ฉันเคยหาเงินไม่เก่งเลย ตอนแรก ฉันทำงานเป็น พนักงานวางแผนการเงินระดับต้น และงานของฉัน คือช่วยคนอื่นจัดการเงินของเขา แต่เงินเดือนฉันต่ำ จนต้องเริ่มขี่จักรยานไปทำงาน เพื่อประหยัดค่าน้ำมันรถ และฉันเริ่มปลูกผักเพื่อประหยัดค่าอาหาร ตอนนี้ฉันมีกิจการเป็นตัวแทนด้านบัญชี ที่เจาะจงให้บริการธุรกิจ ด้านความคิดสร้างสรรค์โดยเฉพาะ [TED: วิธีที่เราทำงาน] [ทำได้ด้วยการสนับสนุนของดร็อปบ็อกซ์] นี่อาจฟังดูแปลกหน่อยที่มาจากปากของ คนเคยเป็นนักวางแผนการเงิน แต่ฉันไม่นิยมทุนนิยม เกือบทุกคนที่ฉันรู้จักและทำงานด้วยและรัก ล้วนเป็นศิลปิน ซึ่งรวมทั้งตัวฉันด้วย ฉันจึงรู้ว่าวิธีการที่ระบบถูกจัดตั้งขึ้นมา คนทำงานอิสระและศิลปินนั้น มักได้รับค่าจ้างต่ำเกินไป พวกเขามักรู้สึกว่าการโฟกัสไปที่เงิน จะเป็นการทำลายความคิดสร้างสรรค์ของเขา หรือไม่เขาก็คิดกันว่า พวกเขาหาเงินกันไม่เก่งอยู่แล้วนี่นา แต่ความจริงแล้ว เราสามารถหาเงินได้เก่ง และจริง ๆ แล้วเราต้องทำ เพราะว่ามีอิสรภาพของเราเป็นเดิมพัน อิสระในการได้สร้างสรรค์ ในการโน้มนำ และเพื่อใช้พลังของเงิน มาเปลี่ยนการเอารัดเอาเปรียบ ที่ทำให้ศิลปินถังแตกอยู่อย่างนี้ตั้งแต่แรก ฉันไม่ต้องดิ้นรนอีกแล้ว ฉันเรียนรู้เยอะมาก ตั้งแต่เป็นนักวางแผนทางการเงิน และฉันอยากแบ่งปันความรู้นี้กับพวกคุณ นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้และได้ทำ หนึ่ง สิ่งที่คุณทำ เมื่อพูดถึงงานที่คุณนำเสนอ คุณจะต้องสามารถตอบคำถามนี้ให้ได้ ทำไมเขาถึงจะเลือกคุณ แทนที่จะเป็นคู่แข่งคนอื่น? หากคุณไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ ลูกค้าของคุณคงตอบไม่ได้เช่นกัน ซึ่งแปลว่าคุณไม่สามารถเรียกค่าจ้างสูงขึ้น จากสิ่งที่คุณทำให้งานมีความพิศษ ราคาเป็นตัวแบ่งและการประมูลงาน เป็นการแข่งกันตกลงไปก้นบึ้ง สิ่งที่จะทำให้คุณต่างอาจเป็นสิ่งที่คุณทำ เหตุผลที่คุณทำ หรือวิธีที่คุณทำ วงควอร์เต็ดเครื่องสายที่เรียบเรียง และเล่นเพลงเมดเลย์ฮิปฮอป หรือบริษัทแบรนดิ้งที่มีวิธีเสนอเทคโนโลยี ทางการตลาดแก่คนรุ่นเบบี้บูม หรือนักออกแบบพร็อพและฉาก ที่มีชื่อเสียงด้าน การทำหุ่นจำลองสวย ๆ จากกระดาษ สอง คุณทำให้ใคร หลังจากที่ระบุได้แล้ว ว่าอะไรทำให้คุณแตกต่าง วางตำแหน่งของคุณ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่คุณอยากได้ เพื่อให้ขั้นตอนนี้เป็นผล คุณต้องบีบจุดโฟกัสของคุณให้แคบลง หากขาดจุดโฟกัส คุณพยายามเป็นทุกอย่างให้ทุกคน จะกลายเป็นว่าคุณไม่เป็นอะไรสำหรับใครเลย เสร็จแล้ว ใช้ภาษาที่ดึงดูดลูกค้าเป้าหมายของคุณ สร้างสรรค์สื่อทางการตลาด หรือสื่อผลงานที่โดนใจพวกเขา และไปอยู่ในชีวิตจริง หรือโลกเสมือนที่พวกเขาอยู่กัน อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นนักถ่ายภาพวิดีโอ และคุณอยากทำงานกับ บริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยภารกิจ ที่นำน้ำสะอาดเข้าไปสู่พื้นที่ขาดแคลนน้ำ สร้างตัวอย่างวิดีโอแสดงให้เห็นชัดว่าพลัง ของภาพยนตร์เปลี่ยนให้คนลงมือทำได้อย่างไร สาม เมื่อมาถึงการเจรจาเรื่องเงิน ทำความเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของผลงานของคุณ คุณไม่ใช่ทำเพื่อค่าตอบแทนเวลา ที่ใช้ไปในการทำงานนั้นเท่านั้น คุณต้องได้ค่าตอบแทน สำหรับทุกสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มา และทุกอย่างที่คุณได้ทำมาหลายปี ที่ทำให้คุณเก่งในสิ่งที่คุณทำอยู่ ถามตัวเองว่า บริการของคุณส่งผลต่อกำไรของลูกค้าอย่างไร คุณสร้างประสิทธิภาพ ที่ทำให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างไร ลูกค้าทำเงินจากผลงาน ที่คุณช่วยพวกเขาสร้างเท่าไหร่ ? อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนทำอาชีพอิสระที่ช่วยคนทำยูทูป สร้างสินค้าอย่างเช่นเสื้อยืด และหมวกแดด ให้พูดถึงเงินที่คุณช่วยลูกค้า ของคุณขายของได้มา หรือ หากคุณได้สร้างโครงการฝึกอบรมเรื่อง ความหลากหลายและการยอมรับความต่าง สำหรับองค์กรต่าง ๆ ให้พูดถึงเวลาและเงินที่บริษัทต่าง ๆ จะประหยัดได้เมื่อซื้อโครงการของคุณ แทนที่จะต้องมานั่งทำเอาเอง สี่ ดูให้ถี่ถ้วนว่าราคาของคุณได้บวก ภาษีของคุณ ค่าใช้จ่ายและกำไรของคุณไว้แล้ว เมื่อคุณทำอาชีพอิสระ คุณคือธุรกิจ คุณจึงต้องรับผิดชอบทั้งทำการตลาด บัญชี ภาษี กฎหมาย ประกัน ค่าใช้จ่าย และกำไร หากคุณเสนอราคาต่ำเกินไป คุณก็ได้ต่อราคากับตัวเองไปแล้ว หากลูกค้าค้านราคาของคุณ ไม่ต้องขอโทษ แค่บอกว่าคุณทำธุรกิจ และคุณไม่สามารถทำงานในราคาที่ต่ำกว่านี้ได้ แทนที่จะทำลายความคิดสร้างสรรค์ของคุณ การโฟกัสเรื่องหาเงินให้มากขึ้นนั้น อาจจะทำให้มันดีขึ้นก็ได้ เพราะมันทำให้คุณมีอิสระที่จะเลือก เพราะเมื่อคุณหาเงินได้มากพอด้วยการทำงาน กับลูกค้าที่เห็นคุณค่าของผลงานของคุณ คุณก็ไม่ต้องมายอมทน ด้วยการทำงานกับลูกค้าที่ไม่เห็นค่าต่อไป