0:00:00.000,0:00:02.000 ผมเกิดที่เมืองเดน บอช (Den Bosch) 0:00:02.000,0:00:05.000 ที่ซึ่งจิตรกรนามเฮียโรนีมุส บอช [br](Hieronymus Bosch) ตั้งชื่อตนตามชื่อเมืองๆนี้ 0:00:05.000,0:00:07.000 และนั้นก็ทำให้ผมชื่นชอบศิลปินท่านนี้เรื่อยมา 0:00:07.000,0:00:10.000 ศิลปินท่านนี้มีชีวิตและสร้างผลงาน[br]อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 15 0:00:10.000,0:00:12.000 สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวเขาเกี่ยวกับเรื่องของศีลธรรม 0:00:12.000,0:00:15.000 ก็คือในเวลาที่เขามีชีวิตอยู่นั้น[br]อิทธิพลทางศาสนาค่อยๆเสื่อมลง 0:00:15.000,0:00:17.000 ผมคิดว่า เขาเองก็คงสงสัยอยู่เหมือนกัน 0:00:17.000,0:00:19.000 ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสังคม 0:00:19.000,0:00:22.000 หากสังคมไร้เสียซึ่งศาสนาหรือ[br]มีความเชื่อทางศาสนาเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย 0:00:22.000,0:00:25.000 แรงบันดาลใจนี้เป็นที่มาของภาพวาดอันโด่งดังของเขา[br]ที่ชื่อว่า "The Garden of Earthly Delights" 0:00:25.000,0:00:27.000 บางคนก็ได้ตีความภาพดังกล่าวว่า 0:00:27.000,0:00:29.000 คือสภาวะของมนุษยชาติก่อนจะถึงจุดดับ 0:00:29.000,0:00:32.000 หรือสภาวะของมนุษย์ชาติที่ไม่มีวันถึงจุดดับเลย 0:00:32.000,0:00:34.000 ภาพวาดก็คงทำให้เราท่านสงสัยเหมือนกันว่า 0:00:34.000,0:00:37.000 ถ้าหากบรรพบุรุษไม่ได้ลิ้มรสผลไม้แห่งความรู้แจ้ง[br]มนุษย์ชาติจะเป็นอย่างไรนะ 0:00:37.000,0:00:40.000 คุณธรรมอย่างที่เรารู้จักกันจะเป็นอย่างไร 0:00:40.000,0:00:42.000 สมัยที่ผมยังเป็นเด็กนักเรียน 0:00:42.000,0:00:44.000 ผมเคยไปที่สวนที่พิเศษมากๆอีกแห่งหนึ่ง 0:00:44.000,0:00:47.000 สวนสัตว์แห่งหนึ่งที่เมืองอานเฮม 0:00:47.000,0:00:49.000 ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่พวกเราเลี้ยงซิมแปนซีเอาใว้ 0:00:49.000,0:00:51.000 และนี่ก็คือรูปผมสมัยเด็กๆ ถ่ายกับลูกซิมแปนซี 0:00:51.000,0:00:54.000 (หัวเราะ) 0:00:54.000,0:00:56.000 ผมได้ค้นพบว่า 0:00:56.000,0:00:59.000 ซิมแปนซีเป็นสัตว์ที่กระหายอำนาจมากๆ[br]ผมเคยเขียนหนังสือเล่าถึงเรื่องนี้ด้วย 0:00:59.000,0:01:02.000 ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง[br]งานวิจัยต่างๆที่เน้นศึกษาพฤติกรรมสัตว์ป่า 0:01:02.000,0:01:04.000 ส่วนใหญ่นั้นมุ่งเน้นไปที่ความก้าวร้าว[br]และการแข่งขันกันเอง 0:01:04.000,0:01:06.000 ผมได้เคยชี้ประเด็นนี้เอาไว้ว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย 0:01:06.000,0:01:08.000 ที่รวมถึงมนุษยชาติด้วยนั้น 0:01:08.000,0:01:10.000 ในก้นบึ้งของจิตใจ พวกเราชื่นชอบการแข่งขัน 0:01:10.000,0:01:12.000 เราเป็นพวกก้าวร้าว 0:01:12.000,0:01:15.000 โดยพื้นฐานแล้ว เราต่างก็มุ่งแสวงหา[br]ผลประโยชน์ให้ตัวเอง 0:01:15.000,0:01:17.000 นี่คืองานเปิดตัวหนังสือของผม 0:01:17.000,0:01:19.000 ผมไม่ค่อยมั่นใจนักว่าพวกลิง[br]อ่านหนังสือรู้เรื่องแค่ไหน 0:01:19.000,0:01:22.984 แต่ก็มั่นใจว่าพวกลิงมันชอบหนังสือเล่มนั้นมาก 0:01:24.000,0:01:26.000 หลังจากนั้น เมื่อผมได้เริ่ม 0:01:26.000,0:01:28.000 จับงานที่มุ่งศึกษาเรื่องอำนาจและการปกครอง 0:01:28.000,0:01:30.000 ความก้าวร้าว และเรื่องอื่นๆ 0:01:30.000,0:01:33.000 ผมก็ได้พบว่า ซิมแปนซีก็มีพฤติกรรม[br]ประนีประนอมกันหลังการต่อสู้ 0:01:33.000,0:01:36.000 อย่างที่คุณเห็นในรูป คือลิงตัวผู้สองตัว[br]ที่เพิ่งห้ำหั่นกันมาไม่นาน 0:01:36.000,0:01:39.000 สุดท้ายลิงทั้งสองตัวได้ปีนขึ้นไปอยู่บนยอดต้นไม้[br]และตัวหนึ่งก็ยื่นมือส่งออกไปยังอีกฝ่าย 0:01:39.000,0:01:42.000 หลังจากผมถ่ายรูปนี้ไม่กี่วินาที[br]พวกมันก็ปีนลงมาที่โคนต้นไม้ 0:01:42.000,0:01:44.000 หลังจากนั้นก็ตรงเข้าไปจูบและสวมกอดกันและกัน 0:01:44.000,0:01:46.000 นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ แล้ว 0:01:46.000,0:01:49.000 เพราะในเวลาอย่างนี้ ทุกอย่างน่าจะมุ่งไปที่[br]การแข่งขันและความก้าวร้าวเท่านั้น 0:01:49.000,0:01:51.000 ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่างุนงงมากๆ 0:01:51.000,0:01:53.000 เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ[br]ใครจะชนะ ใครจะแพ้ 0:01:53.000,0:01:55.000 แล้วทำไมจะต้องคืนดีกับอีกฝ่ายหนึ่งด้วย? 0:01:55.000,0:01:57.000 พฤติกรรมลักษณะนี้จึงเป็นเรื่องที่น่างุนงงมากๆ 0:01:57.000,0:02:00.000 ส่วนนี่คือสิ่งที่โบโนโบชอบทำ ลิงพวกนี้[br]ใช้การร่วมเพศเป็นเครื่องมือสำหรับแทบทุกเรื่อง 0:02:00.000,0:02:02.000 แม้กระทั่งการกลับมาปรองดองกันหลังการต่อสู้ 0:02:02.000,0:02:04.000 แต่หลักการค่อนข้างจะเหมือนกัน 0:02:04.000,0:02:06.000 หลักการที่พวกคุณมี 0:02:06.000,0:02:08.000 ต่อความสัมพันธ์ที่มีค่า 0:02:08.000,0:02:10.000 ซึ่งถูกทำลายลงโดยความขัดแย้ง 0:02:10.000,0:02:12.000 ดังนั้น คุณควรที่จะต้องทำอะไรสักอย่างกับมัน 0:02:12.000,0:02:14.000 ดังนั้น ภาพรวมอาณาจักรสัตว์ของผม 0:02:14.000,0:02:16.000 ซึ่งรวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วย 0:02:16.000,0:02:18.000 ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่นั้นมา 0:02:18.000,0:02:20.000 เราจึงเกิดภาพลักษณ์เหล่านั้นขึ้น 0:02:20.000,0:02:22.000 ในทางรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ มนุษยศาสตร์ 0:02:22.000,0:02:24.000 ปรัชญาต่อเหตุการณ์เหล่านั้น 0:02:24.000,0:02:26.000 ที่คนนั้นเปรียบเหมือนหมาป่าต่ออีกคน 0:02:26.000,0:02:29.000 และลึกลงไปในธรรมชาติของพวกเรา[br]แท้จริงแล้วช่างน่าสะอิดสะเอียน 0:02:29.000,0:02:32.000 แล้วผมว่ามันไม่ค่อยจะยุติธรรมต่อหมาป่า[br]เท่าไหร่นักหากเราไปมอบภาพลักษณ์เหล่านั้นให้ 0:02:32.000,0:02:34.000 เพราะจริงๆแล้ว หมาป่านั้น 0:02:34.000,0:02:36.000 เป็นสัตว์ที่ร่วมมือกันดีมาก 0:02:36.000,0:02:38.000 นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมคุณถึงเลี้ยงสุนัขที่บ้าน 0:02:38.000,0:02:40.000 สุนัขมีคุณลักษณะนี้เช่นเดียวกัน 0:02:40.000,0:02:42.000 แล้วมันก็ดูไม่ค่อยยุติธรรมต่อมนุษยธรรมเท่าไหร่ 0:02:42.000,0:02:46.000 เพราะมนุษยธรรมนั้นมีมากกว่าความร่วมมือ[br]และความเข้าอกเข้าใจกัน 0:02:46.000,0:02:48.000 มากกว่าคุณค่าที่เรานิยามให้มัน 0:02:48.000,0:02:50.000 ดังนั้น ผมก็เริ่มสนใจเรื่องพวกนี้ขึ้นเรื่อยๆ 0:02:50.000,0:02:52.000 แล้วก็ศึกษาในกลุ่มสัตว์ประเภทอื่น 0:02:52.000,0:02:54.000 และภาพนี้ คือ เสาหลักแห่งศีลธรรม 0:02:54.000,0:02:58.000 หากพวกคุณถามใครๆว่า "ความมีศีลธรรม[br]ตัดสินมาจากอะไร" 0:02:58.000,0:03:00.000 ก็มักจะนึกถึงสองปัจจัยนี้ขึ้นมา 0:03:00.000,0:03:02.000 หนึ่ง คือการพึ่งพาอาศัยกัน 0:03:02.000,0:03:05.000 รวมไปถึงความรู้สึกถึงความยุติธรรม[br]ความรู้สึกถึงความเท่าเทียม 0:03:05.000,0:03:07.000 และอีกปัจจัยนึง ก็คือความเข้าอกเข้าใจ[br]และความเห็นใจกัน 0:03:07.000,0:03:10.000 และความมีศีลธรรมของมนุษย์มากกว่าสิ่งเหล่านั้น 0:03:10.000,0:03:12.000 แต่ถ้าหากคุณลองเอาเสาหลักสองอันนั้นออกไป 0:03:12.000,0:03:14.000 คงไม่มีอะไรเหลืออยู่นักเท่าไหร่ 0:03:14.000,0:03:16.000 และมันคงจะต้องสำคัญมากจริงๆ 0:03:16.000,0:03:18.000 ผมจะยกตัวอย่างสักนิดให้คุณดู 0:03:18.000,0:03:20.000 นี่เป็นวิดีโอเก่าจาก ศูนย์ศึกษาไพรเมตแห่งเยิร์คคีส์[br](Yerkes) 0:03:20.000,0:03:23.000 ที่ซึ่งฝึกให้เหล่าชิมแปนซีร่วมมือกัน 0:03:23.000,0:03:26.000 แล้วนั่นมันก็เกือบร้อยปีมาแล้ว 0:03:26.000,0:03:29.000 ที่เราทำการทดลองศึกษาเกี่ยวกับความร่วมมือกัน 0:03:29.000,0:03:32.000 ที่คุณดูอยู่นี่คือลูกชิมแปนซีที่มีกล่องอยู่กล่องหนึ่ง 0:03:32.000,0:03:35.000 และกล่องนี้ก็หนักเกินไปสำหรับลูกชิมป์[br]เพียงตัวเดียวที่จะดึงมัน 0:03:35.000,0:03:37.000 และแน่นอน ในกล่องนั้น มีอาหารอยู่ 0:03:37.000,0:03:39.000 ไม่งั้นพวกมันคงไม่ดึงแรงขนาดนี้ 0:03:39.000,0:03:41.000 แล้วพวกมันก็ดึงกล่องเข้ามาได้ 0:03:41.000,0:03:43.000 เห็นไหมว่าพวกมันพร้อมเพรียง[br]เป็นจังหวะเดียวกันเลย 0:03:43.000,0:03:46.000 จะเห็นว่าเมื่อพวกลูกลิงทำงานร่วมกัน[br]พวกมันดึงกล่องในช่วงเวลาเดียวกัน 0:03:46.000,0:03:49.000 นี่ค่อนข้างเป็นความฉลาดล้ำกว่าสัตว์พวกอื่น 0:03:49.000,0:03:51.000 เพราะสัตว์อื่นคงทำเช่นนี้ไม่ได้ 0:03:51.000,0:03:53.000 แล้วคุณจะพบภาพที่น่าสนใจมากกว่านี้ 0:03:53.000,0:03:56.000 เพราะทีนี้เมื่อลูกชิมป์ตัวหนึ่งถูกป้อนอาหารแล้ว 0:03:56.000,0:03:58.000 ดังนั้นมันจึงไม่สนใจ 0:03:58.000,0:04:01.000 ในงานนี้อีกต่อไป 0:04:01.000,0:04:04.000 (เสียงหัวเราะ) 0:04:08.000,0:04:13.000 (เสียงหัวเราะ) 0:04:19.000,0:04:22.000 (เสียงหัวเราะ) 0:04:35.000,0:04:38.000 มาดูกันว่า เกิดอะไรขึ้นในตอนจบ 0:04:41.000,0:04:43.000 (เสียงหัวเราะ) 0:04:52.000,0:04:54.000 อีกตัวมันเอาอาหารไปหมดเลย 0:04:54.000,0:04:57.000 (เสียงหัวเราะ) 0:04:57.000,0:04:59.000 ดังนั้น เรื่องนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่สองส่วน 0:04:59.000,0:05:01.000 หนึ่ง คือ ชิมป์ทางขวามือ 0:05:01.000,0:05:03.000 เข้าใจดีว่าตัวมันเองต้องการผู้ร่วมงาน 0:05:03.000,0:05:05.000 แล้วก็เข้าใจถึงความจำเป็นของการร่วมมือกัน 0:05:05.000,0:05:08.000 แต่อีกตัวที่เป็นผู้ร่วมงานก็เต็มใจจะช่วยเหลือ 0:05:08.000,0:05:10.000 แม้ว่ามันไม่ได้สนใจในอาหารเท่าไหร่นัก 0:05:10.000,0:05:13.000 ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? นั่นอาจเกี่ยวกับเรื่อง[br]การพึ่งพาอาศัยกัน 0:05:13.000,0:05:15.000 แล้วก็มีหลักฐานอีกหลายอย่างใน[br]กลุ่มสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์อื่นๆ 0:05:15.000,0:05:17.000 ว่าพวกมันตอบแทนความช่วยเหลือกัน 0:05:17.000,0:05:19.000 ดังนั้น มันก็จะได้รับการตอบแทนคืน[br]ความช่วยเหลือกลับมา 0:05:19.000,0:05:21.000 เช่นกันในอนาคต 0:05:21.000,0:05:23.000 และนั่นคือวิธีที่สิ่งเหล่านี้ดำเนินไป 0:05:23.000,0:05:25.000 เราลองทดสอบในช้างเช่นเดียวกัน 0:05:25.000,0:05:28.000 นี่คือช้าง ค่อนข้างอันตรายนะครับ 0:05:28.000,0:05:30.000 แล้วอีกปัญหาเกี่ยวกับช้างคือ 0:05:30.000,0:05:32.000 คุณไม่รู้จะหาอุปกรณ์อะไร 0:05:32.000,0:05:34.000 ที่จะหนักเกินไปสำหรับให้ช้างตัวนึงออกแรงลาก 0:05:34.000,0:05:36.000 แต่ถึงแม้คุณจะสร้างมันได้ 0:05:36.000,0:05:38.000 แต่ผมว่ามันยังดูง่อนแง่นเกินไปนะ 0:05:38.000,0:05:40.000 แล้วในกรณีนี้ สิ่งที่เราทำคือ 0:05:40.000,0:05:43.000 เราได้ทำการศึกษาเหล่านี้ที่ประเทศไทย[br]ให้แก่ จอร์จ พล็อตนิค (Josh Plotnik) 0:05:43.000,0:05:46.000 เรามีอุปกรณ์ที่ผูกด้วยเชือก เชือกเส้นเดียว 0:05:46.000,0:05:48.000 และหากคุณดึงอีกด้านนึงของเชือก 0:05:48.000,0:05:50.000 เชือกจะหายไปจากอีกด้านนึง 0:05:50.000,0:05:53.000 ดังนั้น ช้างสองตัวต้องหยิบมันขึ้นมาพร้อมกันและดึง 0:05:53.000,0:05:55.000 มิฉะนั้น ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น 0:05:55.000,0:05:57.000 แล้วเชือกก็จะหายไป 0:05:57.000,0:05:59.000 ในเทปแรกนี้คุณจะเห็นว่า 0:05:59.000,0:06:01.000 ช้างสองตัวที่ปล่อยออกไปพร้อมกัน 0:06:01.000,0:06:03.000 ไปถึงที่อุปกรณ์ 0:06:03.000,0:06:06.000 อุปกรณ์นั่นอยู่ทางซ้ายพร้อมด้วยอาหาร 0:06:06.000,0:06:09.000 มันเดินมาด้วยกัน ถึงพร้อมกัน 0:06:09.000,0:06:11.000 พวกมันหยิบเชือกขึ้นพร้อมกันแล้วดึงพร้อมกัน 0:06:11.000,0:06:14.000 นี่ดูค่อนข้างง่ายสำหรับพวกมัน 0:06:15.000,0:06:17.000 นั่น มันมาแล้ว 0:06:24.000,0:06:26.000 และนั่นคือวิธีที่พวกมันดึงกล่องเข้ามา 0:06:26.000,0:06:28.000 แต่เราจะลองทำให้มันยากขึ้น 0:06:28.000,0:06:30.000 เพราะจุดประสงค์หลักของการทดลองนี้ 0:06:30.000,0:06:32.000 คือการดูว่าพวกมันเข้าใจถึงการ่วมมือกัน[br]ได้ดีขนาดไหน 0:06:32.000,0:06:35.000 พวกมันจะเข้าใจได้เท่ากันกับพวกชิมป์ไหม? 0:06:35.000,0:06:37.000 เราจึงทดลองในขั้นต่อไป 0:06:37.000,0:06:39.000 โดยการปล่อยช้างออกมาก่อนตัวหนึ่ง 0:06:39.000,0:06:41.000 และช้างนี่จำเป็นต้องฉลาดพอ 0:06:41.000,0:06:43.000 ที่จะหยุดรอตรงนั้น และไม่ดึงเชือกนั่น 0:06:43.000,0:06:46.000 เพราะหากว่ามันดึงเชือกแล้วเชือกก็จะหายไป [br]และถือเป็นอันจบการทดสอบ 0:06:46.000,0:06:48.000 แล้วช้างตัวนี้ก็ทำอะไรบ้างอย่างที่ผิดกฎ 0:06:48.000,0:06:50.000 ที่เราไม่ได้สอนมันมาก่อน 0:06:50.000,0:06:52.000 แต่มันก็แสดงให้เห็นความเข้าใจที่พวกมันมี 0:06:52.000,0:06:55.000 เพราะมันวางเท้าใหญ่ๆของมันลงบนเชือก 0:06:55.000,0:06:57.000 ยืนที่ตรงนั้นและรอช้างอีกตัวหนึ่ง 0:06:57.000,0:07:00.000 แล้วให้ช้างอีกตัวออกแรงทำงานทั้งหมด 0:07:00.000,0:07:03.000 นี่เรียกว่า กินแรง นะครับ 0:07:03.000,0:07:05.000 (เสียงหัวเราะ) 0:07:05.000,0:07:08.000 แต่แสดงให้เห็นถึงความฉลาดที่พวกมันมี 0:07:08.000,0:07:11.000 พวกมันได้พัฒนาเทคนิคอื่นๆอีกหลายอย่าง 0:07:11.000,0:07:14.000 ซึ่งไม่ได้รับความเห็นชอบจากเรา 0:07:14.000,0:07:19.000 นั่น ช้างอีกตัวมาแล้ว 0:07:19.000,0:07:22.000 แล้วมันก็กำลังดึง 0:07:38.000,0:07:41.000 นี่ดูอีกตัวสิ แน่นอนมันยังไม่ลืมที่จะกินอาหารเลย 0:07:41.000,0:07:45.000 (เสียงหัวเราะ) 0:07:45.000,0:07:47.000 นี่เรียกว่าความร่วมมือกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง[br]ของการพึ่งพาอาศัย 0:07:47.000,0:07:49.000 แล้ว ความเข้าอกเข้าใจกันล่ะ 0:07:49.000,0:07:51.000 การรับรู้ถึงความเข้าอกเข้าใจกัน[br]เป็นหัวข้อหลักของงานวิจัยขณะนั้น 0:07:51.000,0:07:53.000 และความเข้าอกเข้าใจก็มีสองระดับ 0:07:53.000,0:07:56.000 ระดับหนึ่งคือ การรับรู้ถึงมัน[br]ซึ่งเป็นนิยามโดยปกติอยู่แล้ว 0:07:56.000,0:07:58.000 ซึ่งก็คือ ความสามารถในการรับรู้เข้าใจ[br]และแบ่งปันความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง 0:07:58.000,0:07:59.333 และอีกระดับนึง คือ ส่วนที่เกี่ยวข้อง[br]กับอารมณ์ความรู้สึก 0:07:59.333,0:08:00.666 ดังนั้น 0:08:00.666,0:08:02.000 ความเข้าอกเข้าใจกันโดยมี 2 ช่องทางในการสื่อสาร 0:08:02.000,0:08:04.000 ช่องทางแรกคือ ทางร่างกาย 0:08:04.000,0:08:06.000 หากคุณคุยกับคนที่โศกเศร้า 0:08:06.000,0:08:09.000 คุณก็จะได้รับความรู้สึกเศร้า[br]และท่าทางเศร้าสร้อยนั้นมา 0:08:09.000,0:08:11.000 และมันก็เกิดขึ้นก่อนคุณจะรู้ตัวเสียอีก 0:08:11.000,0:08:14.000 และนั่นคือ การสื่อสารผ่านร่างกาย[br]ของความอกเข้าความใจในอารมณ์ 0:08:14.000,0:08:16.000 ซึ่งมีในสัตว์หลายๆชนิด 0:08:16.000,0:08:18.000 สุนัขทั่วไปก็มีเช่นกัน 0:08:18.000,0:08:20.000 นั่นเป็นเหตุว่าทำไมมนุษย์ถึงได้เลี้ยง[br]สัตว์เลือดอุ่นไว้ในบ้าน 0:08:20.000,0:08:22.000 แต่ไม่ใช่เต่าหรืองู หรืออะไรพวกนั้น 0:08:22.000,0:08:24.000 สัตว์ที่ไม่รู้จักถึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ 0:08:24.000,0:08:26.000 แล้วก็มีช่องทางของกระบวนการคิด 0:08:26.000,0:08:28.000 ซึ่งคล้ายกับการเอาตัวเองไปอยู่ในมุมมองของผู้อื่น 0:08:28.000,0:08:30.000 มันมีอยู่อย่างจำกัดมาก 0:08:30.000,0:08:32.000 ในสัตว์ไม่กี่ชนิด ผมคิดว่าช้างและลิง[br]สามารถทำสิ่งนั้นได้ 0:08:32.000,0:08:35.000 แต่ก็มีสัตว์ไม่กี่ชนิดสามารถทำได้เช่นกัน 0:08:35.000,0:08:37.000 ได้อย่างพร้อมเพรียงกัน 0:08:37.000,0:08:39.000 ซึ่งเป็นกระบวนการของการเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น 0:08:39.000,0:08:41.000 ที่เกิดขึ้นมาช้านานในอาณาจักรสัตว์ 0:08:41.000,0:08:43.000 และในสังคมมนุษย์ แน่นอนครับ [br]เราได้ทำการศึกษามัน 0:08:43.000,0:08:45.000 นั่นคือ การหาวติดต่อ 0:08:45.000,0:08:47.000 มนุษย์มักจะหาวเมื่อคนอื่นหาว 0:08:47.000,0:08:49.000 มันมีความเชื่อมโยงกับการเข้าใจอารมณ์ผู้อื่น 0:08:49.000,0:08:51.000 มันเกิดการกระตุ้นที่บริเวณเดียวกันของสมอง 0:08:51.000,0:08:53.000 แล้วเราก็รู้ว่าคนที่มีอาการหาวติดต่อมากๆนั้น 0:08:53.000,0:08:55.000 ค่อนข้างมีความเห็นใจเข้าใจผู้อื่นสูง 0:08:55.000,0:08:57.000 คนที่มีความผิดปกติกับการเข้าใจผู้อื่น[br]เช่นเด็กออทิสติก 0:08:57.000,0:08:59.000 พวกเขาจะไม่เกิดการหาวติดต่อ 0:08:59.000,0:09:01.000 มันจึงเชื่อมโยงกัน 0:09:01.000,0:09:04.000 เราได้ศึกษาในชิมแปนซีด้วยการให้พวกมัน[br]ดูตัวการ์ตูนลิงที่มีเฉพาะส่วนหัว 0:09:04.000,0:09:06.000 นี่ครับ มันเป็นแบบด้านซ้ายบน 0:09:06.000,0:09:08.000 ภาพหัวการ์ตูนจะหาว 0:09:08.000,0:09:10.000 แล้วนั่น เจ้าชิมแปนซีกำลังดูอยู่ 0:09:10.000,0:09:13.000 ชิมแปนซีตัวจริงกำลังดูภาพบนจอคอมพิวเตอร์ 0:09:13.000,0:09:16.000 ซึ่งเรากำลังเปิดให้ดู 0:09:20.000,0:09:22.000 (เสียงหัวเราะ) 0:09:22.000,0:09:24.000 แล้วก็เกิด "หาวติดต่อ" 0:09:24.000,0:09:26.000 บางที่คุณอาจจะคุ้นเคยบ้างว่า -- 0:09:26.000,0:09:29.000 แล้วคุณอาจจะเริ่มหาวแล้วก็ได้ 0:09:29.000,0:09:32.000 นี่เป็นสิ่งที่เราแบ่งปันกันกับสัตว์ประเภทอื่น 0:09:32.000,0:09:35.000 มันเชื่อมต่อกับทั้งร่างกายอย่างพร้อมเพรียงกัน 0:09:35.000,0:09:37.000 นั่นมันซ่อนอยู่ภายใต้ความเข้าใจผู้อื่น 0:09:37.000,0:09:40.000 และพบได้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแทบทุกชนิด 0:09:40.000,0:09:43.000 ตอนนี้เรายังศึกษาการแสดงออกที่ซับซ้อนมากขึ้น[br]นี่คือการปลอบโยน 0:09:43.000,0:09:46.000 นี่คือชิมแปนซีตัวผู้ ที่เพิ่งแพ้ในการต่อสู้[br]และมันกำลังกรีดร้อง 0:09:46.000,0:09:48.000 และลิงตัวที่เด็กกว่าเข้ามาหาและโอบแขนรอบๆมัน 0:09:48.000,0:09:50.000 และทำให้มันสงบลง 0:09:50.000,0:09:53.000 นั่นคือการปลอบโยน มันคล้ายมากกับ[br]การปลอบโยนในมนุษย์ 0:09:53.000,0:09:56.000 และพฤติกรรมการปลอบโยนนี้ 0:09:56.000,0:09:58.000 ถูกขับเคลื่อนโดยความเห็นอกเห็นใจ 0:09:58.000,0:10:01.000 จริงๆ แล้ววิธีที่จะศึกษาเรื่องความเห็นใจ[br]ในเด็กที่เป็นมนุษย์นั้น 0:10:01.000,0:10:03.000 คือการสั่งให้คนในครอบครัวทำท่าทางเศร้าสร้อย 0:10:03.000,0:10:05.000 และจากนั้นพวกเขาก็สังเกตว่าเด็กจะทำอย่างไร 0:10:05.000,0:10:07.000 ดังนั้นมันจึงเกี่ยวข้องกับการเห็นอกเห็นใจ 0:10:07.000,0:10:10.000 และนั่นคือการแสดงออกที่เราศึกษา 0:10:10.000,0:10:13.000 เมื่อเร็วๆนี้เรายังได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่คุณอาจเคยได้ยิน 0:10:13.000,0:10:16.000 เกี่ยวกับความเผื่อแผ่ในชิมแปนซี 0:10:16.000,0:10:18.000 ที่ซึ่งคำถามคือ ชิมแปนซีห่วงใย 0:10:18.000,0:10:20.000 ความเป็นอยู่ของลิงตัวอื่นๆ ไหม 0:10:20.000,0:10:22.000 และนานนับทศวรรษ เราคิดเองว่า 0:10:22.000,0:10:24.000 มีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่ทำแบบนั้นได้ 0:10:24.000,0:10:27.000 มีเพียงแค่มนุษย์ที่ห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของคนอื่นๆ 0:10:27.000,0:10:29.000 ทีนี้เราทำการทดลองที่ง่ายมากๆ 0:10:29.000,0:10:32.000 เราทดลองกับชิมแปนซีที่อาศัยอยู่ในลอว์เรนซ์วิลล์ (Lawrenceville) 0:10:32.000,0:10:34.000 ที่สถานีทดลองภาคสนามที่เยิร์คคีส์ 0:10:34.000,0:10:36.000 และนั่นคือวิถีชีวิตของมัน 0:10:36.000,0:10:39.000 เราเอาพวกมันเข้ามาในห้อง[br]และทำการทดลองกับพวกมัน 0:10:39.000,0:10:41.000 ในกรณีนี้ เราเอาชิมแปนซีสองตัวไว้ในห้องติดๆกัน 0:10:41.000,0:10:44.000 และมีถังอยู่ใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยเหรียญ[br]และเหรียญเหล่านั้นมีความหมายต่างกัน 0:10:44.000,0:10:47.000 เหรียญแบบหนึ่งจะให้อาหารแต่กับลิงตัวที่เลือก 0:10:47.000,0:10:49.000 และอีกเหรียญหนึ่งจะให้อาหารกับทั้งสองตัว 0:10:49.000,0:10:52.000 นี่คือการศึกษาที่เราทำพร้อมด้วย วิคกี้ ฮอร์เนอร์ [br](Vicky Horner) 0:10:53.000,0:10:55.000 และในกรณีนี้คุณมีเหรียญสองสี 0:10:55.000,0:10:57.000 พวกเขามีถังที่เต็มไปด้วยเหรียญ 0:10:57.000,0:11:00.000 และพวกมันจะต้องเลือกหนึ่งในสองสี 0:11:00.000,0:11:03.000 คุณจะเห็นว่าผลมันออกมาอย่างไร 0:11:03.000,0:11:06.000 ถ้าลิงเลือกตัวเลือกที่เห็นแก่ตัว 0:11:06.000,0:11:09.000 ซึ่งคือเหรียญสีแดงในกรณีนี 0:11:09.000,0:11:11.000 มันต้องเอาเหรียญให้กับเรา 0:11:11.000,0:11:14.000 เราหยิบเหรียญขึ้น วางบนโต๊ะ[br]ที่ซึ่งอาหารสองชิ้นจะถูกให้เป็นรางวัล 0:11:14.000,0:11:17.000 แต่ในกรณีนี้ตัวทางขวาตัวเดียวเท่านั้นจะได้อาหาร 0:11:17.000,0:11:19.000 ตัวทางด้านซ้ายเดินหนีเพราะมันรู้ผลอยู่แล้ว 0:11:19.000,0:11:22.000 ว่าการทดสอบนี้ไม่ดีสำหรับเธอ 0:11:22.000,0:11:24.000 อันถัดไปเป็นเหรียญแห่งการแบ่งปัน 0:11:24.000,0:11:27.000 ลิงตัวที่มีหน้าที่เลือก [br]นี่ถึงตอนที่น่าสนใจแล้วครับ 0:11:27.000,0:11:29.000 สำหรับตัวที่เป็นผู้เลือก 0:11:29.000,0:11:31.000 มันไม่สำคัญเลยว่ามันจะเลือกสีอะไร 0:11:31.000,0:11:34.000 ตอนนี้มันให้เหรียญแห่งการแบ่งปัน[br]และลิงทั้งสองตัวก็จะได้อาหาร 0:11:34.000,0:11:37.000 ลิงตัวที่เป็นผู้เลือกจะได้อาหารเสมอ 0:11:37.000,0:11:39.000 มันไม่สำคัญว่ามันเลือกสีอะไร 0:11:39.000,0:11:41.000 ดังนั้นมันควรจะเลือกแบบสุ่ม 0:11:41.000,0:11:43.000 แต่สิ่งที่เราพบ 0:11:43.000,0:11:45.000 คือพวกมันชอบเหรียญแห่งการแบ่งปัน 0:11:45.000,0:11:48.000 นี่คือเส้น 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นความคาดหวัง[br]จากการเลือกแบบสุ่ม 0:11:48.000,0:11:51.000 และถ้าเพื่อนของมันเพ่งความสนใจ[br]ไปที่มันเป็นพิเศษ มันจะเลือกมากขึ้น 0:11:51.000,0:11:54.000 แต่ถ้าเพื่อนกดดันมันมากๆ 0:11:54.000,0:11:57.000 เช่นถ้าเพื่อนเริ่มพ่นน้ำ และข่มขู่มัน 0:11:57.000,0:12:00.000 ผลการเลือกจะแย่ลง 0:12:00.000,0:12:02.000 เหมือนเป็นการบอกเป็นนัยๆว่า 0:12:02.000,0:12:04.000 "ถ้าแกไม่ทำตัวดีๆ วันนี้ฉันจะไม่เผื่อแผ่กับแก" 0:12:04.000,0:12:06.000 และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่มีลิงอีกตัวอยู่ 0:12:06.000,0:12:08.000 เมื่อไม่มีลิงอีกตัวนั่งอยู่ตรงนั้น 0:12:08.000,0:12:10.000 ดังนั้นเราพบว่าชิมแปนซีนั้นห่วงใย 0:12:10.000,0:12:12.000 ความเป็นอยู่ของลิงตัวอื่นๆ 0:12:12.000,0:12:15.000 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันเป็นลิงที่เป็นสมาชิก[br]ของฝูงเดียวกัน 0:12:15.000,0:12:18.000 การทดลองสุดท้ายที่ผมอยากจะเล่าให้คุณฟัง 0:12:18.000,0:12:20.000 คือการศึกษาเรื่องความยุติธรรม 0:12:20.000,0:12:23.000 และมันได้กลายเป็นการศึกษาที่โด่งดัง 0:12:23.000,0:12:25.000 และตอนนี้ก็มีการศึกษาลักษณะเดียวกัน[br]อีกมากมาย 0:12:25.000,0:12:27.000 หลังจากการศึกษาของเราเมื่อ 10 ปีก่อน 0:12:27.000,0:12:29.000 มันเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง 0:12:29.000,0:12:31.000 เราทำการศึกษากับลิงคาปูชิน (capuchin) 0:12:31.000,0:12:34.000 และผมจะแสดงให้คุณเห็นถึงการทดลองที่เราได้ทำ 0:12:34.000,0:12:37.000 ซึ่งบัดนี้มันได้ถูกนำไปทดลองกับสุนัขและนก 0:12:37.000,0:12:39.000 และกับชิมแปนซี 0:12:39.000,0:12:43.000 แต่การทดลองนี้ซึ่งเราร่วมทำกับซาร่าห์ บรอสแนน (Sarah Brosnan) เราเริ่มทดลองกับลิงคาปูชิน 0:12:43.000,0:12:45.000 สิ่งที่เราได้ทำ 0:12:45.000,0:12:47.000 คือเราเอาลิงคาปูชินสองตัวไว้ในกรงติดๆกัน 0:12:47.000,0:12:49.000 และเช่นกัน สัตว์เหล่านี้อาศัยอยู่ในกลุ่มเดียวกัน[br]มันรู้จักกัน 0:12:49.000,0:12:52.000 เราเอามันออกมาจากฝูง และใส่ไว้ในห้องทดสอบ 0:12:52.000,0:12:54.000 และเรากำหนดงานง่ายๆ 0:12:54.000,0:12:56.000 ซึ่งพวกมันต้องทำ 0:12:56.000,0:12:59.000 และถ้าคุณให้แตงกวาเป็นรางวัลสำหรับงานที่ทำ 0:12:59.000,0:13:01.000 ลิงทั้งสองตัวที่อยู่ติดๆกัน 0:13:01.000,0:13:03.000 พวกมันเต็มอกเต็มใจจะทำงานนี้ 25 ครั้ง[br]ติดต่อกันเลย 0:13:03.000,0:13:07.000 ดังนั้น แตงกวา แม้ว่ามันเป็นเพียงแค่น้ำ[br]ในความคิดของผม 0:13:07.000,0:13:10.000 แต่พวกมันก็พอใจแล้วกับแค่แตงกวา 0:13:10.000,0:13:13.000 ทีนี้ ถ้าคุณเอาองุ่นให้ลิงตัวหนึ่ง 0:13:13.000,0:13:15.000 ซึ่งเป็นอาหารที่ชื่นชอบของลิงคาปูชิน 0:13:15.000,0:13:18.000 ซึ่งราคาในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็แพงกว่าด้วย 0:13:18.000,0:13:21.000 ดังนั้นถ้าคุณให้องุ่นกับพวกมัน[br]นั่นเป็นอาหารที่ดีกว่ามาก 0:13:21.000,0:13:24.000 นั่นแปลว่าคุณสร้างความไม่เท่าเทียมระหว่างพวกมัน 0:13:24.000,0:13:26.000 ดั้งนั้น นั่นคือการทดลองที่เราทำ 0:13:26.000,0:13:29.000 เมื่อเร็วๆนี้ เราบันทึกวิดีโอลิงคู่ใหม่[br]ที่ไม่เคยทำงานนี้มาก่อน 0:13:29.000,0:13:31.000 เราคิดว่าบางทีเราอาจได้การตอบสนองที่รุนแรงกว่า 0:13:31.000,0:13:33.000 และปรากฏว่าเราคิดถูก 0:13:33.000,0:13:35.000 ลิงตัวทางซ้าย คือลิงที่ได้แตงกวา 0:13:35.000,0:13:38.000 ลิงตัวทางขวา คือตัวที่ได้องุ่น 0:13:38.000,0:13:40.000 ตัวที่ได้แตงกวา 0:13:40.000,0:13:42.000 โปรดสังเกตว่าแตงกวาชิ้นแรกนั้นไม่มีปัญหาอะไรเลย 0:13:42.000,0:13:45.000 มันกินแตงกวาชิ้นแรก 0:13:45.000,0:13:48.000 แต่เมื่อมันเห็นลิงอีกตัวได้องุ่น[br]คุณจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น 0:13:48.000,0:13:51.000 มันให้ก้อนหินกับเรา นั่นคืองานที่เราให้ทำ 0:13:51.000,0:13:54.000 เราให้แตงกวาชิ้นหนึ่งแกมัน และมันก็กิน 0:13:54.000,0:13:57.000 ลิงอีกตัวต้องให้ก้อนหินกับเรา 0:13:57.000,0:14:00.000 และนั่นคือสืงที่มันทำ 0:14:00.000,0:14:03.000 และมันได้องุ่นเป็นรางวัล และมันก็กิน 0:14:03.000,0:14:05.000 อีกตัวหนึ่งมองเห็น 0:14:05.000,0:14:07.000 มันให้ก้อนหินกับเราอีก 0:14:07.000,0:14:10.000 และก็ได้แตงกวาอีก 0:14:12.000,0:14:27.000 (เสียงหัวเราะ) 0:14:27.000,0:14:30.000 มันทดสอบก้อนหินกับกำแพงดู 0:14:30.000,0:14:32.000 มันต้องเอาก้อนหินให้เรา 0:14:32.000,0:14:35.000 และมันก็ได้แตงกวาอีก 0:14:37.000,0:14:41.000 (เสียงหัวเราะ) 0:14:43.000,0:14:47.000 นี่มันคือการประท้วงตามวอลล์สตรีทดีๆนี่เอง 0:14:47.000,0:14:50.000 (เสียงหัวเราะ) 0:14:50.000,0:14:53.000 (เสียงปรบมือ) 0:14:53.000,0:14:55.000 ผมจะเล่าให้ฟัง 0:14:55.000,0:14:57.000 ผมยังเหลืออีกสองนาที ให้ผมเล่าเรื่องตลกๆ[br]ให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ 0:14:57.000,0:14:59.000 การศึกษานี้เป็นที่โด่งดัง 0:14:59.000,0:15:01.000 และเราได้รับคำวิจารณ์มากมาย 0:15:01.000,0:15:03.000 นักมานุษยวิทยา นักเศรษฐศาสตร์ 0:15:03.000,0:15:05.000 นักปราชญ์ 0:15:05.000,0:15:07.000 พวกเขาไม่ชอบมันเอาเสียเลย 0:15:07.000,0:15:10.000 ผมเชื่อว่า นั่นเป็นเพราะพวกเขามีความคิดอยู่ในใจ 0:15:10.000,0:15:12.000 ว่าความยุติธรรมนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน 0:15:12.000,0:15:14.000 และสัตว์ไม่มีทางรับรู้ถึงมัน 0:15:14.000,0:15:16.000 และนักการกุศลคนหนึ่งเขียนมาหาเรา 0:15:16.000,0:15:19.000 ว่ามันเป็นไปไม่ได้ว่าลิงไม่มีทางรับรู้ถึงความยุติธรรม 0:15:19.000,0:15:22.000 เพราะความยุติธรรมนั้นถูกสร้างขึ้นมา[br]ระหว่างยุคปฏิวัติฝรั่งเศส 0:15:22.000,0:15:24.000 (เสียงหัวเราะ) 0:15:24.000,0:15:27.000 ส่วนอีกคนเขียนมาเสียยาวยืด 0:15:27.000,0:15:31.000 ว่าเขาจะเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับความยุติธรรม 0:15:31.000,0:15:33.000 ก็ต่อเมื่อลิงตัวที่ได้องุ่นจะต้องปฏิเสธองุ่นนั้น 0:15:33.000,0:15:35.000 ที่ตลกก็คือ ซาราห์ บรอสแนน 0:15:35.000,0:15:37.000 ผู้ซึ่งทำการทดลองนี้ในชิมแปนซี 0:15:37.000,0:15:39.000 ทำการทดลองกับชิมแปนซีสองคู่ 0:15:39.000,0:15:42.000 และปรากฎว่าลิงตัวที่ต้องได้องุ่นจะปฏิเสธองุ่นนั้น 0:15:42.000,0:15:44.000 จนกว่าลิงอีกตัวจะได้องุ่นด้วย 0:15:44.000,0:15:47.000 ดังนั้นเราจึงเข้าใกล้มากแล้วสำหรับสิ่ง[br]ที่มนุษย์เรียกว่าความยุติธรรม 0:15:47.000,0:15:51.000 และผมคิดว่านักปราชญ์ควรคิดทบทวนปรัชญา[br]ของพวกเขาอีกสักพัก 0:15:51.000,0:15:53.000 ดังนั้น ผมจะกล่าวสรุป 0:15:53.000,0:15:55.000 ผมเชื่อว่าศีลธรรมนั้นมีวิวัฒนาการ 0:15:55.000,0:15:57.000 ผมคิดว่าศีลธรรมนั้นเป็นอะไร[br]มากกว่าสิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ 0:15:57.000,0:16:00.000 แต่มันคงเกิดขึ้นไม่ได้หากขาด[br]ส่วนประกอบเหล่านี้ 0:16:00.000,0:16:02.000 องค์ประกอบที่เราพบในลิงพันธุ์อื่นๆ 0:16:02.000,0:16:04.000 ซึ่งนั่นคือ ความเห็นอกเห็นใจ การปลอบโยน 0:16:04.000,0:16:07.000 การช่วยเหลือกันและกัน[br]และความรู้สึกถึงความยุติธรรม 0:16:07.000,0:16:10.000 และดังนั้นเราจึงศึกษาในเรื่องนี้ 0:16:10.000,0:16:13.000 เพื่อที่จะหาว่าเราสามารถสร้างศีลธรรมได้[br]จากจุดเริ่มต้น 0:16:13.000,0:16:15.000 โดยไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้าหรือศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง 0:16:15.000,0:16:18.000 และเพื่อหาว่าเราสามารถไปถึงศีลธรรม[br]ที่มีวิวัฒนาการแล้วได้หรือไม่ 0:16:18.000,0:16:21.000 ขอบคุณที่รับฟังครับ 0:16:21.000,0:16:30.000 (เสียงปรบมือ)