Return to Video

TIMELAPSE OF THE FUTURE: A Journey to the End of Time (4K)

  • 0:07 - 0:10
    "สรรพสิ่งมีความน่าพิศวงของมัน แม้แต่ความมืดและความเงียบ"
  • 0:10 - 0:14
    "สรรพสิ่งมีความน่าพิศวงของมัน แม้แต่ความมืดและความเงียบ"
    เฮเลน เคลเลอร์
  • 0:15 - 0:18
    อนาคตจะเป็นแบบไหน
  • 0:19 - 0:22
    จักรวาลจะมีจุดจบอย่างไร
  • 0:23 - 0:26
    เราอาจจะไม่มีวันเข้าใจเลยก็ได้
  • 0:27 - 0:31
    แต่วิทยาศาสตร์ได้เริ่มวาดภาพที่สุดแสนจะบรรยายในอนาคต ว่าจะออกเป็นเช่นไร
  • 0:32 - 0:35
    เราจะออกเดินทางไปถึงจุดจบของเวลา
  • 0:35 - 0:39
    เราจะเดินทางผ่านเวลาแบบทวีคูณ
    เพิ่มความเร็วเป็นสองเท่าทุก ๆ 5 วินาที
  • 0:39 - 0:45
    ภาพในอนาคตจะพัฒนาไปตามหลักฐานและทฤษฎีที่เรามี
    และก็มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนแล้ว
  • 0:45 - 0:47
    จักรวาลแค่เพิ่งเริ่มต้น..
  • 0:47 - 0:49
    [ยุคแอนโทรโพซีน]
  • 0:49 - 1:01
    ยุคของโฮโลซีนก็จบลงแล้ว สิ่งที่เราทำตอนนี้และอีกหลายปีข้างหน้า จะส่งผลอย่างรุนแรงในไม่กี่พันปีข้างหน้า
  • 1:04 - 1:12
    สภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ในปัจจุบันและรู้จัก
    กำลังเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
  • 1:13 - 1:17
    ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไปบนโลกใบนี้
    ทุก ๆ อย่าง เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
  • 1:18 - 1:21
    โลกกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงกับบางสิ่งเหล่านี้
  • 1:21 - 1:22
    และคุณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโลกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง
  • 1:22 - 1:24
    [การสลับของสนามแม่เหล็กโลก]
    และคุณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโลกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง
  • 1:24 - 1:26
    โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
  • 1:27 - 1:30
    [การกลับมาของ ดาวหาง เฮล-บอปป์]
  • 1:32 - 1:33
    [ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนือง]
  • 1:33 - 1:37
    สิ่งต่าง ๆ บนโลกใบนี้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
    ไม่มีสิ่งใดคงเดิม
    [ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนือง]
  • 1:37 - 1:39
    ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป
    [การพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยขนาด 30 เมตร]
  • 1:40 - 1:41
    [ดาวแอนทาเรสกลายเป็นซูเปอร์โนวา]
  • 1:43 - 1:45
    [ทะเลทรายซาฮาร่า กลายเป็นแผ่นดินเขตร้อน]
  • 1:47 - 1:48
    [กลุ่มดาวเริ่มเปลี่ยนตำแหน่ง]
  • 1:51 - 1:52
    [ยานวอยเอจเจอร์ 1 ผ่านดาวฤกษ์ใกล้เคียง]
  • 1:54 - 1:56
    [จุดสิ้นสุดของยุคน้ำแข็งขั้วโลก]
  • 1:57 - 2:00
    [การปะทุของภูเขาไฟยักษ์]
  • 2:06 - 2:08
    [เกาะฮาวายใหม่ปรากฏขึ้น]
  • 2:08 - 2:09
    [เกาะใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ]
  • 2:14 - 2:15
    [รอยเท้าอะพอลโลได้จางหายไป]
  • 2:18 - 2:19
    [ดาวบีเทลจุสกลายเป็นซูเปอร์โนวา]
  • 2:22 - 2:24
    [อนุสรณ์สถานทั้งหมดถูกกัดเซาะ]
  • 2:30 - 2:32
    [การระเบิดของรังสีแกมมา]
  • 2:33 - 2:35
    [ดวงจันทร์รอบดาวอังคาร กลายเป็นวงแหวน]
  • 2:38 - 2:39
    [วงแหวนของดาวเสาร์หายไป]
  • 2:42 - 2:44
    [การละลายของทวีปแอนตาร์กติกา]
  • 2:45 - 2:46
    [การพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยครั้งใหญ่]
  • 2:51 - 2:56
    [มหาทวีปใหม่]
  • 2:58 - 2:59
    [ดวงอาทิตย์สว่างขึ้น]
  • 2:59 - 3:00
    เมื่อเชื้อเพลิงเริ่มหมดลง
    [ดวงอาทิตย์สว่างขึ้น]
  • 3:00 - 3:01
    เมื่อเชื้อเพลิงเริ่มหมดลง
    [การสังเคราะห์ด้วยแสงเริ่มหยุดลง]
  • 3:01 - 3:03
    ดวงอาทิตย์ไม่เพียงแค่หายไปเฉย ๆ
    [การสังเคราะห์ด้วยแสงเริ่มหยุดลง]
  • 3:03 - 3:04
    ดวงอาทิตย์ไม่เพียงแค่หายไปเฉย ๆ
    [พืชทุกชนิดตายหมด]
  • 3:04 - 3:05
    [พืชทุกชนิดตายหมด]
  • 3:05 - 3:06
    [น้ำในมหาสมุทรระเหยหายไป]
  • 3:06 - 3:12
    แกนกลางจะยุบตัวลง และความร้อนที่เพิ่มขึ้นนี้
    ทำให้พื้นผิวชั้นนอกเกิดการขยายตัว
  • 3:12 - 3:13
    [ทุกชีวิตตายหมด]
  • 3:13 - 3:17
    [ดวงอาทิตย์ขยายตัว]
  • 3:17 - 3:19
    [ดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวยักษ์แดง]
  • 3:19 - 3:21
    [โลกถูกทำลายโดยดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตาย]
  • 3:21 - 3:22
    [ดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวแคระขาว]
  • 3:22 - 3:25
    และดวงอาทิตย์… ก็ดับลง…
    [ดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวแคระขาว]
  • 3:25 - 3:30
    และค่อย ๆ เย็นตัวลงอย่างช้า ๆ
    ในอุณหภูมิเยือกเย็นของห้วงอวกาศ
  • 3:40 - 3:45
    ชะตากรรมของดวงอาทิตย์ก็เหมือนกับดาวดวงอื่น ๆ
  • 3:45 - 3:51
    วันหนึ่ง สุดท้ายพวกมันก็ต้องดับลง
    และจักรวาลก็จะตกอยู่ในความมืดมิดตลอดกาล…
  • 3:54 - 3:58
    ในที่สุดเชื้อเพลิงของดาวทุกดวงก็จะหมดลง
    [ดวงดาวเริ่มดับลง]
  • 3:58 - 4:06
    อุณหภูมิของจักรวาลลดลง
    ดาวบนฟ้าจะค่อย ๆ หายไป . . ทีละดวง . . .
  • 4:08 - 4:12
    และจะไม่มีดาวฤกษ์เกิดใหม่อีก
  • 4:13 - 4:18
    และจักรวาลจะไม่จบลงด้วยการระเบิด
    แต่ด้วย… ความเงียบสงัด
  • 4:20 - 4:21
    [ดาวแคระแดงดวงสุดท้ายตาย]
  • 4:21 - 4:25
    และไม่ใช่ในไฟ... แต่ในความเยือกเย็น...
    [ดาวแคระแดงดวงสุดท้ายตาย]
  • 4:30 - 4:31
    [ยุคเสื่อมโทรม]
  • 4:31 - 4:38
    เมื่อดาวฤกษ์ดวงสุดท้ายดับลง
    ยุคของแสงสว่างจากดวงดาว ก็มาถึงจุดจบ
  • 4:41 - 4:48
    จักรวาลกลายเป็นสุสาน
    ที่เต็มไปด้วยซากของดาวที่ตายแล้ว
  • 4:51 - 4:57
    ดวงอาทิตย์ของเรากลายเป็นดาวแคระขาว
    ที่ร้อนและหนาแน่น เป็นซากที่หดตัวของดาวฤกษ์
  • 5:02 - 5:06
    เมื่อไม่มีเชื้อเพลิงเหลือให้เผาไหม้แล้ว
    ดาวแคระขาวจะเปล่งแค่แสงสลัว ๆ
  • 5:06 - 5:11
    นั้นมาจากแหล่งความร้อนที่ยังเหลืออยู่ในที่เตาที่มอดแล้ว
  • 5:16 - 5:18
    ถ้ามองมันจากบนโลกในตอนนี้แล้ว
  • 5:18 - 5:24
    แสงที่เปล่งออกมา นั้นเทียบเท่ากับแสง
    ของพระจันทร์เต็มดวง ในคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
  • 5:29 - 5:37
    แสงที่ริบหรี่จากดาวแคระขาว
    จะเป็นเพียงแสงเดียวที่ส่องสว่างในความมืดมิดและว่างเปล่า
  • 5:37 - 5:41
    ท่ามกลางซากของดาวฤกษ์ และหลุมดำ
  • 5:51 - 5:56
    ในบางมุม มันราวกับกับ จักรวาลผี ที่มีแต่ซากดาวฤกษ์
    ดาวซอมบี้ และพวกนี้จะพาเราไปสู่อนาคตต่อไป
  • 6:08 - 6:11
    พอเวลาผ่านไป แรงโน้มถ่วงก็ผลักดาวที่ตายแล้วออกไปจากดาราจักรที่เคยอยู่
  • 6:11 - 6:13
    ไปสู่ห้วงอวกาศ . . ที่ว่างเปล่าและเยือกเย็น . . .
  • 6:19 - 6:23
    มีโอกาส ที่ดาวแคระน้ำตาลสองดวงชนกัน
    และสร้างดาวฤกษ์ดวงใหม่โดยบังเอิญ
  • 6:28 - 6:32
    การชนกันของดาวนิวตรอน จะขจัดความมืด
    ด้วยแสงซูเปอร์โนวาที่สว่างจ้า
  • 6:32 - 6:33
    การชนกันของดาวนิวตรอน จะขจัดความมืด
    ด้วยแสงซูเปอร์โนวาที่สว่างจ้า
    [การชนกันของดาวนิวตรอน]
  • 6:33 - 6:35
    [การชนกันของดาวนิวตรอน]
  • 6:51 - 6:52
    [ยุคเสื่อมโทรม]
  • 6:52 - 6:58
    รูปแบบชีวิตใด ๆ ก็ตามที่ยังอยู่รอด
    อาจใช้ดาวแคระขาวเป็นที่อยู่อาศัย
  • 7:07 - 7:12
    พอนานไป แม้แต่ดาวแคระห์ขาวเองก็ค่อย ๆ
    สลัวลงและดับไปในที่สุด…
  • 7:13 - 7:14
    [ดาวฤกษ์กลายเป็นดาวแคระดำ]
  • 7:14 - 7:18
    ดาวแคระดำจะเป็นชะตากรรมสุดท้าย
    ของดาวกลุ่มสุดท้าย
    [ดาวฤกษ์กลายเป็นดาวแคระดำ]
  • 7:18 - 7:24
    เป็นดาวแคระขาวที่มีอุณหภูมิต่ำมาก
    จนแทบจะไม่แผ่ความร้อนหรือเปล่งแสงออกมาเลย
  • 7:28 - 7:33
    ดาวแคระดำนั้นมืดมิด หนาแน่น
    เหมือนลูกบอลของสสารที่กำลังเสื่อม
  • 7:35 - 7:37
    เป็นเพียงแค่เศษซากของดวงดาว
  • 7:38 - 7:42
    อะตอมถูกบีบอัดอย่างรุนแรง
  • 7:42 - 7:46
    ทำให้ดาวแคระดำหนาแน่นกว่า
    ดวงอาทิตย์เป็นล้านเท่า
  • 7:54 - 7:58
    ดาวฤกษ์ใช้เวลานานมาก กว่าจะมาถึงจุดนี้
  • 7:58 - 8:02
    เราเชื่อว่า ยังไม่มีดาวแคระดำในจักรวาลตอนนี้
  • 8:12 - 8:17
    วัตถุใดที่ไม่สามารถหนีออกจากดาราจักรได้
    จะถูกดูดเข้าไปสู่หลุมดำที่ใจกลาง
  • 8:17 - 8:21
    [หลุมดำดูดกลืนทุกสสารในอวกาศ]
  • 8:26 - 8:31
    หลุมดำเงียบ ๆ ก็จะลุกเป็นไฟโชติช่วง
    (จากการดูดกลืนสสาร)
  • 8:48 - 8:50
    [ยุคเสื่อมโทรม]
  • 8:52 - 9:00
    พลังงานการหมุนของหลุมดำจะกลายเป็นแหล่งพลังงาน
    สุดท้ายที่ใช้ได้สำหรับอารยธรรมใด ๆ ที่ไม่ธรรมดาในอนาคต
  • 9:05 - 9:09
    เรามีวิถีชีวิตที่ขึ้นอยู่กับพลังงานที่มีให้ใช้ในตอนนี้
  • 9:11 - 9:16
    คุณสามารถจินตนาการถึงการมีชีวิต บนระบบความมีสติ ที่ทำให้เราก้าวไปอย่างแตกต่าง และนั่น
  • 9:16 - 9:20
    ทำให้สามารถยืดอายุออกไปได้
    อย่างน้อยก็มากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้
  • 9:22 - 9:23
    คุณอาจจะมีระบบของสิ่งมีชีวิต
  • 9:23 - 9:28
    ที่มีความคิดทุก ๆ 10 ล้านล้านปี
    ก็จะดูเป็นเรื่องปกติไปเลย
  • 9:31 - 9:35
    แม้ชีวิตของเราจะตายไปหมดแล้ว ก็ลองจินตนาการดูว่า
  • 9:35 - 9:38
    ช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตอันไกลโพ้น
  • 9:38 - 9:43
    มีความผันผวนเกิดขึ้น
    และทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาขึ้นอีกครั้งสักช่วงเวลาหนึ่ง
  • 9:44 - 9:48
    ดังนั้นคุณอาจจะมีช่วงเวลาของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา
  • 9:54 - 9:57
    [การขยายตัวของเอกภพ]
  • 9:57 - 10:05
    เมื่อการขยายตัวของเอกภพเร็วขึ้น
    วัตถุก็เริ่มแยกสสารออกจากกันเร็วยิ่งกว่าแสง
  • 10:07 - 10:13
    พอถึงจุดนี้ ดาราจักรและดวงดาวกำลังถ่อยห่างกันอย่างรวดเร็วจนแสงเองยังส่องกันไม่ถึง
  • 10:15 - 10:22
    และความลับของจักรวาลก็ได้ถูกปิดตายไปตลอดกาล
  • 10:25 - 10:33
    ในทฤษฎีปัจจุบันคาดว่า อะตอมมันเองจะเริ่มสลายไป และทำลายสสารที่เหลืออยู่ในจักรวาลทั้งหมด
  • 10:33 - 10:35
    [การสลายตัวของโปรตอน]
  • 10:35 - 10:40
    โปรตอน หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของอะตอม
    สิ่งที่สร้างตัวเราขึ้นมา
    [การสลายตัวของโปรตอน]
  • 10:40 - 10:42
    นั้นสามารถที่จะแตกสลายไปเฉย ๆ
  • 10:44 - 10:48
    วัตถุใด ๆ ที่ไม่ได้ถูกหลุมดำดูดเข้าไป
  • 10:48 - 10:52
    ก็จะสลายไปเองจากการแตกสลายของโปรตอน
  • 10:59 - 11:07
    ทฤษฎีการสลายตัวของโปรตอน ยังไม่ได้รับการพิสูจน์
    และดังนั้นถ้าเกิดการค้นพบใหม่ขึ้นมาในบทอนาคตนี้อาจจะดูแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
  • 11:18 - 11:21
    สสารที่เหลืออยู่ในดาวแคระดำนี้ เป็นสสารสุดท้ายในเอกภพ
  • 11:21 - 11:23
    และสสารสุดท้ายที่อยู่ในเอกภพนี้
  • 11:23 - 11:30
    ในที่สุดก็จะระเหยไป และแผ่ออกไปในความว่างเปล่าด้วยการแผ่รังสี
  • 11:30 - 11:34
    ไม่หลงเหลืออะไรไว้อีกเลย
  • 11:35 - 11:42
    [ยุคของหลุมดำ]
  • 11:42 - 11:47
    ในเมื่อดาวแคระดำก็หายไปหมดแล้ว ก็คงไม่มีอะตอมสักอันหรือสสารหลงเหลืออีกแล้ว
  • 11:52 - 11:59
    ทั้งหมดที่จะยังคงอยู่ในจักรวาลที่เคยเต็มไปด้วยสสาร
    จะเป็นอนุภาคของแสงและหลุมดำ
  • 12:07 - 12:11
    ยุคของหลุมดำได้เริ่มขึ้น
  • 12:12 - 12:18
    ไม่มีดาวเคราะห์ ไม่มีดวงดาว ไม่มีสถานที่สำหรับสิ่งมีชีวิต
  • 12:21 - 12:27
    ถึงกระนั้น เวลาก็แค่เพิ่งจะเริ่มเดิน
  • 12:29 - 12:33
    ในช่วงเวลาที่เป็นอยู่ของมนุษย์ จักรวาลแค่กำลังกำเนิดขึ้น
  • 12:37 - 12:43
    เย็น มืด และว่างเปล่า
    นี่คือสิ่งที่จักรวาลใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่ช่วงนี้
  • 12:48 - 12:56
    จักรวาลให้ชีวิตเราแค่เพียงช่วงหนึ่ง
    ช่วงที่พักของเวลา เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและจบลงอย่างเยือกเย็น
  • 12:57 - 13:02
    เส้นทางของเวลา ได้สร้างหน้าต่างที่สดใส
    ในช่วงวัยรุ่นของจักรวาล
  • 13:02 - 13:04
    ในช่วงของสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นไปได้
  • 13:08 - 13:12
    แต่หน้าต่างเวลานั้นไม่ได้เปิดไว้นานนัก
  • 13:15 - 13:24
    เป็นแค่เศษส่วนหนึ่งของช่วงอายุจักรวาล
    ที่วัดจากจุดเริ่มต้นไปยัง
    การระเหยของหลุมดำสุดท้าย
  • 13:24 - 13:28
    ชีวิต ที่เรารับรู้ได้ มีความเป็นไปได้เพียงแค่
  • 13:28 - 13:29
    หนึ่งในพันส่วน
  • 13:29 - 13:30
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้าน
  • 13:30 - 13:30
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้าน
  • 13:30 - 13:31
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้าน
  • 13:31 - 13:31
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
  • 13:31 - 13:32
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
  • 13:32 - 13:33
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
  • 13:33 - 13:33
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
  • 13:33 - 13:34
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
  • 13:34 - 13:35
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
  • 13:35 - 13:38
    หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
    ของเปอร์เซ็นต์
  • 13:45 - 13:48
    หลุมดำกลายเป็นโครงสร้างหลักของจักรวาลจักรวาล
  • 13:53 - 13:58
    ดาราจักรกลายเป็นหลุมดำมวลยิ่งยวดอยู่ตรงกลาง กับมีหลุมดำขนาดเล็กกว่าโคจรอยู่รอบ ๆ
  • 14:02 - 14:06
    ดาราจักรซอมบี้ที่เต็มไปด้วยหลุมดำ ขยายขนาดขึ้นเรื่อย ๆ
  • 14:10 - 14:15
    เหล่าหลุมดำกลืนกินกันเอง และมีขนาดใหญ่ขึ้น และอาจจะถูกหลุมดำมวลยิ่งยวดกลืนกินอีกที ทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก
  • 14:15 - 14:18
    จักรวาลจะยังตื่นเต้น เคลื่อนที่ต่อไป
  • 14:18 - 14:24
    มันแบบว่า ช่วงเวลาที่กำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้อยู่ในระดับหลายล้านล้านปี
    แทนที่จะแค่หลักพันหรือสิบล้านปี
  • 14:29 - 14:30
    [การรวมกันของหลุมดำ]
  • 14:30 - 14:36
    ในช่วงเวลาระดับนี้
    การรวมกันของหลุมดำคือเหตุการณ์หลัก
  • 14:39 - 14:45
    บางหลุมมีขนาดมโหฬาร
    มวลหลักล้านล้านเท่าของดวงอาทิตย์ก็เป็นไปได้เช่นกัน
  • 14:50 - 14:55
    เมื่อหลุมดำรวมกัน ก็จะส่งคลื่นแรงโน้มถ่วงสั่นสะเทือนไปทั่วจักรวาล
  • 14:56 - 15:01
    หลุมดำสามารถสั่นสะเทือนปริภูมิ-เวลาคล้ายกับการตีกลอง
  • 15:09 - 15:12
    และมีเอกลักษณ์ในเพลงเป็นของตัวเอง
  • 15:18 - 15:21
    ลองนึกภาพหลุมดำสองหลุม
    ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมานาน
  • 15:22 - 15:28
    ในช่วงท้ายชีวิตของหลุมดำทั้งสองหลุม โคจรรอบกัน
    ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรในเสี้ยววินาที
  • 15:32 - 15:39
    ขณะที่โคจรรอบกัน ก็ได้หลงเหลือเสียงเพลงในอวกาศไว้ นั่นก็คือคลื่นบนปริภูมิ-เวลา
  • 15:53 - 15:59
    อวกาศถูกหดและยืดออกไปจากหลุมดำสองหลุมที่โคจรรอบกันในจักรวาล
  • 16:03 - 16:07
    นั่นก็คือคลื่นแรงโน้มถ่วง
    และนี่ก็คือเสียงจริง ๆ ของอวกาศกำลังสั่นไหว
  • 16:08 - 16:16
    และคลื่นจากหลุมดำสองหลุมนี้จะเดินทางออกไปด้วยความเร็วแสง จนกระทั่งค่อย ๆ เบาลงและรวมตัวกันเป็นหนึ่ง หลุมดำที่หมุนอย่างเงียบ ๆ
  • 16:21 - 16:23
    ถ้าคุณเข้าไปยืนใกล้มากพอแล้วละก็
  • 16:23 - 16:27
    หูคุณคงจะดังก้องไปกับการยืดและหดตัวของอวกาศ
  • 16:27 - 16:30
    คุณจะได้ยินเสียงจริง ๆ
  • 16:39 - 16:43
    ลองนึกภาพหลุมดำที่มีมวลน้อย กำลังถูกดูดกลืน
    โดยหลุมดำที่มีมวลมาก
  • 16:43 - 16:49
    เสียงที่คุณได้ยินเป็นเสียงจากหลุมดำที่เบากว่า
    และส่งเสียงในอวกาศทุกครั้งที่มันเข้าใกล้ขึ้น
  • 16:58 - 17:01
    ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น ก็ยิ่งเร็วขึ้น และดังขึ้นเรื่อย ๆ
  • 17:23 - 17:26
    นักวิทยาศาสตร์เคยคิดว่า
    หลุมดำไม่มีวันตาย
  • 17:26 - 17:28
    แต่แม้สุดท้ายหลุมดำก็ต้องตาย
  • 17:29 - 17:36
    ตอนนี้เรากำลังพูดถึงสเกลเวลาที่มีความยาวจนไม่สามารถจินตนาการได้
    ราวล้านล้านล้านล้านปีในอนาคต
  • 17:36 - 17:40
    ในเวลานานขนาดนี้ แม้แต่หลุมดำก็ยังระเหยหายไป
  • 17:43 - 17:44
    [การแผ่รังสีฮอว์กิง]
  • 17:52 - 17:57
    ตามทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัมแล้ว
    อวกาศนั้นเต็มไปด้วยอนุภาคเสมือน
  • 17:57 - 18:02
    ทั้งอนุภาคและปฏิอนุภาค เกิดขึ้นเป็นคู่อยู่เรื่อย ๆ
  • 18:02 - 18:08
    แยกจากกัน เข้าหากันอีก แล้วก็ทำลายล้างกัน
  • 18:13 - 18:16
    พอมีหลุมดำเข้ามาด้วย
  • 18:16 - 18:21
    หนึ่งในอนุภาคเสมือนคู่นี้อาจจะโดนหลุมดำดูดเข้าไป
  • 18:21 - 18:25
    ปล่อยให้อีกอนุภาคนึงไม่มีคู่ให้ทำลายล้างกัน
  • 18:27 - 18:33
    อนุภาคที่ถูกเข้าไปก็ถูกปล่อยออกมาเป็นรังสีจากหลุมดำ
  • 18:36 - 18:41
    และดังนั้น หลุมดำไม่ได้อยู่ตลอดไป
  • 18:41 - 18:43
    [การระเหยของหลุมดำ]
  • 18:43 - 18:51
    หลุมดำระเหยด้วยอัตราเร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งระเบิดออกอย่างรุนแรง
  • 18:51 - 18:52
    [หลุมดำเริ่มตาย]
  • 18:57 - 19:06
    ทฤษฎีควอนตัมอนญาตให้อนุภาคและรังสีหนีออกมาจากคุกขั้นสูงสุดนี้ได้ ก็คือหลุมดำ
  • 19:08 - 19:13
    หลุมดำเริ่มระเหยหายไป
    ลบล้างโครงสร้างขนาดใหญ่ของจักรวาล
  • 19:16 - 19:19
    ขณะที่หลุมดำตายลง ก็จุดแสงจ้าในความมืดจุดหนึ่ง หนึ่งต่อหนึ่ง
  • 20:01 - 20:09
    ขณะที่หลุมดำเริ่มตายลงอย่างช้า ๆ
    จักรวาลก็ขยายตัวต่อไป ด้วยแรงที่เรายังไม่สามารถเข้าใจได้
    [พลังงานมืดทำให้จักรวาลขยายตัว]
  • 20:13 - 20:17
    นี่คือขอบเขตความรู้ของมนุษย์
    ขอบเขตแห่งการสำรวจและการค้นพบ
  • 20:18 - 20:23
    นักปรัชญาและกวี เคยถามไว้ว่า
    "โลกจะจบลงด้วยไฟหรือน้ำแข็ง"
  • 20:23 - 20:26
    ในตอนนี้เราก็ให้คำตอบได้แล้ว
  • 20:28 - 20:34
    หลักฐานล่าสุดบ่งชี้ว่าจักรวาลนั้นไม่ได้ขยายตัวช้าลง แต่ขยายตัวเร็วขึ้นจนควบคุมไม่ได้
  • 20:35 - 20:41
    จักรวาลที่เราคิด จะตายลงด้วยความเยือกแข็ง ภายในเวลาหลายล้านล้านปีจากนี้
  • 20:45 - 20:48
    ความว่างเปล่าของอวกาศนั้นมีพลังงานอยู่
  • 20:48 - 20:51
    ในทุก ๆ ลูกบาศก์เซนติเมตรของอวกาศ จะมีหรือไม่ก็ตาม แต่จะมีสิ่งหนึ่งอยู่เสมอ
  • 20:51 - 20:54
    จะมีหรือไม่ ก็จะมีอนุภาค สสาร รังสี อะไรก็เถอะ
  • 20:54 - 20:58
    คือยังมีพลังงาน แม้ในอวกาศเองก็ตาม
  • 21:00 - 21:04
    และพลังงานนี้ ตามที่ไอน์สไตน์บอก
    สิ่งนี้ออกแรงผลักดันจักรวาลออกไป
  • 21:07 - 21:12
    แล้วสิ่งแปลก ๆ ที่กำลังเร่งจักรวาลอยู่คืออะไร?
    เราเรียกมันว่า "พลังงานมืด"
  • 21:15 - 21:18
    และพลังงานมืดครอบงำจักรวาลส่วนใหญ่
  • 21:18 - 21:23
    ราว 3/4 ส่วนของสสาร-พลังงานในจักรวาลนั้นประกอบไปด้วยพลังงานมืด
  • 21:23 - 21:25
    และเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร
  • 21:30 - 21:35
    ในขณะที่จักรวาลขยายตัว พลังงานมืด ไม่เหมือนสสารหรือรังสี ไม่หายไปไหนเลย
  • 21:37 - 21:41
    นี่ทำให้เกิดผลกระทบกับจักรวาลว่าจะเป็นยังไงในอนาคต
  • 21:43 - 21:46
    แล้ว อนาคตของจักรวาลคืออะไรล่ะ
  • 21:48 - 21:51
    ก็ถ้าพลังงานมืดยังคงครอบงำอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ
  • 21:52 - 21:54
    จักรวาลจะขยายตัวไปตลอดกาล
  • 22:00 - 22:06
    เร็วขึ้น เร็วขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้นตามกาลเวลา
    มันคือจักรวาลที่ขยายหนีออกไป
  • 22:08 - 22:16
    70% ของพลังงานของจักรวาลพักอยู่ในอวกาศที่ว่างเปล่า
    และเรา… ไม่เข้าใจ… ว่าทำไม…
  • 22:17 - 22:19
    แต่เราก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
  • 22:21 - 22:27
    ถ้าพลังงานยังคงอยู่แบบนั้น จักรวาลจะเยือกเย็น มืดมิด และว่างเปล่า
  • 22:30 - 22:32
    นั่นก็คืออนาคตที่มันอาจจะเป็น
  • 22:33 - 22:37
    เราไม่เข้าใจ เพราะเรายังไม่เข้าใจธรรมชาติของพลังงานมืด
  • 22:37 - 22:41
    จนวันหนึ่งเรารู้ เราก็คงจะไม่รู้อนาคต เราไม่เข้าใจแม้กระทั่งต้นกำเนิดของเราเอง
  • 22:42 - 22:45
    และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากรู้ และเรียนรู้เรื่องนี้
  • 22:48 - 22:54
    การค้นพบพลังงานมืด สามารถเปลี่ยนมุมมองในอนาคตของเราได้อย่างน่าทึ่ง
  • 22:56 - 23:03
    ถ้าพลังงานมืดอ่อนแรงลงตามเวลา
    จักรวาลจะยุบตัวภายใต้แรงโน้มถ่วง เรียกว่า "บิ๊กครันช์"
  • 23:05 - 23:10
    ถ้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
    จักรวาลจะแตกตัวออกจากกัน เรียกว่า "บิ๊กริป"
  • 23:10 - 23:13
    [ยุคของหลุมดำ]
  • 23:13 - 23:22
    นักฟิสิกส์เริ่มครุ่นคิดเอาแนวคิดที่ว่า จักรวาลนั้นยังมีอีกหลายจักรวาลนอกจากจักรวาลของเรา
    ซึ่งแต่ละจักรวาลมีกฎฟิสิกส์ที่ไม่เหมือนกัน
  • 23:26 - 23:34
    บางส่วนอาจจะเหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิต
    ที่เหลือจะยุบตัวลง หรือแยกออกจากกัน
  • 23:36 - 23:41
    นอกจากนี้ยังสามารถแปลกประหลาดไปได้อีกเกินจินตนาการของเรา
  • 23:47 - 23:52
    ปริศนาใหม่นี้อาจจะอยู่ที่ไหนสักที่
    รอการค้นพบต่อไป
  • 23:52 - 23:58
    การคาดเดาดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่
    ยิ่งว่าเย็น ยิ่งกว่าจักรวาลที่ว่างเปล่า
  • 24:03 - 24:08
    แต่แล้ว ก็แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องถามว่า
    "จุดจบสามารถนำไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ได้ไหม?"
  • 24:10 - 24:17
    ก็มีอยู่หลายไอเดีย ด้วยเหตุนั้น อะไรคือจุดจบของจักรวาล
    ในบางทีอาจจะสามารถทำให้เกิดจุดเริ่มต้นใหม่ขึ้นมาได้
  • 24:24 - 24:30
    การคาดเดานี้อาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะหลบหนีจากจักรวาลของเรา ก่อนที่เอนโทรปี จะลบทุกสิ่ง
  • 24:33 - 24:39
    เราสามารถสร้าง การจำลองจักรวาล ด้วยพลังงานที่มากพอ และสร้างจักรวาลเหมือน ๆ กันกับเรา
  • 24:43 - 24:47
    เราได้ศึกษากับตัวเลขคณิตศาสตร์ สูตรต่าง ๆ ตัวเลขนี้เหมือนจะบอกเราว่า
  • 24:47 - 24:53
    ถ้าคุณมีเครื่องเร่งอนุภาคที่สามารถสร้างพลังงานมหาศาลได้จุด ๆ หนึ่ง
  • 24:53 - 24:57
    บางทีคุณสามารถเปิดประตูไปสู่ "จักรวาลทารก" ได้
  • 25:03 - 25:10
    เผชิญหน้ากับความตายของทุกสิ่ง บางที สิ่งนี้เท่านั้นที่เราสามารถหนีออกไปได้
  • 25:12 - 25:17
    และนี่ก็ทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่น่าสนใจเช่นกัน จากการคาดเดาล้วน ๆ นั่นล่ะนะ
  • 25:17 - 25:21
    บางทีจักรวาลไหนก็ตามที่มีสิ่งชีวิตทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่
  • 25:21 - 25:26
    ได้สร้างจักรวาลทารกขึ้นมา สร้างเรือช่วยชีวิต และขยายไปยังจักรวาลเด็ก ๆ พวกนี้
  • 25:26 - 25:30
    [การระเหยของหลุมดำหลุมสุดท้าย]
  • 25:30 - 25:35
    ดังนั้นการวิวัฒนาการจึงเกิดขึ้นในหมู่
    เอกภพอื่น ๆ ในพหุภพนั้น
  • 25:35 - 25:37
    การเอาชีวิตรอดในที่ที่เหมาะสมจึงเกิดขึ้น
  • 25:39 - 25:44
    ดังนั้นพวกจักรวาลที่ไม่มีสิ่งชีวิตทรงภูมิปัญญาก็คือจักรวาลที่ไม่สมบูรณ์
    เป็นจักรวาลที่ไม่มีลูก
  • 25:44 - 25:48
    แต่จักรวาลเหล่านั้นที่มีอุณหภูมิที่พอเหมาะ มีดาวเหมือนกับเรา ๆ
  • 25:48 - 25:53
    อาจจะสร้างอาณาจักรที่สามารถเปิดจักรวาลทารกและพวกเขาอาจจะขยายตัวออกไป
  • 26:00 - 26:06
    ถ้าไม่มีทางหนีจากจักรวาลแล้ว เอนโทรปีจะคืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ
    ทำลายหลุมดำมวลยิ่งยวดหลุมสุดท้าย
  • 26:10 - 26:17
    หลังจากหลุมสุดท้ายได้ระเบิดและตายลง
    หลุมดำนี้จะส่องแสงออกไปยังจักรวาลเป็นครั้งสุดท้าย
  • 27:24 - 27:31
    หลังจากเวลาที่ผ่านไปนานจนไม่รู้ว่านานขนาดไหน แม้แต่หลุมดำยังระเหยออกไปจนหมด
  • 27:31 - 27:36
    สุดท้าย จักรวาลก็จะเหลือความว่างเปล่ากับทะเลที่เต็มไปด้วยโฟตอน
  • 27:36 - 27:43
    ค่อย ๆ เข้าสู่อุณหภูมิเดียวกัน ไปกับการขยายตัวของจักรวาล
    ที่กำลังเย็นตัวลงไปสู่ศูนย์องศาสมบูรณ์
  • 27:57 - 28:04
    ครั้งสุดท้ายที่เหลืออยู่ของดาวดวงสุดท้าย
    ในที่สุดก็สลายตัวไปจนไม่เหลืออะไร
  • 28:04 - 28:07
    และทุกสิ่งได้เข้าสู่อุณหภูมิเดียวกันแล้ว
  • 28:07 - 28:11
    เรื่องราวของจักรวาล . . . ก็ได้มาถึงจุดจบเสียที . . .
  • 28:12 - 28:15
    "เวลากลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย"
  • 28:15 - 28:21
    เป็นครั้งแรกที่ชีวิตของจักรวาลนั้น จะคงอยู่ไปตลอดกาล และไม่เปลี่ยนไปอีกแล้ว
  • 28:21 - 28:28
    ความไร้ระเบียบก็ได้สิ้นสุดลง
    เพราะจักรวาลไม่สามารถมีความไร้ระเบียบได้อีก
  • 28:29 - 28:30
    ไม่มีอะไรเกิดขึ้น . . .
  • 28:30 - 28:33
    และจะคงอยู่แบบนั้น . . .
  • 28:33 - 28:35
    . . . ตลอดไป . . .
  • 28:39 - 28:44
    สรรพสิ่งมีความน่าพิศวงของมัน แม้แต่ความมืดและความเงียบ
    และฉันเรียนรู้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ก็พึงพอใจในจุดนั้น
  • 28:44 - 28:46
    เฮเลน เคลเลอร์
  • 28:48 - 28:53
    สร้างขึ้นโดย เมโลดี้ชีฟ
  • 28:53 - 28:56
    สนับสนุนโดย
    โปรโตคอล แล็ป
  • 29:18 - 29:21
    คำบรรยายโดย
    Lovkiy, Sharpnel Sharonel และอีกหลายคนบน Youtube ซึ่งไม่ได้เอ่ยชื่อ
Title:
TIMELAPSE OF THE FUTURE: A Journey to the End of Time (4K)
Description:

more » « less
Video Language:
English
Duration:
29:21

Thai subtitles

Revisions Compare revisions