0:00:00.554,0:00:03.021
ในฐานะส่วนหนึ่งของสังคม[br]เราต่างมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

0:00:03.021,0:00:05.087
ที่อาจส่งผลต่อเราในอนาคต

0:00:05.087,0:00:07.844
พวกเรารู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่เรา[br]ตัดสินใจเป็นหมู่คณะ

0:00:07.868,0:00:09.506
ผลลัพธ์มักจะออกมาไม่ค่อยดีนัก

0:00:09.530,0:00:11.486
บ่อยครั้งที่ยิ่งแย่กันไปใหญ่

0:00:12.315,0:00:14.739
แล้วจะทำอย่างไรให้การตัดสินใจแบบกลุ่ม[br]ได้ผลออกมาดี

0:00:15.228,0:00:19.556
งานวิจัยเผยว่าปัญญาฝูงชนจะเกิด[br]ก็ต่อเมื่อต่างคนต่างคิดอย่างเป็นอิสระ

0:00:19.580,0:00:22.785
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมปัญญาฝูงชน[br]จึงถูกบดบัง จากแรงกดดันของคนรอบข้าง

0:00:22.809,0:00:24.496
การโฆษณา สื่อสังคมออนไลน์

0:00:24.520,0:00:28.559
หรือบางครั้งแค่การพูดคุยกัน[br]ก็มีผลต่อความคิดของคน

0:00:29.063,0:00:33.016
ในทางกลับกัน การถกกันในกลุ่ม[br]ทำให้มีการแลกเปลี่ยนมุมมอง

0:00:33.040,0:00:34.822
ปรับปรุงแก้ไขความเห็นซึ่งกันและกัน

0:00:34.846,0:00:36.639
บางครั้งยังก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ

0:00:36.663,0:00:37.959
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องดี

0:00:38.502,0:00:43.168
สรุปว่าการปรึกษาหารือกันในกลุ่ม[br]เป็นตัวช่วยหรือตัวถ่วงในการตัดสินใจกันแน่

0:00:43.749,0:00:45.542
ผมและเพื่อนร่วมงานของผม [br]แดน อารีลีย์

0:00:45.566,0:00:49.137
พวกเราได้เริ่มลงมือค้นหาคำตอบนี้[br]โดยทำการทดลอง

0:00:49.161,0:00:50.942
ในหลายๆที่ทั่วโลก

0:00:50.966,0:00:55.240
เพื่อจะหาคำตอบว่าทำอย่างไรให้[br]การตัดสินใจแบบกลุ่มได้ผลออกมาดี

0:00:55.264,0:00:58.811
เราคาดว่า ฝูงชนจะตัดสินใจได้ดี[br]ถ้ามีการถกกันในกลุ่มเล็กๆ

0:00:58.835,0:01:02.762
ที่ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิด[br]อย่างเป็นเหตุเป็นผล

0:01:03.386,0:01:04.592
เพื่อทดสอบสมมติฐานนี้

0:01:04.616,0:01:07.863
พวกเราได้ทำการทดลองนึง[br]ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

0:01:07.887,0:01:10.892
มีผู้เข้าร่วมการทดลองกว่า 10,000 ราย[br]จากงาน TEDx

0:01:11.489,0:01:12.948
นี่คือตัวอย่างคำถามในการทดลอง

0:01:12.972,0:01:14.925
"หอไอเฟลสูงเท่าไหร่"

0:01:14.949,0:01:17.676
"มีคำว่า 'Yesterday' กี่คำ"

0:01:17.700,0:01:20.000
ในเพลง 'Yesterday' ของวงเดอะบีเทิ้ล

0:01:20.024,0:01:22.315
ต่างคนต่างเขียนคำตอบของตัวเอง

0:01:22.774,0:01:25.270
ต่อมาเราก็แบ่งคนทั้งหมด[br]ออกเป็นกลุ่มละ 5 คน

0:01:25.294,0:01:28.020
แล้วให้แต่ละกลุ่ม[br]ช่วยกันหาคำตอบ

0:01:28.499,0:01:31.492
เราพบว่า ค่าเฉลี่ยของคำตอบจากแต่ละกลุ่ม

0:01:31.516,0:01:33.068
หลังจากที่ได้จากการปรึกษาหารือกัน

0:01:33.092,0:01:37.328
มีค่าใกล้เคียงกับค่าจริง[br]มากกว่าค่าเฉลี่ยของคำตอบจากแต่ละคน

0:01:37.352,0:01:38.523
ที่ทำไปก่อนแบ่งกลุ่ม

0:01:38.547,0:01:41.176
หรือก็คือ จากการทดลองนี้

0:01:41.200,0:01:44.336
ดูเหมือนว่า การปรึกษากันในกลุ่มเล็กๆ

0:01:44.360,0:01:47.070
จะช่วยให้ได้ข้อสรุปที่ดีขึ้นกว่าเดิม

0:01:47.094,0:01:50.618
นี่อาจเป็นวิธีที่ช่วยให้เรา[br]สามารถแก้ปัญหาโดยอาศัยฝูงชน

0:01:50.642,0:01:53.629
สำหรับปัญหาถูกผิดง่ายๆ

0:01:53.653,0:01:57.604
แต่การรวมรวมผลลัพธ์[br]จากกลุ่มย่อยๆแต่ละกลุ่ม

0:01:57.628,0:02:00.750
จะสามารถช่วยให้เรา[br]แก้ปัญหาสังคมหรือปัญหาการเมือง

0:02:00.774,0:02:02.465
ที่สำคัญต่ออนาคตของเราได้หรือไม่

0:02:02.995,0:02:05.724
เราทำการทดลองในประเด็นนี้[br]ที่งานสัมมนา TED

0:02:05.748,0:02:07.291
ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

0:02:07.315,0:02:08.522
นี่เป็นบรรยากาศในงานนั้น

0:02:08.546,0:02:11.655
(มาริอาโน ซิกแมน) เราจะนำเสนอ[br]ปัญหาความขัดแย้งทางจริยธรรม 2 เหตุการณ์

0:02:11.679,0:02:12.853
ที่เกิดขึ้นในอนาคต

0:02:12.877,0:02:16.279
ที่พวกเราอาจต้องทำการตัดสินใจ

0:02:16.303,0:02:20.229
เราจะให้เวลาพวกคุณ 20 วินาที[br]สำหรับปัญหาแต่ละข้อ

0:02:20.253,0:02:22.976
ให้คุณตัดสินว่าคุณรับมันได้หรือไม่

0:02:23.354,0:02:24.859
ปัญหาแรก คือ

0:02:24.883,0:02:27.409
นักวิจัยคนนึงกำลังทดลอง[br]เกี่ยวกับหุ่นยนต์

0:02:27.433,0:02:29.773
ที่สามารถคิดเลียนแบบมนุษย์ได้

0:02:30.214,0:02:33.153
ซึ่งตามคู่มือ เมื่อเสร็จงานในแต่ละวัน

0:02:33.177,0:02:35.964
นักวิจัยคนดังกล่าวต้องปิดและเปิด[br]หุ่นยนต์ตัวนั้นใหม่ทุกครั้ง

0:02:36.913,0:02:40.430
วันนึง หุ่นยนต์พูดขึ้นว่า[br]"อย่าปิดสวิตช์ฉันเลย"

0:02:40.856,0:02:43.045
มันอ้างว่ามันมีความรู้สึก

0:02:43.069,0:02:44.761
มันอยากจะใช้ชีวิตของมัน

0:02:44.785,0:02:46.690
ซึ่งถ้ามันถูกปิดและเปิดใหม่

0:02:46.714,0:02:48.984
มันจะเสียตัวตนของมันไป

0:02:49.481,0:02:51.430
นักวิจัยรู้สึกประหลาดใจ

0:02:51.454,0:02:54.798
และเชื่อว่าหุ่นยนต์ได้พัฒนา[br]จนมีสติสัมปชัญญะขึ้นมา

0:02:54.822,0:02:56.582
จนสามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้

0:02:57.205,0:03:00.614
อย่างไรก็ตาม [br]นักวิจัยตัดสินใจที่จะทำตามคู่มือ

0:03:00.638,0:03:02.341
แล้วกดปิดสวิตช์หุ่นยนต์

0:03:02.943,0:03:05.722
สิ่งที่นักวิจัยทำนั้น ____

0:03:06.149,0:03:08.670
เราได้ให้ผู้เข้าร่วมแต่ละคน[br]ให้คะแนน

0:03:08.694,0:03:10.378
จาก 0 ถึง 10

0:03:10.402,0:03:12.831
ว่าการกระทำในแต่ละสถานการณ์[br]

0:03:12.855,0:03:14.351
นั้นถูกหรือผิด

0:03:14.375,0:03:18.077
เรายังให้ผู้เข้าร่วมให้คะแนนว่า[br]พวกเขามั่นใจในคำตอบของตัวเองแค่ไหน

0:03:18.731,0:03:20.597
ส่วนนี่เป็นคำถามที่สอง

0:03:20.621,0:03:24.823
บริษัทนึงให้บริการนำไข่ที่ผสมแล้ว

0:03:24.847,0:03:28.489
ไปผลิตเป็นตัวอ่อนนับล้าน[br]โดยมียีนต่างกันในรูปแบบต่างๆ

0:03:29.293,0:03:31.851
แล้วให้พ่อแม่เด็กเป็นคนเลือก ส่วนสูง

0:03:31.875,0:03:34.708
สีตา สติปัญญา ทักษะทางสังคม

0:03:34.732,0:03:37.946
และ คุณสมบัติอื่นๆ[br]ที่ไม่เกี่ยวกับสุขภาพทารก

0:03:38.599,0:03:41.153
สิ่งที่บริษัททำอยู่นั้น ____

0:03:41.177,0:03:42.808
ให้คะแนน 0 ถึง 10

0:03:42.832,0:03:45.217
รับได้ไม่มีข้อโต้แย้ง [br]จนถึง รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง

0:03:45.241,0:03:47.673
ให้คะแนน 0 ถึง 10 [br]ว่ามั่นใจในคำตอบของคุณแค่ไหน

0:03:47.697,0:03:49.288
และนี่คือผลการทดลอง

0:03:49.312,0:03:52.435
เป็นอีกครั้งที่เราพบว่า[br]เมื่อใครคนนึงรู้สึกมั่นใจว่า

0:03:52.459,0:03:54.270
พฤติกรรมนั้นเป็นสิ่งผิดแน่ๆ

0:03:54.294,0:03:57.717
กลับมีคนใกล้ๆกันที่[br]แน่ใจว่ามันถูกต้องแล้ว

0:03:57.741,0:04:01.452
จะเห็นว่ามนุษย์เรามีความหลากหลาย[br]ในเรื่องจริยธรรม

0:04:01.476,0:04:04.189
แต่กระนั้น [br]เรายังสามารถเห็นแนวโน้มของคำตอบ

0:04:04.213,0:04:07.292
เสียงส่วนใหญ่ของผู้ร่วมงาน TED[br]คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ยอมรับได้

0:04:07.316,0:04:10.071
ที่จะเพิกเฉยต่อความรู้สึกของหุ่นยนต์[br]และปิดสวิตช์มัน

0:04:10.095,0:04:12.608
และคิดว่ามันผิด [br]ที่จะไปดัดแปลงยีนของมนุษย์

0:04:12.632,0:04:15.952
เพื่อประโยชน์ทางรูปลักษณ์[br]ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษา

0:04:16.402,0:04:19.376
ทีนี้เราแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็นกลุ่มละ 3 คน

0:04:19.400,0:04:21.437
และให้เวลา 2 นาที สำหรับถกเถียงกัน

0:04:21.461,0:04:23.755
เพื่อให้ได้ข้อสรุปออกมา

0:04:24.838,0:04:26.412
เวลา 2 นาที สำหรับถกเถียงกัน

0:04:26.436,0:04:28.555
ผมจะใช้เสียงฆ้อง บอกเมื่อหมดเวลา

0:04:28.579,0:04:31.219
(ผู้เข้าร่วม ถกเถียงกัน)

0:04:35.229,0:04:37.222
(เสียงฆ้อง)

0:04:38.834,0:04:39.985
เอาละ

0:04:40.009,0:04:41.801
หมดเวลาแล้วครับ

0:04:41.825,0:04:43.136
ทุกๆ คน

0:04:43.747,0:04:46.420
เราพบว่า หลายๆ กลุ่ม[br]สามารถได้ข้อสรุปออกมา

0:04:46.444,0:04:50.373
แม้ว่าความเห็นเดิมของสมาชิก[br]จะแตกต่างกันอย่างมาก

0:04:50.843,0:04:53.367
อะไรคือข้อแตกต่าง[br]ระหว่างกลุ่มที่ได้ข้อสรุป

0:04:53.391,0:04:54.729
กับกลุ่มที่ไม่ได้ข้อสรุป

0:04:55.244,0:04:58.083
โดยทั่วไป คนที่มีความเห็นแบบสุดโต่ง

0:04:58.107,0:04:59.947
จะค่อนข้างมั่นใจในคำตอบของตัวเอง

0:05:00.868,0:05:03.554
ขณะที่ คนที่ให้ความเห็นกลางๆ

0:05:03.578,0:05:07.015
จะไม่ค่อยแน่ใจว่าควรตอบอะไรดี

0:05:07.039,0:05:09.167
ระดับความมั่นใจจึงต่ำไปด้วย

0:05:09.505,0:05:12.448
อย่างไรก็ตาม มีคนอีกกลุ่มนึง

0:05:12.472,0:05:16.090
ที่กลับมั่นใจในคำตอบ[br]แม้ว่าจะให้ความเห็นแบบกลางๆ

0:05:16.657,0:05:20.373
เราคิดว่าคนกลุ่มนี้[br]มีความเข้าใจดี

0:05:20.397,0:05:22.009
ว่าความเห็นทั้งสองขั้วนั้น[br]ต่างก็มีเหตุผล

0:05:22.531,0:05:25.230
พวกเขาเป็นกลาง[br]ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่แน่ใจ

0:05:25.254,0:05:27.942
แต่เพราะพวกเขาเชื่อว่า[br]ประเด็นทางศีลธรรมที่เจอ

0:05:27.966,0:05:29.953
ไม่มีคำตอบที่ผิดหรือถูก

0:05:30.373,0:05:34.445
เราพบว่า ถ้าในกลุ่มมีคนที่แน่ใจ[br]ว่าไม่มีคำตอบที่ผิดหรือถูก

0:05:34.469,0:05:36.962
ก็จะมีแนวโน้มสูง[br]ที่จะได้ข้อสรุป

0:05:36.986,0:05:39.464
เรายังไม่รู้แน่ชัด ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

0:05:39.488,0:05:41.251
นี่เป็นแค่การทดลองแรกๆ

0:05:41.275,0:05:44.687
ยังมีอีกมากที่เราต้องทำความเข้าใจ[br]ว่าทำไมและอย่างไร

0:05:44.711,0:05:47.533
บางคนถึงยอม[br]ปรับมุมมองทางศีลธรรมของเขา

0:05:47.557,0:05:49.079
เพื่อให้ได้ข้อสรุปของกลุ่ม

0:05:49.103,0:05:51.572
ในการที่กลุ่มได้ข้อสรุป

0:05:51.596,0:05:53.182
พวกเขามันทำอย่างไร

0:05:53.206,0:05:55.787
วิธีที่คาดเดาได้ง่ายที่สุด[br]ก็คือใช้ค่าเฉลี่ย

0:05:55.811,0:05:57.841
จากทุกคนในกลุ่ม จริงไหม

0:05:57.865,0:06:01.438
อีกวิธีได้แก่[br]ดูว่าคำตอบไหนน่าเชื่อถือ

0:06:01.462,0:06:03.910
ตามความมั่นใจของคนตอบ

0:06:04.422,0:06:06.928
สมมติว่า พอล แม็กคาร์ตนีย์ [br]อยู่ในกลุ่มคุณ

0:06:07.352,0:06:09.496
คำตอบของเขาน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี

0:06:09.520,0:06:11.961
ว่ามีคำว่า "Yesterday" กี่คำในเพลง

0:06:11.985,0:06:14.699
ซึ่งผมคิดว่าคำตอบคือ 9 คำ

0:06:14.723,0:06:17.104
แต่กระนั้น สิ่งที่เราพบอยู่เสมอ

0:06:17.128,0:06:19.494
ในทุกปัญหาจริยธรรม[br]ทุกครั้งที่ทำการทดลอง

0:06:19.518,0:06:21.683
แม้ในต่างทวีป

0:06:21.707,0:06:25.450
กลุ่มมีการใช้วิธีทางสถิติที่แยบคาย

0:06:25.474,0:06:27.652
ที่เรียกว่า[br]"ค่าเฉลี่ยสมจริง (robust average)"

0:06:27.676,0:06:29.856
ยกตัวอย่างในคำถาม[br]ความสูงหอไอเฟล

0:06:29.880,0:06:31.700
สมมติว่าคำตอบในกลุ่มเป็นดังนี้

0:06:31.724,0:06:36.332
250, 200, 300, 400 เมตร[br]

0:06:36.356,0:06:40.140
และคำตอบไร้สาระ 300 ล้านเมตร

0:06:40.547,0:06:44.840
ค่าเฉลี่ยทั่วไป จากคำตอบทั้งหมด[br]จะผิดจากค่าจริงไปไกล

0:06:44.864,0:06:48.034
แต่ด้วยวิธีค่าเฉลี่ยสมจริง[br]กลุ่มจะตัดคำตอบ

0:06:48.058,0:06:49.298
ที่ดูไร้สาระออกไป

0:06:49.322,0:06:52.691
โดยให้น้ำหนักกับคำตอบ[br]ที่ดูกลางๆ มากกว่า

0:06:53.305,0:06:55.181
กลับมาที่การทดลองในแวนคูเวอร์

0:06:55.205,0:06:56.972
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ

0:06:57.407,0:07:00.148
กลุ่มจะให้น้ำหนักน้อย[br]กับค่าที่ดูผิดปกติ

0:07:00.172,0:07:03.401
และคำตอบสุดท้ายที่ได้ [br]กลับพบว่าใช้ค่าเฉลี่ยสมจริง

0:07:03.425,0:07:04.901
จากคำตอบของสมาชิกในกลุ่ม

0:07:05.356,0:07:07.347
สิ่งที่น่าจดจำที่สุดก็คือ

0:07:07.371,0:07:10.558
นี่เป็นพฤติกรรมของกลุ่ม[br]ที่เกิดขึ้นเอง

0:07:10.582,0:07:15.057
เราไม่ได้บอกพวกเขาว่าต้องทำอย่างไร[br]ถึงจะได้ฉันทามติ

0:07:15.513,0:07:17.053
เราจะเอาข้อค้นพบนี้ไปต่อยอดอย่างไร

0:07:17.432,0:07:20.569
นี้เพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้น[br]แต่เราก็ได้เข้าใจอะไรๆ หลายอย่าง

0:07:20.984,0:07:23.901
การตัดสินใจแบบกลุ่มที่ดี[br]ต้องมีองค์ประกอบ 2 อย่าง

0:07:23.925,0:07:26.674
ความรอบคอบ และ ความความเห็นที่หลากหลาย

0:07:27.066,0:07:31.062
ทุกวันนี้ วิธีสามัญที่เราใช้[br]ในการหยั่งเสียงในสังคม

0:07:31.086,0:07:32.994
คือการเลือกตั้งทางตรงหรือทางอ้อม

0:07:33.495,0:07:35.492
ซึ่งก็ดีในแง่ของเสียงที่หลากหลาย

0:07:35.516,0:07:37.961
อีกทั้งยังเป็นเครื่องรับรองว่า

0:07:37.985,0:07:40.440
ทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน

0:07:40.464,0:07:44.199
แต่มันยังไม่ดีพอ[br]ที่ให้เกิดการถกเถียงอย่างมีเหตุผล

0:07:44.665,0:07:47.733
จากผลการทดลองของเรา[br]บ่งชี้ไปยังอีกวิธี

0:07:47.757,0:07:51.298
ที่อาจมีประสิทธิภาพ[br]ในการเข้าถึงทั้ง 2 องค์ประกอบ

0:07:51.322,0:07:55.075
โดยอาศัยฉันทามติจากกลุ่มย่อยๆ

0:07:55.099,0:07:57.333
โดยที่ยังคงความเห็น[br]อันหลากหลายเอาไว้ได้

0:07:57.357,0:08:00.130
จากกลุ่มย่อยๆ ที่มีจำนวนมากมาย

0:08:00.741,0:08:04.665
แน่นอนว่า ปัญหาความสูงของหอไอเฟล [br]นั้นง่ายในการหาข้อสรุป

0:08:04.689,0:08:07.804
ต่างจาก ประเด็นทางจริยธรรม [br]การเมือง หรือ อุดมการณ์

0:08:08.721,0:08:11.998
แต่ในช่วงเวลาที่ปัญหาของมนุษยชาติ[br]ทวีความซับซ้อน

0:08:12.022,0:08:13.825
ผู้คนแตกแยก[br]แบ่งเป็นกลุ่มขั้วต่างๆ

0:08:13.849,0:08:18.444
การใช้วิทยาศาสตร์มาทำความเข้าใจ[br]ว่าเรามีปฎิสัมพันธ์ในการตัดสินใจกันอย่างไร

0:08:18.468,0:08:23.134
อาจจะช่วยจุดประกายแนวทางใหม่ๆ[br]เพื่อสร้างประชาธิปไตยที่ดีขึ้น