-
Title:
เคล็ดลับในการทำอาชีพอิสระให้ประสบความสำเร็จ
-
Description:
บ่อยครั้งที่คนทำงานอิสระถูกบอกให้เลือกระหว่างการสร้างสรรค์ หรือการหาเงิน ที่ปรึกษาด้านการเงิน พาโค เดอ ลีออน ลบล้างความคิดเช่นนี้ และให้คำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้จริงในการวางตัวเองให้โดดเด่น และได้รับค่าตอบแทนที่คุณควรได้รับ
-
Speaker:
พาโค เดอ ลีออน
-
ฉันเคยหาเงินไม่เก่งเลย
-
ตอนแรก ฉันทำงานเป็น
พนักงานวางแผนการเงินระดับต้น
-
และงานของฉัน
คือช่วยคนอื่นจัดการเงินของเขา
-
แต่เงินเดือนฉันต่ำ
จนต้องเริ่มขี่จักรยานไปทำงาน
-
เพื่อประหยัดค่าน้ำมันรถ
-
และฉันเริ่มปลูกผักเพื่อประหยัดค่าอาหาร
-
ตอนนี้ฉันมีกิจการเป็นตัวแทนด้านบัญชี
-
ที่เจาะจงให้บริการธุรกิจ
ด้านความคิดสร้างสรรค์โดยเฉพาะ
-
-
[ทำได้ด้วยการสนับสนุนของดร็อปบ็อกซ์]
¶
-
นี่อาจฟังดูแปลกหน่อยที่มาจากปากของ
คนเคยเป็นนักวางแผนการเงิน
¶
-
แต่ฉันไม่นิยมทุนนิยม
-
เกือบทุกคนที่ฉันรู้จักและทำงานด้วยและรัก
ล้วนเป็นศิลปิน ซึ่งรวมทั้งตัวฉันด้วย
-
ฉันจึงรู้ว่าวิธีการที่ระบบถูกจัดตั้งขึ้นมา
-
คนทำงานอิสระและศิลปินนั้น
มักได้รับค่าจ้างต่ำเกินไป
-
พวกเขามักรู้สึกว่าการโฟกัสไปที่เงิน
จะเป็นการทำลายความคิดสร้างสรรค์ของเขา
-
หรือไม่เขาก็คิดกันว่า
พวกเขาหาเงินกันไม่เก่งอยู่แล้วนี่นา
-
แต่ความจริงแล้ว เราสามารถหาเงินได้เก่ง
¶
-
และจริง ๆ แล้วเราต้องทำ
-
เพราะว่ามีอิสรภาพของเราเป็นเดิมพัน
-
อิสระในการได้สร้างสรรค์ ในการโน้มนำ
-
และเพื่อใช้พลังของเงิน
-
มาเปลี่ยนการเอารัดเอาเปรียบ
ที่ทำให้ศิลปินถังแตกอยู่อย่างนี้ตั้งแต่แรก
-
ฉันไม่ต้องดิ้นรนอีกแล้ว
¶
-
ฉันเรียนรู้เยอะมาก
ตั้งแต่เป็นนักวางแผนทางการเงิน
-
และฉันอยากแบ่งปันความรู้นี้กับพวกคุณ
-
นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้และได้ทำ
-
-
เมื่อพูดถึงงานที่คุณนำเสนอ
-
คุณจะต้องสามารถตอบคำถามนี้ให้ได้
-
ทำไมเขาถึงจะเลือกคุณ
แทนที่จะเป็นคู่แข่งคนอื่น?
-
หากคุณไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้
ลูกค้าของคุณคงตอบไม่ได้เช่นกัน
-
ซึ่งแปลว่าคุณไม่สามารถเรียกค่าจ้างสูงขึ้น
จากสิ่งที่คุณทำให้งานมีความพิศษ
-
ราคาเป็นตัวแบ่งและการประมูลงาน
เป็นการแข่งกันตกลงไปก้นบึ้ง
-
สิ่งที่จะทำให้คุณต่างอาจเป็นสิ่งที่คุณทำ
เหตุผลที่คุณทำ หรือวิธีที่คุณทำ
-
วงควอร์เต็ดเครื่องสายที่เรียบเรียง
และเล่นเพลงเมดเลย์ฮิปฮอป
-
หรือบริษัทแบรนดิ้งที่มีวิธีเสนอเทคโนโลยี
ทางการตลาดแก่คนรุ่นเบบี้บูม
-
หรือนักออกแบบพร็อพและฉาก
-
ที่มีชื่อเสียงด้าน
การทำหุ่นจำลองสวย ๆ จากกระดาษ
-
-
หลังจากที่ระบุได้แล้ว
ว่าอะไรทำให้คุณแตกต่าง
-
วางตำแหน่งของคุณ
เพื่อดึงดูดลูกค้าที่คุณอยากได้
-
เพื่อให้ขั้นตอนนี้เป็นผล
คุณต้องบีบจุดโฟกัสของคุณให้แคบลง
-
หากขาดจุดโฟกัส
คุณพยายามเป็นทุกอย่างให้ทุกคน
-
จะกลายเป็นว่าคุณไม่เป็นอะไรสำหรับใครเลย
-
เสร็จแล้ว
ใช้ภาษาที่ดึงดูดลูกค้าเป้าหมายของคุณ
-
สร้างสรรค์สื่อทางการตลาด
หรือสื่อผลงานที่โดนใจพวกเขา
-
และไปอยู่ในชีวิตจริง
หรือโลกเสมือนที่พวกเขาอยู่กัน
-
อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นนักถ่ายภาพวิดีโอ
-
และคุณอยากทำงานกับ
บริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยภารกิจ
-
ที่นำน้ำสะอาดเข้าไปสู่พื้นที่ขาดแคลนน้ำ
-
สร้างตัวอย่างวิดีโอแสดงให้เห็นชัดว่าพลัง
ของภาพยนตร์เปลี่ยนให้คนลงมือทำได้อย่างไร
-
สาม เมื่อมาถึงการเจรจาเรื่องเงิน
ทำความเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของผลงานของคุณ
¶
-
คุณไม่ใช่ทำเพื่อค่าตอบแทนเวลา
ที่ใช้ไปในการทำงานนั้นเท่านั้น
-
คุณต้องได้ค่าตอบแทน
สำหรับทุกสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มา
-
และทุกอย่างที่คุณได้ทำมาหลายปี
-
ที่ทำให้คุณเก่งในสิ่งที่คุณทำอยู่
-
ถามตัวเองว่า
-
บริการของคุณส่งผลต่อกำไรของลูกค้าอย่างไร
-
คุณสร้างประสิทธิภาพ
ที่ทำให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างไร
-
ลูกค้าทำเงินจากผลงาน
-
ที่คุณช่วยพวกเขาสร้างเท่าไหร่ ?
-
อย่างเช่น
ถ้าคุณเป็นคนทำอาชีพอิสระที่ช่วยคนทำยูทูป
-
สร้างสินค้าอย่างเช่นเสื้อยืด และหมวกแดด
-
ให้พูดถึงเงินที่คุณช่วยลูกค้า
ของคุณขายของได้มา
-
หรือ หากคุณได้สร้างโครงการฝึกอบรมเรื่อง
ความหลากหลายและการยอมรับความต่าง
-
สำหรับองค์กรต่าง ๆ
-
ให้พูดถึงเวลาและเงินที่บริษัทต่าง ๆ
จะประหยัดได้เมื่อซื้อโครงการของคุณ
-
แทนที่จะต้องมานั่งทำเอาเอง
-
สี่ ดูให้ถี่ถ้วนว่าราคาของคุณได้บวก
ภาษีของคุณ ค่าใช้จ่ายและกำไรของคุณไว้แล้ว
¶
-
เมื่อคุณทำอาชีพอิสระ คุณคือธุรกิจ
-
คุณจึงต้องรับผิดชอบทั้งทำการตลาด
-
บัญชี ภาษี กฎหมาย ประกัน
-
ค่าใช้จ่าย และกำไร
-
หากคุณเสนอราคาต่ำเกินไป
-
คุณก็ได้ต่อราคากับตัวเองไปแล้ว
-
หากลูกค้าค้านราคาของคุณ
-
ไม่ต้องขอโทษ
-
แค่บอกว่าคุณทำธุรกิจ
-
และคุณไม่สามารถทำงานในราคาที่ต่ำกว่านี้ได้
-
แทนที่จะทำลายความคิดสร้างสรรค์ของคุณ
¶
-
การโฟกัสเรื่องหาเงินให้มากขึ้นนั้น
อาจจะทำให้มันดีขึ้นก็ได้
-
เพราะมันทำให้คุณมีอิสระที่จะเลือก
-
เพราะเมื่อคุณหาเงินได้มากพอด้วยการทำงาน
กับลูกค้าที่เห็นคุณค่าของผลงานของคุณ
-
คุณก็ไม่ต้องมายอมทน
ด้วยการทำงานกับลูกค้าที่ไม่เห็นค่าต่อไป