WEBVTT

00:00:14.989 --> 00:00:20.288
คาร์บอนไดออกไซด์หรือCO2เป็นตัวการทำให้เกิด
ก๊าซเรือนกระจกที่เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

00:00:20.288 --> 00:00:23.656
CO2 เข้ามาในบรรยากาศของเราได้อย่างไร?

00:00:23.656 --> 00:00:28.256
คาร์บอนเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร 
ซึ่งเริ่มจากดวงอาทิตย์

00:00:28.256 --> 00:00:31.788
ได้แผ่รังสีความร้อนมายังผิวโลก

00:00:31.788 --> 00:00:34.421
เพียง 1 ชั่วโมงก็มากพอให้โลกใช้ได้ทั้งปี

00:00:34.421 --> 00:00:37.771
พืชที่มีหน้าที่คล้ายพ่อครัวชีวภาพ

00:00:37.771 --> 00:00:40.838
ใช้แสงแดดแล้วดูด CO2 จากอากาศ

00:00:40.838 --> 00:00:42.605
รวมเข้าด้วยกัน แล้วบูม!

00:00:42.605 --> 00:00:46.188
พวกมันสร้างคลังเก็บกักพลังงานในรูป
คาร์โบไฮเดรต

00:00:46.188 --> 00:00:49.121
เช่น กลูโคสและซูโครส

00:00:49.121 --> 00:00:52.072
กระบวนการนี้คือการสังเคราะห์แสง

00:00:52.072 --> 00:00:54.239
เมื่อสัตว์หรือคนกินพืชเหล่านี้

00:00:54.239 --> 00:00:58.388
กระเพาะจะย่อยอาหารให้เป็นพลังงาน
เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต

00:00:58.388 --> 00:01:00.771
ก๊าซเรือนกระจกคือผลของกระบวนการนี้

00:01:00.771 --> 00:01:03.138
ที่เกิดจากการปล่อยของเสีย

00:01:03.138 --> 00:01:08.205
ถ้าพืชตาย มันจะเน่าเปื่อย และจุลินทรีย์
จะย่อยพวกมันเป็นคาร์โบไฮเดรส

00:01:08.205 --> 00:01:12.656
และเกิดก๊าซเรือนกระจกขึ้นเช่นเดียวกัน


00:01:12.656 --> 00:01:18.055
จะเห็นว่าพลังงานมีต้นกำเนิดจากดวงอาทิตย์
แล้วแปรรูปเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร

00:01:18.055 --> 00:01:24.287
แต่บางครั้ง คาร์บอนจากอินทรีย์์วัตถุ เช่น
พืชหรือสัตว์เน่าเปื่อยบนพื้นดิน

00:01:24.287 --> 00:01:28.138
ถ้าถูกบีบอัดด้วยแรงกดดันหลาย ๆ ตัน

00:01:28.138 --> 00:01:30.240
จะแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลจากคาร์บอน

00:01:30.240 --> 00:01:33.604
เช่น น้ำมัน ถ่านหิน หรือ ก๊าซธรรมชาติ

00:01:33.604 --> 00:01:37.955
เมื่อการปฏิวัติอุตสาหกรรม มนุษย์ได้ใช้
พลังงานฟอสซิลจากใต้พื้นโลก

00:01:37.955 --> 00:01:41.572
นำมาเผาไหม้ เพื่อใช้พลังงานเหล่านั้น

00:01:41.572 --> 00:01:44.305
ให้เป็นไฟฟ้าหรือพลังงานเครื่องยนต์

00:01:44.305 --> 00:01:52.671
แต่สิ่งเหล่านี้ก็ปล่อย CO2 
ที่สะสมมานับล้านปีกลับสู่อากาศ

00:01:52.671 --> 00:01:57.021
เช่นเดียวกัน คนหายใจเข้าเป็นออกซิเจน
แล้วหายใจออกเป็น CO2

00:01:57.021 --> 00:02:00.188
แต่พวกพืชทำตรงกันข้าม

00:02:00.188 --> 00:02:04.620
ต้นไม้ดูด CO2 จำนวนมากมายมหาศาล ทำให้
วัฎจักรโลกนี้สมดุล

00:02:04.620 --> 00:02:09.304
การโค่นป่าไม้คือการลดพวกพืชที่เก็บกัก CO2

00:02:09.304 --> 00:02:11.939
เรากำลังทำลายวัฏจักรนี้ทั้งสองด้าน

00:02:11.939 --> 00:02:16.256
ลองคิดถึงคอมพิวเตอร์ 
ที่ทำงานหลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน

00:02:16.256 --> 00:02:20.421
โดยทั่วไป เมื่อเราพิมพ์งานเสร็จ 
เราจะบันทึกข้อมูลและปิดไฟล์

00:02:20.421 --> 00:02:22.921
เพื่อไม่ให้คอมพิวเตอร์ทำงานหนักเกินไป

00:02:22.921 --> 00:02:26.071
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณไม่ปิดงานเลย

00:02:26.071 --> 00:02:28.505
งานทั้งหมดยังเปิดอยู่ในเวลาเดียวกัน

00:02:28.505 --> 00:02:30.355
คอมพิวเตอร์ของคุณอาจจะทำงานไม่ได้เลย

00:02:30.355 --> 00:02:33.971
อาจจะทำงานช้าลง หรือหยุดนิ่ง 
และในที่สุดเครื่องจะรวนไปหมด

00:02:33.971 --> 00:02:38.471
เช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมที่กำลังดำเนินไป
ถ้าเราใช้พลังงานคาร์บอนอย่างมากมาย

00:02:38.471 --> 00:02:41.688
มีวิธีไหนที่จะทำให้ระบบนิเวศกลับมาสมดุล

00:02:41.688 --> 00:02:46.771
ใช้เทคโนโลยี? 
เทคโนโลยีคือเทคนิคหนึ่งในการแก้ปัญหา

00:02:46.771 --> 00:02:52.005
เทคโนโลยีที่ยั่งยืน จะต้องเป็น
เทคโนโลยีที่สร้างผลที่ได้เท่ากับสิ่งที่ใช้

00:02:52.005 --> 00:02:54.855
จะต้องไม่สร้างผลกระทบภายนอกที่เป็นผลเสีย

00:02:54.855 --> 00:02:57.788
เช่น CO2 ทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต

00:02:57.788 --> 00:03:01.288
จะต้องหยุดการทำงานของตนเองได้
หากจะต้องแก้ปัญหา

00:03:01.288 --> 00:03:04.788
เพื่อบรรลุสิ่งเหล่านี้ 
เราจำเป็นต้องประดิษฐ์เทคโนโลยีที่ยั่งยืน

00:03:04.788 --> 00:03:09.005
ถ้าเราระดมความคิดทั้งหมดและเทคโนโลยีต่าง ๆ
ที่เคยสร้างมาเป็นวัฎจักรหนึ่งเดียว

00:03:09.005 --> 00:03:12.438
การสร้างสรรค์ ก็จะเป็นการผลักดันขยายวงจร
วัฎจักรนั้น

00:03:12.438 --> 00:03:15.672
และขอบเขตนอกวัฏจักรได้อย่างไม่สิ้นสุด

00:03:15.672 --> 00:03:18.989
นั่นคือ ศักยภาพการสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขต

00:03:18.989 --> 00:03:22.556
ให้คิดถึงเทคโนโลยีสะอาดที่สุดยอดในปัจจุบัน
[ลม ไฟฟ้า รถยนต์พลังแสง ไบโอแก๊ส]

00:03:22.556 --> 00:03:25.439
[เชื้อเพลิงชีวภาพ สาหร่ายสังเคราะห์แสง
ปุ๋ยหมัก] มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน

00:03:25.471 --> 00:03:29.288
คือ เกิดจากมนุษย์ 
มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นมา

00:03:29.288 --> 00:03:34.921
มันคือศักยภาพที่ไร้ขอบเขตของนักสร้างสรรค์

00:03:34.921 --> 00:03:39.371
ที่สร้างเทคโนโลยีที่เหนือจินตนาการ
เพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศ

00:03:39.371 --> 00:03:45.455
ทำให้ระบบนิเวศกลับมาสมดุล
และทำให้เกิดความหวังขึ้นมานั้นเอง