WEBVTT 00:00:00.880 --> 00:00:02.735 เรากำลังประกาศสงครามกับโรคมะเร็ง 00:00:02.760 --> 00:00:05.360 และเราจะชนะสงครามนี้ภายใน ค.ศ. 2015 NOTE Paragraph 00:00:06.440 --> 00:00:10.176 นี่คือสิ่งที่รัฐสภาของสหรัฐอเมริกา และสถาบันมะเร็งแห่งชาติประกาศ 00:00:10.200 --> 00:00:12.760 เมื่อไม่นานมานี้ในปี ค.ศ. 2003 00:00:13.560 --> 00:00:16.656 ตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าพวกคุณคิดยังไง แต่ตัวผมเองนั้นไม่เชื่อเรื่องนี้ 00:00:16.680 --> 00:00:18.736 ผมไม่คิดว่าเราชนะสงครามนี้ได้แล้ว 00:00:18.760 --> 00:00:21.400 และผมไม่คิดว่า จะมีใครที่นี่ สงสัยเรื่องนั้น 00:00:21.800 --> 00:00:24.296 ทีนี้ผมจะบอกถึงเหตุผลหลัก 00:00:24.320 --> 00:00:26.456 ที่เราไม่สามารถเอาชนะสงครามกับโรคมะเร็งได้ 00:00:26.480 --> 00:00:28.776 นั่นก็เพราะเรากำลังต่อสู้อย่างมืดบอด NOTE Paragraph 00:00:28.800 --> 00:00:32.375 ผมจะเริ่มด้วยการแบ่งปันเรื่องราว ของเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผม 00:00:32.400 --> 00:00:33.616 เขาชื่อ เอฮุด ครับ 00:00:33.640 --> 00:00:36.776 เมื่อไม่กี่ปีก่อน เอฮุดได้รับ การวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง 00:00:36.800 --> 00:00:38.656 แล้วก็ไม่ใช่แค่มะเร็งสมองทั่ว ๆ ไปนะครับ 00:00:38.680 --> 00:00:41.856 แต่เป็นมะเร็งสมองชนิดร้ายแรงที่สุด 00:00:41.880 --> 00:00:43.177 อันที่จริง มันร้ายแรงถึงขั้นที่ 00:00:43.177 --> 00:00:45.776 คุณหมอบอกเขาว่า เขามีเวลาเพียงแค่ 12 เดือน 00:00:45.800 --> 00:00:49.216 และในระยะเวลา 12 เดือนนั้น พวกเขาต้องหาวิธีรักษา 00:00:49.240 --> 00:00:50.696 พวกเขาต้องหายารักษา 00:00:50.720 --> 00:00:52.880 และหากพวกเขาไม่สามารถ หาทางรักษามันได้ เขาจะตาย NOTE Paragraph 00:00:53.800 --> 00:00:55.256 ข่าวดีก็คือ คุณหมอบอกว่า 00:00:55.280 --> 00:00:58.216 มีแนวทางในการรักษาให้เลือกมากมาย 00:00:58.240 --> 00:00:59.456 แต่ข่าวร้ายก็คือ 00:00:59.480 --> 00:01:03.016 การที่จะบอกได้ว่าการรักษานั้นได้ผลหรือไม่ 00:01:03.040 --> 00:01:05.536 จำเป็นต้องใช้เวลาประมาณสามเดือน 00:01:05.560 --> 00:01:07.936 ดังนั้นพวกเขาก็ไม่มีเวลามากพอ ที่จะลองทุกวิธีที่มี NOTE Paragraph 00:01:07.960 --> 00:01:11.056 ครับ แล้วเอฮุดก็เข้ารับการรักษาครั้งแรก 00:01:11.080 --> 00:01:14.336 ในระหว่างการรักษาครั้งแรกนั้น ไม่กี่วันหลังจากเริ่มการรักษา 00:01:14.360 --> 00:01:17.696 ผมได้พบเอฮุด และเขาบอกกับผมว่า "อดัม ผมคิดว่าการรักษาได้ผลนะ 00:01:17.720 --> 00:01:20.536 ผมคิดว่าผมโชคดีมาก ๆ เลยล่ะ เพราะว่าบางอย่างกำลังเกิดขึ้น" NOTE Paragraph 00:01:20.560 --> 00:01:23.016 ผมเลยถามเขาต่อว่า "จริงหรอ ว่าแต่ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ เอฮุด" NOTE Paragraph 00:01:23.040 --> 00:01:25.256 เขาตอบผมว่า "ก็ตอนนี้ผมรู้สึกแย่มาก ๆ อยู่ข้างใน" 00:01:25.280 --> 00:01:27.136 "ผมว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างได้ผลอยู่แน่ๆ" 00:01:27.160 --> 00:01:28.376 "ต้องใช่แน่นอน" NOTE Paragraph 00:01:28.400 --> 00:01:32.840 ครับ แต่โชคร้ายที่สามเดือนหลังจากนั้น เราได้รู้ว่ามันไม่ได้ผล 00:01:33.520 --> 00:01:35.576 และเอฮุดก็เข้ารับการรักษาครั้งที่สอง 00:01:35.600 --> 00:01:36.856 เป็นอีกครั้งที่ผลออกมาเหมือนเดิม 00:01:36.880 --> 00:01:39.616 "ผมรู้สึกแย่มากเลย ต้องมีอะไรเกิดขึ้นอยู่ข้างในแน่ ๆ" 00:01:39.640 --> 00:01:42.576 แต่อีกสามเดือนต่อมา ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เราได้รับข่าวร้าย 00:01:42.600 --> 00:01:46.536 จากนั้นเอฮุดก็เข้ารับการรักษา ครั้งที่สาม แล้วก็ครั้งที่สี่ 00:01:46.560 --> 00:01:49.080 แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เอฮุดเสียชีวิตในท้ายที่สุด NOTE Paragraph 00:01:49.800 --> 00:01:54.376 ทีนี้ เมื่อใครสักคนหนึ่งคุณสนิทด้วยมาก ๆ ต้องผ่านการฝ่าฟันอย่างหนัก 00:01:54.400 --> 00:01:56.216 คุณก็จะท่วมท้นไปด้วยอารมณ์มากมาย 00:01:56.240 --> 00:01:58.336 หลายสิ่งหลายอย่างจะ ผ่านเข้ามาในความคิดของคุณ 00:01:58.360 --> 00:01:59.816 สำหรับผมแล้ว ผมรู้สึกเจ็บแค้นเป็นส่วนใหญ่ 00:01:59.840 --> 00:02:04.536 ผมเจ็บแค้นที่ว่า เราทำได้ดีที่สุดแค่นี้เองหรอ 00:02:04.560 --> 00:02:06.856 แล้วผมก็เริ่มมองเข้าไปให้ลึกขึ้น 00:02:06.880 --> 00:02:10.336 จากนั้นผมจึงพบว่าสิ่งที่หมอเสนอ ให้เอฮุดนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด 00:02:10.360 --> 00:02:14.176 และสิ่งที่หมอเสนอก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับผู้ป่วยมะเร็งสมองคนอื่น ๆ ด้วย 00:02:14.200 --> 00:02:17.400 จริง ๆ แล้ว เรายังรับมือกับโรคมะเร็ง ได้ไม่รอบด้านนัก NOTE Paragraph 00:02:18.240 --> 00:02:20.096 ผมขอยกสถิติหนึ่งขึ้นมา 00:02:20.120 --> 00:02:22.896 ผมมั่นใจว่าพวกคุณบางคน คงได้เห็นมันมาก่อนแล้ว 00:02:22.920 --> 00:02:26.376 สถิตินี้จะบอกพวกคุณว่ามีผู้ป่วยมะเร็ง เสียชีวิตจากมะเร็งจริง ๆ กี่คน 00:02:26.400 --> 00:02:28.416 ในกรณีนี้ คือ ผู้หญิงในสหรัฐอเมริกา 00:02:28.440 --> 00:02:29.736 ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930 00:02:29.760 --> 00:02:32.936 คุณจะเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะเลย 00:02:32.960 --> 00:02:34.256 มะเร็งยังคงเป็นปัญหาใหญ่ 00:02:34.280 --> 00:02:36.016 แต่คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง 00:02:36.040 --> 00:02:38.576 คุณจะเห็นว่ามีคนเป็นมะเร็งปอดเพิ่มมากขึ้น 00:02:38.600 --> 00:02:39.800 ซึ่งต้องขอบคุณบุหรี่ทั้งหลาย 00:02:40.360 --> 00:02:42.856 แล้วคุณก็จะได้เห็นด้วยว่า มะเร็งกระเพาะอาหารนั้น 00:02:42.880 --> 00:02:46.216 ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คน ไปมากที่สุดในบรรดามะเร็งทุกชนิด 00:02:46.240 --> 00:02:47.680 ถูกกำจัดไป 00:02:48.480 --> 00:02:50.536 ทีนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ มีใครรู้บ้างไหม 00:02:50.560 --> 00:02:53.896 ทำไมมนุษยชาติถึงไม่โดนจู่โจม ด้วยมะเร็งกระเพาะอีกแล้ว 00:02:53.920 --> 00:02:58.776 ความก้าวหน้าทางการแพทย์ ครั้งยิ่งใหญ่อะไรกัน 00:02:58.800 --> 00:03:02.160 ที่ช่วยให้มนุษยชาติรอดพ้น จากมะเร็งกระเพาะอาหาร 00:03:03.240 --> 00:03:07.056 ใช่ยาชนิดใหม่ หรือการวินิจฉัยโรคที่ดีขึ้นหรือเปล่า 00:03:07.080 --> 00:03:08.376 พวกคุณเข้าใจถูกแล้ว 00:03:08.400 --> 00:03:11.016 มันเป็นเพราะการเกิดขึ้นของตู้เย็นยังไงล่ะ 00:03:11.040 --> 00:03:13.656 ที่ทำให้เราไม่ต้องกินเนื้อบูด ๆ อีกต่อไป 00:03:13.680 --> 00:03:15.976 กลับกลายเป็นว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่เราคิดค้นมาได้ 00:03:16.000 --> 00:03:17.936 จากสังเวียนของงานวิจัยด้านมะเร็ง 00:03:17.960 --> 00:03:20.151 คือการที่ตู้เย็นถูกสร้างขึ้นมา NOTE Paragraph 00:03:20.175 --> 00:03:21.376 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:03:21.400 --> 00:03:22.656 ผมก็รู้สึกแบบคุณนั่นล่ะ 00:03:22.680 --> 00:03:24.096 เราทำกันได้ไม่ดีสักเท่าไร 00:03:24.120 --> 00:03:26.456 ผมไม่ได้จะลดทอนความก้าวหน้า 00:03:26.480 --> 00:03:29.856 รวมถึงทุกอย่างที่ได้ทำมาทั้งหมด ในงานวิจัยด้านมะเร็งนะครับ 00:03:29.880 --> 00:03:33.296 ลองดูสิว่า เรามีงานวิจัยเกี่ยวกับ มะเร็งที่ดีมาราว ๆ 50 กว่าปี 00:03:33.320 --> 00:03:36.736 ที่ทำให้เราค้นพบสิ่งที่สำคัญ ๆ ที่สอนเราเกี่ยวกับมะเร็ง 00:03:36.760 --> 00:03:38.496 แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็ตาม 00:03:38.520 --> 00:03:41.092 เรายังมีงานหนักอีกมากมาย ที่ยังต้องทำอยู่ข้างหน้า NOTE Paragraph 00:03:42.920 --> 00:03:46.016 ผมขอโต้แย้งอีกครั้งว่า เหตุผลหลักที่ทำไมมันถึงยังเป็นแบบนี้อยู่ 00:03:46.040 --> 00:03:48.040 เหตุที่ว่าทำไมเราถึงยังทำมาได้ไม่ดีพอนั้น 00:03:48.064 --> 00:03:49.896 ก็เพราะว่าเรากำลังต่อสู้กับมะเร็งอย่างมืดบอด 00:03:49.920 --> 00:03:52.136 และจุดนี้เองที่การฉายภาพทางการแพทย์ จะเข้ามาเกี่ยวข้อง 00:03:52.160 --> 00:03:53.840 และเป็นจุดที่งานของผมเองเข้ามาเกี่ยวข้อง NOTE Paragraph 00:03:54.400 --> 00:03:57.136 และเพื่อจะทำให้คุณเข้าใจ การฉายภาพทางการแพทย์ได้ดีที่สุด 00:03:57.160 --> 00:03:59.656 ซึ่งใช้กับผู้ป่วยมะเร็งสมองทุกวันนี้ 00:03:59.680 --> 00:04:01.856 รวมถึงใช้กับ ผู้ป่วยมะเร็งชนิดอื่น ๆ ด้วย 00:04:01.880 --> 00:04:03.816 ผมจะให้คุณดูเพทสแกน (PET Scan) อันนี้ 00:04:03.840 --> 00:04:05.080 เรามาดูพร้อมกันเถอะ NOTE Paragraph 00:04:05.640 --> 00:04:07.336 นี่คือเพท ซีทีสแกน (PET/CT Scan) 00:04:07.360 --> 00:04:09.816 และสิ่งที่คุณเห็นข้างใน เพท ซีทีสแกน นั้น 00:04:09.840 --> 00:04:13.056 คือซีทีสแกนที่แสดงให้คุณเห็นว่า กระดูกอยู่ตรงไหน 00:04:13.080 --> 00:04:15.480 และเพทสแกนที่จะบอกคุณว่า เนื้องอกนั้นอยู่ที่ไหน 00:04:15.960 --> 00:04:18.176 ทีนี้ สิ่งที่คุณเห็นได้ในตอนนี้ 00:04:18.200 --> 00:04:20.616 ส่วนใหญ่แล้วเป็นโมเลกุลน้ำตาล 00:04:20.640 --> 00:04:22.456 ที่ถูกติดป้ายเล็ก ๆ เข้าไป 00:04:22.480 --> 00:04:24.576 ที่กำลังส่งสัญญาณออกมา ภายนอกร่างกายมายังเรา 00:04:24.600 --> 00:04:25.896 "เฮ้ ฉันอยู่นี่" 00:04:25.920 --> 00:04:29.736 โมเลกุลน้ำตาลพวกนี้นับพันล้านโมเลกุล จะถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของคนไข้ 00:04:29.760 --> 00:04:31.456 แล้วก็จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย 00:04:31.480 --> 00:04:33.560 คอยหาเซลล์ที่หิวโหยน้ำตาล 00:04:34.320 --> 00:04:36.976 ตัวอย่างเช่น คุณจะเห็นว่าหัวใจส่องสว่างอยู่ตรงนั้น 00:04:37.000 --> 00:04:39.216 นั่นก็เพราะว่าหัวใจนั้นต้องการน้ำตาลมาก 00:04:39.240 --> 00:04:41.576 และคุณก็จะเห็นว่า กระเพาะปัสสาวะก็ส่องสว่างเช่นกัน 00:04:41.600 --> 00:04:44.216 ซึ่งก็เพราะว่า กระเพาะปัสสาวะคืออวัยวะที่กำจัด 00:04:44.240 --> 00:04:45.640 น้ำตาลออกไปจากร่างกายของเรา 00:04:46.096 --> 00:04:48.096 แล้วคุณก็จะเห็นจุดสว่างอื่น ๆ อีกเช่นกัน 00:04:48.120 --> 00:04:49.736 ซึ่งจุดพวกนี้เองที่เป็นเนื้องอก NOTE Paragraph 00:04:49.760 --> 00:04:51.896 เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก 00:04:51.920 --> 00:04:55.056 เป็นครั้งแรกที่มันทำให้เราสามารถมองเข้าไป ในร่างกายของใครสักคนได้ 00:04:55.080 --> 00:04:57.456 โดยที่ไม่ต้องเอาเซลล์พวกนั้นทั้งหมดออกมา 00:04:57.480 --> 00:04:58.890 แล้ววางไว้ใต้กล้องจุลทรรศน์ 00:04:58.890 --> 00:05:02.230 และด้วยวิธีที่ไม่รุกรานแบบนี้ ทำให้เรา สามารถมองเข้าไปในร่างกายของใครสักคน 00:05:02.230 --> 00:05:04.536 แล้วถามว่า "เห้ย มะเร็งแพร่กระจายแล้วหรือยัง 00:05:04.560 --> 00:05:05.776 มันอยู่ไหนน่ะ" 00:05:05.800 --> 00:05:08.296 ซึ่งเพทสแกนนั้น กำลังแสดง ให้คุณเห็นอย่างชัดเจนมาก 00:05:08.320 --> 00:05:10.600 ว่าจุดสว่าง ๆ พวกนี้อยู่ตรงไหน และเนื้องอกอยู่ตรงไหน NOTE Paragraph 00:05:11.480 --> 00:05:14.776 แต่ถึงแม้ว่ามันจะดูน่าอัศจรรย์สักเท่าไรก็ตาม 00:05:14.800 --> 00:05:17.680 ก็ยังมีความโชคร้ายว่า มันก็ไม่ได้ดีเยี่ยมขนาดนั้น 00:05:18.320 --> 00:05:20.400 คุณเห็นไหม จุดสว่างเล็ก ๆ ตรงนั้นน่ะ 00:05:21.240 --> 00:05:24.760 มีใครเดาได้ไหมว่าในเนื้องอกแต่ละก้อน มีเซลล์มะเร็งกี่เซลล์ 00:05:26.600 --> 00:05:28.936 ประมาณ 100 ล้านเซลล์ยังไงล่ะ 00:05:28.960 --> 00:05:31.656 และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจตัวเลขนี้ 00:05:31.680 --> 00:05:34.016 ผมจะบอกว่า ในจุดสว่างเล็ก ๆ ทุกจุดพวกนี้ 00:05:34.040 --> 00:05:35.616 ที่คุณเห็นอยู่ในรูปนั้น 00:05:35.640 --> 00:05:39.736 จำเป็นจะต้องมีเซลล์มะเร็ง อย่างน้อย 100 ล้านเซลล์ 00:05:39.760 --> 00:05:41.296 ถึงจะทำให้เครื่องนี้ตรวจพบได้ 00:05:41.320 --> 00:05:43.776 ทีนี้ ถ้าพวกคุณคิดว่ามันเป็นตัวเลขที่มาก 00:05:43.800 --> 00:05:45.480 ถูกต้องแล้ว มันคือตัวเลขที่มาก 00:05:46.640 --> 00:05:48.696 จริง ๆ แล้ว มันคือตัวเลขมหาศาลเลยล่ะ 00:05:48.720 --> 00:05:51.280 เพราะสิ่งที่เราต้องทำ เพื่อให้เอาออกมาให้เร็วพอ 00:05:51.280 --> 00:05:54.020 เพื่อที่จะทำอะไรกับมันได้ เพื่อที่จะทำอะไรที่ก่อให้เกิดผลที่ดีนั้น 00:05:54.020 --> 00:05:56.970 คือเราต้องเอาเนื้องอก ที่มีขนาดแค่หนึ่งพันเซลล์ออก 00:05:56.970 --> 00:05:59.760 หรือถ้าเป็นไปได้ ก็คือเซลล์ แค่หยิบมือเดียวเท่านั้น 00:05:59.760 --> 00:06:02.160 นั่นหมายความว่าเรายังอยู่ห่างจากจุดนั้นมาก NOTE Paragraph 00:06:02.160 --> 00:06:04.656 ดังนั้นเราจะทำการทดลองเล็ก ๆ ที่นี่ 00:06:04.680 --> 00:06:07.136 ตอนนี้ ผมจะให้พวกคุณแต่ละคน เล่นเกมและจินตนาการว่า 00:06:07.160 --> 00:06:08.520 คุณเป็นหมอผ่าตัดสมอง 00:06:09.000 --> 00:06:13.016 แล้วตอนนี้คุณก็กำลังอยู่ในห้องผ่าตัด 00:06:13.040 --> 00:06:15.056 และมีคนไข้คนหนึ่งนอนอยู่ข้างหน้าคุณ 00:06:15.080 --> 00:06:18.800 งานของคุณคือ คุณต้องทำให้แน่ใจว่า เนื้องอกนั้นถูกเอาออกไปแล้ว 00:06:19.400 --> 00:06:21.370 ตอนนี้คุณกำลังมองไปที่คนไข้ของคุณ 00:06:21.370 --> 00:06:25.136 และเมื่อคุณมองลงไปนั้น ผิวหนังและกะโหลกของคนไข้ก็ถูกเปิดออกแล้ว 00:06:25.160 --> 00:06:26.696 ตอนนี้คุณกำลังมองไปที่สมอง 00:06:26.720 --> 00:06:28.416 และสิ่งที่คุณรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับคนไข้คนนี้ 00:06:28.440 --> 00:06:31.256 คือคนไข้มีก้อนเนื้องอกขนาดประมาณลูกกอล์ฟ 00:06:31.280 --> 00:06:33.600 ในสมองกลีบหน้าด้านขวาของเขา 00:06:34.080 --> 00:06:35.416 เท่านั้นล่ะที่คุณรู้ 00:06:35.440 --> 00:06:38.656 คุณเลยมองลงไป แต่โชคไม่ดีที่ ทุกอย่างกลับดูเหมือนกันไปหมด 00:06:38.680 --> 00:06:41.776 เพราะว่าเนื้อเยื่อมะเร็งและ เนื้อเยื่อปกติของสมองนั้น 00:06:41.800 --> 00:06:43.376 แท้จริงแล้วดูเหมือนกัน 00:06:43.400 --> 00:06:45.296 คุณเลยยื่นนิ้วโป้งของคุณลงไป 00:06:45.320 --> 00:06:47.656 แล้วเริ่มกดที่สมองสักจุดหนึ่ง 00:06:47.680 --> 00:06:50.096 เพราะว่าเนื้องอกมักจะแข็งและกระด้างกว่า 00:06:50.120 --> 00:06:52.736 คุณเลยยื่นนิ้วเข้าไปแล้วทำแบบนั้น แล้วก็พูดว่า 00:06:52.760 --> 00:06:54.736 "ดูเหมือนว่าเนื้องอกจะอยู่ตรงนี้นะ" 00:06:54.760 --> 00:06:57.416 แล้วคุณก็เอามีดออกมาแล้วผ่าเนื้องอกนั้นออก 00:06:57.440 --> 00:06:58.696 ทีละชิ้น ทีละชิ้น 00:06:58.720 --> 00:07:00.416 และในขณะที่คุณกำลังเอาเนื้องอกออกมา 00:07:00.440 --> 00:07:02.656 ก็จะมาถึงจุดที่คุณคิดว่า 00:07:02.680 --> 00:07:04.816 "โอเคล่ะ เสร็จแล้ว ฉันเอาทุกอย่างออกมาหมดแล้ว" 00:07:04.840 --> 00:07:06.376 และในขั้นนี้ 00:07:06.400 --> 00:07:09.096 ขั้นที่ทุกอย่างดูเหมือนไม่เข้าท่าไปหมด 00:07:09.120 --> 00:07:12.816 คุณจะได้พบกับการตัดสินใจที่ ท้าทายที่สุดในชีวิตของคุณ 00:07:12.840 --> 00:07:14.376 เพราะในตอนนี้คุณต้องตัดสินใจแล้วว่า 00:07:14.400 --> 00:07:17.096 คุณจะหยุดแต่เพียงเท่านี้ แล้วปล่อยคนไข้ไป 00:07:17.120 --> 00:07:20.056 และในขณะเดียวกัน ก็ต้องเสี่ยงว่า อาจมีเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่ 00:07:20.080 --> 00:07:21.936 ที่คุณมองไม่เห็น 00:07:21.960 --> 00:07:24.616 หรือว่าจะเอาขอบ ๆ ออกเพิ่มสักเล็กน้อย 00:07:24.640 --> 00:07:27.496 ประมาณหนึ่งนิ้วรอบ ๆ เนื้องอก 00:07:27.520 --> 00:07:29.720 เพื่อให้แน่ใจว่าเอาทุกอย่างออกหมดแล้วจริง ๆ NOTE Paragraph 00:07:31.400 --> 00:07:35.240 มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย 00:07:35.840 --> 00:07:37.776 แต่โชคร้ายที่การตัดสินใจแบบนี้นั้น 00:07:37.800 --> 00:07:41.136 คือสิ่งที่หมอผ่าตัดสมอง ต้องตัดสินใจอยู่ทุกวัน 00:07:41.160 --> 00:07:42.760 ขณะที่ต้องพบกับคนไข้ NOTE Paragraph 00:07:43.320 --> 00:07:46.256 ผมจำได้ว่าผมคุย กับเพื่อนสองสามคนในห้องทดลอง 00:07:46.280 --> 00:07:48.656 เราพูดกันว่า "พวก มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้" 00:07:48.680 --> 00:07:52.096 แต่ไม่ใช่แค่การพูดกับเพื่อนว่า ต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ 00:07:52.120 --> 00:07:54.073 แต่มันจะต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ที่นี่ 00:07:54.097 --> 00:07:55.616 ซึ่งมันดูเป็นไปไม่ได้เลย NOTE Paragraph 00:07:55.640 --> 00:07:57.296 แล้วพวกเราจึงมองย้อนกลับไป 00:07:57.320 --> 00:08:00.296 จำเครื่องเพทสแกนที่ผมบอกคุณได้ไหม ทั้งเรื่องน้ำตาลและเรื่องอื่น ๆ 00:08:00.320 --> 00:08:03.056 เราพูดกันว่า เห้ย แทนที่เราจะใช้โมเลกุลน้ำตาล 00:08:03.080 --> 00:08:06.216 เรามาลองใช้อนุภาคทองคำ ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ แทนไหม 00:08:06.240 --> 00:08:09.896 แล้วตั้งโปรแกรมมันด้วย คุณสมบัติทางเคมีที่น่าทึ่งของมัน 00:08:09.920 --> 00:08:12.336 โดยเรามาตั้งโปรแกรม เพื่อให้พวกมันหาเซลล์มะเร็งกัน 00:08:12.360 --> 00:08:14.456 จากนั้นเราก็จะฉีดอนุภาคทองคำเหล่านี้เข้าไป 00:08:14.480 --> 00:08:16.736 ในร่างกายของคนไข้นับพันล้านอนุภาคอีกครั้ง 00:08:16.760 --> 00:08:18.736 แล้วเราปล่อยให้มันแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย 00:08:18.760 --> 00:08:20.736 เหมือนกับสายลับ 00:08:20.760 --> 00:08:23.576 ที่เดินและแวะไปหาเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย 00:08:23.600 --> 00:08:25.296 แล้วเคาะประตูของเซลล์นั้น ๆ 00:08:25.320 --> 00:08:28.056 แล้วถามว่า "คุณเป็นเซลล์มะเร็ง หรือเซลล์ปกติ" 00:08:28.080 --> 00:08:30.096 ถ้าคุณเป็นเซลล์ปกติ เราจะปล่อยผ่านไป 00:08:30.120 --> 00:08:32.856 แต่ถ้าคุณเป็นเซลล์มะเร็ง เราจะเข้าไป และเปล่งแสงออกมา 00:08:32.880 --> 00:08:34.976 แล้วรายงานกับเราว่า "นี่ ดูนี่สิ ฉันอยู่นี่" 00:08:35.000 --> 00:08:37.376 และเราจะเห็นมัน ผ่านกล้องพิเศษบางตัว 00:08:37.400 --> 00:08:38.816 ที่เราสร้างขึ้นในห้องทดลอง 00:08:38.840 --> 00:08:41.775 และเมื่อเราเห็นมัน เราอาจจะนำทางหมอผ่าตัดสมอง 00:08:41.799 --> 00:08:45.200 มุ่งไปยังเนื้องอกเท่านั้น แล้วปล่อยสมองส่วนที่ปกติไว้ 00:08:45.720 --> 00:08:48.776 เราได้ทดลองมันแล้ว แล้วมันก็ทำงานได้ดี NOTE Paragraph 00:08:48.800 --> 00:08:50.776 ดังนั้นตอนนี้ผมจะแสดงตัวอย่างให้คุณดู 00:08:50.800 --> 00:08:52.576 สิ่งที่คุณกำลังดูอยู่นั้น 00:08:52.600 --> 00:08:56.536 คือภาพสมองของหนู 00:08:56.560 --> 00:08:59.600 เราได้ปลูกถ่ายเนื้องอกก้อนเล็ก ๆ 00:08:59.720 --> 00:09:01.000 เข้าไปในสมองของหนูตัวนี้ 00:09:01.000 --> 00:09:03.640 ในตอนนี้ เนื้องอกก้อนนี้ กำลังขยายใหญ่ในสมองของหนูตัวนี้ 00:09:03.640 --> 00:09:06.316 จากนั้นเราก็ตามหมอมา แล้วขอให้หมอ 00:09:06.316 --> 00:09:09.160 ช่วยผ่าตัดหนูตัวนี้ ราวกับว่ามันเป็นคนไข้คนหนึ่ง 00:09:09.160 --> 00:09:11.600 และเอาชิ้นเนื้องอกออกทีละชิ้น ๆ 00:09:11.600 --> 00:09:13.400 และในขณะที่เขากำลังผ่าตัดอยู่นั้น 00:09:13.400 --> 00:09:16.400 เราจะถ่ายภาพเพื่อดูว่า อนุภาคทองคำนั้นอยู่ที่ไหน 00:09:16.400 --> 00:09:18.040 โดยเราจะเริ่มขั้นแรก 00:09:18.040 --> 00:09:20.470 โดยการฉีดอนุภาคทองคำพวกนี้ เข้าไปในหนูตัวนี้ 00:09:20.480 --> 00:09:23.400 เราจะมาดูทางซ้ายสุดนี้ 00:09:23.400 --> 00:09:24.680 รูปด้านล่างนั้น 00:09:24.680 --> 00:09:27.200 คือรูปที่แสดงให้เห็นว่า อนุภาคทองคำอยู่ตรงไหน 00:09:27.200 --> 00:09:29.280 ข้อดีก็คือ อนุภาคทองคำพวกนี้นั้น 00:09:29.280 --> 00:09:31.320 สามารถเดินทางไปถึงก้อนเนื้องอกได้ทั้งหมด NOTE Paragraph 00:09:31.320 --> 00:09:35.000 แล้วพวกมันก็ส่องแสงออกมา เพื่อบอกเราว่า "นี่ พวกเราอยู่ที่นี่ เนื้องอกอยู่ตรงนี้" 00:09:35.000 --> 00:09:36.390 ในตอนนี้เราก็สามารถมองเห็นเนื้องอกได้ 00:09:36.400 --> 00:09:38.560 แต่เราจะยังไม่เอาไปให้หมอดูทันที 00:09:38.560 --> 00:09:41.640 เราบอกหมอว่า รบกวนหมอผ่าเอาเนื้องอกออกไปที 00:09:41.640 --> 00:09:45.080 คุณจะเห็นว่า หมอได้เอาก้อนเนื้องอกออกไปหนึ่งในสี่แล้ว 00:09:45.080 --> 00:09:47.320 และคุณจะเห็นว่า เนื้องอกส่วนหนึ่งได้หายไปแล้ว 00:09:47.320 --> 00:09:49.800 จากนั้น หมอก็เอาเนื้องอก ส่วนที่สอง ส่วนที่สามออก 00:09:49.800 --> 00:09:51.560 และตอนนี้ดูเหมือนว่า จะเอาออกไปจนหมดแล้ว 00:09:51.560 --> 00:09:54.320 และในขั้น ๆ นี้ หมอกลับมาหาเราและบอกว่า 00:09:54.320 --> 00:09:56.590 "ผมทำเสร็จแล้ว คุณอยากให้ผมทำอะไรอีกหรือเปล่า 00:09:56.600 --> 00:09:58.200 ผมควรปล่อยไว้แบบนี้ NOTE Paragraph 00:09:58.200 --> 00:10:00.720 หรือคุณอยากให้ผมเอาบริเวณรอบ ๆ นั้น ออกเพิ่มอีกสักหน่อย" 00:10:00.720 --> 00:10:02.400 เราเลยบอกหมอว่า "เดี๋ยวก่อนครับ" 00:10:02.400 --> 00:10:04.834 เราบอกเขาว่า "คุณยังไม่ได้เอาสองจุดนั้นออก 00:10:04.844 --> 00:10:06.860 ดังนั้นแทนที่จะเอาขอบ ๆ ที่มีขนาดใหญ่ออก 00:10:06.860 --> 00:10:08.720 หมอแค่เอาจุดเล็ก ๆ พวกนั้นออกก็พอ NOTE Paragraph 00:10:08.720 --> 00:10:10.760 เอามันออกมา แล้วมาดูกัน" 00:10:10.760 --> 00:10:13.640 หมอจึงเอามันออก และไม่น่าเชื่อเลย 00:10:13.640 --> 00:10:15.680 มะเร็งทั้งหมดหายไปแล้ว NOTE Paragraph 00:10:15.680 --> 00:10:17.084 แต่สิ่งสำคัญ 00:10:17.084 --> 00:10:19.720 ไม่ใช่เพียงแค่มะเร็งนั้นหายไปจนหมด 00:10:19.720 --> 00:10:21.080 จากสมองของคนคนนี้ 00:10:21.080 --> 00:10:23.150 หรือจากหนูตัวนี้ 00:10:23.160 --> 00:10:24.440 แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ 00:10:24.440 --> 00:10:27.360 เราไม่ต้องผ่าเอาเซลล์สมองปกติออกไปมากมาย 00:10:27.360 --> 00:10:28.600 ระหว่างการผ่าเนื้องอกนั้น 00:10:28.600 --> 00:10:30.800 ดังนั้น ในตอนนี้ เราสามารถจินตนาการถึงโลก 00:10:30.800 --> 00:10:34.720 ที่หมอและหมอผ่าตัด รู้อย่างแน่ชัดว่า จะต้องเอาส่วนไหนออกมา NOTE Paragraph 00:10:34.720 --> 00:10:36.170 ขณะผ่าเอาเนื้องอกออก 00:10:36.170 --> 00:10:39.520 โดยที่ไม่ต้องคาดเดาด้วยนิ้วโป้งอีกต่อไป 00:10:39.520 --> 00:10:43.480 ทีนี้ นี่คือสาเหตุว่าทำไม การเอาเนื้องอกเล็ก ๆ ที่เหลืออยู่นั้นออก จึงสำคัญอย่างมาก 00:10:43.480 --> 00:10:46.360 เนื้องอกที่หลงเหลืออยู่นั้น ถึงแม้ว่าจะมีเซลล์เพียงแค่หยิบมือเดียว 00:10:46.360 --> 00:10:49.440 จะเติบโตและก่อให้เกิดเนื้องอกขึ้น 00:10:49.440 --> 00:10:51.120 และนำเนื้องอกกลับมาใหม่ 00:10:51.120 --> 00:10:53.080 จริง ๆ แล้วนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหมอผ่าตัดสมอง 00:10:53.080 --> 00:10:55.324 ร้อยละ 80 ถึง 90 ถึงล้มเหลวในท้ายที่สุด NOTE Paragraph 00:10:55.324 --> 00:10:59.120 นั่นก็เพราะขอบเล็ก ๆ พวกนั้น ที่เป็นเนื้องอกที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ 00:10:59.120 --> 00:11:02.460 เพราะเนื้องอกเล็ก ๆ น้อยนิด ที่ถูกทิ้งอยู่ในนั้น 00:11:03.440 --> 00:11:05.636 ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ 00:11:05.636 --> 00:11:09.960 แต่สิ่งที่ผมอยากจะแบ่งปันกับพวกคุณจริง ๆ คือ จุดหมายที่เรากำลังมุ่งไปข้างหน้า 00:11:09.960 --> 00:11:11.640 ในห้องทดลองที่สแตนฟอร์ดของผมนั้น 00:11:11.640 --> 00:11:17.600 นักศึกษากับผมถามว่า ตอนนี้สิ่งที่เราควรจะทำคืออะไร 00:11:17.600 --> 00:11:20.480 ผมคิดว่าจุดหมายที่เทคโนโลยีฉายภาพ กำลังมุ่งไปหานั้น 00:11:20.480 --> 00:11:22.840 คือศักยภาพในการส่องเข้าไปในร่างกายคน 00:11:22.840 --> 00:11:27.000 และสามารถมองเห็น เซลล์แต่ละเซลล์แยกกัน 00:11:27.000 --> 00:11:28.760 ศักยภาพนี้ จะทำให้เรา NOTE Paragraph 00:11:28.760 --> 00:11:31.680 สามารถที่จะเอาเนื้องอกออกได้นาน 00:11:31.680 --> 00:11:36.200 ก่อนที่จะมีเซลล์ 100 ล้านเซลล์ข้างใน ซึ่งจะทำให้เราจัดการกับมันได้จริง ๆ 00:11:36.200 --> 00:11:39.640 ศักยภาพในการมองเห็นเซลล์แต่ละเซลล์ แยกกันนี้ ยังอาจทำให้เรา 00:11:39.640 --> 00:11:41.040 ได้ถามคำถามที่ล้ำลึกมากมาย 00:11:41.040 --> 00:11:43.160 ดังนั้นในห้องทดลองตอนนี้ เรากำลังไปถึงจุด 00:11:43.160 --> 00:11:46.440 ที่เราสามารถเริ่มถามคำถามกับ เซลล์มะเร็งพวกนี้ได้มากมายอย่างแท้จริง 00:11:46.440 --> 00:11:49.590 เช่น ถามมันว่า มันกำลังตอบสนอง ต่อการรักษาแบบที่เราใช้หรือเปล่า 00:11:49.590 --> 00:11:53.380 หากมันไม่ตอบสนอง เราจะได้หยุด วิธีการรักษาแบบเดิมทันที 00:11:53.380 --> 00:11:56.480 โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน และไม่ต้องรอถึงสามเดือน 00:11:56.480 --> 00:11:58.680 ซึ่งทำให้คนไข้แบบเอฮุด 00:11:58.680 --> 00:12:03.120 ที่กำลังจะต้องผ่านขั้นตอน การทำคีโมที่เลวร้ายนั้น 00:12:03.120 --> 00:12:04.400 ไม่ต้องทรมาน NOTE Paragraph 00:12:04.400 --> 00:12:07.320 จากผลข้างเคียงที่น่ากลัวของยานั้นอีกต่อไป 00:12:07.320 --> 00:12:10.000 ทั้งที่จริง ๆ แล้วยาพวกนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาเลย 00:12:10.000 --> 00:12:12.960 ถ้าจะให้ผมพูดตรง ๆ 00:12:12.960 --> 00:12:16.440 จริง ๆ แล้ว เรายังห่างไกลจากชัยชนะ ในการทำสงครามกับมะเร็ง 00:12:16.440 --> 00:12:17.720 ถ้ามองบนพื้นฐานความเป็นจริง 00:12:17.720 --> 00:12:19.640 แต่อย่างน้อยที่สุดผมก็มีความหวัง NOTE Paragraph 00:12:19.640 --> 00:12:23.790 ว่าเราจะสามารถต่อสู้ในสงครามนี้ได้ ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ดีขึ้น NOTE Paragraph 00:12:23.800 --> 00:12:25.675 ด้วยวิธีที่ไม่มืดบอดอีกต่อไป 00:12:25.675 --> 00:12:26.915 ขอบคุณครับ 00:12:26.915 --> 00:12:29.145 (เสียงปรบมือ)