ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC
-
0:02 - 0:10(เสียงปรบมือ)
-
0:11 - 0:14เราเป็นคนที่ชอบการถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็กละ
-
0:14 - 0:16เราสนใจการถ่ายภาพ
-
0:16 - 0:20แต่เราก็เห็นว่ามันเป็น
งานอดิเรกของเรามาโดยตลอด -
0:20 - 0:22เราก็เลยไม่ได้มี
-
0:23 - 0:26ไปเรียนอย่างจริง ๆ จัง ๆ
เรื่องการถ่ายภาพ -
0:26 - 0:29เราก็เลยเรียนการถ่ายภาพ ผ่านภาพถ่าย
-
0:30 - 0:32เราไปดูตามนิทรรศการต่าง ๆ
-
0:32 - 0:34แล้วก็ดูผ่านสื่อ
-
0:34 - 0:36ทีวี หรือนิตยสาร
-
0:37 - 0:38เพื่อที่จะเรียนรู้ว่า
-
0:38 - 0:41เอ๊ะ ช่างที่ถ่ายภาพเก่ง ๆ เนี่ย
เค้าถ่ายภาพแบบไหนบ้าง -
0:42 - 0:45แล้วพอเราได้เริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพ
ผ่านภาพถ่ายขึ้นมาเรื่อย ๆ -
0:45 - 0:48เราก็เลย
เอ่อ อยากมีภาพถ่ายเป็นของตัวเองมั่ง -
0:48 - 0:52เราก็เริ่มออกไปถ่ายภาพเวลาเราไปเที่ยว
หรือไปตามสถานที่ต่าง ๆ -
0:53 - 0:55เราก็เริ่มเห็นความสำคัญของ
-
0:55 - 0:56แสงและเงา
-
0:56 - 1:00เราเห็นความสำคัญของเรื่องของเวลาที่
-
1:00 - 1:02อ่ะ อย่างอันนี้พระอาทิตย์กำลังจะตก
-
1:02 - 1:05เราเห็นความสำคัญของเรื่ององค์ประกอบของภาพ
-
1:06 - 1:10บางครั้งเนี่ย
โอกาสมันก็เกิดขึ้นโดยความโชคดี -
1:10 - 1:15เราหันไปเห็นตอนที่เมฆมันเป็นโหว่
อยู่ตรงยอดภูเขาพอดี -
1:16 - 1:19บางครั้งการที่เรารอยู่ที่นึงนาน ๆ
-
1:19 - 1:22ก็ทำให้เราเห็นถึงกิจกรรมที่คนผ่านมา
-
1:22 - 1:24ในสิ่งแวดล้อมที่เค้าอยู่
-
1:24 - 1:27แล้วมันก็ทำให้ดึงความสนใจของเราไป
-
1:28 - 1:31บางครั้งการที่เรานั่งอยู่ในรถ
แล้วก็มองสองข้างทางเนี่ย -
1:31 - 1:33มันก็ทำให้เราเห็นกิจกรรม
-
1:33 - 1:35ที่แม้มันจะช้ากว่ารถ
-
1:35 - 1:38แต่มันมีพลังมากกว่ามหาศาล
-
1:39 - 1:41บางครั้งโอกาสมันก็เข้ามาหาเรา
-
1:41 - 1:44อย่างเช่นเด็ก 3 คนนี้
ที่กำลังขี่จักรยานกลับจากโรงเรียน -
1:44 - 1:49แต่การถ่ายภาพเนี่ย มันก็ทำให้เรา
ได้สังเกตเห็นอะไรที่ละเอียดขึ้น -
1:49 - 1:55เราเห็นสีหน้าของน้อง ๆ คนนี้
ที่กำลังนั่งรถโรงเรียนอยู่ -
1:56 - 1:59แล้วหลายครั้งที่เราเห็นถึงกิจกรรมที่เค้า
-
2:00 - 2:04อย่างคุณยายคนเนี้ย
ที่นั่งดูก้นบุหรี่ก้นนึงอยู่ -
2:04 - 2:08มันก็ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า
เอ๊ะ แล้วเรื่องราวของเค้ามันคืออะไร -
2:08 - 2:11ทำไมเค้าต้องมานั่งอยู่อย่างเนี้ยะ
แล้วก็นั่งท่าเนี้ย -
2:11 - 2:14แล้วนั่งคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้
-
2:14 - 2:19ซึ่งมันก็เลยทำให้เราเริ่มเห็นถึง
ข้อจำกัดของภาพถ่าย -
2:19 - 2:25ว่าจริง ๆ แล้วเนี่ย ภาพถ่ายเนี่ย
มันไม่สามารถบอกเรื่องราวอะไรอีกตั้งมากมาย -
2:25 - 2:26ที่... ที่เราก็บอกคุณไม่ได้
-
2:26 - 2:30เพราะเราไม่ได้มีโอกาส
ไปถามคุณยายคนนั้นด้วยซ้ำว่า -
2:30 - 2:32ทำไมเค้าถึงนั่งอยู่ตรงนั้น
-
2:32 - 2:35เราก็เลยต้องกลับมาดูเรื่องการถ่ายภาพใหม่
-
2:35 - 2:38เพราะว่าจริง ๆ แล้ว
มันน่าจะมีอะไรมากกว่าแค่ภาพถ่าย -
2:39 - 2:44พอเราดูการถ่ายภาพใหม่
เราโชคดีที่ได้มีโอกาสได้เรียนวิชาการถ่ายภาพ -
2:44 - 2:47ที่เค้าเน้นถึงกระบวนการถ่ายภาพ
-
2:47 - 2:49ซึ่งจะนำมาสู่ภาพถ่ายอีกทีนึง
-
2:50 - 2:52พอเราเรียนวิชาเนี้ย เราก็เริ่มที่จะดูว่า
-
2:52 - 2:56เออ แล้วที่ผ่านมาเนี่ย
กระบวนการถ่ายภาพของเรามันเป็นยังไง -
2:56 - 2:59ที่ผ่านมาเนี่ย เราออกไปค้นหาเนาะ
-
2:59 - 3:03คือเราไปในพื้นที่
ที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักมันมาก่อน -
3:03 - 3:03หรือว่า
-
3:04 - 3:08พื้นที่ที่เรารู้จัก
แต่เราอาจจะอยากรู้จักมันให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม -
3:08 - 3:10ก็ต้องนำตัวเอง ออกไปพื้นที่นั้น ๆ
-
3:11 - 3:15แล้วพอเราออกไปค้นหาอยู่ในพื้นที่นั้น
เราก็ต้องสังเกตมากกว่าเดิม -
3:15 - 3:18คือถ้าเราเดินผ่านสิ่งนึง
ทุกวัน ๆ ๆ อย่างเนี้ยะ -
3:18 - 3:23บางทีเราก็ลืมมันไป
เราไม่ได้สังเกตในรายละเอียดของมันที่เกิดขึ้น -
3:23 - 3:26แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ในกระบวนการของเรา -
3:26 - 3:29พอเราสังเกตเห็นอะไรที่น่าสนใจ
เราก็ถ่ายทอดมันออกมาทันที -
3:29 - 3:32เราถ่ายภาพ
แล้วก็แสดงให้คนดู -
3:33 - 3:37แต่สิ่งที่ขาดไปเนี่ย
มันก็คือความเข้าใจตอนที่เราจะถ่ายภาพนั้น ๆ -
3:37 - 3:40เราไม่ได้เข้าใจว่าคุณยายนั่งทำไม
-
3:40 - 3:45คนเหล่านั้นที่เค้าเดินอยู่ข้างทาง
ที่เป็นภูเขาเนี่ยเขาเดินทำอะไรอยู่ -
3:45 - 3:46เพราะฉะนั้นเนี่ย
-
3:46 - 3:48ความเข้าใจเนี้ยะ
-
3:48 - 3:51เราก็เลยเริ่มดูว่า
เอองั้นเราลองทดสอบกับตัวเองซิ -
3:51 - 3:55ว่าถ้าเราเอาความเข้าใจ
มาอยู่ในกระบวนการของเรา มันจะเป็นยังไง -
3:55 - 3:58เราทดลองอันแรกอยู่ที่
"คอปลีย์ สแควร์" (จตุรัสคอปลีย์) -
3:58 - 3:59อยู่ที่บอสตัน
-
3:59 - 4:02คอปลีย์ สแควร์ มันเป็นสแควร์ (จตุรัส)
เก่า ๆ อันนึงของบอสตัน -
4:02 - 4:04ทีค่อนข้างขึ้นชื่อ ทุกคนรู้จัก
-
4:05 - 4:10มันเป็นสแควร์ที่มีห้องสมุดเก่า
อย่างเช่นอาคารอันนี้ -
4:10 - 4:13แล้วก็มีโบสถ์อันเก่า มีสวนสาธารณะ
-
4:13 - 4:17แล้วก็มีโรงแรม 5 ดาวหรู ๆ มากมาย
-
4:17 - 4:21สแควร์นี้ มันเป็นสแควร์ที่
ถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยวเนี่ย -
4:21 - 4:23เราก็จะไปยืนถ่ายรูปที่มุมนี้แหละ
-
4:24 - 4:27แต่ว่าด้วยความที่
เราอยากที่จะเข้าใจพื้นที่นี้ก่อนหน้าเนี่ย -
4:27 - 4:31เราก็เลยทำการศึกษา
ถึงประวัติศาสตร์ของมันมากขึ้น -
4:31 - 4:36เรากลับไปในพื้นที่นี้ ในหลายเวลาของวัน
-
4:36 - 4:39ไม่ว่าจะเช้า บ่าย หรือว่าเย็น กลางคืน
-
4:39 - 4:43เพราะว่ากิจกรรมที่มันเกิดขึ้นในแต่ละเวลา
ของวันมันก็จะต่างกันไป -
4:43 - 4:46นอกไปจากนี้เราก็ยังไปหลายวันต่ออาทิตย์
-
4:46 - 4:51เพราะว่ากิจกรรมที่มันหมุนเวียนต่อหนึ่งวัน
ในอาทิตย์เนี่ย มันก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ -
4:51 - 4:54สิ่งที่เราพบก็คือว่า จริง ๆ แล้วเนี่ย
-
4:54 - 4:59พื้นที่นี้แม้ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับ
การศึกษาให้กับประชาชนทั่วไป -
4:59 - 5:03มันก็ยังเป็นพื้นที่พักผ่อน
ให้กับคนอีกประเภทนึงเช่นกัน -
5:04 - 5:07แม้มันจะเป็นพื้นที่ที่ไว้ให้คน
-
5:07 - 5:11ที่มีครอบครัวมาใช้เวลาครอบครัวอยู่ด้วยกัน
-
5:11 - 5:15มันก็ยังเป็นพื้นที่สำหรับ
คนที่เดียวดายได้เช่นกัน -
5:15 - 5:19แม้มันจะเป็นพื้นที่
สำหรับโรงแรม 5 ดาวหรูหรา -
5:19 - 5:23มันก็เป็นพื้นที่ให้
คนที่ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวเนี่ย -
5:23 - 5:25มาใชัได้เหมือนกัน
-
5:25 - 5:29พอเราผ่านกระบวนการนี้ด้วยตัวเองแล้วเนี่ย
-
5:29 - 5:32เราก็เริ่มเห็นความสำคัญของความเข้าใจ
ก่อนการถ่ายทอด -
5:33 - 5:35เพราะเมื่อเราเข้าใจก่อนการถ่ายทอดเนี่ย
-
5:36 - 5:40มันเป็นจุดที่ทำให้เราเลือก
ว่าเราจะใช้รูปไหนออกมาถ่ายทอด -
5:41 - 5:44บทที่เราต้องการที่จะสื่อสารออกมา
-
5:45 - 5:48แล้วนอกจากนี้
เราก็เริ่มเห็นว่าจริง ๆ แล้วเนี่ย -
5:48 - 5:50ทั้งหมดนี้มันคือกระบวนการของการเรียนรู้
-
5:50 - 5:55เราได้เรียนรู้ผ่านพื้นที่
ด้วยการที่มีกล้องหนึ่งตัวอยู่ในมือ -
5:56 - 5:58เราก็เลยอยากที่จะดันต่อไปอีกว่า
-
5:58 - 6:00เอ๊ะ ถ้าเรามองว่าเป็นการเรียนรู้แล้วเนี่ย
-
6:00 - 6:03จริง ๆ มันเปิดได้อีกเยอะเลย
-
6:03 - 6:07เราสามารถใช้การเรียนรู้เนี้ย
ให้กับคนอื่นได้อีกมั้ย -
6:08 - 6:10กลุ่มแรกที่เรานึกถึง
ก็คือเยาวชน -
6:10 - 6:12เพราะว่าเยาวชน
-
6:12 - 6:15เค้าเป็นเหมือนกลุ่มที่
กำลังต้องเรียนรู้อยู่แล้ว -
6:16 - 6:21เค้าอาจจะไม่ได้มีภาระกิจด้าน
การต้องหางานเข้ามา หาเงินเข้ามาเยอะมาก -
6:21 - 6:22ซึ่งพอเยาวชนเรียนรู้
-
6:22 - 6:25สิ่งนึงที่มันน่าสนใจ
เกี่ยวกับการถ่ายภาพเนี่ย -
6:25 - 6:29คือคุณต้องออกไปอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ
ที่จะไปเรียนรู้มัน -
6:29 - 6:33คุณไม่สามารถที่จะไปถ่ายภาพสวน
ทั้ง ๆ ที่นั่งอยู่ในห้องนี้ได้ -
6:33 - 6:35เพราะฉะนั้นเราก็เลยมองว่า
-
6:35 - 6:37เออ จริง ๆ แล้ว
ถ้าเราเรียนรู้การถ่ายภาพเนี่ย -
6:38 - 6:40ของชุมชนของเค้าเนี่ย
-
6:40 - 6:42จริง ๆ มันก็เหมือน
เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน -
6:42 - 6:46ที่เด็ก ๆ เนี่ยน่าจะสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา
-
6:47 - 6:51แล้วพอเยาวชนเค้าถ่ายทอดชุมชนของเค้า
ให้เราฟัง -
6:51 - 6:54สิ่งนึงที่เกิดขึ้นก็คือ
เราก็ได้เรียนรู้จากเค้าเช่นกัน -
6:54 - 6:56แล้วถ้าเราเรียนรู้จากเค้าแล้วเนี่ย
-
6:56 - 7:01มันเป็นไปได้มั้ยที่มันจะกลายเป็น
พื้นฐานของการพัฒนาชุมชนต่อในอนาคต -
7:02 - 7:04เราก็เลยทำอีกโครงการนึง
-
7:04 - 7:06ชื่อ "จากอีกหนึ่งมุมมอง"
-
7:06 - 7:09อยู่ที่ตำบลปางตาไว
จังหวัดกำแพงเพชร -
7:10 - 7:12ตำบลนี้เป็นตำบลเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับ
-
7:13 - 7:15ป่าแม่วงศ์
-
7:16 - 7:20แล้วก็อยู่เป็นชุมชนเกษตรกรรม
-
7:20 - 7:24ก็จะมีคนทำไร่ ทำนา ทำสวน
ซะส่วนใหญ่ -
7:24 - 7:28แล้วเราก็โชคดีมากที่ทาง ผอ.
ของโรงเรียนบ้านเพชรมงคลเนี่ย -
7:28 - 7:32เค้าอนุญาตให้เราเข้าไปทำกิจกรรมกับเด็ก
ม.2 - ม.3 ของเค้า -
7:32 - 7:34เราก็เลยส่งเด็ก ๆ เหล่านี้ออกไป
-
7:35 - 7:36อาจจะแว๊นกันออกไป
-
7:36 - 7:39แล้วก็ให้เค้าเนี่ย
ไปถ่ายรูปชุมชนของตัวเองมา -
7:39 - 7:42มันอาจจะเป็นประเด็นที่
เค้าสนใจด้วยตัวเอง -
7:42 - 7:44มันอาจจะเป็นประเด็นที่
เค้ามองว่ามันเป็นปัญหา -
7:44 - 7:48มันอาจจะเป็นประเด็นที่
เค้ามองว่ามันเป็นโอกาสในพื้นที่ก็ได้ -
7:48 - 7:51แล้วก็เอากลับมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง
-
7:52 - 7:53พอให้
-
7:53 - 7:56อย่างอันนี้นิกเป็นคนถ่ายภาพมา
-
7:56 - 8:00นิกเค้าก็เล่าว่านี่อันนี้มันเป็นเหมือน
วิถีชีวิตของชุมชนของเค้า -
8:00 - 8:02ทุกบ้านจะมีแคร่อยู่หน้าบ้าน
-
8:02 - 8:05แล้วตอนที่เราไปเนี่ย มันเป็นหน้าหนาว
-
8:05 - 8:06เค้าจะจุดไฟ
-
8:06 - 8:09บ้านนึงจุดไฟปุ๊บ บ้านอื่นก็จะมานั่งคุยด้วย
-
8:09 - 8:12เป็นวิถีชีวิตของชุมชนเค้า
ที่มันเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ -
8:12 - 8:15อย่างภาพนี้ อั๋นเป็นคนถ่าย
อั๋นก็มองว่า -
8:15 - 8:19เนี่ย อันนี้มันเป็นเหมือน
ขับรถอีแต๊กเข้าไร่เข้านา -
8:19 - 8:20เค้าเห็นมันทุกวันอยู่ละ
-
8:20 - 8:22มันก็ทำให้เราเกิดสงสัยว่า
-
8:22 - 8:26อันนี้มันเป็นปัญหา
หรือมันเป็นโอกาสมั้ยในพื้นที่เค้า -
8:26 - 8:28เพราะว่าดินลูกรัง
มันก็จะมีประเด็นขึ้นมาเรื่อย ๆ -
8:29 - 8:31เด็กเค้าก็นั่งคิดอยู่แป้ปนึง แล้วเค้าก็บอก
-
8:31 - 8:34"ก็ไม่นะพี่
มันก็เหมาะสมกับพื้นที่นี้ดีอยู่แล้ว -
8:34 - 8:38ลองนึกภาพสิ ถ้าเราเอารถยนต์
ขับเข้าสวนเข้านามันก็คงประหลาดน่าดู" -
8:40 - 8:42อั๋นเป็นคนถ่ายภาพนี้อีกเช่นกัน
-
8:43 - 8:48อั๋นถ่ายรูปเสาโทรศัพท์
ที่มันเพิ่งมาติดตั้งเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา -
8:48 - 8:52อั๋นบอกว่าเนี่ย
มันเปลี่ยนชีวิตของชุมชนของเค้าไปเลย -
8:52 - 8:58บอกว่า ตอนนี้มีมือถือใช้ แล้วก็มี 3จี
สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว -
8:59 - 9:03เราก็เลยถามว่า "อ้าว อั๋น แล้วอย่างเงี้ย
มันเป็นเรื่องดีอยู่แล้วหรือมันควรจะปรับปรุง" -
9:03 - 9:09อั๋นบอก "ต้องปรับปรุงเหอะพี่
เพราะว่าตอนนี้เน็ตมันช้า มันต้องเร็วกว่านี้" -
9:10 - 9:15หรือบางภาพเนี่ย
มันก็เป็นการเล่าเรื่องถึงประวัติของพื้นที่ -
9:15 - 9:16ภาพนี้วุฒิเป็นคนถ่าย
-
9:17 - 9:18วุฒิเค้าก็เล่าว่า
-
9:18 - 9:23"เนี่ย เดิมมันเป็นบ่อน้ำขนาดเล็ก
แต่พอประชากรเพิ่มขึ้น การเกษตรมีมากขึ้น -
9:23 - 9:29คนก็ต้องการใช้น้ำมากขึ้น ทางอบต.
ก็เลยทุบทำใหม่หมด เป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่" -
9:30 - 9:34แล้ววุฒิก็ยังเล่าอีกว่า
บ่อน้ำนี้เดิมมันเคยมีช้างมากินน้ำ -
9:34 - 9:36อาเค้าเล่าใหัฟัง
-
9:36 - 9:38ก็เลยเรียกว่าหุบหัวช้าง
-
9:38 - 9:40ทีนี้ อาของ
-
9:41 - 9:44ว่านเองเนี่ยก็เลยถามวุฒิ
แล้วก็เพื่อน ๆ ของเค้าไปว่า -
9:45 - 9:47"แล้วมีใครเคยเห็นช้างในพื้นที่นี้มั้ย"
-
9:47 - 9:50เด็ก ๆ ก็จะตอบพร้อมกันเลยบอกว่า
ไม่เคย -
9:50 - 9:54เค้าก็บอกว่า
การเกษตรเนี่ยมันเข้ามาในพื้นที่เยอะมาก -
9:54 - 9:56จนตอนนี้ช้างไม่มาเดินอยู่แล้ว
-
9:56 - 9:58ภาพนี้นิ้งเป็นคนถ่าย
-
9:58 - 10:01นิ้งอธิบายเปิดภาพมาด้วยบอกว่า
-
10:01 - 10:03"อันนี้พี่ มันเหมือนความสามัคคี"
-
10:03 - 10:05เราก็งง ๆ ไปนิดนึง เพราะว่า
-
10:05 - 10:08ความสามัคคีเหมือนเป็นคำของคนเนอะ
นี่ไม่มีคนเลย -
10:08 - 10:12แล้วก็เหมือนแบบ
ความสามัคคีของธรรมชาติอะไรอย่างเงี้ย -
10:12 - 10:16เราก็ "อ้าวยังงี้ ความสามัคคีของธรรมชาติ
กับความสามัคคีของคน -
10:16 - 10:19เราว่าคนกับธรรมชาติ
มันเหมือนกันหรือมันต่างกัน" -
10:19 - 10:22เด็กเค้าก็เริ่มคิดแล้วก็บอก
นิ้งก็ตอบมาว่า -
10:22 - 10:26"จริง ๆ เนี่ย
เหมือนคนมันทำอะไรได้มากกว่าเนอะ -
10:26 - 10:28เราคิดอยากจะทำอะไร เราก็สามารถทำมันได้
-
10:28 - 10:31เราสร้างอะไรได้เยอะแยะมากกว่าธรรมชาติ"
-
10:32 - 10:36ทีนี้เพื่อนนิ้งเค้าก็รีบสวนเลย
ชื่อ ทู่ ทู่ก็บอกว่า -
10:36 - 10:39"เนี่ย แต่จริง ๆ แล้วอ่ะ
ทุกอย่างที่มนุษย์สร้างเนี่ย -
10:39 - 10:41มันล้วนมาจากธรรมชาติทั้งนั้น
-
10:41 - 10:45แล้วนอกเหนือไปจากนั้นเนี่ย
ธรรมชาติก็สามารถสร้างด้วยตัวเองได้เหมือนกัน" -
10:45 - 10:50นิ้งก็เริ่มคิดต่อว่า เออ ก็จริงเนาะ
แล้วนิ้งเค้าก็เลยเริ่มคิดว่า -
10:50 - 10:53"อ้าว ถ้าอย่างงั้นเนี่ย
หรือว่ามันต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน -
10:53 - 10:55ธรรมชาติ กับ มนุษย์"
-
10:55 - 10:57แล้วทู่ก็ยังแย้งขึ้นมาอีกว่า
-
10:57 - 11:02"แต่ธรรมชาติอยู่ได้นะถ้าไม่มีมนุษย์
แต่มนุษย์อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีธรรมชาติ" -
11:03 - 11:07บทสนทนาเหล่านี้
มันเป็นบทสนทนาของเด็กม.2 ม.3 -
11:07 - 11:11มันไม่ได้ยากเกินไป
ที่เค้าจะคุยเรื่องนี้ไม่ได้ -
11:11 - 11:14แต่หลายครั้งเนี่ยมันไม่ได้เกิดพื้นที่
-
11:14 - 11:18มันไม่ได้มีสื่อ
ให้มันสาวมาถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ -
11:18 - 11:22ซึ่งเรามองว่า ภาพถ่ายมันเป็น
-
11:22 - 11:27เครื่องมือที่สำคัญ
ที่ทำให้บทสนทนาเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ -
11:27 - 11:30แล้วนอกเหนือไปจากนั้นเนี่ย
เด็ก ๆ ก็ได้เรียนรู้ถึงชุมชนของตัวเอง -
11:30 - 11:36เค้าได้เรียนรู้ถึง โอกาส ปัญหา
และบริบทอื่น ๆ ที่มันรายล้อมชุมชนเค้า -
11:37 - 11:39แล้วพอเราคุยกันเรื่องนี้
มากขึ้นเรื่อย ๆ เนี่ย -
11:39 - 11:41สุดท้ายแล้วเนี่ยเราก็ให้เด็กเค้าเสนอว่า
-
11:41 - 11:44เค้าอยากเห็นชุมชนของเค้า
เป็นยังไงต่อในอนาคต -
11:45 - 11:48แล้วพอตอนนี้เค้าเข้าใจชุมชนตัวเองแล้วเนี่ย
-
11:48 - 11:52สุดท้ายเราก็ให้เค้า
ถ่ายทอดชุมชนของเค้าออกมา -
11:52 - 11:55โดยการทำเป็นนิทรรศการ
จัดอยู่หน้าโรงเรียนของเค้า -
11:55 - 12:00เพื่อให้ผู้ปกครองแล้วก็รุ่นน้องของเค้า
มาได้อ่านได้เห็นกัน -
12:01 - 12:05พอเราได้เรียนรู้จากเยาวชน
ถ่ายทอดชุมชนของเค้ามาแล้วเนี่ย -
12:05 - 12:08สิ่งที่เราทำนอกเหนือไปกว่านั้น
ก็คือเราก็เรียนรู้ด้วยตัวเองด้วย -
12:08 - 12:10คือเราออกไปค้นหา เราไปสังเกต
-
12:10 - 12:11เข้าใจ แล้วก็ถ่ายทอด
-
12:12 - 12:16ความเข้าใจของเราเนี่ย
เราไปคุยกับทาง อบต. ผู้ใหญ่บ้าน -
12:17 - 12:19อยู่กับชุมชนเป็นเวลาเดือนครึ่ง
-
12:19 - 12:22เรากินอยู่กับชุมชนเลย
เพราะฉะนั้นเนี่ย -
12:22 - 12:27เราก็เลย สุดท้ายเนี่ย ทำออกมาเป็น
เหมือนบทกลอนอันนึง -
12:27 - 12:29ชื่อจากอีกหนึ่งมุมมองเนี่ยแหละ
-
12:29 - 12:32แต่ว่าพอดีเราแต่งเป็นภาษาอังกฤษ
-
12:32 - 12:35มันจะมีซับไตเติ้ลขึ้นอยู่ข้างล่างนะคะ
-
12:35 - 12:39ฉันเคยเป็นคนนอกที่ชอบเพียงแค่
เสน่ห์ของชีวิตชนบท -
12:39 - 12:45ชีวิตที่รายล้อมไปด้วยทุ่งสีทอง
เขาสีเขียว และท้องฟ้าสีฟ้า -
12:45 - 12:48ที่ซึ่งคนและสัตว์อยู่เคียงข้างกันและกัน
-
12:48 - 12:51ที่ซึ่งบ้านหลาย ๆ บ้านอยู่รวมกันเป็นหมู่
-
12:51 - 12:55ที่ซึ่งธรรมชาติสร้างชีวิต
และชีวิตสร้างการเกษตร -
12:55 - 12:58ที่ซึ่งสวน และไร่ และทุ่ง และนา
-
12:59 - 13:02ผลิตดอกออกผลมาเป็นสิ่งที่ฉันเห็น
ในซูเปอร์มาร์เก็ต -
13:03 - 13:06แต่เพราะพื้นที่และเวลา
ถูกกำหนดด้วยฤดูกาลที่เปลี่ยนไป -
13:06 - 13:09ซึ่งบางครั้งมันก็แห้งเกิน
และบางครั้งมันก็เปียกเกิน -
13:10 - 13:13ผู้คนจึงต้องพยายามเอาชีวิตรอด
ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไรก็ตาม -
13:13 - 13:17จึงกลับกลายเป็นว่าการเกษตรสร้างชีวิต
และชีวิตสร้างสิ่งแวดล้อม -
13:17 - 13:22และเมื่อไร่นาและสวนต้องใช้การลงทุน
และหนี้สินก็คืบคลานเข้ามาในชีวิต -
13:22 - 13:26ทุกไร่ของการลงทุน จึงกลายเป็นความเสี่ยง
ให้โชคชะตาเป็นผู้กำหนด -
13:26 - 13:29คนบางคนจึงเชื่อ และขอพร และตั้งความหวัง
-
13:29 - 13:33ว่าชีวิตจะมีอะไรมากกว่าที่แห่งนี้
ซึ่งเขารู้จักมาดีแล้ว -
13:33 - 13:36พวกเขาจึงออกเดินทางไปที่ใกล้
-
13:36 - 13:38และออกเดินทางไปที่ไกล
-
13:38 - 13:41เพื่อมองหาชีวิตและโอกาสใหม่ ๆ
ในเมืองที่ใหญ่กว่า -
13:41 - 13:44และมองหาสิ่งของที่จำเป็น
และสิ่งของที่อยากได้ -
13:44 - 13:47เพราะเขาก็รู้ดีว่ามีคนในครอบครัว
-
13:47 - 13:49และเพื่อน ๆ ที่รอให้เขากลับมา
-
13:50 - 13:52เพราะเขารู้ดีว่า
เขาสามารถที่จะกลับบ้านได้ตลอดเวลา -
13:55 - 13:58เรากลับมาและเจอว่าจริง ๆ แล้ว
บ้านเกิดของเรามีชีวิตชีวามาก -
13:58 - 14:02มันมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง
และมีอีกมากที่จะต้องตอบแทน -
14:02 - 14:05มีหลายงานที่ให้เราออกไปสังสรรค์
และออกไปเต้น -
14:05 - 14:07ให้เราได้ยิ้ม
-
14:07 - 14:09และให้เราได้แต่งตัวสวย
-
14:09 - 14:12แล้วมันก็มีตลาดมากมาย
-
14:12 - 14:14บางอันก็เล็ก บางอันก็ใหญ่
-
14:14 - 14:16แต่ทุกอันก็มีชีวิตชีวา
-
14:16 - 14:18เพราะตลาดเติมรสชาติให้กับชีวิตของเรา
-
14:18 - 14:22มันเป็นที่ที่เราเห็นความเชื่อมโยง
ของธรรมชาติสู่อาหารและอาหารสู่ชีวิต -
14:22 - 14:23เพราะเนื้อหมูเคยเป็นหมู
-
14:23 - 14:25และเนื้อปลาเคยเป็นปลา
-
14:25 - 14:28และชีวิตของพวกมัน
ก็ช่วยเติมเต็มร่างกายและจิตใจของพวกเรา -
14:28 - 14:31ที่บ้านก็ยังมีคนแก่ ที่ต้องการให้เราดูแล
-
14:31 - 14:33และเด็กที่คิดถึงความอบอุ่นของเรา
-
14:33 - 14:38เราจึงพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้า
ด้วยสิ่งที่สร้างสรรค์และสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ -
14:38 - 14:41ด้วยสิ่งที่เรารู้จักดี
และสิ่งใหม่ที่เพิ่งมี -
14:41 - 14:44มันจึงมีความทันสมัยควบคู่ไปกับความถ่อมตน
-
14:44 - 14:47และเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการสร้างแบบพื้นบ้าน
-
14:47 - 14:50แต่ไม่ เราไม่ลืมการทำสวนทำไร่
-
14:50 - 14:53เพราะมันมีความงดงาม
ในการผลิตอาหารสำหรับชีวิต -
14:53 - 15:00ฉันเลยเข้าใจว่าชีวิตที่นี่มีประเพณีที่มีคุณค่า
แต่ก็เปิดรับต่อการค้นหาใหม่ ๆ -
15:00 - 15:03เพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสที่มีให้ดียิ่งขึ้น
และแก้ปัญหาที่มีให้ลดน้อยลง -
15:03 - 15:06และเมื่อมันถึงเวลา
ที่ฉันจะต้องจากที่แห่งนี้ไป -
15:06 - 15:09ฉันก็รู้ดีเช่นกันว่า
ฉันสามารถที่จะกลับบ้านได้ตลอดเวลา -
15:10 - 15:15กิจกรรมนี้มันเเกิดขึ้นจากจุดเล็ก ๆ
ความชอบเล็ก ๆ ของเราที่มีมาตั้งแต่เด็ก -
15:15 - 15:20เมื่อเราเห็นว่าความชอบนี้จริง ๆ แล้ว
มันสามารถเป็นวิธีการเรียนรู้ได้เช่นกัน -
15:20 - 15:23สิ่งที่เราทำก็คือ
เราแบ่งปันวิธีการเรียนรู้นั้นออกมา -
15:23 - 15:25แล้วคุณล่ะ สิ่งที่คุณชอบคืออะไร
-
15:25 - 15:27อะไรคือวิธีการเรียนรู้ของคุณ
-
15:28 - 15:31แล้วคุณคิดว่าคุณจะแบ่งปันการเรียนรู้นั้น
ออกไปให้คนอื่นได้ยังไงบ้าง -
15:31 - 15:33ขอบคุณค่ะ
-
15:33 - 15:35(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC
- Description:
-
จากการวิจัยชื่อ “จากอีกหนึ่งมุมมอง” (To See Things from the Other End) สู่การสร้างความเข้าใจมุมมองของเยาวชน ณ โรงเรียนบ้านเพชรมงคล อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ต่อชุมชนของตนเอง และต่อการพัฒนาในอนาคต โดยใช้การถ่ายรูปเป็นเครื่องมือในการจุดประกาย ใช้พื้นที่ห้องเรียนเป็นที่สร้างบทสนทนา และใช้ชุมชนเป็นที่เรียนรู้ร่วมกัน
ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ เป็นคนที่สนใจการถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก การเดินทางทุกครั้งจะต้องมีกล้องถ่ายรูปติดตัวไปด้วยเสมอ ต่อมาว่านเริ่มสนใจประเด็นปัญหาและการพัฒนาชีวิตของผู้คนในสังคม จึงเข้าร่วมทำงานกับ G-Lab ศูนย์นวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผ่านงานอาสาสมัครกับ Creative Life Foundation และมูลนิธิพัฒนาทักษะชีวิต เมื่อตัดสินใจเรียนต่อด้านการวางแผนเมืองที่ MIT - Massachusetts Institute of Technology ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่านจึงใช้โอกาสนี้ทำการวิจัยชื่อ “จากอีกหนึ่งมุมมอง” (To See Things from the Other End)
ปัจจุบันเป็นอาจารย์และนักวิจัยที่ภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นกรรมการมูลนิธิ Creative Life Foundationดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
http://wchantavilasvong.com/
https://www.creativelifefoundation.com/
http://www.cuurp.org/This talk was given at a TEDx event using the TED conference format but independently organized by a local community. Learn more at https://www.ted.com/tedx
- Video Language:
- Thai
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDxTalks
- Duration:
- 15:36
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC | ||
Ajarn Jimmy Tangjaitrong accepted Thai subtitles for ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC | ||
TED Translators admin rejected Thai subtitles for ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC | ||
Ajarn Jimmy Tangjaitrong accepted Thai subtitles for ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC | ||
Ajarn Jimmy Tangjaitrong edited Thai subtitles for ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC | ||
Ajarn Jimmy Tangjaitrong edited Thai subtitles for ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC | ||
Pailin Chitprasertsuk edited Thai subtitles for ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC | ||
Pailin Chitprasertsuk edited Thai subtitles for ผ่านภาพถ่าย | ว่าน ฉันทวิลาสวงศ์ | TEDxUTCC |