WEBVTT 00:00:00.873 --> 00:00:02.295 ใช้เวลาสักครู่ 00:00:02.319 --> 00:00:03.835 และจินตนาการเกี่ยวกับไวรัส NOTE Paragraph 00:00:04.913 --> 00:00:06.706 คิดถึงอะไรครับ 00:00:06.730 --> 00:00:07.983 ความเจ็บป่วย 00:00:08.007 --> 00:00:09.333 ความกลัว 00:00:09.357 --> 00:00:11.311 บางทีอาจเป็นบางอย่างท่ีไม่น่าพิสมัย 00:00:11.311 --> 00:00:13.858 อาจจะใช่ แต่ไวรัสแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน 00:00:13.958 --> 00:00:17.489 จริงอยู่ที่บางชนิดเป็นสาเหตุของโรคท่ีร้ายแรง 00:00:17.513 --> 00:00:21.600 แต่บางชนิดให้ผลไปด้านตรงกันข้าม พวกมันสามารถรักษาโรคได้ 00:00:21.624 --> 00:00:23.656 ไวรัสพวกนี้ถูกเรียกว่าเฟจ NOTE Paragraph 00:00:24.125 --> 00:00:27.434 ครั้งแรกท่ีผมได้ยินเกี่ยวกับเฟจนั้น ต้องย้อนไปในปีพศ.2556 00:00:27.458 --> 00:00:29.609 ในขณะนั้นพ่อตาของผมทำงานเป็นศัลยแพทย์ 00:00:29.633 --> 00:00:32.053 คุยกับผมเกี่ยวกับผู้หญิง ท่ีเขากำลังรักษาอยู่ 00:00:32.077 --> 00:00:35.196 ผู้หญิงคนนั้นบาดเจ็บท่ีเข่า และต้องได้รับการผ่าตัดหลายครั้ง 00:00:35.220 --> 00:00:36.673 ระหว่างการรักษา 00:00:36.697 --> 00:00:39.569 ขาของเธอได้ติดเชื้อแบคทีเรียเรื้อรัง 00:00:39.593 --> 00:00:40.853 โชคร้ายสำหรับเธอ 00:00:40.877 --> 00:00:43.910 เชื้อแบคทีเรียท่ีเป็นสาเหตุ ของการติดเชื้อไม่ตอบสนอง 00:00:43.934 --> 00:00:46.401 ต่อยาปฏิชีวนะท่ีมีอยู่ในขณะนั้น 00:00:46.807 --> 00:00:50.196 มาถึงจุดนี้ทางเลือกเดียวท่ีเหลือ ก็คือการตัดขาทิ้ง 00:00:50.220 --> 00:00:52.632 เพื่อท่ีจะยับยั้งการแพร่กระจาย ของเชื้อแบคทีเรีย 00:00:53.268 --> 00:00:56.799 ณ.จุดนี้พ่อตาของผมเข้าตาจนท่ีจะหาวิธีรักษา 00:00:56.823 --> 00:01:01.325 และทางเลือกสุดท้ายคือ เขาได้ทำการทดลองใช้เฟจท่ีจะรักษา 00:01:01.727 --> 00:01:03.593 เดาซิเกิดอะไรขึ้น มันรักษาได้ 00:01:03.617 --> 00:01:07.783 ภายใน3อาทิตย์หลังจากใช้เฟจ การติดเชื้อเรื้อรังก็หายดี 00:01:07.807 --> 00:01:10.474 ทั้งท่ีก่อนหน้านั้นไม่มียาปฏิชีวนะ ตัวไหนสามารถรักษาได้ 00:01:10.998 --> 00:01:14.913 ผมรู้สึกทึ่งและสนใจมาก กับความคิดท่ีแปลกประหลาดนี้ 00:01:15.522 --> 00:01:17.743 ไวรัสรักษาการติดเชื้อ 00:01:18.617 --> 00:01:22.093 ถึงตอนนี้ผมหลงไหลศักยภาพ ของเฟจทางด้านการแพทย์ 00:01:22.117 --> 00:01:25.785 และท่ีจริงแล้วผมลาออกจากงานปีที่แล้ว เพื่อก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับเฟจ NOTE Paragraph 00:01:26.760 --> 00:01:28.160 เฟจคืออะไร 00:01:29.465 --> 00:01:33.171 รูปท่ีคุณเห็นอยู่นี้ถ่ายโดยกล้องงจุลทัศน์อิเล็กตรอน 00:01:33.195 --> 00:01:36.929 นั่นหมายถึงสิ่งท่ีเราเห็นบนจอนั้นเล็กมากๆ 00:01:37.250 --> 00:01:41.017 เม็ดเล็กๆท่ีอยู่ตรงกลางของส่วนหัว ลำตัวท่ียาว 00:01:41.041 --> 00:01:42.490 และมีขาหลายขา 00:01:42.514 --> 00:01:45.204 นี่คือรูปร่างทั่วไปของเฟจ 00:01:45.228 --> 00:01:46.450 มันน่ารักใช่ไหมล่ะ NOTE Paragraph 00:01:46.474 --> 00:01:48.029 (หัวเราะ) NOTE Paragraph 00:01:48.958 --> 00:01:50.958 ตอนนี้มองไปท่ีมือของคุณสิ 00:01:51.829 --> 00:01:56.075 ทีมของเราประมาณว่า พวกคุณมีเฟจมากกว่าสิบพันล้านตัว 00:01:56.099 --> 00:01:57.566 บนมือแต่ละข้างของคุณ 00:01:57.940 --> 00:01:59.678 พวกมันกำลังทำอะไรอยู่ที่นั่นนะ NOTE Paragraph 00:01:59.702 --> 00:02:00.950 (หัวเราะ) NOTE Paragraph 00:02:00.974 --> 00:02:03.768 ใช่ไวรัสดีสำหรับเซลล์ท่ีติดเชื้อ 00:02:03.792 --> 00:02:06.006 และเฟจก็ดีกว่าสำหรับ เซลล์ท่ีติดเชื้อแบคทีเรีย 00:02:06.030 --> 00:02:08.458 และมือของคุณก็เหมือนกับส่วนอื่นของร่างกาย 00:02:08.482 --> 00:02:10.918 ท่ีมีอุณหภูมิเหมาะกับกิจกรรมของแบคทีเรีย 00:02:10.942 --> 00:02:14.180 ทำให้มันเป็นแหล่งล่าท่ีอุดมคติของเฟจ 00:02:14.204 --> 00:02:17.053 สุดท้ายแล้วเฟจก็เป็นตัวไล่ล่าแบคทีเรีย 00:02:17.910 --> 00:02:21.486 สิ่งท่ีจำเป็นต้องรู้คือเฟจเป็นนักล่า ท่ีจำเพาะมาก 00:02:22.014 --> 00:02:25.947 ปรกติเฟจชนิดหนึ่งสามารถ ฆ่าแบคทีเรียได้เพียงชนิดเดียวเท่านั้น 00:02:26.648 --> 00:02:29.640 ดังนั้นเฟจตัวอย่างท่ีคุณเห็นอยู่ตอนนี้ 00:02:29.664 --> 00:02:32.830 ล่าแค่แบคทีเรียชื่อ สเตปไฟโลค๊อกคัสออเรียสเท่านั้น 00:02:32.854 --> 00:02:36.109 ซึ่งเชื้อนี้เมื่อดื้อยาก็เป็นที่รู้จักกันในนาม เอ็มอาร์เอสเอ 00:02:36.133 --> 00:02:38.266 เชื้อนี้เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ ท่ีผิวหนังและบาดแผล NOTE Paragraph 00:02:39.069 --> 00:02:41.828 เฟจล่าโดยใช้ขาของมัน 00:02:42.364 --> 00:02:44.862 ขาของมันไวต่อตัวรับเป็นอย่างมาก 00:02:44.886 --> 00:02:47.761 มันมองหาพี้นผิวของผนังเซลล์ ของแบคทีเรียอย่างระมัดระวัง 00:02:48.158 --> 00:02:49.410 ทันทีท่ีพบแบคทีเรีย 00:02:49.434 --> 00:02:52.363 เฟจจะยึดแน่กับผนังเซลล์ของแบคทีเรีย 00:02:52.387 --> 00:02:53.987 หลังจากนั้นจะฉีดดีเอ็นเอเข้าไป 00:02:54.371 --> 00:02:56.037 ดีเอ็นเออยู่ท่ีส่วนหัวของเฟจ 00:02:56.061 --> 00:02:58.850 และเดินทางเข้าไปในแบคทีเรีย โดยผ่านทางลำตัวท่ียาวของเฟจ 00:02:59.307 --> 00:03:01.998 ถึงตอนนี้ เฟจจะเปลี่ยนโปรแกรมของแบคทีเรีย 00:03:02.022 --> 00:03:04.395 เพื่อท่ีจะผลิตเฟจใหม่ออกมามากมาย 00:03:04.419 --> 00:03:07.351 แบคทีเรียตัวนี้กลายเป็นโรงงานผลิตเฟจไปแล้ว 00:03:07.704 --> 00:03:11.664 เมื่อจำนวนของเฟจสะสมได้ 50-100ตัวภายในเซลล์ของแบคทีเรีย 00:03:11.688 --> 00:03:14.077 เฟจสามารถปล่อยโปรตีน 00:03:14.101 --> 00:03:16.177 ท่ีรบกวนผนังของเซลล์แบคทีเรีย 00:03:16.514 --> 00:03:19.680 ท้ายท่ีสุดผนังเซลล์ของแบคทีเรีย แตกออกและเฟจก็จะออกมา 00:03:19.704 --> 00:03:22.459 และออกไปล่าแบคทีเรียตัวใหม่ NOTE Paragraph 00:03:23.371 --> 00:03:26.466 ขอโทษท่ีอาจทำให้รู้สึกว่า ไวรัสนั้นน่ากลัวอีกแล้ว 00:03:27.220 --> 00:03:29.863 แต่ความสามารถท่ีแท้จริงของเฟจ 00:03:29.887 --> 00:03:32.578 เพี่อเพิ่มจำนวนภายในแบคทีเรีย และหลังจากนั้นก็ฆ่ามัน 00:03:32.602 --> 00:03:35.739 นี่ทำให้เฟจเป็นท่ีน่าสนใจในด้านการแพทย์ 00:03:35.763 --> 00:03:38.040 อีกส่วนหนึ่งท่ีผมคิดว่ามันน่าสนใจมาก 00:03:38.064 --> 00:03:40.318 คือความรู้ในเรื่องเฟจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 00:03:40.342 --> 00:03:43.826 5ปีท่ีแล้วผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเฟจเลย 00:03:43.850 --> 00:03:47.314 แต่ตอนนี้ผมบอกคุณได้เลยว่า เฟจเป็นส่วนหนึ่งของหลักการในธรรมชาติ 00:03:47.694 --> 00:03:51.702 วิวัฒนาการของเฟจและแบคทีเรียนั้น มีมาตั้งแต่ในอดีต 00:03:51.726 --> 00:03:55.227 พวกมันอยู่ด้วยกันมาตลอด และเฝ้าตรวจสอบซึ่งกันและกัน 00:03:55.765 --> 00:03:59.637 ดังนั้นมันก็คือเรื่องราวของ หยินและหยางของผู้ล่าและเหยื่อ 00:03:59.661 --> 00:04:01.245 ในระดับของจุลินทรีย์ 00:04:02.005 --> 00:04:04.236 นักวิทยาศาสตร์บางคนถึงกับประมาณว่า 00:04:04.260 --> 00:04:07.990 เฟจเป็นจุลินทรีย์ท่ีมีมากท่ีสุดบนโลก 00:04:08.863 --> 00:04:11.934 ดังนั้นก่อนท่ีจะพูดต่อเกี่ยวกับ ศักยภาพทางด้านการแพทย์ของเฟจ 00:04:11.958 --> 00:04:15.122 ผมคิดว่าทุกคนควรจะรู้เกี่ยวกับ เฟจและบทบาทของมันบนโลก 00:04:15.146 --> 00:04:17.546 พวกมันล่าติดเชื้อและฆ่าแบคทีเรีย NOTE Paragraph 00:04:18.550 --> 00:04:21.511 ทำไมพวกเรามีบางสิ่งท่ีทำงานได้ดีในธรรมชาติ 00:04:21.535 --> 00:04:23.926 ทุกวันทุกท่ีรอบๆตัวเรา 00:04:23.950 --> 00:04:25.704 และอาจจะในส่วนใหญ่ของโลก 00:04:25.728 --> 00:04:27.744 เราไม่มียาสักตัวในตลาด 00:04:27.768 --> 00:04:30.776 ท่ีใช้หลักการนี้ต่อสู้กับ การติดเชื้อแบคทีเรียเชียวหรือ 00:04:31.458 --> 00:04:35.276 คำตอบง่ายๆคือยังไม่มีใครพัฒนายาชนิดนี้ 00:04:35.300 --> 00:04:38.459 อย่างน้อยไม่มีอะไรท่ีสอดคล้องกับ มาตราฐานกฎหมายในประเทศตะวันตก 00:04:38.483 --> 00:04:40.684 ท่ีท่ีตั้งบรรทัดฐานหลายๆอย่างบนโลก 00:04:41.251 --> 00:04:44.089 เพื่อท่ีจะเข้าใจว่าทำไมเราจำเป็น ต้องย้อนเวลากับไปในตอนนั้น NOTE Paragraph 00:04:45.298 --> 00:04:47.496 นี่คือรูปของเฟลิกซ์ เดเฮเรล 00:04:47.520 --> 00:04:50.966 เขาคือหนึ่งในสองของนักวิทยาศาสตร์ ท่ีเชื่อว่าค้นพบเฟจ 00:04:50.990 --> 00:04:54.746 เว้นแต่ว่าเมื่อเขาค้นพบเฟจในปีพศ.2460 เขาไม่รู้เลย 00:04:54.770 --> 00:04:56.243 ว่าเขาค้นพบอะไร 00:04:56.720 --> 00:05:00.008 เขาสนใจในโรคที่เรียกว่าบิดไม่มีตัว 00:05:00.032 --> 00:05:02.905 ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่ เป็นสาเหตุของท้องเสียรุนแรง 00:05:02.929 --> 00:05:05.373 และในสมัยนั้นมันฆ่าคนมากมาย 00:05:05.397 --> 00:05:09.141 เพราะว่ายังไม่มีแนวทาง การรักษาการติดเชื้อของแบคทีเรีย 00:05:09.165 --> 00:05:13.075 เขากำลังศึกษาตัวอย่าง จากคนไข้ท่ีรอดตายจากการติดเชื้อ 00:05:13.099 --> 00:05:15.332 และเขาพบว่าบางสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น 00:05:15.356 --> 00:05:17.712 บางสิ่งในตัวอย่างกำลังฆ่าแบคทีเรีย 00:05:17.736 --> 00:05:19.926 ท่ีถูกสงสังสัยว่าเป็นสาเหตุของโรค NOTE Paragraph 00:05:19.950 --> 00:05:22.990 เพื่อท่ีจะค้นหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น เขาทำการทดลองที่ชาญฉลาด 00:05:23.395 --> 00:05:25.515 เขานำตัวอย่างมาและกรอง 00:05:25.539 --> 00:05:28.794 จนกระทั่งเขาแน่ใจว่า มีเพียงสิ่งเล็กๆท่ียังเหลืออยู่ 00:05:28.818 --> 00:05:33.063 และหลังจากนั้นเอาหยดเล็กๆของมันมา ใส่เชื้อแบคทีเรียท่ีเพาะมาใหม่ 00:05:33.087 --> 00:05:35.263 และเขาเฝ้าสังเกตมันหลายชั่วโมง 00:05:35.287 --> 00:05:37.252 แบคทีเรียถูกฆ่าตาย 00:05:37.276 --> 00:05:41.053 หลังจากนั้นเขาทำการทดลองซำ้ กรองนำหยดเล็กๆ 00:05:41.077 --> 00:05:43.651 ใส่เชื้อแบคทีเรียที่เพาะมาใหม่ 00:05:43.675 --> 00:05:46.182 เขาทำซำ้ตามลำดับขั้นตอนอย่างนี้50ครั้ง 00:05:46.206 --> 00:05:48.071 ผลท่ีได้เหมือนกันทุกครั้ง 00:05:48.095 --> 00:05:50.817 มาถึงตอนนี้เขาได้ข้อสรุป2ข้อ 00:05:50.841 --> 00:05:54.278 ข้อท่ีหนึ่งซึ่งแน่ชัด ใช่บางสิ่งกำลังฆ่าแบคทีเรีย 00:05:54.302 --> 00:05:55.798 และมันอยู่ในของเหลว 00:05:55.822 --> 00:05:58.607 อีกข้อนึงมันต้องเป็นสารชีวภาพในธรรมชาติ 00:05:58.631 --> 00:06:02.306 เพราะว่าแค่หยดเล็กๆของมันก็เพียงพอ ท่ีทำให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวง 00:06:02.853 --> 00:06:06.077 เขาเรียกสารท่ีเขาพบว่า จุลินทรีย์ที่มองไม่เห็น 00:06:06.101 --> 00:06:07.906 และตั้งชื่อมันว่าแบคทีริโอเฟจ 00:06:07.930 --> 00:06:10.363 ซึ่งแปลตามตัวอักษร หมายความว่าตัวกินแบคทีเรีย 00:06:10.800 --> 00:06:13.792 อย่างไรก็ตามนี่เป็นหนึ่ง ในส่วนใหญ่ของพื้นฐานการค้นพบ 00:06:13.816 --> 00:06:15.125 ของสาขาจุลชีววิทยาสมัยใหม่ 00:06:15.149 --> 00:06:19.363 ดังนั้นหลายๆวิธีการสมัยใหม่นำมาจาก ความเข้าใจของการทำงานของเฟจ 00:06:19.387 --> 00:06:21.681 ในการตัดแต่งพันธุกรรมและในสาขาอื่นด้วย 00:06:21.705 --> 00:06:24.664 วันนี้รางวัลโนเบลสาขาเคมีถูกประกาศ 00:06:24.688 --> 00:06:28.569 สำหรับสองนักวิทยาศาสตร์ท่ีทำงานกับเฟจ และพัฒนายาโดยอาศัยหลักการของมัน NOTE Paragraph 00:06:29.631 --> 00:06:31.758 ย้อนกลับในช่วงปีพศ.2453และ2473 00:06:31.782 --> 00:06:34.695 ผู้คนเห็นถึงศักยภาพของเฟจ ในด้านการแพทย์ทันที 00:06:34.719 --> 00:06:36.378 สุดท้ายแล้วถึงแม้มองไม่เห็นเฟจ 00:06:36.402 --> 00:06:38.925 คุณมีบางสิ่งท่ีน่าเชื่อถือ ว่ากำลังฆ่าแบคทีเรีย 00:06:39.489 --> 00:06:42.950 บริษัทท่ียังคงเปิดอยู่ทุกวันนี้ เช่นแอบบอด,สควิบหรือลิลลี่ 00:06:42.974 --> 00:06:44.574 ขายเฟจท่ีเตรียมพร้อม 00:06:45.204 --> 00:06:48.260 แต่ความจริงคือถ้าคุณกำลังเริ่มต้น กับจุลินทรีย์ที่มองไม่เห็น 00:06:48.284 --> 00:06:50.691 มันยากท่ีจะได้ยาท่ีน่าเชื่อเถื่อ 00:06:51.117 --> 00:06:53.109 แค่จินตนาการว่าวันนี้ไปท่ีแอฟดีเอ 00:06:53.133 --> 00:06:55.439 และบอกเขาทั้งหมดท่ีเกี่ยวกับไวรัสท่ีมองไม่เห็น 00:06:55.463 --> 00:06:57.056 ท่ีคุณต้องการให้กับคนไข้ 00:06:57.752 --> 00:07:00.672 ดังนั้นเมื่อยาปฏิชีวนะ เกิดขึ้นมาในช่วงปีพศ.2483 00:07:00.696 --> 00:07:02.787 พวกมันทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป 00:07:02.811 --> 00:07:04.819 และพวกมันมีบทบาทที่สำคัญ NOTE Paragraph 00:07:04.843 --> 00:07:06.137 นี่คืออเล็กซานเดอเฟลมมิงค์ 00:07:06.161 --> 00:07:07.970 ผู้ท่ีชนะรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ 00:07:07.994 --> 00:07:10.129 สำหรับการทำงานท่ีสนับสนุนการพัฒนา 00:07:10.153 --> 00:07:12.120 ยาปฏิชีวนะตัวแรกเพนนิซิลลิน 00:07:12.871 --> 00:07:16.998 และยาปฏิชีวนะค่อนข้างทำงานแตกต่างจากเฟจ 00:07:17.022 --> 00:07:19.799 หลักๆ ก็คือ ยาเหล่านี้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย 00:07:19.823 --> 00:07:22.895 และไม่ใส่ใจมากเกี่ยวกับ ชนิดของแบคทีเรียท่ีมีอยู่ 00:07:23.196 --> 00:07:25.126 ยากลุ่มที่เรียกว่า ออกฤทธิ์ในวงกว้าง 00:07:25.150 --> 00:07:28.742 สามารถต่อต้านแบคทีเรียท่ีมีอยู่ได้ทั้งหมด 00:07:28.766 --> 00:07:31.260 เมื่อเปรียบเทียบกับ การทำงานของเฟจซึ่งแคบมากๆ 00:07:31.284 --> 00:07:32.727 ต้านแค่แบคทีเรียเพียงชนิดเดียว 00:07:32.751 --> 00:07:34.806 คุณสามารถเห็นถึงประโยช์ท่ีชัดเจนของยาปฏิชีวนะ NOTE Paragraph 00:07:35.575 --> 00:07:38.426 ถ้ามองย้อนกลับไปในตอนนั้น จะต้องรู้สึกเหมือนความฝันเป็นจริง 00:07:38.450 --> 00:07:41.649 คุณมีผู้ป่วยท่ีสงสัยว่าติดเชื้อแบคทีเรีย 00:07:41.673 --> 00:07:43.268 คุณให้ยาปฏิชีวนะกับเขา 00:07:43.292 --> 00:07:46.451 และไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเป็นแบคทีเรียชนิดไหน 00:07:46.475 --> 00:07:47.649 ท่ีเป็นสาเหตุของโรค 00:07:47.673 --> 00:07:49.188 ผู้ป่วยหลายๆคนอาการดีขึ้น 00:07:49.212 --> 00:07:51.569 ดังนั้นพวกเราพัฒนายาปฏิชีวนะมาขึ้นเรื่อยๆ 00:07:51.593 --> 00:07:55.278 พวกมันกลายเป็นการรักษาอันดับแรก ท่ีใช้สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรีย 00:07:55.831 --> 00:08:00.069 และอีกอย่างหนึ่งพวกมันช่วยยืด อายุขัยเฉลี่ยของเราได้อย่างมากมาย 00:08:00.093 --> 00:08:02.799 ท่ีเราสามารถทำการสร้างสรรค์ การรักษาทางการแพทย์ที่ซับซ้อน 00:08:02.823 --> 00:08:04.466 และการผ่าตัดในปัจจุบันนี้ 00:08:04.490 --> 00:08:05.863 เป็นเพราะว่าเรามียาปฏิชีวนะ 00:08:05.887 --> 00:08:08.393 และพวกเราไม่เสี่ยงท่ีจะ เสียผู้ป่วยในวันถัดไป 00:08:08.417 --> 00:08:12.264 จากการติดเชื้อแบคทีเรีย ท่ีอาจจะติดมาระหว่างการผ่าตัด NOTE Paragraph 00:08:12.288 --> 00:08:16.178 ดังนั้นพวกเราเริ่มท่ีจะลืมเกี่ยวกับเฟจ โดยเฉพาะในการรักษาแบบแพทย์ตะวันตก 00:08:16.638 --> 00:08:20.372 และในจุดหนึ่ง ตอนผมกำลังโต ความเข้าใจของผมคือ 00:08:20.396 --> 00:08:24.228 พวกเราแก้ปัญหาการติดเชิ้อแบคทีเรีย ได้แล้วเพราะเรามียาปฏิชีวนะ 00:08:25.185 --> 00:08:27.908 แน่นอนว่าในตอนนี้ พวกเรารู้ว่ามันไม่จริง 00:08:28.553 --> 00:08:30.950 ปัจจุบันพวกคุณส่วนใหญ่ น่าจะเคยได้ยินถึงซุปเปอร์บัค 00:08:30.974 --> 00:08:33.111 แบคทีเรียพวกนั้นกลายเป็นแบคทีเรียท่ี 00:08:33.135 --> 00:08:37.649 ดื้อยาปฏิชีวนะเกือบหมดทุกตัว หรือหมดทุกตัว ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา 00:08:37.673 --> 00:08:39.273 เพื่อใช้รักษาการติดเชื้อ NOTE Paragraph 00:08:39.760 --> 00:08:41.094 เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร 00:08:41.118 --> 00:08:44.092 ใช่พวกเราไม่ได้ฉลาด อย่างท่ีเราคิด 00:08:44.578 --> 00:08:47.521 ในขณะท่ีเราเริ่มใช้ยาปฏิชีวนะทุกท่ี 00:08:47.545 --> 00:08:50.934 ในโรงพยาบาลเพื่อท่ีจะรักษาและป้องกัน ที่บ้านเพื่อรักษาหวัดธรรมดาๆ 00:08:50.958 --> 00:08:53.220 ในทุ่งปศุสัตว์เพื่อทำให้สัตว์สุขภาพแข็งแรง 00:08:53.244 --> 00:08:54.644 แบคทีเรียก็เริ่มมีวิวัฒนาการ 00:08:55.509 --> 00:08:59.358 ท่ามกลางโจมตีของยาปฏิชีวนะ ที่มีอยู่รายรอบตัวมัน 00:08:59.382 --> 00:09:02.401 ตัวที่รอดชีวิต เป็นพวกที่สามารถเปลี่ยนตัวมัน ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ดีที่สุด 00:09:03.017 --> 00:09:05.867 ปัจจุบันนี้พวกเราเรียกมันว่า แบคทีเรียท่ีดื้อยาปฏิชีวนะหลายตัว 00:09:06.283 --> 00:09:08.418 และผมจะใส่ตัวเลขท่ีน่ากลัวท่ีนี่ 00:09:08.442 --> 00:09:10.895 จากผลการศึกษาที่ิเพิ่งออกมา โดยรัฐบาลประเทศอังกฤษ 00:09:10.919 --> 00:09:13.315 ได้ประมาณว่าก่อนปีพศ.2593 00:09:13.339 --> 00:09:17.457 10ล้านคนจะตายทุกวันจากเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะหลายตัว 00:09:17.871 --> 00:09:21.014 เทียบกับ8ล้านคนท่ีตายจากมะเร็ง ต่อวันในตอนนี้ 00:09:21.038 --> 00:09:23.192 และคุณคงเห็นได้ว่ามันเป็นตัวเลขท่ีน่ากลัวจริงๆ NOTE Paragraph 00:09:23.792 --> 00:09:26.587 แต่ข่าวดีก็คือเฟจยังคงอยู่รอบๆ 00:09:27.014 --> 00:09:30.220 และขอบอกคุณอย่างหนึ่งว่าพวกมัน ไม่ปลื้มการดื้อยาปฏิชีวนะสักเท่าไหร่ NOTE Paragraph 00:09:30.244 --> 00:09:31.395 (หัวเราะ) NOTE Paragraph 00:09:31.419 --> 00:09:37.172 เฟจก็แค่มีความสุขท่ีได้ฆ่า และล่าแบคทีเรียรอบๆตัวเรา 00:09:38.028 --> 00:09:41.329 และพวกมันก็ยังคงเลือกฆ่าเฉพาะ แบคทีเรียท่ีต้องการซึ่งก็ดีมาก 00:09:41.353 --> 00:09:44.837 ทุกวันนี้พวกเราสามารถบ่งชี้แบคทีเรีย ท่ีทำให้เกิดโรคติดเขื้อ 00:09:44.861 --> 00:09:47.355 ได้อย่างน่าเชื่อถือในหลายๆ สถานการณ์ 00:09:47.379 --> 00:09:50.477 และความช่างเลือกของเฟจนี้เอง จะช่วยเราหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง 00:09:50.501 --> 00:09:54.045 ท่ีปรกติมักจะเกี่ยวข้องกับการใช้ ยาปฏิชีวนะท่ีออกฤทธิ์กว้างขวาง 00:09:54.609 --> 00:09:58.442 แต่ข่าวดีท่ีสุดของทั้งหมดอาจจะเป็นที่ว่า เฟจไม่ใช่จุลินทรีย์ที่มองไม่เห็นอีกต่อไป 00:09:58.466 --> 00:09:59.791 พวกเรามองเห็นพวกมัน 00:09:59.815 --> 00:10:01.260 เราเห็นมันด้วยกันก่อนหน้านี้ 00:10:01.284 --> 00:10:03.132 เราสามารถวิเคราะห์ ลำดับดีเอ็นเอของพวกมัน 00:10:03.156 --> 00:10:04.752 เราเข้าใจว่าพวกมัน เพิ่มจำนวนอย่างไร 00:10:04.776 --> 00:10:06.664 และเราเข้าใจถึงข้อจำกัดของมัน 00:10:06.688 --> 00:10:08.055 พวกเราอยู่ในจุดท่ีดี 00:10:08.079 --> 00:10:12.093 ท่ีจะพัฒนายาท่ีเข้มแข็ง และน่าเชื่อถือท่ีมีรากฐานมาจากเฟจ NOTE Paragraph 00:10:12.117 --> 00:10:14.299 และมันก็กำลังเกิดขึ้นรอบๆโลก 00:10:14.323 --> 00:10:17.078 บริษัทของเทคโนโลยีชีวภาพ มากกว่า10บริษัทรวมถึงบริษัทของเรา 00:10:17.102 --> 00:10:20.687 กำลังพัฒนาการประยุกต์ใช้เฟจ ในการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียในมนุษย์ 00:10:20.711 --> 00:10:24.918 การทดลองทางคลินิค กำลังดำเนินอยู่ในยุโรปและอเมริกา 00:10:25.751 --> 00:10:28.061 ดังนั้น ผมเชื่อมั่นว่าพวกเรา กำลังยืนอยู่บนโค้งสุดท้าย 00:10:28.085 --> 00:10:30.045 ก่อนถึงของยุคในการฟื้นฟูการรักษาด้วยเฟจ 00:10:30.069 --> 00:10:34.297 และสำหรับผม วิธีอ้างถึงเฟจที่ถูกต้อง ควรต้องแสดงภาพนี้ NOTE Paragraph 00:10:34.855 --> 00:10:37.347 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:10:37.371 --> 00:10:40.847 สำหรับผมแล้วเฟจเป็นยอดมนุษย์ ท่ีพวกเรากำลังรอคอย 00:10:40.871 --> 00:10:43.960 เพื่อการต่อสู้ของพวกเรา ต่อการติดเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะหลายตัว NOTE Paragraph 00:10:44.617 --> 00:10:47.125 ดังนั้นครั้งหน้าท่ีคุณคิดถึงไวรัส 00:10:47.149 --> 00:10:48.749 เก็บภาพนี้ไว้ในใจ 00:10:49.236 --> 00:10:52.220 สุดท้ายแล้วในวันหนึ่งเฟจอาจจะช่วยชีวิตคุณก็ได้ NOTE Paragraph 00:10:52.810 --> 00:10:54.000 ขอบคุณ NOTE Paragraph 00:10:54.024 --> 00:10:59.992 (เสียงปรบมือ)