ความจริงอีกอย่างที่ไม่มีใครอยากฟัง
-
0:01 - 0:03คืนนี้ ผมอยากจะมาพูดถึง
-
0:03 - 0:05ประเด็นสำคัญนี้
-
0:05 - 0:09ที่เกี่ยวพันกับการใช้ทรัพยากรที่ดิน
อาหาร และสิ่งแวดล้อม -
0:09 - 0:11สิ่งที่เกี่ยวข้องกับพวกเราทุกคน
-
0:11 - 0:14ผมเรียกมันว่า
ความจริงอีกอย่างที่ไม่มีใครอยากฟัง -
0:14 - 0:17แต่ก่อนอื่น ผมอยากจะขอพาคุณออกเดินทาง
-
0:17 - 0:20เราจะไปเยือนโลกของเราในยามวิกาลด้วยกัน
-
0:20 - 0:21โดยมองจากอวกาศ
-
0:21 - 0:24นี่คือโลกของเรา
เมื่อคุณมองจากอวกาศในเวลากลางคืน -
0:24 - 0:26หากคุณเดินทางโดยดาวเทียม
-
0:26 - 0:29ที่โคจรรอบโลก
สิ่งที่คุณจะสังเกตเห็นเป็นอย่างแรก -
0:29 - 0:32ก็คือ การมีอยู่ของมนุษย์นั้นมีอิทธิพล
-
0:32 - 0:34ต่อโลกของเราแค่ไหน
-
0:34 - 0:37เราเห็นเมือง
เรามองเห็นพื้นที่ขุดเจาะน้ำมัน -
0:37 - 0:40หรือแม้แต่เรือประมงในทะเล
-
0:40 - 0:43เรามองเห็นว่ามนุษย์มีอิทธิพลต่อโลก
-
0:43 - 0:45และเกือบทั้งหมดโดยการใช้พลังงาน
-
0:45 - 0:46ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดในยามวิกาล
-
0:46 - 0:49เอาล่ะ ทีนี้กลับมามองให้ลึกลงไปอีกนิด
-
0:49 - 0:51ในเวลากลางวัน
-
0:51 - 0:54สิ่งที่เราเห็นตอนกลางวัน
คือภูมิประเทศของเรา -
0:54 - 0:58ภาพนี้คือ ส่วนหนึ่งของลุ่มน้ำแอมะซอน
ที่เรียกว่า รอนโดเนีย -
0:58 - 1:02ตั้งอยู่ทางใต้ตอนกลางของป่าแอมะซอน
ของประเทศบราซิล -
1:02 - 1:04ถ้าคุณลองสังเกตมุมขวาบนของภาพ
-
1:04 - 1:07คุณจะเห็นเส้นขาว ๆ บาง ๆ
-
1:07 - 1:10ซึ่งก็คือถนนที่ถูกสร้างขึ้นในยุค 70
-
1:10 - 1:14ถ้าเรากลับมาที่นี่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2001
-
1:14 - 1:16เราจะพบว่าถนนเหล่านี้
-
1:16 - 1:20ถูกตัดแยกขยายออกไปมากขึ้นเรี่อย ๆ
-
1:20 - 1:23ปลายสุดของถนน
ก็คือพื้นที่ป่าฝนเล็ก ๆ ที่ถูกแผ้วถาง -
1:23 - 1:25เป็นเขตที่มีการเลี้ยงวัวอยู่บ้าง
-
1:25 - 1:28วัวพวกนี้เป็นวัวเนื้อ ซึ่งจะกลายมาเป็นอาหาร
-
1:28 - 1:31และวัวเหล่านี้กลายเป็นอาหารในอเมริกาใต้
-
1:31 - 1:34ที่บราซิลและอาร์เจนตินา
พวกมันไม่ได้จะถูกส่งมาที่นี่ -
1:34 - 1:37แต่รูปแบบก้างปลาของการตัดไม้ทำลายป่านี้
-
1:37 - 1:39เป็นสิ่งที่เราสังเกตเห็นมาก
ในประเทศแถบภูมิอากาศร้อนชื้น -
1:39 - 1:41โดยเฉพาะในส่วนนี้ของโลก
-
1:41 - 1:45หากเราออกเดินทางลงไปทางใต้อีกหน่อย
-
1:45 - 1:47เราจะมาถึงขอบของประเทศโบลิเวีย
ในเขตป่าแอมะซอน -
1:47 - 1:51ตรงนี้ในปี ค.ศ. 1975 และหากคุณตั้งใจมองดี ๆ
-
1:51 - 1:55คุณจะเห็นเส้นสีขาวบางคล้ายตะเข็บพาดผ่าน
-
1:55 - 1:56ที่นั่นมีชาวนาตั้งรกรากอยู่
-
1:56 - 1:59ในใจกลางป่าดงดิบดั้งเดิม
-
1:59 - 2:03คราวนี้เรากลับมาที่นี่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2003
-
2:03 - 2:06เราจะพบว่าภูมิประเทศในขณะนี้
-
2:06 - 2:09ดูคล้ายมลรัฐไอโอวามากกว่าจะเป็นป่าฝน
-
2:09 - 2:12อันที่จริงภาพที่คุณกำลังมองอยู่
คือไร่ถั่วเหลือง -
2:12 - 2:15ถั่วเหลืองเหล่านี้จะถูกส่งออกไปยังยุโรปและจีน
-
2:15 - 2:19เพื่อเป็นอาหารสัตว์
โดยเฉพาะหลังจากที่มีการระบาดของโรควัวบ้า -
2:19 - 2:21เมื่อประมาณสิบปีก่อน
ตอนที่เราไม่ต้องการเลี้ยงสัตว์ -
2:21 - 2:25ด้วยโปรตีนจากสัตว์อีกต่อไป
เพราะมันทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ -
2:25 - 2:27เราจึงหันมาเลี้ยงสัตว์ด้วยโปรตีนจากพืชมากขึ้น
-
2:27 - 2:29ถั่วเหลืองจึงเป็นที่นิยมอย่างสูง
-
2:29 - 2:33สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการค้าและโลกาภิวัตน์นั้น
-
2:33 - 2:36มีส่วนอย่างยิ่งต่อการเชื่อมต่อไปยังเขตป่าฝน
-
2:36 - 2:38และเขตแอมะซอน
ความสัมพันธ์ที่แปลกอย่างเหลือเชื่อ -
2:38 - 2:40และโลกที่เชื่อมต่อกันที่เรามีทุกวันนี้
-
2:40 - 2:43ครับ สิ่งที่เราพบไปทั่วโลก
ครั้งแล้วครั้งเล่า -
2:43 - 2:45เมื่อเราเดินทางสั้น ๆ ของเราครั้งนี้
-
2:45 - 2:49คือภูมิประเทศแห่งแล้วแห่งเล่า
-
2:49 - 2:51ที่ถูกแผ้วถางและปรับสภาพ
เพื่อใช้ในการเพาะปลูกอาหาร -
2:51 - 2:54และพืชอื่น ๆ
-
2:54 - 2:56คำถามหนึ่งที่พวกเราถามกันก็คือ
-
2:56 - 2:59เราต้องใช้พื้นที่บนโลกมากแค่ไหน
ในการเพาะปลูกอาหาร -
2:59 - 3:01ที่ไหนบ้าง แล้วเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงมัน
-
3:01 - 3:03ได้อย่างไรในอนาคต
และมันหมายความว่าอะไร -
3:03 - 3:06ครับ ทีมของเรามองคำถามเหล่านี้ในระดับโลก
-
3:06 - 3:09โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมและจากภาคพื้นดิน
-
3:09 - 3:11เพื่อติดตามพื้นที่เพาะปลูกในระดับโลก
-
3:11 - 3:15และนี่คือสิ่งที่เราพบ มันน่าตกใจ
-
3:15 - 3:18แผนที่นี้แสดงพื้นที่ทางการเกษตร
-
3:18 - 3:20ในโลก
-
3:20 - 3:23สีเขียวในภาพคือบริเวณที่มีการปลูกพืช
-
3:23 - 3:26จำพวกข้าวสาลี ถั่วเหลือง ข้าวโพด ข้าว
หรืออะไรก็ตามแต่ -
3:26 - 3:30พื้นที่เหล่านั้นคิดเป็น 16 ล้านตารางกิโลเมตร
-
3:30 - 3:33ถ้าคุณเอาพื้นที่เหล่านี้มารวมกันในที่เดียว
-
3:33 - 3:35มันจะมีขนาดเท่ากับอเมริกาใต้
-
3:35 - 3:38พื้นที่ถัดมาที่มีสีน้ำตาลคือทุ่งปศุสัตว์
-
3:38 - 3:40และพื้นที่โล่งที่มีสัตว์อาศัยอยู่
-
3:40 - 3:43ขนาดของมันเท่ากับ 30 ล้านตารางกิโลเมตร
-
3:43 - 3:45หรือขนาดพอ ๆ กับแอฟริกา
-
3:45 - 3:48พื้นที่ที่กว้างใหญ่มาก
แล้วมันก็เป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดนี้ -
3:48 - 3:50เป็นพื้นที่ที่คุณเห็น และพื้นที่ที่เหลืออยู่ก็เช่น
-
3:50 - 3:52กลางทะเลทรายซาฮารา หรือไซบีเรีย
-
3:52 - 3:54หรือไม่ก็ใจกลางของป่าฝน
-
3:54 - 3:58เราใช้พื้นที่บนโลกไปมากมายแล้ว
-
3:58 - 4:01ถ้าเรามองดี ๆ เราจะพบว่า
พื้นที่ประมาณร้อยละ 40 -
4:01 - 4:03ของพื้นผิวโลกไปถูกใช้กับเกษตรกรรม
-
4:03 - 4:06และนั่นก็มีขนาดใหญ่กว่า 60 เท่า
-
4:06 - 4:08ของพื้นที่ทั้งหมดที่เราต่างบ่นถึงกัน
-
4:08 - 4:12ซึ่งก็คือ การขยายตัวของชานเมือง
และเมืองใหญ่ที่มีประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ -
4:12 - 4:15ในปัจจุบัน ครึ่งหนึ่งของประชาการอาศัยอยู่ในเมือง
-
4:15 - 4:18แต่พื้นที่ที่ใหญ่เป็น 60 เท่า
ถูกใช้ในการเพาะปลูกอาหาร -
4:18 - 4:20ดังนั้น นี่เป็นผลลัพธ์ที่แปลก
-
4:20 - 4:23และพวกเราก็ตกใจอย่างยิ่งเมื่อเราดูผลนี้
-
4:23 - 4:25เรากำลังใช้พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเพื่อการเกษตร
-
4:25 - 4:28และเราก็ยังใช้น้ำปริมาณมากอีกด้วย
-
4:28 - 4:30นี่คือภาพถ่ายของมลรัฐอาริโซน่าจากเครื่องบิน
-
4:30 - 4:31เมื่อคุณเห็น คุณอาจจะถามว่า
-
4:31 - 4:32"พวกเขาปลูกอะไรกันที่นี่" คำตอบก็คือ
-
4:32 - 4:35พวกเขากำลังปลูกผักกาดกลางทะเลทราย
-
4:35 - 4:38โดยพ่นน้ำลงไปบนดิน
-
4:38 - 4:39เอาล่ะ ที่มันเป็นตลกร้ายเลยก็คือ
พวกมันอาจจะถูกวางขาย -
4:39 - 4:42บนชั้นวางในร้านขายของในเมืองทวินซิตี้
-
4:42 - 4:44แต่ที่น่าสนใจจริง ๆ ก็คือ น้ำนี้จะต้องถูกนำมา
-
4:44 - 4:47จากสิ่งแห่งหนึ่ง และมันก็มาจากที่นี่
-
4:47 - 4:49แม่น้ำโคโลราโด ในอเมริกาเหนือ
-
4:49 - 4:52ครับ แม่น้ำโคโลราโด
ในวันปกติในช่วงยุค 1950 -
4:52 - 4:54นี่มันไม่ใช่น้ำท่วมหรือความแล้ง
-
4:54 - 4:57มันเป็นวันธรรมดาทั่ว ๆ ไป
มันมีหน้าตาแบบนี้ -
4:57 - 5:00แต่ถ้าเรากลับมาดูแม่น้ำวันนี้
ในสถานการณ์ปกติ -
5:00 - 5:04ที่ตำแหน่งเดียวกัน นี่คือสิ่งที่หลงเหลืออยู่
-
5:04 - 5:07ความแตกต่างหลัก ๆ คือ
การทำชลประทานในทะเลทรายเพื่ออาหาร -
5:07 - 5:10หรืออาจจะเป็นสนามกอล์ฟที่เมืองสกอตส์เดลก็ได้
แล้วแต่คุณจะคิด -
5:10 - 5:13น้ำนั้นไม่น้อยเลย และอีกครั้ง
เรากำลังสูบน้ำ -
5:13 - 5:15เพื่อใช้เพาะปลูกอาหาร
-
5:15 - 5:18และวันนี้
ถ้าคุณเดินตามแม่น้ำโคโรลาโดลงใต้ -
5:18 - 5:21คุณจะพบว่ามันแห้งสนิทและ
ไม่เพียงพอที่จะไหลออกสู่มหาสมุทรเลย -
5:21 - 5:24เราได้ใช้แม่น้ำทั้งสายในทวีปอเมริกาเหนือ
-
5:24 - 5:27เพื่อการชลประทาน
-
5:27 - 5:28แต่นั่นยังไม่ใช่ตัวอย่างที่เลวร้ายที่สุด
-
5:28 - 5:31แต่นี่อาจจะใช่ ทะเลอารัล
-
5:31 - 5:34ตอนนี้ พวกคุณหลายคนอาจจะจำได้
จากคาบเรียนวิชาภูมิศาสตร์ -
5:34 - 5:36นี่คือพื้นที่ของอดีตสหภาพโซเวียต
-
5:36 - 5:39ระหว่างประเทศคาซัสถานและอุซเบกิสถาน
-
5:39 - 5:41มันคือทะเลในแผ่นดิน
ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก -
5:41 - 5:43แต่อาจจะฟังดูขัดแย้งนิดหน่อย
เพราะอาจดูเหมือนว่า -
5:43 - 5:47มันถูกล้อมไปด้วยทะเลทราย
ทำไมถึงมีทะเลอยู่ที่นี่ได้ -
5:47 - 5:49เหตุผลก็คือ ทางด้านขวามือ
-
5:49 - 5:51คุณจะเห็นแม่น้ำสองสายไหลลงมา
-
5:51 - 5:55ผ่านทราย หล่อเลี้ยงแอ่งนี้ด้วยน้ำ
-
5:55 - 5:58แม่น้ำนี้คือหิมะที่ละลายจากภูเขา
-
5:58 - 6:00จากทางทิศตะวันออก ที่ซึ่งหิมะละลาย
แล้วมันก็เดินทางลงมายังแม่น้ำ -
6:00 - 6:04ผ่านทะเลทราย และเกิดเป็นทะเลอารัล
-
6:04 - 6:08ในช่วงยุค 1950
สหภาพโซเวียตตัดสินใจที่จะผันน้ำ -
6:08 - 6:10เชื่อหรือไม่ครับ
เพื่อใช้ในการชลประทานสำหรับการปลูกฝ้าย -
6:10 - 6:14ในคาซัคสถาน เพื่อขายในตลาดโลก
-
6:14 - 6:16เพื่อนำเงินต่างประเทศเข้าสู่สหภาพโซเวียต
-
6:16 - 6:18พวกเขาจำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ
-
6:18 - 6:20ที่นี้ คุณก็คาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
-
6:20 - 6:23คุณปิดแหล่งน้ำของทะเลอารัล
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น -
6:23 - 6:25นี่คือทะเลในปี ค.ศ. 1973
-
6:25 - 6:271986
-
6:27 - 6:301999
-
6:30 - 6:332004
-
6:33 - 6:38และเมื่อ 11 เดือนก่อน
-
6:38 - 6:40มันต่างจากเดิมมากทีเดียว
-
6:40 - 6:43หลายคนในนี้อาจจะอาศัยอยู่
ในเขตมิดเวสท์ -
6:43 - 6:46ลองนึกภาพทะเลสาบสุพีเรีย
-
6:46 - 6:49ลองนึกภาพทะเลสาบฮูรอน
-
6:49 - 6:51มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผิดธรรมดา
-
6:51 - 6:53ไม่เพียงแต่การเปลี่ยนของน้ำและ
-
6:53 - 6:55ที่ตั้งของขอบชายฝั่ง
นี่เป็นความเปลี่ยนแปลงระดับรากฐาน -
6:55 - 6:58ของสภาพแวดล้อมในภูมิภาคนี้ด้วย
-
6:58 - 6:59เราลองเริ่มจากตรงนี้ดู
-
6:59 - 7:01สหภาพโซเวียตไม่ได้มีซิเอราคลับ
-
7:01 - 7:03พูดอย่างนี้ดีกว่า
-
7:03 - 7:06สิ่งที่คุณพบที่ก้นทะเลอารัลนั้น
ไม่น่าพิศมัยเท่าไหร่ -
7:06 - 7:08มีขยะมีพิษมากมาย หลายสิ่งหลายอย่าง
-
7:08 - 7:10ที่ถูกทิ้งลงไป
ที่ตอนนี้กำลังถูกส่งขึ้นมาสู่อากาศ -
7:10 - 7:13เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างไกล
-
7:13 - 7:14และเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงนี้เคยเป็น
-
7:14 - 7:17สถานที่ทดลองอาวุธชีวภาพของสหภาพโซเวียต
-
7:17 - 7:18ในปัจจุบัน คุณสามารถเดินไปได้
-
7:18 - 7:20สภาพอากาศได้เปลี่ยนไป
-
7:20 - 7:23ปลา 19 จาก 20 ชนิด
ที่เคยพบได้เฉพาะที่ทะเลอารัล -
7:23 - 7:26หมดสิ้นไปจากโลกนี้เรียบร้อยแล้ว
-
7:26 - 7:29นี่นับเป็นหายนะทางสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง
-
7:29 - 7:30แต่ตอนนี้ เรากลับมาที่นี่กัน
-
7:30 - 7:33นี่คือภาพที่ อัล กอร์ ให้ผมเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา
-
7:33 - 7:35เขาถ่ายเมื่อตอนไปเยือนสหภาพโซเวียต
-
7:35 - 7:36เมื่อนานมาแล้ว
-
7:36 - 7:39มันเป็นภาพของเรือประมงในทะเลอารัล
-
7:39 - 7:41คุณเห็นคลองที่พวกเขาขุดไหมครับ
-
7:41 - 7:44พวกเขาพยายามอย่างมาก
ประมาณนั้น ที่จะนำเรือไปยัง -
7:44 - 7:46ส่วนที่ยังมีน้ำเหลืออยู่
แต่ท้ายสุดพวกเขาก็ต้องตัดใจ -
7:46 - 7:48เพราะท่าน้ำและที่จอดเรือไม่สามารถ
-
7:48 - 7:51ตามทันกับชายหาดที่ถดถอยเรื่อย ๆ ได้อีกแล้ว
-
7:51 - 7:53ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอย่างไร
แต่ผมเกรงว่าในอนาคต -
7:53 - 7:55นักโบราณคดีจะขุดพบซากนี้
แล้วเขียนเรื่องราว -
7:55 - 7:58ถึงยุคของเราและสงสัยว่า
"พวกคุณคิดอะไรกันเนี่ย" -
7:58 - 8:01นั่นคืออนาคตที่เราต้องตั้งตาคอย
-
8:01 - 8:04เราได้ใช้น้ำสะอาดในโลกไปแล้วร้อยละ 50%
-
8:04 - 8:06นั่นสามารถทนแทนได้
และเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว -
8:06 - 8:08ก็คิดเป็นร้อยละ 70 จากจำนวนนั้น
-
8:08 - 8:11เราใช้น้ำจำนวนมาก
พื้นที่จำนวนมากเพื่อการเกษตร -
8:11 - 8:15เรายังใช้ชั้นบรรยากาศจำนวนมาก
เพื่อการเกษตรเช่นกัน -
8:15 - 8:17ปกติเวลาที่เรานึกถึงชั้นบรรยากาศ
-
8:17 - 8:20เรานึกถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และก๊าซเรือนกระจก -
8:20 - 8:22ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับพลังงาน
-
8:22 - 8:24แต่ปรากฎว่าเกษตรกรรมเป็นหนึ่งในเหตุหลัก
-
8:24 - 8:27ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเช่นกัน
-
8:27 - 8:29หากเรามองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
-
8:29 - 8:31ที่มาจากการเผาป่าฝนเขตร้อน
-
8:31 - 8:33หรือก๊าซมีเธนที่มาจากวัวหรือข้าว
-
8:33 - 8:36หรือก๊าซไนตรัสออกไซด์
ที่มาจากการใช้ปุ๋ยที่เกินขนาด -
8:36 - 8:39เราจะพบว่าร้อยละ 30 ของก๊าซเรือนกระจก
-
8:39 - 8:42ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์นั้น
มาจากภาคเกษตรกรรม -
8:42 - 8:44นั่นมันมากกว่าการคมนาคมของเราทั้งหมด
-
8:44 - 8:46มากกว่าพลังงานไฟฟ้าของเราทั้งหมด
-
8:46 - 8:48อันที่จริงแล้ว มันมากกว่า
ภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ของเราทั้งหมด -
8:48 - 8:51มันเป็นตัวปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุด
-
8:51 - 8:54ในบรรดากิจกรรมใด ๆ ของมนุษย์บนโลก
-
8:54 - 8:56แต่ทว่า เรากลับไม่ได้พูดถึงมันมากนัก
-
8:56 - 8:59ในวันนี้ เราจึงมีเกษตรกรรมที่มากเหลือเชื่อ
-
8:59 - 9:01ที่กำลังครอบคลุมโลก
-
9:01 - 9:04ไม่ว่ามันจะคิดเป็นพื้นที่ร้อยละ 40
ของพื้นผิวโลก -
9:04 - 9:06ร้อยละ 70 ของน้ำที่เราใช้
-
9:06 - 9:09ร้อยละ 30 ของก๊าซเรือนกระจก
-
9:09 - 9:12เราเพิ่มปริมาณไนโตรเจนและฟอสฟอรัส
-
9:12 - 9:14ที่มีในโลกเป็นสองเท่าเพียงแค่จากการใช้ปุ๋ย
-
9:14 - 9:17ทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมลง ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ
-
9:17 - 9:19ทะเลสาบ หรือแม้แต่มหาสมุทร
และมันยังเป็นตัวผลักดันหนึ่ง -
9:19 - 9:22ที่ใหญ่ที่สุดต่อการสูญเสีย
ความหลากหลายทางชีวภาพ -
9:22 - 9:24ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เกษตรกรรม
-
9:24 - 9:28เป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุด
ที่ถูกปล่อยออกมายังโลก -
9:28 - 9:31ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งเป็นต้นมา ไม่ต้องสงสัยเลย
-
9:31 - 9:34มันมีความสำคัญทัดเทียมกับ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ -
9:34 - 9:36มันกำลังเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
-
9:36 - 9:39แต่สิ่งที่สำคัญจริง ๆ ที่ต้องระลึกไว้ก็คือ
-
9:39 - 9:42มันไม่ได้แย่ไปทั้งหมด
ไม่ใช่ว่าเกษตรกรรมเป็นสิ่งไม่ดี -
9:42 - 9:44จริง ๆ แล้ว เราพึ่งพาเกษตรกรรมโดยสมบูรณ์
-
9:44 - 9:49มันไม่ใช่ทางเลือก ไม่ใช่ความหรูหรา
แต่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ -
9:49 - 9:51เราต้องผลิตอาหาร และเลี้ยง และ ครับ
-
9:51 - 9:55เส้นใยหรือแม้แต่เชื้อเพลิงชีวภาพ
เพื่อสนองคนราวเจ็ดพันล้านคน -
9:55 - 9:57บนโลกทุกวันนี้ และอย่างไรก็ตาม
-
9:57 - 9:59เราจะยังคงต้องการเกษตรกรรม
-
9:59 - 10:02มากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
มันจะไม่ไปไหน -
10:02 - 10:04มันจะโตขึ้นเรื่อย ๆ หลัก ๆ เป็นเพราะ
-
10:04 - 10:07จำนวนประชาการที่เพิ่มขึ้น
วันนี้เรามีประชากรเจ็ดพันล้านคน -
10:07 - 10:09ไปสู่เก้าพันล้านเป็นอย่างน้อย
-
10:09 - 10:12และอาจจะกลายเก้าพันห้าร้อย
ก่อนที่โลกของเราจะสิ้นสุดลง -
10:12 - 10:15ที่สำคัญกว่านั้น อาหารการกินจะเปลี่ยนไป
-
10:15 - 10:18เมื่อประชากรบนโลกมีฐานะสูงขึ้น
และมีจำนวนมากขึ้น -
10:18 - 10:21เราจะพบว่าผู้คนจะบริโภคเนื้อสัตว์มากขึ้น
-
10:21 - 10:24ซึ่งใช้ทรัพยากรมากกว่าการกินมังสวิรัติอย่างมาก
-
10:24 - 10:28ดังนั้น คนมากขึ้น กินอาหารมากขึ้น
และร่ำรวยขึ้น -
10:28 - 10:31และแน่นอนว่าจะมีวิกฤติพลังงานในเวลาเดียวกัน
-
10:31 - 10:35ที่เราต้องทดแทนน้ำมันด้วยแหล่งพลังงานอื่น ๆ
-
10:35 - 10:37ซึ่งในที่สุดจะต้องมีเชื้อเพลิงชีวภาพสักอย่าง
-
10:37 - 10:39และแหล่งพลังงานชีวภาพ
-
10:39 - 10:42ดังนั้นหากคุณเอาทั้งหมดมารวมกัน
มันยากที่จะเห็นว่า -
10:42 - 10:44เราจะผ่านศตวรรษนี้ไปได้อย่างไร
-
10:44 - 10:49โดยไม่เพิ่มการผลิตทางเกษตรกรรมในโลก
ขึ้นอีกเท่าตัวเป็นอย่างน้อย -
10:49 - 10:51แล้วเราจะทำอย่างไรกัน
-
10:51 - 10:53เราจะเพิ่มการผลิตทางการเกษตรทั่วโลก
อีกเท่าตัวได้อย่างไร -
10:53 - 10:56เราอาจจะเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรม
-
10:56 - 10:59นี่คือการวิเคราะห์ของเรา ทางด้านซ้ายมือ
-
10:59 - 11:02คือที่ที่ใช้เพาะปลูกอยู่แล้วในปัจจุบัน
ส่วนทางด้านขวามือคือที่ที่สามารถเพาะปลูกได้ -
11:02 - 11:05โดยพิจารณาจากคุณภาพดินและสภาพอากาศ
โดยตั้งสมมุติฐานว่า -
11:05 - 11:07การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
จะไม่แทรกแซงมากจนเกินไป -
11:07 - 11:09ซึ่งก็ไม่ใช่สมมุติฐานที่ดี
-
11:09 - 11:11เราอาจจะใช้พื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น แต่ปัญหาคือ
-
11:11 - 11:14พื้นที่ทีเหลือเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน
-
11:14 - 11:16มีความหลากหลายทางชีวภาพและคาร์บอนมากมาย
-
11:16 - 11:19ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการปกป้อง
-
11:19 - 11:21เราสามารถเพาะปลูกอาหารเพิ่มขึ้น
ด้วยการขยายพื้นที่ทางการเกษตร -
11:21 - 11:23แต่จะดีกว่าหากเราไม่ทำ
-
11:23 - 11:26เพราะว่าในทางนิเวศวิทยา
มันเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ๆ -
11:26 - 11:29ในทางกลับกัน
เราอาจจะต้องการระงับการขยายตัว -
11:29 - 11:33ของร่องรอยทางเกษตรกรรม
และใช้ที่ดินที่มีอยู่ในแล้วผลิตอาหารให้ดีขึ้น -
11:33 - 11:35สิ่งที่เราต้องทำคือการหาพื้นที่ในโลก
-
11:35 - 11:38ที่เราจะสามารถพัฒนาผลผลิตให้สูงขึ้น
-
11:38 - 11:40โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
-
11:40 - 11:42พื้นที่สีเขียวตรงนี้คือที่ที่ข้าวโพดให้ผลผลิต
-
11:42 - 11:44เราใช้ข้าวโพดเป็นตัวอย่างเท่านั้น
-
11:44 - 11:47ที่สูงมาก ๆ อยู่แล้ว
และอาจจะเป็นระดับสูงสุดเท่าที่คุณจะสามารถ -
11:47 - 11:50พบได้ในโลกวันนี้
ภาพใต้สภาพอากาศและดินที่มี -
11:50 - 11:52ส่วนพื้นที่สีน้ำตาลและสีเหลืองคือบริเวณ
-
11:52 - 11:55ที่เราได้ผลผลิตเพียงร้อยละ 20 หรือ 30
-
11:55 - 11:56ของจำนวนที่เราสามารถจะทำได้
-
11:56 - 11:58เราจะพบพื้นที่แบบนี้ได้มากในแอฟริกา
แม้แต่ละตินอเมริกา -
11:58 - 12:01แต่ที่น่าสนใจ ในยุโรปตะวันออก
ซึ่งเป็นบริเวณที่สหภาพโซเวียต -
12:01 - 12:03และกลุ่มประเทศค่ายตะวันออกตั้งอยู่
-
12:03 - 12:06เกษตรกรรมยังคงย่ำแย่
-
12:06 - 12:08พื้นที่เหล่านี้ต้องการสารอาหารและน้ำ
-
12:08 - 12:10อาจจะเป็นแบบอินทรีย์หรือแบบทั่วไป
-
12:10 - 12:12หรือผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน
เพื่อให้ได้ผลนั้น -
12:12 - 12:14พืชต้องการน้ำและสารอาหาร
-
12:14 - 12:18แต่เราสามารถทำได้
และเราก็มีโอกาสที่จะทำให้มันได้ผล -
12:18 - 12:20แต่เราต้องทำด้วยวิธีที่ละเอียดอ่อน
-
12:20 - 12:23เพื่อตอบสนองความต้องการ
ด้านความมั่นคงทางอาหารในอนาคต -
12:23 - 12:26และความต้องการด้านความมั่นคง
ทางสิ่งแวดล้อมในอนาคต -
12:26 - 12:29เราต้องค้นหาว่า
จะทำให้ภาวะได้อย่างเสียอย่าง -
12:29 - 12:33ระหว่างการผลิตอาหารและมีสิ่งแวดล้อมที่ดีนั้น
ดีขึ้นได้อย่างไร -
12:33 - 12:35ตอนนี้ นี่ดูจะเป็นข้อเสนอ
แบบถ้าจะทำก็ทำไม่ทำก็ไม่ต้องทำเลย -
12:35 - 12:37เราสามารถเพาะปลูกอาหารเป็นพื้นหลัง --
-
12:37 - 12:38นั้นก็คือไร่ถั่วเหลือง --
-
12:38 - 12:42และในแผนผังดอกไม้นี้
มันแสดงให้เห็นว่าเราผลิตอาหารมากมาย -
12:42 - 12:44แต่เราไม่มีน้ำสะอาดจำนวนมาก
เราไม่ได้เก็บกักคาร์บอนจำนวนมาก -
12:44 - 12:47เราไม่มีความหลากหลายทางชีวภาพจำนวนมาก
-
12:47 - 12:49สิ่งที่อยู่พื้นหน้า เรามีทุ่งหญ้านี้
-
12:49 - 12:51ซึ่งเป็นสิ่งที่วิเศษมากสำหรับสิ่งแวดล้อม
-
12:51 - 12:54แต่เรากินอะไรไม่ได้เลย มีอะไรให้กินบ้าง
-
12:54 - 12:56เราจะต้องหาจุดที่นำสองสิ่งนี้มาอยู่ด้วยกัน
-
12:56 - 13:01ให้กลายเป็นรูปแบบการเกษตรแบบใหม่
ที่นำทั้งหมดมารวมกัน -
13:01 - 13:03เวลาที่ผมพูดเรื่องนี้ คนมักจะบอกผมว่า
-
13:03 - 13:06"คำตอบคือ จุดจุดจุด ใช่ไหม" --
อาหารอินทรีย์ -
13:06 - 13:11อาหารท้องถิ่น การดัดแปลงพันธุกรรม
การอุดหนุนทางการค้าใหม่ กฎหมายการเกษตรใหม่ -
13:11 - 13:14และครับ เรามีความคิดดี ๆ มากมายตรงนี้
-
13:14 - 13:17แต่ยังไม่มีคำตอบไหนที่ยิงพุ่งตรงเป้าเลย
-
13:17 - 13:20ในความเป็นจริง
ผมคิดว่ามันเหมือนการขว้างใส่เป้ามากกว่า -
13:20 - 13:22ผมชอบการขว้างใส่เป้า
เวลาที่เรานำหลายความคิดมารวมกัน -
13:22 - 13:24แล้วเราได้บางสิ่งที่มีพลังเอามาก ๆ
-
13:24 - 13:27แต่ก่อนอื่น เราต้องนำมันมารวมกันก่อน
-
13:27 - 13:29ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือคิดค้น
-
13:29 - 13:32เกษตรกรรมที่รวมเอาความคิด
ที่ดีที่สุดเข้าไว้ด้วยกัน -
13:32 - 13:35ระหว่างเกษตรกรรมเชิงพาณิชย์
กับการปฏิวัติสีเขียว -
13:35 - 13:39กับความคิดที่ดีที่สุด
ของเกษตรอินทรีย์ อาหารพื้นถิ่น -
13:39 - 13:42และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
-
13:42 - 13:44โดยไม่ทำให้สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกันเอง
แต่ทำให้มัน -
13:44 - 13:48ร่วมงานกันเพื่อสร้างเกษตรกรรมรูปแบบใหม่
-
13:48 - 13:52บางอย่างที่ผมจะเรียกว่า
"เกษตรกรรมเพื่อโลก" -
13:52 - 13:55เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากมากเวลาต้องพูดถึงมัน
-
13:55 - 13:57และเราก็ได้พยายามอย่างหนัก
ในการนำประเด็นหลัก ๆ เหล่านี้ -
13:57 - 14:00มาเสนอสู่ประชาชนเพื่อลดความขัดแย้ง
-
14:00 - 14:01เพื่อเพิ่มพูนการทำงานร่วมกันกัน
-
14:01 - 14:04ผมอยากแสดงวีดีโอสั้น ๆ ที่แสดงให้เห็น
-
14:04 - 14:06ความพยายามของเราที่จะนำฝ่ายต่าง ๆ เหล่านี้
มาไว้ด้วยกัน -
14:06 - 14:10ให้การเป็นการสนทนาเดียว
ขอผมเปิดให้คุณชมนะครับ -
14:10 - 14:13(ดนตรี)
-
14:13 - 14:17("สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัย
แห่งมลรัฐมินิโซต้า:ผลักดันเพื่อค้นพบ") -
14:17 - 14:19(ดนตรี)
-
14:19 - 14:20("จำนวนประชากรบนโลกเพิ่มขึ้น
-
14:20 - 14:2375 ล้านคนในแต่ละปี
-
14:23 - 14:26เกือบจะเท่ากับประชากรของเยอรมันนี
-
14:26 - 14:29วันนี้ เรามีประชากรทั้งหมดเกือบ 7 พันล้านคน
-
14:29 - 14:31ด้วยอัตรานี้ เราจะแตะระดับ 9 พันล้านคน
ภายในปี ค.ศ. 2040 -
14:31 - 14:33และเราทุกคนต้องการอาหาร
-
14:33 - 14:34แต่ว่า
-
14:34 - 14:37เราจะเลี้ยงปากท้องทุกคนบนโลกอย่างไร
โดยไม่ทำลายโลก -
14:37 - 14:41เราทราบกันแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นั้นเป็นปัญหาใหญ่ -
14:41 - 14:42แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเดียว
-
14:42 - 14:45เราจำเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับ
'ความจริงอีกอย่างที่ไม่มีใครอยากฟัง' -
14:45 - 14:47วิกฤติระดับโลกในภาคเกษตรกรรม
-
14:47 - 14:54การเพิ่มของจำนวนประชากร + การบริโภคเนื้อสัตว์ + การบริโภคผลิตภัณฑ์นม + ต้นทุนด้านพลังงาน + การผลิตพลังงานชีวภาพ = ความตึงเครียดของทรัพยากรธรรมชาติ
-
14:54 - 14:57พื้นที่มากกว่าร้อยละ 40 ของผิวโลก
ถูกแผ้วถางเพื่อการเกษตร -
14:57 - 14:59พื้นที่เพาะปลูกครอบคลุม 16 ล้านตารางกิโลเมตร
-
14:59 - 15:02เกือบจะเท่ากับขนาดของอเมริกาใต้
-
15:02 - 15:04พื้นที่เลี้ยงสัตว์ครอบคลุม 30 ล้านตารางกิโลเมตร
-
15:04 - 15:06นั่นเป็นขนาดของแอฟริกา
-
15:06 - 15:11เกษตรกรรมใช้พื้นที่มากกว่าเมือง
และชานเมืองรวมกันถึง 60 เท่าตัว -
15:11 - 15:14การชลประทานใช้น้ำมากที่สุด
-
15:14 - 15:19เราใช้น้ำ 2,800 ลูกบากศ์กิโลเมตร
เพื่อปลูกพืชทุกปี -
15:19 - 15:23นั้นเพียงพอที่จะเติมตึกเอ็มไพร์สเตท
ทั้งหมด 7,305 ตึก เต็มทุกวัน -
15:23 - 15:26วันนี้ น้ำในแม่น้ำใหญ่จำนวนน้อยลง
-
15:26 - 15:28บางสายแห้งเหือดไปเลย
-
15:28 - 15:32ลองดูทะเลอารัล ที่เวลานี้กลายเป็นทะเลทราย
-
15:32 - 15:35หรือแม่น้ำโคโรลาโด
ที่ตอนนี้ไม่ไหลลงสู่มหาสมุทรอีกแล้ว -
15:35 - 15:39การใช้ปุ๋ยเพิ่มปริมาณฟอสฟอรัสและไนโตรเจน
ในสิ่งแวดล้อมมากกว่าเท่าตัว -
15:39 - 15:40แล้วผลกระทบคือ
-
15:40 - 15:42มลพิษทางน้ำที่แพร่กระจาย
-
15:42 - 15:45ความเสื่อมถอยของคุณภาพทะเลสาบและแม่น้ำ
-
15:45 - 15:49มันน่าตกใจ ที่เกษตกรรรมเป็นปัจจัยใหญ่ที่สุด
ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ -
15:49 - 15:51มันปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึงร้อยละ 30
-
15:51 - 15:54นั่นมากกว่าการปล่อยจากไฟฟ้า
และอุตสาหกรรมทั้งหมด -
15:54 - 15:57หรือจากเครื่องบิน รถไฟ
และรถยนต์ทั้งหมดรวมกัน -
15:57 - 15:59การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคเกษตรกรรม
เกือบทั้งหมดมาจากการทำลายป่าเขตร้อนชื้น -
15:59 - 16:01มีเธนจากสัตว์และนาข้าว
-
16:01 - 16:03และไนตรัสออกไซด์จากการใช้ปุ๋ยเกินขนาด
-
16:03 - 16:06ไม่มีสิ่งอื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อโลก
มากเท่ากับเกษตรกรรม -
16:06 - 16:09และไม่มีสิ่งใดที่จำเป็นมากไปกว่า
ความอยู่รอดของพวกเรา -
16:09 - 16:11ทางสองแพร่งอยู่ตรงนี้...
-
16:11 - 16:15เมื่อประชากรบนโลกเพิ่มขึ้นอีกหลายพันล้านคน
-
16:15 - 16:20เราจะต้องเพิ่มศักยภาพการผลิตอาหารในโลก
อีก 2 หรือ 3 เท่าตัว -
16:20 - 16:21แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป
-
16:21 - 16:24เราต้องการการอนุรักษ์ที่ใหญ่ขึ้น
การพูดคุยระหว่างประเทศ -
16:24 - 16:26เราต้องลงทุนในทางแก้ปัญหาที่แท้จริง
-
16:26 - 16:30แรงจูงใจของเกษตรกร เกษตรกรรมที่แม่นยำ
ความหลากหลายของพืช การทำชลประทานแบบน้ำหยด -
16:30 - 16:34การรีไซเคิลน้ำทิ้ง การเตรียมดินที่ดีกว่า
การบริโภคอาหารอย่างฉลาด -
16:34 - 16:36เราต้องให้ทุกคนมาจับเข่าคุยกัน
-
16:36 - 16:38ตัวแทนจากภาคพาณิชย์การเกษตร
-
16:38 - 16:39ภาคการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
-
16:39 - 16:41ภาคเกษตรอินทรีย์...
-
16:41 - 16:43จำเป็นต้องทำงานร่วมกัน
-
16:43 - 16:44คำตอบไม่ได้มีเพียงอย่างเดียว
-
16:44 - 16:46เราต้องการการทำงานร่วมกัน
-
16:46 - 16:47จิตนาการ
-
16:47 - 16:48ความตั้งใจมั่น
-
16:48 - 16:52เพราะความผิดพลาดไม่ใช่ทางเลือก
-
16:52 - 16:55เราจะเลี้ยงโลกโดยไม่ทำลายมันได้อย่างไร
-
16:55 - 16:58ใช่ เรากำลังเผชิญกับความท้าทายใหญ่หลวง
ที่ใหญ่ที่สุด -
16:58 - 17:00ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
-
17:00 - 17:03ความจำเป็นที่จะเลี้ยงปากท้องคนเก้าพันล้าน
-
17:03 - 17:07และทำอย่างยั่งยืน เท่าเทียม และยุติธรรม
-
17:07 - 17:08และปกป้องโลกของเราในเวลาเดียวกัน
-
17:08 - 17:11สำหรับคนรุ่นนี้และต่อ ๆ ไป
-
17:11 - 17:13นีจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุด
-
17:13 - 17:15ที่เราจะทำในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
-
17:15 - 17:18แล้วเราต้องทำให้ถูกต้อง
-
17:18 - 17:22ทำให้ถูกต้องในครั้งแรกและครั้งเดียว
-
17:22 - 17:26ขอบคุณมากครับ
(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ความจริงอีกอย่างที่ไม่มีใครอยากฟัง
- Speaker:
- โจนาธาน โฟลีย์ (Jonathan Foley)
- Description:
-
ความต้องการอาหารที่พุ่งทะยานสูงขึ้นหมายถึงเกษตรกรรมได้กลายเป็นตัวผลักดันหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และการทำลายสิ่งแวดล้อม ในงาน TEDxTC โจนาธาน โฟลีย์ แสดงให้เราเห็นว่าทำไมเราถึงต้องการที่จะเริ่มต้น "เกษตรกรรมเพื่อโลก" อย่างเร่งด่วน ซึ่งมันคือการเพาะปลูกเพื่อโลกทั้งใบ (บันทึกที่ TEDxTC)
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 17:46
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for The other inconvenient truth | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for The other inconvenient truth | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The other inconvenient truth | ||
Paded Chotikunchon edited Thai subtitles for The other inconvenient truth | ||
Paded Chotikunchon edited Thai subtitles for The other inconvenient truth | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut declined Thai subtitles for The other inconvenient truth | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut rejected Thai subtitles for The other inconvenient truth | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The other inconvenient truth |