WEBVTT 00:00:07.445 --> 00:00:09.421 ไม่ว่าในยุคสมัยใดหรือที่ไหน 00:00:09.421 --> 00:00:10.938 มนุษย์เราต่างสงสัย 00:00:10.938 --> 00:00:12.192 "ว่าเรามาจากที่ใด 00:00:12.192 --> 00:00:14.165 มาเพื่อทำสิ่งใดในโลก 00:00:14.165 --> 00:00:16.505 เมื่อตายไปแล้วเราจะเป็นอย่างไร" 00:00:16.505 --> 00:00:18.568 ศาสนาคือระบบความเชื่อ 00:00:18.568 --> 00:00:20.634 ที่เจริญและมีวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ 00:00:20.634 --> 00:00:21.803 เพื่อตอบสนองต่อปริศนาเหล่านี้ 00:00:21.803 --> 00:00:23.924 และอื่น ๆ 00:00:23.924 --> 00:00:25.660 ที่เรารู้สึกว่าบางคำถาม 00:00:25.660 --> 00:00:27.834 จะได้รับการคลี่คลายได้ ก็ด้วยเพียงศรัทธาเท่านั้น 00:00:27.834 --> 00:00:29.214 และจากการตระหนักรู้ด้วยตนเอง 00:00:29.214 --> 00:00:31.385 ว่ามีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ว่าตัวของเรา 00:00:31.385 --> 00:00:33.584 มีอำนาจที่อยู่เหนือกว่าเรา ที่เราจะต้องขานรับ 00:00:33.584 --> 00:00:35.927 หรือมีแหล่งที่เป็นต้นกำเนิดของเราทุกคน 00:00:35.927 --> 00:00:38.342 และที่ซึ่งเราต้องย้อนกลับไป 00:00:39.342 --> 00:00:41.695 ฮินดูหมายถึงศาสนาของอินเดีย 00:00:41.695 --> 00:00:42.910 มันไม่ใช่ศาสนาเพียงศาสนาเดียว 00:00:42.910 --> 00:00:44.933 แต่เป็นการรวมกลุ่มความเชื่อที่คล้ายกัน 00:00:44.933 --> 00:00:46.858 และพิธีกรรมทางจิตวิญญาณต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน 00:00:46.858 --> 00:00:48.907 ย้อนกับไปเมื่อห้าพันปีก่อน 00:00:48.907 --> 00:00:50.373 ตั้งแต่ยุคของพระกฤษณะ 00:00:50.373 --> 00:00:51.850 ผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรม 00:00:51.850 --> 00:00:54.441 จนเป็นที่ถือกันว่า ท่านเป็นร่างอวตารของพระวิษณุ 00:00:54.441 --> 00:00:57.402 เทพที่กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์ 00:00:57.402 --> 00:00:59.637 ท่านทรงสอนว่าทุกชีวิตเป็นไปตามกรรม 00:00:59.637 --> 00:01:01.337 ซึ่งก็คือคือกฎแห่งเหตุและผล 00:01:01.337 --> 00:01:04.561 และเรานั้นต้องทำหน้าที่ของเรา ซึ่งก็คือการปฏิบัติธรรม 00:01:04.561 --> 00:01:06.473 ตามฐานะของตนในสังคม 00:01:06.473 --> 00:01:09.048 โดยไม่ต้องกังวลถึงผลลัพธ์ 00:01:09.048 --> 00:01:12.190 เมื่อตาย เราจะไปถือเกิดในร่างใหม่ 00:01:12.190 --> 00:01:13.655 หากเราทำตามธรรมของตน 00:01:13.655 --> 00:01:15.814 และทำหน้าที่ในชาติก่อนได้อย่างเหมาะสม 00:01:15.814 --> 00:01:17.185 เราจะได้รับกรรมดี 00:01:17.185 --> 00:01:20.352 ซึ่งจะส่งให้วิญญาณของเรา อยู่ในระดับสังคมที่สูงขึ้น 00:01:20.352 --> 00:01:21.934 ชีวิตในชาติหน้าของเรา 00:01:21.934 --> 00:01:24.888 จึงขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในชาตินี้ 00:01:24.888 --> 00:01:28.253 วัฎจักรการเกิดใหม่นี้เรียกว่า สังสาระ 00:01:28.253 --> 00:01:30.199 มันเป็นไปได้สำหรับผู้ที่เคร่งศาสนามาก ๆ 00:01:30.199 --> 00:01:32.611 ที่ตลอดชีวิตได้ทำกรรมดีเอาไว้มากพอ 00:01:32.611 --> 00:01:34.409 ที่จะสามารถหลุดพ้นจากสังสารวัฏได้ 00:01:34.409 --> 00:01:36.869 การหลุดพ้นที่ว่านี้เรียกว่า โมกษะ 00:01:36.869 --> 00:01:39.817 ฮินดูสอนว่าทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียว 00:01:39.817 --> 00:01:40.765 ทั้งจักรวาล 00:01:40.765 --> 00:01:43.856 คือสัจธรรมเดียวที่อยู่เหนืออื่นใด ที่เรียกว่า พรหม 00:01:43.856 --> 00:01:45.717 และพรหมมีอยู่เพียงหนึ่งเดียว 00:01:45.717 --> 00:01:47.260 แต่มีเทพอยู่ในพรหมมากมาย 00:01:47.260 --> 00:01:50.179 แต่ละองค์มีบทบาท รูปลักษณะ และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน 00:01:50.179 --> 00:01:52.470 ตามธรรมเนียมต่าง ๆ 00:01:52.470 --> 00:01:54.387 พระพรหมคือผู้สร้าง 00:01:54.387 --> 00:01:56.089 พระวิษณุคือผู้รักษา 00:01:56.089 --> 00:01:58.624 ซึ่งบางครั้งทรงร่างมนุษย์ 00:01:58.624 --> 00:02:00.910 และพระศิวะคือผู้ทำลาย 00:02:00.910 --> 00:02:02.572 หรือนาฏราช 00:02:02.572 --> 00:02:06.069 ทุรคาคือพระมารดาผู้ปกป้องที่ดุดัน 00:02:06.069 --> 00:02:07.939 พระคเณศมีเศียรเป็นช้าง 00:02:07.939 --> 00:02:11.486 เป็นองค์อุปถัมภ์ความสำเร็จ 00:02:11.486 --> 00:02:14.717 ฮินดูเป็นศาสนาที่ใหญ่เป็นลำดับสามของโลก 00:02:14.717 --> 00:02:17.075 และถึงแม้ว่าชาวฮินดูส่วนมาก จะอยู่ในประเทศอินเดีย 00:02:17.075 --> 00:02:19.123 แต่พวกเขาก็อาศัยอยู่ในทุกทวีป 00:02:19.123 --> 00:02:21.288 ถึงหนึ่งพันล้านคน 00:02:22.010 --> 00:02:23.366 เอาล่ะ ไปทางตะวันตกกันบ้าง 00:02:23.366 --> 00:02:24.978 ข้ามทะเลทรายและภูเขา 00:02:24.978 --> 00:02:28.253 ไปยังอู่ข้าวอู่น้ำเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน 00:02:28.253 --> 00:02:30.040 ศาสนายูดาห์เกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าทรงเรียก 00:02:30.040 --> 00:02:32.842 อับราฮัมและซาราห์ ให้อพยพจากเมโสโปเตเมีย 00:02:32.842 --> 00:02:35.486 ไปยังดินแดนแห่งคานาอัน 00:02:35.486 --> 00:02:38.481 เพื่อตอบแทนศรัทธาของพวกเขา ที่มีต่อพระเจ้าองค์เดียวนั้น 00:02:38.481 --> 00:02:39.885 ซึ่งนั่นเป็นแนวคิดใหม่ 00:02:39.885 --> 00:02:42.436 ในยุคพหุเทวนิยมในตอนนั้น 00:02:42.436 --> 00:02:45.652 พระเจ้าสัญญาจะให้แผ่นดิน และทายาทกับพวกเขามากมาย 00:02:45.652 --> 00:02:47.736 ด้วยพันธสัญญานี้ จึงกำเนิดประเทศอิสราเอล 00:02:47.736 --> 00:02:49.436 และผู้ที่พระเจ้าทรงเลือก 00:02:49.436 --> 00:02:50.734 แต่การอาศัยในดินแดนนั้น 00:02:50.734 --> 00:02:52.236 และการรวมให้ทุกคนอยู่ร่วมกัน 00:02:52.236 --> 00:02:54.356 เป็นเรื่องยากมาก 00:02:54.356 --> 00:02:56.947 ชาวอิสราเอลตกเป็นทาสในอียิปต์ 00:02:56.947 --> 00:02:58.897 แต่พระเจ้าทรงปลดปล่อยพวกเขา 00:02:58.897 --> 00:03:00.456 ด้วยความช่วยเหลือ จากศาสดาโมเสส 00:03:00.456 --> 00:03:02.112 ผู้ได้รับบัญญัติสิบประการ 00:03:02.112 --> 00:03:04.532 และบัญญัติอีกหลายร้อยประการ ในเวลาต่อมา 00:03:04.532 --> 00:03:06.296 พวกเขาพิชิตดินแดนแห่งพันธสัญญา 00:03:06.296 --> 00:03:09.376 แต่รักษามันเอาไว้ได้เพียงไม่กี่ร้อยปี 00:03:09.376 --> 00:03:11.402 อิสราเอลอยู่ในจุดตัดผ่าน 00:03:11.402 --> 00:03:12.771 ของกองทัพมากมาย 00:03:12.771 --> 00:03:14.309 ตลอดหลายศตวรรษ 00:03:14.309 --> 00:03:15.509 ในปี ค.ศ. 70 00:03:15.509 --> 00:03:16.912 พวกโรมันทำลายโบสถ์ 00:03:16.912 --> 00:03:19.277 ในนครเยรูซาเลม เมืองหลวงของพวกเขา 00:03:19.277 --> 00:03:21.154 ฉะนั้น ศาสนาจึงเปลี่ยนแปลงไป 00:03:21.154 --> 00:03:22.487 จากศาสนาที่มีโบสถ์ 00:03:22.487 --> 00:03:23.897 มีการบูชายัญและนักบวช 00:03:23.897 --> 00:03:25.970 ไปเป็นศาสนายึดถือคัมภีร์แทน 00:03:25.970 --> 00:03:28.263 ด้วยเหตุนี้ยูดาห์จึงเป็นศาสนา 00:03:28.263 --> 00:03:31.270 แห่งสัญลักษณ์ ความยำเกรง และความหมายอันล้ำซึ้ง 00:03:31.270 --> 00:03:33.901 ที่ผูกพันกับวรรณกรรม ที่เกี่ยวกับประวัติของมัน 00:03:33.901 --> 00:03:35.366 คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์หลายเล่มคัมภีร์ ประกอบรวมกัน 00:03:35.366 --> 00:03:37.358 เป็นทานัคหรือไบเบิ้ลของฮีบรู 00:03:37.358 --> 00:03:39.572 และบันทึกถึงการอภิปราย และการตีความมากมาย 00:03:39.572 --> 00:03:42.238 ถูกรวบรวมเอาไว้เป็นประมวลบันทึก 00:03:42.238 --> 00:03:43.458 แห่งความหมายเชิงลึก 00:03:43.458 --> 00:03:45.061 ที่เรียกว่า ทัลมุด 00:03:45.061 --> 00:03:47.977 ชาวยิวเสาะหาความหมายมากมาย ที่เปี่ยมไปด้วยสัญลักษณ์ในชีวิตประจำวัน 00:03:47.977 --> 00:03:49.110 ณ มื้ออาหารในวันปัสกา 00:03:49.110 --> 00:03:50.946 ทุกสิ่งทุกอย่างในรายการอาหาร เป็นสัญลักษณ์ของ 00:03:50.946 --> 00:03:53.696 มุมมองของการหลุดพ้น จากความเป็นทาส 00:03:53.696 --> 00:03:55.016 ความสำคัญต่อการเติบโต 00:03:55.016 --> 00:03:56.867 ถูกเน้นย้ำให้เมื่อเด็ก 00:03:56.867 --> 00:03:59.171 มีอายุถึงบาร์และบัทมิซวาห์ 00:03:59.171 --> 00:04:01.443 ซึ่งคือการฉลองแห่งเจริญสู่วัย ที่ได้มาซึ่งความรับผิดชอบ 00:04:01.443 --> 00:04:02.380 ต่อการกระทำของตน 00:04:02.380 --> 00:04:03.644 และการฉลองการร้อยเรียง 00:04:03.644 --> 00:04:04.692 ชีวิตของตน 00:04:04.692 --> 00:04:06.678 ให้เข้าสู่ศรัทธา ประวัติศาสตร์ และบันทึกอักษร 00:04:06.678 --> 00:04:08.357 ของคัมภีร์ของชาวยิว 00:04:08.357 --> 00:04:11.266 มีชาวยิว 14 ล้านคนทั่วโลกในปัจจุบัน 00:04:11.266 --> 00:04:12.738 6 ล้านคนอยู่ในอิสราเอล 00:04:12.738 --> 00:04:14.119 ซึ่งได้รับอิสระ 00:04:14.119 --> 00:04:17.233 หลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในสงครามโลกครั้งที่สอง 00:04:17.233 --> 00:04:19.824 และอีก 5 ล้านคนอยู่ในสหรัฐฯ 00:04:20.408 --> 00:04:23.806 แต่ตอนนี้ มาย้อนเวลากลับไป 2,500 ปีก่อน และกลับไปที่อินเดีย 00:04:23.806 --> 00:04:25.116 ที่ซึ่งศาสนาพุทธถือกำเนิดขึ้น 00:04:25.116 --> 00:04:27.883 จากเจ้าชายหนุ่มนามว่า สิทธัตถะ 00:04:27.883 --> 00:04:29.137 ในคืนที่ทรงมาจุติในครรภ์ ของพระมารดา 00:04:29.137 --> 00:04:30.696 พระนางมายา 00:04:30.696 --> 00:04:32.886 พระมารดาของพระองค์ทรงพระสุบิน 00:04:32.886 --> 00:04:35.809 ว่ามีช้างเผือกมาหาที่ข้างพระองค์ 00:04:35.809 --> 00:04:37.806 สิบเดือนต่อมา เจ้าชายสิทธัตถะก็ประสูติ 00:04:37.806 --> 00:04:39.558 ท่ามกลางทรัพย์สมบัติมากมาย 00:04:39.558 --> 00:04:41.974 เมื่อได้ทรงออกไปจากราชฐาน 00:04:41.974 --> 00:04:43.088 ที่ทรงอาศัยอยู่เมื่อครั้งเป็นมาณพ 00:04:43.088 --> 00:04:44.516 ก็ได้เสด็จไปเห็น ความทุกข์ทรมานของมนุษย์ 00:04:44.516 --> 00:04:45.926 ที่พระองค์ไม่เคยได้พบมาก่อน 00:04:45.926 --> 00:04:49.310 จึงทรงออกไปค้นหา ต้นตอแห่งทุกข์ทันที 00:04:49.310 --> 00:04:51.502 เหตุใดมนุษย์ต้องเผชิญทุกข์ 00:04:51.502 --> 00:04:54.605 เราต้องเวียนว่ายตายเกิด เป็นร้อยครั้งพันครั้งด้วยหรือ 00:04:54.605 --> 00:04:56.019 แรกเริ่มทรงคิดว่าปัญหานั้น 00:04:56.019 --> 00:04:58.055 เกิดจากการยึดติดวัตถุ 00:04:58.055 --> 00:04:59.943 พระองค์จึงทรงสละสมบัติ 00:04:59.943 --> 00:05:01.669 ทรงไปเป็นภิกขาจาร 00:05:01.669 --> 00:05:04.994 ทว่า นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทรงมีความสุข มากขึ้นแต่อย่างใด 00:05:04.994 --> 00:05:07.693 จนเมื่อทรงได้ยินครูสอนดนตรี ที่บอกกับศิษย์ว่า 00:05:07.693 --> 00:05:09.947 "อย่าขึ้นสายให้ตึงนัก มันจะขาดเอาได้ 00:05:09.947 --> 00:05:11.657 แต่ก็อย่าให้หย่อนยานจนเกินไป 00:05:11.657 --> 00:05:13.584 เพราะเสียงจะไม่ดัง" 00:05:13.584 --> 00:05:14.752 ทันใดนั้นเอง พระองค์ทรงตระหนักว่า 00:05:14.752 --> 00:05:16.916 การทุ่มเทสุดโต่งเพื่อหาคำตอบนั้น 00:05:16.916 --> 00:05:18.343 ไม่ถูกต้อง 00:05:18.343 --> 00:05:20.847 "ทางสายกลางระหว่าง ความฟุ่มเฟือยกับความข้นแค้น" 00:05:20.847 --> 00:05:22.133 น่าจะเหมาะสมที่สุด 00:05:22.133 --> 00:05:24.419 และเมื่อทรงนั่งสมาธิที่ใต้ต้นโพธิ์ 00:05:24.419 --> 00:05:26.588 คำตอบอื่น ๆ ก็พรั่งพรูเข้ามา 00:05:26.588 --> 00:05:29.344 ทุกชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ 00:05:29.344 --> 00:05:31.209 ซึ่งเกิดจากความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ 00:05:31.209 --> 00:05:34.556 เพื่อตนเองโดยการเบียดเบียนผู้อื่น 00:05:34.556 --> 00:05:36.058 การปฏิบัติตามหลักแปดประการ 00:05:36.058 --> 00:05:38.224 จะสอนให้เราลดกิเลส 00:05:38.224 --> 00:05:40.641 และจึงเป็นการลดความทุกข์ลงได้ 00:05:40.641 --> 00:05:43.799 วันนั้น เจ้าชายสิทธัตถะ ได้กลายเป็นพระพุทธเจ้า 00:05:43.799 --> 00:05:45.307 ซึ่งหมายถึง ผู้รู้แจ้ง 00:05:45.307 --> 00:05:47.681 ไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว แต่ทรงเป็นองค์แรก 00:05:47.681 --> 00:05:49.152 แนวทางของพระพุทธเจ้าเรียกว่า 00:05:49.152 --> 00:05:50.414 อริยมรรค 00:05:50.414 --> 00:05:51.916 และถึงแม้ว่าการปฏิบัติตามนั้น อาจไม่ได้ทำได้โดยง่าย 00:05:51.916 --> 00:05:52.991 แต่มันก็ได้ชี้ทาง 00:05:52.991 --> 00:05:55.060 ให้ผู้คนหลายล้านได้รู้แจ้ง 00:05:55.060 --> 00:05:57.144 ซึ่งนั่นก็คือความหมายของศาสนาพุทธ 00:05:57.144 --> 00:05:58.285 นั่นคือมีความกรุณา 00:05:58.285 --> 00:05:59.080 รู้ตน 00:05:59.080 --> 00:05:59.934 สงบ 00:05:59.934 --> 00:06:01.807 และแน่วแน่ 00:06:01.807 --> 00:06:03.989 นับแต่พระองค์ตรัสรู้ใต้พระศรีมหาโพธิ์ 00:06:03.989 --> 00:06:06.097 จวบจนปรินิพพานเมื่อชรา 00:06:06.097 --> 00:06:08.251 พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนวิธีสู่ความรู้แจ้ง 00:06:08.251 --> 00:06:09.008 มีวาจาชอบ 00:06:09.008 --> 00:06:09.805 มีเป้าหมายชอบ 00:06:09.805 --> 00:06:11.939 จิตตั้งมั่นแต่ในความเป็นจริง 00:06:11.939 --> 00:06:14.688 และมีใจมุ่งรักผู้อื่น 00:06:14.688 --> 00:06:17.181 ชาวพุทธจำนวนมากเชื่อว่า มีพระเจ้าหรือเทพ 00:06:17.181 --> 00:06:20.269 แต่การกระทำนั้นสำคัญกว่าความเชื่อ 00:06:20.269 --> 00:06:21.808 มีชาวพุทธเกือบหนึ่งพันล้านคน 00:06:21.808 --> 00:06:23.117 ในโลกของเราทุกวันนี้ 00:06:23.117 --> 00:06:27.057 ส่วนมากอยู่ในเอเชียตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้และใต้ 00:06:27.948 --> 00:06:31.221 เมื่อ 2,000 ปีก่อน ศาสนาคริสต์ถือกำเนิดขึ้น 00:06:31.221 --> 00:06:33.237 ในดินแดนแห่งพันธสัญญาของยิว 00:06:33.237 --> 00:06:36.439 เช่นเดียวกับที่ชาวฮินดูเชื่อว่า พระกฤษณะคือเทพในร่างมนุษย์ 00:06:36.439 --> 00:06:38.609 ชาวคริสต์ก็กล่าวถึงพระเยซูลักษณะนั้น 00:06:38.609 --> 00:06:40.361 ศาสนาคริสต์แยกตัวออกมา จากศาสนายูดาห์ 00:06:40.361 --> 00:06:43.463 เช่นเดียวกับที่ศาสนาพุทธ แยกตัวออกมาจากศาสนาฮินดู 00:06:43.463 --> 00:06:45.946 พระเจ้าของอับราฮัม ส่งเทวทูตกาเบรียล 00:06:45.946 --> 00:06:47.860 ลงมาเพื่อมาขอให้หญิงสาวชื่อ แมรี 00:06:47.860 --> 00:06:50.195 เป็นมารดาของพระบุตรของพระองค์ 00:06:50.195 --> 00:06:51.694 พระบุตรนั้นคือ พระเยซู 00:06:51.694 --> 00:06:53.214 ผู้ถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวของช่างไม้ 00:06:53.214 --> 00:06:55.136 โดยมีแมรีและโจเซฟผู้สามีเป็นพ่อแม่ 00:06:55.136 --> 00:06:56.859 จนกระทั่งอายุ 30 ปี 00:06:56.859 --> 00:06:58.644 จึงทรงเริ่มรับใช้ประชาชน 00:06:58.644 --> 00:07:00.808 ในฐานะผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า 00:07:00.808 --> 00:07:02.816 ด้วยความที่ทรงให้ความสำคัญ ในเรื่องศาสนา 00:07:02.816 --> 00:07:04.060 น้อยกว่าความยุติธรรมและเมตตา 00:07:04.060 --> 00:07:06.612 พระเยซูทรงรักษาผู้ป่วยเพื่อดึงผู้คนเข้ามา 00:07:06.612 --> 00:07:09.608 แล้วจึงสอนให้พวกเขารู้จักพระบิดาบนสวรรค์ 00:07:09.608 --> 00:07:12.524 ความรัก, การให้อภัย และการเอาใจใส่ 00:07:12.524 --> 00:07:14.737 จากนั้น พระองค์ทรงเชิญทุกคนนั่งร่วมโต๊ะกัน 00:07:14.737 --> 00:07:17.489 เพื่อบรรยายถึงอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า 00:07:17.489 --> 00:07:21.576 คนจรจัด คนบาป และนักบุญ ต่างกินร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกัน 00:07:21.576 --> 00:07:22.612 พระองค์มีเวลาเพียงสามปีเท่านั้น 00:07:22.612 --> 00:07:24.381 ก่อนที่แนวคิดปรัชญาของพระองค์ ที่ต่างจากคนทั่วไป 00:07:24.381 --> 00:07:25.659 จะส่งผลร้ายต่อพระองค์ 00:07:25.659 --> 00:07:26.860 พระองค์ทรงถูกจับโดยศัตรู 00:07:26.860 --> 00:07:28.635 และถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกรุงโรม 00:07:28.635 --> 00:07:29.840 ด้วยวิธีการตามโทษฐานความผิด 00:07:29.840 --> 00:07:32.511 ข้อผู้ที่ปลุกปั่นประชาชน 00:07:32.511 --> 00:07:34.114 ซึ่งก็คือการตรึงไม้กางเขน จนถึงแก่ความตาย 00:07:34.114 --> 00:07:36.197 แต่ไม่นานหลังจากที่พระศพถูกฝัง 00:07:36.197 --> 00:07:38.194 บรรดาหญิงกลุ่มหนึ่งก็พบว่า หลุมศพของพระองค์นั้นว่างเปล่า 00:07:38.194 --> 00:07:39.520 และบอกต่อข่าวนั้นไปอย่างรวดเร็ว 00:07:39.520 --> 00:07:42.553 ว่าพระองค์นั้นทรงฟื้นจากความตาย 00:07:42.553 --> 00:07:43.940 ชาวคริสต์กลุ่มแรกบรรยายว่า 00:07:43.940 --> 00:07:46.023 ทรงฟื้นคืนชีพของพระองค์ 00:07:46.023 --> 00:07:49.118 บันดาลใจคนให้เชื่อมั่นว่า ว่าสาส์นจากพระองค์นั้นเป็นความจริง 00:07:49.118 --> 00:07:53.307 สาส์นนั้นคือ จงรักกันและกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน 00:07:53.307 --> 00:07:55.350 ชาวคริสต์ฉลองการประสูติของพระองค์ 00:07:55.350 --> 00:07:57.443 ในเดือนธันวาคม ในวันคริสต์มาส 00:07:57.443 --> 00:07:59.706 ฉลองการทนทุกข์ ความตาย และคืนชีพ ของพระองค์ 00:07:59.706 --> 00:08:01.915 ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธ์ช่วงฤดูใบไม้ผลิ 00:08:01.915 --> 00:08:03.246 ในพิธีศีลล้างบาป 00:08:03.246 --> 00:08:04.686 ซึ่งคือการชำระล้างขจัดบาป 00:08:04.686 --> 00:08:06.961 และการต้อนรับเข้าสู่สังคมชาวคริสต์ 00:08:06.961 --> 00:08:08.787 ระลึกถึงการล้างบาปของพระเยซูเอง 00:08:08.787 --> 00:08:10.958 เมื่อพระองค์สละชีวิตช่างไม้ 00:08:10.958 --> 00:08:12.430 ในพิธีศีลมหาสนิท 00:08:12.430 --> 00:08:14.461 ชาวคริสต์กินขนมปังและดื่มไวน์ 00:08:14.461 --> 00:08:17.127 ซึ่งถือเสมือนร่างกายและพระโลหิต ของพระเยซู 00:08:17.127 --> 00:08:19.593 ระลึกถึงอาหารมื้อสุดท้ายของพระองค์ 00:08:19.593 --> 00:08:22.017 ทั่วโลกมีชาวคริสต์อยู่สองพันล้านคน 00:08:22.017 --> 00:08:25.821 เท่ากับเกือบหนึ่งในสามของประชากรโลก 00:08:27.081 --> 00:08:29.568 ศาสนาอิสลามถือกำเนิดขึ้น เมื่อ 1,400 ปีที่แล้ว 00:08:29.568 --> 00:08:31.359 เมื่อบุรุษผู้เปี่ยมคุณธรรม 00:08:31.359 --> 00:08:33.028 ทำสมาธิอยู่ในถ้ำ 00:08:33.028 --> 00:08:34.743 กลางทะเลทรายอาหรับ 00:08:34.743 --> 00:08:36.996 พระองค์คือพระมูฮัมหมัด 00:08:36.996 --> 00:08:39.249 ผู้ส่งสาส์นศักดิ์สิทธิ์ได้มาหาพระองค์ 00:08:39.249 --> 00:08:41.162 เช่นเดียวกันกับเทวทูตกาเบรียล 00:08:41.162 --> 00:08:43.335 หรือที่เรียกในในภาษาอาหรับ ญิบรีล 00:08:43.335 --> 00:08:46.002 เพื่อนำพระวจนะของพระอัลลอฮ์ 00:08:46.002 --> 00:08:48.028 หรือพระเจ้าองค์เดียวของอับราฮัม มาให้กับพระองค์ 00:08:48.028 --> 00:08:49.212 ในช่วงไม่กี่ปีต่อมา 00:08:49.212 --> 00:08:50.849 สาสน์จากพระเจ้าก็ถูกส่งมาเรื่อย ๆ 00:08:50.849 --> 00:08:53.108 และพระองค์ก็ทรงจดจำเอาไว้และสอนผู้คน 00:08:53.108 --> 00:08:55.814 โคลงที่ทรงใช้สวดนั้น เต็มไปด้วยคำคม 00:08:55.814 --> 00:08:56.846 คำคล้องจองที่สละสลวย 00:08:56.846 --> 00:08:58.981 และอุปมาปริศนา 00:08:58.981 --> 00:09:01.764 แต่พระมูฮัมหมัดเป็นพ่อค้า ไม่ใช่นักกวี 00:09:01.764 --> 00:09:03.321 หลายคนจึงเชื่อว่าโคลงเหล่านั้น 00:09:03.321 --> 00:09:05.015 เป็นพระวจนะจากพระเจ้าจริง ๆ 00:09:05.015 --> 00:09:08.011 ผู้ที่มีความเชื่อเหล่านี้ กลายเป็นชาวมุสลิมกลุ่มแรก 00:09:08.011 --> 00:09:11.016 คำว่ามุสลิมแปลว่าผู้ภักดี 00:09:11.016 --> 00:09:14.334 หมายถึงผู้ที่เชื่อฟังพระประสงค์ ของพระผู้เป็นเจ้า 00:09:14.334 --> 00:09:16.368 ฐานบัญญัติห้าประการ 00:09:16.368 --> 00:09:18.516 หรือหน้าที่สำคัญของชาวมุสลิมได้แก่ 00:09:18.516 --> 00:09:21.626 ชาฮาดา คือการปฏิญาณตนของชาวมุสลิมที่ว่า 00:09:21.626 --> 00:09:24.681 ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกนอกจากพระอัลลอฮ์ 00:09:24.681 --> 00:09:27.502 และพระมูฮัมหมัด คือศาสดาองค์สุดท้ายของพระองค์ 00:09:27.502 --> 00:09:31.436 ซาลัต คือทำละหมาดวันละห้าครั้ง โดยหันหน้าไปทางกรุงเมกกะ 00:09:31.436 --> 00:09:34.050 ซะกาต คือชาวมุสลิมทุกคน 00:09:34.050 --> 00:09:37.852 ต้องบริจาครายได้สุทธิ ร้อยละ 2 ถึง 3 ให้กับผู้ยากไร้ 00:09:37.852 --> 00:09:41.163 เซาว์ คือพวกเขาต้องอดอาหาร ระหว่างช่วงเวลาที่ตะวันยังไม่ตกดิน 00:09:41.163 --> 00:09:43.001 ในเดือนรอมฎอนตามปฏิทินจันทรคติ 00:09:43.001 --> 00:09:44.551 เพื่อฝึกความยึดมั่นศรัทธา 00:09:44.551 --> 00:09:46.598 และความไว้วางใจในพระเจ้า 00:09:46.598 --> 00:09:49.510 และฮัจญ์ ซึ่งคือในชั่วชีวิตหนึ่ง ของชาวมุสลิม 00:09:49.510 --> 00:09:51.605 หากเป็นไปได้ พวกเขาต้องไปแสวงบุญ 00:09:51.605 --> 00:09:53.499 ที่นครเมกกะอันศักดิ์สิทธิ 00:09:53.499 --> 00:09:54.440 ฝึกตนให้พร้อมไว้ 00:09:54.440 --> 00:09:55.941 เมื่อถึงเวลาที่พวกเขา จะต้องยืนอยู่ต่อหน้าพระเจ้า 00:09:55.941 --> 00:09:58.061 เพื่อรับการพิพากษาว่าควรหรือไม่ 00:09:58.061 --> 00:10:00.388 ที่พวกเขาจะมีชีวิตนิรันดร์ อยู่กับพระองค์ 00:10:00.388 --> 00:10:01.522 พระวจนะของพระเจ้า 00:10:01.522 --> 00:10:04.340 ที่ได้ถูกเผยแผ่ต่อพระศาสดา มาตลอด 23 ปี 00:10:04.340 --> 00:10:06.161 ถูกรวบรวมเอาไว้ในพระคัมภีร์กุรอาน 00:10:06.161 --> 00:10:09.995 ซึ่งแปลตามตรงได้ว่าว่า "การสวด" 00:10:09.995 --> 00:10:12.355 ชาวมุสลิมเชื่อว่า นี่คือคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เพียงเล่มเดียว 00:10:12.355 --> 00:10:14.244 ที่ไร้ซึ่งทุจริตจากมนุษย์ 00:10:14.244 --> 00:10:15.745 หลายคนยังยกย่องอีกว่า 00:10:15.745 --> 00:10:17.157 มันเป็นวรรณกรรมที่งดงามที่สุด 00:10:17.157 --> 00:10:19.315 ในภาษาอาหรับ 00:10:19.315 --> 00:10:21.662 ศาสนาอิสลามเป็นศาสนา ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก 00:10:21.662 --> 00:10:25.714 นับถือโดยชาวมุสชิมทั่วโลก มากกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านคน 00:10:27.020 --> 00:10:28.973 ศาสนาได้ทำหน้าที่ เป็นมุมมองหนึ่งของวัฒนธรรม 00:10:28.973 --> 00:10:30.803 มานับตั้งแต่มันถือกำเนิดขึ้น 00:10:30.803 --> 00:10:34.137 และมีรูปแบบต่าง ๆ มากมาย 00:10:34.137 --> 00:10:35.572 แต่สิ่งที่ทุกศาสนามีร่วมกัน 00:10:35.572 --> 00:10:37.720 ก็คือการแสวงหาความหมาย 00:10:37.720 --> 00:10:38.861 ที่อยู่เหนือความทะนงตนอันว่างเปล่า 00:10:38.861 --> 00:10:41.634 และการมีชีวิตอยู่ โดยมิได้รู้ซึ้งถึงความเป็นจริง 00:10:41.634 --> 00:10:42.732 เหนือกว่าบาป 00:10:42.732 --> 00:10:43.564 ความทุกข์ 00:10:43.564 --> 00:10:45.665 และความตาย 00:10:45.665 --> 00:10:47.248 เหนือความกลัว 00:10:47.248 --> 00:10:49.376 และเหนือกว่าตัวเราเอง