0:00:06.897,0:00:09.427 คุณกำลังขับรถอยู่บนทางหลวง[br]แล้วจู่ ๆ 0:00:09.427,0:00:12.347 ก็มีไฟเบรกรถปรากฏขึ้นอยู่หน้าคุณเต็มไปหมด 0:00:12.347,0:00:14.587 ไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีไฟจราจร 0:00:14.587,0:00:17.523 ไม่ได้มีการเปลี่ยนการจำกัดความเร็ว[br]หรือถนนแคบลง 0:00:17.523,0:00:21.007 แล้วเป็นเพราะ @#$%! อะไร[br]ถึงได้รถติดขนาดนี้ 0:00:21.007,0:00:24.587 เมื่อการจราจรติดขัด[br]โดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน 0:00:24.587,0:00:27.517 เราเรียกว่า รถติดลวง 0:00:27.517,0:00:30.417 รถติดลวงเป็นปรากฎการณ์[br]ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน 0:00:30.417,0:00:35.017 ซึ่งปรากฏการณ์นี้ควบคุมได้ยาก[br]และไม่ได้เกิดขึ้นโดยเดี่ยว ๆ 0:00:35.017,0:00:38.647 แต่อย่างไรก็ตาม[br]เราสามารถจำลองสถานการณ์รถติดแบบนี้ได้ 0:00:38.647,0:00:41.237 และยังเข้าใจหลักการ[br]ที่ทำให้เกิดขึ้นได้อีกด้วย 0:00:41.237,0:00:43.037 และเราก็เข้าใกล้เป้าหมาย 0:00:43.037,0:00:46.197 ที่จะป้องกันรถติดแบบนี้ได้[br]ในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว 0:00:46.197,0:00:51.090 การที่จะเกิดรถติดลวงได้นั้น[br]ต้องมีรถเป็นจำนวนมากบนถนน 0:00:51.090,0:00:54.210 แต่ไม่ได้หมายความว่า[br]การมีรถจำนวนมากวิ่งอยู่บนถนน 0:00:54.210,0:00:56.540 จะทำให้การจราจรติดขัด 0:00:56.540,0:01:01.123 อย่างน้อยนี่จะไม่เกิดขึ้นถ้ารถทุกคัน[br]รักษาความเร็วและระยะห่างที่เท่ากัน 0:01:01.123,0:01:02.563 จากรถคันอื่น ๆ 0:01:02.563,0:01:04.983 ในการจราจรที่หนาแน่น[br]แต่ยังเคลื่อนตัวได้อยู่นี้ 0:01:04.983,0:01:09.411 แค่มีการรบกวนเล็กน้อย[br]ก็สามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ลูกโซ่ 0:01:09.411,0:01:11.641 ที่ทำให้เกิดรถติดได้ 0:01:11.641,0:01:14.081 สมมุติว่ามีรถคันหนึ่งเบรกนิดเดียว 0:01:14.081,0:01:18.405 รถคันอื่น ๆ ที่ตามมาก็จะเบรก[br]มากกว่าเดิมอีกเล็กน้อย 0:01:18.405,0:01:21.845 ทำให้เกิดคลื่นของไฟเบรก[br]ที่ถ่ายทอดไปด้านหลัง 0:01:21.845,0:01:23.525 ตามรถที่อยู่บนถนน 0:01:23.525,0:01:28.514 คลื่นหยุด ๆ ไป ๆ เหล่านี้สามารถ[br]ถ่ายทอดไปบนทางหลวงได้หลายกิโลเมตร 0:01:28.514,0:01:31.051 เมื่อมีรถบนถนนไม่หนาแน่น 0:01:31.051,0:01:34.079 การจราจรก็จะลื่นไหล[br]เนื่องจากการรบกวนเล็กน้อย 0:01:34.079,0:01:38.451 เช่น รถเปลี่ยนเลน[br]หรือชะลอตรงทางโค้ง 0:01:38.451,0:01:41.271 รถคันอื่น ๆ สามารถปรับตัวตามได้ทัน 0:01:41.271,0:01:45.603 แต่เมื่อจำนวนรถบนถนน[br]หนาแน่นเกินค่าวิกฤติค่าหนึ่ง 0:01:45.603,0:01:50.028 ซึ่งโดยทั่วไปคือเมื่อรถอยู่ห่างกัน[br]น้อยกว่า 35 เมตร 0:01:50.028,0:01:53.318 พฤติกรรมของระบบ[br]ก็จะเปลี่ยนไปอย่างมาก 0:01:53.318,0:01:59.661 ทำให้เกิดความไม่เสถียรในการเคลื่อนที่[br]ซึ่งก็แปลว่าการรบกวนเล็กน้อยจะถูกขยายขึ้น 0:01:59.661,0:02:03.661 ความไม่เสถียรในการเคลื่อนที่นี้[br]ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในรถติดลวงเท่านั้น 0:02:03.661,0:02:10.046 แต่ยังมีส่วนในการสร้างหยดน้ำฝน[br]เนินทราย รูปแบบเมฆ และอื่น ๆ 0:02:10.046,0:02:13.326 ความไม่เสถียรนี้[br]เป็นวงจรแบบกระตุ้นย้อนกลับ 0:02:13.326,0:02:15.016 เมื่อเลยความหนาแน่นวิกฤติไปแล้ว 0:02:15.016,0:02:19.379 จำนวนรถที่เพิ่มขึ้นมา[br]จะลดจำนวนรถต่อวินาที 0:02:19.379,0:02:22.159 ที่ผ่านจุดจุดหนึ่งบนถนน 0:02:22.159,0:02:26.211 ซึ่งก็จะทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้น[br]เพื่อให้รถกลุ่มหนึ่ง 0:02:26.211,0:02:31.079 เคลื่อนที่ออกจากส่วนหนึ่งของถนน[br]ทำให้ความหนาแน่นของรถเพิ่มขึ้นไปอีก 0:02:31.079,0:02:35.187 ซึ่งในที่สุดก็จะทำให้เกิด[br]รถติดแบบหยุด ๆ ไป ๆ มากขึ้น 0:02:35.187,0:02:40.246 คนขับรถมักจะไม่ได้สังเกตว่า[br]ต้องเริ่มชะลอก่อนที่จะถึงส่วนที่รถติด 0:02:40.246,0:02:44.432 ซึ่งนั่นทำให้คันหลัง ๆ ต้องเบรก[br]แรงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ชนคันหน้า 0:02:44.432,0:02:48.695 การทำเช่นนี้ทำให้คลื่นการเบรก[br]จากรถสู่รถแรงขึ้นเรื่อย ๆ 0:02:48.695,0:02:53.371 นอกจากนี้ คนมักจะชอบเร่งรถเร็วเกินไป[br]หลังจากที่หยุดช้าลง 0:02:53.371,0:02:55.071 ซึ่งก็คือการพยายามขับรถเร็วกว่า 0:02:55.071,0:02:58.191 ความคล่องตัวของจราจร[br]ที่อยู่ด้านหน้า 0:02:58.191,0:03:02.713 จากนั้นก็จะต้องเบรกอีกครั้ง[br]ในที่สุดก็จะทำให้เกิดวงจรย้อนกลับอีก 0:03:02.713,0:03:05.813 ทำให้เกิดการจราจรแบบหยุด ๆ ไป ๆ 0:03:05.813,0:03:09.223 ในทั้งสองกรณีนี้ คนขับรถทำให้รถติดขึ้น 0:03:09.223,0:03:13.498 เพียงเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถ[br]ประเมินสภาพการจราจรด้านหน้าได้ดีพอ 0:03:13.498,0:03:18.018 รถที่ขับได้ด้วยตนเองที่มีข้อมูล[br]สภาพการจราจรด้านหน้า 0:03:18.018,0:03:21.058 จากรถที่เชื่อมต่อด้วย[br]หรือเซ็นเซอร์บนถนน 0:03:21.058,0:03:24.578 อาจจะสามารถแก้ปัญหา[br]รถติดลวงได้แบบเรียลไทม์ 0:03:24.578,0:03:29.058 รถเหล่านี้จะควบคุมให้ขับด้วย[br]ความเร็วที่เท่ากันและเว้นระยะได้ปลอดภัย 0:03:29.058,0:03:32.787 เข้ากันกับความเร็วเฉลี่ย[br]ของความคล่องตัวโดยรวมได้ 0:03:32.787,0:03:35.407 ทำให้ไม่เกิดคลื่นการจราจรขึ้น 0:03:35.407,0:03:38.217 ในสถานการณ์ที่[br]มีรถติดอยู่แล้ว 0:03:38.217,0:03:41.717 รถอัตโนมัติ[br]จะสามารถคาดเดาได้ 0:03:41.717,0:03:44.897 ทำให้เบรกได้ล่วงหน้าอย่างไม่กระทันหัน[br]มากกว่าการใช้คนขับรถ 0:03:44.897,0:03:47.977 และลดความรุนแรงของคลื่น 0:03:47.977,0:03:51.197 และก็ไม่ได้ต้องใช้รถที่ขับได้ด้วยตนเอง[br]หลายคันมาก 0:03:51.197,0:03:56.870 ในการทดลองเมื่อเร็ว ๆ นี้[br]รถอัตโนมัติหนึ่งคันต่อรถที่ใช้คนขับ 20 คัน 0:03:56.870,0:04:00.240 ก็เพียงพอที่จะลด[br]และป้องกันการเกิดคลื่นจราจรได้ 0:04:00.240,0:04:03.250 รถติดนั้นไม่ได้เป็นเพียง[br]ความน่ารำคาญในชีวิตประจำวันเท่านั้น 0:04:03.250,0:04:05.480 แต่ยังเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ 0:04:05.480,0:04:09.240 การสูญเสียทรัพยากร[br]และมลพิษที่เป็นอันตรายต่อโลกอีกด้วย 0:04:09.240,0:04:12.480 แต่เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยลด[br]รถติดแบบนี้ได้ 0:04:12.480,0:04:14.190 ทำให้ถนนของเราปลอดภัยมากขึ้น 0:04:14.190,0:04:18.010 การเดินทางประจำวันของเรามีประสิทธิภาพขึ้น[br]และอากาศของเราสะอาดขึ้น 0:04:18.010,0:04:20.130 และครั้งต่อไปที่คุณเจอรถติด 0:04:20.130,0:04:24.907 คุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่าคนขับรถ[br]คนอื่น ๆ อาจจะไม่ได้ขับรถอย่างไม่ใส่ใจ 0:04:24.907,0:04:30.207 แต่อาจจะแค่ไม่รู้ถึงสภาพถนนด้านหน้า[br]และขับตาม ๆ กันไปเท่านั้น