Return to Video

ปรัชญาชีวิตของผมเพื่อชีวิตที่มีความสุข | แซม เบิร์นส์ (Sam Berns)| TEDxMidAtlantic

  • 0:18 - 0:20
    สวัสดีครับทุกคน
  • 0:20 - 0:22
    ผมชื่อแซม
  • 0:22 - 0:24
    ผมเพิ่งจะอายุ 17
  • 0:24 - 0:28
    ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้
    ก่อนที่ผมจะขึ้นชั้นมัธยมปลาย
  • 0:28 - 0:30
    ผมอยากเล่นกลองสแนร์ (snare drum)
    ในวงโยธวาธิตของโรงเรียนมัธยมฟอกซ์โบโร
  • 0:33 - 0:36
    มันเป็นความฝัน
    ที่ผมจะต้องทำให้เป็นจริงให้ได้
  • 0:36 - 0:38
    แต่กลองสแนร์และสายสะพาย
  • 0:38 - 0:40
    หนังถึงชิ้นละ 40 ปอนด์ (18 กิโลกรัม)
  • 0:40 - 0:43
    และผมเป็นโรคที่ชื่อว่าโพรจีเรีย (Progeria)
  • 0:43 - 0:47
    เพื่อให้คุณพอเข้าใจ
    ผมหนักแค่ 50 ปอนด์ (เกือบ 23 กิโลกรัม)
  • 0:47 - 0:52
    ดังนั้น โดยสภาพแล้ว ผมไม่สามารถ
    สะพายกลองสแนร์ขนาดปกติได้
  • 0:52 - 0:56
    และเพราะว่าผู้อำนวยการวงมอบหมายให้ผมเล่น
  • 0:56 - 0:59
    กลุ่มเครื่องตีในแถวหน้าสุดของวงโยธวาธิต
    ในช่วงการแสดงพักครึ่งเวลา
  • 0:59 - 1:01
    ซึ่งการเล่นในตำแหน่งนั้นมันสนุก
  • 1:01 - 1:05
    ประกอบไปด้วยเครื่องตีรอง
    ที่เจ๋ง ๆ หลายชิ้น
  • 1:05 - 1:09
    เช่น กลองบองโกส์ กลองทิมพานี
  • 1:09 - 1:11
    ไปจนถึงกลองชุด และตัวเคาะจังหวะ
  • 1:11 - 1:13
    มันจึงสนุกมาก
  • 1:13 - 1:18
    แต่ทั้งหมดนั้น ผมจะไม่ได้เดินสวนสนาม
    ซึ่งผมรู้สึกแย่มาก
  • 1:18 - 1:21
    แต่กระนั้น ไม่มีอะไรที่จะหยุดผม
  • 1:21 - 1:24
    จากการที่จะได้เล่นกลองสแนร์ในวงโยธวาธิต
  • 1:24 - 1:25
    ในช่วงการแสดงพักครึ่งเวลา
  • 1:25 - 1:30
    ดังนั้น ครอบครัวผมและตัวผม
    จึงได้ทำงานร่วมกับวิศวกร เพื่อออกแบบ
  • 1:30 - 1:32
    สายสะพายกลองสแนร์
  • 1:32 - 1:36
    ที่เบาขึ้นและสะพายง่ายขึ้นสำหรับผม
  • 1:36 - 1:40
    หลังจากที่พวกเราลงแรงกันได้สักระยะ
    เราก็ได้สร้าง
  • 1:40 - 1:44
    ชุดอุปกรณ์กลองสแนร์
    ที่หนักแค่ 6 ปอนด์ (ไม่ถึง 3 กิโลกรัม)
  • 1:44 - 1:48
    (เสียงปรบมือ)
  • 1:48 - 1:52
    ผมขอให้ข้อมูลพวกคุณอีกสักนิด
    เกี่ยวกับโรคโพรจีเรีย
  • 1:52 - 1:58
    โรคนี้เกิดกับเด็กแค่ 350 คนทั่วโลก
  • 1:58 - 2:01
    มันจึงเป็นโรคที่หายากมาก ๆ
  • 2:01 - 2:03
    ผลของโรคโพรจีเรียประกอบด้วย
  • 2:03 - 2:07
    ผิวหนังตึง น้ำหนักตัวเพิ่มช้า
    และร่างรายแคระแกรน
  • 2:07 - 2:09
    รวมไปถึงโรคหัวใจ
  • 2:09 - 2:13
    เมื่อปีก่อน คุณแม่ของผม
    และทีมนักวิทยาศาสตร์ของท่าน
  • 2:13 - 2:17
    ได้เผยแพร่ผลการศึกษา
    การรักษาโรคโพรจีเรียที่สำเร็จเป็นครั้งแรก
  • 2:17 - 2:19
    และเพราะสิ่งนี้ ผมได้ให้สัมภาษณ์
    ทางสถานีวิทยุแห่งชาติ
  • 2:19 - 2:22
    และจอห์น ฮามิลตัน
    (ผู้สื่อข่าวสายวิทยาศาสตร์) ได้ถามผมว่า
  • 2:22 - 2:24
    "อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด
  • 2:24 - 2:27
    ที่ผู้คนควรจะรู้เกี่ยวกับคุณ?"
  • 2:27 - 2:29
    ผมตอบไปอย่างเรียบง่ายว่า
  • 2:29 - 2:32
    ผมมีชีวิตที่มีความสุข
  • 2:32 - 2:36
    (เสียงปรบมือ)
  • 2:36 - 2:40
    แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายในชีวิตผม
  • 2:40 - 2:43
    ซึ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเพราะโรคโพรจีเรีย
  • 2:43 - 2:45
    แต่ผมไม่ต้องการให้ผู้คนรู้สึกแย่กับผม
  • 2:45 - 2:47
    เพราะผมไม่ได้หมกมุ่น
    คิดถึงอุปสรรคเหล่านั้นตลอดเวลา
  • 2:49 - 2:51
    ผมสามารถเอาชนะ
    อุปสรรคหลาย ๆ อย่างได้ในที่สุด
  • 2:51 - 2:56
    ผมจึงมาที่นี่ ในวันนี้ เพื่อที่จะแบ่งปันปรัชญาชีวิตของผม
    สำหรับชีวิตที่มีความสุข ให้กับทุกท่าน
  • 2:56 - 3:01
    สำหรับผม ปรัชญาชีวิตประกอบด้วย 3 ข้อ
  • 3:01 - 3:05
    นี่คือวลีของเฟอริส บูลเลอร์ ผู้โด่งดัง
  • 3:05 - 3:09
    ปรัชญาข้อแรกก็คือ
  • 3:09 - 3:12
    ผมยอมรับได้กับสิ่งที่ผมทำไม่ได้
  • 3:12 - 3:14
    เพราะว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ผมสามารถทำได้
  • 3:14 - 3:17
    ผู้คนมักจะถามผมว่า
  • 3:17 - 3:19
    "การใช้ชีวิตกับโรคโพรจีเรีย
    มันน่าจะลำบากนะ"
  • 3:19 - 3:23
    หรือไม่ก็ "ในแต่ละวัน เธอต้อง
    เจอความยากลำบากอะไรบ้างจากโรคนี้?"
  • 3:23 - 3:26
    ซึ่งผมอยากจะบอกว่า
    แม้ผมจะเป็นโรคโพรจีเรีย
  • 3:26 - 3:29
    แต่เวลาส่วนใหญ่ของผม
    ใช้คิดอ่านในเรื่องอื่น ๆ
  • 3:29 - 3:32
    ที่ไม่เกี่ยวกับโรคนี้เลย
  • 3:32 - 3:36
    ไม่ใช่ว่าผมทำเป็นเมินเฉย
    ต่ออุปสรรคจากโรคนี้
  • 3:36 - 3:38
    เมื่อผมไม่สามารถทำอะไรบางอย่างได้
    อย่างเช่น
  • 3:38 - 3:43
    การวิ่งเป็นระยะทางไกล ๆ
    หรือการขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา
  • 3:43 - 3:45
    ผมรู้ดีว่าผมพลาดเรื่องสนุก ๆ พวกนั้น
  • 3:45 - 3:48
    แต่ในทางกลับกัน
    ผมเลือกที่จะให้ความสำคัญกับกิจกรรม
  • 3:48 - 3:52
    ที่ผมทำมันได้อย่างราบรื่น
    ที่ผมมีความหลงไหล
  • 3:52 - 3:56
    เช่น กิจกรรมลูกเสือ ฟังเพลง
    หรืออ่านหนังสือการ์ตูน
  • 3:56 - 3:59
    หรือการติดตามทีมกีฬา
    ประจำเมืองบอสตันที่ผมคลั่งไคล้
  • 3:59 - 4:02
    ใช่เลย (หัวเราะ)
  • 4:02 - 4:06
    อย่างไรก็ดี บางครั้งผมจำเป็นใช้วิธีที่แตกต่าง
    เพื่อที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้เกิดขึ้นได้
  • 4:06 - 4:08
    โดยการปรับปรุงตกแต่งมันเสียหน่อย
  • 4:08 - 4:12
    และผมต้องการเพิ่มบรรดาสิ่งเหล่านั้น
    เข้าไปในรายการประเภท "ฉันทำได้"
  • 4:12 - 4:15
    อย่างเช่นเรื่องกลอง
    ที่พวกคุณเพิ่งได้เห็นไปเมื่อสักครู่นี้
  • 4:15 - 4:17
    นี่เป็นคลิปวิดีโอ
  • 4:17 - 4:19
    ที่ผมเล่นเพลงไอ้แมงมุม (Spider-Man)
  • 4:19 - 4:22
    ร่วมในวงโยธวาธิตโรงเรียนมัธยมฟอกซ์โบโร
  • 4:22 - 4:24
    ในการแสดงช่วงพักครึ่งเวลา
    เมื่อสองสามปีมาแล้ว
  • 4:24 - 4:26
    (วิดีโอ)
  • 4:27 - 4:32
    ♫ เพลงประกอบไอ้แมงมุม ♫
  • 5:07 - 5:11
    (เสียงปรบมือ)
  • 5:11 - 5:13
    ขอบคุณครับ
  • 5:13 - 5:15
    เอาล่ะ เอาล่ะ
  • 5:15 - 5:16
    มันเจ๋งทีเดียว
  • 5:16 - 5:20
    ผมสามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้
  • 5:20 - 5:22
    นั่นคือการเล่นกลองสแนร์ในวงโยธวาธิต
  • 5:22 - 5:25
    เพราะผมเชื่อว่า
    ผมสามารถทำความฝันทุกอย่างให้เป็นจริงได้
  • 5:25 - 5:30
    ซึ่งผมหวังว่า พวกคุณก็สามารถทำความฝันของคุณให้เป็นจริงได้ ด้วยแนวคิดนี้เช่นกัน
  • 5:30 - 5:32
    ปรัชญาชีวิตข้อต่อไปของผมก็คือ
  • 5:32 - 5:37
    ผมพาตัวเองไปอยู่
    ในกลุ่มคนที่ผมอยากอยู่ด้วย
  • 5:37 - 5:39
    คืือกลุ่มคนที่มีคุณภาพสูง
  • 5:39 - 5:43
    ผมโชคดีมาก ๆ ที่มีครอบครัวที่ยอดเยี่ยม
  • 5:43 - 5:46
    พวกเขาคอยสนับสนุนผมตลอดมา
  • 5:46 - 5:48
    และผมก็โชคดีมาก
  • 5:48 - 5:51
    ที่มีกลุ่มเพื่อนสนิทที่โรงเรียน
  • 5:51 - 5:55
    พวกเราเป็นก๊วนเฮฮาไปไหนไปกัน
    พวกเราหลายคนคลั่งไคล้ในวงโยธาวาทิต
  • 5:55 - 5:57
    พวกเราชื่นชมวงของกันและกัน
  • 5:57 - 6:00
    และพวกเราก็ช่วยเหลือกันในยามจำเป็น
  • 6:00 - 6:05
    เรามองลึกเข้าไปในตัวตนของแต่ละคน
  • 6:05 - 6:07
    และนี่ก็คือแนวการเฮฮาไปไหนไปกัน
    ของพวกเรา
  • 6:07 - 6:09
    ตอนนี้พวกเราเป็นรุ่นน้องในโรงเรียนมัธยม
  • 6:09 - 6:15
    แต่เราก็สามารถเป็นที่ปรึกษา
    ให้กับสมาชิกรุ่นใหม่ ๆ ในวงได้
  • 6:15 - 6:17
    ซึ่งพวกเราทำกันเป็นทีม
  • 6:17 - 6:20
    สิ่งที่ผมรักในการได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
    อย่างเช่นวงโยธวาทิต
  • 6:20 - 6:23
    คือการได้สร้างดนตรีขึ้นมาด้วยกัน
  • 6:23 - 6:28
    มันจับต้องได้ มันเป็นของจริง
    และมันเข้ามาแทนทีโรคโพรจีเรีย
  • 6:28 - 6:30
    ผมจึงไม่ต้องกังวลกับโรคนี้
  • 6:30 - 6:34
    เมื่อผมมีความสุขในยามที่ทำงานดนตรี
  • 6:34 - 6:37
    ตอนที่กำลังถ่ายทำสารคดี
  • 6:37 - 6:39
    หรือตอนที่ได้ออกทีวีอยู่สองสามครั้ง
  • 6:39 - 6:41
    ผมรู้สึกว่ามันเป็นจุดสูงสุดของชีวิต
  • 6:41 - 6:46
    ในแต่ละวัน เมื่อผมอยู่ท่ามกลางผู้คนใกล้ชิด
  • 6:46 - 6:49
    พวกเขาให้พลังด้านบวกแก่ชีวิตผม
  • 6:49 - 6:55
    และผมหวังว่า ผมจะสามารถส่งพลังด้านบวก
    กลับไปให้ผู้คนรอบ ๆ ตัวผมได้เช่นกัน
  • 6:55 - 6:58
    (เสียงปรบมือ)
  • 6:58 - 6:59
    ขอบคุณครับ
  • 6:59 - 7:01
    ดังนั้น ใจความมันมีอยู่ว่า
  • 7:01 - 7:05
    ผมหวังว่าคุณจะซาบซึ่ง
    และรักครอบครัวของคุณ
  • 7:05 - 7:08
    รักเพื่อนของคุณ รักพี่น้องของคุณ
  • 7:08 - 7:12
    แล้วบอกให้คนเหล่านั้นได้รับรู้
    ไม่ว่าจะเป็นคนที่ให้คำปรึกษาคุณ
  • 7:12 - 7:14
    หรือชุมชนของคุณ
  • 7:14 - 7:17
    เพราะพวกเขาเป็นสังคมที่เราได้พบเจอจริง ๆ
    ในแต่ละวันของชีวิต
  • 7:17 - 7:21
    พวกเขาสามารถสร้างพลังในด้านสร้างสรรค์
    ได้อย่างแท้จริง
  • 7:21 - 7:24
    ปรัชญาชีวิตข้อที่ 3 คือ
  • 7:24 - 7:26
    จงเดินหน้าอย่าหยุดยั้ง
  • 7:26 - 7:30
    นี่เป็นวลีของคุณที่น่าจะรู้จักดี วอลท์ ดีสนีย์
  • 7:30 - 7:31
    มันเป็นหนึ่งในวลีประจำใจของผมเลยทีเดียว
  • 7:31 - 7:34
    ผมจะหาเป้าหมายในชีวิตอยู่เสมอ
  • 7:34 - 7:37
    ตั้งบางอย่างเป็นหมายให้ฝ่าฟัน
    เพื่อให้ชีวิตผมมีความหมายยิ่งขึ้น
  • 7:37 - 7:39
    ซึ่งมันไม่เป็นจำเป็นต้องใหญ่โต
  • 7:39 - 7:41
    มันอาจจะเป็นอะไรก็ได้
  • 7:41 - 7:44
    เช่นการตั้งตารอหนังสือการ์ตูนเล่มใหม่
  • 7:44 - 7:46
    หรือไม่ก็ตั้งตารอการไปเที่ยวกับครอบครัว
    อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
  • 7:46 - 7:49
    หรือไม่ก็ตั้งตารอการไปเที่ยวเฮฮากับกลุ่มเพื่อน
  • 7:49 - 7:52
    หรือแม้แต่การตั้งตารองานฟุตบอล
    ครั้งต่อไปของโรงเรียนมัธยม
  • 7:52 - 7:55
    ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมมีเป้าหมาย
  • 7:55 - 7:58
    และรู้ว่าอนาคตที่สดใสกำลังรอผมอยู่
  • 7:58 - 8:02
    และอาจจะพาผมให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ ๆ ในชีวิต
    ที่อาจจะต้องพบเจอ
  • 8:02 - 8:08
    แนวคิดแบบนี้มันรวมไปถึง
    ความตั้งมั่นในการคิดให้ก้าวหน้าเสมอ
  • 8:08 - 8:11
    ผมพยายามอย่างหนัก
    ที่จะไม่เสียเวลาไปกับการรู้สึกหดหู่กับตัวเอง
  • 8:11 - 8:15
    เพราะเมื่อผมหลงเสียเวลาแบบนั้น
    ผมจะติดอยู่ในความขัดแย้งในจิตใจ
  • 8:15 - 8:19
    ว่ามันจะไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับความสุข
    หรือความรู้สึกด้านอื่น ๆ อีกต่อไป
  • 8:19 - 8:23
    จริง ๆ แล้วผมไม่ได้เฉยชา
    ต่อความรู้สึกแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นในใจ
  • 8:23 - 8:25
    ผมกลับยอมรับมัน
  • 8:25 - 8:28
    ผมปล่อยให้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
    ซึ่งมันทำให้ผมรับรู้ว่ามันยังคงอยู่
  • 8:28 - 8:32
    เพื่อที่ผมจะได้ทำในสิ่งที่ต้องทำ
    คือก้าวข้ามมันไป
  • 8:32 - 8:35
    ตอนเด็ก ๆ ผมอยากเป็นวิศวกร
  • 8:35 - 8:37
    ผมอยากเป็นนักประดิษฐ์
  • 8:37 - 8:40
    ซึ่งสามารถขับเคลื่อนโลกอย่างก้าวกระโดด
    ไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น
  • 8:40 - 8:42
    มันอาจจะมาจากความคลั่งไคล้ในตัวต่อเลโก้
  • 8:42 - 8:45
    และอิสรภาพในการแสดงออกถึงสิ่งที่ผมรู้สึก
  • 8:45 - 8:48
    ขณะที่ผมกำลังประกอบตัวต่อเลโก้
    ขึ้นมาเป็นรูปทรง
  • 8:48 - 8:53
    จริง ๆ แล้วแนวคิดนี้อาจจะมาจากครอบครัว
    และที่ปรึกษาชีวิตของผม
  • 8:53 - 8:58
    ผู้ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดี
    และได้รับการเติมเต็มในชีวิต
  • 8:58 - 9:01
    ตอนนี้ความใฝ่ฝันของผมเปลี่ยนไปเล็กน้อย
  • 9:01 - 9:04
    ผมอยากทำงานด้านชีววิทยา
  • 9:04 - 9:08
    อาจจะเป็นสาขาชีววิทยาของเซลล์
    หรือสาขาพันธุศาสตร์
  • 9:08 - 9:12
    หรืออาจจะเป็นสาขาชีวเคมี หรืออะไรก็ได้
  • 9:12 - 9:16
    คนนี้คือเพื่อนของผม คนที่ผมเคารพ
  • 9:16 - 9:19
    ฟรานซีส คอลลินส์
    ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติ
    (National Institutes of Health)
  • 9:19 - 9:23
    นี่คือเรา 2 คนในงาน TEDMED เมื่อปีก่อน
    เรากำลังพูดคุยกันอย่างออกรส
  • 9:23 - 9:26
    ผมรู้สึกว่า ไม่ว่าสิ่งใดที่ผมต้องการจะเป็น
  • 9:26 - 9:30
    ผมเชื่อว่าผมสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
  • 9:30 - 9:34
    และเมื่อผมเดินหน้าเปลี่ยนแปลงโลก
    ผมก็จะมีความสุข
  • 9:34 - 9:37
    ประมาณ 4 ปีมาแล้ว
  • 9:37 - 9:39
    HBO เริ่มถ่ายทำสารคดี
  • 9:39 - 9:42
    เกี่ยวกับครอบครัวผมและตัวผม
    สารคดีนี้ชื่อว่า "ชีวิตในมุมมองของแซม"
    (Life According to Sam)
  • 9:42 - 9:46
    มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่
    แต่นั่นมันก็ 4 ปีมาแล้ว
  • 9:46 - 9:50
    ซึ่งก็เหมือน ๆ กันทุกคน
    มุมมองเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไป
  • 9:50 - 9:54
    และหวังว่ามันจะมีความเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ
    ดังเช่นที่ผมเลือกอาชีพในอนาคตของผม
  • 9:54 - 9:59
    แต่กระนั้น บางอย่างก็ยังคงเดิม
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา
  • 9:59 - 10:03
    อย่างเช่น จิตใจของผม และปรัชญาชีวิต
  • 10:03 - 10:05
    ผมอยากให้พวกคุณได้ดู
  • 10:05 - 10:08
    คลิปวิดีโอเกี่ยวกับตัวผมเองตอนเด็ก ๆ
  • 10:08 - 10:11
    ซึ่งผมรู้สึกว่ามันช่าง
    สอดคล้องกับปรัชญาของผม
  • 10:11 - 10:13
    (คลิปวิดีโอ)
  • 10:13 - 10:16
    เมื่อผมได้เข้าใจมากขึ้นในเชิงพันธุศาสตร์
  • 10:16 - 10:20
    ผมจึงไม่ค่อยใส่ใจมันเท่าไรแล้ว
  • 10:20 - 10:21
    มันเคยเป็น
  • 10:21 - 10:24
    สิ่งที่ขัดขวางผมจากการทำสิ่งต่าง ๆ
  • 10:24 - 10:27
    ทำให้เด็กหลาย ๆ คนต้องตาย
  • 10:27 - 10:30
    ทำให้ทุกคนต้องวิตก
  • 10:30 - 10:35
    แต่ตอนนี้ ผมรู้แล้ว
    ว่ามันเป็นแค่โรคโปรตีนผิดปกติ
  • 10:35 - 10:39
    ที่ทำให้โครงสร้างของเซลล์อ่อนแอ
  • 10:40 - 10:42
    ดังนั้น
  • 10:42 - 10:45
    มันจึงไม่เป็นภาระสำหรับผมอีกต่อไป
  • 10:45 - 10:48
    ผมไม่พะวงคิดถึง
  • 10:48 - 10:52
    โรคโพรจีเรีย ว่ามันเป็นตัวเป็นตน
    ที่คอยหลอกหลอนผม
  • 10:56 - 10:58
    ดีใช่ไหมล่ะ ?
  • 10:58 - 11:02
    (เสียงปรบมือ)
  • 11:02 - 11:03
    ขอบคุณครับ
  • 11:03 - 11:06
    คุณคงพอจะเห็นภาพว่า
    ผมได้ยึดถือแนวคิดนี้มาตลอดหลายปี
  • 11:06 - 11:10
    แต่จริง ๆ แล้ว
    ผมไม่เคยนำปรัชญาเหล่านี้มาใช้จริง ๆ
  • 11:10 - 11:14
    แม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่ง
    เดือนมกราคมที่ผ่านมา
  • 11:14 - 11:19
    ผมป่วยมากด้วยอาการหลอดลมอักเสบ
    และผมต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวัน
  • 11:19 - 11:24
    ผมต้องถูกแยกจากสิ่งแวดล้อมทั้งหมดในชีวิต
    ที่ผมให้คุณค่าว่า
  • 11:24 - 11:25
    ทำให้ผมเป็นผม
  • 11:25 - 11:28
    ที่มอบตัวตนให้กับผม
  • 11:28 - 11:31
    แต่เมื่อได้รู้ว่า ผมมีอาการดีขึ้น
  • 11:31 - 11:34
    และคิดไปถึงเวลา
    ที่ผมจะได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
  • 11:34 - 11:37
    มันช่วยให้ผมเดินหน้าต่อไปได้
  • 11:37 - 11:39
    บางครั้งผมต้องกล้า
  • 11:39 - 11:41
    ซึ่งมันไม่ง่ายเลย
  • 11:41 - 11:43
    และบางครั้ง
    ผมต้องพบความผิดหวังจนเสียศูนย์
  • 11:43 - 11:44
    ผมเคยมีวันที่แย่
  • 11:44 - 11:48
    แต่ผมตระหนักว่าการมีความกล้าหาญ มันไม่ง่าย
  • 11:48 - 11:52
    สำหรับผม มันคือกุญแจสำคัญ
    ที่จะทำให้เดินหน้าต่อไปได้
  • 11:52 - 11:54
    และทั้งหมดนี้
  • 11:54 - 11:58
    ผมไม่เสียเวลารู้สึกแย่กับตัวเอง
  • 11:58 - 12:01
    ผมพาตัวเองไปอยู่ร่วมกับผู้คน
    ที่ผมอยากจะอยู่ด้วย
  • 12:01 - 12:03
    และผมมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อไป
  • 12:03 - 12:07
    และด้วยปรัชญานี้ ผมหวังว่าทุก ๆ คน
  • 12:07 - 12:09
    จะก้าวข้ามอุปสรรคของตัวเอง
  • 12:09 - 12:12
    และมีชีวิตที่มีความสุขเช่นเดียวกัน
  • 12:12 - 12:13
    อ้อ ช้าก่อน ยังไม่หมดแค่นั้น
  • 12:13 - 12:16
    ผมมีคำแนะนำอีกอย่าง
  • 12:16 - 12:17
    (หัวเราะ)
  • 12:17 - 12:20
    อย่าพลาดงานเลี้ยง ถ้าคุณสามารถไปร่วมได้
  • 12:20 - 12:22
    โรงเรียนผม
    จะมีงานเลี้ยงเต้นรำต้อนรับศิษย์เก่าในคืนพรุ่งนี้
  • 12:22 - 12:24
    และผมจะไปร่วมแน่นอน
  • 12:24 - 12:26
    ขอบคุณมากครับ
  • 12:26 - 12:31
    (เสียงปรบมือ)
Title:
ปรัชญาชีวิตของผมเพื่อชีวิตที่มีความสุข | แซม เบิร์นส์ (Sam Berns)| TEDxMidAtlantic
Description:

แซมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคโพรจีเรีย (Progeria ) ตอนอายุ 2 ขวบ โรคนี้เป็นโรคที่ไม่ค่อยมีคนเป็น มันทำให้ร่างกายแก่ลงอย่างรวดเร็ว แต่แซมได้มาเล่าถึงปรัชญาของชีวิตที่มีความสุขในการพูดนี้

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDxTalks
Duration:
12:46

Thai subtitles

Revisions