วิธีหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงยีนส์ของเราได้ก็คือ สร้างขึ้นมาใหม่ครับ อย่างที่ เคร็ก เวนเทอร์ (Craig Venter) ได้นำเสนอไว้อย่างอลังการ อีกวิธีหนึ่งก็คือ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตครับ แล้วเราก็จะได้รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองในรูปแบบนี้มีอานุภาพและมีพลวัตอย่างไรบ้าง ว่าเราไม่ต้องรอนานที่จะรู้สึกถึงคุณประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น เมื่อเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จัดการกับความเครียด ออกกำลังกาย และมีความรักความเมตตามากยิ่งขึ้น ก็จะมีเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ทำให้มีอ๊อกซิเจนในสมองมากขึ้น ยิ่งกว่านั้นก็คือ วัดออกมาได้เลยว่าสมองของเรามีขนาดใหญ่ขึ้น อะไรที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้เมื่อแค่สักสองสามปีก่อน ตอนนี้ สามารถตรวจวัดหาค่าได้แล้วครับ เป็นการค้นพบของโรบิน วิลเลียมส์ (Robin Williams) สองสามปีก่อนหน้าพวกเราเสียอีก เอาหละครับ มีอะไรบางอย่างที่เราทำได้ ก็คือทำให้สมองของเราสร้างเซลล์สมองใหม่ขึ้นมา นี่เป็นอะไรที่ผมชอบเป็นพิเศษบางส่วน ก็อย่างเช่น ช็อกโกแลต กับ ชา แล้วก็บลูเบอร์รี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณพอเหมาะ การจัดการกับความเครียด และสารแคนนาบินอยด์ส์ (cannabinoids) ที่พบได้ในกัญชา ผมเป็นแค่ผู้ส่งสาส์นนะครับ (เสียงหัวเราะ) เอ๊ะ เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่นะครับ (เสียงหัวเราะ) แต่ก็มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้สมองเราแย่ลง ที่จะทำให้เราสูญเสียเซลล์สมองไป ที่คาดไว้ไม่ผิดเลยก็อย่างเช่น ไขมันอิ่มตัว น้ำตาล นิโคติน ยาที่มีส่วนผสมของฝิ่น โคเคน แอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป และความเครียดเรื้อรังครับ ผิวหนังของเราจะมีเลือดสูบฉีดไหลเวียนเพิ่มขึ้นเมื่อเราเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต เราจะแก่ช้าลง ผิวหนังของเราจะไม่เหี่ยวย่นเท่าไหร่นัก หัวใจของเราจะมีเลือดสูบฉีดมากขึ้น กลุ่มวิจัยของผมพบว่าคนเราสามารถกลับพลิกผันทำให้โรคหัวใจดีขึ้นได้ หลอดเลือดแดงที่อุดตันพวกนี้ที่คุณเห็นตรงฝั่งซ้ายบนนี่นะครับ พอผ่านไปแค่ปีเดียว วัดออกมาได้เลยครับว่าอุดตันน้อยลง ภาพถ่ายจากการฉายรังสี (cardiac PET scan) อยู่ตรงด้านล่างซ้ายนี่ครับ สีน้ำเงินหมายถึงไม่มีเลือดไหลเวียน หนึ่งปีผ่านไป -- สีส้มกับสีข้าวบ่งบอกถึงว่ามีเลือดไหลเวียนเต็มที่ครับ พวกผมค้นพบด้วยว่าเราอาจจะหยุดยั้งและพลิกกลับการเจริญเติบโต ของมะเร็งต่อมลูกหมากระยะเริ่มแรก และ ในกรณีคล้ายกัน มะเร็งเต้านม ด้วย ง่ายๆ โดยการเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบนี้ไงครับ พวกผมค้นพบว่า การพัฒนาของเนื้องอกที่ทดลองในสภาวะจำลองจะถูกยับยั้ง ถึงร้อยละ 70 ในกลุ่มคนที่เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างที่กล่าวไป ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 9 ในกลุ่มเปรียบเทียบครับ ความแตกต่างมีอยู่สูงอย่างมีนัยยะครับ แม้กระทั่งอวัยวะทางเพศก็ยังมีเลือดสูบฉีดหมุนเวียนมากขึ้นเลยครับ ซึ่งจะช่วยให้เรามีสมรรถภาพทางเพศสูงขึ้น มีโฆษณารณรงค์ให้เลิกบุหรี่ชิ้นหนึ่งครับ ของกระทรวงสาธารณสุข (U.S.Department of Health Services) ชี้ว่า นิโคติน ซึ่งทำให้หลอดเลือดหดตัว ทำให้เกิดอาการหัวใจวาย หรือ อาการชัก ได้ แล้วก็ทำให้เป็นหมันได้เช่นกัน ผู้ชายที่สูบบุหรี่ครึ่งหนึ่งจะเป็นหมันนะครับ เป็นไงเซ็กซี่ไหมล่ะครับ? ขณะนี้ พวกผมก็กำลังจะตีพิมพ์การศึกษาชิ้นหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า เราสามารถเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีนส์ในผู้ชายที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก อันนี้เรียกว่า แผนที่ความร้อน (heat map) นะครับ มีเฉดสีต่างๆ กัน และแถบทางด้านขวามือนี่เป็นยีนส์แบบต่างๆ พวกผมพบว่ามียีนส์กว่า 500 ชนิดที่เปลี่ยนแปลงไปในทางอำนวยประโยชน์ ส่งผลให้ยีนส์ดีทำงาน ก็คือ ยีนส์ที่ป้องกันโรค น่ะครับ และยุติการทำงานของยีนส์ที่เสริมสร้างให้เป็นโรค การค้นพบข้อนี้ ผมคิดว่าเป็นอะไรที่มีอานุภาพมากนะครับ เป็นการให้ความหวังแบบใหม่ ทางเลือกแบบใหม่ กับคนมากมาย บริษัทอย่างเช่น เนวิยีนีกซ์ (Navigenix) ดีเอ็นเอไดเร็กท์ (DNA Direct) และ ทะเว็นตี้ทรีแอนด์มี (23andMe) ซึ่งให้บริการจัดทำโครงร่างยีนส์ของเรา (genetic profile) เป็นการทำให้ผู้คนรู้สึกไปในทำนองว่า "เฮ้ย แล้วอย่างนี้ เราจะทำอะไรได้บ้างหล่ะเนี่ย" อืม...โชคชะตาไม่ได้ลิขิตยีนส์ของเราครับ และถ้าเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ยีนส์มีธรรมชาติที่จะโน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง แต่เราสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากกว่านั้น มากกว่าที่เราอาจจะทำเสียด้วยซ้ำครับ เราทำได้จริงครับว่าจะทำให้ยีนส์ของเราแสดงออกแบบไหน ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)