิดถึงก็คือ
-
2:33 - 2:36โปรแกรมการฝึกฝนการเลี้ยงดู
จะเป็นประโยชน์ต่อครอบครัว -
2:36 - 2:39ในขณะที่พวกเขายังอยู่ในเขตสงคราม
หรือค่ายผู้ลี้ภัยได้หรือไม่ -
2:39 - 2:42เราจะสามารถนำคำแนะนำและการฝึก
ให้เข้าไปถึงพวกเขาได้หรือไม่ -
2:42 - 2:44อันจะสามารถช่วยให้ผ่านความยากลำบากนี้ไปได้
-
2:46 - 2:49ฉันจึงเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาในระดับปริญญาเอก
-
2:49 - 2:50ศาสตราจารย์เรเชล คาแลม
-
2:50 - 2:54ด้วยแนวคิดที่จะใช้ความรู้ทางวิชาการ
เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกแห่งความเป็นจริง -
2:55 - 2:57ในตอนนั้นฉันเองก็ยังไม่แน่ใจนัก
ว่าต้องการทำอะไร -
2:58 - 3:00เธอฟังฉันอย่างตั้งใจและใจเย็น
-
3:00 - 3:01แล้วฉันก็ดีใจ เมื่อเธอพูดว่า
-
3:02 - 3:04"หากนั่นคือสิ่งที่คุณอยากทำ
และถ้ามันมีความหมายมากสำหรับคุณ -
3:04 - 3:06เช่นนั้นก็ลงมือทำมันเลยสิ
-
3:06 - 3:09มาหาคำตอบกันว่าโปรแกรมฝึกการเลี้ยงดู
-
3:09 - 3:11จะเป็นประโยชน์แก่ครอบครัว
ในสถานการณ์เช่นนี้ไหม" -
3:12 - 3:15ฉะนั้น จากห้าปีที่ผ่านมา
ทั้งตัวฉันและเพื่อนร่วมงาน -
3:15 - 3:17อย่างศาสตราจารย์คาแลม
และดร.คิม คาร์ทไรท์ -
3:17 - 3:20ได้ร่วมกันทำงาน
เพื่อช่วยเหลือครอบครัวเหล่านี้ -
3:20 - 3:22ที่ต้องมาพานพบกับสงคราม
และการพลัดพรากถิ่นฐาน -
3:24 - 3:27ฉะนั้น การที่จะรู้ว่าเราจะช่วยเหลือครอบครัว
ที่ต้องเผชิญกับภัยขัดแย้งได้อย่างไร -
3:27 - 3:28จะประคับประคองเด็ก ๆ อย่างไร
-
3:28 - 3:32ขั้นแรกคือการถามพวกเขาตรง ๆ
ว่ากำลังมีปัญหาเรื่องอะไร -
3:32 - 3:33ใช่ไหมล่ะคะ
-
3:34 - 3:35เข้าใจว่ามันอาจจะดูตรงไปหน่อย
-
3:35 - 3:37แต่บ่อยครั้งที่คนที่เปราะบางมากที่สุด
-
3:37 - 3:39ก็คือกลุ่มคนที่เราพยายามจะช่วยเหลือ
-
3:39 - 3:40แต่เรากลับไม่ถามอย่างจริงจัง
-
3:40 - 3:43กี่ครั้งแล้ว ที่เราทึกทักกันไปเอง
ว่าเรารู้เรื่องจริง -
3:43 - 3:47แล้วเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา
โดยเราไม่ปริปากถามก่อน -
3:47 - 3:51ฉะนั้น ฉันจึงเดินทางไปค่ายผู้ลี้ภัย
ทั้งในซีเรียและตุรกี -
3:51 - 3:53ฉันนั่งลงและรับฟังปัญหาของพวกเขา
-
3:54 - 3:57ฉันรับฟังอุปสรรคในการเลี้ยงดู
-
3:57 - 3:59รับฟังความยากลำบากในการเลี้ยงดู
-
3:59 - 4:01และรับฟังคำร้องขอความช่วยเหลือ
-
4:02 - 4:04และบางที ทุกอย่างก็ต้องชะงัก
-
4:04 - 4:06เพราะฉันทำได้เพียงแค่กุมมือพวกเขาไว้
-
4:06 - 4:08ร่วมร้องไห้อย่างเงียบ ๆ
และสวดภาวนาไปพร้อมกัน -
4:09 - 4:11พวกเขาเล่าถึงความยากลำบากให้ฉันฟัง
-
4:11 - 4:15พวกเขาเล่าถึงเงื่อนไขยุ่งยากในค่ายผู้ลี้ภัย
-
4:15 - 4:18ที่ทำให้ไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้สักอย่าง
เว้นแต่งานง่าย ๆ -
4:18 - 4:20เช่น การกักตุนน้ำสะอาด
-
4:21 - 4:23พวกเขาบอกฉันว่า
เขาต้องทนเฝ้ามองลูก ๆ นั่งเก็บตัว -
4:24 - 4:27จมปลักไปกับความโศกเศร้า, หดหู่, โกรธแค้น
-
4:27 - 4:30ฉี่รดที่นอน, ดูดนิ้ว, หวาดกลัวเสียงดัง
-
4:30 - 4:32หวาดกลัวต่อฝันร้าย
-
4:32 - 4:34ฝันร้ายอันน่าประหวั่นพรั่นพรึง
-
4:35 - 4:39ครอบครัวเหล่านี้ต้องประสบชะตากรรม
เหมือนเช่นที่เราเห็นกันในโทรทัศน์ -
4:39 - 4:40ตัวผู้เป็นแม่
-
4:40 - 4:43ที่กลายเป็นหม้ายมีจำนวนเกือบครึ่ง
-
4:43 - 4:45หรือไม่รู้กระทั่งว่าสามีเป็นหรือตาย
-
4:45 - 4:48พยายามอธิบายถึงความรู้สึกอันเลวร้าย
ว่าพวกเธอรับมือกับมันยากเย็นเพียงใด -
4:49 - 4:54พวกเธอเฝ้ามองเด็ก ๆ เปลี่ยนไป
และไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร -
4:54 - 4:57ไม่รู้จะตอบคำถามที่ลูก ๆ เพียรถามอย่างไร
-
4:57 - 5:01แต่สิ่งที่ฉันพบว่าช่างน่าอัศจรรย์
และก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจ -
5:01 - 5:06คือ การที่ครอบครัวเหล่านี้
มีกำลังใจที่จะช่วยลูก ๆ มากเหลือเกิน -
5:06 - 5:08แม้ว่าจะต้องพบกับอุปสรรคทั้งหมดนี้
-
5:08 - 5:10พวกเขาก็คอยช่วยเหลือลูก ๆ ของเขา
-
5:10 - 5:14พวกเขาพยายามขอความช่วยเหลือ
เหล่าผู้ที่ทำงานใน NGO -
5:14 - 5:16จากครูในค่ายผู้ลี้ภัย
-
5:16 - 5:17หน่วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-
5:17 - 5:18พ่อแม่ครอบครัวอื่น ๆ
-
5:19 - 5:22ฉันเจอคุณแม่ท่านหนึ่ง
ที่เพิ่งมาอยู่ในค่ายได้เพียง 4 วัน -
5:22 - 5:24แต่ได้พยายามถึง 2 หน
-
5:24 - 5:26ในการขอความช่วยเหลือ
ให้ลูกสาวตัวน้อยวัย 8 ขวบ -
5:26 - 5:28ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงฝันร้าย
-
5:30 - 5:33แต่น่าเศร้า ที่ความพยายามเหล่านี้
มักจะไร้ประโยชน์เสียส่วนใหญ่ -
5:34 - 5:36เมื่อใดที่มีคณะแพทย์มาค่ายผู้ลี้ภัย
-
5:36 - 5:38ก็จะยุ่งอยู่ตลอดเวลาเสมอ
-
5:38 - 5:42หรือไม่มีความรู้ และเวลา
ในการช่วยเหลือการเลี้ยงดูขั้นพื้นฐาน -
5:42 - 5:45คุณครูและพ่อแม่คนอื่น ๆ
ในค่ายผู้ลี้ภัยก็เช่นเดียวกัน -
5:46 - 5:50ส่วนหนึ่งของชุมชนผู้ลี้ภัยหน้าใหม่
ที่กำลังต่อสู้เพื่อความจำเป็นใหม่ ๆ -
5:51 - 5:53ฉะนั้น เราจึงเริ่มคิดหาทาง
-
5:54 - 5:56ว่าเราจะช่วยพวกเขาได้อย่างไร
-
5:57 - 6:01ผู้ที่กำลังต่อสู้กับสิ่งที่หนักเกินจะรับไหว
-
6:01 - 6:03วิกฤตการณ์ซีเรียครั้งนี้ชี้ชัดแล้วว่า
-
6:03 - 6:08มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าช่วยเหลือ
ครอบครัวเหล่านี้ในระดับปัจเจกบุคคล -
6:08 - 6:10เราจะช่วยพวกเขาอย่างไรได้อีก
-
6:10 - 6:14เราจะเข้าถึงพวกเขาในระดับประชากร
-
6:14 - 6:16และมีค่าใช้จ่ายน้อย
-
6:17 - 6:20ในช่วงเวลาอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร
-
6:21 - 6:23หลังจากที่ใช้เวลาพูดคุยกับผู้ทำงานใน NGO
-
6:23 - 6:26หนึ่งในนั้น ได้แนะนำไอเดียอันแสนบรรเจิด
-
6:26 - 6:31ในการแจกใบปลิวความรู้การเลี้ยงดูบุตร
ผ่านกระดาษห่อขนมปัง -
6:31 - 6:35กระดาษห่อขนมปังที่จะถูกส่งไปให้
ครอบครัวในพื้นที่ขัดแย้งของซีเรีย -
6:35 - 6:37โดยผู้ปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรม
-
6:37 - 6:39นั่นคือสิ่งที่เราได้ทำไปค่ะ
-
6:39 - 6:42กระดาษห่อขนมปังนั้น
ไม่ได้ถูกดัดแปลงรูปโฉมแต่อย่างใด -
6:42 - 6:44ที่เพิ่มมามีเพียงกระดาษอีกสองแผ่น
-
6:45 - 6:50แผ่นแรก คือใบข้อมูล
และคำแนะนำขั้นพื้นฐานในการเลี้ยงดูบุตร -
6:50 - 6:53ที่จะช่วยให้สิ่งที่ผู้เป็นพ่อแม่อาจต้องเจอ
-
6:53 - 6:55และสิ่งที่ลูก ๆ ของพวกเขาอาจต้องเจอ
กลับสู่สภาวะปกติ -
6:55 - 6:59และข้อมูลวิธีในการช่วยเหลือตนเอง
และลูก ๆ -
6:59 - 7:03เช่นข้อมูลในการใช้เวลาพูดคุยกับลูก ๆ
-
7:03 - 7:05แสดงออกถึงความรักให้มากขึ้น
-
7:05 - 7:07และใจเย็นกับลูก ๆ ให้มากขึ้น
-
7:07 - 7:09ยามที่พูดคุยกับพวกเขา
-
7:09 - 7:12ส่วนกระดาษอีกแผ่น คือ
แบบสอบถามข้อเสนอแนะ -
7:12 - 7:14แน่นอนว่ามีปากกาแนบไปด้วยค่ะ
-
7:14 - 7:18ฉะนั้น การแจกจ่ายใบปลิวอันเรียบง่ายนี้
-
7:18 - 7:21หรือนี่จะเป็นวิถีทางที่เป็นไปได้
ในการส่งมอบการปฐมพยาบาลด้านจิตใจ -
7:22 - 7:25ที่มอบความอบอุ่น ความปลอดภัย
และการเลี้ยงดูที่เปี่ยมไปด้วยรักกันแน่นะ -
7:25 - 7:29เพียงสัปดาห์เดียว เราสามารถแจก
ใบปลิวได้ถึง 3,000 แผ่น -
7:30 - 7:34แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ
เรามีอัตราตอบรับถึง 60 เปอร์เซ็นต์ -
7:34 - 7:3860 เปอร์เซ็นต์
จาก 3,000 ครอบครัวที่ตอบรับเรา -
7:38 - 7:41ดิฉันไม่ทราบนะคะ
ว่าเรามีนักวิจัยอยู่กี่ท่าน ณ ที่แห่งนี้ -
7:41 - 7:43แต่อัตราการตอบรับที่ว่านี้มันน่าประทับใจจริง ๆ
-
7:43 - 7:46และหากมีผลตอบรับแบบนี้ในแมนเชสเตอร์
คงจะเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ -
7:46 - 7:49แทบไม่ต้องพูดถึงพื้นที่ขัดแย้งในซีเรีย
-
7:49 - 7:53เป็นการชี้ชัดถึงความสำคัญของข้อความ
ที่มีต่อครอบครัวเหล่านั้น -
7:55 - 7:59ฉันจำได้ว่าเราตื่นเต้นและกระตือรือร้นแค่ไหน
ที่ได้รับแบบสอบถามคืน -
7:59 - 8:02หลายครอบครัวได้ส่งข้อความกลับมานับร้อย
-
8:02 - 8:04ส่วนใหญ่แล้วเป็นไปในทางบวกและสนับสนุน
-
8:04 - 8:06แต่ข้อความที่ฉันชอบเป็นพิเศษคงจะเป็น
-
8:06 - 8:09"ขอบคุณที่ไม่ลืมพวกเราและลูก ๆ ของเรา"
-
8:10 - 8:12นี่แสดงให้เห็นถึงวิธีช่วยเหลือที่มีศักยภาพ
-
8:12 - 8:15ในการส่งมอบการปฐมพยาบาลด้านจิตใจ
แก่ครอบครัว -
8:15 - 8:17และข้อเสนอแนะที่ตอบกลับมาก็เช่นกัน
-
8:17 - 8:20ลองนึกภาพถึงการให้ความช่วยเหลือนี้
ด้วยวิธีอื่น -
8:20 - 8:24เช่น การแจกจ่ายนมสำหรับทารกแรกเกิด
หรือเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้หญิง -
8:24 - 8:26หรือแม้แต่ตะกร้าอาหารดูนะคะ
-
8:28 - 8:30ฉะนั้น มาทำให้พวกเขา
ใกล้ชิดความเป็นบ้านมากขึ้นจะดีกว่า -
8:30 - 8:31เพราะวิกฤตผู้ลี้ภัยในครั้งนี้
-
8:31 - 8:34คือวิกฤตที่กระทบถึงเราทุกคน
-
8:35 - 8:39เราถูกถาโถมด้วยรูปภาพ
และสถิตินี้อยู่ทุกคืนวัน -
8:39 - 8:41และนั่นก็ไม่น่าแปลกใจเลย
-
8:41 - 8:42เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว
-
8:42 - 8:45ผู้ลี้ภัยกว่าล้านคนได้เดินทางมาถึงยุโรป
-
8:45 - 8:46หนึ่งล้านคนเชียวนะคะ
-
8:47 - 8:50ผู้ลี้ภัยทั้งหลายก็เข้าร่วมสังคมพวกเรา
-
8:50 - 8:52และพวกเขาจะกลายเป็นเพื่อนบ้านเรา
-
8:52 - 8:54ลูก ๆ ของพวกเขาก็จะเข้าโรงเรียน
แห่งเดียวกันกับลูก ๆ ของเรา -
8:55 - 8:59เราจึงปรับเปลี่ยนใบปลิวให้ตรง
กับความต้องการของผู้ลี้ภัยในยุโรป -
9:00 - 9:02และเราจะเปิดให้เข้าถึงโดยเสรีผ่านออนไลน์ได้
-
9:02 - 9:05ในพื้นที่ที่มีการหลั่งไหลเข้ามา
ของผู้ลี้ภัยในปริมาณสูง -
9:05 - 9:08เช่น ระบบบริการสุขภาพของสวีเดน
ได้อัพโหลดใบปลิวลงเว็บไซต์พวกเขา -
9:08 - 9:10และภายใน 45 นาทีแรก
-
9:10 - 9:13มันก็ถูกดาวน์โหลดไปถึง 343 ครั้ง
-
9:13 - 9:15เป็นการชี้ให้เห็น
ว่ามันมีความสำคัญถึงเพียงไหน -
9:15 - 9:18สำหรับอาสาสมัคร, ผู้ปฏิบัติงาน
และครอบครัวอื่น -
9:18 - 9:21ในการเข้าถึงข้อมูล
การปฐมพยาบาลทางจิตใจได้โดยเสรี -
9:23 - 9:29ในปี ค.ศ. 2013 ฉันนั่งอยู่บนพื้นแข็ง ๆ
และเย็นเยียบที่เต็นท์ในค่ายผู้ลี้ภัย -
9:29 - 9:33พร้อมด้วยบรรดาคุณแม่ที่นั่งรายล้อม
ขณะที่ฉันกำลังดำเนินการสนทนากลุ่ม -
9:33 - 9:36มีหญิงชราคนหนึ่งยืนอยู่ตรงข้ามกับฉัน
-
9:36 - 9:39และคนที่ดูเหมือนเด็กผู้หญิงวัย 13
เอนตัวพิงอยู่ข้าง ๆ -
9:39 - 9:42โดยศีรษะของเธออยู่ตรงเข่าของหญิงชรา
-
9:42 - 9:45เด็กสาวคนนี้นิ่งเงียบตลอดระยะการสนทนากลุ่ม
-
9:45 - 9:46นั่งชันเข่าแนบชิดอก
-
9:46 - 9:48โดยไม่ปริปากอะไรทั้งสิ้น
-
9:49 - 9:51เมื่อเหลือเวลาอีกเล็กน้อย
ก่อนยุติการสนทนากลุ่ม -
9:51 - 9:54ขณะที่ฉันกำลังขอบคุณ
บรรดาคุณแม่ที่สละเวลามาร่วม -
9:54 - 9:57หญิงชราคนนั้นก็มองมาที่ฉัน
พลางชี้ไปที่สาวน้อย -
9:57 - 9:59แล้วพูดกับฉันว่า
"คุณช่วยพวกเราเรื่อง..ได้ไหม?" -
10:00 - 10:02ฉันเองก็ไม่มั่นใจ
ว่าเธออยากให้ฉันช่วยอะไร -
10:02 - 10:04ฉันมองที่เด็กหญิงและยิ้มให้
-
10:04 - 10:06แล้วพูดเป็นภาษาอาหรับว่า
-
10:06 - 10:08"สวัสดีจ้ะ เธอชื่ออะไร"
-
10:08 - 10:09"เธอชื่ออะไรเหรอ"
-
10:10 - 10:12เธอมองมาที่ฉันด้วยความสับสน
-
10:12 - 10:14แล้วตอบว่า "ฮาลูล"
-
10:15 - 10:19ฮาลูล เป็นชื่อเล่นของชื่อผู้หญิง
ในภาษาอาหรับ "ฮาลา" -
10:19 - 10:22และจะใช้คำนี้ก็ต่อเมื่อเอ่ยถึงสาวน้อย
ที่อายุน้อยมาก ๆ -
10:23 - 10:27จากจุดนี้ฉันจึงรู้ว่า จริง ๆ แล้ว
ฮาลา น่าจะมีอายุมากกว่า 13 -
10:28 - 10:32ปรากฏว่าเธอเป็นคุณแม่วัย 25 ปี
ของลูกน้อยถึงสามคน -
10:33 - 10:37ฮาลา เคยเป็นคุณแม่ที่ร่าเริงสดใส
มั่นใจ เปี่ยมด้วยความรักและความห่วงใย -
10:37 - 10:38แก่ลูก ๆ ของเธอเป็นอย่างมาก
-
10:38 - 10:40ทว่าสงครามแปรเปลี่ยนทุกอย่างไปจนหมด
-
10:41 - 10:45เธอผ่านเหตุการณ์การทิ้งระเบิดในเมือง
-
10:45 - 10:48เธออยู่ในช่วงเวลาแห่งการระเบิด
-
10:48 - 10:51เมื่อเครื่องบินขับไล่
บินวนไปมาเหนืออาคารบ้านเรือน -
10:51 - 10:52แล้วทิ้งระเบิดลงมา
-
10:52 - 10:55ลูก ๆ ของเธอคงจะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
-
10:55 - 10:58ฮาลาจึงรีบปรี่ไปคว้าหมอนมาปิดหูลูก ๆ ของเธอ
-
10:58 - 10:59เพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงดังอื้ออึง
-
10:59 - 11:01ในขณะที่ตัวเธอเองก็กรีดร้องเช่นกัน
-
11:02 - 11:04และเมื่อเธอและลูก ๆ มาถึงค่ายผู้ลี้ภัย
-
11:04 - 11:07เธอรู้ว่าในที่สุดเธอและลูกก็ปลอดภัยแล้ว
-
11:07 - 11:10เธอจึงเริ่มปิดกั้นตัวเอง
ทำเหมือนอย่างที่ตัวเธอเคยเป็นครั้งยังเด็ก -
11:11 - 11:13เธอปฏิเสธครอบครัวของเธออย่างสิ้นเชิง
-
11:14 - 11:16ทั้งลูก ๆ ของเธอ, สามีของเธอ
-
11:17 - 11:19ฮาลาไม่อาจแบกรับอะไรได้อีกแล้ว
-
11:21 - 11:23นี่คือความยากลำบากในการเลี้ยงดู
ที่มีจุดจบอันร้ายแรง -
11:24 - 11:25แต่น่าเศร้าที่มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
-
11:25 - 11:28สำหรับผู้ที่ต้องประสบกับความขัดแย้ง
และการพลัดพรากถิ่นฐาน -
11:28 - 11:31จะต้องเผชิญความขัดแย้งทางอารมณ์อย่างรุนแรง
-
11:32 - 11:34และนั่นคือสิ่งที่เราทุกคนพอจะเข้าใจความรู้สึก
-
11:35 - 11:38ถ้าคุณเคยผ่านช่วงเวลาที่ย่ำแย่มาในชีวิตคุณ
-
11:39 - 11:42หากคุณสูญเสียใครสักคนหรือสิ่งที่คุณรักมาก
-
11:43 - 11:45คุณจะรับมือต่อไปได้อย่างไร
-
11:47 - 11:50คุณจะยังสามารถดูแลตัวเอง
และครอบครัวคุณได้อยู่หรือไม่ -
11:51 - 11:55ลองคิดดูสิว่าช่วงปีแรก ๆ ของชีวิตนั้น
สำคัญอย่างยิ่งยวด -
11:55 - 11:58ต่อพัฒนาการทางร่างกายและอารมณ์ที่ดี
-
11:58 - 12:03และคนร่วมพันห้าร้อยล้าน
กำลังประสบกับความขัดแย้งทางอาวุธ -
12:03 - 12:06หลายคนในจำนวนเหล่านั้นได้เข้ามา
เป็นส่วนหนึ่งของสังคมเราในปัจจุบัน -
12:06 - 12:08เราไม่อาจทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อีกต่อไป
-
12:08 - 12:11กับความต้องการของผู้ที่ประสบสงคราม
และการพลัดถิ่น -
12:13 - 12:15เราต้องให้ความสำคัญแก่ความต้องการ
ของครอบครัวเหล่านั้นเป็นลำดับต้น ๆ -
12:15 - 12:20ทั้งผู้พลัดถิ่นในประเทศตัวเอง
และคนที่เป็นผู้ลี้ภัยทั่วโลก -
12:21 - 12:26ความต้องการเหล่านี้ต้องได้รับความสำคัญ
จากผู้ที่ทำงานใน NGO และผู้วางนโยบาย -
12:26 - 12:30ทั้งองค์กร WHO, องค์กร UNHCR
และพวกเราทุกคน -
12:30 - 12:34ไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในตำแหน่งใด
ในสังคมของเราก็ตาม -
12:36 - 12:41เมื่อเราเริ่มรับรู้ถึงตัวผู้ประสบภัยขัดแย้ง
-
12:41 - 12:45เมื่อเราเริ่มสังเกตถึงอารมณ์อันซับซ้อน
ที่ปรากฏบนในหน้าของพวกเขา -
12:45 - 12:47เราก็จะเห็นพวกเขาในฐานะมนุษย์เฉกเช่นเรา
-
12:48 - 12:51เราจะเห็นความต้องการของครอบครัวเหล่านั้น
-
12:51 - 12:52และนั่นคือความต้องการของมนุษย์อย่างแท้จริง
-
12:54 - 12:57เมื่อความต้องการของครอบครัวเหล่านี้
ได้รับการให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก -
12:57 - 13:00การเข้าแทรกแซงช่วยเหลือเด็กในด้านมนุษยธรรม
-
13:00 - 13:05จะได้รับการให้ความสำคัญและรับรู้ถึงหน้าที่
พื้นฐานของครอบครัวในการช่วยเหลือเด็ก ๆ -
13:06 - 13:08"สุขภาพจิตของครอบครัว"
จะต้องประกาศให้ดังก้องและชัดเจน -
13:08 - 13:10ไปในระดับโลกและระดับนานาชาติ
-
13:11 - 13:15เด็ก ๆ จะมีแนวโน้มที่จะเข้ารับ
บริการทางสังคมน้อยลง -
13:15 - 13:16ในประเทศที่ไปตั้งรกราก
-
13:16 - 13:19เพราะว่าครอบครัวเหล่านี้
จะต้องได้รับการช่วยเหลือในช่วงแรก -
13:21 - 13:23แล้วเราก็จะเปิดใจให้มากขึ้น
-
13:23 - 13:25ต้อนรับเขามากขึ้น ดูแลเขามากขึ้น
-
13:25 - 13:29และเชื่อใจในตัวผู้ที่มา
เข้ารวมสังคมของพวกเรากันมากขึ้น -
13:30 - 13:32เราจะต้องหยุดยั้งสงครามทั้งหลาย
-
13:33 - 13:37เราต้องสร้างโลกใบใหม่ที่เด็ก ๆ จะสามารถ
ฝันถึงเครื่องบินมาโปรยแจกของขวัญได้ -
13:37 - 13:39ไม่ใช่มาทิ้งระเบิด
-
13:39 - 13:43จนกว่าเราจะหยุดยั้งความขัดแย้งด้วยอาวุธ
ที่คุกรุ่นไปทั่วโลกได้ -
13:43 - 13:46ครอบครัวเหล่านี้จะพลัดถิ่น
-
13:46 - 13:47ทิ้งให้เด็ก ๆ ต้องเปราะบางร่ำไป
-
13:48 - 13:51แต่จากการปรับปรุงการเลี้ยงดู
และการช่วยเหลือผู้ดูแล -
13:51 - 13:56มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะบรรเทาความสัมพันธ์
ระหว่างสงครามและความทุกข์ทางจิตใจ -
13:56 - 13:58ในตัวเด็ก ๆ และครอบครัวได้
-
13:59 - 14:00ขอบคุณค่ะ
-
14:00 - 14:02(เสียงปรบมือ)
- Title:
- การเป็นพ่อแม่เด็ก ๆ ในเขตสงครามนั้นเป็นเช่นไร
- Speaker:
- อาลา เอล-คาห์นี (Aala El-Khani)
- Description:
-
พ่อแม่จะปกป้องและช่วยให้ลูก ๆ ของพวกเขารู้สึกปลอดภัยอีกครั้งหนึ่งได้อย่างไร ในเมื่อบ้านของพวกเขาถูกทำลายอย่างย่อยยับจากสงคราม ในการบรรยายอันแสนอบอุ่นหัวใจนี้ นักจิตวิทยา อาลา เอล-คาห์นี จะมากล่าวถึงงานของเธอในการช่วยเหลือ และเรียนรู้จากครอบครัวผู้ลี้ภัยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย เธอตั้งคำถามว่า เราจะช่วยเหลือพ่อแม่เหล่านี้ในการมอบการเลี้ยงดูที่ให้ความอบอุ่นและปลอดภัยแก่ลูก ๆ อันเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดได้อย่างไร
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 14:16
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for What it's like to be a parent in a war zone | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for What it's like to be a parent in a war zone | ||
Retired user accepted Thai subtitles for What it's like to be a parent in a war zone | ||
Retired user edited Thai subtitles for What it's like to be a parent in a war zone | ||
Retired user edited Thai subtitles for What it's like to be a parent in a war zone | ||
Theeraparp Riambuppha edited Thai subtitles for What it's like to be a parent in a war zone | ||
Retired user declined Thai subtitles for What it's like to be a parent in a war zone | ||
Retired user edited Thai subtitles for What it's like to be a parent in a war zone |