WEBVTT 00:00:06.739 --> 00:00:08.999 ถ้าคุณไปซื้อนมที่ร้าน 00:00:08.999 --> 00:00:12.409 คุณจะพบผลิตภัณฑ์นมหลากหลายชนิดให้เลือก 00:00:12.409 --> 00:00:15.769 มีทั้งนมโคและนมพืช 00:00:15.769 --> 00:00:18.619 การเปลี่ยนพืชให้เป็นสิ่งที่คล้ายนมนั้น 00:00:18.619 --> 00:00:23.703 ต้องนำไปแช่ สะเด็ดน้ำ ล้าง และปั่นให้เป็นแป้งเปียก 00:00:23.703 --> 00:00:26.753 หรือไม่ก็ตากแห้งแล้วปั่นให้เป็นผง 00:00:26.753 --> 00:00:30.882 จากนั้นแป้งเปียกหรือผงจากพืชนี้ จะถูกเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุ 00:00:30.882 --> 00:00:33.842 แต่งรส แล้วละลายในน้ำ NOTE Paragraph 00:00:33.842 --> 00:00:36.452 ผลลัพธ์คือผลิตภัณฑ์นมพืชที่หลากหลายนั้น 00:00:36.452 --> 00:00:39.562 มีคุณสมบัติคล้ายนมจากสัตว์ 00:00:39.562 --> 00:00:42.712 แล้วนมชนิดใดที่ดีที่สุดสำหรับคุณล่ะ 00:00:42.712 --> 00:00:45.732 เรามาดูผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นที่นิยม ได้แก่ 00:00:45.732 --> 00:00:49.921 นมโค นมอัลมอนต์ นมถั่วเหลือง และนมข้าวโอ๊ต NOTE Paragraph 00:00:49.921 --> 00:00:55.513 นมโคหนึ่งแก้ว ขนาด 250 มล. มีโปรตีน 8 กรัม 00:00:55.513 --> 00:00:59.981 คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม และไขมัน 2 ถึง 8 กรัม 00:00:59.981 --> 00:01:03.981 ขึ้นอยู่กับว่านมนั้นเป็นแบบขาดมันเนย พร่องมันเนย หรือนมไขมันเต็ม 00:01:03.981 --> 00:01:08.947 นั่นคือ 15% ของโปรตีนที่จำเป็นในหนึ่งวัน 00:01:08.947 --> 00:01:14.399 ประมาณ 10% ของคาร์โบไฮเดรต และ 2% ถึง 15% ของไขมันที่จำเป็น NOTE Paragraph 00:01:14.399 --> 00:01:18.956 นมจากพืชส่วนมาก จะมีคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่านมโค 00:01:18.956 --> 00:01:24.020 และมีไขมันน้อยกว่า แต่จะมีสิ่งที่เรียกว่า “ไขมันดี” มากกว่า 00:01:24.020 --> 00:01:29.589 ในขณะที่นมโคมีวิตามินดี และแคลเซียม 00:01:29.589 --> 00:01:34.186 ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วไม่มีในนมพืช NOTE Paragraph 00:01:34.186 --> 00:01:36.986 ถ้าพิจารณานมพืชให้ละเอียดขึ้นจะพบว่า 00:01:36.986 --> 00:01:41.447 ทั้งนมอัลมอนด์และนมข้าวโอ๊ตนั้น มีโปรตีนน้อยกว่านมโค 00:01:41.447 --> 00:01:45.137 ในขณะที่นมอัลมอนด์ มีคุณค่าทางอาหารน้อยที่สุดในนมทั้งสี่ชนิด 00:01:45.137 --> 00:01:50.761 นมข้าวโอ๊ตกลับอุดมไปด้วยเบต้า-กลูแคน ซึ่งเป็นใยอาหารที่มีประโยชน์ 00:01:50.761 --> 00:01:55.079 นมข้าวโอ๊ตยังมีคาร์โบไฮเดรตมาก เมื่อเทียบกับนมชนิดอื่น 00:01:55.079 --> 00:01:57.469 ซึ่งอาจมากพอ ๆ กับนมโคด้วย NOTE Paragraph 00:01:57.469 --> 00:02:01.698 ในขณะที่นมถั่วเหลืองมีโปรตีนพอ ๆ กับนมโค 00:02:01.698 --> 00:02:05.111 และเป็นแหล่งโปแตสเซียมอันยอดเยี่ยม 00:02:05.111 --> 00:02:07.561 ถั่วเหลืองกลับมีไอโซฟลาโวน 00:02:07.561 --> 00:02:11.301 ที่คนทั่วไปเคยคิดว่า อาจทำให้ระดับโฮโมนไม่สมดุล 00:02:11.301 --> 00:02:13.481 เพราะมันเลียนแบบการทำงานของเอสโตรเจน 00:02:13.481 --> 00:02:18.038 แต่ท้ายที่สุดแล้ว นมถั่วเหลืองมีไอโซฟลาโวนน้อยมาก 00:02:18.038 --> 00:02:22.102 ซึ่งมีผลต่อร่างกายของเราน้อยกว่าเอสโตรเจน NOTE Paragraph 00:02:22.102 --> 00:02:24.702 นมชนิดใดจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด 00:02:24.702 --> 00:02:27.682 อาจขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล 00:02:27.682 --> 00:02:31.682 ถ้าคุณแพ้น้ำตาลแลคโตส นมพืชก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด 00:02:31.682 --> 00:02:35.232 ถ้าคุณแพ้ถั่ว คุณก็ดื่มนมอัลมอนด์ไม่ได้ 00:02:35.232 --> 00:02:39.433 สำหรับคนที่ไม่สามารถเลือกอาหารได้หลากหลาย 00:02:39.433 --> 00:02:43.433 นมโคอาจเป็นวิธีให้ได้คุณค่าทางอาหาร ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 00:02:43.433 --> 00:02:46.993 แต่ถ้าทุกอย่างเท่าเทียมกัน นมทั้งสี่ชนิดนี้ 00:02:46.993 --> 00:02:50.383 ล้วนมีคุณค่าทางอาหารเพียงพอตามหลักโภชนาการ 00:02:50.383 --> 00:02:53.393 ซึ่งเป็นเหตุให้สำหรับหลายคน นมที่ดีที่สุดสำหรับคุณ 00:02:53.393 --> 00:02:56.383 คือนมที่ดีที่สุดสำหรับสิ่งแวดล้อม 00:02:56.383 --> 00:03:01.869 แล้วนมชนิดใดที่ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด และก่อมลภาวะน้อยที่สุด NOTE Paragraph 00:03:01.869 --> 00:03:07.328 นมโคหนึ่งแก้ว ใช้พื้นที่เกือบ 4 ตารางกิโลเมตรในการผลิต 00:03:07.328 --> 00:03:11.541 พื้นที่นั้น ๆ เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า และทำลายแหล่งที่อยู่ของสัตว์ 00:03:11.541 --> 00:03:17.002 พื้นที่ส่วนใหญ่คือพื้นที่สำหรับเลี้ยงวัว อีกส่วนหนึ่งใช้ในการผลิตอาหารวัว 00:03:17.002 --> 00:03:19.912 วัวจำนวนมากกินถั่วเหลืองและข้าวโอ๊ต 00:03:19.912 --> 00:03:23.752 การปลูกข้าวโอ๊ตและถั่วเหลืองสำหรับผลิตนม 00:03:23.752 --> 00:03:26.292 ใช้พื้นที่น้อยกว่า การปลูกเพื่อเลี้ยงโคนมมาก 00:03:26.292 --> 00:03:29.472 คือประมาณหนึ่งในสี่ตารางกิโลเมตร ต่อแก้วเท่านั้น 00:03:29.472 --> 00:03:31.942 นมอัลมอนด์ใช้พื้นที่ใกล้เคียงกัน 00:03:31.942 --> 00:03:35.122 แต่นอกจากพื้นที่จะสำคัญแล้ว 00:03:35.122 --> 00:03:39.122 ไร่ถั่วเหลืองก็เป็นสาเหตุใหญ่ ที่ก่อให้เกิดการทำลายป่า 00:03:39.122 --> 00:03:42.482 ในขณะที่ไร่ข้าวโอ๊ตกับอัลมอนด์ไม่ใช่ NOTE Paragraph 00:03:42.482 --> 00:03:46.052 การผลิตนมต้องใช้น้ำในทุกขั้นตอน 00:03:46.052 --> 00:03:50.152 แต่การใช้น้ำในการเพาะปลูกนั้นแตกต่างกัน 00:03:50.152 --> 00:03:55.847 นมโคใช้น้ำมากที่สุด คือประมาณ 120 ลิตรต่อแก้ว 00:03:55.847 --> 00:03:58.867 ส่วนมากเป็นน้ำสำหรับเลี้ยงวัว และปลูกอาหารของมัน 00:03:58.867 --> 00:04:03.945 อัลมอนด์อยู่ในอันดับสอง คือใช้มากกว่า 70 ลิตรต่อแก้ว 00:04:03.945 --> 00:04:07.235 น้ำส่วนมากใช้ในการปลูกต้นอัลมอนด์ 00:04:07.235 --> 00:04:11.095 ซึ่งต้องรดน้ำอยู่ร่วมปี จึงจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ 00:04:11.095 --> 00:04:14.285 ต้นอัลมอนต์ต้องการน้ำสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นมันจะตาย 00:04:14.285 --> 00:04:18.451 ในขณะที่พืชชนิดอื่นสามารถปลูกทิ้งไว้ แล้วเก็บเกี่ยวทีหลังได้ 00:04:18.451 --> 00:04:22.749 จากที่กล่าวไป ถั่วเหลืองกับข้าวโอ๊ต ใช้น้ำในการปลูกน้อยกว่า 00:04:22.749 --> 00:04:26.459 นั่นคือประมาณ 5 ถึง 10 ลิตรต่อแก้วเท่านั้น NOTE Paragraph 00:04:26.459 --> 00:04:30.089 การผลิตนมยังทำให้เกิดก๊าสเรือนกระจก 00:04:30.089 --> 00:04:35.749 ประมาณ 0.1 ถึง 0.2 กิโลกรัม ต่อนมพืชหนึ่งแก้ว 00:04:35.749 --> 00:04:40.427 แต่สำหรับนมโคนั้น วัวแต่ละตัวก็ ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเช่นกัน 00:04:40.427 --> 00:04:44.936 โดยการเรอและผายลม ที่ประกอบด้วยก๊าซมีเทนปริมาณมาก 00:04:44.936 --> 00:04:47.336 โดยรวมแล้ว นมโคแต่ละแก้ว 00:04:47.336 --> 00:04:51.934 ผลิตก๊าซเรือนกระจกมากกว่าครึ่งกิโลกรัม NOTE Paragraph 00:04:51.934 --> 00:04:54.734 ดังนั้น นอกจากความจำเป็น ทางโภชนาการของคุณแล้ว 00:04:54.734 --> 00:04:57.557 นมแต่ละชนิดที่กล่าวมาล้วนดีทั้งนั้น 00:04:57.557 --> 00:05:02.467 แต่เมื่อคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นมพืชเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า 00:05:02.467 --> 00:05:04.797 โดยเฉพาะนมข้าวโอ๊ตและนมถั่วเหลือง