4 วิธีที่หลีกหนีความแห้งแล้วที่รุนแรง
-
0:01 - 0:05รุ่นปู่ย่าตายายของเรา
สร้างระบบที่น่าทึ่งเอาไว้ -
0:05 - 0:07มันคือระบบคูคลองและแหล่งน้ำ
ที่ทำให้มันเป็นไปได้ -
0:07 - 0:11สำหรับผู้คนที่จะอาศัย
อยู่ในที่ซึ่งไม่มีน้ำมากนัก -
0:11 - 0:13ยกตัวอย่างเช่น
ในยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ -
0:13 - 0:15พวกเขาสร้างเขื่อนฮูเวอร์
-
0:15 - 0:17ซึ่งมันได้สร้างทะเลสาบมีต
(Lake Mead) -
0:17 - 0:21และทำให้มันเป็นไปได้สำหรับเมืองต่าง ๆ
ในลาสเวกัส และฟินิกส์ -
0:21 - 0:23และลอส แองเจลิส ที่จะจัดให้มีน้ำใช้
-
0:23 - 0:25สำหรับผู้อาศัยในที่แห้งแล้งมาก ๆ
-
0:26 - 0:30ในศตวรรษที่ 20 พวกเราใช้เงิน
ไปหลายล้านล้านดอลลาร์ -
0:30 - 0:33เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
เพื่อนำน้ำเข้ามาในเมือง -
0:33 - 0:37ในบริบทของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
มันเป็นการลงทุนที่ดี -
0:37 - 0:40แต่ในทศวรรษที่ผ่านมา
เราได้เห็นผลรวมจาก -
0:40 - 0:46การเปลียนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเติบโต
ของประชากร และการแก่งแย่งแหล่งน้ำ -
0:46 - 0:50ที่ก่อปัญหาต่อปัจจัยสำคัญของชีวิต
และแหล่งน้ำ -
0:50 - 0:54ภาพนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำ
ในทะเลสาบมีต -
0:54 - 0:56ที่เกิดขึ้นในช่วย 15 ปีที่ผ่านมา
-
0:56 - 0:58คุณจะเห็นว่ามันเกิดขึ้นราว ๆ ปี ค.ศ. 2000
-
0:58 - 1:00ระดับน้ำในทะเลสาบลดลง
-
1:00 - 1:02และมันลดลงถึงอัตราหนึ่ง
-
1:02 - 1:06ที่อาจทำให้การบริโภคน้ำดื่มในลาสเวกัส
สูงและอาจถูกใช้จนเหือดแห้ง -
1:07 - 1:09ตัวเมืองเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
-
1:09 - 1:13และพวกเขาสร้างโครงสร้างใหม่
สำหรับน้ำดิ่มเมื่อเร็ว ๆ นี้ -
1:13 - 1:15ที่พวกเขาเรียกมันว่า "หลอดที่สาม"
-
1:16 - 1:18เพื่อที่จะดึงน้ำออกจากทะเลสาบส่วนที่ลึกกว่าเดิม
-
1:19 - 1:23ความท้าทายที่เกี่ยวกับการจัดสรรน้ำ
ให้กับเมืองในปัจจุบัน -
1:23 - 1:26ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในอเมริกาตะวันตกเฉียงใต้
-
1:26 - 1:31ในปี ค.ศ. 2007 เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสาม
ในออสเตรเลีย ซึ่งก็คือบริสเบน -
1:31 - 1:34อยู่ในภาวะที่เหลือน้ำใช้เพียง 6 เดือน
-
1:34 - 1:38เหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้
เกิดขึ้นในซานเปาโล บราซิล ในปัจจุบัน -
1:38 - 1:40ที่ซึ่งแหล่งน้ำหลักของเมือง
-
1:40 - 1:43จากที่เกือบมีเต็มในปี ค.ศ. 2010
-
1:43 - 1:45กลายเป็นเกือบแห้งสนิทในปัจจุบัน
-
1:45 - 1:49เมื่อเมืองนี้เตรียมการต้อนรับ
โอลิมปิกปี 2016 -
1:50 - 1:53สำหรับพวกเราบางคนที่ยังโชคดี
-
1:53 - 1:55ที่อาศัยอยู่ในหนึ่งในเมืองที่เยี่ยมที่สุดในโลก
-
1:55 - 1:59เราไม่เคยมีประสบการณ์จากผลกระทบ
ความแห้งแล้งที่เห็นหายนะใหญ่หลวงเลย -
1:59 - 2:03เราชอบที่จะบ่น ๆ เรื่องการประหยัดน้ำ
-
2:03 - 2:07เราชอบที่จะให้เพื่อนบ้านเราเห็นว่า
รถเราสกปรก และสนามหญ้าก็แห้งกรัง -
2:07 - 2:10แต่เราไม่เคยที่จะเผชิญหน้าจริง ๆ
กับการไขก๊อกน้ำ -
2:11 - 2:12แล้วไม่มีอะไรออกมา
-
2:13 - 2:16และนั่นเป็นเพราะว่า
เมื่อเกิดเรื่องแย่ ๆ ขึ้นในอดีต -
2:16 - 2:19มันเป็นได้ที่จะขยายแหล่งน้ำออกไป
-
2:19 - 2:21หรือขุดบ่อน้ำบาดาลให้ลึกลงไปอีกหน่อย
-
2:22 - 2:26ครับ และมันจะถึงเวลาที่แหล่งน้ำเหล่านี้
เป็นอันจบสิ้นกัน -
2:26 - 2:29มันไม่สามารถที่จะเป็นที่พึ่งในลักษณะนี้
-
2:29 - 2:32เพื่อให้จัดสรรน้ำให้กับพวกเราได้
-
2:32 - 2:35บางคนคิดว่า
พวกเรากำลังจะแก้ปัญหาน้ำในเมือง -
2:36 - 2:38โดยการดึงน้ำเข้ามาจากเพื่อนบ้านในชนบท
-
2:38 - 2:45แต่วิธีการนั้นเต็มไปด้วยปัญหาทางการเมือง
กฎหมาย และอันตรายทางด้านสังคม -
2:45 - 2:48และแม้ว่าเราจะสามารถนำน้ำเข้ามา
จากเพื่อนบ้านในชนบทได้ -
2:48 - 2:51เราก็เพียงแค่ส่งผ่านปัญหา
ไปให้อีกคนหนึ่งเท่านั้นเอง -
2:51 - 2:53และมันเป็นไปได้มากทีเดียว
ที่มันจะย้อนกลับมาแว้งกัดเรา -
2:53 - 2:55ในรูปแบบของการขึ้นราคาอาหาร
-
2:55 - 2:59และความเสียหายต่อระบบนิเวศทางน้ำ
ที่เกิดกับแหล่งน้ำพวกนั้นอยู่แล้ว -
3:00 - 3:04ผมคิดว่า มันมีวิธีที่ดีกว่า
ที่จะแก้ปัญหาวิกฤติน้ำในเมือง -
3:04 - 3:08และผมคิดว่าวิธีนั้นก็คือการเปิดแหล่งน้ำ
สี่แห่งใหม่ในท้องถิ่น -
3:08 - 3:10ที่ผมอยากจะปันนั้นออกมา
-
3:10 - 3:14ถ้าเราสามารถทำการลงทุนที่ฉลาด
ต่อแหล่งน้ำใหม่เหล่านี้ได้ -
3:14 - 3:15ในอนาคตอันใกล้นี้
-
3:15 - 3:18เราสามารถที่จะแก้ปัญหาน้ำในเมืองได้
-
3:18 - 3:21และลดความน่าจะเป็นที่เราจะเผชิญหน้า
-
3:21 - 3:23กับผลจากความแห้งแล้งอย่างรุนแรง
-
3:24 - 3:26ทีนี้ ถ้าคุณบอกผมเมื่อ 20 ปีก่อน
-
3:26 - 3:31ว่าเมืองยุคใหม่สามารถตั้งอยู่ได้
โดยปราศจากการนำเข้าน้ำ -
3:31 - 3:35ผมคงจะไม่คุยกับคนที่เพ้อฝันและไร้สาระ
อย่างนั้นแน่ ๆ -
3:35 - 3:37แต่จากประสบการณ์ของผม
-
3:37 - 3:41การทำงานในทศวรรษที่ผ่านมา
กับบางเมืองที่แล้งน้ำมากที่สุดในโลก -
3:41 - 3:45ได้แสดงให้ผมเห็นว่าเรามีเทคโนโลยี
และความสามารถในการจัดการ -
3:45 - 3:48ที่จะเปลี่ยนผ่านจากการนำเข้าน้ำ
-
3:48 - 3:51ไปสู่สิ่งที่ผมอยากจะเล่าให้พวกคุณฟัง
-
3:51 - 3:56แหล่งท้องถิ่นน้ำแรกที่เราจะต้องพัฒนา
-
3:56 - 3:58เพื่อแก้ปัญหาน้ำในเมืองของเรา
-
3:58 - 4:01เกี่ยวข้องกับน้ำฝน
ที่ตกลงมาในเมืองของเรา -
4:01 - 4:04หนึ่งในโศกนาฎกรรมของการพัฒนาเมือง
-
4:05 - 4:06คือเมื่อเมืองของเราเติบโต
-
4:07 - 4:10เราเริ่มที่จะเปลี่ยนพื้นที่บนดินทั้งหมด
ด้วยคอนกรีตและยางมะตอย -
4:10 - 4:13และเมื่อเราทำอย่างนั้น
เราจะต้องสร้างท่อระบายน้ำฝน -
4:13 - 4:15ที่จะนำน้ำที่ตกลงมาในเมืองออกไป
-
4:15 - 4:17ก่อนที่มันจะทำให้เกิดน้ำท่วม
-
4:17 - 4:20และนั่นเป็นการปล่อยแหล่งน้ำ
ไปอย่างสิ้นเปลือง -
4:20 - 4:22ให้ผมยกตัวอย่างให้คุณดู
-
4:22 - 4:25ตัวเลขนี้แสดงให้คุณเห็นถึงปริมาณน้ำ
-
4:25 - 4:28ที่สามารถถูกเก็บกักได้
ในเมืองของ ซาน โฮเซ -
4:28 - 4:32ถ้าพวกเขาสามารถเก็บน้ำฝนตามฤดูกาล
ที่ตกลงมาในระดับที่เมืองรับได้ -
4:32 - 4:36คุณจะเห็นจากเส้นสีฟ้า
และเส้นประสีดำที่มาตัดกัน -
4:36 - 4:41ว่าถ้าซาน โฮเซ สามารถเก็บน้ำได้ครึ่งหนึ่ง
ของน้ำฝนที่ตกลงมาภายในเมือง -
4:41 - 4:44พวกเขาจะมีน้ำเพียงพอสำหรับใช้ไปทั้งปี
-
4:44 - 4:47ตอนนี้ ผมรู้ว่าพวกคุณบางคนอาจคิดว่า
-
4:47 - 4:50"คำตอบต่อปัญหาของพวกเรา
คือการสร้างที่เก็บน้ำใหญ่ ๆ -
4:50 - 4:53และติดพวกมันเข้ากับรางน้ำฝนบนหลังคา
-
4:53 - 4:55เป็นการเก็บน้ำฝน"
-
4:55 - 4:58ครับ นั่นเป็นแนวคิดที่อาจได้ผลในบางที่
-
4:58 - 5:01แต่ถ้าคุณอาศัยอยู่ในที่
ซึ่งฝนตกในฤดูหนาวเป็นส่วนใหญ่ -
5:01 - 5:03และน้ำเป็นที่ต้องการมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน
-
5:03 - 5:07มันไม่ค่อยจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเท่าไร
ในการแก้ปัญหาน้ำ -
5:07 - 5:10และถ้าคุณเคยประสบปัญหาภัยแล้ง
หลาย ๆ ปีติดกัน -
5:10 - 5:12อย่างที่แคลิฟอเนียกำลังเจออยู่ในตอนนี้
-
5:12 - 5:17คุณไม่สามารถที่จะแค่สร้างที่เก็บน้ำฝน
ที่ใหญ่พอที่จะแก้ปัญหาของคุณได้ -
5:17 - 5:19ผมคิดว่ามันมีหนทาง
ที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติมากกว่านั้น -
5:19 - 5:22ในการเก็บน้ำฝนตามฤดูกาล
และน้ำฝนที่ตกลงมาในเมือง -
5:22 - 5:26และนั่นก็เพื่อให้มันซึมผ่านลงไปในดิน
-
5:26 - 5:31อย่างไรก็ดี เมืองหลาย ๆ เมืองของเรา
ตั้งอยู่บนแหล่งเก็บน้ำตามธรรมชาติ -
5:31 - 5:34ที่สามารถรองรับน้ำปริมาณมากได้
-
5:34 - 5:38ยกตัวอย่างเช่น ในอดีต
ลอสแองเจลิสได้เก็บกัก -
5:38 - 5:41ประมาณหนึ่งในสามของน้ำสำรอง
จากชั้นหินอุ้มน้ำ -
5:41 - 5:43ที่อยู่ใต้หุบเขาซาน เฟอร์นันโด
-
5:44 - 5:47ตอนนี้ เมื่อคุณดูน้ำ
ที่ไหลชะลงมาจากหลังคา -
5:47 - 5:50และไหลลงไปบนสวนของคุณ
และไหลลงรางน้ำไป -
5:50 - 5:53คุณอาจบอกกับตัวเองว่า
"ฉันอยากจะดื่มน้ำพวกนั้นงั้นหรอ" -
5:54 - 5:56ครับ คำตอบก็คือคุณไม่อยาก
-
5:56 - 5:58จนกว่ามันจะถูกบำบัดเสียก่อน
-
5:58 - 6:01ฉะนั้นความท้าทายที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่
ในการเก็บน้ำในเมือง -
6:01 - 6:03ก็คือการเก็บน้ำที่สะอาด
-
6:03 - 6:05และนำมันลงไปใต้ดิน
-
6:06 - 6:09และนั่นเป็นสิ่งที่ลอสแองเจลิสกำลังทำ
-
6:09 - 6:13ด้วยโครงการใหม่ที่พวกเขาสร้างขึ้น
ที่เบอร์แบงค์ แคลิฟอร์เนีย -
6:13 - 6:17ภาพนี้แสดงถึงแหล่งเก็บน้ำตามฤดูกาล
ที่พวกเขาสร้างขึ้น -
6:17 - 6:22โดยการดึงเอานำจากฝนตามฤดูกาล
หรือตามรางน้ำฝน -
6:22 - 6:26และนำน้ำเหล่านั้น
เข้าสู่เหมืองหินกรวดที่ไม่ใช้แล้ว -
6:26 - 6:27น้ำที่ถูกกักไว้ที่เหมืองนั้น
-
6:28 - 6:30จะค่อย ๆ ผ่านหนองน้ำที่คนสร้างขึ้น
-
6:30 - 6:33และจากนั้น มันจะเข้าไปในทุ่งตรงนั้น
-
6:33 - 6:35และถูกกรองผ่านลงไปในพื้นดิน
-
6:35 - 6:37บรรจุใหม่ในชั้นหินอุ้มน้ำดื่มของเมือง
-
6:38 - 6:41และในกระบวนการ
การผ่านเข้าไปในหนองน้ำ -
6:41 - 6:43และซึมผ่านลงในพื้นดินนี้
-
6:43 - 6:46น้ำได้ปะทะเข้ากับจุลชีพ
ที่อาศัยอยู่บนผิวของพืช -
6:46 - 6:48และพื้นผิวของดิน
-
6:48 - 6:49และนั่นช่วยบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์
-
6:50 - 6:53และถ้าหากน้ำยังไม่สะอาดพอ
สำหรับการใช้ดื่ม -
6:53 - 6:55หลังจากที่มันผ่าน
กระบวนการบำบัดทางธรรมชาตินี้แล้ว -
6:55 - 6:57เราสามารถนำมันมาบำบัดซ้ำอีก
-
6:57 - 6:59เมื่อเราปั๊มมันกลับขึ้นมา
จากชั้นอุ้มน้ำผิวดิน -
6:59 - 7:01ก่อนที่เราจะส่งมันไปให้คนใช้ดื่ม
-
7:02 - 7:07ก๊อกที่สองที่เราจะต้องไขเปิด
เพื่อแก้ปัญหาน้ำในเมืองนี้ -
7:07 - 7:08จะเกี่ยวข้องกับน้ำเสีย
-
7:08 - 7:10ที่ออกมาจากท่อน้ำโรงบำบัดน้ำเสีย
-
7:11 - 7:15ทีนี้ พวกคุณหลาย ๆ คนคงคุ้นเคย
กับแนวคิดของการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ -
7:15 - 7:17คุณอาจเห็นสัญลักษณ์แบบนี้
-
7:17 - 7:20ที่บอกคุณว่าไม้พุ่มและต้นไม้เกาะกลางถนน
-
7:20 - 7:22และสนามกอล์ฟในพื้นที่
-
7:22 - 7:23ใช้น้ำพวกนี้
-
7:23 - 7:26ที่เคยเป็นน้ำ
ที่มาจากท่อโรงงานบำบัดน้ำเสีย -
7:26 - 7:29เราได้ทำอย่างนี้
มาประมาณยี่สิบสามสิบปีแล้ว -
7:29 - 7:31แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์
-
7:31 - 7:35ก็คือวิธีการนี้แพงกว่าที่เราคิดเอาไว้
-
7:36 - 7:39เพราะเมื่อเราสร้างระบบ
การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่แรก ๆ -
7:39 - 7:40ใกล้ ๆ กับท่อโรงบำบัดน้ำเสีย
-
7:40 - 7:43เราต้องสร้างเครือข่ายท่อที่ยาวกว่า
-
7:43 - 7:45เพื่อที่จะให้น้ำไปยังที่ที่เราอยากให้มันไป
-
7:46 - 7:48และนั่นกลายเป็นอุปสรรค
ในด้านค่าใช้จ่าย -
7:49 - 7:50สิ่งที่เราพบว่า
-
7:50 - 7:54มีราคาย่อมเยาสมเหตุสมผลกว่า
ในทางปฏิบัติของการนำกลับมาใช้ใหม่ -
7:54 - 7:57คือเปลี่ยนน้ำเสีย
ให้กลายเป็นน้ำสำหรับดื่ม -
7:57 - 7:58ผ่านกระบวนการสองขั้นตอน
-
7:59 - 8:02ในขั้นตอนแรกเราให้แรงดันกับน้ำ
-
8:02 - 8:05และผ่านมันไปยังเยื่อรีเวอร์สออสโมซิส
-
8:05 - 8:07เยื่อพลาสติกบาง ๆ ที่น้ำผ่านได้
-
8:07 - 8:10ที่ยอมให้โมเลกุลน้ำผ่านไป
-
8:10 - 8:15แต่กักและเก็บเกลือ ไวรัส
และสารอินทรีย์อื่น ๆ -
8:15 - 8:17ที่อาจอยู่ในน้ำเสียนั้นเอาไว้
-
8:18 - 8:19ในกระบวนการขั้นที่สอง
-
8:19 - 8:22เราเติมไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์
ลงไปเล็กน้อย -
8:22 - 8:25และฉายแสงอัลตราไวโอเลทลงไปในน้ำ
-
8:25 - 8:28แสงอัลตราไวโอเลท
ตัดไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ -
8:28 - 8:31เป็นสองส่วนที่เรียกว่า
อนุมูล ไฮดรอกซิล -
8:31 - 8:35และอนุมูลไฮดรอกซิลเหล่านี้
เป็นออกซิเจนในรูปแบบที่มีศักยภาพสูง -
8:35 - 8:37ในการสลายสารอินทรีย์ส่วนใหญ่
-
8:38 - 8:41หลังจากที่น้ำผ่านขั้นตอนทั้งสองนี้แล้ว
-
8:41 - 8:43มันปลอดภัยสำหรับการใช้ดื่ม
-
8:43 - 8:44ผมรู้ครับ
-
8:44 - 8:47ผมได้ทำการศึกษาน้ำ
จากการนำกลับมาใช้ใหม่ -
8:47 - 8:50โดยใช้เทคนิคการวัดค่าทุกอย่าง
ที่เป็นที่รู้จักกันในวงการวิทยาศาสตร์ -
8:50 - 8:52เป็นเวลาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา
-
8:52 - 8:54เราตรวจพบสารเคมีบางอย่าง
-
8:54 - 8:56ที่สามารถผ่านกระบวนการขั้นแรกไปได้
-
8:56 - 8:58แต่เมื่อผ่านกระบวนการขั้นที่สอง
-
8:58 - 9:00ที่เป็นการบวนการออกซิเดชันที่ทันสมัย
-
9:00 - 9:03เราแทบจะไม่เห็นสารเคมีใด ๆ เลย
-
9:03 - 9:07และนั่นแตกต่างกับแหล่งน้ำใช้ของเรา
ที่เราไม่ค่อยจะให้ความใส่ใจ -
9:07 - 9:09ที่เราใช้ดืมกันเป็นประจำ
-
9:10 - 9:12นั่นเป็นอีกหนทางหนึ่ง
สำหรับการนำน้ำกลับมาใช้อีก -
9:12 - 9:16นี่คือหนองน้ำที่ถูกออกแบบสำหรับการบำบัด
ที่เราเพิ่งสร้างขึ้น -
9:16 - 9:18บนแม่น้ำ ซานตา แอนา
ทางแคลิฟอร์เนียใต้ -
9:18 - 9:22หนองน้ำสำหรับการบำบัดนี้
รับน้ำจากส่วนหนึ่งของแม่น้ำ ซานตา แอนา -
9:22 - 9:26ที่ในตอนฤดูร้อนจะรับน้ำเสียเกือบทั้งหมด
ที่ถูกปล่อยออกมา -
9:26 - 9:29จากเมืองต่าง ๆ เช่น ริเวอร์ไซด์
และ ซาน บาร์นาร์ดิโน -
9:29 - 9:31น้ำเข้ามายังหนองน้ำสำหรับการบำบัดของเรา
-
9:31 - 9:34มันถูกตากแดดและเจอกับสาหร่าย
-
9:34 - 9:36ซึ่งทำหน้าที่ย่อยสารอินทรีย์
-
9:36 - 9:40กำจัดสารอาหาร
และยับยั้งเชื้อโรคที่มากับน้ำ -
9:40 - 9:42น้ำถูกส่งกลับไปยังแม่น้ำ ซานตา แอนา
-
9:42 - 9:44มันไหลลงไปยัง แอนาเฮม
-
9:44 - 9:47ถูกนำออกจาก แอนาเฮม
และค่อย ๆ ซึมลงไปในพื้นดิน -
9:47 - 9:50และกลายเป็นน้ำดื่มของเมืองแอนาเฮม
-
9:50 - 9:54เป็นการเดินทางที่ครบสมบูรณ์
จากท่อระบายน้ำฝนของริเวอร์ไซด์คันทรี -
9:54 - 9:56ไปยังแหล่งน้ำสำหรับดื่ม
ของออเรนจ์คันทรี -
9:58 - 10:01ถึงตอนนี้ คุณอาจคิดว่า
แนวคิดเรื่องการดืมน้ำจากแหล่งน้ำเสียนี้ -
10:01 - 10:05เป็นเรื่องจินตนาการถึงอนาคต
หรือเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องปกติ -
10:05 - 10:09ครับ ในแคลิฟอร์เนีย เราได้นำน้ำเสีย
กลับมาใช้ใหม่ประมาณ 40 ล้านแกลอนต่อปี -
10:09 - 10:12ผ่านสองขั้นตอนการบำบัดที่ทันสมัย
-
10:12 - 10:14ที่ผมเพิ่งเล่าให้คุณฟัง
-
10:14 - 10:17มันมีน้ำเพียงพอสำหรับคนประมาณล้านคน
-
10:17 - 10:19ถ้าหากว่ามันเป็นแหล่งน้ำ
สำหรับพวกเขาเท่านั้น -
10:20 - 10:24ก๊อกที่สามที่เราจะต้องไขเปิด
ไม่ใช่ก๊อกจริง ๆ เสียทีเดียว -
10:25 - 10:26มันเป็นก๊อกเสมือน
-
10:26 - 10:29มันจะเป็นการอนุรักษ์บริหารจัดการน้ำ
-
10:29 - 10:33และที่ซึ่งเราต้องคิดถึง
ในเรื่องของการอนุรักษ์น้ำคือนอกตัวอาคาร -
10:33 - 10:36เพราะว่าในแคลิฟอร์เนีย
และเมืองที่ทันสมัยในอเมริกา -
10:36 - 10:39ประมาณครึ่งหนึ่งของการใช้น้ำของพวกเรา
เกิดขึ้นนอกตัวอาคาร -
10:40 - 10:41ในฤดูแล้งตอนนี้
-
10:41 - 10:43เราได้เห็นว่ามันเป็นไปได้
-
10:43 - 10:46ที่จะทำให้สนามหน้าบ้านของเราอยู่รอด
และต้นไม้ของเราไม่ตาย -
10:46 - 10:48ด้วยน้ำปริมาณเพียงครึ่งเดียว
-
10:48 - 10:51ฉะนั้น มันไม่จำเป็น
ที่เราจะต้องทาคอนกรีตเป็นสีเขียว -
10:51 - 10:54และใช้หญ้าเทียมและซื้อกระบองเพชร
-
10:54 - 10:58เราสามารถมีภูมิทิศน์ที่เป็นมิตรอย่าง
แคลิฟอร์เนีย ด้วยเครื่องวัดความชื้นในดิน -
10:58 - 11:00เครื่องควบคุมการชลประทานอันชาญฉลาด
-
11:00 - 11:03และมีภูมิทัศน์สีเขียวสวยงาม
ในเมืองต่าง ๆ ของพวกเรา -
11:04 - 11:07ก๊อกที่สี่และมันเป็นก๊อกสุดท้าย
ที่เราจะต้องไขเปิด -
11:07 - 11:09เพื่อแก้ปัญหาน้ำในเมือง
-
11:09 - 11:11เกี่ยวข้องกับการกำจัดเกลือจากน้ำทะเล
-
11:11 - 11:15ทีนี้ ผมรู้ว่าคุณอาจเคยได้ยินคนพูด
เกี่ยวกับการกำจัดเกลือในน้ำทะเลว่า -
11:15 - 11:20"มันเป็นเรื่องดีที่ควรทำ
ถ้าคุณมีน้ำมันเยอะ ๆ แต่มีน้ำไม่เยอะ -
11:20 - 11:22และคุณไม่สนใจว่าจะมีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไม่" -
11:22 - 11:26การกำจัดเกลือในน้ำทะเล
ใช้พลังงานอย่างมาก -
11:26 - 11:29แต่นั่นเป็นลักษณะ
ของการกำจัดเกลือจากน้ำทะเล -
11:29 - 11:32แบบเดิม ๆ นั้นล้าสมัยเกินไป
-
11:32 - 11:35เราได้ปรับปรุงกระบวนการกำจัดเกลือ
จากน้ำทะเลไปมาก -
11:35 - 11:36ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
-
11:37 - 11:39ภาพนี้แสดงให้คุณเห็นถึง
-
11:39 - 11:43โรงงานกำจัดเกลือจากน้ำทะเลที่ใหญ่ที่สุด
ในซึกโลกตะวันตก -
11:43 - 11:45ที่ตอนนี้กำลังสร้างที่ทางตอนเหนือ
ของซาน ดิเอโก -
11:45 - 11:48เปรียบเทียบกับโรงงาน
กำจัดเกลือจากน้ำทะเล -
11:48 - 11:51ที่สร้างขึ้นในซานตา บาบารา เมื่อ 25 ปีก่อน
-
11:51 - 11:54โรงงานบำบัดน้ำขนาดใหญ่นี้
จะใช้พลังงานประมาณครึ่งหนึ่ง -
11:54 - 11:55เพื่อผลิตน้ำหนึ่งแกลลอน
-
11:56 - 12:00แต่เพราะการกำจัดเกลือจากน้ำทะเล
ได้กลายเป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานน้อยลง -
12:00 - 12:03ไม่ได้หมายความว่าเราควรที่จะเริ่มสร้าง
โรงงานกำจัดเกลือไปซะทุกหนทุกแห่ง -
12:03 - 12:05ในบรรดาตัวเลือกต่าง ๆ ที่เรามี
-
12:05 - 12:07มันอาจเป็นทางเลือกที่ใช้พลังงานมากที่สุด
-
12:07 - 12:09และเป็นไปได้ว่าจะทำลายธรรมชาติมากที่สุด
-
12:09 - 12:12ในการผลิตแหล่งน้ำสำรองสำหรับท้องถิ่น
-
12:13 - 12:14นั่นล่ะครับ
-
12:14 - 12:16ด้วยแหล่งน้ำทั้งสี่นี้
-
12:16 - 12:19เราจะไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำ
-
12:20 - 12:24ด้วยการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์พื้นผิว
และสิ่งปลูกสร้าง -
12:24 - 12:27เราสามารถการใช้น้ำจากนอกตัวอาคาร
ได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ -
12:27 - 12:31ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำสำรอง
25 เปอร์เซ็นต์ -
12:31 - 12:33เราสามารถนำน้ำกลับมาใช้ใหม่
ที่ทำให้มันไหลกลับลงไปในท่อระบายน้ำฝน -
12:33 - 12:36ซึ่งเป็นการเเพิ่ม
แหล่งน้ำสำรอง 40 เปอร์เซ็นต์ -
12:37 - 12:39และเราสามารถสร้างความแตกต่าง
ผ่านการกระทำร่วมกันของ -
12:40 - 12:42การเก็บน้ำตามฤดูกาล
และการกำจัดเกลือจากน้ำทะเล -
12:43 - 12:47ฉะนั้น เรามาสร้างแหล่งน้ำสำรองกันเถอะครับ
-
12:47 - 12:51นั่นจะทำให้เราสามารถ
ยืนหยัดเผชิญหน้าได้กับทุกความท้าทาย -
12:51 - 12:53ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
จะนำมาสู่เราในอนาคตอันใกล้ -
12:53 - 12:57เรามาร่วมกันสร้างแหล่งน้ำสำรอง
ทีจะถูกใช้เป็นแหล่งในท้องถิ่น -
12:57 - 13:01และปล่อยให้น้ำในธรรมชาติ
เป็นของปลาและอาหาร -
13:02 - 13:07เรามาร่วมกันสร้างระบบน้ำ
ที่สอดคล้องกับคุณค่าของธรรมชาติ -
13:07 - 13:10และเรามาร่วมกันทำสิ่งนี้
เพื่อลูกหลานของเราและของพวกเขา -
13:10 - 13:13และบอกพวกเขาว่า นี่คือระบบ
-
13:13 - 13:15ที่พวกเขาจะต้องรักษาทะนุบำรุง
ต่อไปในอนาคต -
13:15 - 13:19เพราะว่านี่คือโอกาสสุดท้ายของเรา
ที่จะสร้างระบบน้ำแบบใหม่ -
13:19 - 13:21ขอบคุณมาก ๆ ที่รับฟังครับ
-
13:21 - 13:24(เสียงปรบมือ)
- Title:
- 4 วิธีที่หลีกหนีความแห้งแล้วที่รุนแรง
- Speaker:
- เดวิด เซดเลค (David Sedlak)
- Description:
-
เมื่อรูปแบบภูมิอากาศของโลกมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องในแบบที่ไม่อาจคาดเดาได้ สถานที่ซึ่งเคยมีน้ำดิ่มมากมายในอีกไม่นานอาจพบว่าแหล่งเก็บน้ำเหล่านั้นเหือดแห้งและน้ำใต้ดินก็ลดน้อยลง ในการบรรยายนี้ วิศวกรชุมชนและสิ่งแวดล้อม เดวิด เซดเลค เล่าถึงสี่ทางออกหลักในการแก้ปัญหาน้ำในเมืองที่เรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ เป้าหมายของเขาคือการย้ายแหล่งน้ำสำรองไปยังแหล่งน้ำใหม่ในท้องถิ่นและสร้างระบบที่สามารถทานทนต่อความท้าทายใดก็ตามที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะนำมาสู่พวกเราในอนาคตอันใกล้นี้
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 13:37
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for 4 ways we can avoid a catastrophic drought | ||
Rawee Ma accepted Thai subtitles for 4 ways we can avoid a catastrophic drought | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for 4 ways we can avoid a catastrophic drought | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for 4 ways we can avoid a catastrophic drought | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for 4 ways we can avoid a catastrophic drought | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for 4 ways we can avoid a catastrophic drought | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for 4 ways we can avoid a catastrophic drought | ||
Rawee Ma declined Thai subtitles for 4 ways we can avoid a catastrophic drought |