WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:04.000 ผมย้ายจากรัฐชิคาโกมาอยู่ที่เมืองบอสตันเมื่อสิบปีที่แล้ว 00:00:04.000 --> 00:00:07.000 เพราะผมสนใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งและวิชาเคมี 00:00:07.000 --> 00:00:10.000 คุณคงพอจะรู้ว่าวิชาเคมีเป็นวิทยาศาสตร์ที่ทำงานเกี่ยวกับการสร้างโมเลกุล 00:00:10.000 --> 00:00:14.000 ซึ่งสำหรับตัวผมแล้ว มันคือการสร้างยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ 00:00:14.000 --> 00:00:17.000 และคุณก็คงพอจะรู้ว่า สำหรับวิชาวิทยาศาสตร์และวิชาแพทย์แล้ว 00:00:17.000 --> 00:00:20.000 เมืองบอสตันมันเทียบได้กับเด็กได้เข้าอยู่ไปในร้านขนมหวาน 00:00:20.000 --> 00:00:23.000 ถ้าคุณขับผ่านป้ายหยุดรถโดยไม่จอดให้สนิทในเมืองเคมบริดจ์ 00:00:23.000 --> 00:00:25.000 คุณคงไม่พลาดที่จะขับไปชนนักศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก 00:00:25.000 --> 00:00:27.000 ขนาดบาร์ที่เมืองนี้ยังชื่อ ความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์ 00:00:27.000 --> 00:00:31.000 ป้ายโฆษณาในเมืองนี้โฆษณาว่า "มีห้องว่างสำหรับทำงานวิจัยให้เช่า" NOTE Paragraph 00:00:31.000 --> 00:00:33.000 และมันคงจะไม่เกินไปถ้าจะพูดว่า ในช่วงสิบก่วาที่ผ่านมานี้ 00:00:33.000 --> 00:00:36.000 เราได้เห็นจุดเริ่มต้นของ 00:00:36.000 --> 00:00:39.000 การปฏิวิตทางวิทยาศาสตร์ นั่นคือ การแพทย์ที่เกี่ยวกับพันธุกรรม 00:00:39.000 --> 00:00:41.000 เรารู้และเข้าใจโรคของผู้ป่วยที่มารักษา 00:00:41.000 --> 00:00:43.000 มากกว่าที่เคย 00:00:43.000 --> 00:00:45.000 และในที่สุด เราก็สามารถที่จะตอบคำถาม 00:00:45.000 --> 00:00:48.000 ที่เราเพียรพยายามจะหาคำตอบมาเป็นเวลาหลายๆปี 00:00:48.000 --> 00:00:51.000 ว่าทำไมคนเราถึงเป็นมะเร็งกัน? 00:00:51.000 --> 00:00:53.000 ความรู้ใหม่ๆเหล่านี้ค่อนข้างน่าทึ่งมากๆ 00:00:53.000 --> 00:00:55.000 คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า 00:00:55.000 --> 00:00:57.000 ความรู้ที่เราพบในช่วงต้นๆของการปฏิวัติทางพันธุกรรมนี้ 00:00:57.000 --> 00:01:00.000 เรารู้ว่ามีการกลายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปประมาณ 40,000 แบบ 00:01:00.000 --> 00:01:03.000 ซึ่งการกลายพันธุ์นี้ เกิดขึ้นกับยีนที่ต่างกันไปมากกว่า 10,000 ยีน 00:01:03.000 --> 00:01:05.000 และในยีนเหล่านี้ มีทั้งหมดประมาณ 500 ยีน 00:01:05.000 --> 00:01:07.000 ที่เป็นตัวขับเคลื่อน 00:01:07.000 --> 00:01:09.000 กลไลของการเกิดมะเร็งอย่างแท้จริง NOTE Paragraph 00:01:09.000 --> 00:01:11.000 ในขณะเดียวกันนั้น 00:01:11.000 --> 00:01:14.000 เรามียาที่ออกฤทธิ์เจาะจงไปที่ยีนเหล่านี้อยู่แค่ไม่กี่สิบตัว 00:01:14.000 --> 00:01:17.000 และชนิดของยาที่มีน้อยไม่เพียงพอของยามะเร็งเหล่านี้ 00:01:17.000 --> 00:01:19.000 ผมรู้สึกได้อย่างจริงจัง เมื่อพ่อผมได้รับการวินัจฉัยว่า 00:01:19.000 --> 00:01:22.000 เป็นมะเร็งตับอ่อน 00:01:22.000 --> 00:01:24.000 เราไม่ได้พาเขาไปรักษาที่เมืองบอสตัน 00:01:24.000 --> 00:01:26.000 เราไม่ได้ศึกษาพันธุกรรมของพ่อ 00:01:26.000 --> 00:01:28.000 มันเป็นที่รู้กันมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว 00:01:28.000 --> 00:01:30.000 ว่าอะไรคือสาเหตุของมะเร็งชนิดนี้ 00:01:30.000 --> 00:01:32.000 มันคือโปรตีนสามตัวด้วยกัน 00:01:32.000 --> 00:01:35.000 แรส มิกและ พี53 00:01:35.000 --> 00:01:38.000 ข้อมูลเก่าเหล่านี้เรารู้กันมาตั้งแต่สมัยทศวรรษที่ 80 00:01:38.000 --> 00:01:40.000 แต่เราก็ยังไม่มียา 00:01:40.000 --> 00:01:42.000 สำหรับคนไข้มะเร็งตับอ่อนนี้ 00:01:42.000 --> 00:01:44.000 หรือมะเร็งชนิดอื่นๆ 00:01:44.000 --> 00:01:46.000 ที่เกิดจากปีศาจแห่งความหายนะทั้งสาม 00:01:46.000 --> 00:01:49.000 ที่นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็ง 00:01:49.000 --> 00:01:52.000 เราไม่มียาที่จำเพาะต่อ แรส มิก และพี53 NOTE Paragraph 00:01:52.000 --> 00:01:54.000 และคงไม่ผิดถ้าคุณจะสงสัยว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? 00:01:54.000 --> 00:01:57.000 และคำตอบที่ไม่ค่อยน่าพอใจ แต่ตั้งอยู่บนวิทยาศาสตร์จริงๆคือ 00:01:57.000 --> 00:01:59.000 มันยากเกินไป 00:01:59.000 --> 00:02:01.000 มันจะเป็นด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม 00:02:01.000 --> 00:02:04.000 โปรตีนสามตัวนี้ ถูกจัดเข้าไปในกลุ่มซึ่งถ้าเป็นภาษาของพวกเราจะเรียกมันว่า 00:02:04.000 --> 00:02:06.000 พันธุกรรมส่วนที่ไม่สามารถสร้างยามารักษาได้ 00:02:06.000 --> 00:02:08.000 ซึ่งก็คงไม่ต่างกับการบอกว่าคอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถจะทำให้เข้าอินเตอร์เนตได้ 00:02:08.000 --> 00:02:10.000 หรือพระจันทร์ที่ไปถึงไม่ได้ 00:02:10.000 --> 00:02:12.000 มันเป็นภาษาที่แย่ในวงการของพวกเรา 00:02:12.000 --> 00:02:14.000 แต่ความหมายที่แท้จริงของมันคือ 00:02:14.000 --> 00:02:16.000 เราล้มเหลวที่จะหาตำแหน่งบนโปรตีนเหล่านี้ 00:02:16.000 --> 00:02:19.000 ก็คงเหมือนกับช่างทำกุญแจ 00:02:19.000 --> 00:02:22.000 คือเราไม่สามารถสร้างโมเลกุลที่จะไปจับได้พอดีกับโปรตีน เหมือนกุญแจเข้าได้พอดีกับแม่กุญแจ 00:02:22.000 --> 00:02:24.000 รวมไปถึงเราไม่พบยาที่ทำได้ NOTE Paragraph 00:02:24.000 --> 00:02:26.000 ผมเรียนมาทางอายุรศาสตร์ 00:02:26.000 --> 00:02:28.000 โรคเลือดและโรคมะเร็ง 00:02:28.000 --> 00:02:30.000 และการเปลี่ยนถ่ายสเต็มเซลล์ 00:02:30.000 --> 00:02:32.000 สิ่งที่เรามีคือ 00:02:32.000 --> 00:02:35.000 ไล่เรียงไปเหล่ารายชื่อสารควบคุมที่ อย. ให้เราใช้ได้ 00:02:35.000 --> 00:02:37.000 เรามีสารเหล่านี้ 00:02:37.000 --> 00:02:39.000 ยาเบื่อหนู ยา thalidomide 00:02:39.000 --> 00:02:41.000 สารเคมีเหล่านี้ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ 00:02:41.000 --> 00:02:43.000 กาซไนโตรเจน มัสตารด์ 00:02:43.000 --> 00:02:46.000 และเพราะอยู่ในศตวรรษที่ 21 กัน 00:02:46.000 --> 00:02:48.000 ผมเลยเดาว่า คุณคงจะคิดว่า ยาเหล่านี้ 00:02:48.000 --> 00:02:50.000 ไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับคุณ 00:02:50.000 --> 00:02:53.000 ผมกลับไปเรียนวิชาเคมีเพิ่มเติม 00:02:53.000 --> 00:02:55.000 ด้วยความคิดที่ว่า 00:02:55.000 --> 00:02:58.000 บางทีถ้าผมเรียนรู้วิธีการค้นหาสารเคมีใหม่ๆ 00:02:58.000 --> 00:03:01.000 และนำมันไปใช้กับวิธีการใหม่ 00:03:01.000 --> 00:03:03.000 ของโอเพน ซอร์ส 00:03:03.000 --> 00:03:05.000 ที่เรียกว่า crowd-source 00:03:05.000 --> 00:03:08.000 การร่วมมือกันเป็นเน็ตเวิรก์ของนักวิชาการ 00:03:08.000 --> 00:03:10.000 อาจทำให้เรา 00:03:10.000 --> 00:03:12.000 นำยาใหม่ที่ออกฤทธิ์จำเพาะ 00:03:12.000 --> 00:03:14.000 มาใช้กับผู้ป่วยได้เร็วขึ้น NOTE Paragraph 00:03:14.000 --> 00:03:17.000 กรุณาเข้าใจด้วยว่านี่ยังเป็นงานที่ยังไม่เสร็จดี 00:03:17.000 --> 00:03:19.000 แต่วันนี้ผมมีเรื่องที่อยากมาเล่าให้ฟัง 00:03:19.000 --> 00:03:21.000 เกี่ยวกับมะเร็งที่พบได้น้อยมากชนิดหนึ่ง 00:03:21.000 --> 00:03:23.000 เราเรียกมันว่า มิดไลน์ คาร์ซิโนมา 00:03:23.000 --> 00:03:25.000 และเรื่องของโปรตีน 00:03:25.000 --> 00:03:27.000 โปรตีนที่หายามาจับไม่ได้ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งนี้ 00:03:27.000 --> 00:03:29.000 มันมีชื่อว่า BRD4 00:03:29.000 --> 00:03:31.000 และเกี่ยวกับโมเลกุล 00:03:31.000 --> 00:03:33.000 ซึ่งพัฒนามาจากห้องแล็ปของสถาบันมะเร็ง Dana Farber 00:03:33.000 --> 00:03:36.000 ที่มีชื่อว่า JQ1 ซึ่งตั้งตามชื่อของ Jun Qi 00:03:36.000 --> 00:03:39.000 นักเคมีที่คิดโมเลกุลนี้ขึ้นมา 00:03:39.000 --> 00:03:42.000 BRD4 เป็นโปรตีนที่น่าสนใจ NOTE Paragraph 00:03:42.000 --> 00:03:45.000 คุณอาจจะสงสัย เจ้ามะเร็งที่พยายามจะฆ่าผู้ป่วยอยู่นี่ 00:03:45.000 --> 00:03:47.000 มันรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นมะเร็ง 00:03:47.000 --> 00:03:49.000 เมื่อพันธุกรรมของพันเกลียวเข้าด้วยกัน 00:03:49.000 --> 00:03:51.000 แบ่งตัวเป็นสองเซลล์และคลายเกลียวอีกครั้ง 00:03:51.000 --> 00:03:53.000 ทำไมเซลล์มะเร็งมันถึงไม่กลายเป็นตา หรือกลายเป็นตับ 00:03:53.000 --> 00:03:56.000 ทั้งๆที่มันมียีนทั้งหมดเพียงพอที่จะทำได้ 00:03:56.000 --> 00:03:58.000 มันจำได้ว่ามันเป็นเซลล์มะเร็ง 00:03:58.000 --> 00:04:01.000 คำตอบก็คือ เซลล์มะเร็ง ก็เหมือนกับเซลล์อื่นๆในร่างกาย 00:04:01.000 --> 00:04:03.000 มันจะมีโมเลกุลที่เหมือนเป็นที่คั่นหนังสือ 00:04:03.000 --> 00:04:05.000 หรือกระดาษแปะเอาไว้ 00:04:05.000 --> 00:04:08.000 ที่คอยเตือนมันว่า "ฉันเป็นเซลล์มะเร็ง ฉันต้องเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ" 00:04:08.000 --> 00:04:10.000 และกระดาษ Post-it ที่แปะไว้เหล่านั้น 00:04:10.000 --> 00:04:12.000 เกี่ยวข้องกับโปรตีนนี้และโปรตีนอื่นๆที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน 00:04:12.000 --> 00:04:14.000 ที่มีชื่อเรียกรวมกันว่า โบรโมโดเมน 00:04:14.000 --> 00:04:17.000 เราจึงพัฒนาแนวคิดขึ้นมาอันนึง เป็นหลักการ 00:04:17.000 --> 00:04:19.000 ว่า ถ้าเราสามารสร้างโมเลกุล 00:04:19.000 --> 00:04:21.000 ที่ป้องกันไม่ให้มีข้อความมาแปะไว้ที่เซลล์มะเร็งได้ 00:04:21.000 --> 00:04:23.000 โดยกันไม่ให้ข้อความที่จะมาแปะเข้าไปใน 00:04:23.000 --> 00:04:25.000 โพรงที่อยู่ที่ฐานของโปรตีนที่่กำลังหมุนนี้ 00:04:25.000 --> 00:04:27.000 ถ้าทำได้ เราอาจจะสามารถสื่อสารกับเซลล์มะเร็งได้ 00:04:27.000 --> 00:04:30.000 โดยเฉพาะพวกเซลล์มะเร็งที่เสพติดโปรตีน BRD4 00:04:30.000 --> 00:04:32.000 ว่าพวกมันไม่ใช่มะเร็ง NOTE Paragraph 00:04:32.000 --> 00:04:34.000 ดังนั้นเราจึงเริ่มทำงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ 00:04:34.000 --> 00:04:36.000 เราพัฒนาสารขึ้นมาปริมาณหนึ่ง 00:04:36.000 --> 00:04:39.000 และในที่สุดเราก็ได้สารตัวหนึ่งและสารอื่นที่คล้ายกัน 00:04:39.000 --> 00:04:41.000 เราเรียกมันว่า JQ1 00:04:41.000 --> 00:04:43.000 เนื่องจากเราไม่ใช่บริษัทยา 00:04:43.000 --> 00:04:46.000 เรามีความยืดหยุ่นที่จะทำบางอย่าง 00:04:46.000 --> 00:04:49.000 ซึ่งบริษัทยาทั่วไปไม่สามารถทำได้ 00:04:49.000 --> 00:04:51.000 เราเริ่มที่จะส่งข้อมูลนี้ให้เพื่อนๆ 00:04:51.000 --> 00:04:53.000 ห้องแล็ปของผมค่อนข้างเล็ก 00:04:53.000 --> 00:04:55.000 เราจึงส่งไปหาคนอื่นๆเพื่อดูว่าโมเลกุลมันทำงานเป็นอย่างไร 00:04:55.000 --> 00:04:57.000 เราส่งตัวอย่างไปที่อ๊อกซ์ฟอรด์ ประเทศอังกฤษ 00:04:57.000 --> 00:05:00.000 ที่ซึ่งนักถ่ายภาพคริสตัลด้วยเอ็กซ์เรย์ที่นั่นได้ถ่ายภาพนี้ 00:05:00.000 --> 00:05:02.000 ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจ 00:05:02.000 --> 00:05:05.000 ว่าทำไมโมเลกุลนี้จึงมีประสิทธิภาพสุงในการจับโปรตีนนี้ 00:05:05.000 --> 00:05:07.000 เราเรียกว่ารูปร่างมันเข้ากันได้อย่างพอดี 00:05:07.000 --> 00:05:09.000 อย่างกับมือและถุงมือ NOTE Paragraph 00:05:09.000 --> 00:05:11.000 มะเร็งนี้พบได้น้อยมาก 00:05:11.000 --> 00:05:13.000 มะเร็งที่ชอบโปรตีน BRD4 มาก 00:05:13.000 --> 00:05:16.000 เราจึงทำการทดลองด้วยตัวอย่างมะเร็ง 00:05:16.000 --> 00:05:19.000 ที่เราได้จากหมอพยาธิวิทยา แห่งโรงพยาบาล Brigham Women 00:05:19.000 --> 00:05:22.000 และเมื่อเราให้สารนี้กับเซลล์มะเร็ง 00:05:22.000 --> 00:05:24.000 ผลที่ได้ค่อนข้างชัดเจน 00:05:24.000 --> 00:05:26.000 เซลล์มะเร็ง 00:05:26.000 --> 00:05:28.000 เซลล์เล็กๆ กลมๆ และแบ่งตัวเร็ว 00:05:28.000 --> 00:05:30.000 เริ่มมีแขนขาและรอยยื่นออกมา 00:05:30.000 --> 00:05:32.000 หน้าตาพวกมันเริ่มเปลี่ยนไป 00:05:32.000 --> 00:05:34.000 ผลที่ได้คือ เซลล์มะเร็ง 00:05:34.000 --> 00:05:36.000 มันเริ่มลืมไปว่ามันเป็นเซลล์มะเร็ง 00:05:36.000 --> 00:05:39.000 และเริ่มเปลี่ยนเป็นเซลล์ปกติ NOTE Paragraph 00:05:39.000 --> 00:05:42.000 มันทำให้เราตื่นเต้นกันมา 00:05:42.000 --> 00:05:45.000 ขั้นต่อไปคือเอาโมเลกุลนี้ไปทดลองกับหนุ 00:05:45.000 --> 00:05:48.000 แต่ปัญหาคือ เราไม่มีหนูทดลองสายพันธุ์ที่เป็นมะเร็งนี้ 00:05:48.000 --> 00:05:51.000 ในขณะที่เรากำลังทดลองอยู่นั้น 00:05:51.000 --> 00:05:54.000 ผมกำลังรักษานักดับเพลิงวัย 29 ปีจากรัฐคอนเนคติกัต คนหนึี่ง 00:05:54.000 --> 00:05:57.000 ซึ่งป่วยอยู่ในระยะสุดท้าย 00:05:57.000 --> 00:05:59.000 ด้วยมะเร็งชนิดนี้ 00:05:59.000 --> 00:06:01.000 มะเร็งที่ชอบโปรตีน BRD4 นี้ 00:06:01.000 --> 00:06:03.000 กำลังลุกลามเต็มปอดด้านซ้ายของเขา 00:06:03.000 --> 00:06:05.000 เราจึงต้องใส่ท่อระบายน้ำออกจากช่องเยื่อหุ้มปอดเขา 00:06:05.000 --> 00:06:07.000 และทุกๆรอบที่พยาบาลเปลียนเวร 00:06:07.000 --> 00:06:09.000 ก็ต้องมาเทน้ำและเนื้อมะเร็งเหล่านี้ทิ้ง 00:06:09.000 --> 00:06:11.000 ดังนั้นเราจึงขออนุญาตผู้ป่วยรายนี้ 00:06:11.000 --> 00:06:13.000 ว่าเขายินดีร่วมมือกับเราหรือไม่ 00:06:13.000 --> 00:06:17.000 เราขอตัวอย่างชิ้นเนื้อมะเร็งที่ออกมา 00:06:17.000 --> 00:06:19.000 จากท่อระบายในช่องเยื่อหุ้มปอด 00:06:19.000 --> 00:06:21.000 และนำเนื้อเยื่อเหล่านี้มาใส่ในหนู 00:06:21.000 --> 00:06:23.000 และพยายามที่จะทำการวิจัย 00:06:23.000 --> 00:06:25.000 และทดลองกับยาใหม่นี้ 00:06:25.000 --> 00:06:28.000 ซึ่งเราไม่สามารถที่จะทำการทดลองนี้ในคนได้ เนื่องจากเหตุผลทางจริยธรรม 00:06:28.000 --> 00:06:31.000 ซึ่งเขาก็ยินยอมให้เราทำ 00:06:31.000 --> 00:06:33.000 ณ.สถาบันภาพรังสีในสัตว์ Lurie Family Center 00:06:33.000 --> 00:06:36.000 เพื่อนร่วมงานผม แอนดรูว์ คัง ทำให้มะเร็งชนิดนี้โตในหนูได้สำเร็จ 00:06:36.000 --> 00:06:38.000 โดยไม่ต้องแม้แต่จะนำไปเพาะเลี้ยงก่อน NOTE Paragraph 00:06:38.000 --> 00:06:41.000 และนี่เป็นภาพ PET สแกนของหนู ซึ่งเราเรียกมันว่า เพ็ดเพ็ด 00:06:41.000 --> 00:06:43.000 มะเร็งมันเติบโต 00:06:43.000 --> 00:06:46.000 ดังที่เห็นสีแดงนี้ เป็นก้อนใหญ่ที่ขาหลังของหนู 00:06:46.000 --> 00:06:48.000 และเมื่อเรารักษามันด้วยยาใหม่ 00:06:48.000 --> 00:06:50.000 ก้อนมะเร็งที่หิวโหยน้ำตาลนี้ 00:06:50.000 --> 00:06:52.000 ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว จางลง 00:06:52.000 --> 00:06:54.000 และในหนูที่อยู่ด้านขวา 00:06:54.000 --> 00:06:57.000 คุณจะเห็นว่ามะเร็งมันตอบสนองต่อการรักษา 00:06:57.000 --> 00:06:59.000 ขณะนี้งานวิจัยทางคลินิกของเรา 00:06:59.000 --> 00:07:01.000 ในหนูทดลองสี่ตัวได้เสร็จสิ้นลงแล้ว 00:07:01.000 --> 00:07:03.000 และทุกครั้งที่ทดลอง เราได้ผลเหมือนเดิมทุกครั้ง 00:07:03.000 --> 00:07:05.000 หนูที่ได้ยามะเร็งนี้ มีชีวิตรอด 00:07:05.000 --> 00:07:08.000 และหนูที่ไม่ได้ยา เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว NOTE Paragraph 00:07:10.000 --> 00:07:12.000 เราจึงเริ่มที่จะสงสัยว่า 00:07:12.000 --> 00:07:14.000 ณ.จุดนี้ถ้าเป็นบริษัทยาจะทำอย่างไรต่อ 00:07:14.000 --> 00:07:16.000 พวกเขาคงต้องเก็บมันเป็นความลับ 00:07:16.000 --> 00:07:18.000 จนกระทั่งเขาสามารถเปลี่ยนยาต้นแบบ 00:07:18.000 --> 00:07:20.000 เป็นยาที่สามารถนำมารักษาได้จริง 00:07:20.000 --> 00:07:22.000 แต่เรากลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม 00:07:22.000 --> 00:07:24.000 เราจึงได้ตีพิมพ์งานวิจัย 00:07:24.000 --> 00:07:26.000 ของการค้นพบนี้ 00:07:26.000 --> 00:07:28.000 ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการค้นพบ 00:07:28.000 --> 00:07:31.000 เราเปิดเผยข้อมูลทางเคมีของโมเลกุลนี้สูสาธารณะ 00:07:31.000 --> 00:07:33.000 ซึ่งปกติมันควรจะเป็นความลับของเรา 00:07:33.000 --> 00:07:35.000 เราบอกให้คนทั่วไปรู้ว่า จะสร้างโมเลกุลนี้ได้อย่างไร 00:07:35.000 --> 00:07:37.000 เราให้อีเมล์ของเราไป 00:07:37.000 --> 00:07:39.000 โดยแจ้งไปว่า ถ้าใครเขียนมาหาเรา 00:07:39.000 --> 00:07:41.000 เราจะส่งตัวอย่างโมเลกุลให้ 00:07:41.000 --> 00:07:43.000 หรืออาจจะพูดได้ว่า 00:07:43.000 --> 00:07:45.000 เราได้สร้างบรรยากาศแห่งการแข็งขันให้กับห้องแล็ปของเรา 00:07:45.000 --> 00:07:47.000 และนี่ก็ดันประสบความสำเร็จเสียด้วย NOTE Paragraph 00:07:47.000 --> 00:07:49.000 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:07:49.000 --> 00:07:51.000 เป็นเพราะเราแบ่งปันโมเลกุลนี้ 00:07:51.000 --> 00:07:53.000 ตั้งแต่ธันวาคมของปีที่แล้ว 00:07:53.000 --> 00:07:55.000 ให้กับห้องแล็ป 40 แห่งในอเมริกา 00:07:55.000 --> 00:07:57.000 และอีก 30 แห่งในยุโรป 00:07:57.000 --> 00:07:59.000 หลายๆแห่งเป็นบริษัทยา 00:07:59.000 --> 00:08:01.000 ที่กำลังหาทางที่จะเข้ามาศึกษา 00:08:01.000 --> 00:08:03.000 วิธีรักษามะเร็งที่พบไม่บ่อยชนิดนี้ 00:08:03.000 --> 00:08:05.000 เป็นที่น่ายินดี ที่ในปัจจุบัน 00:08:05.000 --> 00:08:07.000 มีความต้องการที่จะทำงานในอุตสาหกรรมนี้ค่อนข้างสูง 00:08:09.000 --> 00:08:12.000 ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เราได้รับกลับมาจากห้องแล็ปเหล่านี้ 00:08:12.000 --> 00:08:14.000 เกี่ยวกับการนำโมเลกุลนี้ไปใช้ 00:08:14.000 --> 00:08:16.000 ทำให้เราเข้าใจ 00:08:16.000 --> 00:08:18.000 สิ่งที่เราไม่สามารถรู้ได้จากการทำงานเพียงลำพัง 00:08:18.000 --> 00:08:20.000 เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ได้รับยานี้ 00:08:20.000 --> 00:08:23.000 เปลี่ยนกลับไปเป็นเม็ดเลือดขาวปกติ 00:08:23.000 --> 00:08:25.000 หนูที่เป็นโรคมะเร็ง multiple myeloma 00:08:25.000 --> 00:08:28.000 ซึ่งเป็นมะเร็งไขกระดูกที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด 00:08:28.000 --> 00:08:30.000 ตอบสนองอย่างน่าอัศจรรย์ 00:08:30.000 --> 00:08:32.000 ต่อการรักษาด้วยยานี้ 00:08:32.000 --> 00:08:34.000 คุณอาจจะเคยได้ยินว่าเซลล์ไขมันมันมีความทรงจำ 00:08:34.000 --> 00:08:38.000 ดีจังที่ผมมีตัวอย่างให้คุณเห็น 00:08:38.000 --> 00:08:40.000 อันที่จริงแล้ว โมเลกุลนี้ 00:08:40.000 --> 00:08:43.000 ป้องกันเซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์ไขมันหรือ adipocyte 00:08:43.000 --> 00:08:46.000 ไม่ให้จำได้ว่าสร้างไขมันยังไง 00:08:46.000 --> 00:08:48.000 หนูซึ่งเราให้กินอาหารไขมันสูง 00:08:48.000 --> 00:08:51.000 เหมือนเพื่อนร่วมเมืองชิคาโกของผม 00:08:51.000 --> 00:08:53.000 ไม่เป็นไขมันสะสมที่ตับ 00:08:53.000 --> 00:08:56.000 ซึ่งเป็นปัญหาทางสุขภาพที่สำคัญ NOTE Paragraph 00:08:56.000 --> 00:08:58.000 สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากทำงานวิจัยนี้ 00:08:58.000 --> 00:09:00.000 ไม่เฉพาะแค่ที่แล็ปของผม แต่ทั้งสถาบัน 00:09:00.000 --> 00:09:02.000 รวมไปถึงโรงเรียนแพทย์ Harvard 00:09:02.000 --> 00:09:04.000 ว่าเรามีทรัพยากรที่พิเศษทางวิชาการ 00:09:04.000 --> 00:09:06.000 สำหรับการค้นพบยาใหม่ๆ 00:09:06.000 --> 00:09:08.000 สถาบันของเรา 00:09:08.000 --> 00:09:10.000 ได้ทดสอบโมเลกุลสำหรับมะเร็งใหม่ๆ 00:09:10.000 --> 00:09:12.000 มากกว่าที่อื่น 00:09:12.000 --> 00:09:14.000 แต่เราไม่เคยผลิตออกมาเป็นตัวยา 00:09:14.000 --> 00:09:16.000 ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่คุณเห็นอยู่นี้ 00:09:16.000 --> 00:09:19.000 เราเชื่อว่ามันมีโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับสถาบันวิชาการ 00:09:19.000 --> 00:09:22.000 ที่จะมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ซึ่งเ็ป็นช่วงที่ยาก 00:09:22.000 --> 00:09:25.000 และใช้ความคิดสร้างสรรค์ 00:09:25.000 --> 00:09:27.000 ของการค้นพบยาต้นแบบ NOTE Paragraph 00:09:29.000 --> 00:09:31.000 แล้วจากนี้ จะมีอะไรต่อไป? 00:09:31.000 --> 00:09:33.000 เรามีโมเลกุลนี้แล้ว แต่มันยังไม่อยู่ในรูปของยา 00:09:33.000 --> 00:09:36.000 มันยังไม่อยู่ในรูปที่กินได้ 00:09:36.000 --> 00:09:39.000 เราต้องปรับอีก เพื่อทำให้มันใช้กับผู้ป่วยได้จริง 00:09:39.000 --> 00:09:41.000 และทุกคนภายในแล็ป 00:09:41.000 --> 00:09:43.000 โดยเฉพาะคนที่ทำงานกับผู้ป่วยโดยตรง 00:09:43.000 --> 00:09:45.000 แทบจะอดใจไม่ไหว 00:09:45.000 --> 00:09:47.000 ที่จะได้ใช้ยาที่พัฒนาจากโมเลกุลนี้ 00:09:47.000 --> 00:09:49.000 ซึ่งณ.จุดนี้ ผมคงต้องพูดว่า 00:09:49.000 --> 00:09:51.000 เราต้องการความรู้ ความช่วยเหลือ 00:09:51.000 --> 00:09:53.000 และการร่วมมือจากท่าน 00:09:53.000 --> 00:09:55.000 เราต่างจากบริษัทยา 00:09:55.000 --> 00:09:58.000 เราไม่มีระบบการผลิตที่จะนำโมเลกุลนี้ไปพัฒนาต่อ 00:09:58.000 --> 00:10:01.000 เราไม่มีทีมนักขายและนักการตลาด 00:10:01.000 --> 00:10:04.000 ที่จะบอกเราว่าจะวางตำแหน่งการตลาดแข่งกับยาอื่นๆอย่างไร 00:10:04.000 --> 00:10:06.000 แต่ที่เรามีคือความยืดหยุ่นของการเป็นสถาบันวิชาการ 00:10:06.000 --> 00:10:09.000 ที่จะทำงานร่วมกับคนที่มีความสามารถ มีแรงใจ 00:10:09.000 --> 00:10:12.000 กระตือรือร้น และถ้าเป็นไปได้มีเงินสนับสนุนก้อนใหญ่ 00:10:12.000 --> 00:10:14.000 ที่จะนำโมเลกุลนี้ไปศึกษาต่อในผู้ป่วย 00:10:14.000 --> 00:10:16.000 ในขณะเดียวกัน ก็ยังยินยอมให้เรา 00:10:16.000 --> 00:10:19.000 แบ่งปันยาต้นแบบนี้กับคนทั่วโลก NOTE Paragraph 00:10:19.000 --> 00:10:21.000 โมเลกุลนี้กำลังจะออกจากแล็ปของเรา 00:10:21.000 --> 00:10:23.000 และไปสู่บริษัทก่อตั้งใหม่เล็กๆ 00:10:23.000 --> 00:10:25.000 ที่มีชื่อว่า Tensha Therapeutiecs 00:10:25.000 --> 00:10:28.000 และนี่เป็นโมเลกุลตัวที่ 4 ของกลุ่ม 00:10:28.000 --> 00:10:31.000 ที่ออกไปจากสายการผลิตยาเล็กๆของเรา 00:10:31.000 --> 00:10:34.000 มีสองชนิดเป็นยาทา 00:10:34.000 --> 00:10:37.000 สำหรับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ผิวหนัง 00:10:37.000 --> 00:10:40.000 ยากินสำหรับรักษามะเร็งไขกระดูก 00:10:40.000 --> 00:10:42.000 กำลังที่จะได้นำมาใช้กับผู้ป่วย 00:10:42.000 --> 00:10:44.000 สำหรับงานวิจัยทางคลินิกในเดือนกค.ของปีนี้ 00:10:44.000 --> 00:10:47.000 สำหรับเรา ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญและน่าตื่นเต้น 00:10:48.000 --> 00:10:50.000 ผมอยากจะจบการสนทนาด้วยไอเดียสองข้อด้วยกัน 00:10:50.000 --> 00:10:52.000 ข้อแรกคือ 00:10:52.000 --> 00:10:55.000 ถ้าการทำงานวิจัยนี้จะมีอะไรที่พิเศษ 00:10:55.000 --> 00:10:57.000 ส่วนที่เป็นวิทยาศาสตร์นั้นพิเศษน้อยกว่าในส่วนกระบวนการ 00:10:57.000 --> 00:10:59.000 สำหรับเราแล้ว นี่เป็นการทดลองทางสังคม 00:10:59.000 --> 00:11:02.000 การทดลองที่จะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น 00:11:02.000 --> 00:11:05.000 ถ้าเราเปิดกว้างและซื้อสัตย์ 00:11:05.000 --> 00:11:07.000 ตั้งแต่ระยะแรกของการค้นพบโครงสร้างทางเคมี 00:11:07.000 --> 00:11:09.000 เท่าที่จะเป็นไปได้ NOTE Paragraph 00:11:09.000 --> 00:11:11.000 ตัวอักษรและตัวเลขเหล่านี้ 00:11:11.000 --> 00:11:13.000 สัญลักษณ์และเครื่องหมายวงเล็บ 00:11:13.000 --> 00:11:15.000 ซึ่งผมคิดว่าสามารถจะส่งเป็นข้อความได้ 00:11:15.000 --> 00:11:17.000 หรือทวิต ไปทั่วโลก 00:11:17.000 --> 00:11:20.000 เป็นสูตรเคมีของสารตั้งต้นของเรา 00:11:20.000 --> 00:11:22.000 มันเป็นข้อมูลที่เราต้องการมากที่สุด 00:11:22.000 --> 00:11:24.000 จากบริษัทยา 00:11:24.000 --> 00:11:26.000 ข้อมูล 00:11:26.000 --> 00:11:29.000 ที่จะบอกเราว่ายาตั้งต้นเหล่านี้ทำงานยังไง 00:11:29.000 --> 00:11:32.000 แต่ข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นความลับ 00:11:32.000 --> 00:11:34.000 เราจึงได้นำ 00:11:34.000 --> 00:11:36.000 กระบวนการที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาน 00:11:36.000 --> 00:11:39.000 ของอุตสาหกรรมทางคอมพิวเตอร์ 2 หลักการด้วยกัน 00:11:39.000 --> 00:11:42.000 นั่นคือ โอเพนซอรส์และ crowdsourcing 00:11:42.000 --> 00:11:46.000 เพื่อเร่งอย่างระมัดระวัง 00:11:46.000 --> 00:11:49.000 การพัฒนายาที่จำเพาะเหล่านี้ 00:11:49.000 --> 00:11:51.000 ไปสู่ผู้ป่วยโรคมะเร็ง NOTE Paragraph 00:11:51.000 --> 00:11:54.000 ปัจจุบันโมเดลทางธุรกิจเกี่ยวข้องกับคุณด้วย 00:11:54.000 --> 00:11:56.000 งานวิจัยได้รับทุนสนับสนุนจากภาคประชาชาน 00:11:56.000 --> 00:11:58.000 โดยได้รับทุนผ่านทางหลาย ๆ หน่วยงาน 00:11:58.000 --> 00:12:00.000 สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ในบอสตัน 00:12:00.000 --> 00:12:02.000 นั่นคือพวกคุณทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะมะเร็ง และผมก็ชื่นชม 00:12:02.000 --> 00:12:05.000 พวกคุณขี่จักรยานข้ามรัฐ หรือเดินเพื่อการกุศล 00:12:05.000 --> 00:12:07.000 (เสียงหัวเราะ) 00:12:07.000 --> 00:12:09.000 ผมไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ในที่อื่นเลย 00:12:09.000 --> 00:12:11.000 การช่วยเหลือที่พิเศษ 00:12:11.000 --> 00:12:13.000 สำหรับงานวิจัยทางมะเร็ง 00:12:13.000 --> 00:12:15.000 ดังนั้นผมอยากจะขอบคุณ 00:12:15.000 --> 00:12:18.000 สำหรับการมีส่วนร่วม 00:12:18.000 --> 00:12:21.000 และที่สำคัญที่สุดคือ ความเชื่อมั่นที่คุณมีให้กับงานของเรา NOTE Paragraph 00:12:21.000 --> 00:12:26.000 (ปรบมือ)