ขณะรุ่งสางที่กรุงเอเธนส์ ฟีเดียสไปทำงานสาย ขณะนั้นคือ 432 ปีก่อนคริสตศักราช เขาเป็นสถาปนิก หรือผู้ออกแบบวางแผนก่อสร้าง พาร์เธนอน วิหารใหม่ที่ใหญ่โตที่สุดในกรุงเอเธนส์ เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผลงานของเขาจะเป็น ศาสนสถานบูชาเทพีอาธีน่าขนาดมหึมา และเป็นสิ่งแสดงถึงความรุ่งโรจน์ของชาวเอเธนส์ แต่เมื่อไปถึงที่นั่น เขาเจอกับพวกเอพิสตาไท หรือเจ้าหน้าเมืองห้าคน กำลังรออยู่ พวกเขาตั้งข้อหาว่าฟีเดียสยักยอกทองคำ ที่ใช้สำหรับรูปสลักศักดิ์สิทธิ์ของวิหาร เขามีเวลาจนถึงอาทิตย์ลับฟ้า เพื่อจัดเตรียมข้อมูลรายจ่ายทั้งหมดในการสร้างวิหาร และบัญชีของทองคำทุกชิ้น ไม่เช่นนั้นถูกดำเนินคดีในศาล แม้จะถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม ฟีเดียสก็ไม่แปลกใจเลย เพราะว่าเพริคลีส นักการเมืองผู้อนุมัติให้สร้างพาร์เธนอน มีศัตรูมากมายอยู่ในคณะรัฐบาล และโครงการนี้ก็เป็นที่ถกเถียงกัน ประชาชนอยากได้วิหารแบบดอริกดั้งเดิม เสาแบบเรียบรองรับคานแนวนอน คลุมด้วยหลังคาทรงสามเหลี่ยม แต่แบบของฟีเดียสล้ำไปกว่ามาตรฐานของชาวเอเธนส์มาก แบบของเขาใช้เสาแบบดอริกร่วมกับการตกแต่งคานแบบไอโอนิก ด้วยภาพพาโนรามาขนาดมหึมาของเทศการพานาเธเนคที่ยิ่งใหญ่ของเมือง ประติมากรรมนี้ ไม่ใช่แค่แสดงมนุษย์และเทพเจ้าอยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในการตกแต่งวิหาร แต่ยังใช้งบประมาณมากกว่าการสร้างแบบดั้งเดิม หลังจากภาวนาต่อเหล่าเทพเจ้าให้เพื่อนร่วมงานยังเก็บบันทึกรายจ่ายเอาไว้ ฟีเดียสเริ่มต้นพิสูจน์ว่าเขาบริสุทธื์ ขั้นแรกเขาเรียกตัวสถาปนิก อิคตินุส และ คาลลิคราทีส แทนที่จะใช้พิมพ์เขียว พวกเขาเพ่งมองซินกราไฟต์ หรือแบบก่อสร้าง และตัวอย่างโมเดลสามมิติ เมื่อไม่มีพิมพ์เขียว พวกเขามักต้องแก้ปัญหาหน้างานในทันที ใช้เพียงแค่การคำนวณ และสัญชาตญาณเพื่อให้ได้สัดส่วนที่สมมาตร การรักษาสัดส่วนสมมาตรนี้เป็นเรื่องยากมาก เพราะพาร์เธนอนสร้างอยู่บนที่เนิน ด้วยเสาที่เอียงเข้าด้านในเล็กน้อย เพื่อให้สิ่งปลูกสร้างตั้งตรง และเพื่อให้เสาดูตรงจากระยะไกล สถาปนิกได้รวมเอาเอ็นทาซีส หรือร่องที่เป็นเส้นรอบเสาเข้าหากัน สำหรับส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ของวิหาร พวกเขาคำนวณสัดส่วนจากองค์ประกอบที่แน่นอน ในการออกแบบ แต่การเปลี่ยนแผนไปมาทำให้ต้องคำนวณใหม่อยู่ตลอด หลังจากช่วยกันระดมสมองคิดคำนวณออกมา ฟีเดียสก็รวบรวมบันทึกการใช้ทองคำจากเพื่อนร่วมงาน แล้วมุ่งหน้าไปรับของที่สั่งไว้เป็นพิเศษ บล็อกหินอ่อนขนาดยักษ์สำหรับหน้าจั่วของพาร์เธนอนเพิ่งมาถึง จากเหมืองหินในเขาเพนเทลิกอน รอกแบบธรรมดาคงยุบไปแล้ว ถ้าต้องรับน้ำหนักก้อนหินสองถึงสามตันนี้ เพราะอย่างนี้ ฟีเดียสจึงสั่งทำรอกแบบใหม่ขึ้นมา หลังจากบันทึกรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นมา และควบคุมการก่อสร้างตลอดช่วงบ่าย ในที่สุดเขาก็มาถึงพื้นที่สร้างงานแกะสลัก ประติมากรรมของเขาถูกสลักด้วยปกรณัม 92 ฉาก สำหรับประดับวิหาร รูปสลักทุกชิ้นพรรณาถึงการต่อสู้จากมหากาพย์เรื่องต่างๆ แต่ละเรื่องแสดงถึงชัยชนะของกรีซเหนือเปอร์เซีย เมื่อประมาณ 40 ปีก่อน ไม่มีวิหารไหนเคยใช้ฉากกั้นมากเท่านี้มาก่อน และแต่ละฉากที่เพิ่มเข้ามาล้วนทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลาย ท้ายที่สุด ฟีเดียสหันไปหางานหลักของเขา และเป็นศูนย์รวมของวิหารแห่งนี้ ที่ถูกปิดด้วยทองคำแผ่นหนาอย่างพิถีพิถัน และสูงตระหง่านเหนือผู้เคารพบูชา คือรูปสลักของผู้อุปถัมภ์และผู้พิทักษ์ของเมือง อาธีน่า พาร์เธนอส เมื่อวิหารเสร็จสมบูรณ์แล้ว ฝูงชนจะมารวมตัวกันรอบๆ บริเวณนี้ เพื่อสวดมนต์ ทำพิธีบูชายัญ และรินเหล้าเพื่อบูชาเทพีแห่งสติปัญญา ฟีเดียสใช้เวลาที่เหลือในวันนั้น ไปกับการออกแบบขัดถูรูปสลักให้เป็นมันเงา และเมื่อแสงอาทิตย์หมดลง พวกเอพิสตาไทก็มาหาเขา หลังจากก้มดูบันทีกของฟีเดียส พวกเขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้ามีชัย ฟีเดียสอาจคำนวณรายจ่ายทั่วไปในการสร้างวิหาร แต่ไม่มีส่วนไหนในบันทึกที่กล่าวถึงรูปสลักทองคำเลย ทันใดนั้น เพริคลีสก็โผล่เข้ามาช่วยหัวหน้านักออกแบบของเขา ผู้อุปถัมภ์ของวิหารบอกให้พวกเขาแกะทองคำออกมาจากรูปสลัก แล้วนำไปชั่งทีละชิ้นๆ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฟีเดียส เมื่อมอบหมายงานให้พวกคนงาน และสั่งให้พวกเจ้าหน้าที่เฝ้าดูจนดึกดื่น ฟีเดียสและผู้อุปถัมภ์ก็ปล่อยให้พวกศัตรู เผชิญหน้ากับความเมตตาของอาธีน่าผู้ยิ่งใหญ่