0:00:00.130,0:00:02.572 ไม่ว่าคุณจะคร่ำเคร่งเตรียมสอบ 0:00:02.596,0:00:05.777 หรือพยายามเรียนรู้[br]เครื่องดนตรีชนิดใหม่ 0:00:05.801,0:00:08.436 หรือแม้กระทั่งพยายามที่จะ[br]เป็นเลิศในการเล่นกีฬาชนิดใหม่ 0:00:08.460,0:00:12.166 การนอนอาจเป็นอาวุธลับแห่งความจำ 0:00:12.190,0:00:14.999 [การนอนหลับกับวิทยาศาสตร์] 0:00:17.180,0:00:21.327 การศึกษาบอกกับเราว่า[br]การนอนสำคัญมากกับความจำ 0:00:21.351,0:00:23.171 ในอย่างน้อย 3 ทาง 0:00:23.195,0:00:26.566 ประการแรก[br]เรารู้ว่าเราต้องนอนก่อนการเรียนรู้ 0:00:26.590,0:00:28.686 เพื่อที่จะเตรียมสมองให้พร้อม 0:00:28.710,0:00:31.113 เหมือนกับฟองน้ำแห้ง ๆ 0:00:31.137,0:00:33.796 พร้อมสำหรับดูดซึมข้อมูลใหม่ ๆ 0:00:33.820,0:00:37.526 ถ้าไม่ได้นอน วงจรความจำภายในสมอง 0:00:37.550,0:00:40.506 ก็จะเต็มไปด้วยข้อมูลที่ได้ก่อนหน้านี้ 0:00:40.530,0:00:43.276 และเราจะไม่สามารถรับข้อมูลใหม่ ๆ ได้ 0:00:43.300,0:00:47.326 เราจะไม่สามารถหาพื้นที่ให้ความจำใหม่ ๆ ได้ 0:00:47.350,0:00:51.146 แต่มันไม่ได้สำคัญแค่ว่าเราต้องนอน[br]ก่อนการเรียนรู้ 0:00:51.170,0:00:54.766 เพราะเรายังรู้อีกว่า[br]เราต้องนอนหลังการเรียนรู้ด้วย 0:00:54.790,0:00:58.106 เพื่อที่จะบันทึกความจำใหม่ ๆ เหล่านั้น 0:00:58.130,0:00:59.686 เพื่อที่เราจะไม่ลืม 0:00:59.710,0:01:04.336 ความจริงแล้ว การนอนหลับ[br]ช่วยให้ความจำยังคงอยู่ 0:01:04.360,0:01:05.716 ภายในสมอง 0:01:05.740,0:01:07.741 ฝังความจำเหล่านั้นไว้ 0:01:07.765,0:01:11.236 ภายในสถาปัตยกรรมของโครงข่ายประสาท 0:01:11.260,0:01:13.090 และเราเริ่มค้นพบว่า 0:01:13.114,0:01:19.716 การนอนมีประโยชน์ต่อ[br]การสร้างความทรงจำได้อย่างไร 0:01:19.740,0:01:24.966 กลไกแรกคือ[br]กระบวนการถ่ายโอนข้อมูล 0:01:24.990,0:01:27.816 ตรงนี้ เราสามารถพูดถึง[br]โครงสร้างที่ต่างกันสองส่วน 0:01:27.840,0:01:28.996 ภายในสมอง 0:01:29.020,0:01:31.876 โครงสร้างแรกเรียกว่า[br]ฮิปโปแคมปัส 0:01:31.900,0:01:34.676 ฮิปโปแคมปัสอยู่ตรงด้านซ้ายและขวา 0:01:34.700,0:01:35.976 ของสมอง 0:01:36.000,0:01:37.936 เราสามารถนึกถึงฮิปโปแคมปัส 0:01:37.960,0:01:41.586 ว่าเป็นเหมือนกล่องรับข้อความ[br]ภายในสมอง 0:01:41.610,0:01:44.376 มันเก่งในเรื่อง[br]การรับข้อมูลความจำใหม่ ๆ 0:01:44.400,0:01:45.776 และเก็บเอาไว้ 0:01:45.800,0:01:48.266 โครงสร้างที่สอง[br]ที่เราจะพูดถึง 0:01:48.290,0:01:49.786 เรียกว่า เปลือกสมอง 0:01:49.810,0:01:53.666 เนื้อเยื่อย่น ๆ ขนาดใหญ่[br]ที่อยู่ชั้นบนสุดของสมอง 0:01:53.690,0:01:55.776 ระหว่างการนอนหลับลึก 0:01:55.800,0:01:58.656 จะเกิดกลไกการโอนถ่ายข้อมูล 0:01:58.680,0:02:01.686 นึกถึงฮิปโปแคมปัสเหมือน USB 0:02:01.710,0:02:04.496 และเปลือกสมองเป็นเหมือนฮาร์ดไดรฟ์ 0:02:04.520,0:02:06.466 ระหว่างวัน เราทำนั่นทำนี่ 0:02:06.490,0:02:08.416 และเรารวบรวมข้อมูลมาจำนวนมาก 0:02:08.440,0:02:10.956 จากนั้นระหว่างนอนหลับลึกตอนกลางคืน 0:02:10.980,0:02:13.586 เนื่องจากข้อจำกัดในความสามารถในการจัดเก็บ 0:02:13.610,0:02:17.106 เราจะต้องโอนถ่ายข้อมูลจากฮิปโปแคมปัส 0:02:17.130,0:02:20.156 ไปยังฮาร์ดไดรฟ์ของสมอง หรือเปลือกสมอง 0:02:20.180,0:02:22.436 และนั่นคือหนึ่งในกลไก 0:02:22.460,0:02:24.516 ที่เกิดจากการนอนหลับลึก 0:02:24.540,0:02:28.196 มันมีอีกหนึ่งกลไกที่เราเพิ่งพบ 0:02:28.220,0:02:31.686 ซึ่งช่วยฝังความจำไว้ในสมอง 0:02:31.710,0:02:34.026 มันเรียกว่า การเล่นซ้ำ 0:02:34.050,0:02:35.216 หลายปีก่อน 0:02:35.240,0:02:39.225 นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษา[br]ว่าหนูเรียนรู้ได้อย่างไร 0:02:39.249,0:02:41.316 ระหว่างที่พวกมันวิ่งไปทั่วเขาวงกต 0:02:41.340,0:02:45.796 พวกเขาบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้น[br]กับสมองส่วนความจำของหนู 0:02:45.820,0:02:48.146 ในขณะที่หนูวิ่งไปทั่วเขาวงกต 0:02:48.170,0:02:52.726 เซลล์สมองแต่ละเซลล์[br]จะจดจำเขาวงกตแต่ละส่วนเอาไว้ 0:02:52.750,0:02:56.422 ถ้าคุณใส่เสียงลงไปในแต่ละเซลล์สมอง 0:02:56.446,0:03:00.086 สิ่งที่คุณจะได้ยิน[br]เมื่อหนูเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับเขาวงกต 0:03:00.110,0:03:02.106 คือเสียงประจำของส่วนความจำนั้น 0:03:02.130,0:03:03.863 มันจะเสียงประมาณนี้... 0:03:03.863,0:03:07.696 (เสียงคีย์เปียโน) 0:03:07.720,0:03:11.876 มันคือเสียงของการเรียนรู้ที่เราได้ยิน 0:03:11.900,0:03:14.626 แต่แล้วพวกเขาก็ทำอะไรบางอย่างที่ชาญฉลาด 0:03:14.650,0:03:19.236 พวกเขาฟังเสียงของสมอง[br]ขณะที่หนูพวกนี้หลับด้วย 0:03:19.260,0:03:21.668 และสิ่งที่พวกเขาได้ยิน มันไม่ธรรมดา 0:03:21.692,0:03:23.816 หนู ตอนที่มันหลับ 0:03:23.840,0:03:28.676 จะเริ่มเล่นความทรงจำของพวกมันซ้ำ 0:03:28.700,0:03:33.066 แต่ตอนนี้มันเล่นซ้ำ[br]แบบเร็วขึ้นเกือบ 10 เท่า 0:03:33.090,0:03:35.236 กว่าตอนที่มันตื่น 0:03:35.260,0:03:37.613 ซึ่งคุณจะเริ่มได้ยิน... 0:03:37.637,0:03:40.636 (เสียงคีย์เปียโนที่เร็วขึ้น) 0:03:40.660,0:03:42.656 นั่นเป็นอย่างที่สอง 0:03:42.680,0:03:45.896 ที่การนอนช่วยให้เราความจำดีขึ้น 0:03:45.920,0:03:50.376 การนอนหลับช่วยเล่นซ้ำ[br]และบันทึกความทรงจำ 0:03:50.400,0:03:52.726 ให้เป็นวงจรใหม่ในสมอง 0:03:52.750,0:03:55.586 ทำให้การแสดงหน่วยความจำนั้นแข็งแกร่งขึ้น 0:03:55.610,0:03:58.936 ประโยชน์ของการนอนต่อความจำประการสุดท้าย 0:03:58.960,0:04:01.746 คือการผสานและการเชื่อมโยง 0:04:01.770,0:04:03.586 ความจริงแล้วเราได้รู้ว่าการนอน 0:04:03.610,0:04:06.696 เป็นเรื่องที่ฉลาดมากกว่าที่เราเคยคิด 0:04:06.720,0:04:10.906 การนอนหลับ[br]ไม่เพียงแค่เสริมสร้างความทรงจำของแต่ละคน 0:04:10.930,0:04:15.776 การนอนยังช่วยเชื่อมโยง[br]ความทรงจำใหม่ ๆ เข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด 0:04:15.800,0:04:17.007 และผลลัพธ์คือ 0:04:17.031,0:04:19.006 คุณตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น 0:04:19.030,0:04:24.216 พร้อมกับโครงข่ายของความเชื่อมโยง[br]ที่ได้ปรับปรุงใหม่ 0:04:24.240,0:04:29.546 เราสามารถคิดทางออก[br]สำหรับปัญหาที่เคยติดขัด 0:04:29.570,0:04:31.131 และนี่อาจจะเป็นเหตุผล 0:04:31.155,0:04:35.726 ที่ไม่เคยมีใครบอกให้คุณ[br]แหกตาตื่นเพื่อแก้ปัญหา 0:04:35.750,0:04:39.616 ตรงกันข้าม คุณจะถูกบอกให้ไปนอนคิดซะ 0:04:39.640,0:04:42.819 และนั่นคือสิ่งที่วิทยาศาสตร์สอนเรา