เซลฟี่ด้วยการดมกลิ่น (Smelfies) และการทดลองอื่น ๆ ทางด้านชีววิทยาสังเคราะห์
-
0:01 - 0:03จะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชต่าง ๆ ของเรา
-
0:03 - 0:05สามารถรับรู้ระดับสารพิษในดิน
-
0:05 - 0:09แล้วแสดงระดับสารพิษผ่านทางสีใบของมันได้
-
0:10 - 0:13จะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชเหล่านี้สามารถ
ลดสารพิษพวกนั้นที่อยู่ในดินได้ด้วย -
0:15 - 0:17แล้วจะเป็นยังไงล่ะถ้าพืชเหล่านั้น
-
0:17 - 0:19สามารถงอกบรรจุภัณฑ์ของตัวเองได้
-
0:19 - 0:21หรือถูกออกแบบให้เก็บเกี่ยวได้
-
0:21 - 0:23ด้วยเครื่องจักรที่เจ้าของเครื่อง
จดสิทธิบัตรไว้เท่านั้นล่ะ -
0:23 - 0:25จะเป็นยังไงล่ะถ้าการออกแบบทางชีววิทยา
-
0:25 - 0:29ถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการ
สินค้าที่ผลิตออกมาครั้งละมาก ๆ -
0:29 - 0:31โลกแบบนั้นจะเป็นยังไงนะ
-
0:31 - 0:35ฉันชื่อ แอนนี่ ฉันเป็นนักออกแบบ
และนักวิจัยที่ MIT Media Lab -
0:35 - 0:39ที่ที่ฉันเองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Design Fiction
ที่ค่อนข้างใหม่และมีเอกลักษณ์ -
0:39 - 0:44ที่ที่พวกเราอยู่ ณ จุดกึ่งกลางระหว่างนิยาย
วิทยาศาสตร์กับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ -
0:44 - 0:48และที่ MIT ฉันก็โชคดีที่ได้พบปะ
และใช้เวลาร่วมกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ -
0:48 - 0:50และได้ศึกษาศาสตร์ล้ำสมัยในทุก ๆ แขนง
-
0:50 - 0:52อย่างเช่น ประสาทชีววิทยาสังเคราะห์
-
0:52 - 0:54ปัญญาประดิษฐ์ ชีวิตประดิษฐ์
-
0:54 - 0:56และทุก ๆ เรื่องในนั้นที่เกี่ยวข้อง
-
0:56 - 1:00และตลอดทั่วทั้งรั้วมหาวิทยาลัยนั้น
ก็มีนักวิทยาศาสตร์ฉลาดล้ำมากมาย -
1:00 - 1:03ที่คอยตั้งคำถามทำนองว่า
"ฉันจะทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้อย่างไร" -
1:03 - 1:06และหนึ่งในคำถามที่กลุ่มของฉัน
ชอบถามก็คือ "อะไรดีกว่ากัน" -
1:06 - 1:08อะไรดีกว่าสำหรับฉัน สำหรับคุณ
-
1:08 - 1:10สำหรับผู้หญิงผิวขาว
สำหรับผู้ชายที่เป็นเกย์ -
1:10 - 1:13สำหรับทหารผ่านศึก
สำหรับเด็กพิการที่ใช้อวัยวะเทียม -
1:13 - 1:15เทคโนโลยีนั้นไม่เคยเป็นกลาง
-
1:15 - 1:17มันร่างความเป็นจริงขึ้นมา
-
1:17 - 1:19และสะท้อนบริบทนั้น ๆ
-
1:19 - 1:22คุณพอจะนึกภาพออกไหมว่ามันจะเป็นยังไง
กับสมดุลชีวิตการทำงานที่ออฟฟิศของคุณ -
1:22 - 1:24ถ้าสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็น
ปัญหาปกติในวันแรก -
1:25 - 1:26(เสียงหัวเราะ)
-
1:26 - 1:28ฉันเชื่อว่ามันเป็นหน้าที่ของ
ศิลปินและนักออกแบบ -
1:28 - 1:30ที่จะต้องคอยถามคำถามสำคัญ ๆ
-
1:30 - 1:33ศิลปะคือการมองเห็นและการรู้สึกถึงอนาคต
-
1:33 - 1:35และตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลา
อันน่าตื่นเต้นที่จะเป็นนักออกแบบ -
1:35 - 1:37เพราะอุปกรณ์ใหม่ ๆ มากมาย
เริ่มเพียบพร้อมมากขึ้น -
1:37 - 1:39ยกตัวอย่างเช่น ชีววิทยาสังเคราะห์
-
1:39 - 1:42พยายามหาทางทำให้ชีววิทยา
เป็นปัญหาทางการออกแบบอย่างหนึ่ง -
1:42 - 1:44และในช่วงของการพัฒนาต่าง ๆ เหล่านี้
-
1:44 - 1:46ที่ห้องทดลองก็มีคำถามว่า
อะไรคือหน้าที่และความรับผิดชอบ -
1:47 - 1:51ของศิลปิน นักออกแบบ
นักวิทยาศาสตร์ หรือนักธุรกิจล่ะ -
1:51 - 1:52อะไรคือผลกระทบที่ตามมา
-
1:52 - 1:55ของชีววิทยาสังเคราะห์ การดัดแปลงพันธุกรรม
-
1:55 - 2:00และผลกระทบเหล่านั้นจะเปลี่ยนมุมมอง
ของเราต่อความเป็นมนุษย์ได้อย่างไร -
2:00 - 2:03อะไรคือผลกระทบของมัน
ต่อสังคม ต่อวิวัฒนาการ -
2:03 - 2:06และอะไรคือสิ่งที่ต้องเดิมพันในเกม ๆ นี้
-
2:06 - 2:09งานวิจัยด้านการออกแบบเพื่ออนาคต
ที่ฉันทำอยู่ในขณะนี้ -
2:09 - 2:10เล่นกับชีววิทยาสังเคราะห์
-
2:10 - 2:13แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ผลักดัน
ออกมาด้วยอารมณ์ที่มากขึ้น -
2:13 - 2:16ฉันจึงหมกมุ่นกับเรื่องการรับกลิ่น
ในฐานะของพื้นที่ในการออกแบบ -
2:16 - 2:19และงานวิจัยนี้ก็เกิดขึ้นมาจากแนวคิดที่ว่า
-
2:19 - 2:23มันจะเป็นยังไงนะถ้าเราสามารถ
ถ่ายเซลฟีกลิ่นได้ แบบสเมลฟี่น่ะ (smelfie) -
2:23 - 2:24(เสียงหัวเราะ)
-
2:24 - 2:27มันจะเป็นยังไงนะถ้าเราสามารถ
เก็บกลิ่นตัวตามธรรมชาติของเรา -
2:27 - 2:29แล้วส่งไปให้คนที่เรารักได้
-
2:29 - 2:33แปลกแต่จริง ฉันไปเจอมาว่านี่เป็นธรรมเนียม
อย่างหนึ่งของออสเตรียในช่วงศตวรรษที่ 19 -
2:33 - 2:36ซึ่งคู่รักที่ดูใจกันอยู่นั้นจะ
หนีบแอปเปิ้ลชิ้นหนึ่ง -
2:36 - 2:38ไว้ข้างใต้รักแร้ของพวกเขาในขณะเต้นรำ
-
2:38 - 2:40และในตอนจบของงานนั้น
-
2:40 - 2:43ฝ่ายหญิงจะให้แอปเปิ้ลที่หนีบไว้
กับผู้ชายคนที่เธอชอบมากที่สุด -
2:43 - 2:45และถ้าเขารู้สึกแบบเดียวกับเธอ
-
2:45 - 2:47เขาก็จะยัดแอปเปิ้ลเหม็น ๆ นั้นเข้าปากไป
-
2:47 - 2:51(เสียงหัวเราะ)
-
2:52 - 2:55เป็นที่รู้กันว่า นโปเลียนนั้นเขียน
จดหมายรักมากมายไปหาโฌเซฟีน -
2:55 - 2:59แต่ว่าบางทีหนึ่งในจดหมายที่เป็นที่จดจำมาก
ที่สุดอาจเป็นข้อความสั้น ๆ สุดเร่งเร้านี้: -
2:59 - 3:01"จะถึงบ้านในสามวัน ไม่ต้องอาบน้ำนะ"
-
3:02 - 3:04(เสียงหัวเราะ)
-
3:04 - 3:06ทั้งนโปเลียนและโฌเซฟีน
ต่างโปรดปรานดอกไวโอเล็ต -
3:07 - 3:09โฌเซฟีนฉีดน้ำหอมกลิ่นไวโอเล็ต
-
3:09 - 3:11ถือดอกไวโอเล็ตในวันแต่งงานของเธอกับเขา
-
3:11 - 3:13และนโปเลียนเองก็ส่ง
ช่อดอกไวโอเล็ตไปให้เธอ -
3:13 - 3:15ทุก ๆ ปีในวันครบรอบวันแต่งงาน
-
3:15 - 3:16เมื่อโฌเซฟีนเสียชีวิตลง
-
3:17 - 3:18เขาได้ปลูกต้นไวโอเล็ตไว้ที่หลุมศพเธอ
-
3:18 - 3:20และก่อนที่เขาจะถูกเนรเทศ
-
3:20 - 3:22เขาได้กลับไปที่หลุมศพนั้น
-
3:22 - 3:25เด็ดดอกไม้บางดอก แล้วเก็บมันไว้
ในสร้อยล็อคเก็ตอันหนึ่ง -
3:25 - 3:27และใส่มันจนวาระสุดท้ายของเขา
-
3:27 - 3:28ฉันพบว่ามันสะเทือนอารมณ์มากทีเดียว
-
3:28 - 3:32ฉันสงสัยว่า ฉันจะดัดแปลงดอกไวโอเล็ต
ให้มีกลิ่นเหมือนกับโฌเซฟีนได้หรือไม่ -
3:32 - 3:34มันจะเป็นยังไง ถ้าไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม
-
3:34 - 3:35ที่คุณไปเยี่ยมหลุมศพเธอ
-
3:35 - 3:39คุณจะได้กลิ่นของโฌเซฟีนในแบบเดียว
กับตอนที่นโปเลียนหลงรักเธอ -
3:39 - 3:41เราจะสามารถออกแบบวิธีไว้ทุกข์แบบใหม่
-
3:41 - 3:43รวมถึงพิธีรำลึกแบบใหม่ได้รึเปล่า
-
3:43 - 3:46ยังไงซะ เราก็ตัดต่อพันธุกรรม
ของพืชผลต่าง ๆ -
3:46 - 3:48เพื่อให้ทำกำไรได้สูงสุดอยู่แล้วนี่
-
3:48 - 3:50ไม่ว่าจะพืชผลที่ทนต่อการขนส่ง
-
3:50 - 3:52พืชผลที่เก็บได้นาน ๆ
-
3:52 - 3:55พืชผลที่มีรสหวานแต่ไล่แมลง
-
3:55 - 3:58ที่ในบางครั้งก็ต้องแลกมาด้วย
คุณค่าทางโภชนาการที่ลดลง -
3:58 - 4:03เราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเดียวกันนี้
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางอารมณ์ได้หรือเปล่า -
4:03 - 4:04ฉะนั้น ที่ห้องแล็บของฉันในตอนนี้
-
4:04 - 4:07ฉันจึงทำวิจัยอยู่ว่าอะไรทำให้
มนุษย์มีกลิ่นเฉพาะในแบบของมนุษย์ -
4:07 - 4:10และปรากฏว่ามันค่อนข้างซับซ้อนเลยทีเดียว
-
4:10 - 4:13ปัจจัยต่าง ๆ อย่างเช่น อาหารที่กิน
ยาต่าง ๆ รูปแบบการใช้ชีวิต -
4:13 - 4:15ล้วนส่งผลต่อกลิ่นตัวของคุณ
-
4:15 - 4:18และฉันก็พบว่าจริง ๆ แล้ว
เหงื่อส่วนใหญ่นั้นไร้กลิ่น -
4:18 - 4:20แต่เป็นเพราะแบคทีเรียและจุลินทรีย์ต่างหาก
-
4:20 - 4:24ที่ส่งผลต่อกลิ่นตัวของคุณ
อารมณ์ของคุณ อัตลักษณ์ของคุณ -
4:24 - 4:25และอื่น ๆ อีกมากมาย
-
4:25 - 4:28และยังมีโมเลกุลอีกมากมาย
ในทุกรูปแบบที่คุณปล่อยออกมา -
4:28 - 4:30แต่ทว่าเราสามารถรับรู้ได้
ผ่านทางจิตใต้สำนึกเท่านั้น -
4:31 - 4:33ดังนั้นฉันจึงจำแนกและเก็บสะสม
-
4:33 - 4:36แบคทีเรียจากบริเวณต่าง ๆ
บนร่างกายของฉัน -
4:36 - 4:38หลังจากได้พูดคุยกับ
นักวิทย์คนหนึ่ง เราก็คิดว่า -
4:38 - 4:39บางทีส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของตัวฉัน
-
4:39 - 4:43คือ กระดูกไหปลาร้า 10%
ใต้วงแขน 30% -
4:43 - 4:46จุดซ่อนเร้นอีก 40% และอื่น ๆ
-
4:46 - 4:49และในบางครั้ง ฉันก็ให้นักวิจัย
จากห้องแล็บอื่น ๆ -
4:49 - 4:50ดมตัวอย่างกลิ่นของตัวฉัน
-
4:50 - 4:54และมันก็เป็นเรื่องน่าสนใจที่
ได้รู้ว่ากลิ่นของตัวเองเป็นอย่างไร -
4:54 - 4:56เมื่อสูดดมภายนอกร่างกายของฉัน
-
4:57 - 4:58ฉันได้รับคำตอบมากมาย อย่างเช่น
-
4:58 - 5:01กลิ่นเหมือนดอกไม้ เหมือนไก่
-
5:01 - 5:02เหมือนคอร์นเฟลก
-
5:02 - 5:03หรือเหมือนเนื้อย่างรมควัน
-
5:03 - 5:05(เสียงหัวเราะ)
-
5:05 - 5:09ในขณะเดียวกัน ฉันก็ได้
ปลูกพืชกินแมลงกลุ่มหนึ่ง -
5:09 - 5:13เพื่อดูความสามารถในการปล่อยกลิ่น
คล้ายเนื้อหนังเพื่อล่อเหยื่อ -
5:13 - 5:15เพื่อพยายาม แบบว่าสร้าง
ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน -
5:15 - 5:18ระหว่างแบคทีเรียบนตัวของฉัน
กับพืชกินแมลงชนิดนี้ -
5:20 - 5:22แล้วก็มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้น
ฉันอยู่ในบาร์แห่งหนึ่งใน MIT -
5:22 - 5:24และฉันก็กำลังคุยกับนักวิทยาศาสตร์
-
5:25 - 5:27ที่บังเอิญเป็นทั้งนักเคมี
และนักพฤษศาสตร์ -
5:27 - 5:29และฉันก็เล่าเรื่องงานวิจัย
ของฉันให้เขาฟัง -
5:29 - 5:32แล้วเขาก็ตอบแบบว่า "อืม นี่มันดูเหมือน
พฤกษศาสตร์สำหรับผู้หญิงขี้เหงาเลยนะ" -
5:32 - 5:35(เสียงหัวเราะ)
-
5:35 - 5:38ฉันตอบอย่างไม่รีรอว่า "โอเค"
-
5:38 - 5:39ฉันท้าเขาว่า
-
5:39 - 5:42"เราสามารถสร้างต้นพืชที่รักฉันตอบได้ไหม"
-
5:43 - 5:46และเพราะอะไรสักอย่าง
เขาก็ตอบว่า "ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ" -
5:46 - 5:49ดังนั้น เราจึงเริ่มด้วยคำถามที่ว่า
เราสามารถสร้างพืชที่เบนเข้าหาตัวฉัน -
5:49 - 5:50ราวกับว่าฉันเป็นดวงอาทิตย์ได้ไหม
-
5:50 - 5:54ฉะนั้น เราจึงศึกษากลไกของพืช
อย่างเช่น การเบนตามแสง (phototropism) -
5:54 - 5:57ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้พืช
เบนเข้าหาดวงอาทิตย์ -
5:57 - 5:59ด้วยการสร้างฮอร์โมนพวกออกซิน
-
5:59 - 6:01ที่ทำให้เซลล์ยืดตัวตามยาว
ในด้านที่มีร่มเงา -
6:01 - 6:03และในตอนนี้ฉันก็กำลัง
สร้างลิปสติกชุดหนึ่ง -
6:03 - 6:05ที่ถูกนำไปแช่ไว้ในสารเคมีจำพวกหนึ่ง
-
6:05 - 6:09ที่ทำให้ฉันสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับต้นพืชได้
ด้วยคุณสมบัติเฉพาะทางเคมีของมัน -
6:09 - 6:12ลิปสติกที่ทำให้ต้นพืช
โตขึ้นในที่ ๆ ฉันจูบ -
6:12 - 6:15และทำให้ดอกไม้เบ่งบานขึ้น
เมื่อฉันจูบไปที่ดอกตูม -
6:15 - 6:18และในระหว่างที่ทำการวิจัยเหล่านี้อยู่
-
6:18 - 6:19ฉันก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า
-
6:19 - 6:21เราจะนิยามธรรมชาติอย่างไร
-
6:21 - 6:25เราจะนิยามอย่างไรในเมื่อเราสามารถ
ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของมันได้ -
6:25 - 6:26และเราควรทำแบบนั้นเมื่อไร
-
6:26 - 6:30เราควรใช้มันเพื่อทำกำไร
หรือเพื่อประโยชน์ใช้สอย -
6:30 - 6:32เราสามารถใช้มันเพื่อ
ผลลัพธ์ทางอารมณ์ได้ไหม -
6:32 - 6:35เราสามารถใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อสร้างผลงาน
ที่เร้าอารมณ์ได้แบบดนตรีหรือไม่ -
6:35 - 6:37อะไรคือจุดต่อระหว่างวิทยาศาสตร์
-
6:37 - 6:40และความสามารถของมัน
ในการเล่นกับความรู้สึกของเรา -
6:41 - 6:44มันคือวาทกรรมทางการออกแบบอันโด่งดัง
ที่กล่าวว่า "การใช้งานนั้นมาก่อนรูปแบบ" -
6:44 - 6:48ที่ในตอนนี้อยู่ ณ จุดกึ่งกลางระหว่าง
ศาสตร์ การออกแบบ และศิลป์ -
6:49 - 6:50ฉันจึงได้มีโอกาสถามว่า
-
6:50 - 6:51หรือว่าเรื่องเล่าบ่งบอกข้อเท็จจริงล่ะ
-
6:51 - 6:53ห้องแล็บวิจัยและพัฒนาแบบนั้น
จะมีหน้าตาแบบไหนกัน -
6:53 - 6:56แล้วเราจะถามคำถาม
แบบไหนไปด้วยกัน -
6:56 - 6:58เรามักมองว่าเทคโนโลยีคือคำตอบ
-
6:58 - 7:00แต่ในฐานะที่เป็นศิลปินและนักออกแบบ
-
7:00 - 7:02ฉันอยากจะถามว่า "แล้วคำถามนั้นคืออะไรล่ะ"
-
7:02 - 7:04ขอบคุณค่ะ
-
7:04 - 7:07(เสียงปรบมือ)
- Title:
- เซลฟี่ด้วยการดมกลิ่น (Smelfies) และการทดลองอื่น ๆ ทางด้านชีววิทยาสังเคราะห์
- Speaker:
- แอนนี่ เลียว (Ani Liu)
- Description:
-
อะไรจะเกิดขึ้นหากคุณสามารถถ่ายเซลฟีกลิ่นได้ หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าสเมลฟีล่ะ (smelfie) แล้วถ้าคุณมีลิปสติกที่ทำให้พืชโตขึ้นในที่ ๆ คุณจูบ มันจะเป็นอย่างไรกันแน่ แอนนี่ เลียว ได้เข้าไปสำรวจจุดที่เทคโนโลยีและประสาทรับรู้มาบรรจบกัน และงานของเธอนั้นก็อยู่ ณ จุดกึ่งกลางระหว่าง วิทยาศาสตร์ การออกแบบ และ ศิลปะ ในการบรรยายที่กระชับและชาญฉลาดนี้ เธอได้แบ่งปันความฝัน ความฉงนสงสัยและการทดลองต่าง ๆ ของเธอ พร้อมกับคำถามว่า อะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากจริง ๆ แล้วนวนิยายวิทยาศาสตรืนั้นกลับกลายเป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมา
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 07:20
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Smelfies, and other experiments in synthetic biology | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Smelfies, and other experiments in synthetic biology | ||
Purich Worawarachai accepted Thai subtitles for Smelfies, and other experiments in synthetic biology | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for Smelfies, and other experiments in synthetic biology | ||
Phiratath Nopratanawong edited Thai subtitles for Smelfies, and other experiments in synthetic biology | ||
Purich Worawarachai declined Thai subtitles for Smelfies, and other experiments in synthetic biology | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for Smelfies, and other experiments in synthetic biology | ||
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for Smelfies, and other experiments in synthetic biology |