1 00:00:00,709 --> 00:00:02,319 อะไรคือจุดบรรจบ 2 00:00:02,319 --> 00:00:06,636 ระหว่าง เทคโนโลยี ศิลปะ และ วิทยาศาสตร์? 3 00:00:06,636 --> 00:00:08,733 ความใคร่รู้ และ ความอัศจรรย์ใจ 4 00:00:08,733 --> 00:00:11,646 เพราะมันขับดันให้เราออกสำรวจค้นหา 5 00:00:11,646 --> 00:00:15,110 เพราะเราถูกห้อมล้อมไปด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น 6 00:00:15,110 --> 00:00:16,724 และผมรักการใช้ภาพยนต์ 7 00:00:16,724 --> 00:00:18,060 พาเราออกเดินทาง 8 00:00:18,060 --> 00:00:20,940 ข้ามผ่านมิติและกาลเวลา 9 00:00:20,940 --> 00:00:23,314 ให้เรามองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็น 10 00:00:23,314 --> 00:00:24,964 เพราะนั่นคือการ 11 00:00:24,964 --> 00:00:26,887 ขยายขอบเขตโลกทัศน์ของเรา 12 00:00:26,887 --> 00:00:29,348 แปลงเปลี่ยนการรับรู้ของเรา 13 00:00:29,348 --> 00:00:31,678 เปิดใจเราให้กว้างขึ้น 14 00:00:31,678 --> 00:00:33,642 และจับใจเรา 15 00:00:33,642 --> 00:00:35,081 นี่คือบางฉากบางตอน 16 00:00:35,081 --> 00:00:36,900 จากภาพยนต์สามมิติ ไอแมกส์ (IMAX) ของผม 17 00:00:36,900 --> 00:00:39,679 "ปริศนาแห่งโลกเร้นลับ" 18 00:00:39,679 --> 00:00:42,193 (เสียงดนตรี) 19 00:00:42,193 --> 00:00:43,777 การเคลื่อนไหวบางอย่างเชื่องช้า 20 00:00:43,777 --> 00:00:46,192 เกินกว่าที่ตาเราจะสังเกตเห็น 21 00:00:46,192 --> 00:00:49,082 และการถ่ายภาพไทม์แลปส์ (timelapse) ทำให้เราค้นพบ 22 00:00:49,082 --> 00:00:51,790 และขยายทัศนะของเราที่มีต่อสิ่งมีชีวิต 23 00:00:51,790 --> 00:00:55,930 เราสามารถมองเห็นว่าสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมา และเติบโตเช่นไร 24 00:00:55,930 --> 00:00:59,615 ว่าเถาไม้เอาชีวิตรอดด้วยการไต่ขึ้นจากพื้นป่า 25 00:00:59,615 --> 00:01:02,534 เพื่อมองหาแสงแดดเช่นไร 26 00:01:03,943 --> 00:01:05,803 และที่ระดับมหภาค 27 00:01:05,803 --> 00:01:10,736 ไทม์แลปส์ทำให้เรามองเห็นโลกเคลื่อนไหว 28 00:01:10,736 --> 00:01:13,513 เราไม่เพียงได้เห็นการขับเคลื่อน ที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ 29 00:01:13,513 --> 00:01:17,198 แต่ยังได้เห็นการเคลื่อนไป อย่างไม่หยุดยั้งของมวลมนุษย์ 30 00:01:17,198 --> 00:01:20,650 แต่ละจุดที่พุ่งไปแสดงถึงเครื่องบินโดยสารหนึ่งลำ 31 00:01:20,650 --> 00:01:22,490 และด้วยการแปลข้อมูลจราจรทางอากาศ 32 00:01:22,490 --> 00:01:23,992 เป็นภาพไทม์แลปส์ 33 00:01:23,992 --> 00:01:26,560 เราก็สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่เหนือเราตลอดเวลา 34 00:01:26,560 --> 00:01:28,111 แต่มองไม่เห็น 35 00:01:28,111 --> 00:01:33,655 โครงข่ายมหึมาของการเดินทาง ทางอากาศเหนือประเทศสหรัฐฯ 36 00:01:33,655 --> 00:01:36,826 เราสามารถทำสิ่งเดียวกันนี้กับเรือในท้องทะเล 37 00:01:36,826 --> 00:01:39,138 เราสามารถแปลงข้อมูลเป็นมุมมองไทม์แลปส์ 38 00:01:39,138 --> 00:01:44,261 ของเศรษฐกิจโลกที่กำลังเคลื่อนไหว 39 00:01:49,549 --> 00:01:51,123 และด้วยข้อมูลหลายทศวรรษ 40 00:01:51,123 --> 00:01:53,364 ทำให้เราได้เห็นโลกทั้งใบ 41 00:01:53,364 --> 00:01:55,245 ในฐานะสิ่งมีชีวิตหนึ่งชีวิต 42 00:01:55,245 --> 00:01:58,425 ซึ่งถูกอุ้มชูด้วยกระแสน้ำ ที่ไหลเวียนทั่วมหาสมุทร 43 00:01:58,425 --> 00:02:02,580 และด้วยเมฆที่ล่องลอยในชั้นบรรยากาศ 44 00:02:02,580 --> 00:02:04,849 มีสายฟ้าฟาดเป็นจังหวะชีพจร 45 00:02:04,849 --> 00:02:07,800 มีแสงเหนือเป็นดั่งมงกุฎ 46 00:02:07,800 --> 00:02:11,830 นี่อาจเป็นภาพไทม์แลปส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 47 00:02:11,830 --> 00:02:15,862 กายวิภาคของโลกที่มีชีวิต 48 00:02:19,441 --> 00:02:21,133 ณ อีกด้านสุดขั้ว 49 00:02:21,133 --> 00:02:24,702 มีสิ่งที่เคลื่อนที่เร็วเกินกว่าที่ตาเราจะมองเห็น 50 00:02:24,702 --> 00:02:26,850 แต่เรามีเทคโนโลยี ซึ่งทำให้เราสามารถมองเห็นโลกนั้น 51 00:02:26,850 --> 00:02:29,703 ได้เช่นกัน 52 00:02:31,763 --> 00:02:32,863 ด้วยกล้องความไวสูง 53 00:02:32,863 --> 00:02:34,819 เราสามารถทำสิ่งตรงกันข้ามกับไทม์แลปส์ 54 00:02:34,819 --> 00:02:36,995 เราสามารถถ่ายภาพซึ่งเร็วกว่าการมองเห็นของเรา 55 00:02:36,995 --> 00:02:40,801 เป็นพัน ๆ เท่า 56 00:02:40,801 --> 00:02:44,985 และเรายังสามารถมองเห็นว่า อุปกรณ์อันชาญฉลาดของธรรมชาติทำงานเช่นไร 57 00:02:44,985 --> 00:02:48,215 และบางทีเราก็สามารถลอกเลียนแบบได้ 58 00:02:50,275 --> 00:02:52,665 ขณะที่แมลงปอกระพือปีกบิน 59 00:02:52,665 --> 00:02:54,462 คุณอาจไม่ตระหนัก 60 00:02:54,462 --> 00:02:57,120 แต่แมลงปอนั้น คือนักบินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในธรรมชาติ 61 00:02:57,120 --> 00:03:01,151 มันสามารถลอยตัวอยู่กับที่ บินถอยหลัง 62 00:03:01,151 --> 00:03:04,476 หรือแม้แต่บินกลับหัว 63 00:03:04,476 --> 00:03:07,577 และด้วยการติดตามเส้นทาง การเคลื่อนที่ของปีกแมลงปอ 64 00:03:07,577 --> 00:03:11,252 เราสามารถสร้างภาพกระแสอากาศ ที่เกิดจากการบินได้ 65 00:03:11,252 --> 00:03:12,594 ไม่เคยมีใครล่วงรู้ความลับนี้ 66 00:03:12,594 --> 00:03:15,143 แต่ภาพความเร็วสูงแสดงให้เห็นว่าแมลงปอ 67 00:03:15,143 --> 00:03:17,370 สามารถขยับปีกทั้งสี่ในทิศทางต่างกัน 68 00:03:17,370 --> 00:03:19,680 ในขณะเวลาเดียวกัน 69 00:03:19,680 --> 00:03:21,258 และสิ่งที่เราได้เรียนรู้ สามารถพาเรา 70 00:03:21,258 --> 00:03:23,292 ไปสู่หุ่นยนต์บินได้รูปแบบใหม่ 71 00:03:23,292 --> 00:03:25,110 ซึ่งสามารถขยายขอบเขตการมองเห็นของเรา 72 00:03:25,110 --> 00:03:30,924 ในสถานที่สำคัญและห่างไกล 73 00:03:32,138 --> 00:03:34,296 เราเป็นยักษ์ และเราไม่ตระหนักถึง 74 00:03:34,296 --> 00:03:36,746 สิ่งที่เล็กเกินกว่าที่ตาเราจะเห็น 75 00:03:36,746 --> 00:03:39,722 กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนใช้การยิงอิเล็กตรอน 76 00:03:39,722 --> 00:03:41,369 เพื่อสร้างภาพ 77 00:03:41,369 --> 00:03:43,050 ซึ่งสามารถขยายสิ่งต่าง ๆ ได้มากถึง 78 00:03:43,050 --> 00:03:45,496 ล้านเท่า 79 00:03:45,496 --> 00:03:49,210 นี่คือไข่ของผีเสื้อ 80 00:03:49,210 --> 00:03:52,544 และก็มีสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็น อาศัยอยู่ทั่วร่างกายคุณ 81 00:03:52,544 --> 00:03:55,259 ซึ่งรวมถึงไรที่อาศัยอยู่บนขนตาคุณ 82 00:03:55,259 --> 00:03:57,290 ตลอดชั่วชีวิตของมัน 83 00:03:57,290 --> 00:04:00,722 คืบคลานไปตามผิวหนังคุณยามค่ำคืน 84 00:04:00,722 --> 00:04:03,750 คุณเดาได้ไหมว่านี่คืออะไร? 85 00:04:03,750 --> 00:04:06,224 ผิวปลาฉลาม 86 00:04:07,960 --> 00:04:10,864 ปากของหนอนผีเสื้อ 87 00:04:12,170 --> 00:04:15,367 ดวงตาของแมลงวันผลไม้ 88 00:04:17,283 --> 00:04:20,247 เปลือกไข่ 89 00:04:22,070 --> 00:04:24,775 ตัวหมัด 90 00:04:27,293 --> 00:04:31,207 ลิ้นของหอยทาก 91 00:04:31,995 --> 00:04:34,473 เราคิดว่าเรารู้จักอาณาจักรสัตว์แล้ว เป็นส่วนใหญ่ 92 00:04:34,473 --> 00:04:36,885 แต่อาจยังมีสัตว์สายพันธุ์เล็กจิ๋วอีกเป็นล้าน ๆ 93 00:04:36,885 --> 00:04:40,503 ที่รอการค้นพบอยู่ 94 00:04:43,151 --> 00:04:45,779 แมงมุมก็เก็บงำความลับที่ยิ่งใหญ่ไว้เช่นกัน 95 00:04:45,779 --> 00:04:47,931 เพราะเส้นใยแมงมุม เมื่อเทียบน้ำหนักปอด์นต่อปอด์น 96 00:04:47,931 --> 00:04:49,683 แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า 97 00:04:49,683 --> 00:04:51,744 แต่กลับยืดหยุ่นเป็นอย่างยิ่ง 98 00:04:51,744 --> 00:04:53,855 การเดินทางนี้จะนำเราลึกลงไปสู่ 99 00:04:53,855 --> 00:04:55,987 โลกนาโน 100 00:04:55,987 --> 00:04:58,771 ใยแมงมุมบางกว่าผมมนุษย์ 101 00:04:58,771 --> 00:05:02,293 เป็น 100 เท่า 102 00:05:02,293 --> 00:05:05,020 บนนั้นมีแบคทีเรียอยู่ 103 00:05:05,020 --> 00:05:08,221 และใกล้ ๆ กับแบคทีเรีย เล็กกว่าเป็น 10 เท่า 104 00:05:08,221 --> 00:05:11,145 คือไวรัส 105 00:05:11,145 --> 00:05:14,647 ภายในนั้น เล็กกว่าเป็น 10 เท่า 106 00:05:14,647 --> 00:05:17,507 คือดีเอ็นเอสามสาย 107 00:05:17,507 --> 00:05:20,897 และเกือบถึงขีดจำกัดของกล้องจุลทรรศน์ ที่ทรงพลังที่สุดของเรา 108 00:05:20,897 --> 00:05:25,859 คืออะตอมคาร์บอนเดี่ยว 109 00:05:25,859 --> 00:05:27,935 ด้วยปลายกล้องจุลทรรศน์ทรงพลัง 110 00:05:27,935 --> 00:05:29,939 เราสามารถขยับอะตอมได้จริง ๆ 111 00:05:29,939 --> 00:05:35,827 และเริ่มสร้างสรรค์อุปกรณ์นาโนอันน่าทึ่ง 112 00:05:35,827 --> 00:05:37,819 ซึ่งวันหนึ่งจะลาดตระเวนไปทั่วร่างการของเรา 113 00:05:37,819 --> 00:05:40,050 เพื่อป้องกันภัยจากโรคทั้งหลาย 114 00:05:40,050 --> 00:05:44,100 และทำความสะอาดเส้นเลือดที่อุดตันตามรายทาง 115 00:05:44,100 --> 00:05:46,945 เครื่องจักรเคมีจิ๋วแห่งอนาคต 116 00:05:46,945 --> 00:05:50,943 วันหนึ่งอาจสามารถซ่อมแซมดีเอ็นเอ 117 00:05:50,943 --> 00:05:54,151 เราอยู่ ณ จุดเปลี่ยนผ่านสู่ความก้าวล้ำเกินธรรมดา 118 00:05:54,151 --> 00:05:55,901 ซึ่งเกิดจากแรงขับดันของพวกเรา 119 00:05:55,901 --> 00:05:59,558 ที่จะไขปริศนาของสิ่งมีชีวิต 120 00:06:00,618 --> 00:06:03,482 ดังนั้นภายใต้ฝนฝุ่นคอสมิกที่ตกไม่เคยหยุด 121 00:06:03,482 --> 00:06:05,679 อากาศที่เต็มไปด้วยละอองเกสร 122 00:06:05,679 --> 00:06:08,753 เพชรระดับไมโครและอัญมณีจากดาวเคราะห์อื่น 123 00:06:08,753 --> 00:06:11,478 และการระเบิดซุปเปอร์โนวา 124 00:06:11,478 --> 00:06:13,487 ผู้คนดำเนินชีวิต 125 00:06:13,487 --> 00:06:18,641 ที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น 126 00:06:18,641 --> 00:06:20,384 เมื่อรู้ว่ามีสิ่งต่าง ๆ มากมายรอบตัว 127 00:06:20,384 --> 00:06:21,760 ที่เราสามารถมองเห็นได้ 128 00:06:21,760 --> 00:06:24,816 เราจะเข้าใจโลกต่างไปจากเดิมตลอดกาล 129 00:06:24,816 --> 00:06:27,205 และด้วยการมองดูโลกที่มองไม่เห็น เราได้ตระหนักว่า 130 00:06:27,205 --> 00:06:29,264 เราดำรงอยู่ในจักรวาลที่มีชีวิต 131 00:06:29,264 --> 00:06:32,312 และทัศนะใหม่นี้ก่อให้เกิดความอัศจรรย์ใจ 132 00:06:32,312 --> 00:06:34,915 และสร้างแรงบันดาลใจให้เรากลายเป็นนักสำรวจ 133 00:06:34,915 --> 00:06:38,235 ท่องไปในสวนหลังบ้านของเรา 134 00:06:38,235 --> 00:06:40,796 ใครเล่าจะรู้ว่ามีอะไรรอให้พบเห็น 135 00:06:40,796 --> 00:06:44,554 และสิ่งมหัศจรรย์ใหม่จะเปลี่ยนชีวิตเราไปเช่นไร 136 00:06:44,554 --> 00:06:50,048 แค่เราจะต้องมองดู 137 00:06:50,048 --> 00:06:54,952 (เสียงปรบมือ) 138 00:06:54,952 --> 00:07:02,140 ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)