WEBVTT 00:00:00.036 --> 00:00:04.605 ตอนที่ฉันตกลงจะมาทำสิ่งนี้ ฉันไม่รู้ 00:00:04.605 --> 00:00:10.285 ว่าเขาอยากให้ฉันมาพูดหรือมาร้องเพลง 00:00:10.285 --> 00:00:15.333 แต่พอเขาบอกว่าหัวข้อคือเรื่องภาษา 00:00:15.333 --> 00:00:20.104 ฉันรู้สึกว่า ฉันต้องพูดเกี่ยวกับอะไรสักอย่างบ้างแหละ NOTE Paragraph 00:00:20.104 --> 00:00:24.453 ฉันมีปัญหา 00:00:24.453 --> 00:00:26.467 มันไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในโลก 00:00:26.467 --> 00:00:27.664 ฉันสบายดี 00:00:27.664 --> 00:00:29.413 ฉันไม่ได้ตื่นเต้นอะไร 00:00:29.413 --> 00:00:31.314 ฉันรู้ว่าอีกหลายๆ คนบนโลกใบนี้ 00:00:31.314 --> 00:00:35.482 ต้องเจอกับอะไรที่แย่กว่ามากมาย 00:00:35.482 --> 00:00:41.432 แต่สำหรับฉัน ภาษาและดนตรี 00:00:41.432 --> 00:00:45.867 เกิดการเชื่อมโยงกัน อย่างเหนียวแน่นผ่านสิ่งสิ่งนี้ NOTE Paragraph 00:00:45.867 --> 00:00:53.556 ประเด็นคือ ฉันติดอ่าง 00:00:53.556 --> 00:00:56.104 มันอาจจะดูตลกพิกล เพราะชีวิตของฉันที่ผ่านมา 00:00:56.104 --> 00:00:59.902 ก็ใช้เวลาอยู่บนเวทีซะเยอะ 00:00:59.902 --> 00:01:02.926 ใครๆ ก็คงจะคิดว่าฉันคุ้นเคย 00:01:02.926 --> 00:01:05.358 กับการอยู่ต่อหน้าสาธารณะ และรู้สึกสบายๆ ที่ยืนอยู่ตรงนี้ 00:01:05.358 --> 00:01:07.798 พูดคุยกับพวกคุณ 00:01:07.798 --> 00:01:12.568 แต่จริงๆ แล้ว ตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ 00:01:12.568 --> 00:01:16.919 ซึ่งรวมถึง ณ เวลานี้ด้วย สิ่งที่ฉันกลัวอย่างสุดชีวิตคือ 00:01:16.919 --> 00:01:20.229 การพูดในที่สาธารณะ 00:01:20.229 --> 00:01:24.931 ส่วนการร้องเพลงในที่สาธารณะน่ะ คนละเรื่องเลย (เสียงหัวเราะ) 00:01:24.939 --> 00:01:28.432 เดี๋ยวอีกแป๊บหนึ่งค่อยว่ากัน 00:01:28.432 --> 00:01:34.342 ฉันไม่เคยพูดถึงมันอย่างเปิดอกขนาดนี้มาก่อน 00:01:34.342 --> 00:01:36.674 ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะฉันอยู่ด้วยความหวังมาตลอด 00:01:36.674 --> 00:01:39.218 ว่าเมื่อฉันเป็นผู้ใหญ่ 00:01:39.218 --> 00:01:45.490 ฉันจะเลิกติดอ่าง 00:01:45.490 --> 00:01:48.705 ฉันโตมากับความคิดที่ว่าเมื่อฉันโตแล้ว 00:01:48.705 --> 00:01:51.912 ฉันจะได้เรียนภาษาฝรั่งเศส 00:01:51.912 --> 00:01:55.190 และเมื่อฉันโต ฉันจะเรียนรู้การจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ 00:01:55.190 --> 00:01:57.468 และเมื่อฉันโต ฉันจะเลิกติดอ่าง 00:01:57.468 --> 00:01:59.791 แล้วฉันจะสามารถพูดในที่สาธารณะ และอาจจะเป็นนายกรัฐมนตรี 00:01:59.791 --> 00:02:03.156 และทุกอย่างก็เป็นไปได้... ก็นะ 00:02:03.156 --> 00:02:06.556 (เสียงหัวเราะ) 00:02:06.556 --> 00:02:09.605 ฉะนั้นฉันจึงสามารถพูดถึงมันได้ 00:02:09.605 --> 00:02:13.427 เพราะฉันมาถึงจุดที่ — 00:02:13.427 --> 00:02:17.367 คือ ฉันก็ 28 แล้ว 00:02:17.367 --> 00:02:19.857 ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าฉันโตแล้ว 00:02:19.857 --> 00:02:21.679 (เสียงหัวเราะ) 00:02:21.679 --> 00:02:23.681 และฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว 00:02:23.681 --> 00:02:27.757 ผู้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยอาชีพนักแสดง 00:02:27.757 --> 00:02:30.659 ทั้งๆที่มีปัญหาเรื่องการพูด 00:02:30.659 --> 00:02:34.867 ฉันเลยคิดว่าฉันน่าจะเปิดอกพูดความจริงดีกว่า NOTE Paragraph 00:02:34.867 --> 00:02:38.849 การพูดติดอ่างมีหลายๆ แง่มุมที่น่าสนใจ 00:02:38.849 --> 00:02:42.223 สำหรับฉัน สิ่งที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ 00:02:42.223 --> 00:02:45.485 คือการไปเจอกับคนติดอ่างอีกคนหนึ่ง 00:02:45.485 --> 00:02:48.701 (เสียงหัวเราะ) 00:02:48.701 --> 00:02:51.908 มันเกิดขึ้นตอนที่ฉันอยู่ที่เมืองฮัมบูร์ก 00:02:51.908 --> 00:02:53.911 มีผู้ชายคนหนึ่ง ตอนที่เราทำความรู้จักกันเขาพูดว่า 00:02:53.911 --> 00:02:57.532 "สวัสดี ผ-ผ-ผ-ผมชื่อโจ" 00:02:57.532 --> 00:03:01.793 แล้วฉันก็พูดว่า "โอ้ สวัสดี ฉ-ฉ-ฉ-ฉันชื่อเม็ก" 00:03:01.793 --> 00:03:04.450 ลองจินตนาการดูสิว่า ฉันตกใจแค่ไหนตอนที่ระลึกได้ว่า 00:03:04.450 --> 00:03:06.355 เขาคิดว่าฉันล้อเลียนเขาอยู่ 00:03:06.355 --> 00:03:10.450 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:03:12.197 --> 00:03:17.230 คนอื่นคิดว่าฉันเมาตลอดเวลา 00:03:17.230 --> 00:03:20.630 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:03:20.630 --> 00:03:24.306 หลายคนคิดว่าฉันลืมชื่อของพวกเขา 00:03:24.306 --> 00:03:28.997 เวลาที่ฉันลังเลก่อนที่จะพูดออกมา 00:03:28.997 --> 00:03:31.220 แล้วมันเป็นอะไรที่แปลกมาก เพราะว่า 00:03:31.220 --> 00:03:35.459 คำนามนี่เป็นอะไรที่แสบที่สุดเลย 00:03:35.459 --> 00:03:39.249 ถ้าฉันกำลังจะใช้คำว่า "วันพุธ" ในประโยค 00:03:39.249 --> 00:03:42.152 และฉันกำลังจะมาถึงคำนั้นแล้ว 00:03:42.152 --> 00:03:45.121 และฉันรู้สึกว่าฉันจะติดอ่างหรืออะไรประมาณนั้น 00:03:45.121 --> 00:03:48.431 ฉันสามารถเปลี่ยนคำนั้นเป็น "วันพรุ่งนี้" 00:03:48.431 --> 00:03:50.490 หรือ "วันที่ถัดจากวันอังคาร" 00:03:50.490 --> 00:03:52.883 หรืออะไรอย่างอื่นสักอย่าง 00:03:52.883 --> 00:03:57.866 มันดูเยอะ แต่มันก็ช่วยให้ผ่านไปได้ 00:03:57.866 --> 00:04:00.408 เพราะที่ผ่านมาฉันก็เรียนรู้ที่จะ 00:04:00.408 --> 00:04:04.795 พลิกแพลงใช้ช่องโหว่ตรงนี้ของการพูด 00:04:04.795 --> 00:04:07.926 แบบที่ว่า ในวินาทีสุดท้าย 00:04:07.926 --> 00:04:12.207 คุณพลิกเปลี่ยนคำคำนั้นไป แล้วหลอกสมองตัวเอง 00:04:12.207 --> 00:04:15.915 แต่ชื่อคนมันไม่ใช่อะไรที่เปลี่ยนได้ 00:04:15.915 --> 00:04:17.864 (เสียงหัวเราะ) 00:04:19.813 --> 00:04:21.762 ช่วงที่ฉันร้องเพลงแจ๊สบ่อยๆ 00:04:21.762 --> 00:04:27.285 ฉันทำงานบ่อยกับนักเปียโนคนหนึ่งที่ชื่อสตีฟ 00:04:27.285 --> 00:04:29.899 คุณคงพอจะสรุปได้ว่า 00:04:29.899 --> 00:04:33.173 เสียง "ส" กับ "ต" ไม่ว่าจะอยู่รวมกันหรือแยกกัน 00:04:33.173 --> 00:04:36.216 เป็นจุดอ่อนแท้ๆ ของฉันเลย 00:04:37.287 --> 00:04:39.439 แต่ฉันก็ต้องแนะนำนักดนตรี 00:04:39.439 --> 00:04:42.651 ในขณะที่เสียงจังหวะในพื้นหลังกำลังเล่นอยู่ 00:04:42.651 --> 00:04:45.500 แล้วพอมาถึงสตีฟ 00:04:45.500 --> 00:04:51.271 ฉันก็มักจะติดอยู่ที่ "สต" 00:04:51.271 --> 00:04:53.943 แล้วมันเป็นอะไรที่น่าอายและอึดอัดมาก แถมยังเป็นตัวทำลายบรรยากาศที่ดีเยี่ยม 00:04:56.615 --> 00:04:59.287 พอเกิดขึ้นหลายๆ ครั้ง 00:04:59.287 --> 00:05:04.387 สตีฟเลยยินดีที่จะใช้ชื่อ "ซีฟ" แทน 00:05:04.387 --> 00:05:08.982 แล้วเราก็ผ่านกันมาแบบนี้ (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:05:09.887 --> 00:05:12.238 ฉันไปรับการบำบัดมาเยอะอยู่ 00:05:12.238 --> 00:05:14.525 และวิธีการรักษาหนึ่งที่แพร่หลายคือการใช้ 00:05:14.525 --> 00:05:19.433 เทคนิคหนึ่งที่เรียกว่าการพูดแบบลื่นไหล 00:05:19.433 --> 00:05:24.858 ซึ่งก็คือการที่คุณแทบจะร้องทุกอย่างออกมาเป็นเพลง 00:05:24.858 --> 00:05:27.210 ประมาณว่าเชื่อมทุกคำเข้าด้วยกัน 00:05:27.210 --> 00:05:31.475 เป็นท่วงทำนอง เหมือน การพูดของครูโรงเรียนอนุบาล 00:05:31.475 --> 00:05:35.454 แล้วมันทำให้คุณฟังดูใจเย็นมาก เหมือนทานยาแวเลียมไปซะเยอะ 00:05:35.454 --> 00:05:39.246 แล้วทุกอย่างช่างสงบสุขเหลือเกิน (เสียงหัวเราะ) 00:05:39.246 --> 00:05:42.373 ซึ่งนั่นไม่ใช่ตัวฉันที่แท้จริง 00:05:42.373 --> 00:05:45.698 ฉันก็ใช้วิธีนั้นอยู่หรอก 00:05:45.698 --> 00:05:52.532 ฉันใช้มันเวลาไปออกรายการโทรทัศน์ 00:05:52.532 --> 00:05:55.911 หรือเวลาต้องให้สัมภาษณ์รายการวิทยุ 00:05:55.911 --> 00:06:00.774 เมื่อมูลค่าของเวลาออกอากาศอยู่ที่จุดสูงสุด 00:06:00.774 --> 00:06:03.828 (เสียงหัวเราะ) 00:06:03.828 --> 00:06:08.216 ฉันผ่านมันไปด้วยวิธีนี้เพื่องานของฉัน 00:06:08.216 --> 00:06:10.933 แต่ในฐานะศิลปินคนหนึ่งที่รู้สึกว่าผลงาน 00:06:10.933 --> 00:06:16.903 ควรเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ 00:06:16.903 --> 00:06:20.937 และความเป็นจริง 00:06:20.937 --> 00:06:24.671 หลายครั้งมันทำให้รู้สึกว่าเป็นการหลอกลวง NOTE Paragraph 00:06:24.671 --> 00:06:27.885 ซึ่งก็คือเหตุผลว่าทำไมก่อนที่ฉันจะร้องเพลง ฉันอยากจะบอกคุณ 00:06:27.885 --> 00:06:31.544 ว่าการร้องเพลงมีความหมายอย่างไรกับฉัน 00:06:31.544 --> 00:06:35.595 มันเป็นอะไรมากกว่าการทำเสียงเพราะๆ 00:06:35.595 --> 00:06:40.997 และมันเป็นอะไรมากกว่าการทำเพลงดีๆ 00:06:40.997 --> 00:06:46.531 มันมากกว่าการรู้สึกเป็นที่รู้จักหรือมีคนเข้าใจ 00:06:46.531 --> 00:06:52.696 มันมากกว่าการทำให้คุณสามารถรู้สึกสิ่งที่ฉันรู้สึก 00:06:52.696 --> 00:06:55.385 มันไม่ใช่เรื่องของตำนาน 00:06:55.385 --> 00:07:00.427 หรือการสร้างตนเองให้เป็นตำนานสำหรับคุณ 00:07:00.427 --> 00:07:05.805 ด้วยกลไกอะไรสักอย่าง 00:07:05.805 --> 00:07:10.305 ของโสตประสาทสมองมนุษย์ 00:07:10.305 --> 00:07:15.761 มันเป็นไปไม่ได้ที่จะติดอ่างเวลาร้องเพลง 00:07:15.761 --> 00:07:19.517 ตอนที่ฉันเด็กๆ นั่นเป็นวิธีหนึ่งในการรักษา 00:07:19.517 --> 00:07:21.970 และสำหรับฉันมันก็ได้ผลมาก 00:07:21.970 --> 00:07:27.850 การร้องเพลงน่ะ ฉันเลยทำซะเยอะ 00:07:27.850 --> 00:07:31.993 และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ตรงนี้ในวันนี้ NOTE Paragraph 00:07:31.993 --> 00:07:36.358 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:07:36.358 --> 00:07:39.849 ขอบคุณค่ะ NOTE Paragraph 00:07:42.010 --> 00:07:46.583 สำหรับฉันแล้ว การร้องเพลงคือ การปลดเปลื้องความกังวลทุกอย่าง NOTE Paragraph 00:07:46.583 --> 00:07:55.430 มันเป็นเวลาเดียวที่ฉันรู้สึกว่า สามารถสื่อความได้อย่างคล่องแคล่ว 00:07:55.430 --> 00:07:58.856 มันเป็นเวลาเดียวที่สิ่งที่ออกมาจากปากของฉัน 00:07:58.856 --> 00:08:01.448 มีความหมายตรงเป๊ะกับสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อ 00:08:01.448 --> 00:08:03.731 (เสียงหัวเราะ) 00:08:03.731 --> 00:08:06.668 ฉันรู้ว่านี่คือ TED Talk 00:08:06.668 --> 00:08:10.417 แต่ตอนนี้ฉันจะร้องเพลงแทนละ 00:08:10.417 --> 00:08:11.976 นี่เป็นเพลงที่ฉันแต่งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว NOTE Paragraph 00:08:11.976 --> 00:08:14.374 ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณ NOTE Paragraph 00:08:14.374 --> 00:08:19.548 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:08:27.321 --> 00:08:33.180 (เสียงเปียโน) NOTE Paragraph 00:08:42.819 --> 00:08:46.692 ♪ ฉันคงจะเป็นผู้เลอโฉมได้ ♪ NOTE Paragraph 00:08:46.692 --> 00:08:50.168 ♪ แต่จมูกของฉัน ♪ NOTE Paragraph 00:08:50.168 --> 00:08:53.802 ♪ ใหญ่เกินไปนิด ♪ NOTE Paragraph 00:08:53.802 --> 00:08:57.300 ♪ สำหรับใบหน้าของฉัน ♪ NOTE Paragraph 00:08:57.300 --> 00:09:01.175 ♪ และฉันคงจะเป็นนักช่างฝันได้ ♪ NOTE Paragraph 00:09:01.175 --> 00:09:04.640 ♪ แต่ความฝันของฉัน ♪ NOTE Paragraph 00:09:04.640 --> 00:09:08.251 ♪ ยิ่งใหญ่เกินไปหน่อย ♪ NOTE Paragraph 00:09:08.251 --> 00:09:11.840 ♪ สำหรับพื้นที่แค่นี้ ♪ NOTE Paragraph 00:09:11.840 --> 00:09:15.777 ♪ และฉันคงจะเป็นเทพธิดาได้ ♪ NOTE Paragraph 00:09:15.777 --> 00:09:19.450 ♪ แต่บุญบารมีของฉัน ♪ NOTE Paragraph 00:09:19.450 --> 00:09:22.886 ♪ จืดจางลงในแสงแพรวพราว ♪ NOTE Paragraph 00:09:22.886 --> 00:09:26.407 ♪ จากความสง่างามของคุณ ♪ NOTE Paragraph 00:09:26.407 --> 00:09:30.164 ♪ และฉันคงจะเป็นตัวโจ๊ก ♪ NOTE Paragraph 00:09:30.164 --> 00:09:38.939 ♪ แต่ไพ่ใบนั้นกลับดูงี่เง่าเมื่อคุณวาง ♪ NOTE Paragraph 00:09:38.939 --> 00:09:43.174 ♪ ไพ่เอส ♪ NOTE Paragraph 00:09:55.701 --> 00:09:59.469 ♪ ฉันอยากจะรู้ ♪ NOTE Paragraph 00:09:59.469 --> 00:10:03.238 ♪ มีดวงดาวบ้างไหมในขุมนรก ♪ NOTE Paragraph 00:10:03.238 --> 00:10:06.917 ♪ และฉันอยากจะรู้ ♪ NOTE Paragraph 00:10:06.917 --> 00:10:10.721 ♪ อยากจะรู้ว่าคุณจะบอกฉันได้ไหม ♪ NOTE Paragraph 00:10:10.721 --> 00:10:17.705 ♪ ว่าคุณทำให้ฉันสูญเสียทุกอย่างที่ฉันรู้ไป ♪ NOTE Paragraph 00:10:17.705 --> 00:10:24.585 ♪ ว่าฉันไม่มีสิทธิ์จะเลือกหรือว่าจะปล่อยมันไป ♪ NOTE Paragraph 00:10:38.022 --> 00:10:42.186 ♪ และฉันจะอยู่ตลอดไป ♪ NOTE Paragraph 00:10:42.186 --> 00:10:45.471 ♪ แต่บ้านของฉัน ♪ NOTE Paragraph 00:10:45.471 --> 00:10:49.150 ♪ กลับห่างไกลเกินไปนิด ♪ NOTE Paragraph 00:10:49.150 --> 00:10:51.973 ♪ จากที่นี่ ♪ NOTE Paragraph 00:10:51.973 --> 00:10:56.327 ♪ และฉันสาบานว่าฉันพยายามแล้ว ♪ NOTE Paragraph 00:10:56.327 --> 00:10:59.938 ♪ ที่จะไปให้ช้าลง ♪ NOTE Paragraph 00:10:59.938 --> 00:11:06.883 ♪ เวลาที่เดินอยู่กับคุณ ♪ NOTE Paragraph 00:11:06.883 --> 00:11:09.168 ♪ แต่สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ ♪ NOTE Paragraph 00:11:09.168 --> 00:11:14.616 ♪ ระหว่างที่เดินทางผ่านแต่ละเมืองอย่างไร้จุดหมาย ♪ NOTE Paragraph 00:11:14.616 --> 00:11:21.785 ♪ ฉันดูสวยไหมยามฝนตก ♪ NOTE Paragraph 00:11:21.785 --> 00:11:25.210 ♪ และฉันก็ไม่รู้ว่าใครสักคน ♪ NOTE Paragraph 00:11:25.210 --> 00:11:28.733 ♪ ที่แสนจะน่ารัก ♪ NOTE Paragraph 00:11:28.733 --> 00:11:34.391 ♪ ทำให้ฉันรู้สึกน่าเกลียดได้อย่างไร ♪ NOTE Paragraph 00:11:34.391 --> 00:11:37.465 ♪ มีแต่ความอับอาย ♪ NOTE Paragraph 00:11:43.595 --> 00:11:47.296 ♪ และฉันก็อยากจะรู้ ♪ NOTE Paragraph 00:11:47.296 --> 00:11:50.852 ♪ ว่ามีดวงดาวบ้างไหมในขุมนรก ♪ NOTE Paragraph 00:11:50.852 --> 00:11:54.624 ♪ และฉันก็อยากจะรู้ ♪ NOTE Paragraph 00:11:54.624 --> 00:11:58.282 ♪ อยากจะรู้ว่าคุณจะบอกฉันได้ไหม ♪ NOTE Paragraph 00:11:58.282 --> 00:12:05.459 ♪ ว่าคุณทำให้ฉันสูญเสียทุกอย่างที่ฉันรู้ไป ♪ NOTE Paragraph 00:12:05.459 --> 00:12:12.007 ♪ ว่าฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกหรือจะปล่อยมันไป ♪ NOTE Paragraph 00:12:40.620 --> 00:12:45.061 ขอบคุณมากค่ะ (เสียงปรบมือ)