1 00:00:09,577 --> 00:00:21,773 ชีวิตหลังความตายมีจริงหรือไม่ ? 2 00:00:27,966 --> 00:00:32,567 (พูดภาษาฝรั่งเศส) 3 00:00:37,142 --> 00:00:42,659 คำถามของเราคือ ชีวิตหลังความตายมีจริงหรือไม่ 4 00:00:42,659 --> 00:00:45,851 มากันสองคน แต่มีคำถามเดียว ? 5 00:00:45,904 --> 00:00:47,836 (หัวเราะ) 6 00:00:49,961 --> 00:00:55,078 ชีวิตกับความตายอยู่คู่กันเสมอ ในทุก ๆ ขณะ 7 00:00:55,078 --> 00:01:02,375 ชีวิตไม่ใช่แค่สิ่งที่อยู่ ก่อนหน้าความตายเท่านั้น 8 00:01:03,533 --> 00:01:04,633 และ... 9 00:01:08,565 --> 00:01:12,087 ชีวิตไม่อาจแยกขาดจากความตาย 10 00:01:12,087 --> 00:01:19,408 ที่ไหนมีชีวิต ที่นั่นมีความตายดำรงอยู่ด้วย ที่ไหนมีความตาย ชีวิตจะอยู่ที่นั่นด้วยเสมอ 11 00:01:19,408 --> 00:01:25,139 การภาวนาจะช่วยให้เราเข้าใจเรื่องนี้ ได้ชัดเจนขึ้น 12 00:01:33,458 --> 00:01:37,605 ในพุทธศาสนาเรียกว่า “เป็นดั่งกันและกัน” 13 00:01:37,616 --> 00:01:39,559 หรือ inter-being 14 00:01:39,559 --> 00:01:44,301 เธอไม่สามารถดำรงอยู่อย่าง แยกขาดจากสรรพสิ่งรอบตัว 15 00:01:44,301 --> 00:01:50,455 เธอต้องเป็นดั่งกันและกัน กับสิ่งรอบข้าง 16 00:01:50,455 --> 00:01:54,260 เช่น ซ้ายกับขวาต้องอยู่คู่กัน 17 00:01:54,260 --> 00:02:00,236 ถ้าไม่มีขวา ซ้ายจะมีอยู่ไม่ได้ 18 00:02:00,238 --> 00:02:04,109 หากไม่มีซ้าย ขวาก็จะมีไม่ได้ 19 00:02:04,110 --> 00:02:09,377 ไม่มีใครสามารถแยกซ้ายไปจากขวา 20 00:02:09,384 --> 00:02:13,270 หรือแยกขวาไปจากซ้าย 21 00:02:13,270 --> 00:02:19,856 ถ้าอาตมาให้ใครสักคนช่วยเอาซ้ายไปไว้ที่ Lower Hamlet 22 00:02:19,856 --> 00:02:23,162 แล้วให้อีกคนเอาขวาไปที่ New Hamlet 23 00:02:23,162 --> 00:02:25,221 นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้ 24 00:02:25,221 --> 00:02:30,025 ซ้ายกับขวาเขาต้องการอยู่ด้วยกัน 25 00:02:30,025 --> 00:02:33,657 เพราะถ้าขาดใครไปอีกฝ่ายก็จะอยู่ไม่ได้ 26 00:02:33,657 --> 00:02:35,935 นั่นชัดเจนมาก 27 00:02:35,938 --> 00:02:39,470 เช่นเดียวกับบนและล่าง 28 00:02:39,470 --> 00:02:43,679 ข้างบนย่อมดำรงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีข้างล่าง 29 00:02:43,679 --> 00:02:50,715 พุทธศาสนาเรียกสิ่งนี้ว่า “เป็นดั่งกันและกัน” 30 00:02:50,719 --> 00:02:54,578 สรรพสิ่งต้องดำรงอยู่ร่วมกันในทุก ๆ ขณะ 31 00:02:54,584 --> 00:02:58,006 เมื่อพระเจ้าบอกว่า 32 00:02:59,271 --> 00:03:03,765 “แสงสว่างจงปรากฏ” 33 00:03:03,765 --> 00:03:05,114 แสงสว่างตอบว่า 34 00:03:05,114 --> 00:03:08,732 “เดี๋ยว ๆ รอก่อน” 35 00:03:08,732 --> 00:03:11,684 พระเจ้าถาม “เจ้ารออะไร” 36 00:03:11,690 --> 00:03:17,780 แสงสว่างตอบ “ฉันต้องรอความมืดมาถึงก่อน เราต้องปรากฏตัวพร้อมกัน 37 00:03:17,780 --> 00:03:24,384 เพราะแสงสว่างกับความมืดเป็นดั่งกันและกัน 38 00:03:24,386 --> 00:03:26,934 “แต่ความมืดมาถึงแล้วนะ” พระเจ้าบอก 39 00:03:26,934 --> 00:03:31,825 “ถ้างั้นฉันก็พร้อมแล้ว” แสงสว่างตอบทันที 40 00:03:33,068 --> 00:03:37,335 ความดีกับความชั่วก็เหมือนกัน 41 00:03:37,335 --> 00:03:39,973 ก่อนกับหลัง 42 00:03:39,973 --> 00:03:44,115 ที่นี่กับที่นั่น, ฉันกับเธอ 43 00:03:44,115 --> 00:03:48,218 ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเธอ 44 00:03:49,542 --> 00:03:56,307 ดอกบัวอยู่ไม่ได้หากปราศจากโคลนตม 45 00:03:56,312 --> 00:04:01,256 ถ้าไม่มีโคลนตม ดอกบัวย่อมไม่มี 46 00:04:01,269 --> 00:04:06,186 สุขมีไม่ได้หากปราศจากทุกข์ 47 00:04:06,186 --> 00:04:10,754 ชีวิตมีไม่ได้ถ้าปราศจากความตาย 48 00:04:10,762 --> 00:04:14,718 เมื่อนักชีววิทยาศึกษา 49 00:04:14,718 --> 00:04:19,670 ร่างกายของมนุษย์ 50 00:04:19,670 --> 00:04:25,966 เขาพบว่าชีวิตและความตายดำรงอยู่ร่วมกัน ในร่างกายนี้ 51 00:04:25,966 --> 00:04:30,417 ณ ปัจจุบันขณะ 52 00:04:30,417 --> 00:04:37,203 เซลล์หลายพันเซลล์กำลังจบชีวิตลง 53 00:04:39,143 --> 00:04:46,192 เมื่อเธอเกาผิวหนัง เศษซากเซลล์จำนวนมาก จะหลุดร่วงไป 54 00:04:46,194 --> 00:04:50,747 เซลล์ที่ตายแล้ว 55 00:04:50,747 --> 00:04:58,548 เซลล์จำนวนมากในร่างกายกำลังตายอยู่ทุกขณะ 56 00:04:58,548 --> 00:05:04,323 เพราะเธอยุ่งมากเธอ จึงไม่เห็นว่า เธอเองก็กำลังตายด้วย 57 00:05:04,323 --> 00:05:06,773 เซลล์ตาย ก็คือเธอตาย 58 00:05:06,773 --> 00:05:09,532 เธอมักคิดว่าเธอยังไม่ตายง่าย ๆ 59 00:05:09,537 --> 00:05:14,052 ต้องรออีกตั้ง 50 หรือ 70 ปีใช่มั้ย 60 00:05:14,052 --> 00:05:16,635 นั่นไม่ใช่ความจริง 61 00:05:16,641 --> 00:05:22,902 ความตายไม่ใช่สิ่งที่รอเราอยู่ในอนาคต แต่อยู่ที่นี่ เดี๋ยวนี้ 62 00:05:22,902 --> 00:05:29,591 ความตายอยู่ที่นี่เดี๋ยวนี้ ในทุก ๆ ขณะ 63 00:05:29,591 --> 00:05:33,289 เพราะเซลล์เก่า ๆ ตายลงนั่นเอง 64 00:05:33,289 --> 00:05:37,775 เซลล์ใหม่ ๆ จึงมีโอกาสเกิดขึ้นแทนที่ 65 00:05:37,780 --> 00:05:43,194 เซลล์จำนวนมากกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ 66 00:05:43,194 --> 00:05:52,426 มากจนไม่มีเวลาพอจะจัดงานวันเกิดให้พวกมันได้ทัน 67 00:05:52,426 --> 00:05:59,897 ดังนั้นความจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์ก็คือ 68 00:05:59,897 --> 00:06:05,824 เราพบกับการเกิดและตายอยู่ตลอดเวลา ในปัจจุบันขณะ 69 00:06:05,824 --> 00:06:13,189 และเพราะเซลล์เก่าตายไป เซลล์ใหม่ ๆ ถึงเกิดขึ้นได้ 70 00:06:13,189 --> 00:06:20,456 เพราะเซลล์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมา เซลล์เก่า ๆ จึงสามารถจะตายได้ 71 00:06:20,456 --> 00:06:23,644 พวกมันพึ่งพากันและกันในการดำรงอยู่ 72 00:06:23,646 --> 00:06:29,196 เธออยู่กับทั้งตายและเกิด 73 00:06:29,207 --> 00:06:31,178 ในทุก ๆ ขณะ 74 00:06:31,178 --> 00:06:34,398 อย่าคิดว่าตัวเธอเกิดขึ้นในเวลาใดเวลาหนึ่ง 75 00:06:34,398 --> 00:06:37,255 ตามสูติบัตร 76 00:06:37,255 --> 00:06:40,270 นั่นเป็นแค่ขณะหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ 77 00:06:40,270 --> 00:06:43,103 ไม่ใช่ขณะแรกสุดที่เธอเกิดขึ้นมา 78 00:06:43,103 --> 00:06:48,752 เพราะก่อนหน้านั้น “เธอ” ก็ดำรงอยู่แล้ว 79 00:06:48,752 --> 00:06:52,551 ก่อนจะมีใครรับรู้ว่าเธออยู่ในมดลูกของแม่ 80 00:06:52,551 --> 00:06:56,331 เธอก็ดำรงอยู่ในร่างกายของทั้งพ่อและแม่มาแล้ว 81 00:06:56,331 --> 00:06:59,811 แต่ในรูปที่ต่างออกไป 82 00:06:59,811 --> 00:07:09,443 แท้จริงแล้วจึงไม่มีการเกิด ไม่มีทั้งจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด 83 00:07:09,443 --> 00:07:15,067 เมื่อเรารู้ว่าทั้งเกิดและตายอยู่คู่กันเสมอ 84 00:07:15,072 --> 00:07:17,567 เราจะไม่กลัวตายอีกต่อไป 85 00:07:17,567 --> 00:07:21,923 เพราะในขณะแห่งความตายก็มีก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นด้วย 86 00:07:21,923 --> 00:07:25,437 ทั้งเกิดและตายมาคู่กัน 87 00:07:25,437 --> 00:07:27,462 ไม่อาจแยกจากกัน 88 00:07:27,462 --> 00:07:31,526 นี่เป็นผลจากการภาวนาอย่างลึกซึ้ง 89 00:07:31,526 --> 00:07:36,106 การใช้สมองคิดอย่างเดียวไม่พอ 90 00:07:36,106 --> 00:07:40,921 เธอจะต้องเฝ้าดูชีวิต 91 00:07:40,921 --> 00:07:45,081 ในชีวิตประจำวัน 92 00:07:45,081 --> 00:07:53,089 เฝ้าดูการเกิดและตาย ดูสรรพสิ่งที่เป็นดั่งกันและกัน 93 00:07:53,089 --> 00:08:02,688 ในพืชและสัตว์, ในดินฟ้าอากาศ, ในสสารและพลังงาน 94 00:08:02,692 --> 00:08:05,888 นักวิทยาศาสตร์ก็ยืนยันแล้วว่า 95 00:08:05,888 --> 00:08:08,887 ที่จริงไม่มีทั้งการเกิดและการตาย 96 00:08:08,887 --> 00:08:11,568 ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นใหม่ ไม่มีสิ่งใดสูญหายไป 97 00:08:11,568 --> 00:08:14,132 มีแต่การแปรสภาพ 98 00:08:14,132 --> 00:08:18,275 การแปรสภาพเท่านั้นที่เป็นจริง 99 00:08:18,275 --> 00:08:21,816 เกิดและตายต่างไม่ใช่ความจริง 100 00:08:21,816 --> 00:08:28,368 สิ่งที่เธอเรียกว่าเกิดและตาย ที่จริงคือการแปรสภาพ เปลี่ยนรูปไป 101 00:08:28,368 --> 00:08:32,548 หากเธอทำการทดลอง 102 00:08:32,548 --> 00:08:38,850 โดยเอาสารสองชนิดขึ้นไปชนิดมาทำปฏิกิริยากัน 103 00:08:38,850 --> 00:08:44,270 สิ่งทีเกิดขึ้นก็คือการแปรสภาพ 104 00:08:44,270 --> 00:08:48,751 เธออาจคิดว่าสารตั้งต้นแต่ละชนิดสูญหายไป 105 00:08:48,760 --> 00:08:50,609 สาบสูญไป 106 00:08:50,609 --> 00:08:55,098 แต่หากมองอย่างลึกซึ้งจะพบว่า สารตั้งต้นยังคงอยู่ 107 00:08:55,098 --> 00:08:58,107 แต่อยู่ในสภาพที่ต่างไปจากเดิม 108 00:08:58,113 --> 00:09:02,893 ในวันที่ฟ้าที่ปลอดโปร่งเธออาจมองไม่เห็นก้อนเมฆ 109 00:09:02,893 --> 00:09:05,499 แล้วคิดไปว่าก้อนเมฆตายไปแล้ว 110 00:09:05,499 --> 00:09:14,890 แต่ที่จริงก้อนเมฆยังคงอยู่เสมอ เพียงแต่ แปรสภาพไปเป็นฝนหรือสิ่งอื่น ๆ 111 00:09:14,890 --> 00:09:19,054 เกิดและตายจึงเป็นเพียงแค่เปลือกนอก 112 00:09:19,054 --> 00:09:22,816 ลึกลงไปแล้วไม่มีทั้งเกิดและตาย 113 00:09:22,816 --> 00:09:28,598 มีแต่ความสืบเนื่อง 114 00:09:30,090 --> 00:09:34,645 เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงความสืบเนื่อง ถึงธรรมชาติ อันปราศจากทั้งเกิดและตาย 115 00:09:34,645 --> 00:09:40,535 เธอก็จะไม่กลัวตายอีกต่อไป 116 00:09:40,535 --> 00:09:46,063 ไม่ได้มีแต่ชาวพุทธเท่านั้นที่บอกว่า เกิดและตายไม่มีอยู่จริง 117 00:09:46,063 --> 00:09:50,092 วิทยาศาสตร์ก็กำลังบอกสิ่งเดียวกัน 118 00:09:50,092 --> 00:09:55,427 ศาสตร์ทั้งสองสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กัน ซึ่งจะน่าสนใจมาก 119 00:09:55,427 --> 00:10:00,148 นี่คือคำเชิญชวนให้พวกเรา ใช้ชีวิตอย่างพินิจพิจารณา 120 00:10:00,148 --> 00:10:09,920 เพื่อสัมผัสถึงธรรมชาติอันแท้จริงของเรา ที่ไม่มีทั้งเกิดและตาย 121 00:10:11,402 --> 00:10:15,167 คำตอบของไถ่เป็นเพียงแค่ 122 00:10:16,681 --> 00:10:23,941 การชักชวนให้ลงมือปฏิบัติ 123 00:10:23,941 --> 00:10:28,036 ให้ใช้ชีวิตด้วยสติ, ด้วยสมาธิ 124 00:10:28,036 --> 00:10:33,162 เพื่อให้เธอสัมผัสด้วยตนเอง ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันขณะ 125 00:10:33,162 --> 00:10:37,742 เพื่อให้สัมผัสถึงธรรมชาติเดิมแท้ของสัจธรรม 126 00:10:37,742 --> 00:10:42,478 อันไม่มีทั้งเกิดและตาย 127 00:10:42,478 --> 00:10:48,582 ในพุทธศาสนาเราเรียกสิ่งนี้ว่า นิพพาน 128 00:10:48,582 --> 00:10:52,419 นิพพานคือไม่เกิดและไม่ตาย 129 00:10:52,419 --> 00:10:57,256 ศาสนาคริสต์อาจเรียกว่า 130 00:10:57,256 --> 00:11:00,016 สิ่งสูงสุด หรือพระเจ้า 131 00:11:00,016 --> 00:11:04,729 พระเจ้าคือธรรมชาติเดิมแท้ ที่ไม่เกิดไม่ตาย 132 00:11:04,729 --> 00:11:08,837 เราไม่จำเป็นต้องแสวงหาพระเจ้าจากที่ใด 133 00:11:08,837 --> 00:11:11,046 เพราะพระเจ้าคือเราทุกคน 134 00:11:11,050 --> 00:11:14,628 เหมือนกับเกลียวคลื่น 135 00:11:14,628 --> 00:11:21,387 ที่หลงคิดว่าตนเองต้องเกิดแล้วก็ตาย 136 00:11:21,387 --> 00:11:26,680 ดังนั้นทุกครั้งที่ทะยานขึ้นและเริ่มม้วนตัวลง 137 00:11:26,680 --> 00:11:31,641 เธอก็จะกังวลถึงความตาย 138 00:11:32,361 --> 00:11:36,375 เป็นเกลียวคลื่นที่กลัวตาย 139 00:11:36,375 --> 00:11:40,695 แต่หากเธอตระหนักว่า ตัวเธอเองก็คือน้ำ 140 00:11:40,695 --> 00:11:44,045 เธอจะไม่กลัวอีกต่อไป 141 00:11:44,045 --> 00:11:48,961 เมื่อทะยานขึ้นเธอคือน้ำ เมื่อม้วนตัวลงเธอก็ยังคงเป็นน้ำ 142 00:11:48,965 --> 00:11:54,082 แม้หลังคลื่นสลายไปแล้ว เธอก็ยังคงเป็นน้ำอยู่เช่นเดิม 143 00:11:54,082 --> 00:11:57,834 ไม่มีสิ่งใดตาย 144 00:11:57,834 --> 00:12:05,737 การฝึกภาวนาจึงสำคัญมากสำหรับเกลียวคลื่น 145 00:12:05,739 --> 00:12:12,480 เพื่อจะได้ตระหนักว่า แม้เธอเป็นคลื่น แต่เธอก็เป็นน้ำด้วยในขณะเดียวกัน 146 00:12:12,487 --> 00:12:18,301 เมื่อรู้ชัดว่าเธอเองก็คือน้ำ เธอจะไม่กลัวตายอีกต่อไป 147 00:12:18,301 --> 00:12:22,883 เธอจะม้วนตัวขึ้นอย่างมีความสุข ม้วนตัวลงอย่างมีความสุข 148 00:12:22,887 --> 00:12:25,703 เธอจะเป็นอิสระจากความกลัว 149 00:12:25,703 --> 00:12:29,949 ก้อนเมฆทั้งหลายก็เช่นกัน ก้อนเมฆไม่กลัวตาย 150 00:12:29,949 --> 00:12:34,524 เพราะรู้ว่าหากเปลี่ยนสภาพจากเมฆแล้ว เธอจะดำรงอยู่ต่อไปในรูปแบบอื่น 151 00:12:34,524 --> 00:12:40,983 ที่งดงามไม่แพ้กัน เป็นสายฝน เป็นละอองหิมะ 152 00:12:47,577 --> 00:12:54,488 เกลียวคลื่นไม่ต้องออกเดินทาง เพื่อแสวงหาผืนน้ำ 153 00:12:54,488 --> 00:12:59,096 ไม่ต้องเฝ้าค้นหาผืนน้ำ 154 00:12:59,096 --> 00:13:02,270 เพราะเธอเองก็เป็นน้ำ ที่นี่เดี๋ยวนี้แล้ว 155 00:13:02,270 --> 00:13:04,341 การแสวงหาพระเจ้าก็เช่นกัน 156 00:13:04,341 --> 00:13:07,535 เธอไม่จำเป็นต้อง.. 157 00:13:07,535 --> 00:13:09,558 เฝ้าค้นหาพระเจ้า 158 00:13:09,558 --> 00:13:14,537 เราคือพระเจ้า พระเจ้าคือธรรมชาติเดิมแท้ในตัวเรา 159 00:13:14,537 --> 00:13:17,106 และเธอก็ไม่ต้องค้นหานิพพาน 160 00:13:17,106 --> 00:13:20,592 เพราะนิพพานมีอยู่แล้วในตัวเธอ 161 00:13:20,592 --> 00:13:23,541 นี่คือคำสอนของพระพุทธองค์ 162 00:13:23,541 --> 00:13:28,184 พวกเราบางคนอาจตระหนักถึงความจริงนี้ได้แล้ว 163 00:13:28,185 --> 00:13:30,827 เราจึงสุขสงบอยู่ในปัจจุบันขณะ 164 00:13:30,827 --> 00:13:36,538 และรู้ชัดว่า เราจะไม่มีวันตาย 165 00:13:46,541 --> 00:13:51,805 (แปลโดย The Explorer Fan Page)