[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:01.27,0:00:03.93,Default,,0000,0000,0000,,ผมชื่อ แดน โคเฮน ผมเป็นนักวิชาการ Dialogue: 0,0:00:04.50,0:00:07.42,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นหมายความว่า ผมโตแย้ง Dialogue: 0,0:00:07.54,0:00:09.24,Default,,0000,0000,0000,,การโต้แย้งเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผม Dialogue: 0,0:00:09.27,0:00:10.43,Default,,0000,0000,0000,,และผมก็ชอบการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:00:10.71,0:00:14.11,Default,,0000,0000,0000,,ผมไม่ได้เป็นแค่นักวิชาการอย่างเดียว\Nผมเป็นนักปรัชญาด้วย Dialogue: 0,0:00:14.13,0:00:17.08,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ผมชอบที่จะคิดว่า\Nจริง ๆ แล้วผมโต้แย้งได้ดีทีเดียว Dialogue: 0,0:00:17.10,0:00:19.90,Default,,0000,0000,0000,,แต่ผมชอบคิดเรื่องการโต้แย้งด้วยเหมือนกัน Dialogue: 0,0:00:20.37,0:00:23.78,Default,,0000,0000,0000,,และระหว่างที่คิดเรื่องการโต้แย้ง\Nผมได้พบกับปริศนาบางอย่าง Dialogue: 0,0:00:23.78,0:00:25.76,Default,,0000,0000,0000,,หนึ่งในปริศนานั้น คือ Dialogue: 0,0:00:25.76,0:00:27.71,Default,,0000,0000,0000,,ระหว่างที่ผมคิดเรื่องการโต้แย้งมาเป็นปี ๆ Dialogue: 0,0:00:27.71,0:00:29.56,Default,,0000,0000,0000,,และตอนนี้ก็สิบกว่าปีแล้ว Dialogue: 0,0:00:29.56,0:00:31.48,Default,,0000,0000,0000,,ผมโต้แย้งได้ดีขึ้น Dialogue: 0,0:00:31.50,0:00:34.93,Default,,0000,0000,0000,,แต่ยิ่งผมโต้แย้งมากขึ้นและ\Nยิ่งผมโต้แย้งเก่งขึ้น Dialogue: 0,0:00:34.97,0:00:36.33,Default,,0000,0000,0000,,ผมยิ่งแพ้มากขึ้น Dialogue: 0,0:00:36.94,0:00:38.21,Default,,0000,0000,0000,,นั่นแหละที่เป็นปริศนา Dialogue: 0,0:00:38.21,0:00:41.50,Default,,0000,0000,0000,,และอีกปริศนาก็คือ \Nจริง ๆ แล้วผมก็ค่อนข้างชอบ Dialogue: 0,0:00:41.50,0:00:43.34,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมผมถึงยอมรับกับความพ่ายแพ้ Dialogue: 0,0:00:43.37,0:00:46.81,Default,,0000,0000,0000,,และทำไมผมคิดว่า ผู้โต้แย้งที่ดี\Nจริง ๆ แล้วก็แพ้ได้เก่งกว่าด้วย Dialogue: 0,0:00:46.83,0:00:48.84,Default,,0000,0000,0000,,ยังมีปริศนาอื่น ๆ อีก Dialogue: 0,0:00:48.87,0:00:50.74,Default,,0000,0000,0000,,หนึ่งคือ ทำไมเราถึงโต้แย้ง Dialogue: 0,0:00:50.77,0:00:52.41,Default,,0000,0000,0000,,ใครได้ประโยชน์จากการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:00:52.43,0:00:54.78,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อผมคิดถึงการโต้แย้ง ผมหมายถึง Dialogue: 0,0:00:54.80,0:00:57.64,Default,,0000,0000,0000,,การโต้แย้งเชิงวิชาการ \Nหรือการโต้แย้งทางความคิด Dialogue: 0,0:00:57.67,0:00:59.51,Default,,0000,0000,0000,,ที่ซึ่งเดิมพันกันด้วย องค์ความรู้ Dialogue: 0,0:00:59.53,0:01:02.28,Default,,0000,0000,0000,,ข้อเสนอนี้เป็นจริงหรือไม่\Nทฤษฎีนี้ดีหรือเปล่า Dialogue: 0,0:01:02.30,0:01:06.78,Default,,0000,0000,0000,,สามารถตีความต่อจากข้อมูล\Nหรือเนื้อหาได้หรือไม่ เป็นต้น Dialogue: 0,0:01:06.80,0:01:10.78,Default,,0000,0000,0000,,ผมไม่สนใจการโต้แย้งที่ว่า\Nรอบนี้ใครจะเป็นคนล้างจาน Dialogue: 0,0:01:10.80,0:01:12.48,Default,,0000,0000,0000,,หรือใครจะเป็นคนไปทิ้งขยะ Dialogue: 0,0:01:12.50,0:01:14.81,Default,,0000,0000,0000,,ก็ใช่ เรามีการโต้แย้งแบบนั้น Dialogue: 0,0:01:14.83,0:01:16.96,Default,,0000,0000,0000,,ผมมีแนวโน้มที่จะชนะมากกว่า\Nเพราะผมรู้เทคนิค Dialogue: 0,0:01:17.05,0:01:18.37,Default,,0000,0000,0000,,แต่การโต้แย้งในเรื่องแบบนี้ไม่สำคัญ Dialogue: 0,0:01:18.49,0:01:20.74,Default,,0000,0000,0000,,ผมสนใจการโต้แย้งในเชิงวิชาการ Dialogue: 0,0:01:20.86,0:01:22.33,Default,,0000,0000,0000,,และนี่คือปริศนาของผม Dialogue: 0,0:01:22.45,0:01:27.65,Default,,0000,0000,0000,,อย่างแรก ผู้โต้แย้งที่ดีชนะอะไร\Nเมื่อเขาชนะการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:01:27.72,0:01:30.24,Default,,0000,0000,0000,,ผมชนะอะไร ถ้าผมโน้มน้าวคุณว่า Dialogue: 0,0:01:30.27,0:01:32.42,Default,,0000,0000,0000,,อรรถประโยชน์นิยมไม่ใช่กรอบความคิดที่ถูก Dialogue: 0,0:01:32.42,0:01:33.91,Default,,0000,0000,0000,,ในการวิเคราะห์ทฤษฎีทางจริยศาสตร์ Dialogue: 0,0:01:33.97,0:01:36.27,Default,,0000,0000,0000,,เราชนะอะไรตอนที่เราโต้แย้งชนะ Dialogue: 0,0:01:36.27,0:01:37.74,Default,,0000,0000,0000,,แม้กระทั่งก่อนหน้านั้น Dialogue: 0,0:01:37.77,0:01:39.01,Default,,0000,0000,0000,,มันสำคัญอะไรกับผม Dialogue: 0,0:01:39.03,0:01:41.98,Default,,0000,0000,0000,,คุณจะคิดว่าทฤษฎีของคานต์ใช้ได้ Dialogue: 0,0:01:42.00,0:01:45.18,Default,,0000,0000,0000,,หรือจริยศาสตร์ของมิลล์ถูกต้องควรปฎิบัติตาม Dialogue: 0,0:01:45.20,0:01:46.58,Default,,0000,0000,0000,,มันไม่ใช่เรื่องของผม Dialogue: 0,0:01:46.60,0:01:49.77,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ว่าคุณจะเห็นว่าแนวคิดกลุ่มหน้าที่ของจิต\Nเป็นทฤษฎีจิตที่ใช้การได้ Dialogue: 0,0:01:50.30,0:01:52.34,Default,,0000,0000,0000,,ฉะนั้น เราจะพยายามโต้แย้งไปเพื่ออะไร Dialogue: 0,0:01:52.37,0:01:54.21,Default,,0000,0000,0000,,ทำไมเราพยายามโน้มน้าวคนอื่น Dialogue: 0,0:01:54.23,0:01:56.41,Default,,0000,0000,0000,,ให้เชื่อในสิ่งที่เขาไม่ต้องการจะเชื่อ Dialogue: 0,0:01:56.43,0:01:58.21,Default,,0000,0000,0000,,และกระทั่งว่า ทำแบบนี้ดีหรือเปล่า Dialogue: 0,0:01:58.23,0:02:00.48,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นวิธีปฎิบัติต่อมนุษย์ที่ดีหรือไม่ Dialogue: 0,0:02:00.50,0:02:03.48,Default,,0000,0000,0000,,พยายามทำให้คนอื่นคิดในสิ่งที่\Nเขาไม่ต้องการจะคิด Dialogue: 0,0:02:03.50,0:02:08.18,Default,,0000,0000,0000,,คำตอบของผม จะอ้างอิง\Nถึงการโต้แย้ง 3 รูปแบบ Dialogue: 0,0:02:08.20,0:02:10.53,Default,,0000,0000,0000,,แบบแรก เรามาเรียกมันว่า วิภาษวิธี Dialogue: 0,0:02:10.55,0:02:13.01,Default,,0000,0000,0000,,คือ เราคิคถึงการโต้แย้ง แบบทำสงคราม\Nคุณรู้ว่ามันเป็นอย่างไร Dialogue: 0,0:02:13.01,0:02:16.56,Default,,0000,0000,0000,,กรีดร้อง ตะโกนใส่กันเยอะ ๆ \Nและมีแพ้มีชนะ Dialogue: 0,0:02:16.56,0:02:18.58,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นรูปแบบที่ไม่มีประโยชน์สักเท่าไรนัก Dialogue: 0,0:02:18.58,0:02:21.54,Default,,0000,0000,0000,,แต่มันเป็นวิธีที่ค่อนข้างธรรมดา \Nและยึดมันถือกันในการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:02:21.57,0:02:24.81,Default,,0000,0000,0000,,แต่มีการโต้แย้งแบบที่ 2 \Nการโต้แย้งแบบข้อพิสูจน์ Dialogue: 0,0:02:24.83,0:02:26.91,Default,,0000,0000,0000,,ลองนึกถึง การโต้แย้งของนักคณิตศาสตร์ Dialogue: 0,0:02:26.93,0:02:29.71,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือข้อโต้แย้งของผม\Nใช้ได้หรือไม่ ดีหรือเปล่า Dialogue: 0,0:02:29.73,0:02:34.21,Default,,0000,0000,0000,,ข้อเสนอถูกรับรองหรือเปล่า\Nการอนุมานสมเหตุสมผลหรือเปล่า Dialogue: 0,0:02:34.23,0:02:36.78,Default,,0000,0000,0000,,ข้อสรุปเป็นไปตามข้อตั้งหลักหรือเปล่า Dialogue: 0,0:02:36.80,0:02:39.21,Default,,0000,0000,0000,,ไม่มีฝ่ายตรงข้าม ไม่มีความขัดแย้ง Dialogue: 0,0:02:39.23,0:02:44.91,Default,,0000,0000,0000,,ไม่จำเป็นต้องโต้แย้งด้วย\Nความรู้สึกเป็นศัตรู Dialogue: 0,0:02:44.93,0:02:46.77,Default,,0000,0000,0000,,แต่ก็มีรูปแบบที่ 3 ซึ่งโปรดจำไว้ Dialogue: 0,0:02:46.77,0:02:48.41,Default,,0000,0000,0000,,เพราะผมคิดว่ามันเป็นประโยชน์อย่างมาก Dialogue: 0,0:02:48.41,0:02:53.94,Default,,0000,0000,0000,,และมันคือ การโต้แย้งเแบบแสดงต่อหน้าผู้ฟัง Dialogue: 0,0:02:53.97,0:02:56.91,Default,,0000,0000,0000,,ลองนึกถึงนักการเมืองที่พยายามเสนอจุดยืน Dialogue: 0,0:02:56.93,0:02:59.08,Default,,0000,0000,0000,,พยายามโน้มน้าวบางอย่างให้ผู้ชม Dialogue: 0,0:02:59.10,0:03:02.58,Default,,0000,0000,0000,,แต่ก็มีจุดหักมุมอีกอย่างในรูปแบบนี้\Nที่ผมคิดว่ามันสำคัญมาก Dialogue: 0,0:03:02.60,0:03:06.61,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อเราโต้แย้งต่อหน้าผู้ฟัง Dialogue: 0,0:03:06.63,0:03:10.71,Default,,0000,0000,0000,,บางครั้ง ผู้ฟังก็มีบทบาทในการมีส่วนร่วม\Nมากขึ้นในการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:03:10.73,0:03:15.24,Default,,0000,0000,0000,,มันคือ การโต้แย้งที่แสดง\Nต่อหน้าคณะลูกขุน Dialogue: 0,0:03:15.27,0:03:18.04,Default,,0000,0000,0000,,ผู้ซึ่งให้คำวินิจฉัยและตัดสินในกรณีนั้น ๆ Dialogue: 0,0:03:18.07,0:03:19.88,Default,,0000,0000,0000,,เรามาเรียกมันว่า รูปแบบวาทศิลป์ Dialogue: 0,0:03:19.90,0:03:23.61,Default,,0000,0000,0000,,คุณต้องเสนอข้อโต้แย้งอย่างพิถีพิถัน \Nให้ผู้ฟังเข้าใจ Dialogue: 0,0:03:23.63,0:03:26.27,Default,,0000,0000,0000,,นำเสนอชัดเจน อ้างเหตุผลอย่างดี Dialogue: 0,0:03:26.27,0:03:29.66,Default,,0000,0000,0000,,การเสนอข้อโต้แย้งที่ดีในภาษาอังฤษ\Nต่อผู้ฟังที่ช้ภาษาฝรั่งเศส Dialogue: 0,0:03:29.66,0:03:31.30,Default,,0000,0000,0000,,มันคงไม่ได้ผล Dialogue: 0,0:03:31.80,0:03:35.44,Default,,0000,0000,0000,,เรามีการโต้แย้ง 3 รูปแบบ \Nแบบสงคราม แบบข้อพิสูจน์ Dialogue: 0,0:03:35.47,0:03:37.85,Default,,0000,0000,0000,,และแบบการแสดง Dialogue: 0,0:03:38.17,0:03:41.93,Default,,0000,0000,0000,,จาก 3 รูปแบบ การโต้แย้งแบบสงคราม\Nเป็นรูปแบบที่มีอิทธิพลที่สุด Dialogue: 0,0:03:42.44,0:03:45.07,Default,,0000,0000,0000,,มันครอบงำวิธีที่เราพูดถึงการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:03:45.07,0:03:47.14,Default,,0000,0000,0000,,มันครอบงำวิธีที่เราคิดถึงการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:03:47.17,0:03:50.14,Default,,0000,0000,0000,,เพราะฉะนั้น มันขัดเกลา\Nวิธีที่เราใช้ในการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:03:50.17,0:03:51.94,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อเราโต้แย้ง Dialogue: 0,0:03:51.97,0:03:53.64,Default,,0000,0000,0000,,ปัจจุบันเมื่อเราพูดถึงการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:03:53.67,0:03:55.64,Default,,0000,0000,0000,,เราพูดในแบบภาษาทหาร Dialogue: 0,0:03:55.67,0:03:58.91,Default,,0000,0000,0000,,เราต้องการการโต้แย้งที่แข็งแกร่ง \Nการโต้แย้งที่มีพลังโจมตีรุนแรง Dialogue: 0,0:03:58.93,0:04:00.61,Default,,0000,0000,0000,,การโต้แย้งที่ตรงเข้าเป้าหมาย Dialogue: 0,0:04:00.63,0:04:03.81,Default,,0000,0000,0000,,เราต้องการการป้องกันและ\Nยุทธ์ศาสตร์ที่พร้อมใช้ Dialogue: 0,0:04:03.83,0:04:06.41,Default,,0000,0000,0000,,เราต้องการ ทำลายข้อโต้แย้ง Dialogue: 0,0:04:06.43,0:04:08.43,Default,,0000,0000,0000,,นั่นคือการโต้แย้งแบบที่เราต้องการ Dialogue: 0,0:04:09.17,0:04:11.42,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นวิธีที่ครอบงำการคิด\Nเกี่ยวกับการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:04:11.42,0:04:12.85,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อผมพูดถึงการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:04:12.85,0:04:16.10,Default,,0000,0000,0000,,บางทีคุณอาจจะนึกถึง\Nแบบที่มีศัตรูฝ่ายตรงข้าม Dialogue: 0,0:04:16.44,0:04:18.95,Default,,0000,0000,0000,,แต่การเปรียบเทียบกับสงคราม Dialogue: 0,0:04:18.95,0:04:21.66,Default,,0000,0000,0000,,กระบวนทัศน์หรือรูปแบบสงคราม\Nที่ใช้ในการคิดถึงการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:04:21.66,0:04:24.70,Default,,0000,0000,0000,,ผมคิดว่ามันส่งผลบิดเบือน\Nวิธีการโต้แย้งของเรา Dialogue: 0,0:04:25.10,0:04:28.07,Default,,0000,0000,0000,,อย่างแรก มันทำให้วิธีการอยู่เหนือสาระสำคัญ Dialogue: 0,0:04:28.92,0:04:31.09,Default,,0000,0000,0000,,คุณเรียนกวิชาตรรกศาสตร์\Nว่าด้วยวิธีการให้เหตุผล Dialogue: 0,0:04:31.09,0:04:32.82,Default,,0000,0000,0000,,คุณเรียนเล่ห์เหลี่ยมทั้งหมด Dialogue: 0,0:04:32.83,0:04:35.66,Default,,0000,0000,0000,,ที่คนเราเคยใข้ และชนะการโต้แย้ง\Nแต่มันเป็นวิธีที่ผิดพลาด Dialogue: 0,0:04:35.66,0:04:38.97,Default,,0000,0000,0000,,มันขยายมุมมองแบบ \Nเรา-เขา Dialogue: 0,0:04:38.97,0:04:42.37,Default,,0000,0000,0000,,มันทำให้เกิดความขัดแย้ง\Nสร้างการแบ่งขั้ว Dialogue: 0,0:04:42.37,0:04:48.23,Default,,0000,0000,0000,,และผลลัพธ์ที่คาดเดาได้ก็มีแค่ \Nชัยชนะ ชัยชนะอันสวยหรู Dialogue: 0,0:04:48.23,0:04:51.31,Default,,0000,0000,0000,,หรือความน่าสังเวช น่าอับอายจากการพ่ายแพ้ Dialogue: 0,0:04:51.33,0:04:53.06,Default,,0000,0000,0000,,ผมคิดว่า นี่คือผลลัพท์ที่บิดเบือน Dialogue: 0,0:04:53.06,0:04:56.94,Default,,0000,0000,0000,,และที่เลวร้ายที่สุด\Nดูเหมือนมันขัดขวางไม่ให้เกิดการต่อรอง Dialogue: 0,0:04:56.94,0:05:01.67,Default,,0000,0000,0000,,หรือการปรึกษา หรือการประนีประนอม \Nหรือการร่วมมือ Dialogue: 0,0:05:02.11,0:05:05.06,Default,,0000,0000,0000,,ลองคิดถึงสิ่งนี้ \Nคุณเเคยเข้าร่วมการโต้แย้งโดยคิดว่า Dialogue: 0,0:05:05.06,0:05:08.82,Default,,0000,0000,0000,,"ไหนเราลอง หาข้อสรุปร่วมกัน \Nแทนที่จะสู้กัน Dialogue: 0,0:05:08.82,0:05:10.76,Default,,0000,0000,0000,,เราทำอะไร เพื่อแก้ปัญหาร่วมกันได้บ้าง?" Dialogue: 0,0:05:10.76,0:05:13.18,Default,,0000,0000,0000,,และผมคิดว่า การโต้แย้งแบบทำสงคราม Dialogue: 0,0:05:13.18,0:05:17.61,Default,,0000,0000,0000,,ขัดขวางไม่ให้มีข้อยุติ\Nการโต้แย้งด้วยรูปแบบอื่น ๆ Dialogue: 0,0:05:17.61,0:05:20.06,Default,,0000,0000,0000,,และสุดท้าย นี่คือสิ่งที่แย่ที่สุดจริง ๆ Dialogue: 0,0:05:20.06,0:05:22.79,Default,,0000,0000,0000,,มันไม่ได้นำพาเราไปสู่จุดไหนเลย\Nมันเป็นทางตัน Dialogue: 0,0:05:22.79,0:05:28.58,Default,,0000,0000,0000,,มันเป็นเหมือนวงเวียน การจราจรที่เบียดเสียด\Nหรือติดอยู่กับที่ในการสนธนา Dialogue: 0,0:05:28.58,0:05:29.87,Default,,0000,0000,0000,,เราไม่ได้ไปไหนเลย Dialogue: 0,0:05:30.43,0:05:31.67,Default,,0000,0000,0000,,และอีกสิ่งหนึ่ง Dialogue: 0,0:05:31.67,0:05:34.70,Default,,0000,0000,0000,,ในฐานะที่เป็นผู้ให้การศึกษา \Nมันเป็นสิ่งที่กวนใจผมมาก Dialogue: 0,0:05:34.70,0:05:36.83,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าการโต้แย้งคือสงคราม Dialogue: 0,0:05:36.83,0:05:41.91,Default,,0000,0000,0000,,มันก็มีสิ่งที่เรียกว่า\Nการเรียนรู้จากความพ่ายแพ้แฝงอยู่ Dialogue: 0,0:05:41.91,0:05:43.51,Default,,0000,0000,0000,,ผมจะอธิบายความหมายให้ฟัง Dialogue: 0,0:05:44.07,0:05:46.64,Default,,0000,0000,0000,,สมมุติว่าคุณกับผมโต้แย้งกัน Dialogue: 0,0:05:46.64,0:05:49.63,Default,,0000,0000,0000,,คุณเชื่อในข้อเสนอ P แต่ผมไม่ Dialogue: 0,0:05:50.50,0:05:52.41,Default,,0000,0000,0000,,ผมถามคุณว่า "ทำไมถึงเชื่อข้อเสนอ P" Dialogue: 0,0:05:52.41,0:05:53.87,Default,,0000,0000,0000,,คุณให้เหตุผลของคุณ Dialogue: 0,0:05:53.87,0:05:56.24,Default,,0000,0000,0000,,ผมไม่เห็นด้วย และตอบกลับ\N"แล้ว....หล่ะ" Dialogue: 0,0:05:56.25,0:05:57.79,Default,,0000,0000,0000,,แล้วคุณก็ตอบคำถามผม Dialogue: 0,0:05:57.79,0:06:00.23,Default,,0000,0000,0000,,แล้วผมก็ถาม "คุณหมายความว่าอย่างไร Dialogue: 0,0:06:00.23,0:06:01.68,Default,,0000,0000,0000,,มันเอามาใช้อย่างไร ในกรณีนี้" Dialogue: 0,0:06:02.13,0:06:03.76,Default,,0000,0000,0000,,และคุณก็ตอบคำถามผม Dialogue: 0,0:06:03.76,0:06:05.48,Default,,0000,0000,0000,,ตอนนี้ สมมุติว่าการโต้แย้งสิ้นสุดลง Dialogue: 0,0:06:05.48,0:06:07.64,Default,,0000,0000,0000,,ผมได้ค้าน ผมได้ถาม Dialogue: 0,0:06:07.65,0:06:10.27,Default,,0000,0000,0000,,ผมได้ยกข้อพิจารณาแย้งทั้งหมดไปแล้ว Dialogue: 0,0:06:10.27,0:06:13.87,Default,,0000,0000,0000,,และทุกครั้ง คุณได้ตอบสนองจนผมพึงพอใจ Dialogue: 0,0:06:13.87,0:06:16.54,Default,,0000,0000,0000,,และดังนั้น ในท้ายที่สุด \Nผมพูดว่า Dialogue: 0,0:06:16.55,0:06:19.90,Default,,0000,0000,0000,," รู้อะไรไหม ผมว่าคุณถูกแล้ว" Dialogue: 0,0:06:20.50,0:06:22.84,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ผมได้ความเชื่อใหม่มา Dialogue: 0,0:06:22.87,0:06:24.28,Default,,0000,0000,0000,,มันไม่ใช่ความเชื่อแบบทั่ว ๆ ไป Dialogue: 0,0:06:24.30,0:06:30.60,Default,,0000,0000,0000,,มันถูกอธิบายอย่างชัดเจน ถูกตรวจสอบ\Nมันเป็นความเชื่อที่ผ่านการประลองมาแล้ว Dialogue: 0,0:06:31.80,0:06:32.96,Default,,0000,0000,0000,,เกิดการเรียนรู้ที่ดี Dialogue: 0,0:06:32.96,0:06:34.34,Default,,0000,0000,0000,,โอเค ใครชนะการโต้แย้งนี้ Dialogue: 0,0:06:35.60,0:06:39.54,Default,,0000,0000,0000,,การโต้แย้งแบบสงคราม \Nบังคับให้เราบอกว่าคุณเป็นฝ่ายชนะ Dialogue: 0,0:06:39.54,0:06:42.31,Default,,0000,0000,0000,,ถึงแม้ว่า ผมเป็นฝ่ายเดียว\Nที่ได้รู้คิด Dialogue: 0,0:06:42.31,0:06:45.97,Default,,0000,0000,0000,,คุณได้รับอะไร ในเชิงการรู้คิด\Nจากการโน้มน้าวผม Dialogue: 0,0:06:45.97,0:06:48.97,Default,,0000,0000,0000,,แน่นอน คุณได้ความพึงพอใจ \Nอัตตาคุณอาจจะพองโต Dialogue: 0,0:06:48.97,0:06:50.95,Default,,0000,0000,0000,,บางทีคุณอาจจะถูกยกให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ Dialogue: 0,0:06:50.95,0:06:53.54,Default,,0000,0000,0000,,ในสายงานนี้\N"คนนี้เป็นนักโต้แย้งที่ดี" Dialogue: 0,0:06:53.57,0:06:56.54,Default,,0000,0000,0000,,แต่จากมุมมองการรู้คิด Dialogue: 0,0:06:56.57,0:06:57.85,Default,,0000,0000,0000,,ใครเป็นผู้ชนะ? Dialogue: 0,0:06:57.85,0:07:02.70,Default,,0000,0000,0000,,การเปรียบเทียบกับสงคราม บังคับให้เราคิดว่า\Nคุณคือผู้ชนะ และผมแพ้ Dialogue: 0,0:07:02.70,0:07:04.76,Default,,0000,0000,0000,,ถึงแม้ว่า ผมจะเป็นฝ่ายได้ Dialogue: 0,0:07:04.77,0:07:07.06,Default,,0000,0000,0000,,มีบางอย่างไม่ถูกต้องในภาพนี้ Dialogue: 0,0:07:07.07,0:07:09.78,Default,,0000,0000,0000,,และนั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะเปลี่ยน\Nถ้าเราทำได้ Dialogue: 0,0:07:09.78,0:07:13.65,Default,,0000,0000,0000,,ฉะนั้น เราจะหาวิธีทำให้ Dialogue: 0,0:07:13.65,0:07:16.73,Default,,0000,0000,0000,,การโต้แย้งได้ผลลัพท์ในเชิงบวกได้อย่างไร Dialogue: 0,0:07:17.63,0:07:20.63,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งที่เราต้องการคือ \Nยุทธวิธีทางออกแบบใหม่สำหรับการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:07:21.39,0:07:24.29,Default,,0000,0000,0000,,แต่ เราจะไม่ได้ยุทธวิธีทางออกแบบใหม่\Nสำหรับการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:07:24.29,0:07:27.59,Default,,0000,0000,0000,,จนกว่าเราจะมี \Nวิธีการเข้าสู่การโต้แย้งแบบใหม่ Dialogue: 0,0:07:27.59,0:07:30.60,Default,,0000,0000,0000,,เราจำเป็นต้องคิดถึง \Nการโต้แย้งรูปแบบใหม่ ๆ Dialogue: 0,0:07:31.27,0:07:33.87,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อที่จะทำอย่างนั้น คือ Dialogue: 0,0:07:33.87,0:07:35.53,Default,,0000,0000,0000,,ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร Dialogue: 0,0:07:36.10,0:07:37.47,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นข่าวร้าย Dialogue: 0,0:07:37.47,0:07:40.49,Default,,0000,0000,0000,,การโต้แย้งแบบสงคราม มันคือปีศาจ Dialogue: 0,0:07:40.49,0:07:42.96,Default,,0000,0000,0000,,มันเข้ามายึดครองจิตใจของเรา Dialogue: 0,0:07:42.96,0:07:45.11,Default,,0000,0000,0000,,และไม่มีกระสุนวิเศษ ที่จะฆ่ามันได้ Dialogue: 0,0:07:45.11,0:07:47.78,Default,,0000,0000,0000,,ไม่มีไม้วิเศษ ที่จะทำให้มันหายไป Dialogue: 0,0:07:47.78,0:07:49.32,Default,,0000,0000,0000,,ผมไม่มีคำตอบ Dialogue: 0,0:07:49.33,0:07:50.72,Default,,0000,0000,0000,,แต่ผมมีคำแนะนำ Dialogue: 0,0:07:50.72,0:07:52.63,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือคำแนะนำของผม Dialogue: 0,0:07:53.70,0:07:55.90,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าเราอยากจะคิดถึงการโต้แย้งแบบใหม่ Dialogue: 0,0:07:55.91,0:07:59.57,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งที่เราต้องทำก็คือ \Nคิดถึงผู้โต้แย้งแบบใหม่ Dialogue: 0,0:07:59.90,0:08:01.83,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ลองนี่ดู Dialogue: 0,0:08:02.77,0:08:07.21,Default,,0000,0000,0000,,คิดถึงบทบาททั้งหมด ที่คนเราใช้ในการโต้แย้ง Dialogue: 0,0:08:07.23,0:08:10.25,Default,,0000,0000,0000,,มีผู้เสนอและฝ่ายตรงข้าม Dialogue: 0,0:08:10.25,0:08:12.41,Default,,0000,0000,0000,,ที่เป็นศัตรู ในการโต้แย้งแบบวิภาษวิธี Dialogue: 0,0:08:12.41,0:08:14.60,Default,,0000,0000,0000,,มีผู้ชม ในการโต้แย้งแบบวาทศิลป์ Dialogue: 0,0:08:14.60,0:08:16.81,Default,,0000,0000,0000,,มีผู้มีเหตุผล \Nในการโต้แย้งแบบเพื่อพิสูจน์ Dialogue: 0,0:08:18.70,0:08:20.08,Default,,0000,0000,0000,,บทบาทที่แตกต่างกันทั้งหมด Dialogue: 0,0:08:20.10,0:08:23.94,Default,,0000,0000,0000,,ทีนี้ คุณลองจินตนาการถึงการโต้แย้ง\Nที่คุณเป็นผู้โต้แย้ง Dialogue: 0,0:08:23.97,0:08:27.33,Default,,0000,0000,0000,,แต่คุณก็เป็นผู้ชมด้วย\Nมองดูตัวเองโต้แย้ง Dialogue: 0,0:08:27.97,0:08:31.01,Default,,0000,0000,0000,,คุณจินตนาการถึงตัวคุณ\Nที่กำลังมองดูตัวเองโต้แย้ง Dialogue: 0,0:08:31.03,0:08:35.51,Default,,0000,0000,0000,,คุณแพ้ แต่ถึงอย่างนั้นในตอนท้าย\Nคุณยังคงพูดว่า Dialogue: 0,0:08:35.53,0:08:38.03,Default,,0000,0000,0000,,"ว๊าว! นั่นเป็นการโต้แย้งที่ดีมากเลย" Dialogue: 0,0:08:39.13,0:08:40.47,Default,,0000,0000,0000,,คุณทำได้ไหม Dialogue: 0,0:08:40.47,0:08:43.79,Default,,0000,0000,0000,,ผมคิดว่า คุณทำได้ และผมคิดว่า \Nถ้าคุณสามารถจิตนาการถึงการโต้แย้งแบบที่ Dialogue: 0,0:08:43.79,0:08:47.59,Default,,0000,0000,0000,,ผู้แพ้บอกกับผู้ชนะ \Nและผู้ชมและผู้ตัดสิน สามารถพูดได้ว่า Dialogue: 0,0:08:47.59,0:08:49.58,Default,,0000,0000,0000,,"ใช่ นั่นเป็นการโต้แย้งที่ดีจริงๆ" Dialogue: 0,0:08:49.60,0:08:51.38,Default,,0000,0000,0000,,เช่นนั้น คุณก็จะมีภาพของการโต้แย้งที่ดี Dialogue: 0,0:08:51.38,0:08:52.11,Default,,0000,0000,0000,,และมากกว่านั้น Dialogue: 0,0:08:52.11,0:08:54.58,Default,,0000,0000,0000,,ผมคิดว่า คุณมีภาพของนักโต้แย้งที่ดี Dialogue: 0,0:08:54.58,0:08:59.13,Default,,0000,0000,0000,,นักโต้แย้งแบบที่มีคุณค่าพอ\Nที่คุณควรจะลองเป็น Dialogue: 0,0:08:59.57,0:09:02.36,Default,,0000,0000,0000,,ตอนนี้ ผมโต้แย้งแพ้ซะเยอะ Dialogue: 0,0:09:02.36,0:09:04.79,Default,,0000,0000,0000,,มันต้องฝึก เพื่อที่จะเป็นนักโต้แย้งที่ดี Dialogue: 0,0:09:04.79,0:09:08.10,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อที่จะได้ประโยชน์จากการแพ้\Nแต่โชคดีที่ Dialogue: 0,0:09:08.10,0:09:10.61,Default,,0000,0000,0000,,ผมมีเพื่อนร่วมงานหลายๆ คน\Nที่เต็มใจจะก้าวเข้ามา Dialogue: 0,0:09:10.61,0:09:12.68,Default,,0000,0000,0000,,และให้ความช่วยเหลือการฝึกฝนแก่ผม Dialogue: 0,0:09:12.70,0:09:13.88,Default,,0000,0000,0000,,ขอบคุณครับ Dialogue: 0,0:09:13.90,0:09:17.97,Default,,0000,0000,0000,,(เสียงปรบมือ)