WEBVTT 00:00:06.119 --> 00:00:07.663 วันก่อนฉันเดินไปตามภูเขา 00:00:07.663 --> 00:00:10.747 และฉันรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ ในผืนป่า 00:00:10.747 --> 00:00:12.458 รู้สึกยอดเยี่ยมมาก 00:00:12.458 --> 00:00:15.212 ที่ป่าแสดงให้ฉันเห็นถึงความสัมพันธ์ ที่มันสร้างขึ้น 00:00:15.212 --> 00:00:17.831 โดยมีรูปแบบเป็นเครือข่าย 00:00:17.831 --> 00:00:19.746 เหมือนเครือข่ายแม่น้ำอันสวยงามเหล่านี้ 00:00:19.746 --> 00:00:20.967 และฉันก็คิดว่า 00:00:20.967 --> 00:00:25.184 "ว้าววว ผืนป่าช่างเหมือนกับ ครอบครัวของมนุษย์" 00:00:25.184 --> 00:00:27.224 และฉันก็ถูกครอบงำด้วยความคิดอันสวยงามนี้ 00:00:27.224 --> 00:00:29.558 จนฉันล้มลงไปกับพื้น 00:00:29.558 --> 00:00:31.895 หัวกระแทกกับตอไม้ที่เพิ่งถูกตัด 00:00:31.895 --> 00:00:34.100 ฉันจึงโกรธมาก! 00:00:34.100 --> 00:00:36.030 จากนั้นฉันก็รู้สึกหัวใจสลาย 00:00:36.030 --> 00:00:39.901 เพราะครอบครัวต้นไม้ทั้งหมดกำลังถูกทำลาย 00:00:39.901 --> 00:00:42.960 จากที่ที่ฉันมา ทางตะวันตกของแคนาดา, 00:00:42.960 --> 00:00:45.659 มีการตัดไม้ทำลายป่าเหมือนที่อื่นๆ หลบซ่อนอยู่ทั่วไป, 00:00:45.659 --> 00:00:48.410 และไม่ถูกเปิดเผยจนกระทั่ง Google Earth ส่งภาพเหล่านี้ 00:00:48.410 --> 00:00:49.956 มาให้ 00:00:49.956 --> 00:00:51.707 เราตระหนักว่า โลกทั้งใบ 00:00:51.707 --> 00:00:54.631 กำลังทำลายล้าง ป่าไม้ดั้งเดิมของเราเอง 00:00:54.631 --> 00:00:56.264 คุณรู้หรือไม่ 00:00:56.264 --> 00:00:58.376 มีการทำลายป่าแบบนี้อยู่ทั่วโลก 00:00:58.376 --> 00:01:00.599 เป็นสาเหตุของก๊าซเรือนกระจก 00:01:00.599 --> 00:01:04.698 มากกว่ารถไฟ เครื่องบิน และรถยนต์ทั้งหลายรวมกัน? 00:01:04.698 --> 00:01:07.209 ใช่ ฉันรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ 00:01:07.209 --> 00:01:08.930 แต่จริงๆ ฉันก็ยังคงมีความหวัง 00:01:08.930 --> 00:01:12.449 เพราะฉันค้นพบในงานวิจัยของฉันด้วยเช่นกัน 00:01:12.449 --> 00:01:15.349 ว่าเครือข่ายของป่ามีการจัดระบบ 00:01:15.349 --> 00:01:17.802 ในลักษณะที่เหมือนกันกับระบบเครือข่ายประสาท 00:01:17.802 --> 00:01:19.680 และเครือข่ายสังคมของมนุษย์ 00:01:19.680 --> 00:01:23.766 และฉันเชื่อว่าถ้าเราสามารถเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้ในภาพรวม 00:01:23.766 --> 00:01:27.508 เราจะสามารถเปลี่ยนหนทางที่อันตราย ของภาวะโลกร้อนนี้ได้ 00:01:27.508 --> 00:01:30.786 เพราะฉันเชื่อว่า เราคือสายใยแห่งการเยียวยา 00:01:30.786 --> 00:01:32.712 ดังนั้นนี่คือ วิทยาศาสตร์ 00:01:32.712 --> 00:01:35.079 เครือข่ายที่เก่าแก่ที่สุด 00:01:35.079 --> 00:01:39.579 คือเครือข่ายของเชื้อราใต้ดิน หรือเครือข่ายเห็ด 00:01:39.579 --> 00:01:41.746 และมันพัฒนาตัวเองมามากกว่า พันล้านปีแล้ว 00:01:41.746 --> 00:01:45.679 เพื่อให้สิ่งมีชีวิตย้ายจากทะเลขึ้นสู่พื้นดิน 00:01:45.679 --> 00:01:47.502 และในที่สุดมันสามารถรวมตัวกันกับพืช 00:01:47.502 --> 00:01:49.848 เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน 00:01:49.848 --> 00:01:53.619 มันได้ทำให้พืชเกิดกระบวนการสังเคราะห์แสง 00:01:53.619 --> 00:01:56.374 ดึงเอาคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดของเรา 00:01:56.374 --> 00:01:59.023 ออกไปจากชั้นบรรยากาศ และผลิตออกซิเจน 00:01:59.023 --> 00:02:01.036 ที่ทำให้เราหายใจได้ 00:02:01.036 --> 00:02:04.348 และทำให้มนุษย์มีวิวัฒนาการต่อไปได้ 00:02:04.348 --> 00:02:08.229 ตอนนี้เราเรียกการอยู่ร่วมกัน (Symbiosis) แบบนี้ว่า ไมคอไรซา (Mycorrhiza) 00:02:08.229 --> 00:02:10.492 ไมโคคือเชื้อรา ไรซาคือราก 00:02:10.492 --> 00:02:12.328 ดังนั้น เชื้อราและรากกำลังรวมตัวกัน 00:02:12.328 --> 00:02:15.131 และพวกมันทำหน้าที่เอื้อประโยชน์กันและกัน 00:02:15.131 --> 00:02:18.834 ตอนนี้ ต้นไม้ทั้งหลายในป่าทั่วโลก 00:02:18.834 --> 00:02:21.822 มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเชื้อราเหล่านี้ 00:02:21.822 --> 00:02:24.044 พวกมันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากมัน 00:02:24.044 --> 00:02:25.509 และวิธีที่มันทำงาน 00:02:25.509 --> 00:02:27.509 คือ เมื่อเมล็ดพรรณตกลงในพื้นป่า 00:02:27.509 --> 00:02:28.628 มันงอกเงย 00:02:28.628 --> 00:02:30.429 มันส่งรากชอนไชลงไปในพื้นดิน 00:02:30.429 --> 00:02:32.794 และมันเริ่มส่งสัญญาณทางเคมีออกมา 00:02:32.794 --> 00:02:36.019 สู่เชื้อราเพื่อที่จะเติบโตต่อไปยังราก 00:02:36.019 --> 00:02:37.895 และเชื้อราก็สื่อสารตอบกลับ 00:02:37.895 --> 00:02:39.648 ด้วยสัญญาณของตัวมันเอง 00:02:39.648 --> 00:02:41.064 และมันก็พูดกับรากของมัน 00:02:41.064 --> 00:02:43.545 "คุณจำเป็นต้องเติบโตตามฉัน แผ่สาขา และนุ่มนวลลง" 00:02:43.545 --> 00:02:45.234 และด้วยการสื่อสารนี้ 00:02:45.234 --> 00:02:49.377 พวกมันเติบโตร่วมกันอย่างมหัศจรรย์ 00:02:49.377 --> 00:02:51.577 และการอยู่ร่วมกันนี้ 00:02:51.577 --> 00:02:55.044 คือต้นไม้ทำหน้าที่ในการนำคาร์บอน จากการสังเคราะห์แสง 00:02:55.044 --> 00:02:57.248 แล้วนำมันไปให้เชื้อรา 00:02:57.248 --> 00:02:59.750 เพราะเชื้อรา ไม่สามารถสังเคราะห์แสงเองได้ 00:02:59.750 --> 00:03:02.947 และเชื้อราได้สารอาหาร และน้ำจากพื้นดิน 00:03:02.947 --> 00:03:05.172 ที่ซึ่งรากของพืชไม่สามารถเติบโตได้ 00:03:05.172 --> 00:03:07.507 พวกมันนำสิ่งนี้ให้ต้นไม้ 00:03:07.507 --> 00:03:11.053 ดังนั้นมันทั้งสองได้ประโยชน์ จากการร่วมมือกัน 00:03:11.053 --> 00:03:13.347 ตอนนี้ อย่างที่เชื้อราเติบโตในดิน 00:03:13.347 --> 00:03:15.310 มันเริ่มเชื่อมโยงจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง สู่อีกชนิด 00:03:15.310 --> 00:03:16.886 และระหว่างต้นไม้ด้วยกัน 00:03:16.886 --> 00:03:19.395 จนกระทั้งต้นไม้ทั้งป่าเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน 00:03:19.395 --> 00:03:21.480 คุณรู้ไหมว่า ต้นไม้ต้นเดียว 00:03:21.480 --> 00:03:25.192 สามารถเชื่อมโยงไปสู่ต้นไม้อื่นๆ เป็นร้อยๆ ได้จริงๆ 00:03:25.192 --> 00:03:28.156 เท่าที่ตาจะมองเห็น? 00:03:28.156 --> 00:03:31.155 และในขณะที่คุณกำลังเดินผ่านป่า 00:03:31.155 --> 00:03:35.827 สิ่งที่คุณมองเห็น ต้นไม้ ราก และเห็ด 00:03:35.827 --> 00:03:37.358 เป็นเพียงแค่บางส่วน 00:03:37.358 --> 00:03:39.192 ภายใต้ รากแต่ละอัน 00:03:39.192 --> 00:03:43.543 มีเซลล์เชื้อรายาวเป็น 300 ไมล์ 00:03:43.543 --> 00:03:46.131 มันเชื่อมต่อกันไปทั่ว 00:03:46.131 --> 00:03:48.039 และถ้าคุณสามารถมองลึกลงไปในพื้นดินได้ 00:03:48.039 --> 00:03:49.613 คุณจะเห็นเหมือนทางหลวงขนาดใหญ่ 00:03:49.613 --> 00:03:51.524 ที่มีรถยนต์วิ่งไปมาทุกหนแห่ง 00:03:51.524 --> 00:03:55.306 ตอนนี้ ทั่วทั้งเครือข่ายเต็มไปด้วย ตุ่มและการเชื่อมต่อถึงกัน 00:03:55.306 --> 00:03:57.223 ในป่า ตุ่มต่างๆ เหล่านั้นอาจเป็นต้นไม้ 00:03:57.223 --> 00:03:58.776 และเชื่อมต่อไปยังเชื้อรา 00:03:58.776 --> 00:04:00.613 มันเป็นแบบเดียวกับ เครือข่ายเฟสบุ๊ค (Facebook) 00:04:00.613 --> 00:04:03.063 ที่แต่ละตุ่มหมายถึงเพื่อน 00:04:03.063 --> 00:04:05.690 และเส้นที่เชื่อมอยู่ก็คือสายสัมพันธ์ 00:04:05.690 --> 00:04:07.638 ตอนนี้ เราทุกคนรู้ว่าตุ่มเหล่านั้นบางอัน 00:04:07.638 --> 00:04:08.721 หรือเพื่อนบางคน 00:04:08.721 --> 00:04:09.971 ยุ่งกว่าคนอื่นๆ 00:04:09.971 --> 00:04:12.402 เหมือนกับเพื่อนคนที่ชอบส่งข้อความถึงกลุ่ม 00:04:12.402 --> 00:04:14.784 นั่นล่ะ เหมือนกันเลยกับป่า 00:04:14.784 --> 00:04:16.243 และตุ่มพวกนี้คือ ป่าไม้ 00:04:16.243 --> 00:04:17.952 เราเรียกมันว่า จุดศูนย์รวม (hubs) 00:04:17.952 --> 00:04:19.830 พวกมัน คือต้นไม้ใหญ่ในผืนป่า 00:04:19.830 --> 00:04:21.887 ที่มีรากงอกเงยไปทั่วทุกหนแห่ง 00:04:21.887 --> 00:04:23.417 ตอนนี้ เราได้เรียนรู้ด้วยว่า 00:04:23.417 --> 00:04:27.388 ระบบต่างๆ ที่ถูกจัดอยู่ รอบๆ จุดศูนย์รวมเหล่านี้ 00:04:27.388 --> 00:04:28.971 ต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ 00:04:28.971 --> 00:04:31.383 ดังนั้นในป่า จึงมีการเกิดขึ้นของรุ่นใหม่ๆ 00:04:31.383 --> 00:04:33.052 ในเครือข่ายเฟสบุ๊คของคุณ 00:04:33.052 --> 00:04:34.596 นั่นอาจเป็นวิธีจัดงานเลี้ยง 00:04:34.596 --> 00:04:37.137 ที่รอบๆ จุดศูนย์รวม มักมีการส่งข้อความถึงกลุ่มบ่อยๆ 00:04:37.137 --> 00:04:40.184 เราเรียกจุดศูนย์รวมในป่าว่า ต้นไม้แม่พันธุ์ (forests mother trees) 00:04:40.184 --> 00:04:43.271 มันคือต้นไม้เก่าแก่ในป่า 00:04:43.271 --> 00:04:45.022 และพวกมันเก็บคาร์บอนไว้ที่ใบ 00:04:45.022 --> 00:04:47.358 และส่งกลับลงมาให้ลำต้น 00:04:47.358 --> 00:04:50.554 และไปสู่เครือข่ายรอบๆ พวกมัน 00:04:50.554 --> 00:04:52.138 มันเชื่อมต่อไปยังต้นไม้ต้นอื่นๆ 00:04:52.138 --> 00:04:54.555 และเมล็ดพันธุ์ต้นอ่อน 00:04:54.555 --> 00:04:57.833 แล้วมันก็เริ่มส่งคาร์บอนไปทั่ว 00:04:57.833 --> 00:04:59.912 ยิ่งเมล็ดพันธุ์ ขาดแคลนมากเท่าใด 00:04:59.912 --> 00:05:01.721 ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง หรือถูกบดบัง 00:05:01.721 --> 00:05:03.916 แม่พันธุ์ยิ่งส่งสัญญาณถึงมันมากเท่านั้น 00:05:03.916 --> 00:05:06.487 ก็เหมือนกับครอบครัวของคุณนั่นแหละ 00:05:06.487 --> 00:05:07.910 ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนถ้าคุณเครียด 00:05:07.910 --> 00:05:10.972 แม่กับพ่อจะคอยช่วยคุณใช่ไหม 00:05:10.972 --> 00:05:12.924 นั่นมันก็เหมือนกันกับผืนป่า 00:05:12.924 --> 00:05:16.178 อีกสิ่งหนึ่งที่เราค้นพบเมื่อเร็วๆ นี้ 00:05:16.178 --> 00:05:19.054 ว่าต้นแม่พันธุ์จะชอบส่งสัญญาณ 00:05:19.054 --> 00:05:23.186 ไปถึงลูกๆ ของมันจริงๆ มากกว่า 00:05:23.186 --> 00:05:25.970 และวิธีนี้ทำให้ลูกๆ ของมันโตได้ดีขึ้น 00:05:25.970 --> 00:05:27.639 อยู่รอดมากขึ้น 00:05:27.639 --> 00:05:30.443 และสามารถส่งผ่านยีนของมันสู่รุ่นต่อไป 00:05:30.443 --> 00:05:32.971 แล้วการคัดเลือกโดยธรรมชาติทำงานอย่างไร 00:05:32.971 --> 00:05:35.239 วิธีที่ป่าจะจัดการตัวเอง 00:05:35.239 --> 00:05:38.783 ทำให้มันทั้งยืดหยุ่น และอ่อนแอไปพร้อมๆ กัน 00:05:38.783 --> 00:05:40.786 ยืดหยุ่นเพราะมีแม่พันธุ์ไม้จำนวนมาก 00:05:40.786 --> 00:05:44.304 และมีเชื้อราหลายกลุ่ม เชื่อมโยงพวกมันเข้าด้วยกัน 00:05:44.304 --> 00:05:47.324 และเครือข่ายเหล่านี้ ยากต่อการทำลายจริงๆ 00:05:47.324 --> 00:05:49.002 มันเป็นเรื่องยากมากๆ 00:05:49.002 --> 00:05:50.169 แต่แน่นอน 00:05:50.169 --> 00:05:51.923 มนุษย์เราจำเป็นต้องค้นหาว่า มันทำได้อย่างไร 00:05:51.923 --> 00:05:54.476 สิ่งที่เราทำคือ นำต้นไม้แม่พันธ์ออกมา 00:05:54.476 --> 00:05:57.011 การนำมันออกมาอาจไม่เห็นข้อแตกต่างเท่าไหร่ 00:05:57.011 --> 00:05:58.846 แต่เมื่อคุณนำมันออกมา มากขึ้น มากขึ้น 00:05:58.846 --> 00:06:00.681 และตัดทำลายให้มากขึ้น มากขึ้น 00:06:00.681 --> 00:06:04.388 นั่นสามารถทำให้ระบบพังทลาย และล้มเหลว 00:06:04.388 --> 00:06:06.887 เหมือนโดมิโน 00:06:06.887 --> 00:06:08.857 และเราสามารถก้าวข้ามจุดอันตรายนั้นไปได้ 00:06:08.857 --> 00:06:11.320 และทำให้ผืนป่าหมดไป ปรากฎการณ์โลกร้อนเพิ่มมากขึ้น 00:06:11.320 --> 00:06:13.304 และตอนนี้เรากำลังเป็นอย่างนั้น 00:06:13.304 --> 00:06:14.971 ทีนี้ สิ่งที่เราทำ 00:06:14.971 --> 00:06:16.323 ทางเลือกของเรา 00:06:16.323 --> 00:06:19.980 สามารถนำเราไปสู่สุขภาพที่ดีทั่วโลก หรือไม่ก็พบกับความเจ็บป่วยไปทั่วทั้งโลก 00:06:19.980 --> 00:06:21.880 เรายังคงมีทางเลือก 00:06:21.880 --> 00:06:23.663 ฉันจะทิ้งข้อคิดไว้สี่อย่างด้วยกัน 00:06:23.663 --> 00:06:25.387 ที่ฉันคิดว่าคู่ควรแก่การเผยแพร่ 00:06:25.387 --> 00:06:26.665 อย่างแรก: 00:06:26.665 --> 00:06:27.828 ต้องรักผืนป่า 00:06:27.828 --> 00:06:29.403 คุณต้องไปใช้เวลาอยู่ในนั้น 00:06:29.403 --> 00:06:31.253 ไปลองอยู่ในผืนป่า เชื่อมโยงชีวิตกับมัน 00:06:31.253 --> 00:06:33.637 แล้วคุณจะรู้จักการต่อสู้อย่างหนัก เพื่อปกป้องมัน 00:06:33.637 --> 00:06:34.642 อย่างที่สอง: 00:06:34.642 --> 00:06:35.974 เรียนรู้ว่ามันทำงานอย่างไร 00:06:35.974 --> 00:06:37.725 ว่าเครือข่ายเหล่านั้นเชื่อมโยงกันอย่างไร 00:06:37.725 --> 00:06:39.221 ในป่าที่มีการจัดการที่ดี 00:06:39.221 --> 00:06:40.138 และการจะทำเช่นนั้น 00:06:40.138 --> 00:06:41.764 คุณต้องออกไปลองเสี่ยง ลองผิดพลาดบ้าง 00:06:41.764 --> 00:06:43.208 อย่างที่สาม: 00:06:43.208 --> 00:06:44.678 ปกป้องผืนป่า 00:06:44.678 --> 00:06:46.106 พวกมันต้องการให้คุณทำอย่างนั้น 00:06:46.106 --> 00:06:47.304 เพราะว่าพวกมันทำเองไม่ได้ 00:06:47.304 --> 00:06:49.054 พวกมันติดอยู่ที่จุดจุดเดียว 00:06:49.054 --> 00:06:50.722 พวกมันวิ่งหนีมนุษย์ไม่ได้ 00:06:50.722 --> 00:06:52.639 และมันก็วิ่งหนีภาวะโลกร้อนไม่ได้ 00:06:52.639 --> 00:06:54.306 พวกมันต้องการคุณ 00:06:54.306 --> 00:06:55.779 และสุดท้าย 00:06:55.779 --> 00:06:57.321 สิ่งสำคัญที่สุด 00:06:57.321 --> 00:07:00.649 ใช้ความชาญฉลาดของพวกคุณ 00:07:00.649 --> 00:07:04.203 เครือข่ายประสาทและสังคมของพวกคุณ สร้างข้อความมหัศจรรย์ 00:07:04.203 --> 00:07:07.554 และเผยแพร่ว่าผืนป่านั้นควรค่าแก่การปกป้อง 00:07:07.554 --> 00:07:09.291 เพราะคุณเองก็ควรค่าแก่การปกป้อง 00:07:09.291 --> 00:07:10.638 และฉันเชื่อว่าพวกเราทั้งหมด 00:07:10.638 --> 00:07:12.419 เป็นสายใยแห่งการเยียวยา