[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:14.99,0:00:20.29,Default,,0000,0000,0000,,คาร์บอนไดออกไซด์หรือCO2เป็นตัวการทำให้เกิด\Nก๊าซเรือนกระจกที่เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ Dialogue: 0,0:00:20.29,0:00:23.66,Default,,0000,0000,0000,,CO2 เข้ามาในบรรยากาศของเราได้อย่างไร? Dialogue: 0,0:00:23.66,0:00:28.26,Default,,0000,0000,0000,,คาร์บอนเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร \Nซึ่งเริ่มจากดวงอาทิตย์ Dialogue: 0,0:00:28.26,0:00:31.79,Default,,0000,0000,0000,,ได้แผ่รังสีความร้อนมายังผิวโลก Dialogue: 0,0:00:31.79,0:00:34.42,Default,,0000,0000,0000,,เพียง 1 ชั่วโมงก็มากพอให้โลกใช้ได้ทั้งปี Dialogue: 0,0:00:34.42,0:00:37.77,Default,,0000,0000,0000,,พืชที่มีหน้าที่คล้ายพ่อครัวชีวภาพ Dialogue: 0,0:00:37.77,0:00:40.84,Default,,0000,0000,0000,,ใช้แสงแดดแล้วดูด CO2 จากอากาศ Dialogue: 0,0:00:40.84,0:00:42.60,Default,,0000,0000,0000,,รวมเข้าด้วยกัน แล้วบูม! Dialogue: 0,0:00:42.60,0:00:46.19,Default,,0000,0000,0000,,พวกมันสร้างคลังเก็บกักพลังงานในรูป\Nคาร์โบไฮเดรต Dialogue: 0,0:00:46.19,0:00:49.12,Default,,0000,0000,0000,,เช่น กลูโคสและซูโครส Dialogue: 0,0:00:49.12,0:00:52.07,Default,,0000,0000,0000,,กระบวนการนี้คือการสังเคราะห์แสง Dialogue: 0,0:00:52.07,0:00:54.24,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อสัตว์หรือคนกินพืชเหล่านี้ Dialogue: 0,0:00:54.24,0:00:58.39,Default,,0000,0000,0000,,กระเพาะจะย่อยอาหารให้เป็นพลังงาน\Nเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต Dialogue: 0,0:00:58.39,0:01:00.77,Default,,0000,0000,0000,,ก๊าซเรือนกระจกคือผลของกระบวนการนี้ Dialogue: 0,0:01:00.77,0:01:03.14,Default,,0000,0000,0000,,ที่เกิดจากการปล่อยของเสีย Dialogue: 0,0:01:03.14,0:01:08.20,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าพืชตาย มันจะเน่าเปื่อย และจุลินทรีย์\Nจะย่อยพวกมันเป็นคาร์โบไฮเดรส Dialogue: 0,0:01:08.20,0:01:12.66,Default,,0000,0000,0000,,และเกิดก๊าซเรือนกระจกขึ้นเช่นเดียวกัน\N Dialogue: 0,0:01:12.66,0:01:18.06,Default,,0000,0000,0000,,จะเห็นว่าพลังงานมีต้นกำเนิดจากดวงอาทิตย์\Nแล้วแปรรูปเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร Dialogue: 0,0:01:18.06,0:01:24.29,Default,,0000,0000,0000,,แต่บางครั้ง คาร์บอนจากอินทรีย์์วัตถุ เช่น\Nพืชหรือสัตว์เน่าเปื่อยบนพื้นดิน Dialogue: 0,0:01:24.29,0:01:28.14,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าถูกบีบอัดด้วยแรงกดดันหลาย ๆ ตัน Dialogue: 0,0:01:28.14,0:01:30.24,Default,,0000,0000,0000,,จะแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลจากคาร์บอน Dialogue: 0,0:01:30.24,0:01:33.60,Default,,0000,0000,0000,,เช่น น้ำมัน ถ่านหิน หรือ ก๊าซธรรมชาติ Dialogue: 0,0:01:33.60,0:01:37.96,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อการปฏิวัติอุตสาหกรรม มนุษย์ได้ใช้\Nพลังงานฟอสซิลจากใต้พื้นโลก Dialogue: 0,0:01:37.96,0:01:41.57,Default,,0000,0000,0000,,นำมาเผาไหม้ เพื่อใช้พลังงานเหล่านั้น Dialogue: 0,0:01:41.57,0:01:44.30,Default,,0000,0000,0000,,ให้เป็นไฟฟ้าหรือพลังงานเครื่องยนต์ Dialogue: 0,0:01:44.30,0:01:52.67,Default,,0000,0000,0000,,แต่สิ่งเหล่านี้ก็ปล่อย CO2 \Nที่สะสมมานับล้านปีกลับสู่อากาศ Dialogue: 0,0:01:52.67,0:01:57.02,Default,,0000,0000,0000,,เช่นเดียวกัน คนหายใจเข้าเป็นออกซิเจน\Nแล้วหายใจออกเป็น CO2 Dialogue: 0,0:01:57.02,0:02:00.19,Default,,0000,0000,0000,,แต่พวกพืชทำตรงกันข้าม Dialogue: 0,0:02:00.19,0:02:04.62,Default,,0000,0000,0000,,ต้นไม้ดูด CO2 จำนวนมากมายมหาศาล ทำให้\Nวัฎจักรโลกนี้สมดุล Dialogue: 0,0:02:04.62,0:02:09.30,Default,,0000,0000,0000,,การโค่นป่าไม้คือการลดพวกพืชที่เก็บกัก CO2 Dialogue: 0,0:02:09.30,0:02:11.94,Default,,0000,0000,0000,,เรากำลังทำลายวัฏจักรนี้ทั้งสองด้าน Dialogue: 0,0:02:11.94,0:02:16.26,Default,,0000,0000,0000,,ลองคิดถึงคอมพิวเตอร์ \Nที่ทำงานหลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน Dialogue: 0,0:02:16.26,0:02:20.42,Default,,0000,0000,0000,,โดยทั่วไป เมื่อเราพิมพ์งานเสร็จ \Nเราจะบันทึกข้อมูลและปิดไฟล์ Dialogue: 0,0:02:20.42,0:02:22.92,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อไม่ให้คอมพิวเตอร์ทำงานหนักเกินไป Dialogue: 0,0:02:22.92,0:02:26.07,Default,,0000,0000,0000,,ลองคิดดูว่า ถ้าคุณไม่ปิดงานเลย Dialogue: 0,0:02:26.07,0:02:28.50,Default,,0000,0000,0000,,งานทั้งหมดยังเปิดอยู่ในเวลาเดียวกัน Dialogue: 0,0:02:28.50,0:02:30.36,Default,,0000,0000,0000,,คอมพิวเตอร์ของคุณอาจจะทำงานไม่ได้เลย Dialogue: 0,0:02:30.36,0:02:33.97,Default,,0000,0000,0000,,อาจจะทำงานช้าลง หรือหยุดนิ่ง \Nและในที่สุดเครื่องจะรวนไปหมด Dialogue: 0,0:02:33.97,0:02:38.47,Default,,0000,0000,0000,,เช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมที่กำลังดำเนินไป\Nถ้าเราใช้พลังงานคาร์บอนอย่างมากมาย Dialogue: 0,0:02:38.47,0:02:41.69,Default,,0000,0000,0000,,มีวิธีไหนที่จะทำให้ระบบนิเวศกลับมาสมดุล Dialogue: 0,0:02:41.69,0:02:46.77,Default,,0000,0000,0000,,ใช้เทคโนโลยี? \Nเทคโนโลยีคือเทคนิคหนึ่งในการแก้ปัญหา Dialogue: 0,0:02:46.77,0:02:52.00,Default,,0000,0000,0000,,เทคโนโลยีที่ยั่งยืน จะต้องเป็น\Nเทคโนโลยีที่สร้างผลที่ได้เท่ากับสิ่งที่ใช้ Dialogue: 0,0:02:52.00,0:02:54.86,Default,,0000,0000,0000,,จะต้องไม่สร้างผลกระทบภายนอกที่เป็นผลเสีย Dialogue: 0,0:02:54.86,0:02:57.79,Default,,0000,0000,0000,,เช่น CO2 ทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต Dialogue: 0,0:02:57.79,0:03:01.29,Default,,0000,0000,0000,,จะต้องหยุดการทำงานของตนเองได้\Nหากจะต้องแก้ปัญหา Dialogue: 0,0:03:01.29,0:03:04.79,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อบรรลุสิ่งเหล่านี้ \Nเราจำเป็นต้องประดิษฐ์เทคโนโลยีที่ยั่งยืน Dialogue: 0,0:03:04.79,0:03:09.00,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าเราระดมความคิดทั้งหมดและเทคโนโลยีต่าง ๆ\Nที่เคยสร้างมาเป็นวัฎจักรหนึ่งเดียว Dialogue: 0,0:03:09.00,0:03:12.44,Default,,0000,0000,0000,,การสร้างสรรค์ ก็จะเป็นการผลักดันขยายวงจร\Nวัฎจักรนั้น Dialogue: 0,0:03:12.44,0:03:15.67,Default,,0000,0000,0000,,และขอบเขตนอกวัฏจักรได้อย่างไม่สิ้นสุด Dialogue: 0,0:03:15.67,0:03:18.99,Default,,0000,0000,0000,,นั่นคือ ศักยภาพการสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขต Dialogue: 0,0:03:18.99,0:03:22.56,Default,,0000,0000,0000,,ให้คิดถึงเทคโนโลยีสะอาดที่สุดยอดในปัจจุบัน\N[ลม ไฟฟ้า รถยนต์พลังแสง ไบโอแก๊ส] Dialogue: 0,0:03:22.56,0:03:25.44,Default,,0000,0000,0000,,[เชื้อเพลิงชีวภาพ สาหร่ายสังเคราะห์แสง\Nปุ๋ยหมัก] มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน Dialogue: 0,0:03:25.47,0:03:29.29,Default,,0000,0000,0000,,คือ เกิดจากมนุษย์ \Nมนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นมา Dialogue: 0,0:03:29.29,0:03:34.92,Default,,0000,0000,0000,,มันคือศักยภาพที่ไร้ขอบเขตของนักสร้างสรรค์ Dialogue: 0,0:03:34.92,0:03:39.37,Default,,0000,0000,0000,,ที่สร้างเทคโนโลยีที่เหนือจินตนาการ\Nเพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศ Dialogue: 0,0:03:39.37,0:03:45.46,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้ระบบนิเวศกลับมาสมดุล\Nและทำให้เกิดความหวังขึ้นมานั้นเอง